EP.2 ไว้ใจคนแปลกหน้า
“เกลไม่ไป พี่พอลจอดนะ” มิเกลพูดด้วยเสียงสั่นจนได้ยินชัด ฟังดูก็รู้ว่าเธอกลัว
“ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกหน่า หยุดพูดได้แล้ว”
ฉันพยายามจะเปิดประตูรถ แต่ไม่รู้มันอยู่ตรงไหนและเปิดยังไงเพราะเขาล็อกไว้ เด็กบ้านนอกจนๆ แบบฉันไม่เคยนั่งรถสปอร์ตคันหรู ฉันก็ได้แต่เคาะๆ ตามกระจกรถ จนกระทั่งอีกคนรู้สึกรำคาญ
“อยู่นิ่งๆ ฉันไม่ทำอะไรเด็กกะโปโลอย่างเธอหรอก หุ่นก็กุ้งแห้ง แล้วดูสภาพตัวเองตอนนี้สิ เหมือนลูกหมาหูลู่ตกน้ำ”
“...”
กรี๊ดดด ฉันกรี๊ดในใจ แบบนี้เขาเรียกว่าตัวเล็กน่ารักต่างหากล่ะไอ้พี่พอลคนหน้านิ่ง ไม่คิดเลยว่าพอพูดออกมาแล้วจะปากร้ายขนาดนี้
คอนโดพอล
เพียงไม่นานก็ถึงคอนโดของพอล ด้วยความที่เขาขับรถเร็วเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่พอเหลือบมองคนข้างกายนั่งหนาวจนตัวสั่นเหมือนลูกนกขนาดนั้น เขาจึงเหยียบคันเร่งขับรถเร็วกว่าเดิมเพื่อไปถึงปลายทางให้เร็วขึ้น นั่นก็คือคอนโดเขาเอง
“ลงสิ จะนั่งรออะไร”
“เอ่อ พี่พอลรับปากเกลมาก่อนได้ไหมคะว่าเกลเชื่อใจพี่ได้”
“เธอระแวงกับคนที่มีน้ำใจช่วยเหลือเธอเนี่ยนะ”
“แล้ว ระ ระแวงไม่ได้เหรอคะ”
“บอกแล้วไง หุ่นอย่างกับกุ้งแห้ง”
“นะ นี่”
“ทำไมเหรอครับ หรือจะเถียง”
เธออยากเถียงมากเพราะมันไม่จริง แต่เถียงไปก็เท่านั้น คงจะแพ้เขาอยู่ดี พอลพูดจาไพเราะก็จริงแต่น้ำเสียงแบบนั้น แววตาแบบนั้น ทำเอามิเกลเองก็รู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก และพอเขาได้แกล้งคนตัวเล็ก เขายกยิ้มมุมปากราวกับพอใจที่เห็นมิเกลทำหน้าตาแบบนั้น ซึ่งแน่นอนว่าในสายตาของเขามองยังไงก็น่ารักจนทำให้หัวใจที่ด้านชานั้นกลับสั่นไหว รู้สึกกระชุ่มกระชวยหัวใจขึ้นมาทันที แบบนี้มันเรียกว่าความรู้สึกอะไรกัน
“ปะ เปิดประตูรถยังไงคะ”
มิเกลประหม่ากับสายตาคู่นั้น แม้จะวางใบหน้านิ่งแต่สายตาที่มองมาดูเจ้าเล่ห์ชอบกล เธอเองก็วางตัวไม่ถูกเหมือนกัน
ลมหายใจของมิเกลหยุดชะงัก เธอกลั้นหายใจเมื่อพอลโน้มตัวมาหาเธอจนใบหน้าใกล้ชิดกัน มิเกลหลับตาแน่น มือขยุ้มกระโปรงเพราะเธอรู้สึกเกร็งที่พอลเอาใบหน้าของเขามาใกล้เธอขนาดนั้น ลมหายใจอุ่นๆ ของเขากับกลิ่นบุหรี่จางๆ ที่ติดอยู่ ทำไมมันรู้สึกหอมขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
กึก!“เปิดตรงนี้” มิเกลถอนใจหายหนักๆ ราวกับโล่งใจ เพราะเธอคิดว่าพอลจะหอมแก้มเธอ
“...”
“ผิดหวังเหรอ”
“ไม่ใช่นะคะ”
“รู้เหรอว่าฉันหมายถึงอะไร”
“เอ่อ ไม่รู้ค่ะ เกลไม่รู้”
มิเกลเสียรู้ให้คนเจ้าเล่ห์อย่างพอล ตอบไปแบบนั้นพอลก็คงจะรู้แล้วว่ามิเกลกำลังคิดว่าเขาจะทำอะไรเธอ
คนตัวเล็กรีบเปิดประตูลงจากรถทันทีเพื่อหนีหลบหนีสายตาของพอล มองนานกว่านั้นไม่ได้ เพราะมันทำให้เธอรู้สึกประหม่า
พอลลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของมิเกล ส่วนมิเกลเองก็เดินกอดตัวเองไว้ เพราะในตอนนี้เธอรู้สึกหนาวมาก จนกระทั่งทั้งสองคนเดินเข้าลิฟต์ไปพร้อมกัน ในระหว่างนั้นก็มีหญิงสาวคนหนึ่งใส่ชุดนักศึกษาที่กำลังจะเดินเข้าลิฟต์มาอีกคน กลายเป็นว่าตอนนี้ภายในลิฟต์มีทั้งหมดสามคน“พอล ไปไหนมาเหรอ” เธอคนนั้นทักเพราะเห็นว่าพอลเอามือจับกระเป๋าเดินทางอยู่ เธอคิดว่าพอลคงไปที่ไหนมาและกลับมาคนเดียว มิเกลและพอลยืนห่างกันพอสมควร ยืนอยู่คนละมุมของลิฟต์
“...”
“ใจแข็งจังเลยนะ ไม่คุยด้วยกับพริ้งค์เลย”
“...”
“ถ้าพอลยังไม่มีใคร เปิดใจให้พริ้งค์หน่อยไม่ได้เหรอคะ”
พริ้งค์ไม่สนใจว่าตรงนั้นจะมีใครยืนอยู่บ้าง เธอต้องการจะพูดจุดประสงค์ของเธอ เพราะมีโอกาสน้อยมากที่จะได้ยืนใกล้พอลขนาดนี้
“เกล!”
“ค.. คะ”
“มายืนตรงนี้” พอลตัดสินใจเรียกมิเกลให้มายืนข้างเขาเพื่อทำหน้าที่เป็นไม้กันหมาให้เขาชั่วคราวก่อน
“เอ่อ…”
“มา!”
เมื่อพอลเสียงเข้มขึ้นมิเกลจึงขยับตัวไปยืนใกล้พอล แต่ก็ไม่ได้ใกล้จนทำให้พริ้งค์คิดว่าเป็นแฟนกันได้ พอลจึงตัดสินใจคว้าข้อมือคนตัวเล็กให้มายืนแนบชิดกัน และเพียงไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิดออกเพราะถึงชั้นของพอลแล้ว สายตาที่พริ้งค์มองตามไปเกิดอาการไม่พอใจ เธอเฝ้ามองของเธอมาตั้งนานพอลไม่เคยคบใครเลย แต่พอเห็นอะไรแบบนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะยอมหรอกนะ เธอเจอพอลมาก่อนเรื่องอะไรที่จะต้องยอม พริ้งค์คิดแบบนั้น
พอลเดินจูงมือมิเกลไม่ยอมปล่อย เดินจับมือไปจนถึงหน้าประตูห้อง
“ผู้หญิงคนนั้นมองเกลแทบจะกินหัว”
“กลัวเหรอ?”
“ใครมันจะไปอยากมีศัตรูกันละคะ”
“ถ้ากลัวมากก็บอกไปเลยว่าเป็นเด็กของพี่พอล”
“...”
“ฉันรับประกันได้ว่าไม่มีใครกล้าทำอะไรเธอแน่นอนยัยกุ้งแห้ง”
“ปะ ปล่อยได้แล้วค่ะ” มิเกลประหม่าหลายครั้งมากภายในระยะเวลาไม่ถึงสองชั่วโมงที่เจอกัน ผู้ชายคนนี้ขยันทำให้เธอใจเต้นแรง แรงจนลืมไปแล้วว่าเพิ่งจะโดนแฟนนอกใจมาหมาดๆ
“เข้าไป”
พอลไม่สนใจสิ่งที่มิเกลบอก เขารู้ว่าสุดท้ายแล้วผู้หญิงคนนั้นคงไม่กล้าทำอะไรแบบที่มิเกลกำลังกลัว แต่ถ้าทำก็ลองดู
“เธอไปพักห้องนั้นจะมีห้องน้ำในตัว ไม่ต้องใช้ห้องน้ำด้านนอกเพราะเป็นห้องน้ำสำหรับรับแขก”
“ขอบคุณนะคะ เกลไม่ได้อยากรบกวนพี่พอลมากขนาดนี้ แต่ว่า… เกลไม่มีที่ไป พรุ่งนี้เกลจะรีบออกไปแต่เช้า เกลรบกวนพี่แค่คืนนี้คืนเดียวค่ะ”
“ตามนั้น”
มิเกล
ต้องขอขอบคุณคนแปลกหน้าคนนี้ที่เข้ามาช่วยเหลือฉัน หากไม่ได้พวกพี่ทั้งสองคน ฉันคงแย่แน่ๆ ชีวิตของฉันมันซวยซ้ำซวยซ้อน แม้กระทั่งแฟนนอกใจไปมีคนอื่น ฉันยังไม่มีเวลาร้องไห้เลย ถ้าถามว่าเสียใจไหม แน่นอนว่าต้องเสียใจอยู่แล้ว เพราะเขาในตอนนั้นคือคนที่ฉันรักและไว้ใจ ฉันไม่ได้คบเขาเพื่อหวังให้เขาดูแลเรื่องเงินหรอกนะ ปกติหลังเลิกเรียนหรือวันหยุดฉันมักจะทำงานเสริมตลอด ใครจ้างทำอะไรฉันทำหมด ส่วนหนึ่งก็เก็บเงินเอาไว้เพื่อจะคืนพี่โฬม ความจริงฉันมีเงินส่วนหนึ่งในบัญชีแล้วนะ ฉันสะสมไว้จะเก็บไว้จ่ายค่าเทอมเองไม่อยากรบกวนพี่โฬมอีกแล้ว และตอนนี้ก็เป็นเช่นนั้น เราไม่ต้องรบกวนและยุ่งเกี่ยวกันอีกต่อไป แต่ปัญหาคือ ฉันต้องสำรองเงินไว้จ่ายค่าเช่าหอใหม่ด้วย เงินค่าเทอมกับค่าหอก็คงจะเพียงพอ แต่ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันคงต้องหางานทำ แค่คิดฉันก็กลุ้มใจแล้ว เงินมันหมุนรอบตัวเราจริงๆ
ฉันอาบน้ำเข้านอน และไม่ลืมที่จะสวดมนต์ก่อนนอน ทำความเคารพเจ้าที่เจ้าทางและอธิษฐานถึงเจ้าของห้องว่าอย่าได้คิดทำอะไรมิดีมิร้ายกับฉันเลยนะ แค่พรุ่งนี้เท่านั้นเราจะได้แยกจากกัน แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็ตามอยากขอบคุณคนแปลกหน้าคนนี้ที่ให้มิเกลได้มีที่ซุกหัวนอนนะ น่าแปลกใจที่ฉันไว้ใจคนแปลกหน้าคนนี้อย่างไม่มีเงื่อนไขเลยจริงๆ
พอล
กลิ่นตัวที่หอมอ่อนๆ มันยังคงอยู่ที่ปลายจมูกของผม แทบไม่อยากจะอาบน้ำเลยด้วยซ้ำเพราะกลัวกลิ่นหอมอ่อนๆ นี้มันจางหายไป กลิ่นที่ผมดมแล้วรู้สึกอยากดมแล้วดมอีก ถ้าขอดมตรงๆ น้องคนสวยจะว่าอะไรผมไหมนะ น้องจะคิดว่าผมเป็นโรคจิตหรือเปล่า คงไม่หรอกมั้ง เพราะคนที่หล่อเท่แบบผมไม่ได้มีทั่วไป คงไม่มีใครคิดแบบนั้นแน่นอน
ผมเดินออกจากห้องนอนของผมแล้วมองไปยังประตูห้องนอนอีกห้อง เสียงของสายน้ำไหลดังออกมารู้ได้ทันทีว่ากำลังอาบน้ำอยู่ ผมเผลอจินตนาการสัดส่วนต่างๆ ของน้องคนสวยอย่างเผลอไผล ผิวขาวเนียนแบบนั้น ถ้าในร่มผ้าจะขาวขนาดไหน หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มแบบนั้นแก้มคงจะนุ่มน่าดู แค่จินตนาการมันก็ทำให้… หัวกระดิกทันที
“ฉิบหาย นี่กูเป็นห่าอะไร”
พอลสะบัดความคิดอันฟุ้งซ่านของตัวเองออกมาจากสมอง แล้วเปลี่ยนเป็นเดินเข้าห้องครัวไปแทน พอลติดดื่มเบียร์มาก ก่อนนอนอย่างน้อยต้องดื่มสองกระป๋องถึงจะหลับได้สนิท เขาเป็นคนนอนหลับยากมาก พอร์ชเคยบีบบังคับพอลให้ไปรักษาอาการหลับยากที่โรงพยาบาลของครอบครัวเขาแต่ก็ไม่ได้เป็นผล แม้จะใช้ยาช่วยให้หลับง่ายขึ้น แต่เขาเองไม่อยากพึ่งพายาเป็นเวลานาน จึงเลือกที่จะหยุดยา แต่พอหยุดก็เท่ากับว่าเขากลับมาหลับยากเหมือนเคย และสิ่งที่ช่วยได้ก็คือการดื่มเบียร์ก่อนนอน
✨✨✨Ep.5 เบบี๋ขาของพอล“ถามฉันว่าโสดไหม ฉันคิดนะ”“อ่อนไหวจังเลยนะคะ”“ใช่ ไม่เคยได้ยินเหรอ คนของขาดมักอ่อนไหว”“มะ มะ ไม่เคยค่ะ”ฉันพูดลิ้นพันกันจนได้ยินชัด จะไม่ให้ตกใจได้ยังไงพี่พอลชอบพูดจาแบบนี้ ชอบพูดทะลึ่ง ฉันคิดถูกหรือเปล่านะที่ไว้ใจคนแปลกหน้าคนนี้ พอฉันปฏิเสธไปแบบนั้น ฉันได้ยินเสียงหัวเราะในลำคออีกด้วย ขี้แกล้งอะ“เอาเบอร์เธอมา ฉันจะออกไปข้างนอก เดี๋ยวให้คนมาส่งวัตถุดิบให้ ฉันจะโทรบอกเธอให้ลงไปรับของด้านล่าง แล้วนี่… คีย์การ์ดห้องฉัน”“ค่ะ นี่ค่ะเบอร์ของเกล”ฉันยื่นโทรศัพท์ให้คนตรงหน้า ในหน้าจอฉันกดเบอร์ของตัวเองไว้แล้วส่งโทรศัพท์ให้พี่พอล เบอร์ฉันถ้ากดบันทึกแล้วมันจะเพิ่มเพื่อนในไลน์ให้ด้วยเลยเพราะฉันผูกไว้กับเบอร์โทรฯ..เมื่อทั้งสองคนแลกเบอร์โทรศัพท์กันเรียบร้อยแล้ว พอลก็เดินเข้าห้องของตัวเองทันที เขานั่งเอนตัวพิงโซฟาตัวยาวด้วยท่าทางสบายใจ พร้อมกับนั่งผิวปากอย่างอารมณ์ดี มือหนาหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาพร้อมกับรัวนิ้วกดบันทึกชื่อของมิเกลว่า ‘เบบี๋เกล’ เพราะเขาปักธงในใจไว้แล้วว่าอนาคตมิเกลต้องเป็น ‘เบบี๋ขาของพอล’ อย่างแน่นอนผ่านไปเกือบชั่วโมงพอลส่งข้อความมาบอกมิเกลไว้ว่า วัตถ
Ep.4 เช่าคอนโดเดือนละห้าร้อยทั้งสองทานอาหารเรียบร้อย พอลจึงเริ่มขับรถตระเวนหาหอพักให้มิเกล ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกับมหาลัยมากนักครืด ~~ ครืด ~~ โทรศัพท์มือถือของพอลสั่นเนื่องจากว่ามีคนโทรเข้ามา แต่เขากำลังขับรถอยู่จึงเอ่ยบอกคนที่นั่งข้างกายแทน“รับโทรศัพท์ให้ฉัน”“เอ่อ ไม่ดีมั้งคะ”“กดรับสายให้ฉัน”พอลพูดเสียงเข้มขึ้นอีกครั้งจนคนข้างกายยอมทำตาม“ค่ะๆ”เรารู้จักกันไม่ถึงสองวันเองมั้ง พี่พอลทำตัวราวกับว่ารู้จักกับฉันมานาน ทั้งคำพูดและพฤติกรรมต่างๆ มันส่อแววมาก มากจนบางทีฉันไม่กล้าคิดไปเอง เมื่อฉันกดรับสายเรียบร้อยแล้วยื่นไปให้คนที่กำลังขับรถอยู่ แต่พี่พอลเลือกที่จะกดเปิดลำโพงแทนและให้ฉันถือเอาไว้แบบนั้น ถ้างั้นฉันก็ได้ยินหมดน่ะสิ“ว่าไง”(ว่าไงอะไรของมึง ขับรถถึงไหนแล้วเนี่ย)“กูไปไม่ได้ละ มีธุระต้องไปทำ” พี่พอลตอบประโยคนั้นแล้วหันมามองหน้าฉันครู่นึง มองทำไม?(ธุระอะไรของมึง มึงจะโดดเรียนเหรอ)“อืม ฝากเรียนเผื่อกูด้วย”(น้องพิชชี่รอทานข้าวพร้อมมึงอยู่นะ) พิชชี่งั้นเหรอ หรือจะเป็นแฟนของพี่พอล“ฝากบอกน้องด้วยว่าไม่ต้องรอ แค่นี้นะกูขับรถอยู่”พอร์ชโทรมาตามพอลเพราะนัดกันไว้ จนเลยเวลาแล้วก
Ep.3 ใจดีแค่กับเธอเช้าวันถัดมา10.00 น.พอลตื่นนอนเพราะเสียงนาฬิกาปลุกที่ดังรบกวน วันนี้เขามีเรียนแค่ช่วงบ่ายก็เลยนอนตื่นสายได้ เมื่อสมองประมวลผลเข้าที่เข้าทางแล้ว ร่างหนาจึงลุกจากที่นอนและเปิดประตูห้องเพื่อมองหาใครอีกคน ทว่า… เงียบแกร๊ก… พอลถือวิสาสะเปิดประตูห้องนอนอีกห้องเพื่อดูว่ามิเกลอยู่ในห้องนอนไหม เพราะตอนนี้ภายในห้องของเขามันเงียบเหมือนเขาอยู่คนเดียว และตอนนี้ก็ได้คำตอบแล้วว่าคนตัวเล็กไม่อยู่แล้วพอลเหลือบมองไปยังโต๊ะกระจกปลายเตียงก็พบว่ามีกระดาษโน็ตใบเล็กๆ จำนวนหนึ่งใบที่เขียนด้วยลายมือน่ารักเอาไว้ว่า...‘เกลขอบคุณที่พอลมากๆ นะคะ ขอขอบคุณที่ช่วยเหลือทุกอย่างเลย ไว้มีโอกาสถ้าเราได้เจอกันอีกครั้ง เกลจะขอตอบแทนพี่พอลคืนบ้างนะคะ’รอยยิ้มร้ายประดับตรงมุมปาก ตอบแทนเขาคืนงั้นเหรอ ได้สิ เขาจะทำให้เธอติดค้างเขาหลายๆ เรื่องเลยคอยดู หาตัวไม่ยากแน่เพราะเรียนอยู่มหาลัยเดียวกัน เมื่อคืนเธอบอกเขาว่าเรียนที่มหาลัยไหน แต่เขาไม่ได้บอกมิเกลว่าเรียนที่เดียวกัน มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรที่จะต้องบอก ซึ่งพอย้อนนึกกลับไป ก่อนหน้านั้นเขาไม่เคยเห็นมิเกลเลยสักครั้ง ปกติหญิงสาวหน้าตาน่ารัก หรือผู้หญิง
EP.2 ไว้ใจคนแปลกหน้า“เกลไม่ไป พี่พอลจอดนะ” มิเกลพูดด้วยเสียงสั่นจนได้ยินชัด ฟังดูก็รู้ว่าเธอกลัว“ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกหน่า หยุดพูดได้แล้ว”ฉันพยายามจะเปิดประตูรถ แต่ไม่รู้มันอยู่ตรงไหนและเปิดยังไงเพราะเขาล็อกไว้ เด็กบ้านนอกจนๆ แบบฉันไม่เคยนั่งรถสปอร์ตคันหรู ฉันก็ได้แต่เคาะๆ ตามกระจกรถ จนกระทั่งอีกคนรู้สึกรำคาญ“อยู่นิ่งๆ ฉันไม่ทำอะไรเด็กกะโปโลอย่างเธอหรอก หุ่นก็กุ้งแห้ง แล้วดูสภาพตัวเองตอนนี้สิ เหมือนลูกหมาหูลู่ตกน้ำ”“...”กรี๊ดดด ฉันกรี๊ดในใจ แบบนี้เขาเรียกว่าตัวเล็กน่ารักต่างหากล่ะไอ้พี่พอลคนหน้านิ่ง ไม่คิดเลยว่าพอพูดออกมาแล้วจะปากร้ายขนาดนี้คอนโดพอลเพียงไม่นานก็ถึงคอนโดของพอล ด้วยความที่เขาขับรถเร็วเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่พอเหลือบมองคนข้างกายนั่งหนาวจนตัวสั่นเหมือนลูกนกขนาดนั้น เขาจึงเหยียบคันเร่งขับรถเร็วกว่าเดิมเพื่อไปถึงปลายทางให้เร็วขึ้น นั่นก็คือคอนโดเขาเอง“ลงสิ จะนั่งรออะไร”“เอ่อ พี่พอลรับปากเกลมาก่อนได้ไหมคะว่าเกลเชื่อใจพี่ได้”“เธอระแวงกับคนที่มีน้ำใจช่วยเหลือเธอเนี่ยนะ”“แล้ว ระ ระแวงไม่ได้เหรอคะ”“บอกแล้วไง หุ่นอย่างกับกุ้งแห้ง”“นะ นี่”“ทำไมเหรอครับ หรือจะเถียง”เธอ
EP.1 คืนฝนพรำ“ไอ้พอล ขับช้าๆ หน่อยดิวะ”พอลและพอร์ชกำลังกลับจากแทงสนุกเกอร์ด้วยกัน และตอนนี้ฝนกำลังตกหนักและถนนก็คงลื่น พอร์ชที่นั่งตัวเกร็งอยู่ข้างเบาะคนขับรถจึงเอ่ยบอกให้พอลขับรถช้าลงหน่อย พอลขับรถทีไรตีนผีทุกทีเลย“มึงอย่าปอดแหก เชื่อมือกู”เอี๊ยดดดดดด…. ไม่ทันขาดคำ รถสปอร์ตสองที่นั่งคันหรูเบรคกะทันหันจนล้อรถลื่นสะบัด“เบรคหาพ่องมึงเหรอไอ้พอล หน้ากูทิ่มแล้วเนี่ย”“ไอ้พอร์ช มึงไปเอาไม้เบสบอลท้ายรถแล้วรีบตามกูมา”พอลเบรครถกะทันหันเพราะเมื่อครู่นี้เขาได้สบตากับเด็กสาวที่หันหน้ามองออกมานอกถนน เธอกำลังดึงกระเป๋าเดินทางยื้อกันไปยื้อกันมากับผู้ชายสามคนที่ดูยังไงก็ท่าทางไม่ปกติ และมองแค่นั้นก็ดูออกว่าเธอกำลังจะโดนรังแก และชุดที่ใส่อยู่นั้น… เสื้อนักศึกษาสีขาวที่เปียกปอนไปด้วยน้ำฝนมันแนบเนื้อซะขนาดนั้น.... เห็นไปถึงไหนต่อไหนและเมื่อพอร์ชมองตามพอลไป จึงเดาสถานการณ์ข้างหน้าได้ทันที พอลมีไม้เบสบอล ส่วนพอร์ชมีสนับมือ เมื่อพร้อมแล้วพอร์ชก็รีบวิ่งตรงไปหาพอลทันทีพรึบ!“คะ คุณ ช่วยหนูด้วยค่ะ”แค่เด็กสาวคนนั้นพูดแทนตัวเองว่าหนู อยู่ๆ ก็รู้สึกอยากปกป้อง อยากดูแล อยากให้เป็นของเขาซะเหลือเกิน ‘ได้ค
เรื่องย่อ เธอ... ที่เพิ่งโดนแฟนตัวเองนอกใจ เขาไล่เธออย่างไม่แยแส แถมยังดูถูกเธอสาระพัดอย่าง ถึงไม่ไล่ เธอก็ต้องไปอยู่ดี ไม่มีใครรับได้หรอกที่โดนแฟนตัวเองนอกใจในค่ำคืนฝนตก สาวเด็กวัย 20 ปี กับใจพังๆ เธอกำลังวิ่งหนีผู้ชายขี้เมาสามคนที่กำลังจะพยายามล่วงเกินเธอ ในความโชคร้ายยังมีความโชคดีหลงเหลืออยู่บ้าง หนุ่มวิศวะหน้าหล่อแต่ดูนิ่ง ตัวจริงจะพูดได้หรือเปล่านะ เพราะดูนิ่งมาก เขามาช่วยเธอให้รอดพ้นจากอันตรายในตอนนั้น“ปล่อยผู้หญิง” โอเคเขาพูดได้ นึกว่าเขาเป็นหุ่นยนต์รักแรกพบ...ได้เกิดขึ้นกับพอล เขาจึงตั้งใจวางแผนทำทุกอย่างให้ได้เธอคนนั้นมาครอบครอง และเมื่อได้เธอมาครอบครอง ทุกอย่างเหมือนจะดี แต่ก็..."เห็นฉันเป็นไอ้หน้าโง่สินะ ถึงได้หยามกันขนาดนี้"แต่เมื่อเวลาผ่านไป เมื่อความจริงทุกอย่างปรากฎ ทำให้เขาได้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว เรื่องนี้คนที่เจ็บปวดที่สุดมันไม่ใช่ 'เขา' แต่เป็น 'เธอ' ต่างหากที่ทนแบกรับความเจ็บปวดทั้งหมดนี้เอาไว้เอง"ให้โอกาสผู้ชายหน้าโง่คนนี้สักครั้งได้ไหม"⭐__________⭐เรื่องราวมันจะเป็นยังไงต่อไป ทำไมมิเกลถึงตัดสินใจทำแบบนั้นและทำไมพอลถึงยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ เช่นกัน มาลุ้นนะคะ