แชร์

บทที่ 14

ผู้เขียน: สายลมไร้กาลเวลา
“ท่านอ๋อง จะให้ข้าน้อยไปสืบข่าวหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

จ้าวอวี่เป็นคนละเอียดรอบคอบ เมื่อเห็นฉู่หนิงนิ่งเงียบไปนาน เขาก็เอ่ยเสนอแนะขึ้นมา

การพระราชทานสมรสอย่างกะทันหันนั้นทำให้รู้สึกประหลาดใจ ยิ่งไปกว่านั้น ท่านหญิงเสิ่นผู้นั้น ยังเป็นถึงอัจฉริยะหญิงอันดับหนึ่งของต้าฉู่ ในเมื่อยังไม่ทราบพระประสงค์ของฮ่องเต้ ก็ควรจะไปสืบข่าวที่จวนเสิ่นเสียก่อน

แต่ฉู่หนิงกลับหัวเราะเบา ๆ ส่ายหน้าพลางเอ่ยขึ้น “ไม่ต้องหรอก ท่านหญิงเสิ่นผู้นั้นสูงศักดิ์เพียงใด จะยอมแต่งกับข้าได้อย่างไร?

เมื่อวานเสด็จพ่อทรงพระราชทานคนของกรมกลาโหมให้มาเป็นผู้คุ้มกันของข้า พวกเจ้าสองคนตามข้าไปที่ศาลาว่าการของกรมกลาโหมสักเที่ยวเถอะ”

ไม่ว่าการพระราชทานสมรสครั้งนี้จะเป็นหลุมพรางหรือไม่ ขอเพียงท่านหญิงเสิ่นไม่ยินยอม ฮ่องเต้ก็คงจะไม่สามารถบังคับให้นางแต่งเข้ามาได้กระมัง?

แม้ว่าจะเป็นการพระราชทานสมรส ยากที่จะขัดราชโองการได้ แต่ฐานะของท่านหญิงเสิ่นนั้นพิเศษนัก หากนางไม่ต้องการแต่งจริง ๆ ฮ่องเต้จะสามารถบังคับนางได้หรือ?

หากเป็นเช่นนั้น ฮ่องเต้ย่อมถูกผู้คนครหาเป็นแน่

ราชโองการฉบับนี้ ส่วนใหญ่แล้วก็คงจะเป็นเพียงการแสดงให้คนอื่นดูเท่านั้น

เรื่องเร่งด่วนในตอนนี้คือการนำคนกลุ่มนั้นจากกรมกลาโหมมาไว้ในมือให้ได้ก่อน เพื่อให้แน่ใจว่ากองกำลังคุ้มกันได้ก่อตั้งขึ้นเป็นรูปเป็นร่างแล้ว

ในฐานะองค์ชาย หากข้างกายไม่มีกองกำลังคุ้มกัน การเดินทางไปแนวหน้าครั้งนี้ อย่าว่าแต่จะถูกกองทัพศัตรูกำจัดเลย คนของต้าฉู่เองก็อาจจะกำจัดเขาได้!

ภายใต้การคุ้มกันของกวนอวิ๋นและจ้าวอวี่ ทั้งสามคนก็มุ่งหน้าไปยังกรมกลาโหม

ส่วนทางด้านนี้ หัวหน้าขันทีจ้าวหมิงได้นำราชโองการมาถึงจวนเสิ่น

จวนเสิ่นไม่ได้ใหญ่โตนัก ก่อด้วยอิฐสีเขียวหลังคามุงกระเบื้องสีดำ ตัดกับจวนสูงตระหง่านกำแพงใหญ่โตที่อยู่รอบข้างอย่างเห็นได้ชัด

ภายในเรือนหลังของจวน เสียงพิณอันไพเราะดังแว่วมาจากห้องส่วนตัวของหญิงสาว

ปรากฏร่างของหญิงสาวนางหนึ่งในชุดสีเขียว คิ้วเรียวงามดั่งใบหลิว ดวงตาที่สดใสเปล่งประกาย ยากที่จะลืมเลือนได้เมื่อแรกเห็น

สันจมูกโด่งรับกับใบหน้างดงามไร้ที่ติ ประกอบกับริมฝีปากแดงดั่งผลเชอร์รี ทำให้หัวใจสั่นไหว

ถัดจากลำคอระหงลงมาคือเนินอกที่อวบอิ่มดั่งขุนเขา ผ้าคาดเอวสีน้ำเงินเส้นหนึ่งผูกอยู่ที่เอว เผยให้เห็นเอวบางร่างน้อย

สตรีผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่คือเสิ่นหว่านอิ๋งทายาทของราชวงศ์ก่อน!

ในฐานะท่านหญิง ทั้งยังเป็นอัจฉริยะหญิงอันดับหนึ่งแห่งต้าฉู่ ประกอบกับรูปโฉมที่งดงามไร้ที่ติ บุรุษใดได้เห็นนางก็ยากที่จะหักห้ามใจได้

ทว่า เสียงพิณในยามนี้กลับแฝงไปด้วยความกังวล ชวนให้ผู้ฟังรู้สึกสะเทือนใจ

ข้าง ๆ กันนั้น สตรีอีกคนหนึ่งในชุดรัดกุม ใบหน้าเปี่ยมด้วยความองอาจกำลังนั่งเบื่อหน่ายอย่างที่สุด นั่งลงจิบชาได้ไม่ถึงสองอึกก็ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง

เดิมทีคิดจะขัดจังหวะสหายสนิทของตน แต่เมื่อนึกถึงนิสัยดื้อรั้นของนาง หากไม่ให้นางบรรเลงเพลงนี้จนจบ เกรงว่าจะไม่สามารถพานางออกไปข้างนอกได้

เฝิงมู่หลานส่ายหน้าอย่างจนปัญญา ทำได้เพียงรอให้เสิ่นหว่านอิ๋งบรรเลงจนจบอย่างเงียบ ๆ

ทว่า ในขณะที่เสิ่นหว่านอิ๋งคิดว่าตนเองจะต้องนั่งรอเวลาอันน่าเบื่อหน่ายนี้ผ่านไปเช่นเคย เสียงของสาวใช้ก็ดังมาจากนอกเรือน

“คุณหนู คนจากในวังมาเจ้าค่ะ ทั้งยังนำราชโองการของฝ่าบาทมาด้วย เชิญคุณหนูและฮูหยินผู้เฒ่าไปรับราชโองการเจ้าค่ะ!”

เสียงพิณหยุดลงกะทันหัน บนใบหน้างดงามของเสิ่นหว่านอิ๋งปรากฏความประหลาดใจ “แปลกจริง เหตุใดฝ่าบาทจึงส่งคนมาประกาศราชโองการกะทันหัน ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องอันใด”

เฝิงมู่หลานหัวเราะเบา ๆ เดินเข้าไปจับมือเสิ่นหว่านอิ๋ง “พวกเราไปรับราชโองการก็รู้แล้วมิใช่หรือว่าเป็นเรื่องอันใด?”

ระหว่างที่พูด นางก็ดึงเสิ่นหว่านอิ๋งออกจากห้องส่วนตัว มุ่งหน้าไปยังเรือนด้านหน้าทันที

เสิ่นฮูหยินที่ได้รับข่าวก็มาถึงในขณะนั้นพอดี ทั้งสามคนพร้อมด้วยสาวใช้และบ่าวชายต่างพากันคุกเข่าลง

จ้าวหมิงเปิดราชโองการออก อ่านด้วยสีหน้าจริงจัง “ตระกูลเสิ่นมีบุตรสาวนามว่าหว่านอิ๋ง เราได้ยินว่าเจ้ารูปโฉมงดงามโดดเด่น เปี่ยมไปด้วยความสามารถ ปีนี้ก็อายุครบสิบแปดปีบริบูรณ์แล้ว จึงขอพระราชทานสมรสให้แก่เจ้ากับเผิงไหลจวิ้นอ๋อง!”

ทั้งสามคนที่ก้มหน้ารอรับราชโองการอยู่ เมื่อได้ยินดังนั้นสีหน้าก็พลันเปลี่ยนไปอย่างมาก

เผิงไหลจวิ้นอ๋อง องค์ชายลูกนอกสมรสของฮ่องเต้ องค์ชายตัวตายตัวแทนที่กำลังจะไปแนวหน้าหรือ?

แต่งให้กับคนเช่นนี้ เกรงว่ายังไม่ทันจะผ่านช่วงดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ก็ต้องกลายเป็นม่ายแล้ว!

แม้ว่าเสิ่นหว่านอิ๋งจะรอบรู้หนังสือจนแตกฉาน แต่ในตอนนี้ใบหน้าก็อดซีดเผือดไม่ได้ ปรากฏความขุ่นเคืองออกมา

ส่วนเสิ่นฮูหยินนั้นในใจสั่นสะท้าน ความขมขื่นอัดแน่นอยู่ในอก

เดิมทีเป็นทายาทของราชวงศ์ก่อน บัดนี้กลับกลายเป็นของเล่นของราชวงศ์ อยากจะทำอะไรก็ทำ!

แม้ว่าตระกูลเสิ่นจะไม่ได้เป็นราชวงศ์อีกต่อไป แต่อย่างไรเสียก็เคยรุ่งเรืองมาก่อน แผ่นดินของต้าฉู่ก็แย่งชิงมาจากมือของตระกูลเสิ่น ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันกลับไม่คำนึงถึงเรื่องเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย ยืนกรานจะพระราชทานสมรสให้หว่านอิ๋งแก่เจ้าตัวตายตัวแทนฉู่หนิงนั่น

ไม่ได้ บุตรสาวของข้าเป็นถึงท่านหญิง จะแต่งให้กับฉู่หนิงนั่นแบบนี้ได้อย่างไร

เสิ่นฮูหยินตัดสินใจแน่วแน่ ดวงตาฉายแววเด็ดเดี่ยว เงยหน้าขึ้นมองจ้าวหมิง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “หัวหน้าจ้าว เรื่องนี้ตระกูลเสิ่นของข้าไม่ตกลง ข้าจะเข้าวังไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทเดี๋ยวนี้!”

จ้าวหมิงได้ยินดังนั้น สายตาก็พลันเย็นชา กล่าวด้วยเสียงแหลม “อะไรกัน เสิ่นฮูหยินท่านจะขัดราชโองการหรือ?”

ทหารรักษาพระองค์ที่อยู่ด้านหลังรีบพุ่งเข้ามาทันที!

เฝิงมู่หลานขมวดคิ้ว ลุกขึ้นยืนปกป้องเสิ่นฮูหยินและเสิ่นหว่านอิ๋งไว้ข้างหลังทันที แล้วกล่าวเสียงเย็น

“หว่านอิ๋งไม่เต็มใจที่จะแต่งให้เผิงไหลจวิ้นอ๋อง ก่อนที่ฝ่าบาทจะทรงมีราชโองการ เหตุใดถึงไม่ทรงถามความคิดเห็นของหว่านอิ๋ง?”

จ้าวหมิงหัวเราะเยาะ “เจ้าเป็นใคร กล้าดีอย่างไรมายุ่งเรื่องนี้?”

เฝิงมู่หลานเลิกคิ้ว เชิดหน้าพลางเอ่ยขึ้น “ข้าคือเฝิงมู่หลาน บุตรสาวของรองเสนาบดีเฝิงแห่งกรมกลาโหม!”

เสิ่นหว่านอิ๋งรีบดึงมือของเฝิงมู่หลาน แล้วกระซิบเบา ๆ “มู่หลาน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า ข้าจะจัดการเอง”

เฝิงมู่หลานกลับขมวดคิ้ว “ฝ่าบาททรงมีราชโองการลงมาแล้ว เจ้าจะยังจัดการได้อย่างไร?”

เสิ่นหว่านอิ๋งกำลังจะเอ่ยปาก แต่สีหน้าของจ้าวหมิงมืดมน สายตากวาดมองหญิงสาวทั้งสองแวบหนึ่ง กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ราชโองการใช่เรื่องล้อเล่นหรือ? ฝ่าบาททรงมีราชโองการลงมาแล้ว หากวันนี้ไม่รับราชโองการ คนที่เหลือในจวนเสิ่นนี้อย่าหวังว่าจะรอดชีวิตออกไปได้!”

ทันทีที่คำนี้หลุดออกมา ทหารรักษาพระองค์โดยรอบก็ชักอาวุธออกมาทันที

พร้อมกับเสียงเคร้งที่ดังขึ้น คมอาวุธเปล่งประกายเย็นเยียบ ราวกับสัตว์ร้ายที่พร้อมจะขย้ำคน!

คนของตระกูลเสิ่นตกใจจนหน้าซีดเผือด สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่เสิ่นหว่านอิ๋ง

ในยามนี้ มีเพียงเสิ่นหว่านอิ๋งเท่านั้นที่จะช่วยพวกเขาได้

หากปฏิเสธ วันนี้จวนเสิ่นจะต้องนองเลือดอย่างแน่นอน

ถึงจะเป็นทายาทของราชวงศ์ก่อน ก็ไม่สามารถขัดราชโองการได้!

แม้ในใจของเสิ่นฮูหยินจะหวาดกลัว แต่เมื่อนึกถึงความสุขในช่วงครึ่งหลังของชีวิตบุตรสาว นางก็ยังคงรวบรวมความกล้า ทำความเคารพจ้าวหมิง

“หัวหน้าจ้าว เรื่องนี้ได้โปรดผ่อนปรนด้วยเถิด ราชโองการฉบับนี้ข้ายังไม่รับในตอนนี้ รอให้ข้าเข้าวังไปทูลขอความเมตตาจากฝ่าบาทก่อนแล้วค่อยว่ากันได้หรือไม่?”

“ใครก็ได้ ไปนำปิ่นปักผมทองคำอันนั้นของข้ามา!”

กฎระเบียบในวัง เสิ่นฮูหยินย่อมรู้ดี นางคิดจะให้สินบนแก่จ้าวหมิงมากขึ้นอีกหน่อย เพื่อที่จะยังไม่รับราชโองการชั่วคราว

แต่จ้าวหมิงกลับแค่นเสียงเย็น “ไม่จำเป็น วันนี้เจ้ามีทางเลือกเพียงสองทางเท่านั้น ก็คือรับราชโองการเตรียมงานแต่งงาน หรือไม่ก็คนในจวนเสิ่นทั้งหมดจะต้องตายในวันนี้เพราะพวกเจ้า!”

คำพูดนี้ ทำให้เสิ่นฮูหยินราวกับถูกสายฟ้าฟาด ถอยหลังไปสองก้าว ใบหน้าซีดเผือดราวกับกระดาษ

เสิ่นหว่านอิ๋งรีบเข้าไปประคองมารดาของตน แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ท่านแม่มิต้องทำเช่นนี้ เรื่องนี้ลูกมีแผนการในใจแล้ว ขอเพียงเผิงไหลจวิ้นอ๋องปฏิเสธการแต่งงานด้วยตนเอง ฝ่าบาทก็ทำได้เพียงถอนรับสั่ง”

พูดจบ ท่ามกลางสายตาประหลาดใจของทุกคน เสิ่นหว่านอิ๋งก็ยื่นสองมือออกไปรับราชโองการมาอย่างนอบน้อม

“เสิ่นหว่านอิ๋งรับราชโองการ ขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณของฝ่าบาท!”

จ้าวหมิงวางราชโองการลงในมือนาง กล่าวอย่างมีความหมายลึกซึ้ง “ท่านหญิง จงประพฤติตัวให้ดี!”

กล่าวจบ จ้าวหมิงก็นำทหารรักษาพระองค์จากไป

เฝิงมู่หลานจ้องมองแผ่นหลังของจ้าวหมิงที่จากไปอย่างเคียดแค้น แล้วจึงหันกลับมามองเสิ่นหว่านอิ๋ง “พอดีเลย วันนี้ที่ข้ามาหาเจ้าก็เพราะเรื่องของคนผู้นี้เหมือนกัน เจ้าคนน่ารังเกียจนี่ถึงกับทำให้ฝ่าบาททรงย้ายคนของบิดาข้าไปเป็นผู้คุ้มกันให้เขา!

ข้ารู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน ไปกัน ข้าจะพาเจ้าไปหาเขา!”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 100

    ฉู่หนิงถือจอกเหล้าแล้วยิ้ม “ขอบพระทัยเสด็จพ่อที่ช่วยให้ลูกได้แต่งงานในครั้งนี้”ฮ่องเต้พยักหน้าถือจอกเหล้า “จากนี้ เจ้าต้องดีกับท่านหญิงเสิ่นให้มาก”“เสด็จพ่อวางพระทัย ลูกจะไม่ทำให้หว่านอิ๋งต้องลำบากใจ!”“ดี ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”เมื่อเห็นฉู่หนิงเปลี่ยนกระทั่งสรรพนาม ส่วนเสิ่นหว่านอิ๋งไม่แสดงสีหน้าไม่สบอารมณ์ ฮ่องเต้หัวเราะเสียงดังยกจอกเหล้าในมือขึ้นดื่มจนหมดทว่า ในขณะที่ฉู่หนิงเตรียมดื่มคารวะฮองเฮา กลิ่นหอมโชยมาพร้อมเสียงฝีเท้าอย่างรวดเร็วต่อมา เสียงใสกังวานดังขึ้นด้านหลังเขา “ยินดีกับเผิงไหลจวิ้นอ๋องที่หมั้นหมายสำเร็จแล้ว เหล้าจอกนี้ข้าขอดื่มคารวะเจ้า!”ฉู่หนิงเลิกคิ้ว แม้จะแปลกใจอยู่บ้างที่จ้าวเฟยเยี่ยนเป็นฝ่ายเสนอหน้า แต่ก็หันหลังพร้อมหัวเราะเสียงค่อย“นานทีองค์หญิงแห่งต้าจ้าวจะเดินทางมาต้าฉู่ เหล้าจอกนี้ ข้าดื่มหมดจอก!”พูดจบ ฉู่หนิงดื่มจนหมดในคราวเดียวจ้าวเฟยเยี่ยนมุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ยกจอกเหล้าขึ้นดื่มจนหมดในคราวเดียวเช่นกันแม้จะเป็นสตรี แต่ความองอาจบนตัวนางกลับไม่แพ้ชายใดเมื่อดื่มเสร็จ จ้าวเฟยเยี่ยนหันมองเสิ่นหว่านอิ๋ง หยิบกาเหล้ารินเหล้าให้ตัวเองหนึ่งจอก พลางยิ้มแล้ว

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 99

    “ถวายบังคมเสด็จพ่อ ฮองเฮา!”ฉู่หนิงเดินเข้าไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้มรถม้าขบวนเสด็จหยุดลง ฮ่องเต้ที่สวมชุดสีเหลืองทองเป็นฝ่ายเดินลงมาก่อนฮ่องเต้เปลี่ยนจากความน่าเกรงขามในยามปกติที่สวมชุดมังกร เป็นรอยยิ้มที่มีเมตตาของบิดาต่อมา หญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งที่สวมชุดฝ่ายในสีม่วงเดินลงมาจากรถม้าหลวงอย่างเชื่องช้าแม้รูปโฉมนางจะไม่ได้งดงามมากนัก แต่บนตัวกลับมีพลังของความเป็นแม่แห่งแผ่นดินเผยออกมา!นั่นคือฮองเฮาแห่งต้าฉู่ มารดาแท้ ๆ ของรัชทายาทองค์ปัจจุบัน จูซูเหยา!เมื่อมองฉู่หนิงที่ก้มลงทำความเคารพแวบหนึ่ง ดวงตาฮองเฮามีความแปลกใจแวบผ่านช่วงเวลานี้ นางพอจะได้ยินเรื่องราวการกระทำของฉู่หนิงมาบ้าง แต่รู้ว่าฉู่หนิงกำลังจะไปเป็นตัวตายตัวแทนที่แนวหน้า ดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสนใจฉู่หนิงมากนักหากไม่ใช่เพราะฮ่องเต้เรียนเชิญด้วยพระองค์เอง นางคงไม่มีทางปรากฏตัวในงานหมั้นของฉู่หนิงครั้งแรกที่เห็นฉู่หนิง มองดูใบหน้าที่ละม้ายกับฮ่องเต้อยู่บ้าง ไม่รู้เหตุใด ในใจกลับรู้สึกประหม่าว่าฉู่หนิงจะชิงบัลลังก์กับลูกชายของนางต่อมาเมื่อนึกได้ว่าฉู่หนิงกำลังจะไปแนวหน้า ความกังวลนั้นก็หายเข้าไปในกลีบเมฆขณะ

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 98

    เมื่อมองดูใบหน้าของจ้าวเฟยเยี่ยนที่โกรธจนหน้าถมึงทึง เหล่าขุนนางหัวเราะเสียงดัง ต่างเยาะเย้ย“องค์ชายกล่าวถูกต้อง องค์หญิงเฟยเยี่ยนช่างเป็นคนดีเหลือเกิน”“ต้นโสมช่างให้ได้เหมาะเจาะ องค์หญิงเฟยเยี่ยน หากครั้งหน้ายังมีต้นโสมเช่นนี้โปรดส่งมาสักหลายต้น!”“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า องค์ชายรับต้นโสมเอาไว้ ได้ประโยชน์ถึงสองทาง!”“สมแล้วที่เป็นต้าจ้าว มั่งคั่งร่ำรวย รู้ว่ายามนี้องค์ชายต้องการต้นโสม ถึงกับนำมามอบให้เอง ถือเป็นการช่วยเหลือกันในยามยาก!”คำพูดของเหล่าขุนนางราวกระบี่คมกริบ เชือดเฉือนใจจ้าวเฟยเยี่ยนอย่างแรงนางไม่เคยนึกไม่เคยฝัน เจ้าฉู่หนิงกลับนึกถึงเหตุผลที่ไร้ยางอายขนาดนี้ได้นางปรามาสฉู่หนิงเกินไป!จ้าวเฟยเยี่ยนแววตาเย็นเยียบ ความทรงพลังทั่วร่างล่มสลายในวินาทีนี้ ไม่มีความกำเริบเสิบสานเหมือนตอนที่เพิ่งมาถึงจวนอ๋องทว่าขณะนั้น เจ้าฉู่หนิงกลัวหัวเราะ “ทำไมองค์หญิงเฟยเยี่ยนไม่พูดซะแล้วล่ะ? หรือไม่เห็นด้วยกับคำพูดของข้า?”จ้าวเฟยเยี่ยนจ้องมองฉู่หนิงครู่หนึ่ง “นึกไม่ถึงว่าองค์ชายจะพูดจาฉะฉานเช่นนี้ กลับเป็นเฟยเยี่ยนที่ไม่รอบคอบ ทว่า วันนี้เป็นวันมหามงคลขององค์ชาย เฟยเยี่ยนไม่ขอโดดเด่นเก

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 97

    ต้นโสมสามร้อยปีหนึ่งต้นทำให้ฉู่หนิงจมสู่ห้วงความคิดทว่าขณะนั้น นอกจวนอ๋องดันมีเสียงฝีเท้าม้าดังขึ้น ขุนนางมากมายต่างทยอยมาถึงแล้วพิธีกรที่เดิมทียืนอยู่หน้าประตูเตรียมเรียกขานสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย เข้ามากระซิบข้างกายฉู่หนิง “องค์ชาย ใกล้ถึงฤกษ์ดีแล้ว เหล่าขุนนางในราชสำนักมาแล้วขอรับ”ฉู่หนิงขมวดคิ้ว เงยหน้ามองไปที่ถนน พบว่ามีขุนนางมากมายบ้างก็ขี่ม้า บ้างก็นั่งเกี้ยวกำลังมุ่งหน้ามาทางจวนอ๋องหากยังมัวร่ำไรอยู่กับจ้าวเฟยเยี่ยน รอให้ทุกคนมาถึง กลับกลายเป็นที่ขบขันของทุกคนระหว่างครุ่นคิด มุมปากจ้าวเฟยเยี่ยนยกขึ้นเล็กน้อย จนเป็นองศาที่น่าตะลึงกลืนไม่เข้าคายไม่ออกละสิ?เหงื่อคงเต็มแผ่นหลังสินะ!ใครใช้ให้เจ้าเป็นอริกับข้า!วันนี้ ข้าจะทำให้เจ้าอับอายขายหน้าต่อหน้าธารกำนัลฮึ กล้าปฏิเสธองค์หญิงอย่างข้า ข้าจะให้เจ้าได้เห็นดีกัน!“แค่โสมต้นเดียวก็ทำให้จวิ้นอ๋องลำบากใจเพียงนี้เชียวหรือ?”จ้าวเฟยเยี่ยนขยับริมฝีปากแดงแผ่วเบา เหลือบมองร่างกายท่อนล่างของฉู่หนิง หัวเราะกล่าวว่า “หรือองค์ชายมีความลำบากที่ยากจะเอื้อยเอ่ย?”คำพูดประโยคหลัง นางเน้นย้ำเป็นพิเศษ!ฉู่หนิงเลิกคิ้ว “องค์หญิงเฟ

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 96

    กลับเป็นเสิ่นหว่านอิ๋งที่มองฉู่หนิงอย่างขอโทษ จากนั้นจึงคล้องแขนมารดาตัวเองเข้าไปพร้อมกันฉู่หนิงลูบจมูกตัวเอง แล้วหัวเราะเจื่อน กลับไม่ได้ซักไซ้อะไรให้มากความ อย่างไรวันนี้เป้าหมายของเขาคือของขวัญของเหล่าองค์ชายและขุนนาง ท่าทีที่เสิ่นฮูหยินมีต่อเขาไม่ใช่เรื่องสำคัญ“ดูแลเสิ่นฮูหยินกับท่านหญิงให้ดี ข้าจะไปต้อนรับทุกคนที่หน้าประตูด้วยตนเอง!”ฉู่หนิงสั่งการเสร็จสรรพ จึงได้พากวนอวิ๋นและจ้าวอวี่สองคนเดินไปต้อนรับหน้าประตูจวนภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูป แขกที่มาร่วมงานคนแรกปรากฏตัวแล้วคนผู้นั้นอยู่ในชุดทะมัดทะแมงสีน้ำเงิน ผมยาวถักเปียเป็นเส้นเล็กมากมาย ปล่อยสยายอยู่บนบ่าและแผ่นหลังดวงตาสดใสมีชีวิตชีวาคู่นั้น เข้าคู่กับใบหน้าที่มีรอยยิ้มจาง ๆ หากไม่ใช่จ้าวเฟยเยี่ยนองค์หญิงสิบแห่งต้าจ้าวจะเป็นใครได้อีก!ฉู่หนิงอึ้งไปชั่วขณะ นึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะมาถึงเป็นคนแรกส่วนกวนอวิ๋นกับจ้าวอวี่สีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย เคลื่อนฝีเท้าไปข้างกายฉู่หนิง หากอีกฝ่ายกล้าก่อเรื่อง พวกเขาไม่ปล่อยไปง่ายๆ แน่!”“ขอแสดงความยินดีกับเผิงไหลจวิ้นอ๋องที่หมั้นหมายในวันนี้ ข้ามาด้วยตัวเอง ไม่ใช่ว่าจวิ้นอ๋องคงไม่อย

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 95

    “อะไรนะ ฉู่หนิงเอาเรื่องที่เรากับฮองเฮาจะไปร่วมงานหมั้นของเขาไปเผยแพร่หรือ?”คืนนั้น ภายในตำหนักอิงอู่ของวังหลวงเสียงประหลาดใจของฮ่องเต้ดังขึ้นมาองครักษ์เงาภายในตำหนักเอ่ยด้วยความเคารพว่า “เรื่องนี้แพร่กระจายในเมืองแล้วพ่ะย่ะค่ะ องค์ชายทั้งหมดกับขุนนางใหญ่ได้ยินข่าวนี้ก็กำลังเปลี่ยนของขวัญที่เตรียมไว้แต่เดิมกันแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ฮ่องเต้ตาเป็นประกายขึ้นมา ทำหน้าเข้าใจทันทีที่แท้ฉู่หนิงทำเพื่อของขวัญแสดงความยินดีที่คนเหล่านี้มอบให้ถึงแม้ว่าเดิมทีอยากเก็บเรื่องเข้าร่วมงานนี้ไว้อย่างเงียบ ๆ ข่มขวัญพวกคนที่อยากจะก่อความวุ่นวายในงานหมั้นเพื่อหนุนหลังฉู่หนิง แต่ในเมื่อฉู่หนิงอยากให้เอิกเกริก เช่นนั้นก็เอาให้เอิกเกริกไปเลยถึงอย่างไรของขวัญแสดงความยินดีที่ฉู่หนิงได้รับพวกนั้นก็ไม่อาจเก็บไว้ได้อยู่ดี ถูกนำไปใช้ในแนวหน้ามากกว่าครึ่งว่าไปแล้วนี่ก็เป็นเรื่องดีสำหรับต้าฉู่เหมือนกัน“ในเมื่อเรื่องแพร่ไปแล้ว เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังแล้ว จ้าวหมิง เจ้าให้กรมวังไปเตรียมราชรถสำหรับอีกสองวันข้างหน้า” “กระหม่อมน้อมรับคำสั่งพ่ะย่ะค่ะ!” จ้าวหมิงรับคำแล้วไปเตรียมการทันทีต่อมา ฮ่องเต้ก็เผยส

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status