Share

บทที่ 436

Aвтор: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ชาวบ้านชาวเมืองเริ่มลือกันเรื่องที่ยี่ฝางถูกชาวซีจิงจับตัวไปและถูกข่มขืนในสนามรบ

เดิมทีหลังจากกลับจากเขตหนานเจียง ก็มีเสียงเช่นนี้แพร่ออกมา แต่ในเวลานั้นแค่ลือกันว่าถูกชาวแคว้นซาจับตัวไป แล้วข้าวลือก็เงียบหายไปในไม่ช้า

แต่คราวนี้ หลังจากกลับมาจากฮูหยินโหวเจี้ยนคังกลังจากกล่าวขอโทษเสร็จ ก็ไม่มีใครโยนอุจจาระไปใส่หน้าประตูจวนแม่ทัพ อีก แต่เรื่องที่ยี่ฝางถูกจับตัวไปและโดนข่มขืนนั้นกลับเป็นข่าวร้อนแรงอีก

ข่าวแพร่สะพัดไปทั่วทั้งเมืองหลวงในเวลาเพียงไม่กี่วัน และจะต้องถูกกระจายออกนอกเมืองอย่างแน่นอน

ทุกคนในจวนเป่ยหมิงอ๋องต่างก็พูดถึงเรื่องนี้เช่นกัน

แม้แต่ซ่งซีซีก็รู้สึกว่ามันแปลก เรื่องมันผ่านมานานแล้ว ทำไมจู่ๆ ถึงถูกเอามาลืนกันอีก ยังร้อนแรงเช่นนี้ด้วย หรือว่ากองทัพทหารมีคนเปิดเผยข่าวหรือ เรื่องนี้กองทัพซวนเจียรู้อย่างชัดเจน แต่กองทัพซวนเจียฝึกฝนมาอย่างเข้มงวด เรื่องแบบนี้คงไม่ถูกแพร่ออกไปได้

เมื่อรอเซี่ยหลูโม่กลับมาจากหอต้าหลี่ ซ่งซีซีก็ถามเขา

เซี่ยหลูโม่นั่งลง และจิบน้ำชาพลางขมวดคิ้วก่อนพูดว่า "มีคนจงใจเผยแพร่เรื่องนี้ เพิ่งได้รับข่าวเมื่อวานนี้ว่า องค์ชายสามข
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Заблокированная глава

Related chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 437

    ภายในไม่กี่วันข่าวลือของยี่ฝางก็ไม่มีคนลือกันอีกอย่างที่คาดไว้นักเล่าเรื่องที่โรงเตี๊ยมต่างเปลี่ยนเนื้อเรื่องของพวกเขา โดยกล่าวว่าที่สงครามเขตหนานเจียงมีทหารถูกจับไปก็จริง แต่ฝ่ายเราก็จับทหารแคว้นซามาไม่น้อยเช่นกัน สุดท้ายทั้งสองประเทศได้แลกผู้ถูกจับกันและกัน เลยไม่มีทางเกิดเหตุการณ์ที่ว่าทรมานผู้ถูกจับของศัตรูหรือทหารแคว้นซาถูกทรมานหรือข่มขืนในสายตาของคนนอก นี่อาจเป็นเพียงข่าวลือที่ไม่มีมูลความจริง แต่สำหรับคนที่อ่อนไหวต่อสถานการณ์ก็สังเกตเห็นบรรยากาศที่ไม่ปกติได้ประชาชนไม่รู้ว่าทหารจากเมืองซีจิงก็เข้าสู่สนามรบเขตหนานเจียงเพื่อช่วยเหลือแคว้นซา กิจการทางทหารที่สำคัญเช่นนี้จะต้องถูกเก็บเป็นความลับแม้ว่าจะมีคนที่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ก็มีน้อยมาก และไม่สามารถแพร่กระจายได้อย่างกว้างขวางเช่นนี้ เว้นแต่จะมีคนที่จงใจเผยแพร่ทหารประจำจวนของจวนเป่ยหมิงอ๋องได้รับการจัดตั้งขึ้น บรรดาทหารนั้นมีมากกว่าสองร้อยคนเป็นคนจากกองทัพเป่ยหมิง เซี่ยหลูโม่ไปขอกับฮ่องเต้นำพวกเขากลับมา เดิมทีคนเหล่านี้เป็นทหารของจวนอ๋องอยู่แล้ว ไม่ได้รับเงินเดือนจากราชสำนักฮ่องเต้ได้อนุญาต ถึงยังไงกองทัพเป่ยหมิงสอ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 438

    นี่เป็นงานเลี้ยงแรกที่จัดโดยซ่งซีซี หลังจากที่นางแต่งเข้าจวนอ๋องหากจัดได้ไม่ดีก็จะทำให้คนอื่นหัวเราะได้ โดยเฉพราะที่สนมฮุ่ยไทเฟยให้ความสำคัญกับงานวันเกิดของตนเองมากนัก นางย่อมไม่อยากให้งานวันเกิดของตนเองเป็นเรื่องตลกอย่างแน่นอนดังนั้น นางจึงต้องถามสนมฮุ่ยไทเฟยด้วยตนเองว่ามีผู้ใดบ้างที่นางต้องเชิญหรือไม่?สนมฮุ่ยไทเฟยแสร้งคิดอยู่นานและกล่าวว่า "เต๋อกุ้ยไทเฟย ฉีกุ้ยไทเฟย หากพวกนางสามารถออกจากวังก็เชิญมาเลย ส่วนคนอื่นๆ นั้นเจ้าตัดสินใจเอง"ซ่งซีซีรู้ดีว่าพวกนางต้องได้รับเชิญแน่ๆ โดยเฉพาะเต๋อกุ้ยไทเฟยซ่งซีซีรู้สึกแปลกใจ ที่จริงแล้วคนโปรดของฮ่องเต้องค์ก่อนไม่ใช่พวกนาง แต่เป็นพระสนมซูไทเฟยและพระสนมหวั้นกุ้ยไทเฟยที่ตายไปแล้วทำไมนางถึงไม่ลงรอยกันกับเต๋อกุ้ยไทเฟยและฉีกุ้ยไทเฟยตลอดล่ะ?ตอนนี้เนื่องจากการเกี่ยวดองกับตระกูลฉี ความสัมพันธ์ระหว่างนางกับฉีกุ้ยไทเฟยจึงดีขึ้นมาหน่อย แต่สำหรับเต๋อกุ้ยไทเฟยแล้วยังคงต่อสู้ไปมาและไม่ลงรอยกันซ่งซีซีอดไม่ได้ที่จะถามอย่างสงสัย "เต๋อกุ้ยไทเฟยเคยทำให้ท่านขุ่นเคืองใจหรือ"สนมฮุ่ยไทเฟยสบถขึ้นมาเบา "อย่าถูกหลอกด้วยรูปร่างหน้าตาภายนอกของนาง คนๆ นี้ดูจ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 439

    แม่นมเกาส่งรายชื่อมาให้ ชื่อก่อนเข้าวัง ชื่อหลังเข้าวัง บ้านเกิด อายุ ปีที่เข้าวัง และวังที่เคยรับใช้บ้าง ล้วนเขียนไว้อย่างละเอียดเมื่อดูเผินๆ ไม่มีอะไรผิดปกติจริงๆ มีเพียงสามคนเท่านั้นที่เคยรับใช้ในตำหนักอื่น ได้แก่ หลานเยว่ จิ้งซิน และซู่หลานป้าหลานเยว่เคยรับใช้พระสนมหวั้นกุ้ยเฟยมา หลังจากพระสนมหวั้นกุ้ยเฟยสิ้นพระชนม์ หลานเยว่ก็ถูกมอบให้แก่สนมฮุ่ยไทเฟยโดยไทเฮาเดิมทีจิ้งซินและซู่หลานเป็นคนดูแลพระสนมลี่เฟยของฮ่องเต้องค์ก่อน พระสนมลี่เฟยเป็นสนมคนโปรดในขณะนั้น แต่นางเสียชีวิตกะทันหัน ได้ยินว่าตายด้วยโรคร้ายแรงหลังจากที่พระสนมลี่เฟยสิ้นพระชนม์ ฮ่องเต้องค์ก่อนก็โกรธมากจนเอาผิดคนที่อยู่ข้างกายนาง โดนลงโทษถูกวางยาตายหมด มีแต่จิ้งซินและซู่หลานที่ถูกไทเฮาเรียกไปดูแลสนมฮุ่ยไทเฟยที่กำลังป่วยนั้น เลยได้รอดชีวิตสำหรับคนอื่นๆ ส่วนใหญ่เป็นคนที่สนมฮุ่ยไทเฟยนำจากจวนของตนเอง แม่นมเกาเป็นพี่เลี้ยงเด็กของสนมฮุ่ยไทเฟย และสนมฮุ่ยไทเฟยถือว่านางเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กไม่มีทางที่จะมีปัญหากับแม่นมเกา และสำหรับคนที่ถูกนำเข้ามาในวังจากจวนนั้นก็คงไม่มีปัญหาเช่นกันซ่งซีซีเลยสั่งให้ผู้คนจับตาดูทั้งสามคน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 440

    องค์หญิงใหญ่ยิ้มอย่างเย็นชา "จะรีบร้อนทำไม อยากทำเรื่องนี้ให้สำเร็จก็ต้องให้สนมฮุ่ยไทเฟยมาจัดการเอง""สนมฮุ่ยไทเฟย?" ท่านหญิงเจียอี้นึกถึงครั้งสุดท้ายที่แม่สามีและลูกสะใภ้สองคนมาทวงเงิน และนางก็อดไม่ได้ที่จะโกรธขึ้นมา "ตอนนี้นางเป็นพวกเดียวกันกับซ่งซีซีแล้ว จะยอมเชื่อฟังเราหรือ?"องค์หญิงใหญ่ค่อยๆ หยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบ "นางไม่ฟังเรา แต่วิธีการยั่วยุมันก็มีผลกับนางตลอด มีคนหนึ่งสามารถบรรลุสิ่งนี้ได้"ดวงตาของท่านหญิงเจียอี้เป็นประกาย "จะใช้วิธียั่วยุงั้นเหรอ เต๋อกุ้ยไทเฟย"นางตบขาแล้วพูดว่า "ท่านแม่เป็นคนคิดรอบคอบจริงๆ ฉีอี๋เยว่ พระชายาฉินอ๋องมีบุตรสาวคนหนึ่ง ส่วนชายารองหยวนก็มีบุตรชายและบุตรสาวสองคน ชายารองหมิงก็มีบุตรสาวหนึ่งคน ตอนนี้ก็กำลังตั้งครรภ์อยู่ คาดว่าที่ชายารองหมิงกำลังตั้งครรภ์นั้น สนมฮุ่ยไทเฟยยังไม่รู้เรื่อง แต่ถ้านางรู้ นางจะถูกยั่วให้เกิดความคิดแต่งอนุภรรยาให้เซี่ยหลูโม่ พวกนางสองแม่สามีและลูกสะใภ้หากทะเลาะกัน งั้นก็สนุกน่าดูเลย"องค์หญิงใหญ่ดื่มชาช้าๆ เมื่อน้ำชาเย็นแล้ว นางก็สั่งให้คนใช้ชงชาอีกแก้ว "พวกนางคงไม่มีทางอยู่ฝ่ายเดียวกันตลอดหรอก แม่สามีกับลูกสะใภ้ถึงยังไงก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 441

    "ท่านแม่!" จ้านเส้าฮวนจัดเก็บความตื่นเต้นในสายตาของตนไม่ได้ "ท่านหญิงเจียอี้จะพาลูกไปเข้าร่วมงานด้วย นางบอกว่าในงานเลี้ยงวันเกิดนางจะช่วยให้ลูกกลายเป็นชายารองของเป่ยหมิงอ๋องได้"ทันใดนั้นดวงตาที่ไร้ชีวิตชีวาของฮูหยินผู้เฒ่าก็เป็นประกายขึ้นมา และนางพยายามลุกขึ้นนั่ง "เจ้าพูดจริงจังหรือ""แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องจริง ท่านหญิงเจียอี้บอกกับลูกด้วยปากเอง และองค์หญิงใหญ่ก็ฟังอยู่ข้างๆ ด้วย"ฮูหยินผู้เฒ่ารู้สึกตื่นตาตื่นใจราวกับว่าเลือดในทั่วร่างไหลเวียนได้อย่างลื่นไหลมากขึ้น และการหายใจก็เร็วขึ้น "หากเรื่องนี้เป็นจริงล่ะก็ องค์หญิงใหญ่และท่านหญิงเจียอี้ต่างก็เป็นผู้มีพระคุณที่ยิ่งใหญ่ของเรา"แต่ไม่นานนักนางก็ขมวดคิ้วทันที "ทำไมพวกนางถึงช่วยเจ้าแบบนี้? พวกนางกำลังวางแผนอะไรกับเจ้าอยู่เหรอ? อย่าเพิ่งดีใจไป ให้แม่คิดดูก่อน"จ้านเส้าฮวนลุกขึ้นยืนและกระทืบเท้าของนาง "ท่านแม่ ไม่ว่าแผนการของพวกนางจะเป็นเช่นไร ขอแค่ข้าสามารถแต่งเข้าจวนอ๋อง ต่อให้ต้องอยู่ต่ำกว่าซ่งซีซี ข้าก็ยอม ถึงยังไงข้ามีอายุน้อยกว่า นางก็แค่ผู้หญิงที่แต่งงานมาสองครั้งนั้นจะดีกว่าข้าได้อย่างไร"จากนั้นนางรีบนั่งลงอีกครั้ง "นอ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 442

    นางหมินประหลาดใจ "ได้รับเชิญจริงๆ หรือว่าหลอกนางกันแน่ จะว่าไปท่านก็เป็นคนจากจวนแม่ทัพด้วย แล้วนางจะเชิญท่านไปได้ยังไง?""ทำไมจะเชิญชวนไม่ได้ล่ะ หาใช่ว่าทุกคนในจวนแม่ทัพล้วนจะใจร้ายหมด" ฮูหยินผู้เฒ่ารองมีความสุขและปลื้มอกปลื้มใจมาก "กลับไปบอกฮวนเอ๋อร์ จะได้ให้นางไปบอกแม่สามีของเจ้า เพื่อให้นางอึดอัดใจสักหน่อย"นางหมินยิ้มอย่างขมขื่น "อาสะใภ้รอง นี่ท่านกับท่านแม่สามีไม่กินเส้นกันขนาดนั้นเหรอ?"ฮูหยินผู้เฒ่ารองหัวเราะเยาะ "ใครล่ะที่จะไม่กินเส้นกันกับนาง แค่ไม่ชอบความโลภและความโหดเหี้ยมของนาง ยังเป็นคนเนรคุณด้วย ฮูหยินใหญ่ ข้าขอพูดอะไรตรงๆ ที่เจ้าอาจไม่ชอบฟังนะ เจ้านี่ช่างโง่จริงๆ ผู้ใดดีกับเจ้า ผู้ใดไม่ดีกับเจ้า เจ้าไม่แยกแยะเลย""ทำไมจะไม่แยกแยะล่ะ อาสะใภ้ก็รู้ดีว่าครอบครัวพ่อแม่ของข้าไร้ความสามารถ ท่านสามีก็ไม่ค่อยชอบข้า แม่สามียิ่งดูถูกข้าด้วย แล้วจะให้ข้าทำอะไรได้ล่ะ""เจ้าไม่สามารถทำอะไรได้ แต่อย่าช่วยคนร้ายทำเรื่องชั่วๆ" ฮูหยินผู้เฒ่ารองพูดตรงๆ "แม่สามีของเจ้า หวังชิงหลู ยี่ฝาง และน้องสาวของสามีเจ้าล้วนไม่ใช่คนดีอะไร พวกนางต่างก็อยากรังแกซีซี เจ้าอยากไปช่วยพวกนางก็พอ""แน่นอน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 443

    นางต้องทุ่มเทน้ำพักน้ำแรงไปดูแลเรื่องต่างๆ ในจวน แถมยังใช้เงินส่วนตัวของตนเองมาอุดหนุนอีกด้วย แต่ละวันต้องเหนื่อยล้ามาก เมื่อนอนลงก็เหมือนกับเอวจะหักอยู่แล้วแต่ซ่งซีซีกลับใช้ชีวิตอย่างมีความสุข นางไม่ยอมจริงๆขณะที่นางกำลังหมกมุ่นอยู่กับความคิดนี้ ก็ได้ยินน้องสามีพูดว่า "ได้ยินมาว่าสนมฮุ่ยไทเฟยเคยพูดต่อสาธารณะว่านางไม่ชอบซ่งซีซีมาก่อน เดาว่าแม่สามีและลูกสะใภ้สองคนนี้คงไม่ลงรอยกัน อาจไม่แน่เมื่อถึงวันจัดงานเลี้ยงนั้น สนมฮุ่ยไทเฟยจะตั้งกฏให้ซ่งซีซีก็ได้ ด้วยนิสัยใจคอของซ่งซีซีในทุกวันนี้ เกรงว่าจะเป็นเรื่องใหญ่เข้าแน่ๆ"หวังชิงหลูจำสิ่งที่นางพูดบนรถม้าในวันนั้นได้ นางหยิ่งผยองและกำเริบเสิบสานมาก อยากจะดูว่านางถูกสนมฮุ่ยไทเฟยรังแกกับตาจริงๆเพียงแต่ว่าไม่มีคำเชิญให้กับจวนแม่ทัพ แล้วนางไปได้อย่างไร?ทันใดนั้นนางก็คิดถึงครอบครัวของพ่อแม่ ตอนนี้พี่ชายได้ดูแลกองทัพเป่ยหมิง แล้วจวนเป่ยหมิงอ๋องกำลังจัดงานเลี้ยง ดังนั้นน่าจะมีบัตรเชิญให้จวนป๋อผิงซีสินะ?เมื่อคิดเช่นนี้ หลังจากดูแลแม่สามีกินยาเสร็จ แล้วบอกว่าท่านแม่ไม่ค่อยสบายเลยอยากกลับไปเยี่ยมแม่เมื่อกลับไปถามแม่แล้ว แก็พบว่าได้รับบัตร

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 444

    ทำไมหวังชิงหลูจะไม่อยากมีลูกเร็วๆ ล่ะ?แต่นางก็มีเหตุผลที่ไม่สามารถบอกได้ท่านสามีดูเหมือนจะไม่ค่อยกระตือรือร้นในเรื่องอย่างที่ว่า ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาจะร่วมรักกันเป็นครั้งคราว เขาก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงตามหลักแล้วไม่น่าเป็นไปได้ เขาเป็นแม่ทัพ ร่างกายแข็งแรงดี ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ?อาหารการกินในประจำวันของท่านสามี นางก็ใช้อาหารบำรุงเป็นหลัก เดิมทีอยากจะหาหมอมาตรวจให้ท่านสามีสักหน่อย แต่ก็กลัวว่าทำให้เขารู้สึกขายหน้าหวังชิงหลูมีความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกอยู่ในใจ นางรู้สึกว่าชีวิตดูเหมือนจะดำเนินไปอย่างราบรื่น แต่พอคิดดูก็รู้สึกไม่สบอารมณ์อยู่เสมอ แต่ก็ไม่รู้ว่าสรุปแล้วมีปัญหาอะไรกันแน่พอดีว่านางจี พี่สะใภ้ของหวังชิงหลูซึ่งปัจจุบันคือฮูหยินป๋อผิงซีมาส่งยาให้แก่ฮูหยินผู้เฒ่า นางประหลาดใจเล็กน้อยที่ได้ยินว่าน้องสาวจะไปงานเลี้ยงของสนมฮุ่ยไทเฟยด้วยฮูหยินผู้เฒ่าพูดว่า "น้องเจ้าอยากไปก็ปล่อยให้นางไปเถอะ เพราะนางกับจวนเป่ยหมิงอ๋องรู้จักกันมาก่อนแล้ว แม้ว่าจะไม่มีบัตรเชิญให้จวนแม่ทัพ แต่นางไปกับพวกเราก็ไม่มีผู้ใดว่าอะไรหรอก"นางจีขมวดคิ้ว "ท่านแม่ ตอนนี้น้องสาวเป็นสมาชิกของจวนแม

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1614

    สนมฮุ่ยไทเฟยย่อมมีฐานะมั่นคงเช่นนี้ หลายปีมานี้ไม่ค่อยมีค่าใช้จ่าย รายรับกลับมากไม่น้อยเบี้ยหวัดจากในวัง ของกำนัลจากทุกบ้าน อีกทั้งบรรดาลูกหลานที่โตแล้วต่างก็สามารถตัดสินใจเองได้ บรรดาผู้ที่กตัญญูต่อท่านมีไม่น้อย โดยเฉพาะเสิ่นว่านจื่อ ยิ่งกตัญญูไม่ยั้งมือสำหรับหลานสาวคนเดียวนี้ ท่านไม่มีสิ่งใดที่เสียดายเลย คำพูดที่มักติดปากคือ เมื่อท่านสิ้นไป สมบัติทั้งปวงย่อมตกเป็นของหลานสาวบัดนี้เมื่อแม่ลูกสองคนไปถึงที่อยู่ของท่าน ท่านก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถึงเรื่องที่เซี่ยเจิงจะไปภูเขาเหม่ยชานฝึกวรยุทธ์อีกครา"ไม่ใช่ว่าข้าไม่เห็นดีเห็นงาม เพียงแต่การไปนานถึงเพียงนั้น ปีหนึ่งกลับมาได้ไม่กี่ครั้ง อนาคตยังบอกว่าจะออกไปผจญภัยอีก เด็กหญิงน้อยๆ เช่นนี้ จะไปฝ่าโลกภายนอกได้อย่างไร? ข้าขัดท่านพ่อของเจ้าไม่ไหว เขาเป็นคนไม่เข้าใจโลก พูดอะไรก็ไม่เคยพูดให้เข้าใจได้ ข้าก็ไม่มีทาง""ท่านยาย หลานไม่ใช่เด็กสาวบอบบางหรอกเจ้าค่ะ ท่านลองดูหมัดของหลานเถิด" เซี่ยเจิงชูหมัดขึ้น โบกไปมาอยู่ตรงหน้าสนมฮุ่ยไทเฟย กล่าวอย่างภาคภูมิว่า "หมัดนี้ของหลาน แม้แต่หมูป่ายังต้องสลบเหมือด"สนมฮุ่ยไทเฟยทอดถอนใจ "บุตรีบ้านอื่น มือเอา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1613

    สองสามีภรรยาเอ่ยถึงเรื่องราวในอดีต ยิ่งพูดยิ่งรู้สึกอบอุ่นในใจ โดยเฉพาะซ่งซีซี ที่แต่เดิมรู้สึกว่าการแต่งงานครั้งนั้นเป็นการถูกบังคับ แต่ใครจะคาดคิดว่าจะได้พบกับความสุขเช่นวันนี้ช่างเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดานักทันใดนั้นก็มีคนวิ่งพรวดพราดเข้ามาทางประตู ยังไม่ทันเห็นหน้าชัด ก็โผเข้ากอดเซี่ยหลูโม่แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นยินดี "ท่านพ่อ ของขวัญพิธีปักปิ่นที่ท่านมอบให้ข้านั้น ข้าชอบมากนัก ขอบคุณท่านพ่อ ข้ารักท่านพ่อที่สุดเลยเจ้าค่ะ"เซี่ยหลูโม่กล่าวว่า "ยังคงซุกซนเช่นเดิมหรือ? โตเป็นสาวแล้ว ต้องสุขุมให้มากหน่อย"แม้ว่าจะเอ่ยเช่นนั้น ทว่าดวงตากลับเปี่ยมด้วยความเอ็นดู มือช่วยจัดปิ่นที่นางสวมในพิธีปักปิ่นให้เรียบร้อย แล้วเอ่ยต่อว่า "เครื่องประดับหัวทับทิมแดงนั่นเจ้าไม่ชอบหรือ? ท่านแม่ของเจ้าตั้งใจเลือกให้นัก""ชอบเจ้าค่ะ ชอบทุกอย่างเลย" เซี่ยเจิงยิ้มจนตาหยี รักทุกสิ่งที่พ่อแม่มอบให้เซี่ยหลูโม่มองรอยยิ้มของบุตรสาวแล้วพลันรู้สึกเคลิ้มใจบุตรสาวยิ่งโต ยิ่งเหมือนซ่งซีซี ในวันแรกที่พบซ่งซีซีที่ภูเขาเหม่ยชาน นางก็ยิ้มเช่นนี้แต่หลังจากนั้น นางก็แทบไม่เคยยิ้มแบบนี้อีก ต่อ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1612

    สายหมอกเย็นยะเยือกปกคลุมยอด ดอกเหมยเบ่งบานหลายคราเซี่ยเจิงมีพรสวรรค์ทางวรยุทธ์สูงส่งนัก เรื่องนี้เรียกได้ว่าเก็บข้อดีของเซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีมาไว้ทั้งหมดเหรินหยางอวิ๋นสามารถกล่าวได้อย่างภาคภูมิใจว่า เซี่ยเจิงคือลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์สูงสุดในบรรดาศิษย์ทั้งหลายของภูเขาเหม่ยชานอูโซเว่ยเองก็ไม่อาจปฏิเสธเรื่องนี้ได้ เมื่อนางถูกเซี่ยเจิงถามว่าใครเก่งกว่ากัน ระหว่างนางกับท่านพ่อ อูโซเว่ยได้แต่ตอบอย่างเลี่ยงๆ ว่า "พอๆ กัน ต่างก็มีข้อดี"วรยุทธ์ของเซี่ยเจิงที่ฝึกฝนมาจนถึงวันนี้ หาได้มาจากเพียงหมื่นสำนักเท่านั้นนางได้ร่ำเรียนจากทุกฝ่ายในภูเขาเหม่ยชานเมื่อนางมาถึงภูเขาเหม่ยชาน ยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อย ผิวขาวเนียนราวหยก รอยยิ้มหวานละมุน ผู้ใดเห็นก็ต้องเอ็นดูนางช่างพูด ช่างคุ้นเคยเร็ว อีกทั้งปากหวานนัก หลอกล่อให้บรรดาหัวหน้าสำนักต่างถ่ายทอดวิชาให้หมดเปลือกเดิมทีนางมีนิสัยซุกซน แต่ด้วยการมุ่งมั่นฝึกวรยุทธ์ และฝึกฝนวิชาเนื้อใน จิตใจก็สงบนิ่งขึ้นมากครั้นถึงปีที่สิบห้า นางได้เข้าพิธีเก็บปิ่นพิธีเก็บปิ่นจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ของขวัญย่อมหลั่งไหลมาดังสายน้ำ ส่งเข้ามาไม่ขาดสายซ่งซีซีได้มอบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1611

    แสงแดดสาดลงบนกิ่งไม้ ใต้พุ่มใบหนาแน่น เผยให้เห็นขาเล็กๆ คู่หนึ่งแกว่งไปมา ดูแล้วชวนให้รู้สึกสบายใจนักนางมีนามเดิมว่าเซี่ยเจิง ชื่อนี้จารึกอยู่ในหยกพงศ์ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นชื่อเล่นว่าจิ้งเหยียนว่ากันว่าเพราะมารดาของนางรังเกียจที่นางพูดมาก จึงตั้งชื่อนี้เพื่อกดทับให้นางสงบลงเซี่ยเจิงเองเห็นว่าตั้งชื่อนี้ก็เปล่าประโยชน์ อีกทั้งฟังดูไม่น่าฟัง จิ้งเหยียนก็คือการเงียบงัน เช่นนั้นแล้วนางมีปากไว้ทำไม หากไม่ได้พูด เอาแต่กินหรือ?เช่นนั้นไม่ต้องกินจนอ้วนกลมไปหรอกหรือ?“ท่านหญิงของข้า ท่านอยู่ที่นี่เอง หาเสียจนข้าเหนื่อย” เป่าจูเงยหน้าขึ้นจากใต้ต้นไม้ ทั้งโกรธทั้งขบขัน “รีบลงมาเถิด ท่านอ๋องกับพระชายากำลังตามหาท่านอยู่”“ท่านอาเป่าจู พวกเขาเรียกหาข้าด้วยเรื่องอันใดกัน?” เสียงใสๆ ดังลงมาจากบนต้นไม้ แฝงด้วยความสบายใจและอิ่มหนำ“พระชายาจะไปภูเขาเหม่ยชาน บอกว่าจะพาท่านไปด้วย ท่านอยากไปหรือไม่?” เป่าจูเอ่ยเซี่ยเจิงได้ยินดังนั้น ก็รีบลื่นไถลลงจากลำต้นไม้ สองข้างไหล่มีเจ้าสุนัขจิ้งจอกสีขาวสองตัวเกาะอยู่ นางยิ้มดีใจกล่าวว่า “จริงหรือ? เช่นนั้นรีบไปเถิด”สองสุนัขจิ้งจอกนั้น ตัวหนึ่งชื่อเซวียนเช

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1610

    เพียงแต่ ข้าก็รู้ดีว่าในใจของซ่งซีซีไม่ได้มีเสด็จน้อง นางเลือกแต่งกับเสด็จน้อง ก็เพียงเพราะไม่อยากเข้าวังถวายงานแม้นไม่ใช่สามีภรรยาที่จิตใจเป็นหนึ่งเดียว เช่นนั้นข้าจึงแต่งตั้งซ่งซีซีเป็นแม่ทัพใหญ่กองทัพซวนเจีย ให้รับผิดชอบดูแลกองทัพซวนเจียแทนในสายตาของผู้อื่น กองทัพซวนเจียยังคงอยู่ในมือของสามีภรรยาคู่นี้ ข้าไม่ได้ตัดอำนาจของเสด็จน้องเพิ่มเติมเมื่อมองในขณะนั้นแล้ว นับเป็นความคิดที่แยบยลอย่างยิ่งแต่ข้ากลับไม่คาดคิดว่าสามีภรรยาจะไม่ใช่คู่ที่ใจไม่ตรงกันเสมอไป เมื่อนานวันเข้าย่อมเกิดความรักใคร่ อีกทั้งผลประโยชน์ก็เป็นหนึ่งเดียวกันข้าไม่รู้เลย เพราะข้ากับฮองเฮาแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ได้ใจตรงกัน ข้าเองก็ไม่เคยไตร่ตรองเรื่องของสามีภรรยาแต่โชคดีที่ แม้ว่าพวกเขาสองสามีภรรยาจะรักใคร่กันภายหลัง แต่ก็ไม่เคยเกิดความทะเยอทะยานที่คิดจะชิงอำนาจเป็นข้าที่ระแวงเกินไปเดิมที ข้าเห็นว่าซ่งซีซีแม้จะมีวรยุทธ์สูงส่ง แต่การบัญชาการกองทัพซวนเจียย่อมลำบาก อีกทั้งมีผู้ไม่ยอมรับนางมากมาย ข้าคิดว่านางอาจถอดใจในสามหรือห้าเดือน เช่นนั้นข้าก็จะหาคนใหม่มาแทนที่แต่ไม่คาดเลยว่า เหล่าทหารหัวแข็งในกองทัพซวนเจี

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1609

    แต่!แต่คนหนึ่งจะมีจิตใจที่มั่นคงและกล้าหาญได้อย่างไรเล่า?ใครจะคิดว่าในวันนั้นซ่งซีซีไม่ได้รับความไว้วางใจจากข้า แต่กลับขี่ม้าไปยังหนานเจียงเพื่อแจ้งข่าวให้เสด็จน้องทราบนี่เป็นเรื่องใหญ่ที่น่าตกใจและน่าทึ่งจริงๆ!หญิงที่หย่าร้างออกจากบ้าน ไม่มีผู้ติดตามหรือองครักษ์ กล้าบุกเข้าไปในค่ายทหารหนานเจียง ความกล้าหาญและความเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ในราชสำนักนี้ไม่มีใครทำได้หลายคนเสด็จน้องและข้าก็ต่างกัน เขาเชื่อในตัวซ่งซีซี และเตรียมทัพก่อนเวลา เพื่อรับมือกับกองทัพพันธมิตรแคว้นซาและซีจิงสนามรบจะอันตรายแค่ไหน ข้ารู้ดีไม่ต้องเล่ารายละเอียดเมื่อข่าวดีในการยึดหนานเจียงมาถึง น้ำตาไหลนองหน้าข้าหลังจากนั้นเสด็จน้องส่งคำกราบทูลเพื่อยกย่องทหารซ่งซีซีและพรรคพวกของนางแน่นอนว่าเป็นผู้มีคุณูปการใหญ่ ข้าจะให้รางวัลแก่พวกเขาแต่จ้านเป่ยว่างและยี่ฝางกลับทำให้ข้าผิดหวัง ข้าจึงต้องคิดอย่างลึกซึ้งถึงเหตุผลที่คนจากซีจิงทำลายข้อตกลงในสนามรบหนานเจียงข้าก็ไม่ใช่คนที่เริ่มคิดเรื่องนี้ในเวลานี้ แต่การแบ่งเขตแดนของเส้นแนวกั้นหลิ่งหลิงก็เป็นหนึ่งในผลงานการบริหารของข้า ข้าจึงพอใจในใจคนเรามักจะโลภ แต่ก็ต้องรู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1608

    เมื่อครั้งที่ข้าขึ้นครองราชย์ การศึกชิงคืนหนานเจียงก็ดำเนินมาแล้วหลายปี ชายแดนเฉิงหลิงก็ยังไม่สงบ ส่งผลให้ท้องพระคลังร่อยหรอ ราษฎรพลัดถิ่นไร้ที่อยู่อาศัยยามที่ข้าสวมอาภรณ์มังกร ประทับเหนือบัลลังก์มังกร ก็ลั่นวาจาในใจว่า ถึงจะไม่อาจเปรียบได้กับสมเด็จพระบรมราชบุพการีผู้ทรงพระปรีชาสามารถ แต่ข้าก็จะไม่เป็นจักรพรรดิที่โง่เขลาไร้ความสามารถ ข้าจะต้องชิงคืนหนานเจียง ทำให้แคว้นซางรุ่งเรือง ราษฎรมีความสุขต่อมาข้าจึงได้รู้ว่า มนุษย์นั้นมีเพียงในยามโง่เขลาหรือมีสติปัญญาเป็นเลิศเท่านั้น ถึงกล้าตั้งปณิธานยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้หนานเจียงพ่ายแพ้ ตระกูลซ่งทั้งเจ็ดพี่น้องล้วนพลีชีพในสนามรบแรกเริ่ม เสด็จพ่อและข้าก็ยังมีความหวังลมๆ แล้งๆ คิดว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งมีประสบการณ์ในสนามรบมาก อีกทั้งทหารที่เขานำก็กล้าหาญเชี่ยวชาญเสียดายที่เสบียงล่าช้า ทหารต้องสู้รบทั้งที่ท้องว่าง แม้จะทุ่มสุดกำลัง ก็ยังสู้ฝ่ายศัตรูไม่ได้ยิ่งเมื่อเคยยึดหนานเจียงกลับมาได้แล้ว แต่ต้องเสียคืนไป ผู้คนก็ยิ่งเชื่อว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งยังมีหวังจะตีคืนได้ด้วยเหตุผลหลายประการและความลังเลมากมาย ทำให้ข้าไม่อาจส่งกองทัพเป่ยหมิงของเสด็จน้องไปได

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1607

    ข้าเคยอ่านบันทึกการชันสูตรศพโดยมือชันสูตรแล้ว คำให้การของเขานั้นตรงกับบันทึกแทบทุกประการรายละเอียดอื่นๆ ของคดีก็เช่นกัน ข้าซักถามทีละข้อ เมื่อมั่นใจว่าตรงกันหมดแล้ว จึงส่งตัวเขาไปยังสำนักเขตจิงจ้าว และให้ท่านกงไต้เหรินส่งคนไปค้นหาอาวุธสังหารข้านึกว่าเมื่อจับคนร้ายได้ คดีนี้ก็ถือว่าเสร็จสิ้น ไม่นับว่าสิ่งที่ข้าอดทนลอบเฝ้าอยู่หลายวันนั้นสูญเปล่าใครจะรู้ว่า พอไปถึงสำนักเขตจิงจ้าว หลิวเซิ่งกลับกลับคำให้การ บอกว่าถูกข้าบีบบังคับจนต้องรับสารภาพ คำสารภาพที่ข้าให้เขาเอ่ยออกมา ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าบังคับให้เขาพูดทีละคำเขาร้องขอความเป็นธรรม ยืนกรานว่าตนเองบริสุทธิ์กลับกัน เขายังกล่าวหาข้าว่าเป็นโจรหญิง ขอให้สำนักเขตจิงจ้าวจับข้าและข่าวร้ายก็มาอีก ระบุจุดที่เขาบอกว่าโยนอาวุธสังหารไป สำนักเขตจิงจ้าวส่งคนหลายสิบลงงมหา กลับไม่พบเสื้อผ้าหรือมีดเลยแม้แต่น้อยสำนักเขตจิงจ้าวสอบสวนอยู่หลายวัน เพราะเขามีบาดแผล จึงไม่ได้ใช้การทรมาน เขายังคงร้องขอความเป็นธรรม ตะโกนเสียงแหบพร่า ว่าตนบริสุทธิ์ไร้ซึ่งหลักฐาน อีกทั้งยังถูกข้อกล่าวหาว่าข้าบีบบังคับคำสารภาพ จึงจำต้องปล่อยตัวเขาไปก็ในตอนนั้นเอง ข้าจ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1606

    ผู้ใต้บัญชาทำงานรวดเร็วยิ่งนัก ตอนที่เขาลืมตาตื่น เครื่องทรมานก็ถูกขนเข้ามาเรียบร้อยแล้วเตาถ่านถูกตั้งขึ้น คีมเหล็กถูกเผาจนแดง แส้ที่เปื้อนเลือดฟาดกลางอากาศสองสามครั้ง เพี้ยะ เพี้ยะ ดังสะท้านใจหลิวเซิ่งถึงอย่างไรก็เคยฆ่าคนมาก่อน ใจคอจึงหนักแน่นแม้ยามเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ มิแม้แต่กระพริบตา กล่าวว่า “พวกเจ้าตั้งศาลเถื่อนเช่นนี้ ถือเป็นความผิดใหญ่หลวง พวกเจ้ายังมีขื่อมีแปหรือไม่?”คนบางประเภทก็มักเป็นเช่นนี้ คิดว่ากฎหมายใช้บังคับกับใครก็ได้ ยกเว้นตนเองตนกระทำผิด แต่กลับคิดใช้กฎหมายปกป้องตนกับคนประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องโต้แย้ง การโต้แย้งมีแต่จะยิ่งเปิดช่องให้เขาพูดจาไร้สาระมากขึ้นข้าหยิบคีมเหล็กที่ถูกเผาจนแดงก่ำหนีบเข้าที่แขนเขาทันที พอกดแน่นลงไป เสื้อก็ละลายจนเป็นรู เสียงเนื้อถูกไหม้ดัง ซี่ๆๆ…เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นไม่เป็นไร ที่นี่เป็นห้องใต้ดินลับ ต่อให้ร้องจนเสียงขาดหาย ก็ไม่มีผู้ใดได้ยินแม้กระดูกจะแข็งเพียงใด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเครื่องทรมาน ก็ไร้ซึ่งพลังต่อต้านข้ายังมิทันได้เริ่มถอนเล็บ เขาก็สารภาพทุกสิ่งอย่างละเอียดทั้งสองครอบครัวสนิทกันจริง พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายร

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status