มหาวิทยาลัยใจกลางเมืองตั้งอยู่ในย่านที่เต็มไปด้วยสีสันมีชีวิตชีวา รายล้อมด้วยตึกสูงระฟ้า และมีห้างสรรพสินค้าที่อยู่ใกล้ๆ บรรยากาศรอบมหาวิทยาลัยเต็มไปด้วยความเร่งรีบของผู้คนที่เดินสวนกันไปมาทั้งนักศึกษาและคนทำงาน
ห้องเรียนนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ สาขาการแสดง ปี4 อาจารย์สั่งงานให้นักศึกษาไปทำสไลด์มา ในหัวข้อ ‘ศิลปินต้นแบบหรือผู้เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ทำตามความฝัน’ และวันนี้ก็มาถึงวันนำเสนอแล้ว “ศิลปินต้นแบบ หรือผู้ที่เป็นแรงบันดาลใจของผม ไม่ใช่คนที่มีชื่อเสียงโด่งดังอะไร แต่เป็นคนที่อยู่ใกล้ตัวผมครับ” “ใครวะ” “ไม่รู้สิ” “คนๆ นั้นคือไนท์ การันต์ คีรีกันตรักษ์ ศิลปินหน้าใหม่ในตอนนี้ครับ เขาเป็นลูกชายของเพื่อนพ่อผม” คนโปรดยืนนำเสนออยู่ที่หน้าห้อง “เฮ่ย” “เฮ่ยอะไร รู้จักเหรอ” “อือ” มีเสียงกระซิบกระซาบกันดังขึ้นมาเล็กน้อยจากเพื่อนร่วมชั้น แต่คนโปรดไม่ได้สนใจ เขามองไปที่ภาพบนหน้าจอที่กำลังฉายอยู่ ก่อนจะพูดต่อด้วยแววตาที่มีประกายแห่งความชื่นชมซ่อนอยู่ในนั้น “ผมได้รู้จักกับเขาจากวันที่พ่อของเขากับเขามาที่บ้านของผมครับ จริงๆ เขาเป็นคนที่ชอบการออกแบบเสื้อผ้ามาก่อนที่จะมาเข้าวงการบันเทิง เขาไม่ได้ไปแคสเหมือนกับคนส่วนใหญ่ที่เขาน่าจะทำกัน แต่มีคนมองเห็นแววเขาด้วยความหน้าตาดีจึงได้รับโอกาส เขาเริ่มทำมัน เริ่มเข้าวงการบันเทิง และก็มาถึงทุกวันนี้ครับ ซึ่งเป็นระยะเวลาเพียงแค่สองปีเท่านั้น ตอนนั้นผมอยู่จะปีหนึ่งได้ ต้องบอกก่อนว่าการมาเลือกเรียนคณะนี้เป็นข้อตกลงของผมกับพ่อ ตอนแรกผมก็ไม่ได้มีความมุ่งมั่นเอาจริงเอาจังอะไรมากนักกับคณะนี้เท่าไหร่ แต่พอเวลาผ่านไปผมก็ได้เจอเขานั่นแหละครับ ผมคิดว่าผมรับรู้ได้ถึงความตั้งใจ ใส่ใจกับสิ่งต่างๆ ที่เขาเลือกทำ ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม เปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ และต้องบอกก่อนว่าผมก็ไม่ได้ทราบว่าเพราะอะไรเขาถึงมาเข้าวงการบันเทิงได้ อย่างแน่ชัด แต่ผมก็ขอเล่าในมุมที่ผมมองก็แล้วกัน นั่นแหละครับลองทำอะไรใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ไม่ปิดตัวเองจนเกินไป จริงจัง ใส่ใจ นั่นคือข้อคิดที่ผมได้จากเขาครับ” .... จากนั้นคนโปรดก็บรรยายไปตามหัวข้อในสไลด์ที่ได้จัดทำมา เช่น ผลงาน เสียงตอบรับ จนมาถึงช่วงสุดท้าย “เขาทำให้ผมรู้ว่าผมชอบอะไร แล้วก็เป็นแรงบันดาลใจให้ผมอยากลุกขึ้นมาทำตามความฝันของตัวเอง ด้วยความเชื่อมั่นว่าถ้าเรามุ่งมั่นและเชื่อมั่นในตัวเอง ซื่อสัตย์ ซื่อตรงกับตัวเอง จริงใจ ทำอะไรก็ทำมันให้ดีที่สุดไม่ว่าจะหน้าที่ไหน โดยไม่เสียดาย เราก็จะทำมันได้สำเร็จ ไม่ว่าจะเจออุปสรรคอะไรก็ตาม เราก็จะผ่านมันไปได้ ครับ... ขอจบการนำเสนอเพียงเท่านี้ครับ ขอบคุณครับ” แปะ แปะๆๆๆ เสียงปรบมือดังขึ้นเกรียวกราวจากเหล่าเพื่อนๆ ร่วมห้องเป็นการให้เกียรติคนพรีเซนต์ -คนโปรด- “บรรยายชัดเจนดี ใช้ได้” อาจารย์พูดกับผม “ขอบคุณครับ” ผมยิ้มรับคำชม ก่อนจะเดินกลับเข้ามานั่งที่ ซึ่งที่นั่งของผมอยู่แถวตอนที่สามนับมาจากทางด้านหน้ามา อยู่ใกล้ๆ ฝั่งหน้าต่าง “เยดดด~ อาจารย์ชมด้วย วันนี้มาเก่งว่ะ” ไอ่ปีย์เพื่อนผมชม ผมเลยยักคิ้วให้มันไปหนึ่งที ประหนึ่งว่าแน่นอนอยู่แล้ว แบบไม่ถ่อมตัว “โปรดทำอะไรก็เก่งอยู่แล้ว ใช่มั้ย” ไอ่เหนือเพื่อนผมอีกคนพูดขึ้นอย่างอวยยศ “อือ” ว่าแล้วก็ยกไหล่ เหมือนชมตัวเองไปในที “คนต่อไปเชิญเลย” เสียงอาจารย์ “ตามึงแล้ว ไปดิ” ผมว่าให้ไอ่เหนือ ที่ไม่รู้ว่ามันยิ้มอะไรอยู่ “อ่อ เออว่ะ” “ครับผม” คำหลังมันบอกอาจารย์ ก่อนจะลุกออกไปพรีเซนต์ … ถึงเวลาพักเที่ยง ณ โรงอาหาร หลังจากเอากระเป๋าสัมภาระมาวางไว้ที่โต๊ะยาวแล้ว ผมกับเพื่อนก็พากันเดินไปซื้อข้าวแล้วกลับมานั่งด้วยกัน วันนี้เป็นวันธรรมดา ซึ่งคนก็จะเยอะในช่วงเวลาพักกลางวันเป็นธรรมดา “พวกมึงเอาน้ำไร เหมือนเดิม?” ผมวางจานข้าวยำไก่แซ่บลงบนโต๊ะ ก่อนจะถามพวกมัน “อื้อ” / “อ่า” เพื่อนทุกคนบนโต๊ะตอบ ได้คำตอบแล้ว จากนั้นผมก็หมุนตัวจะเดินไปซื้อน้ำที่ร้านเจ้าประจำ “ไปด้วย เดี๋ยวไปถือช่วย” ไอ่เหนือว่าขึ้น จากนั้นก็วางจานข้าวแล้วหมุนตัวเดินมากับผม …“โปรดชอบศิลปินคนนี้เหรอ” คนเดินมาด้วย ที่อยู่ข้างๆ ตอนนี้ ถามขึ้น “อือ” คนถูกถามตอบเสียงเรียบ ถามทำไม ก็บอกอยู่ คนโปรดนึกในใจ อาจฟังดูเป็นคำถามที่ไม่รู้ว่าคนถามจะไปถามทำไม เพราะก็น่าจะรู้อยู่แล้วจากเมื่อเช้า แท้จริงแล้วคนถามอยากได้รับการเน้นย้ำว่าเพื่อนของเขาชอบศิลปินคนนี้จริงๆ หรือเป็นเพียงแค่งานกันแน่ ฟังดูมันก็ดูจะไม่ได้สำคัญอะไรนัก แต่มันก็เป็นการศึกษาหรือการใส่ใจคนๆ หนึ่งอย่างนึง สำหรับคนที่เขาสนใจ แล้วเราก็เดินมาถึงร้านน้ำ ซึ่งไม่ได้ไกลจากโต๊ะมาก “เอาไรดีจ๊ะ คนหล่อ” ป้าเจ้าของร้านว่า “เอาโค้กหนึ่ง แดงหนึ่ง ส้มหนึ่งครับ มึงเอาไร?” ผมหันถามคนข้างๆ ที่มาด้วยกัน “ไม่เป็นไร กูเอาน้ำเปล่า” “ชมแต่เพื่อนผมอ้ะป้า แล้วผมไม่หล่อเหรอครับ” ประโยคหลังมันพูดกับป้าเก๋ร้านน้ำอย่างไม่จริงจัง “ก็-หล่อทั้งคู่นั้นแหละะ แต่น้อยกว่าคนนี้นิดนึงนะ” “โห่~ ป้าอ้ะ” ไอ่เหนือลากเสียงยาว “หยอกๆ” ป้าว่ายิ้มๆ “นี่จ้ะ เพื่อนเรานี่ กินไม่เหมือนกันสักคนเลยนะเนี่ย สั่งไม่เหมือนกันเลย” “ครับผม” ผมว่ายิ้มๆ โค้กของไอ่ปีย์ แดงไอ่น้ำ ส้มของผม ไอ่เหนือส่วนใหญ่จะกินน้ำเปล่า มีกินโค้กบ้างบางที เราสองคนช่วยกันถือแก้วน้ำมาคนละไม้คนละมือ “นี่ครัช” มาถึงก็วางแก้วลงบนโต๊ะ “แต๊งกิ้ว” ทุกคนบนโต๊ะต่างหยิบแก้วของตัวเองไป แต่ก็ไม่ลืมที่จะขอบคุณเพื่อนที่ไปซื้อมาให้อย่างพวกผม กลุ่มเพื่อนๆ บนโต๊ะนี้ เรียกว่าน่ารักเลยก็ว่าได้ จำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จากปีที่ 1 ถึง 3 ทุกคนไม่เอาเปรียบกัน ถือว่าช่วยเหลือกันได้ดีเลย หน้าที่นี้ไม่ได้เป็นของใคร แล้วแต่วันไหนใครจะอาสาไปซื้อให้เพื่อนด้วย “น้ำเปล่าอีกละ รักสุขภาพเนาะ” ไอ่ปีย์พูดกับไอ่เหนือ “ทำไมอ้ะ?” ไอ่เหนือตอบกลับห้วนๆ “ส่องทวิตหน่อยดีกว่า วันนี้มีอะไร” เสียงน้ำเพื่อนผู้หญิงคนเดียวในของกลุ่มเราพูดขึ้นเบาๆ 1•กำลังได้รับความนิยม #ไนท์การันต์ “ไนท์การันต์ นักแสดงหนุ่มมาแรงเพิ่งรับบทเป็นพระเอกสดๆ ร้อนๆ ก็มีข่าวฉาวซะแล้ว” มันอ่านออกเสียงเหมือนอยากให้คนบนโต๊ะฟังด้วย “ข่าวฉาวงั้นเหรอ? เขาว่าไง?” ผมที่ฟังอยู่ถามขึ้น “อืม มันเป็นรูปผู้ชายกับผู้หญิงโอบกันน่ะมึง” ไอ่น้ำว่า ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูบ้าง หึ(แค่นหัวเราะ) กับตัวเอง “มึงรู้จักเหรอ?” น้ำถาม “จะไม่รู้จักได้ไง ก็ที่มันพูดพรีเซนต์ไปว่าเป็นไอดอลมันเมื่อเช้านี้ไง” ไอ่ปีย์ตอบแทนผม “อ้าวเหรอ ก็กูมาไม่ทันมันพรีเซนต์อ้ะ เมื่อเช้าเข้าเลทไปหน่อย มาถึงก็ถึงไอ่เหนือละ” “ไหนขอดูหน้าจริงดิ๊ หล่อเท่ากูป้ะ” ไอ่ปีย์ขอดูโทรศัพท์กับน้ำบ้าง “หล่อกว่าเยอะค่ะ” น้ำตอบกลับอย่างเหน็บแนบเพื่อนเล่นๆ “…เดี๋ยวนะ นี่มันตรงที่เราเดินผ่านจะไปกินบะหมี่เมื่อวานหนิมึง” “ก็ใช่ไง” ผมว่าออกไป พลางเลื่อนดูทวิตที่ชาวเน็ตคุยกันในโทรศัพท์ “แล้ว...ที่กูเห็นมึงถ่ายอะไร มึงได้ถ่ายนี่ป้ะ?” มันหันมาถามผม “อือ” “แล้วสรุปมันจริงป้ะ ตามในทวิตอ้ะ?” เสียงน้ำสาวเจ้าอยากรู้ถามแทรกขึ้นมา พลางมองผมกับไอ่ปีย์สลับกัน “ถามมันเลยกูไม่ได้สนใจ” ไอ่ปีย์ว่าพลางยกไหล่ “ตอนนั้นรู้แค่ว่าท้องกูร้องมาก” ว่าจบมันก็ทำมือชี้ๆ มาทางผม “รอดูในทวิต เดี๋ยวก็รู้” ผมตอบปัดไปก่อนสั้นๆ “งี้แหล๊ะ พวกผู้ชายเจ้าชู้ ปิดไม่มิด” ไอ่ปีย์ว่าขึ้น แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจ “กูอยากรู้ตอนนี้อ่าา บอกหน่อย” ไอ่น้ำว่าด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนอยากรู้เดี๋ยวนี้ “ไม่จริง” ผมตอบไป “เห็นป้ะ ดูหน้าก็รู้ว่าไม่ใช่คนแบบนั้น” น้ำหันไปพูดกับไอ่ปีย์ พร้อมกับเบะปากใส่ “จ้าา รู้หน้าใช่ว่ารู้ใจ ว่าแต่เป็นแฟนคลับเขาเหรอฮะ เราอ้ะ” ปีย์ถามไอ่น้ำ “อย่าว่าแต่แฟนคลับจะรู้เลย ตัวตนของเขาจริงๆ เป็นไง ใครจะไปรู้ ถ้าไม่ใช่คนใกล้ตัว บางทีมุมที่แฟนคลับเห็น อาจจะเป็นแค่พาร์ตๆ นึงที่เขาอยากให้เราเห็นก็ได้” เหนือว่าขึ้นมาบ้าง จากที่ยังไม่ได้พูดร่วมวงอะไรกับเพื่อน แต่เหมือนว่าเพื่อนที่เหลือจะไม่ได้ใส่ใจอะไรกับประโยคยาวๆ ที่เขาว่ามาเลย “กูกำลังดูซีรีส์เขาอยู่ เล่นดีเลยนะกูชอบ” “ชอบหมดแหละมึงอ้ะ ว่าแต่เป็นผู้ชาย” “กูเลือกอยู่ค่ะ” “อ้ะเหรอ” “เออ” เสียงไอ่ปีย์กับน้ำต่อปากต่อคำกัน ผมวางโทรศัพท์ จากนั้นพวกเราก็พากันกินข้าวจนเสร็จ ต่อด้วยนั่งเล่นกันสักพักรอเวลา ถึงเวลาเรียนก็ขึ้นไปเรียน คาบบ่ายวันนี้ มีวิชาเดียว แต่ก็ 3 ชั่วโมงด้วยกัน แต่ยังดีที่ยังเป็นวิชาที่ไม่เครียดมาก … ถึงเวลากลับบ้านได้~ หลังเลิกเรียน ณ ลานจอดรถ ถึงตอนนี้น้ำก็คาบมอเตอร์ไซค์สกูปปี้ โบกมือบายบายเพื่อนกลับบ้านไปก่อนเพื่อนในกลุ่มตามเคย เมื่อรถของน้ำขับออกไป ผมที่กำลังจะขึ้นคาบรถบิ๊กไบค์คันเท่ของผมกลับเป็นรายต่อไปบ้าง “เจอกัน” ไอ่ปีย์บอกลา มันอยู่หอที่เดียวกับไอ่เหนือ “กลับบ้านดีๆ” ไอ่เหนือว่า “อือ เจอกัน” ผมลาพวกมันเสร็จ ก็ยกขาขึ้นคาวาซากิ แซดสามศูนย์ศูนย์ สีเขียวลูกรักของผม พร้อมกับใส่หมวกกันน็อกเสร็จสรรพ จากนั้นก็บึ่งกลับบ้าน บรื้นนนนน ไม่ถึงสามสิบนาทีก็ถึงที่พัก ข้อดีของมอเตอร์ไซค์คือสามารถรัดเลาะแทรกไปได้ ไม่เหมือนกับรถคันใหญ่ ถ้าเป็นรถยนต์ล่ะก็คงจะห้าสิบนาทีหรือไม่ก็ชั่วโมงถึงจะถึงบ้าน ซึ่งก็ไม่ได้ถึงกับว่าไกลจากมหา’ลัยมากนักเท่าไหร่ บ้านผมอยู่ในโครงการหมู่บ้านเล็กๆ แม้มีบ้านทั้งหมดเพียงแค่แปดหลัง ฝั่งละสี่ของซอย แต่พื้นที่ทั้งหมดก็ถือว่ากว้างขวางขนาดกำลังพอดีอบอุ่น เพราะหลังหนึ่งเองก็สำหรับครอบครัวขนาดกลางได้เลยก็ว่าได้ ทางเข้าออกอยู่ติดกับถนน ทำให้เข้าออกได้สะดวก ตัวบ้านเป็นแบบทรงไทยประยุกต์ผสมโมเดิร์นสองชั้น คุมโทนสีขาวครีมผสมน้ำตาลจากการออกแบบแบบกึ่งซีเมนต์กึ่งไม้ มีพื้นที่รอบบ้านเป็นสนามหญ้าดูร่มรื่น ภาพรวมดูสวย ทันสมัย เรียบง่าย และคงความเป็นไทย แต่นั่นก็แลกมาด้วยราคาที่สูงกว่าปกติของบ้านทั่วไปขึ้นมาหน่อย หน้าบ้านมีโรงให้จอดรถขนาดใหญ่พอที่จะจอดรถยนต์ได้ถึงสองคัน บิ๊กไบค์สีเขียวสวยเข้ามาจอดในบ้านที่เดิม แตร๊ก ตั้งขาตั้ง แล้วยกขาลงจากรถ ย่างกายเข้ามาในบ้าน ตอนนี้เป็นเวลาหกโมงเย็น พ.ต.อ.นพดลพ่อของผม ยังไม่กลับมาจากทำงาน แต่ครูลักษณ์แม่ของผมกลับมาจากโรงเรียนแล้ว ส่วนพี่ ‘คนดี’ ไปอยู่อังกฤษนู้น “หวัดดีครับแม่ ทำไยหอมจังเลย” ผมเดินเข้าไปกอดแม่ที่กำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว พร้อมหอมไปหหนึ่งที ฟอด ชื่นใจ “แกงเลียงกุ้งสดจ้ะ ของชอบหนูไง” “น้ำลายไหยแย้ว หอมมาก” ผมว่ายิ้มๆ ก่อนจะผละตัวเองออก แล้วตรงขึ้นไปบนห้อง “อ้าว แล้วลงมากินข้าวนะลูก” แม่ผมตะโกนบอกตามหลังขึ้นมา “คร้าบบผมม” ขึ้นมาถึงชั้นสอง ขวามือนับจากใกล้สุด ห้องแรกคือห้องของพี่คนดี ส่วนห้องที่สองคือของพ่อกับแม่ ตรงหน้าของผมคือห้องพระ ที่กั้นกลางระหว่างห้องผมที่อยู่ด้านซ้ายมือกับห้องพ่อกับแม่ เข้าห้องตัวเองได้ ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าในชุดสบายๆ ด้วยเสื้อยืดสีดำตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้นสีดำ แล้วกระโดดขึ้นไปบนเตียงนุ่ม ฮ่าาา ช่างเป็นเตียงที่ดูดร่างจริงๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนตู้ข้างหัวเตียงขึ้นมา เพื่อเข้าแอปพลิเคชั่นเอ็กซ์หรือชื่อเดิมก็คือทวิตเตอร์ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มีไว้เพื่อใช้ในการสื่อสาร อัปเดตแชร์ความคิดเห็นของผู้ใช้งานที่มีต่อสิ่งที่เจอมาในแต่ละวันหรือวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองของเรา และยังสามารถใช้พูดคุยกับศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบได้ด้วย 1•กำลังได้รับความนิยม #รักณะ 2•กำลังได้รับความนิยม #ไนท์การันต์ ยังไม่ลงจากเทรนด์อีกเหรอเนี้ย จริงๆ เล๊ย หล่อสร้างเรื่องของแท้ ‘มามุงตรงนี้ เมื่อวานผมเดินไปแถวนั้นแล้วเห็นเข้าพอดี ก็เลยถ่ายเก็บไว้ ทุกคนก็ดูเอาแล้วกันนะ ว่าความจริงมันเป็นยังไง #ไนท์การันต์ #saveไนท์’ พิมพ์ข้อความเสร็จ ก็เพิ่มรูปภาพและวิดีโอที่ตัวเองถ่ายมาได้ลงไปพร้อม ก่อนจะไล่สายตาตรวจเช็กความเรียบร้อย จากนั้นปลายนิ้วเรียวก็จิ้มลงบนปุ่มโพสต์ หมดธุระละวางโทรศัพท์ลงไปกินข้าวได้ .. … do|\|ut_youngmeeru และอีก 150 คนรีโพสต์โพสต์ของคุณ luvnightni อ้างอิง ‘ว่าแล้วเชียวต้องเป็นพวกที่ไม่หวังดี พอเห็นคนมีกระแสหน่อยเป็นไม่ได้ ╰( •̀ ε •́ ╰) แต๊งแอดคับ’ คุณศรี กำลังตอบกลับถึง @khonprod_khonlo ‘สาวไหนว่า ‘เป็นแฟนกันรึเปล่า’ เป็นแฟนกันหยัง จัดฉากตั๊วหนิ ขออนุญาตนะคะ / \ ’ อ้างอิง ‘เธรดรวมพิกัดของใช้ลายลาบูแบ้ ###ไนท์ยังคงสายตานิ่ง ย้ำอีกรอบ“เป็นแฟนกับพี่นะ”“ซ้อมบทเหรอ?”“ไม่ได้ซ้อม กูพูดกับมึงเนี่ย” เขาว่า พร้อมยืนเท้าเอวเหมือนรอฟังคำตอบ“ผมกับพี่เนี่ยนะ?” ผมขมวดคิ้ว ยังงงอยู่ ในหัวตอนนี้กำลังประมวลผลว่าเขาล้อเล่นอยู่รึเปล่า “ล้อเล่นป่ะเนี่ย?”“แล้วคิดว่าไง” เขาลงเสียงทุ้ม “จะให้กูเอาไปเรื่อยๆ เหรอ”ผมเบ้หน้า ละเกียจจริงๆ เลย เวลาเขาพูดดูถูก “ฝันเหรอ”“เอ้า ก็ไม่รู้อะ ล่าสุดเราก็-” ผมถลึงตาใส่ทันที เป็นเชิงห้ามไม่ให้พูดประโยคนั้นออกมาไนท์หัวเราะในลำคอ สายตาเขายังไม่ละไปจากผม“พี่จริงจังมั้ยเนี่ย?” ผมถามเสียงแข็งขึ้นนิดหน่อยเขาโน้มหน้าเข้ามาใกล้ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นช้าๆ ที่มุมปาก “จริงจังคับ” ทำมาเป็นพูดคับ หมาป่าเจ้าเล่ห์“..ขอคิดดูก่อน” คนโปรดตอบเสียงหนักแน่น“ทำไมอะ?” น้ำเสียงเขาเปลี่ยนเป็นอ่อนลง ไนท์เอื้อมมาดึงชายเสื้อเชิ้ตที่ผมเสียบเรียบร้อยในกางเกงออกจากนั้นก็สอดมือเข้ามาใต้เนื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน ปลายนิ้วลูบจากขอบเอว ลามไปถึงแผ่นหลังช้าๆ แล้วเขาก็โน้มหน้าลงมาจุ๊บเบาๆ ที่ปาก จุ๊บ“คิดว่าผมจะตอบตก
-คนโปรด- บนโต๊ะอาหารเช้า “แม่ครับ วันนี้ผมจะได้ถ่ายหนังสั้นด้วยนะครับ ได้เล่นเป็นตัวหลักเลยน้าาจะบอกให้” “จริงเหรอลูก” แม่เงยหน้าขึ้นจากจาน ขานรับด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ยินดีกับผู้เป็นลูกอย่างเห็นได้ชัด “เป็นหนังประเภทไหนล่ะ?” พ่อที่กำลังตักข้าวเข้าปาก แต่หูกำลังตั้งใจฟังอยู่ถามขึ้น “ก็…วายครับ เป็นเรื่องเกี่ยวกับวงการบันเทิงนี่แหละครับ ถ่ายที่บริษัท ไม่ได้ไปไหน” พ่อชะงักเล็กน้อย ก่อนพูดเสียงเรียบ “วาย? ที่เขาว่าผู้ชายรักกับผู้ชายอะนะ” “ครับ..” คนโปรดพยักหน้า “แล้วมึงคิดยังไงรับเล่น” น้ำเสียงพ่อเปลี่ยนไปจากปกติ “เอ่อ…” คนโปรดยังไม่ทันตอบ พ่อก็พูดขึ้น “แล้วคนอื่นที่มองมา เขาจะไม่คิดว่ามึ- ลูกเป็นเกย์ เป็นอะไรเหรอ” “พ่อ..” เสียงคนโปรดแผ่วลง แต่สายตายังมองตรง “มันการแสดงนะครับ ส่วนใครจะมองอะไรยังไง ก็ห้ามไม่ได้อยู่แล้ว ต่อให้ไม่ได้แสดงเรื่องแนวนี้ เขาจะมองก็มองครับ” “ใช่พ่อ” แม่พูดสำทับอีกคน “เราต้องยินดีกับลูกสิ” พ่อไม่พูดอะไรต่อ แค่ยกแก้วน้ำขึ้นด
“อะไรของพี่เนี่ย!” ไนท์ยืนเบียดเข้ามาจนแทบไม่มีช่องว่างระหว่างกัน มือหนาดึงเอวคนโปรดเข้ามาติดตัว“เป็นอะไรขึ้นมา ไปกินน้ำอยาก…มาหรือไง?” คนโปรดโวย ขณะที่หัวใจเต้นระรัว“ก็กูไม่ได้ไป ที่เคยไปนานแล้วไง” ไนท์พูดติดหงุดหงิดคนโปรดรู้ทันทีว่าเขาหมายถึงอะไร“ใครจะไปรู้กับพี่อะ ก็ แค่สองอาทิตย์ป่ะ?”“สาม”“แล้วไง?”“มึงต้องรับผิดชอบ”“เกี่ยวอะไรกับผมอะ”“ก็มึงจัดตารางงานให้กูแน่น นอกจากถ่ายซีรีส์ ไหนจะเรียนแอ็กติ้งเสริม ดูหนัง ไหนจะแบรนด์กูอีก”คนโปรดเบ้ปาก “แต่มันก็เป็นแบบนี้ตั้งแต่ตอนพี่โดนัทละนะ”“ไม่รู้แหละ กูบอกว่าเกี่ยว ก็คือเกี่ยว”ไนท์พูดจบไม่รอให้อีกฝ่ายเถียงกลับ มือบีบเอวแน่น ขณะที่ปากก้มลงจูบซอกคออย่างหิวกระหาย เดินไปเปิดประตูห้องน้ำห้องสุดท้ายก่อนจะดึงอีกฝ่ายเข้าไปด้วยกัน แล้วปิดล็อกประตูในพริบตา เขาจับไหล่คนโปรดแล้วหมุนตัวให้หันมาหาเขา ก่อนที่จะค่อยๆ เลื่อนมือมาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตนักศึกษาทีละเม็ด ปลายนิ้วลากผ่านผิวเนียนตรงกลางอกที่เริ่มโผล่ออกมาทีละนิด ก่อนจะรูดเนกไทของคนโปรดลงจนมันหลวมจากนั้นเขาก็จ
เงียบไปพักหนึ่ง คนโปรดถามขึ้นขณะลิฟต์เปิดออก “แล้วรู้ได้ไงว่าผมอยู่ข้างบน?” ทั้งคู่กำลังเดินกลับไปที่ห้องไนท์ “ก็เห็นมึงไปนานเลยมาตาม เจอเลขาเขาเลยถามว่าเห็นมึงมั้ย เขาก็เลยบอก” “อ๋อ” เข้ามาในห้องไนท์ อาการแดงที่ลำคอของเขาดูจะทุเลาลงเล็กน้อย คนโปรดหยิบขวดยาออกมาจากกระเป๋ากางเกง พลิกดูฉลากอ่านอย่างตั้งใจ ก่อนจะเทมันลงมือสองเม็ด แล้วยื่นให้คนตรงหน้า ไนท์แบมือรับไว้ มองคนโปรดที่เดินไปเปิดตู้เย็นเล็กๆ หยิบขวดน้ำเปล่าออกมา เปิดฝาแล้วยื่นให้กับเขา ไนท์กลืนน้ำพร้อมกับยาก่อนจะปิดฝาขวดแล้ววางไว้บนโต๊ะ “ขอบใจ” เขาพูดเรียบๆ “ไม่เป็นไรครับ” “มึงไม่ว่ากูใช่มั้ย? ที่บอกคุณธามนั่นไปว่ามึงเป็นเมียกู” คนโปรดนิ่งไปเล็กน้อย “…อือ ช่างมันเถอะ” ไนท์มองเขานิ่ง เหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็เปลี่ยนใจ สุดท้ายถอนหายใจเบาๆ แล้วหมุนตัวเดินไปนั่งลงที่โต๊ะทำงานอย่างเงียบๆ “ตอนบ่าย.. พี่จะให้ผมขับรถให้ หรือว่าพี่จะไปเอง” คนโปรดถามขึ้น “เดี๋ยวไปเอง ไปเจอกันที่นั่นเลย เออ เที่ยงกูไม่
ผ่านไปไม่ถึงสิบนาที ร่างสูงในเสื้อเชิ้ตสีเรียบกับใบหน้าที่ดูเคร่งเครียดก็ก้าวเท้าเข้ามาในร้าน ผ่านโต๊ะคนโปรดไป เขาหยุดอยู่ตรงหน้าโต๊ะของณะและไนท์ ดวงตากวาดมองทั้งสองคนสลับกัน“พี่ขอโทษ” ธรณ์พูดกับณะเสียงอ่อนขณะยืนอยู่ข้างโต๊ะ “พี่คิดว่าเขาจบแล้ว ...แต่เขาไม่จบ” เสียงนั้นเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าแต่ยังเก็บความรู้สึกเอาไว้แน่นหนาไนท์เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพ “สวัสดีครับพี่ธรณ์”ธรณ์พยักหน้ารับพลางถามกลับด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้ดูปกติ “สวัสดีครับ มาร้านนี้พอดีเหรอ? หรือว่าไง”“ครับ บังเอิญน่ะครับ” ไนท์ตอบเรียบๆ“ว่าแล้ว ก็ ไม่ได้เจอนานเลยนะ ตั้งแต่เรียนจบไป”“ครับ” ไนท์ยิ้มบาง ไม่คิดว่าธรณ์จะจำเขาได้ เพราะเจอกันแค่สองสาม-ครั้งเองมั้ง ตอนเขามาหาณะที่มหา’ลัยธรณ์จ้องไนท์อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถามขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว “ไม่คิดถึงณะบ้างเหรอ?”เอ๊ะ? “ครับ?” ไนท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะพูดประโยคนี้ตอนนี้ณะหันไปมองแฟนตัวเองทันที “พี่ธรณ์...”แต่ธรณ์ยังไม่หยุดพูด “พี่หมายถึง เคยเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกั
-คนโปรด-คนโปรดลืมตาขึ้นในความเงียบของห้อง เตียงที่นุ่มนอนสบาย ไม่ได้ทำให้คนโปรดตื่นสายขึ้น แม้จะไม่ได้ตั้งนาฬิกาปลุก แต่เขาก็ตั้งใจจะตื่นเช้าอยู่แล้ว และสุดท้ายก็รู้สึกตัวขึ้นมาตามเวลาที่ใจนัดไว้เขาไม่เดินไปเปิดม่านเพื่อรับแสงอาทิตย์ยามเช้า เพราะรู้ว่า แสงนั้นอาจปลุกใครบางคนที่นอนอยู่บนเตียงชั้นบนตื่นขึ้นมา และเขายังไม่อยากให้ไนท์ตื่นตอนนี้ที่เขายังไม่อยากให้ไนท์ตื่นตอนนี้ เพราะหนึ่งอยากให้อีกคนได้นอนอย่างเต็มอิ่ม เผื่อเจ้าตัวจะได้อารมณ์ดีไปทำงาน สองวันนี้ผมกับเขามีคิวถ่ายซีรีส์ก็ตอนบ่ายนู้น ถ้านอนพอ ไนท์จะได้เริ่มวันใหม่แบบไม่หงุดหงิดใส่ใคร โดยเฉพาะเขา คนโปรดย่องเบาไปหยิบโพสต์อิตแผ่นเล็กจากชั้นหนังสือ เขียนโน้ตทิ้งไว้ด้วยลายมือเรียบๆ ‘ผมออกไปก่อน จะแวะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านก่อนด้วย’จากนั้นเขาก็เดินไปที่ประตู ค่อยๆ เปิดออกอย่างเบาที่สุด ไม่มีเสียงเอี๊ยดอ๊าด เงียบพอที่คนบนเตียงจะยังหลับได้ต่อไปเขาไม่อยากอยู่กับไนท์แค่สองคนนานเกินไป เพราะไนท์เองก็คงไม่ชอบ (ปกติเป็นแบบนั้น) และเขาเองก็ไม่อยากทำให้อีกคนรำคาญ เพราะเอาเข้าจริง... เขาก็เริ่มรำคาญแล้วด้