คีย์ยังเกลี่ยกล่อมเธอไม่เลิก เขามั่นใจว่าเธอต้องเลือกทางนี้แน่นอน เขาวางแผนไว้แล้วว่าจะไปลงแข่งเอาเธอเป็นของเดิมพัน เขาจะเลือกคู่แข่งที่สูสีกับเขาเพื่อเอาชนะและเอาเธอมาเป็นของเขาให้ได้
“มึงออกไปได้แล้ว กูไม่สนใจข้อเสนอเลว ๆ เห็นแก่ได้ของมึง”
“มึงไม่ได้ยินที่พ่อมึงตัดขาดกับมึงเหรอ คิดว่าถ้ามึงออกจากบ้านนี้แล้วไปไม่รอด ซมซานกลับมา เขาจะช่วยมึงไหม ทางเดียวที่มึงไม่ต้องเป็นฝ่ายแพ้ คือมึงต้องมีคนดูแล อีกไม่กี่เดือนมึงก็เรียนจบแล้วนิ แค่ไปเป็นของเดิมพันไม่นาน มึงก็ได้ใช้ชีวิตอิสระของมึงแล้วไง"
ใยไหมทำเป็นไม่สนใจที่คีย์พูด แต่ทว่าในใจเธอหยุดฟังเขาตั้งแต่คำว่าอีกไม่กี่เดือนเธอจะเรียนจบ ถึงตอนนั้นเธอคงมีทางออกให้ตัวเอง แค่อยากเอาชนะคนเป็นพ่อตอนนี้ ไม่อยากบากหน้ากลับมาให้ท่านสมน้ำหน้า หรือว่าทางนี้คือทางที่เธอต้องเลือกจริง ๆ
"มึงออกไปตอนนี้ อย่างมากมึงก็ไปนอนบ้านเพื่อนได้ไม่เกินสองวัน แล้วหลังจากนั้นล่ะ มึงจะไปอยู่ที่ไหน หรือมึงจะไปทำงานพาร์ทไทม์วันละไม่กี่ร้อยส่งเสียตัวเองเรียนล่ะ แบบนั้นก็ได้นะ ถ้ามึงคิดว่าจะอยู่รอดในสังคมนี้ได้"
ริมฝีปากหนาดำคล้ำยกขึ้นยิ้มอย่างคนที่เหนือกว่า แม้ภายนอกหญิงสาวจะยังคงตั้งหน้าตั้งตาเก็บของไม่สนใจที่เขาพูดหว่านล้อมเธอ แต่หากเขาพูดจี้จุดเธอมาก ๆ อีกไม่นานเขาคงได้อย่างที่ตัวเองต้องการแน่นอน
คีย์ทำเป็นหันหลังจะเดินออกจากห้อง เขาทำเป็นอ้อยอิ่งพลางเหลือบตามองใยไหมเป็นระยะ จนกระทั่งถึงหน้าประตูห้องที่เปิดกว้างของเธอ เสียงหวานถึงได้ส่งเสียงเรียกออกไป ให้คนที่รู้ว่าตัวเองกำลังชนะ ยิ้มออกมาอย่างดีใจได้ ก่อนที่เขาจะหันมามองหน้าเธอ
"มึงบอกกติกาของมึงมา"
"ไม่มีไรมาก แค่ไปเป็นของเดิมพันแข่งรถนัดพิเศษ ใครชนะมึงก็ไปอยู่กับเขาตามกติกา เขาจะเลี้ยงดูปูเสื่อมึงอย่างดีเลย มึงอยากหยุดตอนไหนก็หยุด มึงเป็นคนกำหนดทุกอย่างที่มึงต้องการ"
ใยไหมเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น ในหัวตีกันอย่างหนักกับสิ่งที่ลูกติดแม่เลี้ยงพูดออกมา ใจหนึ่งเธอก็อยากจะตกลงไปทันที แต่ทว่าความไม่ไว้ใจรวมถึงเธอไม่ค่อยเข้าใจกติกาในการแข่งรถที่เอาผู้หญิงเป็นเดิมพันแบบนี้ ทำให้ยังไม่กล้าตัดสินใจในทันที
"ถ้ากูสนใจ จะติดต่อไปเอง"
เธอพูดแค่นั้นแล้วลากกระเป๋าออกจากห้องทันที อย่างน้อยวันสองวันนี้เธอสามารถไปอยู่กับเอวาได้ก่อน เผื่อจะมีหนทางไปต่อ โดยไม่ต้องไปตอบรับข้อเสนอของคีย์
ระหว่างที่เดินลงจากบ้าน ก็เจอกับคนเป็นพ่อที่เดินออกมาจากห้องทำงานพอดี
"แกจะเอาแบบนี้ใช่ไหม?"เสียงเยียบเย็นของคนสูงวัยถามย้ำอีกครั้งเมื่อเห็นลูกสาวเดินถือกระเป๋าลงมาด้วย
"ไหมตัดสินใจแล้ว ในเมื่อพ่อลำเอียงกับไหมแบบนี้ ไหมก็จะไปใช้ชีวิตด้วยตัวเอง พ่อไม่ต้องกลัวว่าไหมจะอยู่ไม่ได้นะคะ ถึงยังไงไหมก็ไม่มีวันซมซานกลับมา"
"ก็ดี ฉันจะได้ไม่ต้องเหนื่อยส่งเสียให้แกเรียน ทุกวันนี้ค่าเทอมแกเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายส่วนตัวแกอีก รถแกก็ไม่ต้องเอาไปนะ เพราะเป็นสมบัติที่ฉันซื้อให้"ภูมิพัฒน์ประกาศก้องออกมาอย่างโมโห
"ฉันจะรอดูนะว่าแกจะไปได้สักกี่น้ำ"
ใยไหมไม่ตอบโต้อะไรอีก เธอยกมือไหว้คนเป็นพ่อ น้ำตาไหลอาบสองแก้ม เธอไม่ได้อยากให้เรื่องราวเป็นแบบนี้ แต่ทว่าที่ผ่านมาเธอก็อดทนมามากพอแล้ว อย่างตอนนี้ที่เธอกำลังลากกระเป๋าออกจากบ้าน แล้วสวนทางกับแม่เลี้ยงที่เดินออกมาจากห้องครัวพอดี แววตาเย้ยหยันพร้อมรอยยิ้มสะใจแสดงออกมาให้เธอเห็น
"ไปแล้วไม่ต้องกลับมานะ เธอมันส่วนเกินของบ้านมาตั้งนานแล้ว น่าจะไปซะได้ตั้งนาน"
ในเมื่อครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้อยู่ที่นี่ อย่างน้อยเธอก็น่าจะได้ทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง เท้าเล็กเลยยกขึ้นขัดไปที่ขาของแม่เลี้ยงที่กำลังก้าวผ่านหน้าเธอไป ทำให้อีกฝ่ายที่ไม่ทันเห็นล้มหัวคะมำหน้าไถลไปกับพื้นทันที
"อะ โอ๊ยยย!!! กรี๊ด!!! นี่แกแกล้งฉันเหรอ"
ใยไหมหันไปมองด้วยความสะใจ แต่ไม่ได้หันไปช่วย เธอทำปากพึมพำเสียงเบาว่า"สมน้ำหน้า"
แล้วก็เดินลากกระเป๋าไปขึ้นแท็กซี่ที่เธอเรียกมารอหน้าบ้านทันที ปลายทางคือคอนโดของเอวาที่เธอได้ส่งข้อความไปบอกล่วงหน้าแล้ว
"ทะเลาะกันรุนแรงเลยเหรอมึง"เอวายกน้ำมาให้เพื่อนดื่มสงบสติอารมณ์ เธอพอจะรู้ปัญหาที่บ้านของใยไหมอยู่บ้าง แต่ไม่คิดว่าจะรุนแรงถึงขั้นแตกหักออกจากบ้านมาแบบนี้
"กูไม่อยากทนแล้ว มึงจะให้กูอยู่กับพ่อที่เห็นลูกติดเมียดีกว่าลูกในไส้แบบกูได้ยังไง กับกูบังคับสารพัด แต่กับไอ้เหี้ยนั่นตามใจยิ่งกว่าอะไร เรียนจบมาตั้งนาน มันยังขอเงินพ่อกูใช้อยู่เลย แล้วพ่อก็ไม่เคยบ่นมันเหมือนที่บ่นกูด้วย"
จริง ๆ เธอก็ไม่ใช่คนพูดจาหยาบคายขนาดนี้แต่คราวนี้อดไม่ไหวจริง ๆ ที่ผ่านมาเธอพยายามอดทนทุกอย่าง ไม่ว่าแม่เลี้ยงจะแกล้งเธอขนาดไหน เธอก็ไม่เคยสนใจ เธอคิดว่าตัวเองก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ผ่านความอดทนมามากพอแล้ว
"แล้วมึงจะเอายังไงทีนี้ กูไม่ว่าอะไรหรอกนะถ้ามึงจะอยู่กับกู แต่..."
"กูเข้าใจว่าบางทีพี่บาสก็มานอนกับมึง"ตอนนี้เพื่อนในกลุ่มเธอทยอยมีแฟนกันแล้ว ทั้งเอวาและใบหม่อน เหลือแค่เธอกับนับหนึ่งที่ยังโสด แต่รายนั้นอยู่คอนโดกับพี่สาว ไม่สะดวกที่เธอจะไปอยู่ด้วย
"มึงไม่ต้องทำสีหน้าลำบากใจเลยเอวา กูขออยู่กับมึงวันสองวันนะ แล้วจะหาหนทางไปอยู่ที่อื่น"
"กูไม่สบายใจเลย"เอวาทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก อยากช่วยเหลือเพื่อนใจจะขาดแต่เธอก็มีแฟนแล้ว จะให้เธอไปนอนกับแฟนก็ไม่ได้ เพราะเขาอยู่บ้าน ไม่ได้อยู่คอนโดเหมือนเธอ
"ไม่ต้องคิดมาก กูไปหาเช่าห้องถูก ๆ ก่อนก็ได้ ยังพอมีเงินเก็บนิดหน่อย"
"มึงจะอยู่ได้เหรอ ชีวิตมึงเคยลำบากซะที่ไหน เอางี้ไหม? มึงยืมเงินกูไปก่อน มีตอนไหนมึงค่อยเอามาคืนกู"
เธอรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที เธอเดือดร้อนคนเดียวพอทน ไม่อยากให้เพื่อนมาเดือดร้อนไปด้วย เอวาก็เหมือนเธอที่ยังขอเงินพ่อแม่ใช้ ถึงที่บ้านจะรวยมากและพ่อกับแม่จะตามใจขนาดไหน แต่เงินเช่าห้องก็ไม่ใช่น้อย ๆ ถ้าต้องให้เพื่อนเป็นภาระขนาดนั้น เธอยอมบากหน้ากลับไปหาพ่อให้ท่านดูถูก สมน้ำหน้าดีกว่า
"กูอยากพยายามด้วยตัวเองก่อน ถ้ากูยืมเงินมึง อีกหน่อยค่าเรียนกูก็ต้องยืมอีก มันไม่จบไม่สิ้นหรอก กูว่าจะหางานทำ"
"ห๊า!!! มึงนะเหรอ เอ่อ คือ..."
เอวาทำสีหน้าเหมือนไม่เชื่อที่เธอพูด"กูไม่ได้ดูถูกมึงนะ แต่แบบมึงจะไปหางานทำที่ไหน มึงไม่มีประสบการณ์เลยนะ มึงจะทำได้เหรอ กูไม่แนะนำเลย"
ใยไหมถอนหายใจออกมา ยกมือขึ้นดึงผมตัวเอง แค่ไม่กี่ชั่วโมงก็รู้สึกว่ามันยากและตันมากแล้ว ตอนนี้ไม่รู้เลยว่าระหว่างหาที่อยู่กับหางานทำ อันไหนจะสำคัญกว่ากัน
"ค่อย ๆ คิดนะ แต่ที่จริงมึงน่าจะอดทน เหลืออีกแค่เทอมเดียวมึงก็จะหลุดพ้นแล้ว กูไม่คิดเลยว่ามึงจะใจร้อนขนาดนี้"
"กูทนแล้วเอวา กูรู้ว่าเหลือแค่เทอมเดียว แต่มันไม่ไหวจริง ๆ ว่ะ"
มือเล็กของเอวายกขึ้นตบบ่าเพื่อนอย่างให้กำลังใจ เธอเป็นเพียงเพื่อนจะพูดมากกว่านี้ก็ไม่ได้ มีหน้าที่แค่ซัพพอร์ตเพื่อนเท่านั้น
"มึงกินน้ำก่อนนะ อารมณ์จะได้ดีขึ้น"