Share

บทที่ 1187

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
ส่วนทางด้านนี้ เจ้ากรมฉีกลับมาถึงจวน เรียกคนจากบ้านสี่เข้ามาหา ระบายอารมณ์ใส่เสียยกใหญ่

ฮูหยินฉีสี่ก็ไม่ได้รับความเป็นธรรมเช่นกัน "พี่ใหญ่ พวกเราก็ทำตามความประสงค์ของฮองเฮา เดิมทีข้าต้องการคุณชายสามโหวกวางหลิงให้หลี่เอ๋อร์ แต่ฮองเฮาบอกว่าเราจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากแม่ทัพ”

ครั้นแล้วนางก็เล่าเรื่องที่ฮองเฮาเกือบจะประทานสมรสแต่ก็ถูกไทเฮายับยั้งไว้ ระหว่างพูดก็แสดงความโกรธออกมา "ตระกูลฝางก็หยิ่งยะโสยิ่งนัก คุณหนูจากตระกูลฉีของเราไม่คู่ควรกับเขาหรือ? พี่ใหญ่ ตระกูลฝางไม่เห็นตระกูลฉีของเราอยู่ในสายตาเลย"

“ทำไมพวกเขาตระกูลฝางถึงต้องเห็นตระกูลฉีของเราอยู่ในสายตา? พวกเราเห็นตระกูลฝางอยู่ในสายตาแล้วอย่างนั้นหรือ?” เจ้ากรมฉีถามกลับ เขารู้สึกว่านี่ปัญหาเกิดจากจุดนี้ ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ที่คนในตระกูลคิดว่าบุคคลภายนอกต้องให้เกียรติตระกูลฉี

ความกลัวผุดขึ้นมาในใจไม่รู้ตัว

โดยไม่รู้ตัว ตระกูลฉีในสายตาของทุกคนนั้นมีอำนาจมากมายมหาศาล คนในตระกูลฉีก็คิดอย่างนั้นเช่นกัน เหตุใดพวกเขาถึงคิดเช่นนั้นน่ะหรือ? ย่อมเป็นเพราะว่าคนภายนอกยกย่องขึ้น

ฮูหยินฉีสี่พูดไม่ออกไปชั่วขณะ พึมพำว่า "แต่เราคือตระก
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Pinakabagong kabanata

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1655

    ท้ายที่สุด กุ้นเอ่อร์ซึ่งมีสมญาว่าหมั่นโถวก็พาจ้านเป่ยว่างเดินนำหน้า ขณะที่เฉินเฉินและเสิ่นว่านจือนำทางยี่ฝาง คนทั้งเจ็ดอาศัยยามราตรีเร่งเดินทางอย่างรวดเร็วครั้นพบกับดงหนามทึบที่ผ่านไปไม่ได้ อีกทั้งไม่อยากสิ้นเปลืองพลังภายใน จึงใช้เคียวเปิดทางแทนตลอดเส้นทางราวกับแยกไม่ออกว่าฟ้าสางหรือพลบค่ำ ยี่ฝางกับจ้านเป่ยว่างไม่หลงเหลือท่าทีหยิ่งยโสใดๆ อีก เพียงแต่ปรารถนาให้ตนมีปีกเสียบ้าง จะได้ไม่ต้องให้ผู้อื่นลากจูงไปตลอดทางศักดิ์ศรีและหน้าตาล้วนสูญสิ้นอย่างสิ้นเชิงยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่พวกเขาคิดว่าเป็นไปไม่ได้ กลับกลายเป็นว่าพอฟ้าสาง พวกเขาก็มาถึงเชิงเขานอกเมืองลู่เปินเอ่อร์แล้วแถมไม่ได้ลงมาจากภูเขาฮึงซานโดยตรง หากแต่มาจากภูเขาที่ใช้เลี้ยงยางสนของเมืองลู่เปินเอ่อร์ หมายความว่าพวกเขาเดินทางมากกว่าหนึ่งลูกเขาทว่าซ่งซีซีก็หาได้เย้ยหยันไม่ เมื่อลงเขาแล้ว ยังให้พวกเขานั่งกินเสบียงริมทางอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใดชุดที่สวมใส่ได้เปลี่ยนเป็นแบบชาวเขาในเมืองลู่เปินเอ่อร์แล้ว แม้จะเป็นเช่นนั้น ยี่ฝางก็ยังรู้สึกว่าเช่นนี้มันโอหังเกินไป ราวกับไม่เห็นความตายอยู่ในสายตาแต่เพราะนางเหน็ดเหนื่อยถึงขีดส

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1654

    ห่างจากจวนแม่ทัพใหญ่ ซ่งซีซีเองก็ได้ยินเสียงโต้เถียงกันของคนสองคนเบื้องหน้าจากจวนแม่ทัพใหญ่ยี่ฝางโกรธมาก น้ำเสียงก็พลอยหงุดหงิดตามไปด้วย “ข้าไม่เข้าใจเลยว่าเจ้าจะอวดเก่งไปถึงไหน การไปครั้งนี้มีโอกาสชนะหรือ? เจ้าจะเชื่อซ่งซีซีจริงๆ หรือ? นางว่าอะไรก็เชื่อหมด ข้าว่าอะไรก็ไม่เคยเชื่อ เจ้านี่ช่างรั้นนัก! อย่าลืมนะว่าในอดีตบรรพบุรุษเจ้าก็เคยเป็นแม่ทัพใหญ่ หากพวกเขายังมีวิญญาณอยู่บนฟ้า ได้เห็นเจ้าคลานไปประจบผู้หญิงคนหนึ่งเช่นนี้ คงต้องหลับตาไม่ลงแน่”จ้านเป่ยว่างก็เริ่มไม่พอใจเช่นกัน “เหตุใดเจ้าจึงต้องพูดให้ฟังแล้วเจ็บใจทุกครั้ง? ไม่ใช่ว่าข้าเชื่อในตัวนาง แต่เพราะตอนนี้กำลังพลของเรากับฝ่ายซีจิงต่างกันเกินไป หลังเปิดศึกสองวัน เราก็รับมืออย่างยากลำบาก พี่น้องก็ล้มตายไปไม่น้อย พรุ่งนี้หากถอนทหารฝีมือดีไปบางส่วน สถานการณ์ยิ่งจะลำบากขึ้น วิธีลอบโจมตีของซ่งซีซีเป็นหนทางที่ดีที่สุดแล้ว…”“วิธีของนางดีอย่างนั้นหรือ?” ยี่ฝางโมโหจนขัดขึ้นมา “เจ้าเคยคิดบ้างไหมว่าหากไม่สำเร็จ อาจต้องตายที่เมืองลู่เปินเอ่อร์?”จ้านเป่ยว่างกดเสียงต่ำลง “แม้ข้าไม่ไป พรุ่งนี้ก็ต้องออกรบอยู่ดี หากสู้ต่อไป เราจะรอดชีวิตไ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1653

    ยี่ฝางมีท่าทีไม่อยากเชื่อ ภารกิจอันหนักหนาเช่นนี้ กลับส่งไปเพียงเจ็ดคนเท่านั้นหรือ?นางเพิ่งกล่าวข้างนอกว่าจะพาซ่งซีซีพวกเขาไปด้วย เพราะคิดจะอาศัยฐานะของซ่งซีซี ขอทหารจากท่านแม่ทัพเซียวเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อความปลอดภัยของตน และหวังจะได้สร้างความชอบในศึกแต่บัดนี้กลับกล่าวว่าจะส่งไปเพียงเจ็ดคน เรื่องสร้างผลงานขอวางไว้ก่อน ขอแค่รักษาชีวิตกลับมาก็ถือว่าโชคดีแล้วความเสี่ยงมากกว่าผลตอบแทน ยี่ฝางหาใช่คนโง่ ย่อมไม่เต็มใจอยู่แล้วแต่นางหาได้ปฏิเสธทันที เพียงลุกขึ้นมองไปยังซ่งซีซี ถามว่า “พวกเจ้าตั้งใจจะไปกันเพียงห้าคนแต่แรกหรือ? พวกเจ้ามั่นใจนักหรือว่าจะทำภารกิจได้โดยไม่มีผิดพลาดแม้แต่น้อย?”ซ่งซีซีสบตานางตอบกลับ “สรรพสิ่งย่อมไม่อาจไร้ซึ่งความผิดพลาด เพียงพยายามให้ถึงที่สุดก็พอแล้ว”ยี่ฝางขมวดคิ้ว “เช่นนั้นพวกเจ้ามั่นใจเพียงใด?”“ราวหกถึงเจ็ดส่วนเถิด แม้ไม่อาจสำเร็จภารกิจ ก็ยังสามารถถอนตัวได้โดยปลอดภัย”เดิมทีซ่งซีซีไม่คิดจะตอบคำถามนี้ ทว่าเมื่อมีท่านตาและบรรดาแม่ทัพอยู่ด้วย คำตอบที่ให้ยี่ฝางจึงเท่ากับตอบพวกเขาไปด้วยยี่ฝางกล่าว “คลังเสบียงย่อมมีทหารเฝ้าแน่นหนา พวกเจ้าไปกันเพียงห้าคน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1652

    ยืนอยู่สักพัก ก็เป็นยี่ฝางที่นึกอะไรขึ้นมาได้ก่อน พลันเปลี่ยนท่าทีเสียดสีเมื่อครู่ ก้าวขึ้นมาถามกุ้นเอ่อร์ว่า “พวกเจ้าก็มาขออาสาไปเผาคลังเสบียงหรือ?”“พวกเจ้าก็เหมือนกันหรือ?” กุ้นเอ่อร์ย้อนถามกลับ“ข้าเห็นว่าพวกเจ้าฝีมือก็ไม่เลว หากร่วมเดินทางไปด้วยกันก็ดี แต่ขอพูดไว้ก่อน ทุกสิ่งทุกอย่างต้องฟังคำสั่งของข้ากับแม่ทัพจ้าน”ยี่ฝางเคยสังเกตพวกเขาในสนามรบ พวกเขาท่าทางคล่องแคล่ว ออกหมัดรวดเร็ว สองศึกใหญ่ผ่านไป ยังไม่เห็นใครได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังเป็นผู้ที่บุกแนวหน้า หากมิใช่ฝีมือกล้าแกร่ง คงสิ้นชีพไปนานแล้วอีกทั้ง ยี่ฝางรู้ดีว่า ซ่งซีซีคือหลานสาวแม่ทัพใหญ่เซียว หากนางร่วมทางไปด้วย แม่ทัพใหญ่เซียวคงจัดทหารร่วมพลเพิ่มขึ้นอีก ความเสี่ยงย่อมลดลง โอกาสสำเร็จก็เพิ่มขึ้น ไม่ว่าอย่างไร ก็ถือเป็นโอกาสสร้างความชอบแท้จริงแล้ว ตอนที่แม่ทัพจูพูดกับนาง นางยังไม่อยากไปเสียด้วยซ้ำ การลอบเข้าเมืองลู่เปินเอ่อร์นั้นอันตรายยิ่ง หากพลาดขึ้นมา อาจไม่ได้แม้แต่ซากศพกลับคืนแผ่นดินทว่าเมื่อใคร่ครวญอย่างถี่ถ้วน นางกลับเห็นว่านี่คือโอกาสสร้างผลงานนางเป็นใครกันเล่า?นางคือขุนพลหญิงที่แม้แต่ไทเฮายังกล่าวชมด้วยป

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1651

    ซ่งซีซีและพวกถูกไล่ออกไปยืนรออยู่หน้าประตู ข้างในแม่ทัพทั้งหลายกำลังหารืออย่างลับๆ ชั่งน้ำหนักระหว่างคุณและโทษ คิดหาหนทางอื่นว่าอาจมีหรือไม่หมั่นโถวหมอบอยู่ใต้ระเบียง เงยหน้ามองกุ้นเอ่อร์แวบหนึ่ง “เจ้าตอนนี้อย่างไรก็ถือเป็นขุนนางแล้ว เจ้าว่า หากพวกเราย่างกรายไป โอกาสชนะจะมีเพียงใด?”กุ้นเอ่อร์หันไปมองซ่งซีซี “แล้วเจ้าคิดว่าอย่างไร?”ซ่งซีซีกล่าวว่า “แน่นอนว่ามีอุปสรรค แต่ยังดีกว่าการส่งทหารทั้งกองไป โอกาสสำเร็จย่อมมีมากกว่า อีกทั้งความเสี่ยงต่ำกว่า หากแม้ไม่อาจทำสำเร็จ พวกเราก็ยังสามารถล่าถอยได้โดยปลอดภัย”เฉินเฉินก็พูดเสริมว่า “จริงอย่างที่สุด หากเรื่องการหนีล่ะก็ พวกเรานี่แหละอันดับหนึ่ง”เสิ่นว่านจือถลึงตาใส่นาง “หนีอะไร? ต้องเรียกว่าตัวเบา พวกเราตัวเบายอดเยี่ยมอันดับหนึ่งต่างหาก”เฉินเฉินหัวเราะ “ใช่แล้วล่ะ ตัวเบาของพวกเรานั้นอันดับหนึ่งจริงๆ งานนี้หากไม่ให้พวกเราทำ แล้วจะให้ใครเล่า?”ขณะกำลังพูดอยู่ ก็เห็นทหารรักษาการณ์เดินเข้ามา รายงานหน้าประตูว่าจ้านเป่ยว่างกับยี่ฝางขอเข้าเฝ้าซ่งซีซีรีบยืนตัวตรง แววตาแฝงไว้ด้วยความระแวดระวังไม่อาจปล่อยให้พวกเขาไปยังเมืองลู่เปินเอ่อร์

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1650

    เสียงกลองศึกดังขึ้นพร้อมกันทั่วสนามรบ สถานการณ์ยังคงดุเดือด ซีจิงต่างกระวนกระวายยิ่งกว่าวันก่อน ต่างคนต่างพุ่งเข้าใส่ประหนึ่งไม่กลัวตายซูลันซือไม่ได้ออกศึก หากแต่บัญชาการอยู่ด้านหลัง ซ่งซีซีจึงคิดว่าการจับโจรต้องจับหัวหน้าเสียก่อนนั้นทำไม่ได้ในสถานการณ์ที่ศัตรูเหนือกว่าหลายเท่า แม่ทัพใหญ่เซียวจึงลงศึกด้วยตนเอง และนำทัพอยู่แนวหน้า เพื่อปลุกใจทหารให้ฮึกเหิมซ่งซีซีเป็นกังวลยิ่ง กลัวว่าเขาจะถูกธนูจนบาดเจ็บสาหัส ด้วยเหตุนี้ แม้อาจทำให้ตนถูกเปิดโปง นางก็จำต้องเบียดเข้าไปใกล้เขาเหล่าบุตรหลานตระกูลเซียวต่างก็ล้อมคุ้มกันแม่ทัพใหญ่เซียวไว้ แม่ทัพใหญ่เซียวจึงฮึกเหิมยิ่งนัก นำขุนพลทะลวงศัตรูออกไปซ่งซีซีจึงมีสมาธิต่อสู้กับข้าศึก ศัตรูแต่ละรายล้มลงใต้ปลายทวนของนางแม่ทัพใหญ่เซียวสังเกตเห็นนางเข้า แต่ยังจำไม่ได้ว่าเป็นใคร จนกระทั่งมีลูกธนูดอกหนึ่งพุ่งมาทางเขา ซ่งซีซีจึงกระโจนขึ้น หมุนทวนในมือสะบัดลูกธนูนั้นตกลง แล้วหันกลับไปมองเขาเพียงครู่เดียว แม่ทัพใหญ่เซียวจึงจำได้ว่านางเป็นใคร ถึงกับตกตะลึงเพียงแต่สนามรบกำลังระอุ แม่ทัพใหญ่เซียวจึงทำได้เพียงตะโกนบอกนางว่า “ระวังตัวด้วย”ซ่งซีซีรู้ว่

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status