LOGINแม่บ้านรีบเดินออกไปเรียกลูกชายของน้าผกาและเพียงไม่นานชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีก็เดินเข้ามาตามหลังแม่บ้าน ผการีบลุกขึ้นยืนส่งเสียงดังเรียกชื่อลูกชายตัวเอง ความรู้สึกดีใจทำให้เธอเผลอลืมตัว
“เร็น..มาแล้วเหรอลูก มานั่งข้างแม่เร็ว”
“ครับ” เด็กหนุ่มขานรับเพียงแค่นั้นก่อนที่จะเดินเข้ามานั่งยังเก้าอี้ข้างแม่และเขาไม่รอช้าที่จะยกมือไหว้ไปยังสามีใหม่ของแม่ตัวเองพร้อมกับเริ่มแนะนำตัวเสร็จสรรพ
“สวัสดีครับ ผมชื่อเร็น” เด็กหนุ่มยิ้มหน้าเจือนให้กับสามีใหม่ของแม่ตัวเองและทันทีที่ได้ยินคำแนะนำตัวที่ออกมาจากปากของเด็กหนุ่ม พ่อของไอรีนก็ทำเพียงแค่ยิ้ม เขาเปรยตามองไปยังใบหน้าหล่อเหลาของเร็น
เด็กหนุ่มคนนี้หน้าตาดีผิวพรรณใช้ได้แต่คงต้องค่อยๆสอนเรื่องมารยาทเสียหน่อย อาจจะเพราะยังเด็กยังเป็นวัยรุ่นอยู่ด้วยนั่นแหละจึงทำให้ไม่ค่อยใส่ใจคนรอบข้างสักเท่าไหร่
“หนูไอรีน นี่เร็น..ลูกชายของน้าเอง” น้าผกายิ้มกว้างเริ่มแนะนำลูกชายตัวเองให้ไอรีนได้รู้จัก เธอหวังเป็นอย่างยิ่งที่อยากจะให้เด็กทั้งสองได้อยู่ด้วยกันประดุจดั่งพี่น้องที่คลานตามกันมาแต่ทว่าเธอก็ไม่รู้เลยว่าเร็น..ลูกชายของเธอจะยอมย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันเมื่อไหร่
“เร็น..หวัดดีพี่ไอรีนเขาสิลูก” น้าผกาหันไปพูดกับลูกชายตัวเอง ไอรีนที่ได้ยินเสียงน้าผกาก็เงยหน้าขึ้นมองตรงแล้วเธอก็พบเข้ากับไอ้เด็กผู้ชายคนนั้น ใช่ เธอจดจำเด็กนั่นได้เป็นอย่างดีเพราะมันคือคนแรกเลยที่ทำกิริยามารยาทไม่ดีแบบนั้นใส่เธอ
“นั่นไอ้เด็กไม่มีมารยาทคนนั้นนี่!!” มือเล็กชี้ไปยังเด็กหนุ่มตรงหน้า เร็นมองไปยังไอรีนเช่นกันเขาจดจำเธอได้ตั้งแต่ที่เดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้แล้วแต่แล้วไงอะจะให้เขาทักเธอไปก่อนหรือไง ไม่มีทางเสียหรอก
“....” เร็นเลือกที่จะเงียบไม่ได้พูดตอบโต้อะไรกลับไป ปล่อยให้ยัยนี่พูดไปคนเดียวก็แล้วกัน
“คนนี้ลูกชายน้าผกาเหรอคะ” ไอรีนเอ่ยถามไปยังน้าผกา ใบหน้าสวยบูดบึ้งใจเต้นแรงตุบๆ ทำไมโลกถึงได้เหวี่ยงนำพาไอ้เด็กนี่มาเจอเธออีกครั้งได้เนี่ย โลกนี้มันช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย
“ใช่ลูก เร็นหวัดดีพี่เขาหรือยัง” ผกาพยักหน้าพร้อมทั้งเอ่ยบอกให้ลูกชายของตัวเองยกมือไหว้ไปยังหนูไอรีนผู้ซึ่งมีอายุมากกว่าเร็น
“ไม่จำเป็น!” เร็นยังคงนิ่งไม่ยอมทำตามที่แม่ตัวเองได้บอกกล่าว ไอรีนที่เห็นแบบนั้นก็ออกอาการโกรธจัดกระฟัดกระเฟียด เธอไม่เข้าใจว่าทำไมไอ้เด็กบ้านี่ถึงได้ไม่ยอมเคารพกันได้ถึงขนาดนี้ทั้งที่เธอก็ไม่เคยไปทำอะไรให้สักหน่อย
ก็แค่อาจจะมีวันนั้นวันที่เธอเผลอเดินชนเขา...
“นี่นาย ฮึ่ย!!” เธอโมโหจนเลือดลมแทบจะขึ้นหน้า สายตาที่มองไปยังเร็นทำเอาน้าผกาต้องรีบกล่าวคำขอโทษแทนลูกชายและเธอเองก็พึ่งเคยเห็นลูกชายเป็นแบบนี้เหมือนกัน ที่ผ่านมาถึงแม้ว่าเร็นจะเป็นคนหัวแข็งแต่เขาก็ไม่เคยที่จะไม่ยอมทำตามในสิ่งที่แม่อย่างเธอได้บอกแบบนี้
“น้าต้องขอโทษแทนลูกชายด้วยนะหนูไอรีน” ผกาเม้มริมฝีปากแน่น รู้สึกผิดแทนลูกชายเป็นอย่างมากที่ทำตัวไม่น่าไม่เคารพพี่สาวอย่างไอรีนเอาเสียเลย ไอรีนที่เห็นหญิงวัยกลางคนรู้สึกผิดแทนลูกชายก็พลางถอนหายใจออกมา เธอเริ่มรู้สึกว่าโกรธไม่ลงอีกต่อไปคงเป็นเพราะความดีของน้าผกาด้วยแหละมั้ง
“ช่างเถอะค่ะ ไอรีนโตพอที่จะไม่โกรธเด็กบ้าแบบนี้หรอกค่ะ” ไอรีนยิ้มแห้งพูดปลอบใจน้าผกาหญิงสาวที่พ่อตัวเองรัก ดวงตากลมมองไปยังเด็กหนุ่มอีกครั้งทว่าเขาก็จ้องมองมาที่เธอเช่นกัน
ไอ้เด็กบ้านี่จะมามองเธอทำไมนะแล้วก็..มีสิทธิ์อะไรมามองด้วย เดี๋ยวก็เดินไปจิ้มตาเอาซะหรอก...
“หึ~ เร็นปีนี้อยู่ชั้นอะไรแล้ว” พ่อที่เห็นลูกสาวคนโตมองลูกชายคนใหม่ตาไม่กระพริบก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ ดูท่าแล้วเจ้าเร็นคนนี้โตขึ้นมาคงจะเอาเรื่องอยู่เหมือนกันและคงจะทำให้ไอรีนปวดหัวอยู่ไม่น้อย
“ม.4ครับ วิทย์-คณิตเกรด 4 ทุกวิชาครับ”
“ขี้อวดชะมัด ใครเขาอยากรู้กัน” ทันทีที่ได้ยินว่าเร็นพูดคำว่าเกรด4 ออกมาไอรีนก็เบะปากด้วยความหมั่นไส้ทันที เธอตักข้าวเข้าปากแล้วก้มหน้ามองจานข้าวของตัวเองเพราะเธอไม่อยากเสียสายตามองไอ้เด็กบ้านั่นอีกแล้ว
งั่มๆ~
ไอรีนเบิกตากว้างรสชาติอาหารที่น้าผกาทำนี่ช่างอร่อยเหลือเกิน ว่าแล้วก็ขอกินก่อนแล้วกันและเชิญพูดคุยกันไปเถอะเพราะเธอไม่คิดที่จะสนใจอีกต่อไปแล้ว
“อืม แล้วอยากเข้าเรียนต่อคณะอะไร” พ่อยังคงเลือกที่จะชวนเด็กหนุ่มพูดคุยต่อไป เร็นเริ่มตักอาหารเข้าปากพร้อมทั้งตอบกลับไปยังสามีใหม่ของแม่ตัวเอง
“ผมอยากเข้าวิศวะครับ” ว่าแล้วเชียวว่าเร็นคงจะต้องเลือกคณะนี้ พ่อที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มอย่างเข้าใจเพราะความฝันของเด็กหนุ่มส่วนมากก็คือการเรียนคณะวิศวะนั่นแหละและเขาก็ยินดีเป็นอย่างมากที่จะส่งเสียเด็กหนุ่มคนนี้ให้เหมือนกับว่าเร็นคือลูกชายแท้ๆของตัวเอง
“แล้วเมื่อไหร่จะยอมย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน”
กึก!
เมื่อได้ยินแบบนั้นเขาหยุดชะงักทันที เด็กหนุ่มจอมเย็นชาทำตัวไม่ถูก เขาจะต้องตอบกลับพ่อใหม่ไปเช่นไร ในใจตอนนี้ยังไม่มีความคิดที่อยากจะย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่เลยสักนิด แต่ที่ยอมเข้ามาวันนี้ก็เพราะว่าแม่ของเขาเข้าไปขอร้องต่างหาก เขาจึงยอมเข้ามาที่บ้านหลังนี้
“ผมยังไม่พร้อมครับ” เร็นก้มหน้าลงเล็กน้อย ชายหนุ่มไม่กล้าสู้หน้าสามีใหม่ของแม่
“ฉันจะไม่บังคับแล้วกันนะ ไว้พร้อมเมื่อไหร่ค่อยย้ายเข้ามาหรืออยากได้อะไรก็บอกแม่เขาแล้วกัน” ไอรีนเปรยตามองพ่อตัวเองเล็กน้อย เธอเบะปากอย่างไม่สนใจคนรอบข้าง แหมพ่อเธอนี่เตรียมเปย์ไอ้เด็กนี่เต็มที่เชียวนะ ทีเธออยากได้อะไรต้องขอเช้าขอเย็นกว่าพ่อจะยอมใจอ่อนซื้อให้
เธอทำได้เพียงแค่คิดอยู่ภายในใจเพราะรับรู้มาตลอดว่าพ่อนั้นรักเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิงเช่นเธอ เฮ้อ..ก็นะ ช่างเถอะ
“ครับ ขอบคุณที่เข้าใจ” เร็นยกมือไหว้ขอบคุณในความใจดีของสามีใหม่แม่
“เร็นแล้วช่วงนี้มีเงินใช่พอหรือเปล่า” ผกาเอ่ยถามไปยังลูกชายตัวเองเพราะเร็นเป็นเด็กที่ไม่ค่อยชอบบอกว่าเงินพอหรือไม่พอจึงทำให้บ่อยครั้งที่เร็นจำต้องอดอาหารเพราะเงินที่จะใช้ไปกินที่โรงเรียนนั้นหมด
“พอครับ แม่ไม่ต้องเป็นห่วง” เขาตักอาหารเข้าปากพลางพูดตอบกลับแม่ตัวเองกลับไป ใจนึกคิดถึงอาหารฝีมือของแม่อยู่เหมือนกันและวันนี้ก็ได้มีโอกาสที่จะได้กินมันแล้ว เด็กชายตัวสูงตักอาหารเข้าปากด้วยความเอร็ดอร่อย แม่ที่เห็นแบบนั้นจึงยิ้มกว้างด้วยความดีใจที่อย่างน้อยลูกชายของเธอก็ยังคงชอบในรสมือของเธออยู่
“แม่ต้องห่วงเราอยู่แล้ว ยิ่งอยู่คนเดียวแบบนั้นด้วย ยังไงย้ายเข้ามา..” ผกาพูดตอบกลับไปแต่ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะได้พูดจบเร็นก็พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน
“ไม่ครับ ผมอยู่คนเดียวได้” เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเสียงดังฟังชัด ไอรีนที่มองๆ สองแม่ลูกพูดคุยกันอยู่นั้นก็เริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง...
เธอมองดูแล้วไอ้เด็กบ้านี่คงไม่ชอบใจสักเท่าไหร่ที่แม่ตัวเองต้องมาแต่งงานกับพ่อของเธออย่างแน่นอนและจะบอกอะไรให้นะว่าไม่ได้มีแต่เด็กนั่นคนเดียวหรอกที่ไม่พอใจในเรื่องนี้ เธอนี่ไง เธอคนนี้ก็ไม่พอใจเหมือนกัน
“กินเยอะๆนะลูก แม่ตั้งใจทำเต็มที่เลย” ผกายิ้มเจือนปากยังคงพูดบอกให้ลูกชายกินอาหารเยอะๆ เธอตักอาหารวางในจานของเร็นและทันทีที่เห็นว่าแม่ตัวเองตักอาหารให้นั้นเขาก็เขี่ยอาหารที่แม่ตัวเองตักให้ไว้ข้างจานทันที
ไอรีนเปรยตามองไปยังน้าผกาก็เห็นเข้ากับแววตาที่เจ็บปวด ไอ้เด็กบ้านี่มันจะอะไรขนาดนั้นทีเธอไม่เห็นต้องทำเป็นโกรธขนาดนั้นเลย ก็นะ..เด็กอย่างเราๆจะมีสิทธิ์อะไรไปโกรธผู้ให้กำเนิดอย่างพ่อกับแม่กันล่ะจริงไหม
เฮ้อ~ เห็นแล้วก็ทนดูไม่ได้กันเลยทีเดียว
ปัง!!
“นี่! แม่ของนายเข้าตักอาหารให้ทำไมไม่กินจะเขี่ยทิ้งทำไม นิสัยไม่ดีเอาซะเลย” ไอรีนตบโต๊ะเสียงดัง อยู่ดีๆเธอก็คิดขึ้นมาได้ว่าควรที่จะปกป้องผู้หญิงด้วยกันสักหน่อย
“มันเรื่องของฉัน!” เร็นมองหน้าสวยหวานของรุ่นพี่สาวสายตาที่เขามองเธอมันเต็มไปด้วยความเย็นชาจนไอรีนนั้นเริ่มทนไม่ไหวปัง!!เธอตบโต๊ะอาหารอีกครั้ง เรื่องของฉันอย่างนั้นเหรอ ไอ้เด็กบ้านี่มันชักจะมากเกินไปแล้วนะ“พูดจาห้วนๆแบบนี้อีกแล้วนะ ฉันแก่กว่านายนะ ไอ้เด็กบ้านี่!!” ไอรีนใบหน้ายู่ ชี้มือด่ากราดไปยังเด็กหนุ่มนิสัยไม่ดีตรงหน้า มีอย่างที่ไหนที่รู้จักกันแล้วแต่ก็ยังคงทำตัวพูดจาเดิมๆห้วนๆแบบนี้ใส่เธออยู่อีก“ไม่เอาน่าไอรีน ปล่อยน้องไปเถอะถือว่าพ่อขอแล้วกัน” พ่อเอื้อมมือมาจับแขนไอรีนพร้อมทั้งเอ่ยขอร้องแทนลูกชายของภรรยาใหม่ ไอรีนมองมือของพ่อที่จับแขนของเธอ นี่แค่วันแรกที่มันเข้ามาเหยียบในบ้านเองนะ พ่อยังขอร้องเธอให้มันขนาดนี้แล้วต่อๆไปเธอไม่กลายไปเป็นหมาหัวเน่าเลยเหรอ...“แต่ว่า..ก็แล้วแต่พ่อแล้วกันค่ะ ไอรีนขอตัวก่อนนะคะ” เธอนั่งลงที่เก้าอี้ตามเดิม เสียงถอนหายใจดังขึ้นอย่างเหนื่อยหน่าย ถ้าพ่ออยากให้พอเธอก็จะพอตามใจพ่อก็แล้วกัน ไอรีนหยัดกายลุกขึ้นยืนเมื่อคิดว่าตรงนี้ไม่น่าจะใช่ที่ของเธอแล้วเธอเดินสาวเท้าขึ้นไปยังชั้นบนของบ้าน เดินเข้าไปยังในห้องนอนของตัวเองและไม่ลืมที่จะบ่นไปยังได้เด็กผู้ชา
แม่บ้านรีบเดินออกไปเรียกลูกชายของน้าผกาและเพียงไม่นานชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีก็เดินเข้ามาตามหลังแม่บ้าน ผการีบลุกขึ้นยืนส่งเสียงดังเรียกชื่อลูกชายตัวเอง ความรู้สึกดีใจทำให้เธอเผลอลืมตัว“เร็น..มาแล้วเหรอลูก มานั่งข้างแม่เร็ว”“ครับ” เด็กหนุ่มขานรับเพียงแค่นั้นก่อนที่จะเดินเข้ามานั่งยังเก้าอี้ข้างแม่และเขาไม่รอช้าที่จะยกมือไหว้ไปยังสามีใหม่ของแม่ตัวเองพร้อมกับเริ่มแนะนำตัวเสร็จสรรพ“สวัสดีครับ ผมชื่อเร็น” เด็กหนุ่มยิ้มหน้าเจือนให้กับสามีใหม่ของแม่ตัวเองและทันทีที่ได้ยินคำแนะนำตัวที่ออกมาจากปากของเด็กหนุ่ม พ่อของไอรีนก็ทำเพียงแค่ยิ้ม เขาเปรยตามองไปยังใบหน้าหล่อเหลาของเร็นเด็กหนุ่มคนนี้หน้าตาดีผิวพรรณใช้ได้แต่คงต้องค่อยๆสอนเรื่องมารยาทเสียหน่อย อาจจะเพราะยังเด็กยังเป็นวัยรุ่นอยู่ด้วยนั่นแหละจึงทำให้ไม่ค่อยใส่ใจคนรอบข้างสักเท่าไหร่“หนูไอรีน นี่เร็น..ลูกชายของน้าเอง” น้าผกายิ้มกว้างเริ่มแนะนำลูกชายตัวเองให้ไอรีนได้รู้จัก เธอหวังเป็นอย่างยิ่งที่อยากจะให้เด็กทั้งสองได้อยู่ด้วยกันประดุจดั่งพี่น้องที่คลานตามกันมาแต่ทว่าเธอก็ไม่รู้เลยว่าเร็น..ลูกชายของเธอจะยอมย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันเมื่อไหร่“เร
เก้าหยิบเงินที่อยู่ในกระเป๋านักศึกษาแล้วยื่นไปให้กับพนักงาน เขาหยิบถุงพวกนั้นขึ้นมาแล้วหยิบชานมไต้หวันของตัวเองเก็บไว้กับตัว ส่วนที่เหลือก็ยื่นไปให้เชอรีนให้จัดการแจกจ่ายให้กับเพื่อน และด้วยความที่เห็นว่าตอนนี้มันก็เย็นมากแล้วเค้าก็ไม่ลืมที่จะถามไปถึงเรื่องของการเดินทางกลับบ้านของน้องสาวตัวเอง“แล้วนี่กลับยังไงให้พี่ไปส่งไหม”“เดี๋ยวลุงคนขับมารับค่ะพี่เก้าไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”“อืม” เมื่อได้ยินแบบนั้นเขาก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ“แล้วนี่เหนื่อยหรือเปล่า”“เหนื่อยค่ะ วันนี้เหนื่อยมากก็เลยว่าจะแยกย้ายกลับไปนอน” เชอรีนพยักหน้าแล้วทำหน้ายู่ วันนี้ยอมรับว่าเหนื่อยจริง เหนื่อยจนอยากรีบกลับไปอาบน้ำเปิดแอร์แล้วนอนเก้าลูบศีรษะลูกพี่ลูกน้องด้วยความเอ็นดู เขายิ้มให้กับเธอพร้อมกับค่อยๆใช้มือขยี้เส้นผมของเธอไปมา ไอรีนมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่ชื่นชมไปกับความน่ารักของพี่ชายเชอรีน“งั้นก็ดี พักผ่อนเยอะๆ พี่ไปก่อนนะ” ทันทีที่พูดจบหนุ่มรุ่นพี่คณะทันตะก็ได้เดินออกไปจากร้านทันทีเพราะวันนี้เขายังมีงานที่ต้องรีบเคลียร์ให้เสร็จ“ยัยเชอ..” และทันทีที่พี่เขาได้เดินออกไปจากร้านแล้ว ฉันก็ได้เรียกชื่อเพื่อนสนิททัน
วิเวียนที่ได้ยินแบบนั้นก็อึ้งเพราะไม่คิดว่าเพื่อนใหม่ของเธอจะใจดีและดีกับเธอได้ถึงเพียงนี้และดูเหมือนจะเริ่มมีหยดน้ำตาไหลซึมออกมาจากดวงตาคู่สวย เธอรีบยกมือขึ้นเช็ดคาบน้ำตาที่ไหลบนใบหน้าทันที“ขอบใจพวกเธอมากเลยนะ ดีกับเรามากจริงๆ ตอนอยู่มอปลายเราไม่มีเพื่อนเลย ตอนนั้นเราเป็นเด็กทุนเพียงคนเดียวของห้องด้วย” เธอพูดไปใบหน้าก็เริ่มเศร้าหมองในตอนเรียนมัธยมปลายนั้นเธอไม่มีเพื่อนสนิทเลยแม้แต่คนเดียว ในห้องเรียนส่วนมากจะมีแต่พวกลูกคุณหนูจึงไม่แปลกที่พวกเธอเหล่านั้นจะไม่คิดที่จะเอาคนอย่างเธอไปเป็นเพื่อนเพียวยืนหยุดนิ่งแล้วรีบเดินเข้ามาโอบกอดร่างเล็กของวิเวียนทำไมชีวิตเธอถึงได้น่าสงสารขนาดนี้ความจนนี่ถึงกับทำให้ไม่มีเพื่อนดีๆได้เลยหรือไง คอยดูนะเธอจะทำให้ทุกคนได้รู้ว่าพวกเธอกับวิเวียนก็สามารถเป็นเพื่อนสนิทกันได้“เรื่องมันผ่านไปแล้วลืมๆมันไปได้แล้วตอนนี้แกมีพวกเรานะ จุ๊บๆ แล้วเดี๋ยวจะแนะนำให้รู้จักกับแฟนของฉันด้วย เขาเรียนอยู่วิศวะมหาลัยนี้นี่แหละ ชื่อมาร์ช เธอจะได้มีเพื่อนหลายๆคน”“มาร์ช ที่พูดกันเมื่อกี้หรือเปล่า” วิเวียนเอียงคอสงสัย เหมือนว่าเธอจะได้ยินชื่อมาร์ชเมื่อครู่นี้ใช่มั้ยนะ เธอผละกาย
วิเวียนรับรู้ถึงความจริงใจของเชอรีนจึงทำให้เธอเผยรอยยิ้มออกมา ขอบคุณมากขอบคุณพวกเธอจริงๆที่อยากเป็นเพื่อนกับผู้หญิงจนๆแบบเธอ วิเวียนมีสีหน้าที่ดีขึ้นใบหน้าเริ่มคลี่ยิ้มอ่อนโยน เธอหยิบโทรศัพท์มือถือนำขึ้นมากดสแกนเพิ่มเพื่อน“หวัดดีนะวิเวียน เราไอรีนยินดีที่ได้รู้จักต่อไปพวกเราเป็นเพื่อนกันนะ” ไอรีนกล่าวถ้อยคำสั้นๆทักทายไปยังเพื่อนสาวคนใหม่หวังว่าเธอคนนี้จะเป็นคนดีและเป็นคนที่คอยช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันนะ“ขอบใจนะงั้นเดียวเราเข้าไปยื่นใบสมัครก่อนนะ ไว้เจอกันตอนเปิดภาคเรียนนะ” วิเวียนยิ้มกว้างรู้สึกโชคดีมากได้มาพบเจอกลุ่มของหญิงสาวสามคนนี้แต่เธอจำใจต้องขอจบบทสนทนาไว้แต่เพียงเท่านี้ก่อนเพราะในเวลานี้เธอแทบจะไม่มีเวลาหลงเหลือแล้ว คนจนแบบเธอต้องรีบเข้าไปยื่นใบสมัครแล้วต้องรีบกลับไปทำงานรับจ้างปูๆปลาๆตามประสางานอะไรก็ได้ที่มันได้เงินเธอพร้อมสู้ตาย....“โอเค เราดึงวิเวียนเข้ากลุ่มแล้วนะ บัยบายไว้เราทักไปนะ” เชอรีนเงยหน้าขึ้นมองสบตาเพื่อนใหม่พร้อมทั้งยกมือขึ้นร่ำลา ในตอนนี้เธอดึงวิเวียนเข้ามาในกลุ่มไลน์ของพวกเธอเรียบร้อยแล้ว วิเวียนโบกมือลาพร้อมกับรีบเดินจ้ำอ้าวเข้าไปด้านในของคณะ“โอเคง
“โอเคเลย~”มาร์ชที่พอรู้ว่าคณะวิศวะของตัวเองอยู่ตรงไหนก็รีบสาวเท้าเดินออกไปทันที“งั้นพวกเราก็เข้าไปด้านในกันเถอะ” เพียวที่เห็นแฟนหนุ่มเดินออกไปแล้วจึงเอ่ยชวนเพื่อนรักทั้งสองให้เดินเข้าไปในคณะโดยที่มีเพียวกับไอรีนเดินนำอยู่ข้างหน้าแล้วตามด้วยเชอรีนเดินตามหลังคณะนิเทศศาสตร์ทันทีที่เธอได้เดินเข้าไปยังคณะ พวกเธอก็ได้พบกับหญิงสาวรายหนึ่งที่มองยังไงก็หน้าตาคล้ายกับเชอรีนไม่มีผิด ไอรีนกับเพียวต่างก็มองหน้ากันหรือว่าพี่คนสวยคนนี้จะเป็นญาติของเพื่อนเธอหรือเปล่านะ“มาแล้วเหรอเชอรีน~” แชมเปญหันไปมองเห็นน้องสาวของตัวเองเดินเข้ามาพอดีจึงทำให้เธอรีบเดินเข้าไปหา ใบหน้าสวยฉีกยิ้มขึ้นทำเอาไอรีนกับเพียวต่างก็รู้สึกชื่นชมไปกับความสวยของพี่เขา ผู้หญิงอะไรสวยชะมัด เชอรีนรีบเดินเข้าไปหาคนพี่ ทั้งสองโอบกอดกันกลมเพราะเป็นเวลาหลายวันแล้วที่เธอไม่ได้เจอพี่สาวคนโตเลย...“พี่แชมเปญคิดถึงจังเลยค่ะ~” คนน้องพูดขึ้นด้วยความคิดถึงทั้งสองผละกายออกจากกันแล้วก็เป็นเธอที่เริ่มแนะนำพี่สาวให้เพื่อนทั้งสองได้ทำความรู้จัก“พวกแกนี่พี่สาวเราเอง” ที่แท้สาวสวยคนนี้ก็เป็นพี่สาวของเพื่อนเธอนี่เอง ไอรีนกับเพียวต่างก็รีบยกมือขึ







