LOGINติ๊ง! เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ของหมวดอุดมดังขึ้นขัดจังหวะการสนทนา ทั้งคู่ก้มลงมองพร้อมกัน
“คนที่พูดถึง…โพสต์ชื่อใครบางคนออกมาแล้วครับ” อุดมกดขยายหน้าจอ ดวงตาเบิกขึ้นนิดหนึ่ง “ส.ส. พรรคสยามรวมใจ…คนใหม่” คิ้วเข้มของคีรติขมวดเข้าหากันทันที “เอ๊ะ พรรคนี้มันมี ส.ส. คนใหม่แล้วเหรอ” อุดมรีบเลื่อนหน้าจอพลางเอ่ยเสียงตื่น “เดือนหน้า…จะมีการรับตำแหน่งของ ส.ส. พรรคสยามรวมใจ คนใหม่…ทั้งหมดสี่คน” “โอ๊ะ…คุณรู้ได้ยังไงครับสารวัตร” คีรติพ่นลมหายใจออกช้า ๆ คล้ายเก็บความกังวลไม่อยู่ “ผลการโหวตของข่าววงในมันออกมาแล้ว” อุดมเม้มปากแน่น “เอ๋…แต่ไม่มีข่าวหน้าพวกเขาออกมาเลยนี่ครับ” “เห็นว่าจะได้เห็นพร้อมกันวันเปิดตัว” คีรติว่าชัดถ้อยชัดคำ เสียงทุ้มต่ำหนักแน่น “นโยบายใหม่ที่ไม่ให้เปิดเผยใบหน้าก่อนรับตำแหน่ง…เพื่ออะไรก็ไม่รู้ แต่ก็มีคำสั่งนั้นออกมาแล้ว” หมวดอุดมชะงัก สายตาสั่นเล็กน้อย “แปลกชะมัด…เลือกแค่จากชื่อ ไม่ต่างอะไรกับไอ้ดาร์คเว็บนี่เลย ตั้งกฎในประเทศให้ดูไม่โปร่งใสไปหมด…อีกหน่อยก็คงเป็นคอมมิวนิสต์ชัด ๆ” ความเงียบกดทับลงมาอีกครั้ง ทั้งคู่สบตากัน รู้ทันทีว่าการเชื่อมโยงเริ่มปรากฏให้เห็นอย่างน่าขนลุก สารวัตรหนุ่มสตาร์ทรถออกจากร้านเบียร์ริมน้ำ ทิ้งไว้เพียงแสงไฟท้ายที่เลือนหายไปในความมืด แต่ผู้กองหนุ่มยังคงนั่งอยู่ตรงเก้าอี้ไม้ริมระเบียง ร้านเงียบสงัด มีเพียงเสียงน้ำกระทบฝั่งกับแสงไฟสะท้อนเป็นทางยาวบนผิวน้ำ เขายกแก้วเบียร์ขึ้นจิบช้า ๆ สายตาเหม่อลอยไกลเหมือนจะปล่อยวิญญาณไปกับสายน้ำ ตื๊ดด… ตื๊ดด… หน้าจอโทรศัพท์สว่างขึ้น อักษรเพียงตัวเดียว R ปรากฏบนจอ แม้จะเหมือนชื่อสารวัตรคีรติ..แต่ไม่ใช่ เป็นเบอร์จากต่างประเทศ หมวดอุดมกดรับ สายตายังจับจ้องไปที่สายน้ำตรงหน้า “เป็นไง?” เสียงทุ้มต่ำลอดมาตามสาย “เรียบร้อยครับ” “มีอะไรผิดปกติไหม?” “ยังไม่มีครับ…” “อืม…” ปลายสายเงียบไปอึดใจ “ฝากด้วย” อุดมโคลงแก้วเหล้าในมือ “ครับ” สัญญาณตัดไป เหลือเพียงเงาสายน้ำที่สะท้อนแสงไฟกระเพื่อมไหวในดวงตาหมวดหนุ่ม แววตาที่ไม่มีใครอ่านออก แท้จริงแล้วเขากำลังเลือกยืนอยู่ฝั่งไหนกันแน่… สามหนุ่มนั่งเรียงตัวบนรถ มองเพื่อนตัวเล็กเดินลากแตะสวมกางเกงบอลตัวโคร่งผูกเอวสูงกับเสื้อยืดคอย้วยโอเวอร์ไซส์ขาดๆ สีหม่น นั่นไม่ใช่เสื้อตลาดนัดแต่เป็นเสื้อแบรนด์เนมราคานับหมื่นที่ใส่แล้วดูเหมือนยาจกที่สุด ปีรามิดติดเครื่องติดตามกับหูฟัง คุณหนูผมหยิกฟูฟ่องตัวขาวแขนนขาเรียวผอมแห้งตามแบบฉบับเด็กติดเกมส์ไม่ค่อยกินอะไร เดินล่องลอยไปหาเป้าหมาย คนในชุดเครื่องแบบตำรวจครึ่งท่อนร่างสูงชะลูดเกือบสองเมตรยิ่งเข้าใกล้ก็ยิ่งต้องแหงนหน้ามอง หน้าเรียวเล็กหันกลับไปมองเพื่อนตัวโตบนรถที่ชูนิ้วโป้งให้แต่คนตัวเล็กกลับยกนิ้วกลางพลางฉีกยิ้มแข็งกระด้างให้เต็มรัก ใบหน้าหล่อเหลาของเด็กเจ้าเล่ห์บนรถอ้าปากหัวร่อหงายท้องหงายไส้คล้ายจะสะใจมากกว่าเอาใจช่วย กึ่ก… รองเท้าแตะหูคีบสีขาวฟ้ามาหยุดลงด้านหลังรองเท้าหนังขัดมันเงาวับคู่โตเสียงห้าวติดแหลมเล็กๆ เหมือนเด็กเกรียนเอ่ยขึ้น “พี่ครับ…ขอเงินกินข้าวหน่อยค้าบ~” ปีรามิดก้าวเข้ามาหาหมวดอุดมข้างรถเก๋งคันงามสัญชาตินอกราคาหลายล้าน คนตัวเล็กทำตาแป๋วแบมือยื่นออกมาตรงหน้านายตำรวจยศสูงหน้าดุ หมวดอุดมเงยหน้ามามองเด็กหนุ่มตั้งแต่หัวจรดเท้า พ่นลมหายใจเย็น ๆ ก่อนจะก้าวผ่านไปโดยไม่พูดอะไร ’ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ‘เสียงหัวเราะลั่นจากเพื่อน ๆ ในรถได้ยินผ่านไมค์ที่ปุ๋ยติดตัว ’ เมินไอ้มิดว่ะ ฮ่าฮ่า ฮ่า’ ‘มึงแสดงแข็งเกินไง อ้อน ๆ หน่อยสิผู้หมวดมันออกจะหล่อ’ เรยากระซิบบทละครใส่หูฟังเหมือนโค้ชในสนามกีฬา ’ กูไม่ชอบผู้ชาย!’ ปีรามิดกระซิบเสียงแผ่วตอบกลับ สาวเท้าเร็วเข้าหาร่างหนา ’ ลองดูก่อน ลองชิมดูแล้วมึงจะติดใจ’ เสียงเพื่อนในรถแซวพร้อมหัวเราะกลิ้ง ’ ติดพ่อง!!’ ร่างบางขยับย่างเท้าเร็ว ๆ ชี้ไปที่ชายเสื้อหมวดแล้วจับแน่นอก “พี่ครับ…หิวข้าว” ชายเสื้อนายตำรวจขี้เก๊กถูกดึงแรงจนยับอีกฝ่ายถลึงตามองแรงขึ้น “เป็นต่างด้าวหรือเปล่า” หมวดอุดมขมวดคิ้ว แววตาดุร้ายกดดันมือเล็กให้ปล่อย “ครับ?” ปีรามิดทำหน้างงแต่ไม่ยอมปล่อย “เอาบัตรประชาชนมาดูสิ” หมวดอุดมสั่งเสียงเข้ม “เอ่อ…” ปีรามิดอ้าปากพะงาบๆ เหมือนปลาขาดอ๊อกซิเจน เพื่อนก็เอาแต่ขำไม่ช่วย ’ อ้าว เชี่ย มีใครทำบัตรปลอมให้มันมั้ยนะ’ แวซายโพล่งขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ ’ ไม่มี’ โรมส่ายหน้า “ไม่มีครับ… พี่จ๋า หนูหิวข้าว” ปีรามิดโน้มตัวเข้าใกล้ยังพยายามดึงกางเกงหมวดหน้าดุ ’ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า พี่จ๋า’ เสียงหัวเราะของวัยรุ่นจอมทะเล้นดังลั่นในรถอีกครั้ง ’ กูขนลุกแล้วนะ ไอ้มิดเรียกผู้ชายว่าพี่จ๋า’ หมวดอุดมมองเด็กจรจัดนิ่ง ๆ จ้องตาเขม็ง “หิวเหรอ …ได้สิเดี๋ยวพาไปกินข้าว” ’ เฮ้ย ๆ เอาว่ะ ชอบคนขี้อ้อนเหมือนกันนี่หว่า’ เรย์ ได้ยินเช่นนั้นก็หรี่ตามองนายตำรวจทรงเดียวกับเมียตัวเองแต่ไม่น่าพิศวาสเท่า ’ ตำรวจมันก็ชอบคนขี้อ่อยทุกคนแหละ ยิ่งแกล้งเลียแข้งเลียขาก็ยิ่งชอบ’ ’ คนอื่นเขาแกล้งเลีย แต่มึงเลียจริงไอ้เรย์’ ’ แม่ง…ไม่รู้จะแก้ตัวยังไงเลย เลียทั้งตัวแล้วด้วยสิ’ ’ ไอ้หน้าด้าน!’นิ้วยาวของเรยาเกี่ยวขอบกางเกงผ้านุ่มลื่นสีขาวลงพ้นเนินสะโพกดึงลงจนร่วงหล่นลงไปกองกับพื้นทำให้ท่อนล่างคุณตำรวจไร้เครื่องป้องกัน“ตัวเองชอบตอนเค้าติดสัตว์ไง” ปากได้รูปที่ชอบพ่นคำลามกทำเอาเจ้าของงบ้านนมันเขี้ยวอย่างหนักมือข้างหนึ่งของคุณตำรวจบีบกรามเจ้าหมาตัวโตแน่นแตเจ้าตัวดีกลับเอียงหน้ามาเลียหลังมือขาวสว่างเอาอกเอาใจ สองมือที่กอบกุมก้อนสะโพกแน่นสอดลึกลงไปในร่องหลืบคับแคบ รอยยิ้มเล็กๆ เริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้าสารวัตรหนุ่มยิ่งทำให้หมาอย่างเรย์ได้ใจหันหน้ามองเนื้อแท่งขาวราวกับบไส้กรอกอวบอิ่มสิ่งกลิ่นหอมหวน เกร็งข้อมือโอบอุ้มก้อนเนื้อแน่นยกขึ้นน้อยๆ ร่างสูงของสารวัตรต้องเขย่งปลายเท้าเจ้าหมาเด็กไม่รู้สำนึกว่าทำความผิดยังคงนัวเนียของโปรดไม่หยุดหย่อนหน้าหล่อๆ มุดกลางหว่างขาคนพี่แหงนหน้าเสยปลายลิ้นลากผ่านถุงเนื้อนุ่มนิ่มปาดเลียลำร้อนขาวเนียนยิ่งกว่าผิวเด็กอ่อน แท่งเนื้อที่มักจะมีปฏิกริยากับสัมผัสของหมาบ้าอย่างเรย์เสมอมือสองข้างของสารวัตรคีรติต้องประคองบ่ากว้างเอาไว้เมื่อถูกช้อนสะโพกขึ้นจนไม่สามารถเหยียบพื้นได้ ขาสองข้างกางออกกว้างจนแทบจะขี่คอคนเมา“อืมมม~”คุณตำรวจส่งเสียงครางแผ่วทุกครั้งที่เก
เวลาต่อมาสภาพห้องใต้ดินเละเทะเศษขนมเกลื่อนกราดกระป๋องเบียร์ขวดน้ำอัดลมและน้ำเปล่าเป็นกอง ทั้งหมดมึนเมาตามๆ กันแค่นั่งยังเซ เสียงพูดคุยยืดยานฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง“มึงจะกลัวอะไรเราสี่คนเป็นส.ส นะมิดจี้มึงเองก็บอกว่ามันไม่กล้าทำอะไร” แวซายพูดพลางโยนถุงขนมบนโต๊ะให้น้องเล็กปีรามิดตะครุบกอบโกยเอามากอดไว้ไม่แบ่งใคร “ถ้ามันต้องทำขึ้นมาล่ะแล้วพวกมึงจะมีปัญญาคลอดลูกไปคืนแม่กูหรือไง!?” เสียงขึ้นสูงอย่างกับจะกัดใครสักคน“มึงนี่หงุดหงิดง่ายชะมัดตอนโมโหเสียงก็ยิ่งแหบเหมือนอะไรก็ไม่รู้ แกว๊กๆๆๆๆ” โรมหัวเราะ“ทำไมไม่เอาอย่างลูกพี่ลูกน้องมึงบ้างวะ เอาสมองมาไว้ที่จู๋ไม่ต้องคิดห่าอะไร เด้าอย่างเดียวไม่เครียดก็เด้า หิวก็เด้า อิ่มก็เด้า เลี้ยงง่ายสัด”“เออจริง มึงน่าจะแดกน้ำอสุจิแทนข้าวไปเลยนะ” อีกคนเสริม“ชมกูอยู่ปะวะ จะได้เขินถูก” เรยายกคิ้ว ยิ้มกวนปีรามิดกอดอก หัวเราะหึ ๆ เพราะอารมณ์เย็นลง“สมองอยู่ที่จู๋จริง ๆ”“ทำไมพ่อแม่พวกเราถึงมาเป็นนักการเมืองวะ” เรย์ยกขวดเหล้า ขยับปากยิ้มจาง ๆ “แดกบ้านแดกเมืองแล้วมันเท่ดีมั้งแล้วมาตอแหลว่ารักประเทศ ““จริง…” เสียงแวซายรับคำเบา ๆ“อย่าทำตัวน่าเบื่อ
วันเสาร์บ้านผู้หมวดอุดมศักดิ์แกร่ก…แต๊กกกกๆๆๆๆๆๆ …“ไอ้เหี้ย! กูบอกให้ระวังหลังไง!”เสียงตะโกนปนหัวเราะดังออกมาจากห้องโถง เสียงเมาส์กดคลิกตามจังหวะเกมก้องสะท้อนผนัง ตัวละครกระโดดเล็กน้อย หมุนตัวหลบการโจมตีในเกม เสียงปัง ๆ ๆ ดังตามจังหวะมือเขย่าเมาส์“หนวกหู!! เมื่อไหร่จะเลิกเล่นเกมส์สักที” หมวดอุดมศักดิ์พ่นลมหายใจตวาดลั่นบ้าน“แป๊บนึงกำลังจะชนะแล้ว” ปีรามิดทำเสียงยียวนเออออแต่ไม่ขยับเขยื้อนจากหน้าจอ“หยุดเล่นเดี๋ยวนี้!!” น้ำเสียงเรียบแต่เต็มไปด้วยอำนาจ ทำให้ทุกอย่างหยุดนิ่งไป“มีเมลล์ส่งเข้ามาหาคุณด้วยล่ะ ผมปลดล็อคดู เขาบอกว่าอะไรน้าฟินแลนด์สามวันเวลาสามนาฬิกา…เหมือนรหัสลับปฏิบัติการในเกมส์เลย” ร่างผอมบางลอยหน้าลอยตาเล่นเกมส์ต่อสู้เสียงดังแล้วหัวเราะไปพร้อมกันตึก ตึก ตึกหมั่บบ!!หมวดอุดมศักดิ์เอื้อมมือมาบีบแก้มขาวให้หันหน้ามาสบตาแรงๆ “ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่ามายุ่งกับของของฉัน…อยากตายเหรอไง!” เสียงแข็งกร้าวเย็นชาเค้นต่ำกดดันคนตัวเล็กไม่ต่างจากราชสีกับลูกแมวดวงตากลมใต้ผมหน้าม้าต้องแสงวาวชั่วครู่แม้จะถูกบีบจนเจ็บกรามแต่เลือดนักสู้ก็ไม่ยอมง่ายๆ “ถ้าผมตาย ข้อมูลของคุณกับคนในความลับแ
เวลาต่อมา“พี่ค้าบ…”ปีรามิดยืนอยู่ในห้องกรง มือเล็กจับซี่เหล็กเขย่าไปมาเหมือนหมาถูกขัง“พี่จ๋า…”เสียงอ้อนกระท่อนกระแท่นโบกมือไปมาขอความเห็นยกปลายเท้ากระโดดโหย๋งเหย๋งอยู่ไม่สุข’ พี่ตำรวจปล่อยผมไปเถอะ ผมไม่กินแล้ว ผมไปขอคนอื่นก็ได้ ทำไมต้องจับมาขังแบบนี้ด้วย’ ปากบางกัดสั่นแต่กัดฟันกรอด มือเล็กกระตุกกรงเหล็กแรงๆ แม่ว่ามันจะไม่สะทกสะท้านสักนิดเรยาหัวเราะในห้องควบคุม เสียงแหบพร่า “ไอ้เหี้ย… โดนจับขังแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า”’ ไอ้ตำรวจนี่มันจิตใจอำมหิตชะมัด แค่คนตัวเล็กมาขอเงินกินข้าวก็จับเข้าคุกเฉยเลย’ เพื่อนอีกคนขมวดคิ้วบ่นไปเรื่อยเปื่อย’ กูว่าแล้ว ไม่มีใครใจดีขี้สงสารเท่าเมียกูอีกแล้ว’ เรยากอดอกอวดสรรพคุณคนรักที่เป็นตำรวจเหมือนกันเสียงหัวเราะพรืดดังลั่นรถด้วยความหมั่นไส้อีกครั้ง’ เลิกอวดเมียก่อนได้ไหมไอ้เรย์ ถ้าไม่อยากถูกตีนเล็กๆ ของไอ้มิดนาบหน้าก็รีบส่งคนไปประกันตัวมันเร็ว’ โรมเสนอ ปกระดิกตัวไปมา มือเล็กกวาดไปตามเหล็กกรง หางตากระพริบตาตื่น ๆร่างตัวกระแทกเบา ๆ กับพื้นห้อง ขาเต้นตุบ ๆ ไม่ได้หยุดนิ่ง’ ก็ด้ะ… รอแป๊บ ทำบัตรปลอมให้มันอยู่ ท่าทางจะเล่นด้วยยาก’ เสียงเรย์แผ่ว หรี่ตามองเพื่อน ๆ ร
ติ๊ง! เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ของหมวดอุดมดังขึ้นขัดจังหวะการสนทนา ทั้งคู่ก้มลงมองพร้อมกัน“คนที่พูดถึง…โพสต์ชื่อใครบางคนออกมาแล้วครับ” อุดมกดขยายหน้าจอ ดวงตาเบิกขึ้นนิดหนึ่ง “ส.ส. พรรคสยามรวมใจ…คนใหม่” คิ้วเข้มของคีรติขมวดเข้าหากันทันที “เอ๊ะ พรรคนี้มันมี ส.ส. คนใหม่แล้วเหรอ”อุดมรีบเลื่อนหน้าจอพลางเอ่ยเสียงตื่น “เดือนหน้า…จะมีการรับตำแหน่งของ ส.ส. พรรคสยามรวมใจ คนใหม่…ทั้งหมดสี่คน”“โอ๊ะ…คุณรู้ได้ยังไงครับสารวัตร”คีรติพ่นลมหายใจออกช้า ๆ คล้ายเก็บความกังวลไม่อยู่ “ผลการโหวตของข่าววงในมันออกมาแล้ว” อุดมเม้มปากแน่น“เอ๋…แต่ไม่มีข่าวหน้าพวกเขาออกมาเลยนี่ครับ”“เห็นว่าจะได้เห็นพร้อมกันวันเปิดตัว” คีรติว่าชัดถ้อยชัดคำ เสียงทุ้มต่ำหนักแน่น “นโยบายใหม่ที่ไม่ให้เปิดเผยใบหน้าก่อนรับตำแหน่ง…เพื่ออะไรก็ไม่รู้ แต่ก็มีคำสั่งนั้นออกมาแล้ว”หมวดอุดมชะงัก สายตาสั่นเล็กน้อย “แปลกชะมัด…เลือกแค่จากชื่อ ไม่ต่างอะไรกับไอ้ดาร์คเว็บนี่เลย ตั้งกฎในประเทศให้ดูไม่โปร่งใสไปหมด…อีกหน่อยก็คงเป็นคอมมิวนิสต์ชัด ๆ”ความเงียบกดทับลงมาอีกครั้ง ทั้งคู่สบตากัน รู้ทันทีว่าการเชื่อมโยงเริ่มปรากฏให้เห็นอย่างน่าขนลุกสารว
เสียงนาฬิกาในห้องทำเดินเป็นจังหวะขณะที่สารวัตรคีรติเอนหลังในเก้าอี้ ดวงตาเรียวเหม่อลอยไปที่ไกลแสนไกล เป็นอยู่อย่างนั้นมาหลายวันแล้วนับตั้งแต่วันที่เรยาหายไปเจ้าเด็กนั่นหายไปไม่ติดต่อกลับมา ไม่รู้ทำไมถึงหายไปทั้งที่ไม่ได้ทะเลาะกัน ไม่มีเรื่องอะไรให้น่าน้อยใจแต่ทำไมถึงออกไป…“สารวัตรคีรติวันนี้เลิกงานไปดื่มกันมั้ย?”“…”“สารวัตรครับ…”ใบหน้าเรียบเฉยเหม่อมองนอกหน้าต่างไม่ไหวติงบ่งบอกว่าไม่ได้ยินที่อีกฝ่ายเรียก หมวดอุดมหน้าดุจึงเร่งเสียงดังขึ้น“สารวัตรคีรติ!”“ครับ? …หมวดอุดมมีอะไรหรือเปล่า?”“พักนี้คุณดูเหม่อ ๆ มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า”เสียงทุ้มถามขึ้นท่ามกลางห้องทำงานที่มีเพียงไฟสลัว คีรติเงยหน้าขึ้นทันที แต่รีบปฏิเสธ“เปล่าครับ… คุณว่าไงนะ เรื่องเงิน?” น้ำเสียงพยายามราบเรียบ แต่แววตาไหววูบ“ผมได้เบาะแสจากที่หนึ่งมา” ผู้หมวดหนุ่มเอ่ยพลางกอดอก สีหน้าเคร่งเครียด“ครับ? เบาะแสอะไร? ที่ไหนครับ” คีรติขมวดคิ้ว มือที่ถือปากกาเผลอหยุดเขียนทันที“ต้องออกตัวก่อนนะ ว่าที่ผมเป็นสมาชิกดาร์คเว็บ…มันก็เพราะเราอยู่หน่วยปราบปรามพิเศษ ต้องหาข้อมูลจากเว็บพวกนี้” อุดมเอ่ยหนักแน่นจริงจัง“ครับ”“ในดาร์คเ







