LOGIN“ถ่ายทอดคำสั่งลงไป เรียกคนจากตระกูลใหญ่จากปิงโจวเข้าเฝ้า!”เมื่อเสียงแหลมแสบหูของหัวหน้าขันทีดังขึ้น คนของตระกูลใหญ่จากปิงโจวที่รออยู่นอกวังก็ถูกเรียกเข้ามาไม่นาน คนทั้งแปดก็เข้ามายังท้องพระโรง“กระหม่อม ถวายพระพรฝ่าบาท!”ทั้งแปดคนคุกเข่าพูดเสียงดัง “ขอฝ่าบาททรงมอบความเป็นธรรมให้พวกข้าด้วย!”ฮ่องเต้กวาดตามองคนทั้งแปด พบว่ามีเป็นชายชราสามคน ชายวัยกลางคนสองคน แล้วก็ชายหนุ่มสองคนกับหญิงสาวอีกหนึ่งคน“พวกเจ้าเป็นผู้ใด ฉู่หนิงได้ทำการทารุณพวกเจ้าที่ปิงโจวอย่างไร?” ฮ่องเต้ขมวดคิ้วถามทั้งแปดคนทยอยกันบอกชื่อของตนชายชราทั้งสามเป็นผู้นำจากตระกูลเฮ่อ ตระกูลหลี่ และตระกูลหลิว ชายวัยกลางคนสองคนเป็นผู้นำจากตระกูลจางกับตระกูลเฉิง ชายหนุ่มสองคนเป็นนายน้อยจากตระกูลโจวกับตระกูลหลินส่วนหญิงสาวเพียงคนเดียว เป็นคุณหนูใหญ่จากตระกูลเซี่ย—เซี่ยอวี่เวยเฮ่อหยางผิงซึ่งเป็นผู้นำตระกูลเฮ่อเป็นที่เคารพนับถือ และตระกูลเฮ่อก็เป็นตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในปิงโจว เขาพูดทั้งน้ำตาว่า“ฝ่าบาท ระบบเช่าที่ดินทำกินของฉู่อ๋อง มุ่งเป้าโจมตีมาที่ตระกูลผู้มีอิทธิพลอย่างชัดเจน”“ฉู่อ๋องให้พวกข้าส่งมอบที่ดินทำกิน หากปฏ
วันต่อมา วังหลวงท้องพระโรงโอ่อ่า มีเสามังกรเก้าต้นตั้งตระหง่าน ด้านบนสลักลายสิงสาราสัตว์ บรรยากาศยิ่งใหญ่น่าเกรงขามเต็มเปี่ยมขุนนางในราชสำนักยืนเข้าแถวเรียงรายสองฝั่งเหมือนเช่นปกติแต่ว่า บรรยากาศในท้องพระโรงวันนี้กลับผิดแปลกไป กลุ่มขุนนางกระซิบกระซาบ ไม่เหลือความสุขุมเหมือนปกติในตอนนี้เอง มีเสียงแหลมสูงดังขึ้น “ฮ่องเต้เสด็จ!”“ถวายพระพรฝ่าบาท!” ภายใต้การโค้งคำนับของบรรดาขุนนาง ฮ่องเต้ในฉลองพระองค์ลายมังกรสีเหลืองทองก็สืบเท้าเดินเข้ามา“ขุนนางรักทุกท่านไม่ต้องมากพิธี!”ฮ่องเต้รวบชายฉลองพระองค์ด้วยมือทั้งสองข้าง ค่อย ๆ นั่งลงบนบัลลังก์มังกร “มีเรื่องก็กราบทูลมา หากไม่มีก็เลิกประชุม”เพิ่งจะสิ้นเสียง สายตาทุกคู่พลันจ้องมองไปยังเฉินกั๋วเวยผู้เป็นเสนาบดีกรมคลังเขาก้าวออกมาจากแถวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม กล่าวด้วยเสียงทุ้มว่า “กระหม่อม มีเรื่องจะกราบทูลพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้หรี่พระเนตรลงในที่สุดก็มาแล้วอย่างนั้นหรือ!ตลอดทั้งเมื่อวาน มีเจ้าหน้าที่กรมขังถูกจับไปสิบกว่าคน ในฐานะเสนาบดีกรมคลัง เฉินกั๋วเวยทนอยู่เฉยไม่ได้!“ขุนนางรักเฉินมีเรื่องสำคัญอันใด?” ฮ่องเต้แสร้งทำเหมือนแปลกใจ
ในเวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งวัน กรมอาญาจับเจ้าหน้าที่ไปมากกว่าสิบคน ในจำนวนนี้ยังมีขุนนางขั้นสี่รวมอยู่ด้วย ทำให้คนของกรมการคลังเริ่มแตกตื่นหลายคนถึงขั้นเริ่มหารือกันอย่างลับๆ เพื่อความปลอดภัยของตนเอง ควรร้องเรียนเพื่อนร่วมงานของตนเองหรือไม่?แต่ในขณะที่ผู้คนกำลังแตกตื่น เฉินกั๋วเวยกลับเรียกทุกคนมาประชุมในที่ว่าการกรมการคลังกลางดึก คบเพลิงส่องสว่างไปทั่วทั้งห้องโถงใหญ่ของกรมการคลังเจ้าหน้าที่กรมการคลังหลายสิบคนยืนเรียงกันเป็นสองแถว บนใบหน้าแต่ละคนฉายแววกังวล“เฮ้อ ไม่รู้ว่าเรื่องราวมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร”“ใช่ๆ ทั้งที่แค่ฉู่อ๋องถูกลอบสังหาร เหตุใดกรมการคลังของพวกเราจึงถูกดึงเข้าไปพัวพัน?”“ก็ใช่น่ะสิ ตอนนี้เจ้าหน้าที่กรมการคลังของเราถูกจับไปหลายคนแล้ว กรมอื่นๆ ต่างพากันหัวเราะเยาะ”“ฮึ่ม กรมอาญาอยู่ในระดับเดียวกับพวกเรา พวกเขามีสิทธิ์อะไรมาจับคนที่นี่ ข้าว่า อย่างมากก็พังพินาศกันไปทั้งสองฝ่ายเลย!”“ไม่ได้เด็ดขาด ฉู่อ๋องมีส่วนร่วมกับเรื่องนี้ด้วย เมื่อไรที่พวกเราลงมือ จะยิ่งทำให้ฉู่อ๋องมีข้ออ้างเล่นงานพวกเรา”บางคนไม่พอใจ บางคนกังวล บางคนกลัวในขณะที่ทุกคนกำลังถกเถียงกัน ทันใดนั้
“ใต้เท้า แย่แล้ว ใต้เท้าจางแผนกการเงินถูกกรมอาญาจับไปแล้ว!”“เรียนใต้เท้า ใต้เท้าหานแผนกเบิกจ่ายถูกร้องเรียน กรมอาญาไปจับเขาที่จวน”“ใต้เท้า ใต้เท้าเฮ่อผู้ตรวจการณ์แผนกทะเบียนราษฎร์ถูกกรมอาญาพาตัวไปแล้ว”ที่ว่าการกรมการคลัง เรือนส่วนหลัง หลังจากเจ้าหน้าที่เข้ามารายงานอย่างต่อเนื่อง สีหน้าของเสนาบดีกรมการคลังเฉินกั๋วเวยก็บึ้งตึงขึ้นเรื่อยๆกรมการคลังประกอบไปด้วยสี่แผนก ได้แก่แผนกทะเบียนราษฎร์ แผนกการคลัง แผนกเบิกจ่าย แผนกการเงิน เป็นหน่วยงานที่สำคัญที่สุดของราชสำนัก ตอนนี้กรมอาญาเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ เห็นได้ชัดว่าคิดจะลงเล่นงานกรมการคลังแม้ไม่รู้ว่าเหตุใดฮ่องเต้จึงทรงอนุญาตเรื่องนี้ แต่ทั้งหมดนี้ต้องเป็นเพราะฉู่อ๋องคอยผสมโรงอยู่เบื้องหลังแน่นอนหากไม่หาวิธีรับมือ กรมการคลังจบเห่แน่เฉินกั๋วเวยกล่าวเสียงเย็นด้วยสีหน้าบึ้งตึง “กรมอาญาจะจับคน พวกเราขวางไม่ได้ ทำได้เพียงหาทางอื่นเด็กๆ เอาบัตรเชิญของข้ามา ข้าจะไปเข้าเฝ้าองค์รัชทายาท!”เรื่องราวบานปลายมาถึงขั้นนี้ ไม่ใช่เรื่องที่เขาสามารถควบคุมได้คนเดียวแล้ว จำเป็นต้องร่วมมือกับกลุ่มอำนาจอื่นๆขุนนางกรมการคลังเกี่ยวพันกับผู้คนมากม
หลิงเฮ่าหรานไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับเรื่องนี้ ทำได้เพียงหันไปมองฉู่หนิงฉู่อ๋องเป็นคนเสนอเรื่องนี้เอง ต่อจากนี้จะตรวจสอบอย่างไร ท่านต้องต้องพูดอะไรหน่อยกระมัง?“ฉู่อ๋อง แล้วท่านคิดเห็นอย่างไร?”ฉู่หนิงพลันแสยะยิ้ม มุมปากปรากฏรอยยิ้มพินิจพิเคราะห์ “ในเมื่อจะเล่นงานกรมการคลัง เช่นนั้นก็เริ่มจากเสนาบดีกรมการคลัง!”สีหน้าหลิงเฮ่าหรานเปลี่ยนไปฉับพลัน “ไม่มีมูล ไม่มีหลักฐาน จะไปตรวจสอบใต้เท้าเฉินได้อย่างไร?”“ไม่มีหลักฐานก็หา……”ฉู่หนิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “อีกเดี๋ยวกรมอาญาออกไปประกาศ ใครก็ตามที่แจ้งเบาะแสการทุจริต การฉ้อโกง หรือใช้อำนาจโดยไม่ชอบของเฉินกั๋วเวย เมื่อไรที่ยืนยันแล้ว ตบรางวังทองพันตำลึง!หากเป็นคนในกรมการคลังแจ้งเบาะแสการทำผิดของเฉินกั๋วเวย ไม่ว่าเมื่อก่อนเขาเคยทำผิดหรือไม่ ข้าจะไม่สืบสาวเอาความเรื่องที่ผ่านมานอกจากนี้ ยังอนุญาตให้แจ้งเบาะแสการทำผิดของคนในกรมการคลัง หากได้รับการยืนยันว่าทำผิดจริง ตบรางวัลทองพันตำลึง!”คำพูดที่หนักแน่นทำเอาฉินอ๋องผู้เฒ่ากับหลิงเฮ่าหรานยืนตะลึงอยู่ตรงที่เดิมหากเขียนประกาศเช่นนี้จริงๆ ต่อจากนี้จะต้องมีผู้คนมากมายมาแจ้งเบาะแสกันทำผิดของเฉินกั๋
“ท่านอ๋อง นี่เป็นบัตรเชิญจากใต้เท้าหลิง เชิญท่านไปที่ว่าการกรมอาญาในช่วงเช้า บอกว่าจะหารือเรื่องการตรวจสอบกรมการคลัง”วันรุ่งขึ้น เรือนส่วนหลังจวนอ๋องหร่านหมิงถือบัตรเชิญจากหลิงเฮ่าหรานเดินเข้ามาฉู่หนิงที่กำลังเอนกายอยู่บนเก้าอี้นอนเผยอมุมปากเล็กน้อย “ดูเหมือนใต้เท้าหลิงได้นำเรื่องนี้ไปทูลเสด็จพ่อแล้ว จากนี้ทุกอย่างก็ง่ายแล้ว”ฉู่หนิงยื่นมือออกไปให้หร่านหมิงประคองตนเองลุกขึ้น แล้วมองไปทางเสิ่นหว่านอิ๋งที่อยู่ด้านข้าง “มื้อกลางวันไม่ต้องรอข้า”เสิ่นหว่านอิ๋งเดินเข้าไปจัดแจงเสื้อผ้าให้เขา แววตาเผยให้เห็นความกังวัลเสี้ยวหนึ่ง “จะทำเช่นนี้จริงหรือ? เรื่องนี้เมื่อเริ่มแล้วก็จะหยุดไม่ได้”เมื่อคืน ฉินหมิงบอกแผนของตนเองให้นางรู้แม้รู้สึกซาบซึ้งมากที่ฉู่หนิงออกหน้าให้ตระกูลเสิ่น แต่นางก็เข้าใจว่าเรื่องนี้ใหญ่เกินไป เกี่ยวข้องกับผู้คนมากมาย พลาดเพียงนิดเดียวอาจพังพินาศทั้งหมดในบรรดาขุนนางกรมการคลัง ไม่ได้มีเพียงคนของอ๋อง กั๋วกง และขุนนางใหญ่ ยังมีคนของตระกูลใหญ่ด้วย แต่ต้องคนเหล่านี้ กลุ่มอำนาจที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาไม่ยอมจบง่ายๆ แน่และทั้งหมดนี้ เพียงเพื่อออกหน้าให้ตระกูลเสิ่น!


![จะไม่ทนกับบทบาทนางร้าย [รีไรท์ตอนจบ]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)




