Home / แฟนตาซี / ศึกเทพชิงพิภพ / ตอนที่5 หมายความว่าอะไร

Share

ตอนที่5 หมายความว่าอะไร

last update Huling Na-update: 2025-05-07 23:27:42

“ข้าคิดว่า พวกเราสองดินแดนน่าจะร่วมมือเป็นพันธมิตรกัน แลกเปลี่ยนทำการค้าด้วยกัน และยังสามารถแลกเปลี่ยนความรู้ด้วยกันได้อีกด้วย” อสิซซ่าพูด

“ตูไม่เห็นอยากจะได้ความรู้อะไรจากสูเลย”  แคนนอร์สวน อลิซช่า ตั้งสติระงับอารมณ์โกรธและรีบพูดต่อไปว่า

“พวกท่านกับข้ามีศัตรูคนเดียวก็สมควรแล้วล่ะที่จะต้องร่วมกันสู้กับพวกมัน”

“นี่สูหาพวกตูจะสู้ ไอ้ตัวซีดนั่นไม่ได้หรือไงกัน !”  แคนนอร์เริ่มหัวเสียแล้ว อลิซซ่ารีบพูดว่า

“มิได้เป็นเช่นนั้น พวกเราต่างหากที่ต้องพึ่งความแข็งแกร่งของท่าน” อลิซซ่าพูด แคนนอร์ถามทันที

“หมายความว่าอะไร”

“พวกเราไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนท่าน จึงต้องให้ท่านช่วยเหลือ เราถึงจะต่อสู้กับพวกรานุนได้” อลิซซ่าพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แคนนอร์เริ่มมีทางทีที่อ่อนลง อลิซซ่าส่งสัญญาณ มารีสเป่าขลุ่ยนักดนตรีคนอื่นเริ่มเล่นเครื่องดนตรีของตนด้วยทำนองเพลงที่เป็นจังหวะเพลงช้า อลิซซ่าเป็นคนร้อง เสียงของนางไพเราะจับใจมาก จนทำให้แคนนอร์เริ่มที่จะเคลิ้ม แต่เพลงก็เริ่มที่มีจังหวะสนุกสนานขึ้น อลิซซ่าเริ่มร้ายรำด้วยลีลาสวยงามและอ่อนช้อย หลังเพลงจบ แคนนอร์ตบมือให้ด้วยความชื่นชม

“เยี่ยมมาก ตูตกลงที่จะเป็นพันธมิตรกับพวกสู”

            “ขอบพระคุณท่านมาก และยินดีที่เราจะเป็นมิตรกัน” อลิซซ่าพูด

            อลิซซ่าเดินทางกลับโดยมี พวกเผ่าลูตามส่งด้วย มารีสหันไปพูดกับนางว่า

            “ท่านเก่งนะที่เจรจาครั้งนี้สำเร็จ”

            “ก็ได้ดนตรีของเจ้าช่วยนั้นล่ะ มารีสไม่มีเจ้า ข้าทำไม่ได้หรอก” อลิซซ่าพูด มารีสโค้งให้อย่างสุภาพแล้วพูดว่า

“ขอเพียงท่านสั่งข้ายินดีทำให้ทุกอย่าง” ยังไม่ทันที่จะเข้าถึงเมืองก็มีทหารวิ่งมารายงานทันที

            “พวกเราโดนบุก ! ขอรับ”

            “พวกรานุนเหรอ” มารีสถาม

            “ไม่ใช่ขอรับ ! พวกเราไม่รู้เหมือนกันว่าพวกไหน แต่กองทัพมีทั้งเอลฟ์ ออร์ค และโดวาฟขอรับ”   

            “สั่งทหารเตรียมพร้อม องค์ราชินีท่านต้องไปอยู่ในที่ปลอดภัยก่อน” มารีสพูด

            “แต่ข้าต้องร่วมสู้กับประชาชนของข้านะ” อลิซซ่ารีบพูด มารีสแย้งว่า

            “ท่านต้องปลอดภัยก่อน และเรายังไม่รู้ว่าเจอกับอะไร”

            กองทัพที่กำลังโจมตีอยู่นั้น มีทั้งเอลฟ์ ออร์ค โดวาฟ ร่วมกองทัพด้วย แต่ทัพหลักนั้นเป็น สิ่งมีชีวิตที่เหมือนกับเอลฟ์แต่ไม่ได้หูแหลมเชิด พวกเขาล้วนมีรูปร่างกำยำล่ำสัน สวมเกราะเหล็กและหนังสัตว์ สวมหมวกเกราะ และมีอาวุธหลายชนิด ที่น่ากลัวคือ พวกนี้ไม่กลัวตาย ไม่กลัวเจ็บ และร้องตะโกนว่า

            “วาฮาล่า !”

อีกอย่างพวกนี้มีกองเรือตามมาด้วย และเรือนั้นไม่ได้แล่นในน้ำกลับแล่นอยู่บนฟ้า  หัวเรือเป็นรูปมังกร ไม่ก็สัตว์ร้ายสารพัดชนิด ผู้นำของพวกนี้บนเรือลำใหญ่ที่สุด เขาเป็นชายร่างสูงใหญ่ มีหนวดเครายาวสีขาว เขามีตาขวาเพียงข้างเดียว ตาซ้ายปิดด้วยผ้าปิดตา สวมหมวกปีกกว้าง ในมือถือจอกเหล้ารูปเขาสัตว์ เหนือบัลลังค์ของเขามีอีกาสองตัวเกาะอยู่ รอบตัวเขามีหญิงสาวสามคนอยู่เคียงข้าง

 คนแรกรูปร่างสูง ผิวเข้ม ตาคม  ผมยาวสีดำเป็นมันเหมือนกับเส้นไหม นางเป็นสาวงามที่ดูแล้วมีความเข้มแข็งหากไปยืนข้าง ๆ นักรบชายคนใด ข้าศึกจะต้องเกรงกลัว นางมีหูหมาจิ้งจอกสีขาวบนหัว นางคือ มาตาฮารี

อีกคนรูปร่างจะเตี้ยกว่าหน่อย แต่นางมีรูปร่างที่สมส่วนกว่า ผิวขาวเหมือนกับน้ำนม ผมยาวสีดำ มีหูหมาจิ้งจอกบนหัว นางมีใบหน้าสวยงามและเย้ายวนใจชาย หากนางไปยืนเคียงข้างชายใด ชายผู้นั้นคงมิอยากอยู่ห่างนางแม้เสี้ยวนาที ชายอื่นจะต้องมองตามด้วยความอิจฉา นางคือ ต้าจี้

คนที่สาม รูปร่างเล็กและดูเหมือนจะเด็กที่สุด มีหน้าตาสดใสและแฝงด้วยความซุกซน หากนางอยู่เคียงชายใด ชายผู้นั้นคงจะยิ้มทั้งวันเพราะความน่ารักของนาง นางคือ ทามาโมะ

ทั้งสามนางคือ ปีศาจหมาจิ้งจอกเก้าหาง ที่เคยทำให้ดาวหนึ่งในอีกจักรวาลเจอกับกลียุคมาแล้ว พวกนางหนีจากดาวดวงนั้น และหนีไปเรื่อย ๆ จนมาเจอมากองทัพนี้

“พวกเจ้านำทางได้ดีทีเดียวนะ ทำให้มาพบดินแดนใหม่จนได้” ชายตาเดียวพูดพลางยกจอกขึ้นดื่ม

“ก็ข้าบอกท่านแล้วไง ท่านโอดิน แอดการ์ดเล็กไปแล้วสำหรับท่าน” ต้าจี้พูด โอดินพยักหน้าและประกาศเสียงดังลั่น

“เหล่าทหารกล้าของข้าจงยึดดินแดนนี้ แห่งให้ได้ ภายในวันนี้ ที่นี่จะเป็นโลกใหม่ของพวกเรา”

“เพื่อโอดิน ! เพื่อนบ้านใหม่ของพวกเรา” ทหารร้องรับคำเสียงดังลั่น

เผ่าลู เข้าต่อสู้อย่างกล้าหาญ เพราะพวกนี้หากนับใครสหายจะปกป้องสุดชีวิต  แต่แล้วมีชายคนหนึ่งยืนขว้างหน้าอยู่ เขามีรูปร่างสูง สมส่วน  สวมเกราะ ไว้หนวดเคราสีทอง มีมือซ้ายเพียงข้างเดียว ส่วนมือขวานั้นกุด ยืนขว้างหน้าพวกเผ่าลู

“ถอยไป ไอ้ด้วน” แคนนอร์พูดเสียงดัง

“จริง ๆ ไม่ค่อยชอบฆ่าหมาป่าเท่าไหร่หรอก แต่ว่า มันเป็นหน้าที่ก็ต้องฆ่า ! พวกแกภูมิใจเถอะที่ได้ตายเพราะไทร์[1] ผู้นี้ !”  พูดจบ ไทร์ก็เรียกดาบออกมา เป็นเล่มใหญ่เกือบจะเท่าตัวของไทร์ และเมื่อเขาฟาดฟันดาบ เหล่าเผ่าลูก็ถูกฆ่าตายไปจำนวนมาก

แคนนอร์ตะลึง และยังไม่ทันไรก็ ค้อนด้ามหนึ่งลอยมากระแทกหัวเขาตายคาที่ ค้อนนั้นที่มีด้ามสั้น แต่หัวค้อนนั้นใหญ่มาก มันลอยกลับไปอยู่ในมือของคนที่ขว้างมา เขาเป็นชายร่างสูงใหญ่ ดูเหมือนจะเป็นคนอ้วนด้วยซ้ำ แต่กลับดูแล้วแข็งแรง ผมและหนวดเคราเป็นสีแดงเพลิง

“เหลือให้ข้าสนุกบ้างสิไทร์”

“นี่ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นะ ธอร์”

“สงครามนี่ต้องสนุกสิเว้ย” ธอร์พูดและเข้าฟาดค้อนใส่เหล่าเอลฟ์เสียงกรีดร้องดังไปทั่ว เลือด       

ท่วมกายเขา

“ท่านพ่อให้พวกเราสนุกด้วยสิ”

เสียงสี่เสียงดังขึ้นมา เป็นผู้ชายสองคน และผู้หญิง

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ศึกเทพชิงพิภพ    ตอนที่8 อย่าทำอะไรแม่ข้านะ

    “ท่านพ่อ” ดิสมัสมาถึงพอดี และกำลังจะเข้าไปต่อสู้ แต่ถูกบาลเดอร์ปล่อยพลังแสงใส่ ดิสมัสถึงกับเจ็บปวดจนลุกไม่ขึ้น เท่ากับว่าคนในราชวงศ์ถูกกำจัดในพริบตา “โอดินเสด็จ” เสียงหนึ่งดังขึ้นมา โอดินเดินมาพร้อมกับสามจิ้งจอก เขาเดินมาหาเทียรี่เอาเท้าเหยียบเข้าที่หัวขององค์ราชาและกดเท้าลงไปเป็นเครื่องหมายว่าตอนนี้เหล่าเอลฟ์รานุนได้แพ้แก่เขาแล้ว ลูก ๆ ทั้งสามของเทียรี่กัดฟันด้วยความโกรธแค้น และยังไม่ไรไทร์ก็เดินมาพร้อมกับ ลิซ่าและเฮล เมื่อทั้งสองเห็นหน้าของโอดินก็หน้าเสียทันที “ท่านแม่ อย่าทำอะไรแม่ข้านะ” ดิสมัสพูด โอดินหันมามองลิซ่า และหันไปมองเทียรี่กับดิสมัส “นี่ข้าได้ยินไม่ผิดใช่มั้ย เจ้าเรียกไอ้นี่ว่าแม่เหรอ” โอดินพูด เทียรี่หันมาพูดว่า “นางเป็นเมียข้า ก็ต้องเป็นแม่ของลูกข้าสิ” โอดินหัวเราะเสียงดังเหมือนกับมีเรื่องตลกตรงหน้า แต่ลิซ่าหน้าซีดตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว เทียรี่ไม่เคยเห็นภรรยาหวาดกลัวขนาดนี้มาก่อน “นี่เจ้ารู้จักมันเหรอ หรือว่ามันเป็นสามีเก่าเจ้ากัน” โอดินหยุดหัวเราะแล้วแตะเข้าที่หน้าของเทียรี่อย่างแรง

  • ศึกเทพชิงพิภพ    ตอนที่7 ไม่รู้ทำไม

    ดิสมันเดินทางไปทันที “เจ้าเนี่ยทำไม ไม่บอกราชาเทียรี่ล่ะ เราโดนแกล้งชัด ๆ ” เบต้าบ่น “เจ้าคิดว่ามีเรื่องกับพี่ ๆ เขาแล้ว มันจะจบแบบไหนกัน ข้าน่ะทำได้แค่อดทนเท่านั้นล่ะ” ดิสมัสพูดตลอดทางดิสมัสรู้สึกประหลาดใจมาก เพราะว่า เขาไม่เห็นร่องรอยของพวกโจรเลยแม้คนเดียว แต่ก็ยิ่งต้องตกใจเมื่อมาถึงเมือง พบว่าเมืองโดนถล่มไปแล้ว ดิสมัสรีบสั่งให้ตรวจสอบทันที พบว่าไม่มีใครรอดชีวิตเลยแม้แต่คนเดียว !“รีบกลับไปที่เมืองหลวงเร็ว” ดิสมัสสั่งก่อนไปเขาร่ายมนตร์สร้างกองทัพโครงกระดูกจากทุกศพที่เห็นที่เมืองหลวงยออาน เหล่านักรบโจมตีโดยที่ไม่มีใครคาดถึง แต่กระนั้นเหล่าเอลฟ์นรานุนก็ต่อสู้อย่างกล้าหาญ โดยดาเมี่ยงกับดิดิเย่ร์เป็นคนนำทัพมาเอง ขณะที่กำลังต่อสู้อยู่นั้นก็ร่างของทหารกระเด็นมา“ทำไมท่านพ่อต้องให้นำทัพมารบกับพวกนี้ด้วยนะ งานแบบนี้มันของไอ้อ้วนธอร์ไม่ใช่เหรอ” ชายหนุ่ม ผมสั้นสีทอง ตาสีฟ้า ใบหน้างดงาม จนแทบไม่อยากเชื่อว่าเป็นบุรุษเพศ รูปร่างของเขาดูไม่เหมือนนักรบเลยนักนิดแต่เหมือนกับพวกกวี หรือ หนุ่มเจ้าชู้ซะมากกว่า ไม่รู้ทำไม สองแฝดรู้สึกถึงพลังที่แผ่ออกมา ทำให้พวกเขาขนลุก“ฝาแฝดเหรอ ข้าจะเกลียดฝาแฝดท

  • ศึกเทพชิงพิภพ    ตอนที่6 เข้าต่อสู้

    เสียงสี่เสียงดังขึ้นมา เป็นผู้ชายสองคน และผู้หญิงหนึ่งคน และเอลฟ์อีกหนึ่งตน ชายคนแรกรูปร่างสูงใหญ่ผมยาวสีทอง ในมือถือขวาน เขาคือ โมดิ บุตรแห่งธอร์ อีกคนรูปร่างเตี้ยล่ำเป็นมะขามข้อเดียว ใช้ตะบองเป็นอาวุธ เขาคือ แม็กนี บุตรแห่งธอร์ สวนผู้หญิงในกลุ่มนั้น มีใบหน้างดงาม ผมสีแดง ถักเปีย มีรูปร่างกำยำล่ำสัน ใช้ดาบกับโล่เป็นอาวุธ นางคือ ทรุด บุตรีแห่งธอร์ส่วนเอลฟ์นั้นรูปร่างสูงโย่ง ผมสีแดง ผิวเข้ม ในมือถือดาบ เขาชื่อว่า เพาเดอร์ บุตรแห่งธอร์“หวังว่าข้าจะไม่เผลอฆ่าญาติของเจ้าไปนะ” แม็กนีพูด เพาเตอร์หันไปพูดว่า“ข้าไม่ใช่เอลฟ์แถวนี้”ทั้งสี่เข้าต่อสู้ทันที มารีสนำทหารเข้าต่อสู้ เขาเป่าขลุ่ยและมีแท่งน้ำแข็งพุ่งใส่พวกทหารผู้รุกราน ทำให้พวกมันต้องเริ่มถอยห่าง ส่วนอลิซซ่า เธอใช้คถาปล่อยพลังสายฟ้าใส่พวกทหารล้มตายไปจำนวนมาก แต่แล้วบุตรของธอร์ทั้งสี่ก็บุกเข้ามา และจัดการเหล่าเอลฟ์ได้ ทั้งหมด เมื่อ อลิซซ่าเห็นเพาเดอร์ก็พูดว่า“นี่เจ้าเป็นเอลฟ์เผ่าไหนกัน ทำไมถึงช่วยเผ่าอื่นโจมตีพวกเรา” “ข้าไม่ใช่เอลฟ์ที่นี่ ข้าขอจัดการพวกมันเอง พวกเจ้าอยู่เฉย ๆ นะ” เพาเดอร์พูด และควงดาบออกไป แล

  • ศึกเทพชิงพิภพ    ตอนที่5 หมายความว่าอะไร

    “ข้าคิดว่า พวกเราสองดินแดนน่าจะร่วมมือเป็นพันธมิตรกัน แลกเปลี่ยนทำการค้าด้วยกัน และยังสามารถแลกเปลี่ยนความรู้ด้วยกันได้อีกด้วย” อสิซซ่าพูด“ตูไม่เห็นอยากจะได้ความรู้อะไรจากสูเลย” แคนนอร์สวน อลิซช่า ตั้งสติระงับอารมณ์โกรธและรีบพูดต่อไปว่า“พวกท่านกับข้ามีศัตรูคนเดียวก็สมควรแล้วล่ะที่จะต้องร่วมกันสู้กับพวกมัน”“นี่สูหาพวกตูจะสู้ ไอ้ตัวซีดนั่นไม่ได้หรือไงกัน !” แคนนอร์เริ่มหัวเสียแล้ว อลิซซ่ารีบพูดว่า“มิได้เป็นเช่นนั้น พวกเราต่างหากที่ต้องพึ่งความแข็งแกร่งของท่าน” อลิซซ่าพูด แคนนอร์ถามทันที“หมายความว่าอะไร”“พวกเราไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนท่าน จึงต้องให้ท่านช่วยเหลือ เราถึงจะต่อสู้กับพวกรานุนได้” อลิซซ่าพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แคนนอร์เริ่มมีทางทีที่อ่อนลง อลิซซ่าส่งสัญญาณ มารีสเป่าขลุ่ยนักดนตรีคนอื่นเริ่มเล่นเครื่องดนตรีของตนด้วยทำนองเพลงที่เป็นจังหวะเพลงช้า อลิซซ่าเป็นคนร้อง เสียงของนางไพเราะจับใจมาก จนทำให้แคนนอร์เริ่มที่จะเคลิ้ม แต่เพลงก็เริ่มที่มีจังหวะสนุกสนานขึ้น อลิซซ่าเริ่มร้ายรำด้วยลีลาสวยงามและอ่อนช้อย หลังเพลงจบ แคนนอร์ตบมือให้ด้วยความชื่นชม“เยี่ยมมาก ตูตกลงที่จะเป็นพันธมิตรกั

  • ศึกเทพชิงพิภพ    ตอนที่4 ชนะแล้วไง

    “ข้าจะมอบกำลังทหารให้สามร้อยคน ให้เจ้าบัญชาการ” การมีทหารในสังกัดตัวเองนั้น ถือว่าดิสมัสมีอำนาจมากขึ้นกว่าเดิน ดิดีเยร์รีบแย้งว่า “มันจะไม่มากไปหน่อยหรือขอรับ ท่านพ่อ” “เขาทำความชอบก็สมควรได้รับรางวัลสิ พวกเจ้าจะกังวลทำไม มีทหารในสังกัดเป็นพัน อีกอย่างเขาก็เป็นลูกข้าเหมือนกับเจ้านั่นล่ะ พวกเจ้าน่ะมัวทำอะไรอยู่ แค่กรีนฮาร์ทเผ่าเดียว รบได้ตั้งเดือนหนึ่ง ดิสมัสเลยอาสาไปจัดการให้แป๊บเดียวเท่านั้น” เทียรี่พูดอย่างไม่ไว้หน้า สองแฝดทำหน้าไม่ถูกได้เก็บความโกรธไว้ในใจ “ข้าขอไปพบท่านแม่ก่อนนะขอรับ” ดิสมัสรีบตัดบท และเดินออกไป เพราะเขารู้ว่าขืนอยู่ต่อจะต้องมีสงครามน้ำลายแน่ ๆ “เจ้าเพิ่งชนะสงครามมานะ ทำหน้าเป็นตูดอยู่ได้” เบต้าพูดด้วยเสียงแหลม ๆ ดิสมัสนั้นนอกจากวิชาหมอผีแล้ว เขายังสามารถอัญเชิญภูตได้ด้วยเป็นวิชาของเอลฟ์ฟอร์แคร์ที่เขาเอามาดัดแปลงใส่พลังความมืดเข้าไป ซึ่ง เบต้าเป็นภูตตนแรกที่เขาอัญเชิญได้มีพลังในการปล่อยผงสามชนิดคือ ผงรักษา ผงพิษ และผงลอยตัว เบต้ามีความพิเศษคือ จะปรากฏตัวได้ตามใจไม่ต้องรอให้เขาเรียกเหมือนภูตตัวอื่น ส่วนเจ

  • ศึกเทพชิงพิภพ    ตอนที่3 ข้าจัดการเอง

    แม้ว่าสลิงจะเป็นจะเป็นอาวุธที่ดูเรียบง่ายแต่อย่าได้ดูถูกมันเชียว เพราะกระสุนของมันเป็นหิน แถมเป้าหมายในการโจมตีคือหัว ซึ่งโดนเข้าทีเดียวก็ถึงตาย “มันอยากลองดีสินะ พลหน้าไม้ !” ดิดิเย่ร์ลตะโกน พลหน้าไม้ตั้งแถวและยิงลูกศรใส่ทันที หน้าไม้นั้นมีแรงดึงมากกว่าธนูซะอีก ทำให้ลูกศรนั้นมันความรุนแรงและพุ่งได้เร็วกว่าธนูหลายเท่า พวกเอลฟ์ ฟอร์แคร์เริ่มมีล้มตายกันบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีเอลฟ์รานุนถูกสังหารไปอีกหลายตัว โดยฝีมือของเอลฟ์ร่างสูงใหญ่ ทาหน้าทาตัว ด้วยสีดำ และสวมหมวกขนนกทั้งหัว นั่นคือเครื่องหมายของหัวหน้าเผ่า ในมือถึงขวานหินคู่ มันโจมตีอย่างบ้าคลั่งและรุนแรง “เข้ามาเลย เอ็น ผู้นี้จะส่งพวกแกไปลงนรก” แม้ว่ามันจะไม่เกราะสวมเกราะ แต่ไม่รู้ว่าเพราะสีที่ทาตัวมันหรือเพราะอะไรกันแน่ทำให้มันหนังเหนียวอาวุธมีคมไม่อาจต้องกายมันได้ ดาเมียงกำลังไปต่อสู้กับมัน แต่ว่า ดิสมัสกลับมาขว้างหน้าเขาเอาไว้ “หลบไปดิสมัส ! ข้าจัดการเอง”แต่เหมือนดิสมัสจะไม่ได้สนใจฟังเลย เขาเข้าไปต่อสู้กับเอ็นทันที ขวานหินของเอ็นมีทั้งความคมและความหนาเรียกได้ว่ามันเป็นอาวุธที่ผสมระหว่างกา

  • ศึกเทพชิงพิภพ    ตอนที่2 ศึกแห่งเอลฟ์

    เสียงกลองศึกและเสียงอาวุธกระทบกันดังไปทั่วบริเวณ นี่คือสงครามของเอลฟ์ ทั้งสามเผ่า รานุน รูมิแย่ ฟอร์แคร์ดำเนินกันมาช้านาน แม้เอาจริง ๆ เอลฟ์ทั้งสามเผ่าก็มาจากรากเหง้าเดียวกัน เคยก่อร่วมสงครามชิงดินแดนกับพวกออร์คและโดวาฟมาแล้ว แต่หลังเสร็จศึกใหญ่ครั้งนั้น พวกเอลฟ์ก็หันมารบกันเอง ศึกนี้เป็นของเอลฟ์รานุนกับเอลฟ์ฟอร์แคร์ เอลฟ์รานุนคือ กลุ่มเอลฟ์ที่มีเชี่ยวชาญการใช้ศาสตร์มืด มนตร์ดำ การอัญเชิญภูต เสกโครงกระดูก และโกเล็ม ยังชำนาญในการสร้างอาวุธที่มีคำสาปหรือพลังเวทย์อาบเอาไว้ด้วย นอกจากหูที่แหลม ลักษณะเด่นของเอลฟ์พวกนี้ ผิวซีดเหมือนศพ ตาเหมือนแมว ผมสีขาว พวกเขามีดินแดนเป็นอาณาจักรใหญ่ ที่พวกเขาตั้งชื่อดินแดนว่า ยออาน ตามชื่อของเอลฟ์รานุนตนแรกที่ไปฝึกวิชากับเทพีดานูและได้สำเร็จวิชาสายมืดส่วนพวกเอลฟ์ฟอร์แคร์ คือเอลฟ์ที่อยู่ในป่าและชอบอยู่กับธรรมชาติ เชี่ยวการยิงธนู และการใช้สลิง[1] เวทย์สายธรรมชาติ และการสื่อสารกับสัตว์ป่า พวกนี้จะมีผมสีดำ ผิวจะค่อนข้างคล้ำ และนิยมใช้สีทาตัวทาหน้า พวกเขาไม่ได้รวมกันเป็นอาณาจักรใหญ่เหมือนกับเอลฟ์รานุน แต่มักจะอยู่กระจายกันเป็นชนเผ่ามากกว่าและตั้ง

  • ศึกเทพชิงพิภพ    ตอนที่1 ลำนำแห่งว๊าก

    ลำนำแห่งว๊าก จากบันทึกของออร์ค ณ ดวงดาวดวงหนึ่งในจักรวาลที่อันแสนไกล ดาวดวงนี้เดิมที่เป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าแมลงยักษ์ แต่ต่อมาได้เกิดเหตุการณ์ประตูมิติเปิด ได้นำพาสิ่งมีชีวิตอีกหลายพันธุ์เข้ามา แต่สิ่งที่มากที่สุดและพอจะมีสติปัญญาคือ พวก ออร์ค อมนุษย์รูปร่างสูงใหญ่ผิวสีเขียว มีความป่าเถื่อน ชอบในการทำสงครามเข้ามาในดาวดวงนี้ พวกมันเข่นฆ่าเหล่าแมลงยักษ์ แม้พวกแมลงยักษ์จะร่างกายที่แข็งแกร่งเพียงใด พวกออร์คนั้นมีพละกำลังและความบ้าเลือดจึงสามารถฆ่าแมลงยักษ์ได้จนหมด ดาวดวงนี้ถูกเรียกว่า ว๊าก ! หลักจากนั้นพวกมันก็เริ่มขยายเผ่าพันธุ์และดินแดนจนเรียกได้ว่าครองดาวด้วยนี้ได้แล้ ทำให้ดวงดาวกลายเป็นดาวที่ป่าเถื่อนและมีสงครามไม่เว้นในแต่ละวัน !จบบันทึกแห่งออร์ค ซึ่งก็ไม่รู้ว่าออร์คตัวไหนเขียน เพราะขืนไปถามมัน จะโดนฆ่าแทนบันทึกของโดวาฟกลุ่มแรก ผู้บันทึกคือ สโตน ราชาแห่งโดวาฟกลุ่มแรกรวมกับโดวาฟอีก 6 คนที่ไม่ขอเอ่ยนาม ข้านำพาโดวาฟกลุ่มใหญ่ทั้งชายและหญิงพันคน ขุดเหมือนที่ภูเขาแห่งหนึ่ง ซึ่งข้าเองในเวลานั้น ยังเป็นแค่หัวหน้าคนงานเท่านั้นเอง แต่เราขุดลึกเกินไปมันเกิดแสงสว่างวาปขึ้น

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status