แชร์

บทที่ 14

ผู้เขียน: สายลมไร้กาลเวลา
“ท่านอ๋อง จะให้ข้าน้อยไปสืบข่าวหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

จ้าวอวี่เป็นคนละเอียดรอบคอบ เมื่อเห็นฉู่หนิงนิ่งเงียบไปนาน เขาก็เอ่ยเสนอแนะขึ้นมา

การพระราชทานสมรสอย่างกะทันหันนั้นทำให้รู้สึกประหลาดใจ ยิ่งไปกว่านั้น ท่านหญิงเสิ่นผู้นั้น ยังเป็นถึงอัจฉริยะหญิงอันดับหนึ่งของต้าฉู่ ในเมื่อยังไม่ทราบพระประสงค์ของฮ่องเต้ ก็ควรจะไปสืบข่าวที่จวนเสิ่นเสียก่อน

แต่ฉู่หนิงกลับหัวเราะเบา ๆ ส่ายหน้าพลางเอ่ยขึ้น “ไม่ต้องหรอก ท่านหญิงเสิ่นผู้นั้นสูงศักดิ์เพียงใด จะยอมแต่งกับข้าได้อย่างไร?

เมื่อวานเสด็จพ่อทรงพระราชทานคนของกรมกลาโหมให้มาเป็นผู้คุ้มกันของข้า พวกเจ้าสองคนตามข้าไปที่ศาลาว่าการของกรมกลาโหมสักเที่ยวเถอะ”

ไม่ว่าการพระราชทานสมรสครั้งนี้จะเป็นหลุมพรางหรือไม่ ขอเพียงท่านหญิงเสิ่นไม่ยินยอม ฮ่องเต้ก็คงจะไม่สามารถบังคับให้นางแต่งเข้ามาได้กระมัง?

แม้ว่าจะเป็นการพระราชทานสมรส ยากที่จะขัดราชโองการได้ แต่ฐานะของท่านหญิงเสิ่นนั้นพิเศษนัก หากนางไม่ต้องการแต่งจริง ๆ ฮ่องเต้จะสามารถบังคับนางได้หรือ?

หากเป็นเช่นนั้น ฮ่องเต้ย่อมถูกผู้คนครหาเป็นแน่

ราชโองการฉบับนี้ ส่วนใหญ่แล้วก็คงจะเป็นเพียงการแสดงให้คนอื่นดูเท่านั้น

เรื่องเร่งด่วนในตอนนี้คือการนำคนกลุ่มนั้นจากกรมกลาโหมมาไว้ในมือให้ได้ก่อน เพื่อให้แน่ใจว่ากองกำลังคุ้มกันได้ก่อตั้งขึ้นเป็นรูปเป็นร่างแล้ว

ในฐานะองค์ชาย หากข้างกายไม่มีกองกำลังคุ้มกัน การเดินทางไปแนวหน้าครั้งนี้ อย่าว่าแต่จะถูกกองทัพศัตรูกำจัดเลย คนของต้าฉู่เองก็อาจจะกำจัดเขาได้!

ภายใต้การคุ้มกันของกวนอวิ๋นและจ้าวอวี่ ทั้งสามคนก็มุ่งหน้าไปยังกรมกลาโหม

ส่วนทางด้านนี้ หัวหน้าขันทีจ้าวหมิงได้นำราชโองการมาถึงจวนเสิ่น

จวนเสิ่นไม่ได้ใหญ่โตนัก ก่อด้วยอิฐสีเขียวหลังคามุงกระเบื้องสีดำ ตัดกับจวนสูงตระหง่านกำแพงใหญ่โตที่อยู่รอบข้างอย่างเห็นได้ชัด

ภายในเรือนหลังของจวน เสียงพิณอันไพเราะดังแว่วมาจากห้องส่วนตัวของหญิงสาว

ปรากฏร่างของหญิงสาวนางหนึ่งในชุดสีเขียว คิ้วเรียวงามดั่งใบหลิว ดวงตาที่สดใสเปล่งประกาย ยากที่จะลืมเลือนได้เมื่อแรกเห็น

สันจมูกโด่งรับกับใบหน้างดงามไร้ที่ติ ประกอบกับริมฝีปากแดงดั่งผลเชอร์รี ทำให้หัวใจสั่นไหว

ถัดจากลำคอระหงลงมาคือเนินอกที่อวบอิ่มดั่งขุนเขา ผ้าคาดเอวสีน้ำเงินเส้นหนึ่งผูกอยู่ที่เอว เผยให้เห็นเอวบางร่างน้อย

สตรีผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่คือเสิ่นหว่านอิ๋งทายาทของราชวงศ์ก่อน!

ในฐานะท่านหญิง ทั้งยังเป็นอัจฉริยะหญิงอันดับหนึ่งแห่งต้าฉู่ ประกอบกับรูปโฉมที่งดงามไร้ที่ติ บุรุษใดได้เห็นนางก็ยากที่จะหักห้ามใจได้

ทว่า เสียงพิณในยามนี้กลับแฝงไปด้วยความกังวล ชวนให้ผู้ฟังรู้สึกสะเทือนใจ

ข้าง ๆ กันนั้น สตรีอีกคนหนึ่งในชุดรัดกุม ใบหน้าเปี่ยมด้วยความองอาจกำลังนั่งเบื่อหน่ายอย่างที่สุด นั่งลงจิบชาได้ไม่ถึงสองอึกก็ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง

เดิมทีคิดจะขัดจังหวะสหายสนิทของตน แต่เมื่อนึกถึงนิสัยดื้อรั้นของนาง หากไม่ให้นางบรรเลงเพลงนี้จนจบ เกรงว่าจะไม่สามารถพานางออกไปข้างนอกได้

เฝิงมู่หลานส่ายหน้าอย่างจนปัญญา ทำได้เพียงรอให้เสิ่นหว่านอิ๋งบรรเลงจนจบอย่างเงียบ ๆ

ทว่า ในขณะที่เสิ่นหว่านอิ๋งคิดว่าตนเองจะต้องนั่งรอเวลาอันน่าเบื่อหน่ายนี้ผ่านไปเช่นเคย เสียงของสาวใช้ก็ดังมาจากนอกเรือน

“คุณหนู คนจากในวังมาเจ้าค่ะ ทั้งยังนำราชโองการของฝ่าบาทมาด้วย เชิญคุณหนูและฮูหยินผู้เฒ่าไปรับราชโองการเจ้าค่ะ!”

เสียงพิณหยุดลงกะทันหัน บนใบหน้างดงามของเสิ่นหว่านอิ๋งปรากฏความประหลาดใจ “แปลกจริง เหตุใดฝ่าบาทจึงส่งคนมาประกาศราชโองการกะทันหัน ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องอันใด”

เฝิงมู่หลานหัวเราะเบา ๆ เดินเข้าไปจับมือเสิ่นหว่านอิ๋ง “พวกเราไปรับราชโองการก็รู้แล้วมิใช่หรือว่าเป็นเรื่องอันใด?”

ระหว่างที่พูด นางก็ดึงเสิ่นหว่านอิ๋งออกจากห้องส่วนตัว มุ่งหน้าไปยังเรือนด้านหน้าทันที

เสิ่นฮูหยินที่ได้รับข่าวก็มาถึงในขณะนั้นพอดี ทั้งสามคนพร้อมด้วยสาวใช้และบ่าวชายต่างพากันคุกเข่าลง

จ้าวหมิงเปิดราชโองการออก อ่านด้วยสีหน้าจริงจัง “ตระกูลเสิ่นมีบุตรสาวนามว่าหว่านอิ๋ง เราได้ยินว่าเจ้ารูปโฉมงดงามโดดเด่น เปี่ยมไปด้วยความสามารถ ปีนี้ก็อายุครบสิบแปดปีบริบูรณ์แล้ว จึงขอพระราชทานสมรสให้แก่เจ้ากับเผิงไหลจวิ้นอ๋อง!”

ทั้งสามคนที่ก้มหน้ารอรับราชโองการอยู่ เมื่อได้ยินดังนั้นสีหน้าก็พลันเปลี่ยนไปอย่างมาก

เผิงไหลจวิ้นอ๋อง องค์ชายลูกนอกสมรสของฮ่องเต้ องค์ชายตัวตายตัวแทนที่กำลังจะไปแนวหน้าหรือ?

แต่งให้กับคนเช่นนี้ เกรงว่ายังไม่ทันจะผ่านช่วงดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ก็ต้องกลายเป็นม่ายแล้ว!

แม้ว่าเสิ่นหว่านอิ๋งจะรอบรู้หนังสือจนแตกฉาน แต่ในตอนนี้ใบหน้าก็อดซีดเผือดไม่ได้ ปรากฏความขุ่นเคืองออกมา

ส่วนเสิ่นฮูหยินนั้นในใจสั่นสะท้าน ความขมขื่นอัดแน่นอยู่ในอก

เดิมทีเป็นทายาทของราชวงศ์ก่อน บัดนี้กลับกลายเป็นของเล่นของราชวงศ์ อยากจะทำอะไรก็ทำ!

แม้ว่าตระกูลเสิ่นจะไม่ได้เป็นราชวงศ์อีกต่อไป แต่อย่างไรเสียก็เคยรุ่งเรืองมาก่อน แผ่นดินของต้าฉู่ก็แย่งชิงมาจากมือของตระกูลเสิ่น ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันกลับไม่คำนึงถึงเรื่องเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย ยืนกรานจะพระราชทานสมรสให้หว่านอิ๋งแก่เจ้าตัวตายตัวแทนฉู่หนิงนั่น

ไม่ได้ บุตรสาวของข้าเป็นถึงท่านหญิง จะแต่งให้กับฉู่หนิงนั่นแบบนี้ได้อย่างไร

เสิ่นฮูหยินตัดสินใจแน่วแน่ ดวงตาฉายแววเด็ดเดี่ยว เงยหน้าขึ้นมองจ้าวหมิง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “หัวหน้าจ้าว เรื่องนี้ตระกูลเสิ่นของข้าไม่ตกลง ข้าจะเข้าวังไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทเดี๋ยวนี้!”

จ้าวหมิงได้ยินดังนั้น สายตาก็พลันเย็นชา กล่าวด้วยเสียงแหลม “อะไรกัน เสิ่นฮูหยินท่านจะขัดราชโองการหรือ?”

ทหารรักษาพระองค์ที่อยู่ด้านหลังรีบพุ่งเข้ามาทันที!

เฝิงมู่หลานขมวดคิ้ว ลุกขึ้นยืนปกป้องเสิ่นฮูหยินและเสิ่นหว่านอิ๋งไว้ข้างหลังทันที แล้วกล่าวเสียงเย็น

“หว่านอิ๋งไม่เต็มใจที่จะแต่งให้เผิงไหลจวิ้นอ๋อง ก่อนที่ฝ่าบาทจะทรงมีราชโองการ เหตุใดถึงไม่ทรงถามความคิดเห็นของหว่านอิ๋ง?”

จ้าวหมิงหัวเราะเยาะ “เจ้าเป็นใคร กล้าดีอย่างไรมายุ่งเรื่องนี้?”

เฝิงมู่หลานเลิกคิ้ว เชิดหน้าพลางเอ่ยขึ้น “ข้าคือเฝิงมู่หลาน บุตรสาวของรองเสนาบดีเฝิงแห่งกรมกลาโหม!”

เสิ่นหว่านอิ๋งรีบดึงมือของเฝิงมู่หลาน แล้วกระซิบเบา ๆ “มู่หลาน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า ข้าจะจัดการเอง”

เฝิงมู่หลานกลับขมวดคิ้ว “ฝ่าบาททรงมีราชโองการลงมาแล้ว เจ้าจะยังจัดการได้อย่างไร?”

เสิ่นหว่านอิ๋งกำลังจะเอ่ยปาก แต่สีหน้าของจ้าวหมิงมืดมน สายตากวาดมองหญิงสาวทั้งสองแวบหนึ่ง กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ราชโองการใช่เรื่องล้อเล่นหรือ? ฝ่าบาททรงมีราชโองการลงมาแล้ว หากวันนี้ไม่รับราชโองการ คนที่เหลือในจวนเสิ่นนี้อย่าหวังว่าจะรอดชีวิตออกไปได้!”

ทันทีที่คำนี้หลุดออกมา ทหารรักษาพระองค์โดยรอบก็ชักอาวุธออกมาทันที

พร้อมกับเสียงเคร้งที่ดังขึ้น คมอาวุธเปล่งประกายเย็นเยียบ ราวกับสัตว์ร้ายที่พร้อมจะขย้ำคน!

คนของตระกูลเสิ่นตกใจจนหน้าซีดเผือด สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่เสิ่นหว่านอิ๋ง

ในยามนี้ มีเพียงเสิ่นหว่านอิ๋งเท่านั้นที่จะช่วยพวกเขาได้

หากปฏิเสธ วันนี้จวนเสิ่นจะต้องนองเลือดอย่างแน่นอน

ถึงจะเป็นทายาทของราชวงศ์ก่อน ก็ไม่สามารถขัดราชโองการได้!

แม้ในใจของเสิ่นฮูหยินจะหวาดกลัว แต่เมื่อนึกถึงความสุขในช่วงครึ่งหลังของชีวิตบุตรสาว นางก็ยังคงรวบรวมความกล้า ทำความเคารพจ้าวหมิง

“หัวหน้าจ้าว เรื่องนี้ได้โปรดผ่อนปรนด้วยเถิด ราชโองการฉบับนี้ข้ายังไม่รับในตอนนี้ รอให้ข้าเข้าวังไปทูลขอความเมตตาจากฝ่าบาทก่อนแล้วค่อยว่ากันได้หรือไม่?”

“ใครก็ได้ ไปนำปิ่นปักผมทองคำอันนั้นของข้ามา!”

กฎระเบียบในวัง เสิ่นฮูหยินย่อมรู้ดี นางคิดจะให้สินบนแก่จ้าวหมิงมากขึ้นอีกหน่อย เพื่อที่จะยังไม่รับราชโองการชั่วคราว

แต่จ้าวหมิงกลับแค่นเสียงเย็น “ไม่จำเป็น วันนี้เจ้ามีทางเลือกเพียงสองทางเท่านั้น ก็คือรับราชโองการเตรียมงานแต่งงาน หรือไม่ก็คนในจวนเสิ่นทั้งหมดจะต้องตายในวันนี้เพราะพวกเจ้า!”

คำพูดนี้ ทำให้เสิ่นฮูหยินราวกับถูกสายฟ้าฟาด ถอยหลังไปสองก้าว ใบหน้าซีดเผือดราวกับกระดาษ

เสิ่นหว่านอิ๋งรีบเข้าไปประคองมารดาของตน แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ท่านแม่มิต้องทำเช่นนี้ เรื่องนี้ลูกมีแผนการในใจแล้ว ขอเพียงเผิงไหลจวิ้นอ๋องปฏิเสธการแต่งงานด้วยตนเอง ฝ่าบาทก็ทำได้เพียงถอนรับสั่ง”

พูดจบ ท่ามกลางสายตาประหลาดใจของทุกคน เสิ่นหว่านอิ๋งก็ยื่นสองมือออกไปรับราชโองการมาอย่างนอบน้อม

“เสิ่นหว่านอิ๋งรับราชโองการ ขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณของฝ่าบาท!”

จ้าวหมิงวางราชโองการลงในมือนาง กล่าวอย่างมีความหมายลึกซึ้ง “ท่านหญิง จงประพฤติตัวให้ดี!”

กล่าวจบ จ้าวหมิงก็นำทหารรักษาพระองค์จากไป

เฝิงมู่หลานจ้องมองแผ่นหลังของจ้าวหมิงที่จากไปอย่างเคียดแค้น แล้วจึงหันกลับมามองเสิ่นหว่านอิ๋ง “พอดีเลย วันนี้ที่ข้ามาหาเจ้าก็เพราะเรื่องของคนผู้นี้เหมือนกัน เจ้าคนน่ารังเกียจนี่ถึงกับทำให้ฝ่าบาททรงย้ายคนของบิดาข้าไปเป็นผู้คุ้มกันให้เขา!

ข้ารู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน ไปกัน ข้าจะพาเจ้าไปหาเขา!”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 350

    พอพูดจบ เฝิงมู่หลานออกจากห้องรับแขกความจริงใช่ว่านางจะไม่รู้ฐานะของตนเอง เพียงแต่เมื่อคิดว่าฉู่หนิงกำลังจะแต่งงานกับเสิ่นหว่านอิ๋ง ภายในใจนางหึงหวงอย่างมากจงใจหาข้ออ้างตามเสิ่นหว่านอิ๋งมาด้วย ก็เพื่ออยากอยู่กับฉู่หนิงให้นานขึ้นเท่านั้นแต่ตอนนี้เมื่อเห็นท่าทางเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยของฉู่หนิงและเสิ่นหว่านอิ๋ง ในใจนางทรมานยิ่งกว่าไม่สู้จากมา ไม่เห็นจะได้ไม่ต้องรกตา!เสิ่นหว่านอิ๋งไม่ได้รั้งไว้ นางรู้ว่าฉู่หนิงพานางมาที่นี่ต้องมีธุระแน่นอนเป็นไปตามคาด ฉู่หนิงยิ้มแล้วเดินมาข้างกาย จับมือนางแล้วเอ่ยขึ้น “ในที่สุดก็มีเวลาสำหรับพวกเราสองคนแล้ว”เสิ่นหว่านอิ๋งเคยชินกับการถูกฉู่หนิงจับมือ ครั้งนี้จึงไม่หน้าแดง“ท่านพาข้ามา คงไม่ใช่แค่เรื่องให้ข้ารับผิดชอบงานแต่งหรอกนะ?”“ไม่ใช่แน่นอน!”ฉู่หนิงพาเสิ่นหว่านอิ๋งไปนั่งลง แล้วยิ้ม “นอกจากเรื่องงานแต่ง ทางปิงโจวก็ต้องให้เจ้าช่วย”เสิ่นหว่านอิ๋งส่ายหน้าเบาๆ “ข้ารู้อยู่แล้วว่าท่านไม่หวังดี เงื่อนไขของท่านในคืนนี้เท่ากับเปลี่ยนปิงโจวให้กลายเป็นพื้นที่ของตัวเอง อยากปกครองทางโน้นให้ดี ถ้าไม่มีตัวเลือกที่เหมาะสมคงไม่ได้”หยุดไปครู่หนึ่ง นา

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 349

    จวนอ๋องฉู่แสงไฟภายในห้องรับแขกกระพริบ กลิ่นชาอบอวล ทำให้จิตใจผ่อนคลายฉู่หนิงนั่งตรงตำแหน่งประธานจิบชาร้อนหนึ่งคำ ถึงได้รู้สึกว่าร่างกายอบอุ่นไม่น้อย อาการมึนเมาเมื่อครู่ก็ตื่นขึ้นมาบ้างย่างเข้าเดือนสิบเอ็ดแล้ว อากาศเริ่มเย็นลง ฉู่หนิงกลัวเสิ่นหว่านอิ๋งหนาว จึงอดยิ้มไม่ได้ “หว่านอิ๋ง ดื่มชาร้อนอุ่นร่างกายสักถ้วย”เสิ่นหว่านอิ๋งพยักหน้า ยกถ้วยน้ำชาดื่มหนึ่งคำใครจะไปคิดว่ายามนี้ เฝิงมู่หลานที่อยู่ข้างกันกลอกตา “ทำไม ให้แค่หว่านอิ๋งดื่มชา ไม่ให้คุณหนูอย่างข้าดื่มหรือ?”ฉู่หนิงปวดหัวไม่น้อยก้างขวางคอชิ้นโตอยู่ตรงนี้เกะกะเหลือเกิน ข้าอยากพัฒนาความสัมพันธ์กับหว่านอิ๋งอีกขั้น ก็ยังไม่มีโอกาสทว่า หากจัดการหญิงป่าเถื่อนอย่างเฝิงมู่หลานได้ไม่ดี เกรงว่าข้าคงไม่มีวันสงบสุขฉู่หนิงวางถ้วยน้ำชาลง แล้วยิ้มเจื่อน “ข้าแค่เป็นห่วงร่างกายหว่านอิ๋งจะหนาว คุณหนูเฝิงเจ้าวรยุทธ์สูงส่ง ย่อมไม่กังวลเรื่องนี้แต่ชานี่ก็เป็นชาที่ดีจริงๆ หากคุณหนูเฝิงสนใจก็ลองชิมดูสักคำ”เฝิงมู่หลานกลับทำเสียงฮึดฮัด “ข้าไม่สนใจชาของเจ้าหรอก!”มุมปากฉู่หนิงกระตุก ทำหน้าหมดคำพูดเจ้าว่าข้าไม่ให้เจ้าดื่ม พอตอนนี้ให

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 348

    เอาอีกแล้ว!โรคแคลงใจที่องค์รัชทายาทสืบทอดมาจากฮ่องเต้!หลิงเฟยเยียนสีหน้ามืดครึ้ม บนใบหน้างดงามปรากฏแววโกรธ “ฉู่หนิงเพิ่งกลับเมืองหลวง หม่อมฉันจะไปมีอะไรกับเขาได้อย่างไร?”องค์รัชทายาทชะงักถูกต้อง ฉู่หนิงเพิ่งกลับมา เป็นไปไม่ได้ที่จะมีเวลามาหาหลิงเฟยเยียนหรือข้าคิดมากเกินไป?องค์รัชทายาทที่หายโกรธถึงได้ปล่อยมือหลิงเฟยเยียน สูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามให้ตัวเองสงบลง“ข้าวู่วามไปเอง เจ้าฉู่หนิงนั่นน่าชังยิ่งนัก ถึงขนาดโต้แย้งข้าต่อหน้าธารกำนัล!”องค์รัชทายาทมองข้อมือหลิงเฟยเยียนแวบหนึ่ง แสร้งเอ่ยอ่อนโยน “มือเจ้าไม่เป็นไรนะ?”ขณะที่พูด เขาอยากเข้าไปตรวจดูแต่ใครจะคิดหลิงเฟยเยียนถอยหลังสองก้าว เอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชา “หากองค์รัชทายาทไม่มีเรื่องอื่น หม่อมฉันขอตัวก่อน”พูดจบก็ไม่รอองค์รัชทายาทตอบ หันหลังจากไปทันทีองค์รัชทายาทยื่นมือออกไปอยากเรียกหลิงเฟยเยียนไว้ แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่เมื่อครู่เขากระทำต่อนาง ก็ไม่รู้จะเริ่มเอ่ยปากอย่างไร ได้แต่ทนดูหลิงเฟยเยียนจากไปต่อหน้าต่อตาหญิงชั้นต่ำผู้นี้ ถึงขนาดกล้าชักสีหน้าใส่ข้าเชียวหรือ!ฮึ หากไม่เห็นแก่บิดาของเจ้าที่ยังมีประโยชน์ต่อข้า จะป

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 347

    ฉู่หนิงได้รับสิทธิ์ในการปกครองตนเองที่เขาอยากได้จากฮ่องเต้แล้ว จึงเตรียมจากไป แต่องค์รัชทายาทกลับหาเรื่องเหล่าขุนนางที่อยู่ตรงนี้ก็ไม่ไปแล้ว แต่ละคนล้วนกำลังรอดูละครฉากเด็ดยิ่งองค์ชายอื่นๆ ยิ่งเผยสีหน้าเพลิดเพลิน อยากให้องค์รัชทายาทลงมือกับฉู่หนิงเหลือเกินแม้จะไม่ทำให้ฉู่หนิงถึงตายทันที แต่ลดทอนอำนาจและชื่อเสียงของฉู่หนิงน่าจะได้ศึกนี้ทำให้ชื่อเสียงฉู่หนิงโด่งดัง อยู่เหนือองค์ชายทุกคน ทำให้พวกเขาไม่สบอารมณ์อย่างยิ่งจำเป็นต้องลดทอนชื่อเสียงของฉู่หนิง พวกเขาถึงจะผงาดขึ้นมาได้!ขณะที่ทุกคนรอดูละครฉากเด็ด ฉู่หนิงเลิกคิ้ว หันมององค์รัชทายาท“ท่านพี่องค์รัชทายาท ความจริงน้องมีเรื่องหนึ่งที่ไม่กระจ่าง ขอท่านพี่องค์รัชทายาทโปรดชี้แนะด้วย”องค์รัชทายาทแค่นหัวเราะ สองมือไพล่หลัง ทำหน้าเย่อหยิ่ง “เรื่องที่ทำให้น้องสิบแปดไม่กระจ่าง ข้าอยากรู้นัก”ฉู่หนิงชี้นิ้วไปที่หลิงเฮ่าหรานท่ามกลางเหล่าขุนนาง เอ่ยเสียงเรียบ “เสนาบดีกรมอาญาคือใต้เท้าหลิง ท่านพี่องค์รัชทายาทไม่ได้ดูแลกรมอาญา เหตุใดท่านจึงมักจะทำงานแทนกรมอาญา?”“ข้า...” องค์รัชทายาทกำลังจะอธิบายฉู่หนิงยิ้มแล้วพูดขัดขึ้น “ท่านพี่อ

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 346

    ฮ่องเต้เลิกคิ้ว มององค์รัชทายาทแวบหนึ่งเรายังไม่เอ่ยปาก เจ้ารีบร้อนอะไร?องค์รัชทายาทหดคอ ชั่วขณะนั้นไม่กล้าพูดสิ่งใดนิสัยฮ่องเต้ก็เป็นเช่นนี้ เมื่อครู่ยังยิ้มแย้ม แต่ปุบปับก็อาจโกรธเคือง อย่างไรระวังไว้ก่อนดีกว่าโชคดีที่ฮ่องเต้ไม่ได้จ้ององค์รัชทายาทตลอด หันมองฉู่หนิง แล้วเอ่ยเสียงเรียบ “เงื่อนไขของเจ้า เราสามารถรับปาก”ฉู่หนิงตาลุกวาวทว่าต่อมาฮ่องเต้กลับส่ายหน้า “แต่สิบปี นานเกินไป!”หลังหยุดไปชั่วครู่ ฮ่องเต้ยื่นฝ่ามือขวาออกมา แล้วเอ่ยเชื่องช้า “เอาอย่างนี้ เราให้เวลาเจ้าห้าปี ว่าอย่างไร?”ฉู่หนิงหน้าเศร้า “ห้าปีน้อยเกินไปแล้ว เสด็จพ่อ พระองค์ก็ต่อรองโหดเกินไปแล้วกระมัง หั่นครึ่งเช่นนี้ได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”“แต่ในเมื่อเสด็จพ่อเอ่ยปาก กระหม่อมก็ต้องให้เกียรติพระองค์ เอาอย่างนี้ แปดปี แปดปีเป็นอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”ทั้งสองต่อรองกันไปมาเหล่าองค์ชายและเหล่าขุนนางรอบข้างต่างตะลึงนี่เป็นเรื่องใหญ่ของบ้านเมือง ไฉนทั้งสองจึงทำตัวเหมือนแม่ค้าตลาดสดซะอย่างนั้น?ท่ามกลางสายตาประหลาดใจของทุกคน ฮ่องเต้เลิกคิ้ว “แปดปีหรือ? นานไปหน่อย เอาอย่างนี้ เรากับเจ้าถอยกันคนละหนึ่งก้าว เจ็ดปี

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 345

    “เงื่อนไขหรือ?”ฮ่องเต้ตะลึงเรามอบอำนาจทางทหารให้เจ้า เจ้ายังยื่นเงื่อนไขกับเราหรือ?หรืออำนาจทางทหารของต้าฉู่ตกต่ำจนถึงขั้นนี้แล้ว?“ถูกต้อง หากเสด็จพ่อยอมรับเงื่อนไขของกระหม่อมได้ กระหม่อมถึงจะกล้ารับช่วงทหารแนวหน้า ไม่อย่างนั้นกระหม่อมยอมถูกพระองค์ตำหนิก็จะทิ้งตราอาญาสิทธิ์ไว้พ่ะย่ะค่ะ!”ท่าทางของฉู่หนิงหนักแน่น ขณะกล่าว ตราอาญาสิทธิ์ในมือถูกเขาวางไว้บนโต๊ะมุมปากฮ่องเต้กระตุก ในใจไม่ค่อยสบอารมณ์องค์รัชทายาทข้างกันสังเกตเห็นสีหน้าผิดปกติของฮ่องเต้ จึงอดไม่ได้ต้องหรี่ตา ทั้งมีความแปลกใจแวบผ่านหากคืนนี้ไม่ให้ฉู่หนิงรับตราอาญาสิทธิ์ไป เสด็จพ่อต้องเลือกให้ข้าหรือหนึ่งในท่ามกลางองค์ชายอื่นรับตราอาญาสิทธิ์เอาไว้ ถึงยามนั้น เรื่องยุ่งยากกลับมาตกอยู่ที่ข้าไม่ได้ ต้องทำให้ฉู่หนิงรับตราอาญาสิทธิ์ไว้“เสด็จพ่อ น้องสิบแปดเพิ่งชนะศึกกลับมา อย่างไรลองฟังเงื่อนไขของเขาก่อนดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ”องค์รัชทายาทยิ้มอย่างประนีประนอม “หากเงื่อนไขของน้องสิบแปดมีเหตุผล ทางราชสำนักจะพิจารณาอย่างเหมาะสม”ใครก็รู้ว่าฮ่องเต้รักหน้าตา หากไม่ให้ทางลงแก่ฮ่องเต้ ฮ่องเต้คงไม่ยอมรับปากโดยง่ายองค์ชายอื่น

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status