ログインร่างสูงใหญ่เปลี่ยนทิศทางของม้า จุดหมายคือหยวนชิงอี้
ห้วงเวลานั้น ใจเขาเกิดความรู้สึกยากเกินการควบคุม มันเต้นไหวรุนแรง ขณะเดียวกันก็พยายามสลัดความคิดเลื่อนเปื้อนที่เกิดขึ้นในหัว เป็นไปได้หรือไม่ว่า คราแรกสตรีถูกพิษกำหนัดเล่นงานเกือบเอาชีวิตไม่รอด และพอเขาช่วยขับมันออกจากร่างกายนาง กลับเป็นอ๋าวเซียวเหรินเสียเอง ที่เกิดความหมกหมุ่นต่อเรือนกายของนาง ทั้งที่พิศแล้วก็ดูเหมือนนางจิ้งจอกที่มากด้วยเล่ห์เหลี่ยม
อ๋าวเซียวเหรินกระแอมไออยู่สองสามหน แล้วเอ่ยเสียงเข้มจัดอย่างจงใจ
“พวกเจ้าไม่ล่วงรู้หรือว่า เขตนี้ห้ามราษฎรใช้เป็นทางผ่าน มีทั้งโจรป่า และทหารเลวของต่างแคว้นที่ต้องการจับเชลยศึกไปเรียกค่าไถ่ ที่ร้ายแรงกว่านั้น พวกมันนำไปเป็นอาหาร และยังตัดหัวไว้เสียบประจานที่ประตูเมืองด้วย”
เทพสังหารส่งเสียงเข้มๆ สีหน้าสีตาไม่ต่างกัน ฝ่ายหยวนชิงอี้ฟังด้วยใจระทึก ถึงอยากเอ่ยหลายสิ่ง แต่ยังเลือกฟังให้มาก ยามนี้นางมั่นใจแล้วว่า เนื้อหาในนิยายได้ถูกพลิกไป และฝ่ายนางกำลังจะได้เปรียบ ขอเพียงเรียนรู้รอจังหวะ แล้วจัดการทุกอย่างให้มาอยู่ในกำมือของตน โดยเฉพาะเทพสังหาร อ๋าวเซียวเหริน... แม้จะชังน้ำหน้าเขา แต่โลกนี้ไม่ได้สิ่งที่จะสำเร็จดังใจตนเสมอไป
“เพื่อไม่ให้คุณหนูของเจ้าสร้างปัญหาอีก ข้าจะให้ทหารส่วนหนึ่ง นำทางรถม้าไป แต่ไม่รับรองความปลอดภัยระหว่างทาง กระทั่งถึงจุดพักม้าเมืองลิ่ว พวกเจ้าควรจ้างหน่วยคุ้มกันที่ทำงานได้ดีกว่านี้ มิเช่นนั้นสตรีทุกนางคงได้ทำงานเป็นนางโลมบนเรือ และล่องอยู่แม่น้ำไปตลอดชีวิตแน่นอน”
เขากล่าวจบ ก็มองมายังหยวนชิงอี้อีกหน สายตาคมๆ แจ้งชัดว่าไม่พอใจที่นางเป็นผู้ก่อเรื่อง ทั้งยังทำให้การเดินทางของเขาเพื่อไปทำสิ่งสำคัญต้องล่าช้า
ฝ่ายหยวนซูซูที่แต่เดิมนางสั่งให้รถม้าของตน มุ่งหน้าไปยังจุดพักม้าเมืองลิ่วในทันที โดยไม่ได้แบ่งกำลังไปช่วยหยวนชิงอี้ ด้วยรักตัวกลัวตาย และคิดว่าหยวนชิงอี้ อย่างไรก็ไม่สมควรจะติดตามนางไปเรือนหลักตระกูลหยวนนับแต่แรก กลับถูกทหารจากกองทัพอ๋าวสกัดเอาไว้ เพื่อให้นางรอรับลูกพี่ลูกน้องของตน จึงทำให้นางไม่พอใจเป็นอย่างมาก ทว่านางไม่อาจต่อกรกับเทพสังหารได้
หยวนซูซูมองร่างสูงใหญ่ แม้เขาจะไม่ได้สวมเครื่องแบบ หากด้วยไหวพริบที่มี ก็พอคาดเดาได้ว่า คงเป็นขุนนางระดับสูงผู้หนึ่ง
“ขอบคุณใต้เท้าที่ช่วยเหลือข้ากับน้องสาวที่ไม่ได้ความ นางสร้างปัญหาเสมอ นับแต่ออกจากเรือน” หยวนซูซูลูกพี่ลูกน้องของหยวนชิงอี้เอ่ย พร้อมทำคำนับบุรุษผู้องอาจ
ส่วนเทพสังหารมองไปยังรถม้าของนาง เห็นว่าเป็นรถที่โอ่อ่าผิดกับรถที่หยวนชิงอี้นั่งมา ซึ่งไม่ต่างจากรถลากของ
หยวนซูซูเห็นว่าชายหนุ่มนิ่งขรึมไม่กล่าวคำใด นางจึงถือวิสาสะพูดเสียเอง
“ข้าอบรมน้องสาวไม่ดีเอง ถึงอย่างนั้นก็ขอได้ตอบแทนใต้เท้าสักเล็กน้อย” นางว่าจบ ก็ให้แม่บ้านนำถุงเงิน และโสมที่มีราคาจากร้านของตนส่งให้กับผู้ติดตามอ๋าวเซียวเหริน
“เงินทองข้าไม่รับ แต่สิ่งอื่นไม่ปฏิเสธ อีกอย่างจุดหมายของคุณหนูทั้งสอง เป็นเมืองหลวงใช่หรือไม่”
หยวนซูซูยิ้มเล็กน้อย และตอบเขา “ถึงขั้นนี้ ข้าไม่อาจปิดบังใต้เท้า ข้ากำลังจะเดินทางไปยังจวนใต้เท้าหยวนผู้เป็นท่านลุง”
“ที่แท้ก็คุณหนูหยวนจากเรือนรอง” อ๋าวเซียวเหรินเอ่ย และเขาได้ข่าวมาว่า มีเรื่องร้ายเกิดขึ้นกับเถ้าแก่หยวน มีคนเสียชีวิตมิน้อย ทั้งเรือนดังกล่าวก็เผาไหม้จนไม่เหลือซาก
“ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าไม่อยากเอ่ยถึง ทั้งหมดน่าละอายเกินไป” หยวนซูซูกล่าวจบ ถึงนางไม่ใช่คนอ่อนแอ หากอดสะเทือนใจต่อเหตุการณ์ในเรือนของตนที่เห็นด้วยตาไม่ได้
“เอาละ ขอให้คุณหนูและน้องสาวเดินทางโดยปลอดภัย ข้าส่งเพียงเท่านี้”
หยวนซูซูอยากจะถามหลายสิ่งจากเขา ด้วยหยวนชิงอี้หายไปกับอีกฝ่ายหลายวัน และเหตุนี้ย่อมทำลายชื่อเสียงนางไปแล้ว ทว่าเหตุใดเขาถึงไม่แสดงความรับผิดชอบอย่างที่ควรจะเป็น
ชายหนุ่มสูดลมหายใจลึก และดูเหมือนว่าหมดสิ่งที่เขาจะกล่าว และสตรีสองนางนี้กลายเป็นอากาศธาตุ อึดใจเดียวกันร่างสูงใหญ่ก็ขี่ม้าจากไปโดยไม่หันมามองสตรีแซ่หยวนทั้งสองคนอีก
ฝ่ายหยวนชิงอี้ได้สาวใช้ช่วยพยุงมาขึ้นรถม้า สถานการณ์ก่อนหน้านับว่าอยู่ระหว่างความเป็นความตายหลายครั้งหลายหน แต่สุดท้ายนางก็ฝืนวาสนาเดิม จนได้พบกับอ๋าวเซียวเหริน
“เฮอะ สวรรค์ยังเลือกเข้าข้างนางอีกหรือ นับแต่กลับมาจากสำนักนางชีแสนเหลวไหล นางก็เป็นตัวอัปมงคลของตระกูลหยวนโดยแท้ บ้านรองอยู่ด้วยความสุขมานานแสนนาน พอนางเหยียบเท้าเข้ามาเท่านั้น ท่านพ่อกลับเสียสติ ถูกปีศาจร้ายสิง ใช้เงินในบ่อนการพนันจนมีหนี้สินมากมาย แล้วอาละวาดหนักจนถึงขั้นสังหารผู้คนไปหลายสิบชีวิต และคนที่เดือดร้อนก็คือข้า ข้าแต่เพียงผู้เดียว”
เสียงที่ดังด้วยความโกรธแค้น และหงุดหงิดอย่างที่สุดมาจากจากหยวนซูซู เพียงชั่วข้ามคืนนางต้องเสียพี่ชายทั้งสองคนรวมถึงมารดาในกองเพลิง ฝ่ายบิดาหลังก่อเหตุสะเทือนขวัญ ก็ใช้มีดสั้นแทงตัวเองเพื่อหนีความผิด ด้วยเหตุนี้จึงมีคำสั่งเร่งด่วนจากท่านลุงให้เดินทางไปเมืองหลวง เพื่อเขาและหยวนฮูหยิน จะเป็นผู้ดูแลหยวนซูซูและหยวนชิงอี้ พร้อมจัดหาบุรุษที่เหมาะสมเพื่อให้พวกนางแต่งออกเรือน ได้ใช้ชีวิตของตน
“ให้นางอยู่อย่างสงบ จนกว่าจะถึงจุดพักม้าที่เมืองลิ่ว ห้ามคุณหนูของเจ้าส่งเสียงให้ข้ารำคาญใจเป็นอันขาด”
หยวนซูซูกล่าวด้วยความโมโห และเลือกที่จะหันไปสนใจ ของในรถม้าตน ซึ่งเป็นเครื่องประดับที่นำติดตัวมาด้วย สมบัติของเรือนรองแม้มีไม่มาก หากตอนนี้ทั้งหมดได้ตกเป็นของนางเพียงผู้เดียว ส่วนหยวนชิงอี้ กำพร้าทั้งบิดามารดา อีกทั้งเป็นความอัปมงคลของตระกูลหยวน นางจึงไม่สมควรได้สิ่งที่มีค่าติดตัว ซึ่งนับว่าถูกต้องแล้ว
หยวนข่ายถอนหายใจหลายรอบ ก่อนหน้านี้ที่เขามารับน้องสาวทั้งสองคนล่าช้าเพราะมีเหตุจำเป็น อดีตสาวใช้ในจวนคนหนึ่ง อ้างว่ามีบุตรชายกับเขาและนางพยายามใช้เป็นข้อต่อรอง ทั้งที่เขาพยายามอย่างยิ่งจะไม่ให้เกิดเรื่องเช่นนี้ ด้วยเขามีสตรีที่หมายปองอยู่แล้ว ฝ่ายนั้นอยู่ในตระกูลใหญ่และนางรังเกียจบุรุษที่ยุ่งเกี่ยวกับสาวใช้ยิ่ง ขณะที่เขาถอนหายใจหลายหน เฟยเตี้ยนก็ก้าวเข้ามาหาพอดี “เสี่ยวชิงเล่า... เหตุใดข้าไม่พบนางในงาน” หยวนข่ายคล้ายจะได้สติในตอนนั้น “เอ่อ นางไม่สบายพักอยู่ที่เรือนในจวนตระกูลเหอ” เฟยเตี้ยนเลิกคิ้วสูง อดเป็นห่วงหยวนชิงอี้ไม่ได้ ด้วยทุกคนออกมาสนุกสนาน แต่ทิ้งนางไว้จวน “เช่นนั้น ข้าคงต้องไปที่จวนตระกูลเหอ ขอพบนางสักหน่อย” “ซื่อจื่อ ทำเช่นนั้นได้หรือ ข้ากับน้องสาวเป็นแขกใต้เท้าเหอ ส่วนท่านเป็นแขกข้าอีกที” “พี่ข่าย...แต่ไหนแต่ไรข้าก็ให้เกียรติท่านเสมอ และคิดว่าเป็นบุรุษใช้ได้ รักพี่น้อง แต่หนนี้ข้าดูท่านผิดไปมาก” หยวนข่ายรู้สึกเสียหน้า เขาทำเสียงไอเพื่อขจัดความละอาย ก่อนเอ่ยกับเฟยเตี้ยน “ซื่อจื่อ ท่านกั
เมื่อเจ้าบ้านเหอได้เห็นสองพี่สองตระกูลหยวน เขาถามถึงหยวนชิงอี้ ฝ่ายหยวนซูซูรีบตอบเสียงสดใส “นางไม่สบายเจ้าค่ะ ไข้กำเริบอีกแล้ว และยังออกตุ่มตามลำตัว และแขนขา ข้าเกรงว่าหากออกมาสัมผัสอากาศด้านนอกคงแย่กว่าเดิม จึงให้แม่บ้านจุ้นดูแลอยู่ไม่ห่าง อีกทั้งคุณหนูเหอสี่ ให้สาวใช้ส่งน้ำแกง และสมุนไพรไปสำหรับดื่มและกินแล้ว ทุกอย่างเลยไม่มีเรื่องน่ากังวล” หยวนซูซูพูดจาฉะฉาน ใครได้ยินก็ชมชอบ ผิดแต่นางงามน้อยที่สุดในหมู่สตรีที่มางานวันนี้ บุรุษจึงไม่ได้ให้ความสนใจ “น่าเสียดายจริงๆ ข้าอยากให้นางได้มีโอกาสเปิดหูเปิดตาบ้าง” “ความปรารถนาดีของท่านลุง นางย่อมทราบ ภายหลังหลานจะให้น้องแปดมาตอบแทนแน่นอน” “หากต้องการหมอ หรือสิ่งใดเพิ่มคุณหนูห้าหยวนบอกลุงได้เลย จะให้คนดูแลอย่างเต็มที่ น้องสาวเจ้าเป็นเด็กอาภัพยิ่งนัก” หยวนซูซูคำนับอีกฝ่าย และมิวายเอ่ยว่า “อย่างไรเสีย ดวงนางเป็นอริต่อผู้อื่น หลานกล่าวได้เท่านี้จริงๆ เจ้าค่ะ” เจ้าบ้านเหอไม่ได้ซักไซ้สิ่งใดอีก เขาพยักหน้าเข้าใจ และก้าวไปประจำที่นั่งของตน ขณะเดียวกัน หนุ่มสาววัยเดียวกันกับหยวนซูซู ก็ปรากฏตัวหลา
“นับแต่ที่ข้าได้รับพิษร้ายจากผู้ไม่หวังดี ของเสียจากภายในก็ถูกขับออกมาผ่านทางการถ่ายเบา บางครั้งมีเลือดเน่าปนด้วย ส่วนกลิ่นนี้ ข้าพยายามหาสมุนไพรกำจัดแล้ว ตะ แต่...มันคงต้องใช้เวลา” หยวนชิงอี้พยายามเชื่อมโยงเรื่องที่เกิดขึ้น รวมถึงเมื่ออยู่เมืองลิ่วนางได้เข้าร้านสมุนไพร ซื้อหาหลายสิ่ง ด้วยเหตุนี้ทำให้หยวนซูซูเชื่อว่าน้องสาว มีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ในร่มผ้า ทั้งที่ความจริง อีกฝ่ายสร้างเรื่องเท็จเพื่อเอาตัวรอด “ถึงอย่างนั้นเจ้าก็ต้องได้รับบทเรียน” หยวนซูซูยังยืนยันจะให้เข็มเงินสั่งสอนหยวนชิงอี้เช่นเดิม “คุณหนูห้า ทำเช่นนั้นไม่ได้นะเจ้าคะ การลงโทษใดๆ ย่อมต้องเป็นหยวนฮูหยินจากเรือนหลัก คนเดียวเท่านั้นที่สั่งการได้” เสี่ยวอวิ๋นเอ่ย และเข้ามาขวางด้วยเป็นห่วงเจ้านายของตน แต่หยวนซูซูรำคาญมาก นางผลักอีกฝ่ายกระเด็นไปชนกับขอบโต๊ะ ศีรษะได้แผลและมีเลือดไหล “พี่ห้า... ท่านทำเกินไปแล้ว” “ฮิๆ ๆ อย่าพึ่งร้อนใจ กระทำเช่นนี้ถึงจะเรียกว่า เกินไปต่างหากละ สตรีไร้ยางอายชิงอี้” ยามนั้นแม่บ้านจุ้นไม่ได้เป็นคนใช้เข็มแทงต้นขาของหยวนชิงอี้ แต่เป็นหยวนซูซู ค
กระทั่งมาถึงตระกูลเหอ ซึ่งเป็นญาติฝ่ายของใต้เท้าหยวน ทุกคนก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี ที่สำคัญที่นี่ มีชายหนุ่มที่ยังไร้ภรรยา การพาน้องสาวทั้งสองมาพัก ย่อมเป็นเจตนาของคนใต้เท้าหยวน ด้วยภายหน้าหากตระกูลเหออยากส่งแม่สื่อไปทาบทามหยวนซูซู และหยวนชิงอี้ ก็จะเป็นเรื่องน่ายินดี คนตระกูลเหอแม้จะยิ้มแย้มแจ่มใส่ ทว่าดวงตาพวกเขาเก็บซ่อนความลึกลับเอาไว้ไม่มิด บุรุษหลายคนได้เห็นรูปโฉมหยวนชิงอี้ ก็ให้ความสนใจยิ่ง คนที่โสดก็ยิ่งกระตือรือล้นอยากผูกสัมพันธ์กับนาง “ทุกท่าน... น้องสาวข้า ยังไม่หายจากไข้ดี อีกอย่างนางใช่ว่า จะมีวาสนาผูกไมตรีจิตกับใครได้ง่ายๆ ขอให้คุณชายทั้งหลายเข้าใจเรื่องนี้ด้วย” หยวนซูซูจงใจฉีกหน้าน้องสาว ฝ่ายหยวนข่ายก็ถอนหายใจหลายครั้งหลายหน เขาไม่ใช่คนไร้เหตุผล แต่เมื่อคิดถึงสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้ากับหยวนชิงอี้ ก็เอนเอียงว่า นางคงมีดวงอัปมงคลอยู่ไม่มากก็น้อย “ข้ากับน้องทั้งสองคน รวมถึงบ่าวไพร่ ขอบคุณความเมตตาจากตระกูลเหอด้วยใจจริง” เจ้าบ้านเหอโบกมือโบกไม้ไม่ให้ทุกคนมีพิธีรีตอง หรือต้องเกรงใจกันมาก อย่างไรเขาก็ไม่ใช่คนงมงายสิ่งใด
เฟยเตี้ยนมองหยวนข่ายแวบหนึ่ง และยื่นมือไปตบไหล่เขา“พี่ข่าย... เรื่องของท่านก็ยังไม่เรียบร้อยดี อย่างไรคงต้องใส่ใจให้มากขึ้น” หยวนข่ายหัวเราะเสียงแห้งๆ สีหน้าเปลี่ยนไปในทันที เฟยเตี้ยนกำลังเตือนสติ ไม่ให้ยุ่งเรื่องของเขานั่นเอง “ขอบคุณซื่อจื่อที่เตือน เช่นนั้น ข้ารบกวขอให้ท่านเป็นธุระเรื่องนี้ก็แล้วกัน” บอกจบ เขาก็เรียกสตรีทั้งสองคนให้ก้าวตามไป หากเป็นเฟยเตี้ยนที่รั้งหยวนชิงอี้เอาไว้ “รูปก็วาดใกล้เสร็จแล้ว ให้จิตรกรในร้านสานต่อจนเรียบร้อยดีหรือไม่ ส่วนสิ่งใดที่ไม่เข้าใจกัน ข้าจะช่วยคลี่คลาย” หยวนชิงอี้หันไปมองหยวนข่าย ฝ่ายนั้นไม่เสียเวลาคิดว่า เขาตอบว่า “หยวนแปดได้ซื่อจื่อดูแล นับว่าโลกของนางยังมีแสงสว่างส่องถึงบ้าง” “ได้อย่างไรกัน น้องแปดด้อยประสบการณ์ อีกทั้งข้าก็เป็นพี่สาวนางมาจากเรือนเดียวกัน เยี่ยงนั้นสมควรอยู่ที่นี่ด้วย” หยวนซูซูรีบส่งเสียงประท้วง ทว่าหยวนข่ายย่อมรู้ความต้องการของเฟยเตี้ยนจึงจับแขนอีกฝ่ายแล้วกึ่งลากกึงจูงพาออกไปจากบริเวณนั้น******************** เถ้าแก่ร้านชุดเจ้าสาวและเครื่องประดับ หรือไป๋กว
“เถ้าแก่ช่างมองการณ์ไกล มีความคิดหลักแหลม เอาละ ข้าอยากเป็นไม้แขวนเสื้อให้ท่าน...” หยวนชิงอี้บอกเขา และเลือกเสื้อสีแดงมงคลลายนกยูง ที่ปักอย่างงดงาม “ข้ามีเสื้อขนจิ้งจอกดำแล้ว และไม่มีสิ่งใดแทนได้ ส่วนเสื้อด้านใน ตัวนี้ถูกใจข้ายิ่ง” เมื่อหญิงสาวแต่งตัวเรียบร้อย ก็ประดับดอกไม้สดบนศีรษะ ในยามนั้นหยวนชิงอี้ ดูราวเทพธิดาที่ลงมาจากสรวงสวรรค์ ทุกคนที่ได้เห็นต่างมองนางด้วยความตื่นตะลึง ก่อนจะถูกสะกดสายตาเอาไว้ เนิ่นนาน “คุณหนูเรือนใด ถึงได้งามล้ำลึก และเฉิดฉายเพียงนี้” “ถูกต้อง เป็นไปได้หรือไม่ว่า สตรีเลอโฉมอันดับปีนี้ ถึงเวลาเปลี่ยนคนแล้ว” หยวนชิงอี้ได้ยินชัด ส่วนเสี่ยวอวิ๋นก็พลอยชื่นชมเจ้านายของตนไปด้วย และระหว่างที่อยู่ในร้านชุดมงคลกับเครื่องประดับ หยวนซูซูที่ได้รับรายงานจากแม่บ้านจุ้น นางก็นั่งรออยู่ที่เหลาอาหารและน้ำชาไม่ไหว ใจร้อนรุ่ม ปล่อยให้หยวนชิงอี้คาดสายตาเพียงเล็กน้อย นางก็ก่อเรื่องอีกจนได้ และขณะที่จะก้าวไปเพื่อลากตัวอีกฝ่ายมาอบรม ตอนนั้นคนจากบ้านหลักหยวนก็เดินทางมาถึงพอดี “เจ้าคือน้องหยวนห้า...” หยวนข่ายยิ้มกว้าง พร







