แชร์

บทที่ 2

ผู้เขียน: ปะการังเรืองแสง
หัวใจฉันแทบหยุดเต้นเมื่อเห็นเอลีสอีกครั้ง เธอจ้องมาที่ฉันตรง ๆ เหมือนพร้อมจะเปิดโปงฉัน ลอกเปลือกฉันออก และเหยียบย่ำศักดิ์ศรีฉันให้แหลกละเอียด แต่ฉันก็โล่งใจเมื่อเห็นว่าเธอถูกเรียกตัวไปเตรียมงานขั้นสุดท้าย พิธีกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว

“โรงบ่มไวน์เคนซิงตัน? เธอไปได้ชื่อมาจากไหนน่ะ?” ฉันถาม

เขาชี้ไปที่พนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งที่เดินผ่านห้องจัดเลี้ยง ที่กำลังเสิร์ฟเครื่องดื่ม คริสเตียนคว้าขวดมาขวดหนึ่งแล้วชูฉลากขึ้นให้ฉันดู มันเขียนว่า “เคนซิงตัน”

“จากสิ่งที่จะเป็นเพื่อนสนิทของเราคืนนี้ไงล่ะ” เขาพูด พร้อมรินไวน์ใส่แก้วสองใบจนเต็ม “ผมคิดว่าคุณควรจะเริ่มจากแก้วนี้”

“ฉลาดดีนะ เลือกชื่อที่เป็นแบรนด์ดังอยู่แล้ว แต่คุณรู้เรื่องไวน์บ้างรึเปล่า?”

“ผมรู้ว่าไวน์ก็เหมือนคน” เขาตอบด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ โน้มตัวเข้ามาใกล้จนฉันรู้สึกได้ถึงความร้อนที่แผ่จากร่างเขา “ของที่ดีที่สุดต้องค่อย ๆ ลิ้มรส… เริ่มจากสูดกลิ่นก่อน…” สายตาเขาไล่ลงมาที่ริมฝีปากฉัน “จากนั้นก็ชิมเพียงเล็กน้อย ปล่อยให้รสชาติกระจายตัว…” เสียงเขาแผ่วลง “...แล้วค่อย ๆ ละเมียดในแต่ละหยด ให้ความอบอุ่นมันแผ่ซ่านจากข้างใน จนถึงวินาทีสุดท้าย…”

“ชัดเจนเลยว่าคุณไม่รู้อะไรเกี่ยวกับไวน์เลย” ฉันพูดพยายามรักษาท่าที “แต่ฉันยอมรับเลยว่าคุณสำนวนไม่เบา”

ฉันรู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าพิธีนี้ต้องเป็นฝันร้าย แต่เอาจริง ๆ ไหม? ไม่มีอะไรที่เตรียมฉันให้พร้อมต้องมาเจอเรื่องพวกนี้ ฉันนั่งอยู่ในเก้าอี้พิธี จับมือคริสเตียนไว้แน่น พยายามไม่แสดงอารมณ์ออกทางสีหน้า ขณะที่เอลีสกับอเล็กซ์แลกคำสาบานรักชั่วนิรันดร์ ทุกครั้งที่ได้ยินคำว่า “คุณคือรักเดียวของชีวิตผม” ฉันก็แทบอยากลุกขึ้นตะโกนใส่เขาว่า “คนทรยศ!”

ทุกคำเหมือนตบหน้าฉัน และถ้าฉันหลับตาแค่ชั่ววินาที ฉันก็ยังนึกถึงวันที่อเล็กซ์เคยพูดประโยคพวกนั้นกับฉันได้

ฉันบีบมือคริสเตียนแน่นจนรู้สึกเจ็บที่นิ้ว “ที่รัก ถ้าขืนยังบีบแบบนี้ต่อไป ผมคงเลือดไม่เดินแล้ว” เขากระซิบ

“ขอโทษที ฉันแค่กำลังสติแตกนิดหน่อยน่ะ”

“ผมสังเกตเห็นแล้ว อยากให้ผมแกล้งเป็นลมเพื่อหยุดพิธีไหม?”

“ไม่… หมายถึง อาจจะนะ ถ้าไม่มีทางอื่นแล้ว ก็เทไวน์ใส่ชุดเจ้าสาวไปเลยแล้วกัน”

เขาหัวเราะเบา ๆ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่ทำจริง ๆ

หลังเสร็จพิธี งานเลี้ยงก็กลายเป็นโชว์ความร่ำรวย แสงไฟนุ่มนวล บุฟเฟต์สุดหรู บรรดาพนักงานถือแก้วแชมเปญเดินผ่านฝูงชนอย่างสง่างาม

และนั่นคือจังหวะที่เอลีสเจอฉัน ฉันถือแก้วที่สองแน่นเหมือนชีวิตแขวนอยู่กับมัน “โซอี้! ฉันดีใจที่เธอมานะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงหวานชวนอ้วก “มันมีความหมายกับฉันมากเลยนะที่เราสามารถก้าวข้ามเรื่องทั้งหมดนี้ไปได้”

ก้าวข้ามงั้นเหรอ? เหอะ เหมือนฉันเป็นพวกเจ้าคิดเจ้าแค้นอย่างนั้นแหละ

อเล็กซ์เดินเข้ามา มองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างช้า ๆ “คุณดูเปลี่ยนไปนะ โซอี้”

เหมือนเขาจะหมายความว่าฉันไม่ควรดูเป็นแบบนี้ ไม่ควรจะสวย ยิ้มแย้ม สมบูรณ์ดีแบบนี้ พวกเขาคงคาดหวังว่าจะได้เห็นฉันพังพินาศ

“ขอบใจนะ”

เอลีสยิ้มเมื่อเห็นคริสเตียน สายตาเธอกวาดมองเขาอย่างกับกำลังประเมินสินค้า “ประหลาดใจจัง มีคู่ควงเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?”

ก่อนที่ฉันจะพูดอะไร คริสเตียนหัวเราะเบา ๆ “คู่หมั้นครับ” เขาแก้คำอย่างลื่นไหล พลางสอดมือมาโอบรอบเอวฉันในท่าทางที่ผ่อนคลายแต่แฝงไปด้วยความเป็นเจ้าของ สายตาเขามีประกายท้าทายขณะมองเอลีส “ตลกดีนะที่คุณพูดแบบนั้น เอลีส ดูเหมือนจะไม่ใช่โซอี้ที่ยังติดอยู่ในอดีตนะครับ”

รอยยิ้มเอลีสไม่จางลงเลย แต่ฉันสังเกตเห็นว่าแววตาเธอหรี่ลง มือเธอบีบแก้วแชมเปญแน่นขึ้นเล็กน้อยด้วย เธอพยายามกลบเกลื่อน แต่เห็นได้ชัดว่าคำพูดนั้นโดนเธอจัง ๆ เธอโกรธสุดขีด ส่วนฉันแทบกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่

“งั้นเธอหมั้นจริงเหรอ?” เอลีสกอดอก “แปลกจัง… ฉันไม่เคยเห็นข่าวพวกเธอสองคนที่ไหนเลย”

“เราชอบความเป็นส่วนตัวน่ะ” คริสเตียนตอบ

อแมนด้า เพื่อนเก่าสมัยมหาวิทยาลัย เดินเข้ามาพร้อมกลุ่มของเธอ

“งั้นนี่คือคู่หมั้นมหาเศรษฐีชื่อดังคนนั้นเหรอ?” เธอถามพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

“คริสเตียน เคนซิงตันครับ” เขาแนะนำตัว

“เคนซิงตัน?” เฮเลน่าเลิกคิ้วขึ้น “ไม่เคยได้ยินว่ามีหนุ่มโสดตระกูลเคนซิงตันอยู่ในอ่าวโซลาร่าเลยนะ”

“ไม่น่าแปลกใจเลยครับ” คริสเตียนตอบด้วยรอยยิ้มสุภาพแต่แฝงความเย้ยหยัน “เพราะยังไงซะ ผมก็ไม่ได้โสดนี่ครับ”

อเล็กซ์พยายามดึงบทสนทนาให้กลับมาอยู่ในการควบคุม “เคนซิงตัน… จากโรงบ่มไวน์เคนซิงตันน่ะเหรอ? ที่ได้รางวัลระดับโลกนั่นใช่ไหมครับ?”

ความเย็นวาบแล่นลงมาตามกระดูกสันหลังของฉัน นี่คือบททดสอบชัด ๆ คริสเตียนหรือไม่ว่าเขาจะมีชื่อจริงว่าอะไรก็ตาม ก็เป็นแค่หนุ่มขายบริการ เขาจะรู้อะไรเกี่ยวกับไวน์ชั้นดีได้ยังไง?

“ใช่ครับ นั่นแหละ” คริสเตียนตอบอย่างสบาย ๆ “แต่ว่าผมให้ความสำคัญกับการลงทุนในต่างประเทศของครอบครัวมากกว่า ผมเลยแทบไม่ได้ไปที่ไร่องุ่นเลย”

เอลีสเบิกตากว้างขึ้นนิด ๆ “ฉันทำงานกับแบรนด์ไวน์ระดับพรีเมียมหลายเจ้า และฉันไม่เคยเห็นคุณที่งานไหนเลยนะ”

“ผมใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่เวสต์คลิฟครับ” คริสเตียนตอบอย่างลื่นไหล “ว่าแต่อเล็กซ์ โครงการที่ท่าเรือเครสเซนท์เป็นยังไงบ้าง? ผมได้ยินมาว่าคุณมีปัญหาเรื่องใบอนุญาตสิ่งแวดล้อมนี่นา”

หน้าอเล็กซ์ซีดเผือดลง “คุณรู้เรื่องนั้นได้ยังไง?”

คริสเตียนเพียงแค่ยักไหล่

“ผมมีแหล่งข่าวของผมเอง”

ฉันอ้าปากค้าง เขาบีบมือฉันเบา ๆ เหมือนเตือนให้ฉันเงยหน้าขึ้นอย่างมั่นใจ เขาเอาเวลาที่ไหนไปขุดคุ้ยเรื่องของอเล็กซ์มาล่ะเนี่ย?

เอลีสรีบพูดแทรกขึ้นอย่างเห็นได้ชัดว่าไม่พอใจ “การหมั้นครั้งนี้คงเพิ่งเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้สิท่า”

เธอมองมาที่ฉันด้วแววตาสมเพชที่แทบจะปิดไว้ไม่มิด “หลังจากเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะ… ก้าวต่อไปได้เร็วขนาดนี้”

ท่าทางที่เธอพูดทำให้เหมือนฉันเป็นพวกน่าสมเพชที่ต้องมีคนยื่นมือเข้ามาช่วย

“อย่าประเมินโซอี้ต่ำไปสิครับ” คริสเตียนแทรกขึ้น “เธอน่าทึ่งกว่าที่พวกคุณคนไหนคิดไว้”

เอลีสยิ้มเยาะ “แน่นอนสิ ฉันดีใจกับเธอจริง ๆ นะที่รัก ฉันเคยกังวลว่าเธออาจจะไม่...เอาเถอะ แต่ที่จริง…” เธอมองไปที่คริสเตียน “พวกคุณสองคนดูต่างกันมากเลยนะ เหมือนมาจากคนละโลกเลย”

“หรือบางที” คริสเตียนพูดพลางยิ้มช้า ๆ ดึงฉันเข้าใกล้ “คุณอาจแค่ไม่เคยรู้คุณค่าที่แท้จริงของเธอก็ได้”

ลำคอฉันร้อนผ่าว น้ำตาแทบจะไหลออกมาอยู่แล้ว ฉันจำได้แม่นว่าเอลีสเคยพูดว่า ไม่มีใครอยากได้ผู้หญิงอย่างฉัน แน่นอนว่าเธอไม่เคยคิดว่าฉันจะถูก “ต้องการ” โดยเฉพาะผู้ชายหล่อรวยอย่างคริสเตียน ถึงทั้งหมดจะเป็นเรื่องโกหก… แต่เธอไม่มีทางรู้แน่

“อยากเต้นไหมครับ?” เขาถาม ดวงตาของเขาจับจ้องที่ฉันเหมือนเขารู้ว่าฉันต้องการความช่วยเหลือ “แน่นอนค่ะ”

คริสเตียนพาฉันไปกลางห้องจัดเลี้ยง มือของเขาเลื่อนไปโอบที่เอวของฉัน จากระยะไกลฉันเห็นเอลีสจ้องมาทางเรา กำลังกระซิบอะไรบางอย่างกับอเล็กซ์

“อย่าให้พวกนั้นมีอิทธิพลต่อคุณสิ” คริสเตียนกระซิบ “คุณยอดเยี่ยมมาก โซอี้”

เสียงหัวเราะขมขื่นหลุดออกมา

“ฉันก็แค่พนักงานขายชุดเจ้าสาวสุดหรู ส่วนเธอเป็นหนึ่งในทีมประชาสัมพันธ์ชื่อดังที่สุดในประเทศ เธอมีชีวิตที่ฉันเคยวาดหวังไว้ ได้ท่องเที่ยว พบปะคนดัง… อเล็กซ์…”

คริสเตียนมองฉันตรง ๆ โดยไม่มีแววเวทนาอยู่ในนั้น “ถ้าชีวิตที่คุณฝันถึงคือการเป็นนางงูพิษที่แต่งงานกับคนโง่จอมนอกใจนั่น งั้นก็ถึงเวลาทบทวนเป้าหมายในชีวิตใหม่แล้วล่ะ”

ฉันกะพริบตา อึ้งกับความตรงไปตรงมาของเขา จากนั้นฉันก็อดยิ้มไม่ได้

“คุณนี่มันน่าหมั่นไส้ชะมัดเลย”

“แต่ผมหล่อนะ” เขาตอบพลางขยิบตา

ฉันหัวเราะ พลางส่ายหน้า

“ดวงตาของคุณเปล่งประกาย” เขาพูดเสียงนุ่ม “มันไม่ใช่เพราะมีความสุขหรอก แต่เพราะความโกรธถูกเก็บกดไว้ต่างหาก”

“ฉันไม่รู้ว่าคุณพูดถึงอะไร”

“บทบาทของผู้หญิงเข้มแข็งตลอดเวลาแบบนี้ ต้องกำลังฆ่าคุณอยู่ข้างในแน่ ๆ” เขากระซิบ “คุณไม่ควรต้องเจอเรื่องแบบนั้นเลย”

คลื่นอารมณ์ถาโถมเข้ามาและฉันต้องต่อสู้เพื่อไม่ให้น้ำตาไหลออกมาตรงนั้น เขารู้ได้ยังไงว่าฉันรู้สึกแบบไหนอยู่?

“ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว” ฉันกระซิบ

“ผมจองห้องสวีทไว้ที่โรงแรมนี้ ถ้าคุณอยากให้เงินที่ลงทุนไปคุ้มค่า… เราออกจากงานเลี้ยงน่าเบื่อนี่ แล้วไปสนุกกันจริง ๆ ดีกว่า”

“ฉันอยากไปค่ะ” ฉันตอบออกไปโดยไม่ลังเล
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ว่าจ้างรัก เศรษฐีพันล้าน   บทที่ 30

    รถปอร์เช่ของคริสเตียนชะลอจนหยุดสนิทตรงหน้าบ้านของฉัน เครื่องยนต์ดับลง เหลือเพียงความเงียบระหว่างเราที่หนักอึ้งจนเหมือนมีคนที่สามอยู่ในรถด้วย เมื่อมองผ่านหน้าต่าง ฉันเห็นบ้านของฉันเหมือนเดิมทุกอย่างที่ฉันทิ้งไว้เมื่อหลายวันก่อน มันเรียบง่าย คุ้นเคย เป็นโลกที่แยกจากไร่องุ่นและคฤหาสน์ที่เราเพิ่งจากมาอย่างสิ้นเชิงตลอดทางขับกลับมาเกือบจะเงียบสนิท ความพยายามพูดคุยกันเล็กน้อยดับวูบลงอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าเราทั้งคู่รู้ว่าคำพูดใด ๆ อาจทำลายการสงบศึกที่เปราะบางที่เราสร้างขึ้น คริสเตียนสุภาพ ถามว่าฉันสบายดีไหม ต้องการให้จอดที่ไหนไหม ฉันก็สุภาพไม่แพ้กัน ตอบเป็นคำสั้น ๆ เราแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ว่าเราไม่ได้นอนในห้องเดียวกัน ไม่ได้แบ่งปันเรื่องราวส่วนตัว ไม่ได้เต้นรำด้วยกัน และไม่ได้จูบกันเราทั้งคู่แสร้งทำเหมือนจะไม่มีความปรารถนาใด ๆ“ถึงแล้ว” คริสเตียนพูดในที่สุด มือยังวางอยู่บนพวงมาลัยทั้งที่รถจอดสนิท “ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง โซอี้ เบนเน็ตต์”ความเป็นทางการในน้ำเสียงที่เรียกชื่อเต็มของฉันเจ็บกว่าที่ควรจะเป็น“ขอบคุณค่ะ” ฉันตอบ น้ำเสียงนิ่งจนน่าประหลาดใจ “สำหรับการเคลียร์หนี้ของพ่อฉัน

  • ว่าจ้างรัก เศรษฐีพันล้าน   บทที่ 29

    ฉันวิ่ง โดยไร้ทิศทาง ปราศจากจุดหมาย แค่หนีไปให้ไกล แค่หนีจากภาพนั้น หนีจากเขาภาพของคริสเตียนกับฟรานเชสก้าที่อยู่ใกล้กันจนเกือบจะจูบกันเผาไหม้อยู่ในใจฉันเหมือนรอยตราประทับร้อน ๆ “ไม่ต้องห่วง มันจบแล้ว” เขาพูดก่อนจะเดินออกไป ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าคำพูดนั้นหมายถึงอะไรฉันไม่ควรจะรู้สึกอะไร นี่เป็นแค่ข้อตกลง ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น คริสเตียน เคนซิงตันไม่ได้มีภาระผูกพันเรื่องความซื่อสัตย์หรือความจงรักภักดีกับฉัน นอกเหนือจากที่ตกลงกันไว้ แล้วทำไมหน้าอกฉันถึงเจ็บเหมือนโดนต่อย ทำไมภาพถึงพร่ามัวไปด้วยน้ำตาที่ไม่ยอมหยุดไหลเท้าของฉันพาฉันผ่านสวน แล้วเข้าสู่ไร่องุ่น แสงจันทร์ส่องทางระหว่างแถวองุ่น ชุดสีน้ำเงินที่ดูสมบูรณ์แบบเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ตอนนี้พันขาฉันไว้ ทำให้หนีได้ช้าลง แต่มันก็ไม่สำคัญหรอกว่าฉันจะไปไหน ไม่มีทางหนีจากตัวเองได้ จากความรู้สึกทรยศที่กำลังฉีกหัวใจฉันในที่สุดฉันก็หยุด ฉันหายใจหอบอยู่ที่จุดชมวิวเล็ก ๆ บนยอดเขา จากตรงนั้น ฉันเห็นคฤหาสน์ที่สว่างไสว งานอีเวนต์ของอินฟลูเอนเซอร์ยังคงคึกคักอยู่เบื้องล่าง ร่างเล็ก ๆ เคลื่อนไหวเหมือนมดหลากสี เป็นไปได้อย่างไรที่บางสิ่งจะดูห่างไก

  • ว่าจ้างรัก เศรษฐีพันล้าน   บทที่ 28

    มุมมองของคริสเตียน“ไม่ คริสเตียน นี่มันเกินไปแล้ว!”ผมรู้สึกว่านิ้วของโซอี้ที่หลุดออกจากมือผมไปแล้ว และก่อนที่ผมจะทันได้ตั้งตัว เธอก็ดึงตัวออกไป แล้วหายลับไปในฝูงชนอย่างรวดเร็วชั่วขณะหนึ่ง ผมได้แต่ยืนนิ่ง มองชุดสีน้ำเงินของเธอค่อย ๆ กลืนหายไปท่ามกลางสายตาสงสัยนับสิบคู่ที่มองสลับระหว่างผมกับร่างที่กำลังเดินหนีของเธอคุณปู่ของผมยังคงอยู่บนเวที สีหน้าเปี่ยมความภาคภูมิของท่านเริ่มเปลี่ยนเป็นความสับสนเสียงของท่านดังผ่านไมโครโฟน กลายเป็นเหมือนคำสั่งเสียมากกว่าเสียงเรียก“คริสเตียน? โซอี้?”ไม่มีเวลาให้คิด ประสบการณ์จากการเจรจายาก ๆ หลายปีสอนให้ผมรู้จักแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดีผมฝืนยิ้มให้ดูน่าเชื่อที่สุด แล้วก้าวขึ้นไปบนเวทีคนเดียว พลางโอบไหล่คุณปู่อย่างแนบเนียน“ขอโทษแทนคู่หมั้นของผมด้วยครับ” ผมพูดใส่ไมโครโฟน พยายามรักษาน้ำเสียงให้มั่นคง “โซอี้แค่กลัวเวทีนิดหน่อย โดยเฉพาะตอนที่ทุกสายตาจับจ้องอยู่ที่เธอ”เสียงพึมพำอย่างเข้าใจดังแว่วในกลุ่มคนดูผมแทบจะมองเห็นเหล่าอินฟลูเอนเซอร์กำลังคิดแคปชั่นกันอยู่ในหัวแล้ว “เจ้าสาวขี้อายแสนน่ารัก!”“เธอแค่รู้สึกซึ้งกับการประกาศจนต้องขอเวลาต

  • ว่าจ้างรัก เศรษฐีพันล้าน   บทที่ 27

    ฉันมองตัวเองในกระจกในขณะที่กำลังทาลิปสติกเสร็จพอดี ชุดที่ฉันเลือกสำหรับงานนี้เป็นสีน้ำเงินเข้ม ตัดเย็บราวกับว่าถูกวัดมาพอดีตัวฉัน ผ้าไหมที่พลิ้วไหวเคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวลทุกย่างก้าว สร้างภาพลักษณ์ที่ดูประณีตซึ่งตัดกับความเรียบง่ายของการออกแบบ เช่นเดียวกับของขวัญอื่น ๆ ของคริสเตียน มันสง่างามโดยไม่ฉูดฉาด ดูดีมีรสนิยมโดยไม่มีความเกินเลยคริสเตียนลงไปตรวจความเรียบร้อยขั้นสุดท้ายก่อนแล้ว ทิ้งให้ฉันอยู่กับความคิดที่ว้าวุ่นของตัวเอง ทิ้งฉันไว้กับความคิดที่ไม่สงบ การสนทนาจากคืนก่อนยังคงก้องอยู่ในหัวของฉัน เขาที่ยอมรับว่ายังรู้สึกบางอย่างกับฟรานเชสก้า ฉันที่เปิดเผยความฝันที่ฝังลึกมานานในด้านการประชาสัมพันธ์ คนสองคนที่แตกสลายแสร้งทำเป็นคู่รักที่สมบูรณ์แบบ ความย้อนแย้งนี้ยังอยู่กับตัวฉันเมื่อฉันเดินลงไปถึงไร่องุ่นที่จัดงาน ฉันก็แทบจำสถานที่ไม่ได้ ความสง่างามแบบชนบทของโรงบ่มไวน์ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นปรากฏการณ์ที่มีสีสัน ซึ่งดูเหมือนถูกดึงออกมาจากงานแสดงของตกแต่งโซเชียลมีเดียเลยทีเดียว ซุ้มลูกโป่งโทนสีพาสเทล หมอนอิงขนาดใหญ่วางกระจัดกระจายอย่างมีกลยุทธ์ ไฟระยิบระยับห้อยลงมาจากโครงโลหะ แม้แต่ชิงช้า

  • ว่าจ้างรัก เศรษฐีพันล้าน   บทที่ 26

    คำถามแขวนอยู่ระหว่างเรา หนักอึ้งและหลีกเลี่ยงไม่ได้ คริสเตียนจ้องมองฉันเป็นเวลานาน ราวกับกำลังชั่งน้ำหนักว่าฉันสมควรที่จะได้ยินความจริงมากน้อยแค่ไหน จากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างน่าประหลาดใจ ไม่ใช่รอยยิ้มที่มั่นใจที่เขาแสดงต่อโลก แต่เป็นบางสิ่งที่นุ่มนวลกว่า เกือบจะยอมจำนน“มันไม่ใช่สิ่งที่ลืมได้ในชั่วข้ามคืน” เขาโยนคำพูดของฉันกลับมา และไม่รู้ทำไม นั่นกลับเจ็บปวดกว่าคำตอบอื่นใดฉันเบือนสายตาไปทางอื่น อยู่ ๆ ก็รู้สึกสนใจลวดลายของพรมใต้เท้าของเรา คริสเตียนเดินเข้ามาใกล้ขึ้น แม้ว่าเขายังคงรักษาระยะห่างที่เหมาะสม“มันไม่ใช่แบบที่คุณคิด” เขาอธิบาย “ผมไม่ได้รู้สึกรักเธออีกแล้ว ไม่อีกต่อไป แต่ผมรู้สึกถึงบาดแผลที่เธอทิ้งไว้” เขายกมือขึ้นเสยผม ท่าทางที่บ่งบอกถึงความอึดอัดที่ฉันเริ่มจำได้ “การทรยศของเธอไม่ได้กระทบแค่ธุรกิจของครอบครัวผม แต่มันส่งผลกระทบต่อความสามารถในการ... ไว้ใจของผมด้วย”ความเปราะบางในน้ำเสียงของเขาทำให้ฉันตั้งตัวไม่ติด นี่ไม่ใช่ซีอีโอผู้มั่นใจ หรือเสน่ห์แพรวพราวที่ใคร ๆ เห็น แต่เป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่ง ที่มีแผลจากความรักที่ผิดพลาด เหมือนกับฉัน“ฉันเข้าใจมากกว่าที่คุณคิดนะ” ฉันพึมพำ ค

  • ว่าจ้างรัก เศรษฐีพันล้าน   บทที่ 25

    คำพูดของอเล็กซ์ยังค้างอยู่ในอากาศ หนักอึ้งไปด้วยนัยยะที่แฝงอยู่ ร่างกายของฉันตอบสนองอย่างขัดแย้งกัน อาการสั่นสะท้านต่อความทรงจำที่ทรยศหัวใจซึ่งฉันยังไม่อาจลืมเลือนไปได้หมดสิ้นก่อนที่ฉันจะเอ่ยตอบ เสียงเย็นชาและมีอำนวจควบคุมก็แทรกเข้ามาในจังหวะนั้น“ผมมาขัดจังหวะรึเปล่า?”คริสเตียนยืนอยู่ที่ฐานบันได มองมาทางเราด้วยสีหน้าที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน ดวงตาของเขาที่ปกติมักจะอบอุ่นเมื่อสบตาฉัน ตอนนี้แข็งกร้าวราวกับหิน กรามของเขาเกร็งแน่น ท่าทางตึงเครียดอเล็กซ์ยิ้ม ก้าวถอยหลังไปแต่ไม่แสดงอาการกระดากอายแม้แต่น้อย“แค่รำลึกความหลังกับคู่หมั้นของคุณนิดหน่อยเอง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกันเองอย่างจงใจ “ผมกับโซอี้มี… อดีตร่วมกันมากมายน่ะครับ”คริสเตียนก้าวเข้ามาสร้างระยะห่างระหว่างเราอย่างมีจังหวะ วางตัวเองไว้ข้างฉัน แขนของเขาสอดรอบเอวฉันในท่าทางเป็นเจ้าของ ปลายนิ้วกดเบา ๆ ลงบนเนื้อผ้าบางเบาของชุดฉัน“อดีต ใช่เลยล่ะ” คริสเตียนตอบ เสียงของเขาเย็นจัด “บางสิ่งที่ควรอยู่แค่ในอดีต”เขามองฉันอย่างแรงกล้าแวบหนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปสบตาอเล็กซ์อีกครั้ง“แขกเริ่มเข้าห้องอาหารกันแล้ว ผมขอแนะนำให้คุณไปร่วมกับ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status