แชร์

บทที่ 3

ผู้เขียน: ปะการังเรืองแสง
ถ้าฉันคิดว่างานแต่งนั้นหรูแล้ว ฉันจะพูดถึงที่ที่คริสเตียนพาฉันไปต่อหลังจากนั้นว่าอะไรดี?

เพนต์เฮาส์สุดหรูชั้นบนสุดของโรงแรมโรสมอนต์ มีวิวเมืองแบบพาโนรามา สระว่ายน้ำส่วนตัว และการตกแต่งที่ตะโกนว่า “ฉันรวย และฉันไม่เคยสนใจแม้แต่จะมองราคาบนเมนูด้วยซ้ำ”

ส่วนฉัน… ก็ได้แต่ตกตะลึง ขณะเดียวกันก็รู้สึกเหมือนทั้งคืนนี้เป็นภาพยนต์เรื่องหนึ่ง เรื่องที่ฉันไม่ควรเป็นหนึ่งในนักแสดงนำ

“สวรรค์…” ฉันอ้าปากค้าง พลางหมุนตัวอยู่กลางห้อง เพื่อซึมซับทุกรายละเอียด มินิบาร์ขนาดใหญ่ โซฟาที่ใหญ่กว่าห้องนอนทั้งห้องของฉัน และโคมไฟระย้าที่น่าจะมีราคาแพงกว่ารถของฉันเสียอีก ถึงฉันจะไม่มีรถก็เถอะ แต่ถึงมี มันก็คงยังมีมูลค่าน้อยกว่าโคมไฟระยานั่นอยู่ดี

และแน่นอน ยังมีสระกระจกไร้ขอบที่สว่างไสวเหมือนหลุดออกมาจากหนังด้วย

“นี่มันบ้าไปแล้ว! คุณมีเงินมาจ่ายให้อะไรแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย? ถ้าคุณใช้เงินกับลูกค้าทุกคนมากขนาดนี้ คุณต้องขาดทุนแน่ ๆ รู้ไหม?”

คริสเตียนหัวเราะ เสียงหัวเราะทุ้มลึกเพราะขบขันนั้น ชั่วขณะหนึ่งทำให้ฉันหลงลืมความหนักหน่วงในอกที่ถ่วงอยู่ตั้งแต่เห็นอเล็กซ์กับเอลีสอยู่ด้วยกัน

“ผมรู้จักคนที่ให้ยืมห้องนี้มา” เขาพูดเรียบ ๆ

ฉันขมวดคิ้วด้วยความสงสัยทันที หนุ่มขายบริการที่เข้าเพนต์เฮาส์ในโรงแรมแพงที่สุดในเมืองได้เนี่ยนะ? ถึงขนาดนี้แล้วเขายังจะเล่นบทนี้ต่อไปอีกเหรอ?

“อ๋อแน่สิ คุณ ‘รู้จักบางคน’ สินะ” ฉันทำมือเป็นรูปเครื่องหมายคำพูดในอากาศ แล้วกลอกตา “อยู่กันแค่สองคนแล้ว คุณยังจะเล่นบทคนมีเส้นมีสายไม่เลิกอีกเหรอ? ทุ่มเทกับงานดีจังนะ”

เขาส่งยิ้มลึกลับมาให้โดยไม่ตอบ นั่นยิ่งทำให้ฉันสงสัยมากขึ้น จนฉันเริ่มสงสัยว่า ผู้ชายขายบริการแบบไหนกันที่ทำตัวตามสบายกับความหรูหราขนาดนี้ได้

มันทำให้ฉันสงสัยอยู่เสี้ยววินาที แต่เอาจริง ๆ ไหม? ตรงนั้นมีสระว่ายน้ำส่วนตัว และฉันก็ต้องการบางอย่าง อะไรก็ได้ที่จะช่วยไล่ภาพในหัวของฉันให้หายไปได้ ภาพอเล็กซ์จูบเอลีส ความทรงจำทั้งหมดของคำสัญญาที่แตกสลายพวกนั้น

ฉันไม่คิดซ้ำสอง

ฉันถอดรองเท้าส้นสูงออก รูดซิปชุดเดรสที่สวมอยู่ลง แล้วปล่อยให้มันร่วงลงกับพื้น ลมยามค่ำคืนสัมผัสกับผิวที่เปลือยเปล่าของฉัน ชุดชั้นในลูกไม้สีดำที่ตอนนี้เผยออกมาเต็มตา สวยสะดุดตาท่ามกลางแสงสีฟ้าของสระว่ายน้ำ

คริสเตียนผิวปากเบา ๆ สายตาเขากวาดไล่ไปทั่วเรือนร่างของฉันอย่างช้า ๆ

“ว้าว”

ฉันส่งสายตาใส่เขา พยายามทำให้ดูขี้เล่น แต่เหมือนจะไม่อาจซ่อนพายุที่กำลังปั่นป่วนอยู่ในใจฉันได้

“มีอะไร?”

เขาเอียงศีรษะเล็กน้อย ดวงตาของเขาทอประกายด้วยความชื่นชมผสมกับบางอย่าง… อาจจะเป็นความเข้าใจรึเปล่านะ?

“ผมเริ่มคิดแล้วว่าคนที่ได้กำไรจริง ๆ คือผมต่างหาก”

ฉันกลอกตาแต่ก็ยิ้มออกมา รอยยิ้มที่ไม่ได้แตะถึงดวงตาเลย

แล้วฉันก็พุ่งตัวลงน้ำโดยไม่ลังเล เหมือนอยากจมอยู่ชั่วครู่ ราวกับสายน้ำชะล้างความเจ็บปวดออกไปได้

แรงกระทบนั้นนุ่มนวล อุณหภูมิน้ำกำลังพอดี น้ำอุ่นโอบล้อมไปทั่วร่างเหมือนอ้อมกอดหรูหรา ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อไปทุกส่วน ฉันหมุนตัว ปล่อยให้ตัวเองลอยอยู่ในน้ำสักครู่ก่อนจะโผล่ขึ้นมา

จากจุดที่ฉันยืนอยู่ แสงดาวสะท้อนบนผืนท้องทะเล ราวกับวาดมาจากภาพฝัน

“นี่มันสุดยอดมาก!” ฉันร้องออกมา พร้อมหัวเราะอย่างฝืน ๆ พลางวาดมือไปตามผืนน้ำ

แต่ความจริงน่ะเหรอ? ฉันไม่ได้รู้สึกดีเลยสักนิด

ความอบอุ่นห้อมล้อมร่างกายฉันเหมือนอ้อมกอด แต่ไม่อาจละลายปมเย็นเยียบในอกฉันได้

เพราะแม้จะอยู่ในที่ที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้ ท่ามกลางความหรูหรา และชายที่ดูเหมือนถูกปั้นขึ้นเพื่อล่อลวงคน…ฉันก็ยังคิดถึงเขาอยู่ดี

อเล็กซ์ ที่ยืนอยู่บนแท่นพิธี มีเอลีสอยู่ข้างกาย ในชุดเจ้าสาวที่ฉันเป็นคนขายให้เธอเอง

สายตาที่เขามองฉันในงานแต่งงานนั้น เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ความสงสัย

เขาคาดหวังให้ฉันพังทลาย หลีกหนีสายตาคน และคงยังร้องไห้เพราะเขา

และความจริงคือ ฉันก็เป็นแบบนั้นแหละ แต่ไม่ใช่ในที่สาธารณะ ไม่ใช่ต่อหน้าคนอื่น แต่เป็นตอนอยู่คนเดียว ในห้องนอนเก่าสมัยมัธยมของฉันที่บ้านของพ่อแม่ ที่ซึ่งฉันต้องย้ายกลับไปอยู่หลังจากจับได้ว่าอเล็กซ์กับเอลีสอยู่ด้วยกัน ฉันร้องไห้จนหลับไปทุกคืน รู้สึกเหมือนคนล้มเหลวอย่างที่พวกเขาคิดว่าฉันเป็น

ฉันรักผู้ชายคนนั้น ฉันไว้ใจเขา ฉันวางแผนชีวิตทั้งชีวิตไว้กับเขา

แต่สุดท้าย ฉันก็ถูกทิ้งราวกับคนไร้ค่า “เธอน่ะน่าเบื่อจะตาย” คำพูดของเอลีสยังดังก้องในหัวเหมือนคำสาป ฉันมันน่าเบื่อ ฉันมันธรรมดา ใครจะมาแทนที่ฉันก็ได้ทั้งนั้น

ส่วนที่แย่ที่สุดน่ะเหรอ? คือการที่ถ้าวันนี้เขามาขอโทษ ถ้าเขาบอกว่าทุกอย่างเป็นความผิดพลาดและอยากให้ฉันกลับไป…

ฉันคงวิ่งตรงเข้าไปในอ้อมแขนของเขาแน่ และฉันก็เกลียดตัวเองที่เป็นแบบนั้น

ลำคอฉันตื้อขึ้นมา ความร้อนอีกแบบแผดขึ้นหลังดวงตาของฉัน คราวนี้ฉันกลั้นไว้ไม่ไหวแล้ว

น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงผสมกับน้ำในสระ แล้วก็อีกหยด แล้วก็อีกหยด

ฉันดำน้ำลงไป ปล่อยให้น้ำซ่อนความอ่อนแอของฉันไว้ เมื่อโผล่ขึ้นมาอีกครั้ง ฉันสูดลมหายใจลึก พยายามตั้งสติ

เมื่อฉันมองไปที่คริสเตียน ฉันหวังว่าเขาจะไม่เห็นช่วงเวลาอ่อนแอของฉัน แต่ฉันกลับพบว่าเขานั่งเอนตัวอยู่บนเก้าอี้ มองฉันด้วยสายตาจริงจัง คล้ายจะเป็นห่วง

“อะไร?” ฉันถาม ขณะว่ายเข้าไปใกล้ขอบสระ พยายามทำเสียงให้เป็นปกติ “ไม่เคยเห็นผู้หญิงสนุกกับชีวิตมาก่อนหรือไง?”

เขายิ้มมุมปาก แต่แววตายังจริงจัง

“ก็แค่ตลกดี ที่เห็นคนตื่นเต้นกับเพนต์เฮาส์ขนาดนี้”

ฉันขมวดคิ้ว

“ตื่นเต้นขนาดนี้ คุณหมายความว่าไง?”

เขายักไหล่ เสื้อเชิ้ตถูกปลดกระดุมจนเผยให้เห็นแผงอกที่แน่นและถูกปั้นมาอย่างสมบูรณ์แบบของเขา

“ก็คุณทำเหมือนกับว่าไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนน่ะสิ”

ฉันแค่นเสียง ก่อนจะสาดน้ำไปทางเขา ใช้ความหงุดหงิดมากลบความเศร้าของตัวเอง

“ก็เพราะฉันไม่เคยเห็นจริง ๆ นี่นา ฉันไม่รู้ว่าผู้หญิงรวย ๆ ขี้เบื่อที่คุณเจอมาเป็นยังไง แต่สถานะแบบฉันน่ะ สิ่งเดียวที่ส่องแสงในบ้านคือบิลค่าไฟที่ค้างจ่าย” ฉันหยุดมองเขา “แต่คุณเล่นบทของคุณได้ดีนะ ฉันแทบจะเชื่อว่าคุณเป็นทายาทเศรษฐีจริง ๆ ผู้ชายขายบริการนี่เรียนรู้การพูดคุยเรื่องการลงทุนกับไวน์ได้ลื่นไหนขนาดนี้ได้ยังไง?”

ไหนจะวิธีที่คุณทำให้ฉันลืมไปได้ แม้เพียงครู่เดียวก็เถอะ ว่าฉันร้องไห้จนหลับทุกคืนอีก ฉันเกือบจะพูดออกมา แต่ก็กลืนมันกลับไป

เขามองฉันอยู่นาน เหมือนกับว่าเขาสามารถมองทะลุเปลือกที่ฉันพยายามสร้างขึ้นมาได้

“รู้อะไรไหม โซอี้ ผมชอบที่คุณเป็นแบบนี้นะ”

“แล้วใครจะไม่ชอบล่ะ?” ฉันตอบกลับ แต่น้ำเสียงของฉันดันไม่รักดี มันสั่นในตอนท้าย

เพราะอเล็กซ์ไม่ชอบ เอลีสไม่ชอบ และไม่มีใครเคยชอบฉันจริง ๆ เลย

คริสเตียนส่งยิ้มมุมปากมาให้ พลางเอียงศีรษะเหมือนกำลังวิเคราะห์คำตอบของฉัน

“การถ่อมตัวก็ดูจะเป็นพรสวรรค์ของคุณด้วยนะ” เขาหยุดนิดหนึ่ง ก่อนพูดต่อ “แต่ผมสงสัยว่าคุณกำลังพยายามพิสูจน์อะไร… หรือพยายามลืมอะไรอยู่”

คำพูดเขาเหมือนตบเข้าที่หน้าฉัน ในตอนนั้นฉันแทบจะปีนขึ้นจากสระ เก็บของ แล้วจะเดินออกไปเลย แต่จะไปไหนได้ล่ะ? กลับไปห้องนอนที่บ้านพ่อแม่งั้นเหรอ? กลับไปฟังเสียงถอนหายใจของแม่ทุกครั้งที่ฉันออกจากห้องน้ำพร้อมตาแดง ๆ หรือไง?

“ฉันไม่ได้พยายามพิสูจน์อะไรทั้งนั้น” ฉันโกหก เสียงฉันเบากว่าที่ตั้งใจจะให้เป็น

คริสเตียนมองฉันอยู่นาน เหมือนชั่งใจว่าจะเชื่อฉันดีไหม แล้วเขาก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อต่อ โดยไม่พูดอะไรออกมา

และ พระเจ้าช่วย…

ถ้าฉันคิดว่าเขาดูดีตอนใส่สูทแล้วล่ะก็ การเห็นเขาเปลือยท่อนบนกลับยิ่งหนักกว่านั้นอีก ผิวสีทองที่เปล่งประกายภายใต้แสงไฟนวล ๆ ทุกกล้ามเนื้อชัดเจนสมบูรณ์แบบ รอยสักกระจายไปทั่วแขนและลำตัว เป็นภาพที่ตัดกับภาพลักษณ์ที่ดูเรียบร้อยและภูมิฐานที่เขาแสดงออกมา

ร่างกายของฉันตอบสนองก่อนที่ฉันจะรู้ตัว พระเจ้าโปรดอภัยให้ลูกด้วยเถอะ ผู้ชายคนนี้คือหายนะเดินได้ชัด ๆ และบางที…เขาอาจทำให้ฉันลืมไปชั่วขณะว่าฉันรู้สึกว่างเปล่าและไร้ค่าแค่ไหน

เขาพับแขนเสื้อขึ้น ก่อนโยนมันทิ้งลงบนเก้าอี้ แล้วเริ่มปลดเข็มขัด

“เดี๋ยว…” ฉันเลิกคิ้วขึ้น พยายามเรียกสติกลับมา “คุณจะลงมาด้วยงั้นเหรอ?”

“คุณไม่อยากมีเพื่อนเล่นหรือไง?” มีบางอย่างในแววตาของเขา ความอ่อนโยนที่ไม่เหมือนกับงานของเขาหรือบทบาทที่เราต้องแสดง

“ฉันนึกว่าคุณเป็นพวกไม่อยากให้เส้นผมเปียกน้ำซะอีก”

“แต่ผมนึกว่าคุณเป็นพวกที่ชวนผมลงมาตั้งนานแล้วซะอีก”

เพราะฉันโหยหาการผูกพันใด ๆ หรืออะไรก้ได้ที่จะทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองยังเป็นที่ต้องการอีกครั้ง ฉันคิดในใจ แต่พูดออกไปแค่เพียงว่า “งั้นก็ลงมาเลย” ฉันเอ่ยเชิญอย่างรู้ดีว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น แค่คืนเดียวกับคนแปลกหน้า เพื่อกลบความโดดเดี่ยวที่กัดกินฉันตั้งแต่ที่สูญเสียทุกอย่างไป

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ว่าจ้างรัก เศรษฐีพันล้าน   บทที่ 30

    รถปอร์เช่ของคริสเตียนชะลอจนหยุดสนิทตรงหน้าบ้านของฉัน เครื่องยนต์ดับลง เหลือเพียงความเงียบระหว่างเราที่หนักอึ้งจนเหมือนมีคนที่สามอยู่ในรถด้วย เมื่อมองผ่านหน้าต่าง ฉันเห็นบ้านของฉันเหมือนเดิมทุกอย่างที่ฉันทิ้งไว้เมื่อหลายวันก่อน มันเรียบง่าย คุ้นเคย เป็นโลกที่แยกจากไร่องุ่นและคฤหาสน์ที่เราเพิ่งจากมาอย่างสิ้นเชิงตลอดทางขับกลับมาเกือบจะเงียบสนิท ความพยายามพูดคุยกันเล็กน้อยดับวูบลงอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าเราทั้งคู่รู้ว่าคำพูดใด ๆ อาจทำลายการสงบศึกที่เปราะบางที่เราสร้างขึ้น คริสเตียนสุภาพ ถามว่าฉันสบายดีไหม ต้องการให้จอดที่ไหนไหม ฉันก็สุภาพไม่แพ้กัน ตอบเป็นคำสั้น ๆ เราแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ว่าเราไม่ได้นอนในห้องเดียวกัน ไม่ได้แบ่งปันเรื่องราวส่วนตัว ไม่ได้เต้นรำด้วยกัน และไม่ได้จูบกันเราทั้งคู่แสร้งทำเหมือนจะไม่มีความปรารถนาใด ๆ“ถึงแล้ว” คริสเตียนพูดในที่สุด มือยังวางอยู่บนพวงมาลัยทั้งที่รถจอดสนิท “ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง โซอี้ เบนเน็ตต์”ความเป็นทางการในน้ำเสียงที่เรียกชื่อเต็มของฉันเจ็บกว่าที่ควรจะเป็น“ขอบคุณค่ะ” ฉันตอบ น้ำเสียงนิ่งจนน่าประหลาดใจ “สำหรับการเคลียร์หนี้ของพ่อฉัน

  • ว่าจ้างรัก เศรษฐีพันล้าน   บทที่ 29

    ฉันวิ่ง โดยไร้ทิศทาง ปราศจากจุดหมาย แค่หนีไปให้ไกล แค่หนีจากภาพนั้น หนีจากเขาภาพของคริสเตียนกับฟรานเชสก้าที่อยู่ใกล้กันจนเกือบจะจูบกันเผาไหม้อยู่ในใจฉันเหมือนรอยตราประทับร้อน ๆ “ไม่ต้องห่วง มันจบแล้ว” เขาพูดก่อนจะเดินออกไป ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าคำพูดนั้นหมายถึงอะไรฉันไม่ควรจะรู้สึกอะไร นี่เป็นแค่ข้อตกลง ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น คริสเตียน เคนซิงตันไม่ได้มีภาระผูกพันเรื่องความซื่อสัตย์หรือความจงรักภักดีกับฉัน นอกเหนือจากที่ตกลงกันไว้ แล้วทำไมหน้าอกฉันถึงเจ็บเหมือนโดนต่อย ทำไมภาพถึงพร่ามัวไปด้วยน้ำตาที่ไม่ยอมหยุดไหลเท้าของฉันพาฉันผ่านสวน แล้วเข้าสู่ไร่องุ่น แสงจันทร์ส่องทางระหว่างแถวองุ่น ชุดสีน้ำเงินที่ดูสมบูรณ์แบบเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ตอนนี้พันขาฉันไว้ ทำให้หนีได้ช้าลง แต่มันก็ไม่สำคัญหรอกว่าฉันจะไปไหน ไม่มีทางหนีจากตัวเองได้ จากความรู้สึกทรยศที่กำลังฉีกหัวใจฉันในที่สุดฉันก็หยุด ฉันหายใจหอบอยู่ที่จุดชมวิวเล็ก ๆ บนยอดเขา จากตรงนั้น ฉันเห็นคฤหาสน์ที่สว่างไสว งานอีเวนต์ของอินฟลูเอนเซอร์ยังคงคึกคักอยู่เบื้องล่าง ร่างเล็ก ๆ เคลื่อนไหวเหมือนมดหลากสี เป็นไปได้อย่างไรที่บางสิ่งจะดูห่างไก

  • ว่าจ้างรัก เศรษฐีพันล้าน   บทที่ 28

    มุมมองของคริสเตียน“ไม่ คริสเตียน นี่มันเกินไปแล้ว!”ผมรู้สึกว่านิ้วของโซอี้ที่หลุดออกจากมือผมไปแล้ว และก่อนที่ผมจะทันได้ตั้งตัว เธอก็ดึงตัวออกไป แล้วหายลับไปในฝูงชนอย่างรวดเร็วชั่วขณะหนึ่ง ผมได้แต่ยืนนิ่ง มองชุดสีน้ำเงินของเธอค่อย ๆ กลืนหายไปท่ามกลางสายตาสงสัยนับสิบคู่ที่มองสลับระหว่างผมกับร่างที่กำลังเดินหนีของเธอคุณปู่ของผมยังคงอยู่บนเวที สีหน้าเปี่ยมความภาคภูมิของท่านเริ่มเปลี่ยนเป็นความสับสนเสียงของท่านดังผ่านไมโครโฟน กลายเป็นเหมือนคำสั่งเสียมากกว่าเสียงเรียก“คริสเตียน? โซอี้?”ไม่มีเวลาให้คิด ประสบการณ์จากการเจรจายาก ๆ หลายปีสอนให้ผมรู้จักแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดีผมฝืนยิ้มให้ดูน่าเชื่อที่สุด แล้วก้าวขึ้นไปบนเวทีคนเดียว พลางโอบไหล่คุณปู่อย่างแนบเนียน“ขอโทษแทนคู่หมั้นของผมด้วยครับ” ผมพูดใส่ไมโครโฟน พยายามรักษาน้ำเสียงให้มั่นคง “โซอี้แค่กลัวเวทีนิดหน่อย โดยเฉพาะตอนที่ทุกสายตาจับจ้องอยู่ที่เธอ”เสียงพึมพำอย่างเข้าใจดังแว่วในกลุ่มคนดูผมแทบจะมองเห็นเหล่าอินฟลูเอนเซอร์กำลังคิดแคปชั่นกันอยู่ในหัวแล้ว “เจ้าสาวขี้อายแสนน่ารัก!”“เธอแค่รู้สึกซึ้งกับการประกาศจนต้องขอเวลาต

  • ว่าจ้างรัก เศรษฐีพันล้าน   บทที่ 27

    ฉันมองตัวเองในกระจกในขณะที่กำลังทาลิปสติกเสร็จพอดี ชุดที่ฉันเลือกสำหรับงานนี้เป็นสีน้ำเงินเข้ม ตัดเย็บราวกับว่าถูกวัดมาพอดีตัวฉัน ผ้าไหมที่พลิ้วไหวเคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวลทุกย่างก้าว สร้างภาพลักษณ์ที่ดูประณีตซึ่งตัดกับความเรียบง่ายของการออกแบบ เช่นเดียวกับของขวัญอื่น ๆ ของคริสเตียน มันสง่างามโดยไม่ฉูดฉาด ดูดีมีรสนิยมโดยไม่มีความเกินเลยคริสเตียนลงไปตรวจความเรียบร้อยขั้นสุดท้ายก่อนแล้ว ทิ้งให้ฉันอยู่กับความคิดที่ว้าวุ่นของตัวเอง ทิ้งฉันไว้กับความคิดที่ไม่สงบ การสนทนาจากคืนก่อนยังคงก้องอยู่ในหัวของฉัน เขาที่ยอมรับว่ายังรู้สึกบางอย่างกับฟรานเชสก้า ฉันที่เปิดเผยความฝันที่ฝังลึกมานานในด้านการประชาสัมพันธ์ คนสองคนที่แตกสลายแสร้งทำเป็นคู่รักที่สมบูรณ์แบบ ความย้อนแย้งนี้ยังอยู่กับตัวฉันเมื่อฉันเดินลงไปถึงไร่องุ่นที่จัดงาน ฉันก็แทบจำสถานที่ไม่ได้ ความสง่างามแบบชนบทของโรงบ่มไวน์ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นปรากฏการณ์ที่มีสีสัน ซึ่งดูเหมือนถูกดึงออกมาจากงานแสดงของตกแต่งโซเชียลมีเดียเลยทีเดียว ซุ้มลูกโป่งโทนสีพาสเทล หมอนอิงขนาดใหญ่วางกระจัดกระจายอย่างมีกลยุทธ์ ไฟระยิบระยับห้อยลงมาจากโครงโลหะ แม้แต่ชิงช้า

  • ว่าจ้างรัก เศรษฐีพันล้าน   บทที่ 26

    คำถามแขวนอยู่ระหว่างเรา หนักอึ้งและหลีกเลี่ยงไม่ได้ คริสเตียนจ้องมองฉันเป็นเวลานาน ราวกับกำลังชั่งน้ำหนักว่าฉันสมควรที่จะได้ยินความจริงมากน้อยแค่ไหน จากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างน่าประหลาดใจ ไม่ใช่รอยยิ้มที่มั่นใจที่เขาแสดงต่อโลก แต่เป็นบางสิ่งที่นุ่มนวลกว่า เกือบจะยอมจำนน“มันไม่ใช่สิ่งที่ลืมได้ในชั่วข้ามคืน” เขาโยนคำพูดของฉันกลับมา และไม่รู้ทำไม นั่นกลับเจ็บปวดกว่าคำตอบอื่นใดฉันเบือนสายตาไปทางอื่น อยู่ ๆ ก็รู้สึกสนใจลวดลายของพรมใต้เท้าของเรา คริสเตียนเดินเข้ามาใกล้ขึ้น แม้ว่าเขายังคงรักษาระยะห่างที่เหมาะสม“มันไม่ใช่แบบที่คุณคิด” เขาอธิบาย “ผมไม่ได้รู้สึกรักเธออีกแล้ว ไม่อีกต่อไป แต่ผมรู้สึกถึงบาดแผลที่เธอทิ้งไว้” เขายกมือขึ้นเสยผม ท่าทางที่บ่งบอกถึงความอึดอัดที่ฉันเริ่มจำได้ “การทรยศของเธอไม่ได้กระทบแค่ธุรกิจของครอบครัวผม แต่มันส่งผลกระทบต่อความสามารถในการ... ไว้ใจของผมด้วย”ความเปราะบางในน้ำเสียงของเขาทำให้ฉันตั้งตัวไม่ติด นี่ไม่ใช่ซีอีโอผู้มั่นใจ หรือเสน่ห์แพรวพราวที่ใคร ๆ เห็น แต่เป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่ง ที่มีแผลจากความรักที่ผิดพลาด เหมือนกับฉัน“ฉันเข้าใจมากกว่าที่คุณคิดนะ” ฉันพึมพำ ค

  • ว่าจ้างรัก เศรษฐีพันล้าน   บทที่ 25

    คำพูดของอเล็กซ์ยังค้างอยู่ในอากาศ หนักอึ้งไปด้วยนัยยะที่แฝงอยู่ ร่างกายของฉันตอบสนองอย่างขัดแย้งกัน อาการสั่นสะท้านต่อความทรงจำที่ทรยศหัวใจซึ่งฉันยังไม่อาจลืมเลือนไปได้หมดสิ้นก่อนที่ฉันจะเอ่ยตอบ เสียงเย็นชาและมีอำนวจควบคุมก็แทรกเข้ามาในจังหวะนั้น“ผมมาขัดจังหวะรึเปล่า?”คริสเตียนยืนอยู่ที่ฐานบันได มองมาทางเราด้วยสีหน้าที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน ดวงตาของเขาที่ปกติมักจะอบอุ่นเมื่อสบตาฉัน ตอนนี้แข็งกร้าวราวกับหิน กรามของเขาเกร็งแน่น ท่าทางตึงเครียดอเล็กซ์ยิ้ม ก้าวถอยหลังไปแต่ไม่แสดงอาการกระดากอายแม้แต่น้อย“แค่รำลึกความหลังกับคู่หมั้นของคุณนิดหน่อยเอง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกันเองอย่างจงใจ “ผมกับโซอี้มี… อดีตร่วมกันมากมายน่ะครับ”คริสเตียนก้าวเข้ามาสร้างระยะห่างระหว่างเราอย่างมีจังหวะ วางตัวเองไว้ข้างฉัน แขนของเขาสอดรอบเอวฉันในท่าทางเป็นเจ้าของ ปลายนิ้วกดเบา ๆ ลงบนเนื้อผ้าบางเบาของชุดฉัน“อดีต ใช่เลยล่ะ” คริสเตียนตอบ เสียงของเขาเย็นจัด “บางสิ่งที่ควรอยู่แค่ในอดีต”เขามองฉันอย่างแรงกล้าแวบหนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปสบตาอเล็กซ์อีกครั้ง“แขกเริ่มเข้าห้องอาหารกันแล้ว ผมขอแนะนำให้คุณไปร่วมกับ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status