บ้านบวรกิจวัฒนา
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารช่วงค่ำของบ้านบวรกิจวัฒนาวันนี้เป็นไปด้วยความคึกคัก เมื่อลูกทั้งสามคนกลับบ้านมากินข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตา ทำให้คนเป็นแม่ดีใจจนยิ้มไม่หุบ
“ที่สนามแข่งเป็นยังไงบ้างตาฟรินท์”
“ก็ดีครับ ไทเกอร์มันเก่งด้านนี้อยู่แล้ว”ไทเกอร์ที่ฟรินท์พูดถึงคือลูกชายฝาแฝดของเสือเพื่อนสนิทของคนเป็นพ่อ ซึ่งฟรินท์กับไทเกอร์ได้ร่วมกันเปิดสนามแข่งรถแบบครบวงจรระดับต้น ๆ ของประเทศ สามารถจัดการแข่งขันรถได้ทุกชนิด แต่ว่าเจ้าตัวก็แค่ลงหุ้นด้วย เข้าไปช่วยดูเอกสารช่วงเย็น ไม่ได้เอาเวลาทั้งวันไปทิ้งไว้ที่นั่น เพราะต้องไปช่วยธุรกิจของคนเป็นพ่อเป็นหลัก
“แล้วตาโซลของแม่ล่ะ เรียนจบอยากทำอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าลูก”ปิ่นมุกหันไปเลิกคิ้วถามลูกชายอีกคนของเธอ ที่อีกเทอมเดียวก็จะเรียนจบแล้ว แต่ทว่าลูกชายคนนี้ยังไม่มีวี่แววว่าอยากจะทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง ยังคงทำตัวลอยไปลอยมาเหมือนไม่มีแก่นสารในชีวิต
“ตาโซลพ่อจองตัวแล้วนะ”
“อย่าบังคับลูกค่ะพี่เพลิง”ปิ่นมุกเอ่ยตำหนิคนเป็นสามี ที่คิดจะยัดเยียดให้ลูกชายไปช่วยธุรกิจของตัวเองอีกคน เธอเป็นคนเลี้ยงลูกแบบอิสระ ไม่เคยบังคับให้ลูกต้องไปทำในสิ่งที่ไม่ชอบ แต่หากลูกเต็มใจไปเธอก็ไม่คิดจะขัดแย้งอยู่แล้ว
“พี่ไม่ได้บังคับ ลูกเป็นคนบอกพี่เอง ว่าเรียนจบจะไปช่วยงานพี่อีกคน”
“จริงเหรอลูก”
โซลพยักหน้า“ใช่ครับ ผมเป็นคนบอกพ่อเอง”
“ถ้าไม่อยากทำก็ไม่เป็นไรนะลูก ยังไงตาฟรินท์ก็ช่วยพ่ออยู่แล้ว ถ้าอยากทำอะไรที่ชอบ แม่จะลงทุนให้เอง”
ปิ่นมุกเอ่ยออกมาอย่างใจป้ำ ทำให้คนเป็นสามีทำสีหน้าล้อเลียนเธอ ลูกชายของเธอสองคนมีนิสัยที่ต่างกันมาก ฟรินท์พี่ชายคนโตจะเป็นคนสุขุม เยือกเย็นกว่าโซลที่บางครั้งติดจะดื้อรั้นและเอาแต่ใจไปหน่อย แต่ทว่าก็ไม่เคยทำเรื่องเดือดร้อนใจให้เธอสักครั้ง และเธอเองก็มีวิธีจัดการลูกทั้งสองคนของเธอมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ไม่ได้ตามใจไปเสียหมดทุกอย่างเหมือนที่คนเป็นสามีกำลังคิด
“ส่วนลูกสาวของแม่คงไม่ต้องถามเนอะ ว่าอยากทำอะไร? ตายีนส์คงไม่ยอมให้เราทำงานหรอก”
“พี่ยีนส์ไม่มีสิทธิ์บังคับหรอกค่ะ ถ้ามิลจะทำ”
“แหม...ตอนนี้ทำเป็นเก่งนะ พี่เห็นอะไรก็ตามใจไอ้ยีนส์ทุกอย่าง ตามใจจนมันได้ใจแล้ว”โซลแกล้งเอ่ยเย้าแหย่น้องสาวที่ตอนนี้กำลังคบกับเพื่อนสนิทเขาอยู่
“ตามใจอะไร มิลนี่นะตามใจพี่ยีนส์ ไปเอามาจากไหนก่อน เพื่อนพี่ต่างหากที่ต้องตามใจมิล”
“พี่จะรอดูนะว่าเราเรียนจบแล้วจะได้ทำงานตามที่อยากทำเหมือนปากว่าหรือเปล่า”
“ไม่ต้องไปว่าน้องหรอก มาอีกเรื่องดีกว่า…”
โซลกระพริบตารอคนเป็นแม่พูด สายตาแบบนี้เขาเคยเห็นมาตั้งแต่เด็ก เป็นสายตาของความห่วงใยที่มองกี่ครั้งเขาก็รู้สึกตกหลุมรักผู้หญิงคนนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่แปลกใจทำไมคนเป็นพ่อถึงได้หลงแม่นัก ขนาดลูกโตหมดแล้วก็ยังตามใจแม่เขาตลอด
“ไม่ถูกใจผู้หญิงคนไหนเลยเหรอลูก”
“ยังเลยครับ”
“เห้อออ ตาฟรินท์แม่พอเข้าใจนะว่านิสัยเหมือนแม่ แต่เราอ่ะ นิสัยแพรวพราวเหมือนพ่อ ได้ข่าวว่าเมื่อก่อนควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า แล้วตอนนี้หายไปไหนหมดแล้วล่ะ หืม?”
“อะ แฮ่ม”เพลิงแกล้งกระแอมส่งเสียงออกมาเมื่อโดนพาดพิงถึง“อะไรไม่ดี ปิ่นก็โยนให้พี่หมดนะ”
“ปิ่นพูดเรื่องจริงค่ะ ถ้าตาฟรินท์แพรวพราวได้สักครึ่งของพี่ ป่านนี้ปิ่นน่าจะมีหลานไปแล้ว เรียนจบมาเป็นปีแล้วยังไม่ควงใครมาหาแม่สักคน”
“ที่พี่ฟรินท์ไม่มีใครตอนนี้ มันคิดได้สองอย่างนะครับ ว่าไม่ชอบผู้หญิงหรือไม่ก็มีใครในใจอยู่แล้ว”โซลส่งสายตายียวนให้พี่ชาย ที่หันมาถลึงตาใส่เมื่อเจ้าตัวหลุดพูดเรื่องอะไรไม่เข้าท่าออกไป ที่ทำให้คนเป็นแม่ตาเบิกโพลงเพราะความอยากรู้ทันที
“จริงเหรอโซล? ใครกันตาฟรินท์”
“ไม่มีครับแม่ อย่าไปฟังมันมากเลย ผมทำงานทุกวัน จะเอาเวลาไหนไปจีบใคร ทั้งวันวิ่งวุ่นที่บริษัท ตอนเย็นเข้าไปดูเอกสารที่สนามแข่งอีก”เท้าหนาของฟรินท์ถีบเข้าที่เท้าของโซลทันที เพื่อให้หยุดพูดสักที ซึ่งการกระทำของทั้งคู่อยู่ในสายตาของน้องเล็กมิลลิที่นั่งมองเหตุการณ์ด้วยความสนุกสนาน คนหนึ่งไม่อยากให้แม่กดดันเรื่องมีแฟนเพราะยังคงรักสนุกอยู่ไม่อยากผูกมัดกับใคร อีกคนก็ไม่อยากให้พ่อกับแม่รู้ว่ามีคนในใจอยู่แล้ว
“แม่ไม่ได้กดดันนะ แต่ตาฟรินท์ก็เรียนจบแล้ว ตาโซลก็อีกเทอมเดียว มาให้น้องสาวคนเล็กนำไปก่อนได้ยังไง รีบ ๆ ทำเวลาหน่อยสิ แม่อยากให้เราสองคนแต่งงานก่อนมิลลินะ”
“ขนาดไม่ได้กดดันนะ ลูกกลับบ้านมาทีไร พี่เห็นพูดเรื่องนี้ทุกที ปล่อยลูกไปบ้างเหอะปิ่น ลูกโตแล้ว จะใครแต่งงานก่อนกันก็ให้เป็นเรื่องของลูกดีกว่า เลือกคู่ครองนะปิ่น ไม่ได้ไปเดินหาตามตลาดนัดได้ง่าย ๆ เสียเมื่อไหร่”
“พูดแบบนี้พี่กำลังว่าปิ่นอยู่นะคะ ปิ่นหวังดีกับลูกค่ะ ถ้าแบบปิ่นบังคับลูก แล้วแบบพี่นี่ยังไงคะ พูดไม่ดูตัวเองเลยนะคะ”
ปิ่นมุกพูดจบก็ลุกขึ้นเดินออกจากโต๊ะอาหารทันที การกระทำของคนเป็นแม่เป็นสิ่งที่ลูกทั้งสามคนเห็นจนชิน และอีกไม่กี่วินาทีต่อมา คนเป็นพ่อก็จะลุกขึ้นเดินตามไปง้อทันที เป็นแบบนี้เสียทุกครั้ง
“กินกันให้อิ่มนะ พ่อต้องไปง้อแม่ก่อน งอนตุ๊บป่องไปอีกแล้ว”
นั่นไง…ไม่ถึงห้าวินาทีด้วยซ้ำ ร่างสูงของพ่อที่ยังคงความแข็งแรงรีบก้าวยาว ๆ ตามคนเป็นแม่ไปทันที ทำให้ทั้งฟรินท์ โซลและมิลลิที่มองตามคนเป็นพ่อยิ้มขบขันออกมาทันที ไม่ว่ากี่ปีพ่อก็ยังเป็นฝ่ายง้อแม่แบบนี้มาเสมอ รู้ทั้งรู้ว่าพูดอะไรไปแม่ก็ต้องชนะ แต่ก็ขยันทำให้แม่โกรธแบบนี้ประจำ
“ไปก่อนนะ”โซลลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันทีเมื่อไม่มีผู้ใหญ่อยู่ในโต๊ะ เขาจะกลับไปนอนคอนโดของเขาเหมือนทุกครั้ง
“ไม่นอนบ้านว่ะ คอนโดมึงไม่หายไปไหนหรอก”
“ไปนอนคอนโดดีกว่า เผื่อไอ้พวกนั้นนัดไปไหน”
“จะนัดกันไปไหนก็ไป ห้ามชวนพี่ยีนส์ไปด้วย”
มิลลิดักทางพี่ชายทันที พักหลังเธอเห็นนัดปาร์ตี้กันบ่อย เธอไม่ชอบให้แฟนหนุ่มกินเหล้าแล้วขับรถกลับคอนโดคนเดียวมันอันตราย
“ปล่อยให้มันมีอิสระบ้างมิลลิ ที่พี่ไม่อยากหาแฟน ก็เพราะกลัวเจอผู้หญิงนิสัยแบบเธอนี่แหละ”
“นี่ พี่ว่ามิลเหรอ ห๊า!!! แบบมิลมันเป็นยังไง”
มิลลิส่งเสียงแว้ดออกมาทันที แต่คนพี่ชายรีบเดินออกมาจากตรงนั้นเสียก่อน พร้อมทั้งหัวเราะไปด้วยที่สามารถกวนอารมณ์ให้น้องสาวโมโหออกมาได้
วันต่อมา
ในช่วงที่การจราจรติดขัดในยามเช้า สร้างความหงุดหงิดให้กับโซลยิ่งนัก เขาเบื่อการเรียนเช้าที่สุด แต่ทว่าต้องฝืนลุกขึ้นเพราะเป็นวิชาที่อาจารย์ประจำวิชาโหดสุด เข้าสายนาทีเดียวก็ไม่ได้ เขาเลยต้องเผื่อเวลาไว้เกือบชั่วโมง ทำให้ตอนมาถึงมหาลัยไม่มีเพื่อนในกลุ่มคนไหนแหกขี้ตาตื่นเร็วเหมือนเขา
โซล: มากันกี่โมงว่ะ
นิ้วเรียวยาวกดพิมพ์ข้อความส่งเข้าไปในแชทกลุ่มเพื่อน แต่ไร้การตอบกลับจากเพื่อนคนไหน ทั้งที่อีกหนึ่งชั่วโมงต้องเข้าเรียนแล้ว
“เพื่อนยังไม่มาเหรอ?”
เสียงหวานของผู้หญิงส่งเสียงมาจากด้านหลังของเขา ร่างสูงหันไปมองเห็นเป็นเพื่อนผู้หญิงร่วมคณะที่นานทีปีหนจะได้คุยกัน เธอคือใยไหมดาวมหาลัยคนสวย
Mga Comments