Share

บทที่ 13 นักฆ่า

last update Last Updated: 2025-04-22 14:23:18

ด้านไป๋เหมยเหม่ยนั้นเมื่อกลับมาถึงร้านก็ไม่ได้พัก จวบจนยามบ่ายลูกค้าก็เริ่มบางตาลง ในขณะที่นางกำลังจะสั่งให้เฉียวเหลียนเก็บร้าน ก็มีบุรุษสองคนและสตรีอีกหนึ่งนางกำลังก้าวเดินเข้ามาในร้าน ผู้หนึ่งแต่งกายคล้ายคุณชายชนชั้นสูง ส่วนสตรีอีกนางก็แต่งกายราวกับคุณหนูสูงศักดิ์ บุรุษอีกผู้หนึ่งก็สวมชุดคล้ายคนรับใช้ที่ติดตามมาดูแลเจ้านาย ไป๋เหมยเหม่ยที่ได้ยินเช่นนั้นจึงเอ่ยทันที

"ขออภัยด้วย ยามนี้หม้อไฟไม่เหลือแล้วเจ้าค่ะ"

จางจิ้งเฉวียนและจางหนิงหนิงที่ปลอมตัวออกมาหาความสำราญนอกวังหลวงจ้องมองไป๋เหมยเหม่ยคราหนึ่ง พบว่าสตรีนางนี้ค่อนข้างงดงามไม่น้อยเลย เขาได้ยินเสียงเล่าลือว่านางคือภรรยาที่ถูกสามีหย่า สามีของนางก็คือหยางเจ๋อหยวนนั่นเอง

ภรรยางามถึงเพียงนี้ก็ยังทิ้งขว้างได้ลงคอ เหลือเกินจริงเชียว!!!

ด้านจางหนิงหนิงก็จ้องมองไป๋เหมยเหม่ยด้วยแววตาที่เป็นประกายคราหนึ่ง ก่อนจะยกยิ้มมุมปาก

ร้านหม้อไฟคนงาม งามสมชื่อจริงๆ

ไป๋เหมยเหม่ยที่ถูกจ้องมองก็สงสัยไม่น้อย นางจึงขมวดคิ้วมุ่น

บุรุษที่ติดตามจางจิ้งเฉวียนและจางหนิงหนิงมาด้วยคือองครักษ์ของพวกเขา องครักษ์ผู้นั้นที่เห็นว่าไป๋เหมยเหม่ยจ้องเจ้านายตนจนเกินงาม จึงกระซิบถามจางจิ้งเฉวียนทันที

"นางมองเช่นนี้ไม่ปลอดภัย ควักลูกตานางเลยดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ

จางจิ้งเฉวียนที่ได้ยินเช่นนั้นก็หันขวับไปมององครักษ์ของตนคราหนึ่ง ก่อนจะถลึงตาใส่ องครักษ์ขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะกระซิบถาม

"ไม่พอพระทัยหรือพ่ะย่ะค่ะ เช่นนั้นปาดคอนางเลย"

องครักษ์ทำท่าจะควักมีดสั้นขึ้นมา จางจิ้งเฉวียนที่เห็นเช่นนั้นจึงยกมือขึ้นตบศีรษะองครักษ์ของตนอย่างเต็มแรง ไป๋เหมยเหม่ยสะดุ้งคราหนึ่ง พลางจ้องมองจางจิ้งเฉวียนอย่างไม่ละสายตา

"เอ่อ แม่นางอย่าใส่ใจ คนของข้าไม่รู้ความน่ะ"

"อ้อ"

จางหนิงหนิงที่เงียบอยู่นานจึงเอ่ยกับจางจิ้งเฉวียนทันที

“นี่แฝดพี่ ท่านห้ามชอบนางนะ ข้าจอง”

จางจิ้งเฉวียนที่ได้ยินเช่นนั้นก็เบ้ปากคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย

“แฝดน้อง แม้แต่สตรีหม้ายเจ้าก็ยังไม่ละเว้นหรือ”

จางหนิงหนิงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะเอ่ย

“ไม่เป็นอันใด แปลกใหม่ดี ข้าอยากลอง”

จางจิ้งเฉวียนหมดคำจะกล่าว น้องสาวของเขาผู้นี้ดีไปเสียทุกอย่าง ยกเว้นเพียงนางมีใจชอบในสตรีเหมือนกัน ไม่พึงใจในบุรุษ แต่เขาชอบที่นางสามารถไปที่ใดกับเขาก็ได้ทุกที่ เป็นพี่น้องที่สนิทสนมกันเป็นอย่างมาก

จางหนิงหนิงถอนหายใจคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย

"เฮ้อ น่าเสียดายแย่ หม้อไฟหมดแล้วหรือ ข้าได้ยินผู้คนร่ำลือกันปากต่อปากว่าหม้อไฟของแม่นางแม้จะเป็นร้านเล็กๆ แต่กลับรสชาติเทียบเท่ากับภัตตาคาร ข้าจึงอยากมาลองชิม"

ไป๋เหมยเหม่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย

"หม้อไฟหมดแล้ว แต่ทว่ายังมีมันฝรั่งเส้นผัดพริกและมันฝรั่งทอด พวกท่านอยากลองชิมหรือไม่ วันนี้พวกท่านมาและไม่ได้กินหม้อไฟ เช่นนี้ข้าจะไม่คิดค่าอาหาร"

"จริงหรือแม่นาง"

"เจ้าค่ะ"

"เช่นนั้นรบกวนแม่นางแล้ว"

จางหนิงหนิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน พลางจ้องมองไป๋เหมยเหม่ยอย่างไม่ละสายตา

         งดงามแล้วยังมีน้ำใจ น่าพาเข้าไปอยู่ในวังหลวงด้วยกันเหลือเกิน

         ไป๋เหมยเหม่ยที่ไม่รู้ความคิดของจางหนิงหนิงก็ยิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย

"เช่นนั้นโปรดนั่งรอสักครู่ เฉียวเหลียน นำชาชั้นดีมารับรองแขก"

ไป๋เหมยเหม่ยเอ่ยกับเฉียวเหลียนก่อนจะกลับเข้าไปในครัว ไม่นานก็นำอาหารมาวางตรงหน้าจางจิ้งเฉวียนและจางหนิงหนิง

จางจิ้งเฉวียนมองอาหารตรงหน้าคราหนึ่งด้วยความสนใจ ก่อนจะค่อยๆ ใช้ตะเกียบคีบอาหารเหล่านั้นเข้าปาก เขารู้สึกว่ามันช่างยอดเยี่ยมนัก เขาไม่เคยพบเจออาหารรสชาติแปลกใหม่เช่นนี้มาก่อน ด้านจางหนิงหนิงก็กินอาหารอย่างสำราญใจยิ่งนัก ก่อนจะเงยหน้ามาเอ่ยกับไป๋เหมยเหม่ย

"แม่นาง หากมีโอกาสข้าจะมากินอาหารที่ร้านเจ้าทุกวันเลย"

"เช่นนี้ขอบคุณพวกท่านมากแล้ว"

ไป๋เหมยเหม่ยเอ่ยขึ้นมา ก่อนจะกลับไปจัดการงานที้เหลือของตนต่อ นางนำน้ำซุปร้อนที่เหลือเทใส่หม้อใบเล็กๆ เอาไว้เพื่อเตรียมนำไปเททิ้ง ด้านจางจิ้งเฉวีียนเองก็เตรียมพร้อมที่จะกลับวังหลวงแล้ว อีกทั้งยังต้องลากตัวจางหนิงหนิงที่จ้องจะพุ่งเข้าหาไป๋เหมยเหม่ยให้กลับไปด้วยกัน แต่ว่าในขณะที่เขากำลังจะเดินออกไปจากร้าน ก็มีธนูดอกหนึ่งพุ่งเข้ามาหาเขา องครักษ์เห็นเช่นนั้นก็รีบคุ้มครองเขาในทันที ไป๋เหมยเหม่ยที่เห็นเหตุการณ์ตรงหน้าก็ตื่นตระหนกไม่น้อย นางมองไปตามทิศทางที่ลูกธนูพุ่งเข้ามา ก่อนจะพบกับชายชุดดำผู้หนึ่งที่แอบปะปนอยู่กับเหล่าชาวบ้าน 

นั่นคือนักฆ่าใช่หรือไม่? นางเคยเห็นในซีรีส์นักฆ่าจะชอบแต่งกายเช่นนี้

ใช่แน่ๆ ต้องป้องกันไว้ก่อนถ้าไม่ใช่ก็แล้วไป!!!

ไป๋เหมยเหม่ยคว้ากระทะใบหนึ่งมาถือเอาไว้ เตรียมพร้อมเอามาป้องกันตนเอง นางไม่มีวรยุทธ์ มีเพียงการป้องกันที่เป็นพื้นฐานทั่วไปเพียงเท่านั้น 

ไม่นานบุรุษชุดดำก็พุ่งเข้ามายังทิศทางที่พวกนางยืนอยู่ นางสังเกตเห็นว่าเป้าหมายของมันคงจะเป็นลูกค้าสองคนที่เพิ่งเดินเข้ามาในร้านของนาง มันกระทำการอย่างอุกอาจราวกับไม่เกรงกลัวความตาย คงเตรียมมาแล้วว่าหากต้องตายก็จะลากคนทั้งหมดให้ตายไปพร้อมกับมันด้วย เช่นนี้ก็นับว่าคุ้มค่าแล้ว จางจิ้งเฉวียนที่เห็นเช่นนั้นจึงดันจางหนิงหนิงให้หลบไปอยู่ด้านหลังตนทันที

ไป๋เหมยเหม่ยที่เห็นเช่นนั้นจึงเขวี้ยงกระทะออกไปจนสุดแรง กระทะพุ่งเข้าไปฟาดที่กลางหน้าผากของนักฆ่าผู้นั้น จนมันมึนงงทำสิ่งใดไม่ถูก ก่อนจะหันขวับมาจ้องมองไป๋เหมยเหม่ยด้วยแววตาที่เย็นเยียบ ไป๋เหมยเหม่ยถอยหลังหลายก้าวพลางจับมือเฉียวเหลียนเอาไว้ ยามนี้จางหนิงหนิงขยับเข้ามายืนอยู่ข้างกายนาง พร้อมกับจับมือนางเอาไว้แน่น ด้านจางจิ้งเฉวียนก็หันไปพยักหน้าให้ไป๋เหมยเหม่ยคราหนึ่งเป็นการขอบคุณ เขาขยับกายช้าๆ ก่อนจะพาตนเองไปบังตัวไป๋เหมยเหม่ยและจางหนิงหนิงเอาไว้ ไป๋เหมยเหม่ยคาดเดาอย่างผิดๆ ถูกๆ ว่าจางจิ้งเฉวียนอาจจะเป็นคุณชายหรืออาจะเป็นเชื้อพระวงศ์ เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางจึงดึงจางจิ้งเฉวียนมาไว้ด้านหลัง ก่อนจะเอ่ย

"หากท่านตายข้าคงชดใช้ไม่พอ ข้าเพิ่งเปิดร้านใหม่ไม่อยากให้ลูกค้ามาตายในร้าน"

จางจิ้งเฉวียนจ้องมองไป๋เหมยเหม่ยด้วยความตื่นตระหนก สตรีนางนี้ไม่กลัวตายหรือไรกัน นั่นนักฆ่าเชียวนะ!!!

ไม่อยากให้ลูกค้าตายในร้าน แต่การที่นางทำเช่นนี้นางนั่นแหละจะตายก่อนลูกค้า!!!

ไป๋เหมยเหม่ยนั้นคิดต่าง บางคราหากนางตายในครั้งนี้อาจจะได้กลับไปยังโลกเดิมที่จากมา เช่นนั้นก็นับว่าคุ้มค่าไม่น้อย แต่ทว่าจางจิ้งเฉวียนกลับเอ่ยทัดทานนาง

"ข้าเป็นบุรุษ จะให้เจ้ามาปกป้องได้เช่นไรกัน"

"พูดมากจริง ต่างคนต่างช่วยกัน ข้าไม่รู้ว่าท่านเป็นใคร แต่ข้าก็ไม่ต้องการให้มีคนมาฆ่ากันตายในร้านข้า รับไปสิ!!!"

จางจิ้งเฉวียนจ้องมองกระทะที่ไป๋เหมยเหม่ยส่งมาให้คราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย

"เอามาให้ข้าถือไว้ทำไมกัน?"

"ถ้าเห็นมันขยับตัวเมื่อใดก็เขวี้ยงใส่หน้ามันเลย"

"เจ้าไม่เสียดายหรือ"

"เสียดายสิ แต่ค่อยคิดเงินกับท่าน"

จางจิ้งเฉวียน "..."

ด้านจางหนิงหนิงนั้นไม่เอ่ยสิ่งใด นางลอบมองไป๋เหมยเหม่ยด้วยสายตาที่ชื่นชม

ฉึก!!!

"อ๊า!!!"

ในขณะที่จางจิ้งเฉวียนและไป๋เหมยเหม่ยกำลังถกเถียงกันไปมา ก็ได้ยินเสียงนักฆ่าผู้นั้นแหกปากร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด พลางทรุดลงไปกุมขาตัวเองเอาไว้ พวกนางจึงรีบหันไปมองทันที

นั่นมันพี่ใหญ่ของนางและจางเหยียนเหว่ยใช่หรือไม่!!

"จับตัวมันไปไต่สวนในคุกหลวง มันกล้าเข้ามาสังหารองค์รัชทายาทและองค์หญิงอย่างอุกอาจเช่นนี้ จะต้องมีคนในที่คิดไม่ซื่อเป็นแน่"

จางเหยียนเหว่ยเอ่ยก่อนจะสั่งให้ทหารจับตัวนักฆ่าผู้นั้นไปในทันที ไป๋เหมยเหม่ยถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะหันมามองจางจิ้งเฉวียนและจางหนิงหนิง

องค์รัชทายาทและองค์หญิงเช่นนั้นหรือ?

         ไป๋เหมยเหม่ยสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะครุ่นคิดในใจพลางจ้องมองจางเหยียนเหว่ย

ท่าทางเมื่อครู่ช่างเท่เหลือเกิน ยามที่เขาทำหน้าเคร่งขรึมเหมือนกับตอนที่แสดงซีรีส์ฉากดราม่านั่นมันช่างโดนใจนางยิ่งนัก

ราวกับว่านางข้ามภพมาเป็นนางเอกของเขาโดยเฉพาะเลย

เฮ้อ!!! ข้าตายตาหลับได้เสียทีสินะ ชีวิตคอมพลีตขนาดนี้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สตรีหม้ายนางนี้ข้าจะเกี้ยวเอง   ตอนพิเศษ

    งานแต่งงานผ่านพ้นไปได้ร่วมเดือนแล้ว ยามนี้จางเหยียนเหว่ยเข้ามาอยู่ที่จวนของไป๋เหมยเหม่ยอย่างเต็มตัวในฐานะบุตรเขยแล้ว เขาไม่ได้กลับไปพักที่โรงน้ำชาอีกเมื่อแต่งงานกันกิจการต่างๆ ของเขาก็ยกให้ไป๋เหมยเหม่ยทั้งหมด ไม่เหลือสิ่งใดที่เป็นของตนเลยแม้แต่น้อย มีคราหนึ่งเขาออกเดินทางไปที่นอกเมืองหลวง พบสตรีน้อยนางหนึ่งมาบอกรักเขา บอกว่ายินดีจะเคียงคู่เป็นภรรยาของเขาไปชั่วชีวิต เขากลับตอบเพียงว่า“ขออภัยด้วย เงินข้าอยู่กับภรรยาหมดแล้ว ไม่มีปัญญาเลี้ยงดูเจ้าหรอก ลำพังตัวข้าเองยังต้องขอเงินนางเลย เจ้าไปหาสามีคนอื่นเถิด ข้าจนมากทุกวันนี้ยังอาศัยบ้านภรรยาอยู่เลย”สตรีน้อยนางนั้นรู้สึกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก นางมองเขาด้วยสายตาที่อาลัยอาวรณ์ไม่เสื่อมคลายจางเหยียนเหว่ยคร้านจะสนใจสิ่งใดอีก วันนี้เขาไปพบท่านแม่มาและนำยาบำรุงไปให้นาง หน้าตาท่านแม่ดูสดใสขึ้นมาก อีกทั้งยังบอกให้เขารีบมีหลานเร็วๆ จางเหยียนเหว่ยเพียงยิ้ม ก่อนจะรีบกลับจวนมาหาไป๋เหมยเหม่ยทันที ระหว่างนั้นเขาพบกับไป๋กู้ชวนที่กำลังวุ่นวายอยู่ในครัว ได้ยินว่าระยะหลังมานี้เขามักสนใจการทำอาหารเป็นอย่างมากในขณะที่เขากำลังจะเอ่ยปากทักไป๋กู้ชวนอยู

  • สตรีหม้ายนางนี้ข้าจะเกี้ยวเอง   บทที่ 44 บทส่งท้าย

    จางเหยียนเหว่ยเดินมาพร้อมกับไป๋เหมยเหม่ย ในขณะที่กำลังจะขึ้นรถม้าก็พลันเห็นฮ่องเต้จางเหลียนไห่ที่กำลังเดินลงมาจากรถม้า ชายชราชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะจ้องมองคนทั้งสองด้วยแววตาที่วูบไหวจางเหยียนเหว่ยไม่เอ่ยสิ่งใด อีกทั้งยังไม่คิดจะบอกเรื่องราวของท่านแม่ให้คนผู้นี้ได้รับรู้ คนเช่นเขานี่คือการลงโทษที่ดีที่สุดแล้ว ให้เขาคิดว่าท่านแม่ตายไปแล้ว จมอยู่กับความทุกข์ใจของตนไปเช่นนี้ก็ดีไม่น้อยฮ่องเต้จางเหลียนไห่เพิ่งกลับมาจากที่ฝังศพของหลัวหลินฮวา คิดจะแวะมาไหว้พระที่วัดไป๋หวา แต่ไม่คาดคิดว่าจะได้เจอบุตรชายของตนเข้า ไป๋เหมยเหม่ยที่เห็นเช่นนั้นก็ทำความเคารพเขาอย่างนอบน้อม"อาเหยียน"ฮ่องเต้จางเหลียนไห่เอ่ยเรียกบุตรชายตนอย่างอ่อนโยน จางเหยียนเหว่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ส่งเสียงเหอะออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"ไม่คิดว่าคนเช่นท่านจะเข้าวัดด้วย คิดจะมาสนทนาธรรมหรือสารภาพบาปกันเล่า"ไป๋เหมยเหม่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็กระตุกแขนเสื้อจางเหยียนเหว่ยคราหนึ่งพลางส่งสายตาห้ามปรามเขา ฮ่องเต้จางเหลียนไห่คร้านจะใส่ใจคำพูดประชดประชันของลูกชายตน จึงเอ่ยตอบ"เจ้าจะแต่งงานแล้วนี่ ไม่คิดบอกข้าสักคำหรือ""ไม่จำเป็น ข้าจัดงานเองไ

  • สตรีหม้ายนางนี้ข้าจะเกี้ยวเอง   บทที่ 43 พบกันอีกครา

    เรือนหลังหนึ่งท้ายวัดไป๋หวายามนี้แม่นมหลัวกำลังพาจางเหยียนเหว่ยและไป๋เหมยเหม่ยมาที่เรือนหลังหนึ่งซึ่งอยู่ด้านหลังวัดไป๋หวา เรือนหลังนี้ค่อนข้างเล็ก เขามองไปโดยรอบก่อนจะครุ่นคิดเหตุใดเขาจึงไม่เคยรู้เลยว่ามีเรือนเช่นนี้อยู่ในวัดไป๋หวาด้วย"พระชายาอยู่ที่นี่เจ้าค่ะ นางอยู่ที่นี่มาหลายปีแล้ว"จางเหยียนเหว่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็มือสั่นเทาไม่น้อย เขาแทบจะไร้เรี่ยวแรง ยื่นมือไปเปิดประตูบานนั้นออก ความกลัวเริ่มปกคลุมในจิตใจ เขาเกรงว่าหากเขาเปิดประตูเข้าไปแล้วพบกับท่านแม่ นางจะรังเกียจเขาหรือไม่ นางจะด่าทอทุบตีเขาหรือไม่ระหว่างทางที่มาแม่นมหลัวเล่าว่าในวันที่ท่านแม่ป่วยตายนั้น แท้จริงแล้วเป็นเพียงละครฉากหนึ่งเท่านั้น ท่านแม่ให้แม่นมหลัวไปหายาชนิดหนึ่งมา ยานั้นหากกินเข้าไปแล้วจะหลับสนิท ไร้ลมหายใจราวกับตาย ต้องรีบใช้ยาแก้ภายในสองชั่วยาม มิเช่นนั้นจะตายจริงๆเขาเพิ่งเข้าใจในวันนี้ว่าเพราะเหตุใดแม่นมหลัวจึงเร่งให้นำศพของท่านแม่ไปฝัง จากนั้นเขาก็ไม่ได้ติดตามความเป็นไปของท่านแม่อีก ไม่ได้รับรู้ว่าคนของท่านแม่แยกย้ายไปอยู่ที่ใดกันบ้างหลังจากนำศพไปฝัง แม่นมหลัวก็นำคนที่ไว้ใจได้มาขุดหลุมศพและช่วยท่า

  • สตรีหม้ายนางนี้ข้าจะเกี้ยวเอง   บทที่ 42 แม่นมหลัว

    จางเหยียนเหว่ยที่กลับมาถึงเมืองหลวงก็รีบมาหาไป๋เหมยเหม่ยทันที เมื่อได้พบนางอีกคราเขาก็ปวดใจไม่น้อย คล้ายว่านางจะผอมลงไปมาก"เหมยเหม่ย""เหยียนเหยียน"เขารีบสั่งให้คนเปิดประตูคุกหลวงออก ก่อนจะรีบโผเข้าไปกอดนางทันที ไป๋เหมยเหม่ยที่เห็นว่าจางเหยียนเหว่ยกลับมาแล้วก็ดีใจจนร้องไห้โฮออกมาราวกับเด็กน้อย "ท่านกลับมาแล้ว ฮึก ข้ากลัวมากเลย มีแต่คนมารังแกข้า ฮือ"จางเหยียนเหว่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกผิดเหลือเกิน เขาไม่ได้บอกแผนการนี้กับนาง ทำได้เพียงปล่อยให้เรื่องราวเป็นเช่นนี้ เพราะว่าอะไรน่ะหรือ ก็เพื่อความปลอดภัยของนาง หากนางยังอยู่สุขสบาย คนตระกูลฟ่านย่อมไม่มีทางตายใจจนโผล่หางตนออกมา อีกทั้งยังอาจส่งคนมาลอบสังหารและทำร้ายนางกับครอบครัวอีกด้วย เมื่อคิดได้เช่นนั้นเขาจึงยกมือขึ้นลูบศีรษะนาง ก่อนจะเอ่ย"ข้าขอโทษ ข้าขอโทษที่ไม่ได้บอกเจ้านะ"ไป๋เหมยเหม่ยที่ได้ยินเช่นนั้นจึงผละออกจากเขาทันที จางเหยียนเหว่ยยิ้มให้นางก่อนจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้นางฟัง ไป๋เหมยเหม่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ทั้งโมโหทั้งดีใจในคราเดียวกัน"ท่านไม่บอกข้า!!! ข้าจะตีท่าน""ตีเลย ตีเลย ขอเพียงเจ้าหายโกรธข้าก็พอ"ไป๋เหมยเหม่ยยิ้ม

  • สตรีหม้ายนางนี้ข้าจะเกี้ยวเอง   บทที่ 41 จุดจบฟ่านกุ้ยอิง

    วันคืนผ่านไปเช่นนี้คืนแล้วคืนเล่า ไป๋เหมยเหม่ยไม่อาจรับรู้ข่าวคราวจากภายนอกได้เลยแม้แต่เรื่องเดียว จวบจนคืนหนึ่งที่ฟ่านเหลียนมาพบกับนาง เขาสั่งให้คนเปิดประตูห้องขังออก ก่อนจะก้าวเดินเข้ามาหานาง ฟ่านเหลียนจ้องมองนางด้วยแววตาที่เย้ยหยัน ก่อนจะเอ่ย"เป็นเช่นไรบ้างเล่าน้องเหมยเหม่ย รู้สำนึกแล้วหรือยัง หากว่าเจ้าเลือกข้าตั้งแต่วันนั้น เจ้าก็ไม่ต้องพบจุดจบเช่นวันนี้ เมื่อใดที่หลักฐานว่าบิดาและพี่ชายเจ้ายอมมอบข้อมูลทางการทหารให้แคว้นเซียวชัดเจน เจ้าจะถูกประหารทั้งตระกูล เฮ้อ!!! น่าเสียดายความงามของเจ้ายิ่งนัก"ไป๋เหมยเหม่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ส่งเสียงเหอะออกมาคราหนึ่ง ทำราวกับไม่สนใจคำพูดของฟ่านเหลียน ฟ่านเหลียนที่เห็นว่านางยังคงเฉยชาก็เริ่มมีโทสะ เขายื่นมือไปบีบคอของนาง ก่อนจะเอ่ย"อย่าอวดเก่งให้มากนัก!! ข้าจะให้หนทางรอดแก่เจ้า หากเจ้ายอมเป็นของเล่นของข้าและจางหลิงหยาง ข้ารับรองว่าจะหาทางช่วยเจ้า เป็นเช่นไร ข้อเสนอดีหรือไม่ รีบตัดสินใจเสียสิ เจ้าจะได้บุรุษมาครอบครองทีเดียวสองคนเลยนะ ไม่ดีหรือ อ้อ หรือว่าเจ้าจะรอว่าที่สามีใหม่ที่เป็นถึงท่านอ๋องมาช่วย โอ้ว เขาจะมาทันหรือ ยามนี้จะตายอยู่ในสนามรบ

  • สตรีหม้ายนางนี้ข้าจะเกี้ยวเอง   บทที่ 40 ถูกจับ

    ไป๋เหมยเหม่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็หน้าซีดเผือด ด้านจางเหยียนเหว่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะรีบหันมามองไป๋เหมยเหม่ยในทันที"เรารีบไปดูกันเถิด"ไป๋เหมยเหม่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าคราหนึ่ง ก่อนจะรีบกลับไปที่จวนตระกูลไป๋พร้อมจางเหยียนเหว่ยในทันที เมื่อมาถึงก็พบว่ายามนี้จวนตระกูลไป๋ถูกปิดล้อมเอาไว้หมดแล้ว เหล่าทหารจากวังหลวงยามนี้กำลังบุกเข้าไปในจวน ก่อนจะจับตัวคนในจวนออกมาทั้งหมด"ท่านแม่ กู้ชวน!!!"ไป๋เหมยเหม่ยร้องเรียกไป๋ฮูหยินและไป๋กู้ชวนที่ยามนี้ถูกจับตัวเอาไว้ ส่วนเหล่าบ่าวไพร่ในจวนล้วนถูกกักบริเวณไม่สามารถออกไปที่ใดได้ จางเหยียนเหว่ยจ้องมองทหารเหล่านั้นด้วยแววตาที่เย็นเยียบ ก่อนจะเอ่ย"ผู้ใดสั่งให้เจ้าบุกมาจับคนเช่นนี้ คำสั่งฝ่าบาทเช่นนั้นหรือ""ท่านอ๋องโปรดวางใจ หากการตรวจสอบพบว่าคนตระกูลไป๋บริสุทธิ์ ย่อมถูกปล่อยตัวในเร็ววัน"จางเหยียนเหว่ยที่ได้ยินเช่นนั้นจึงปรายตามองไปที่ด้านหน้าตนคราหนึ่ง พบว่าเป็นเสนาบดีฟ่านฉีนั่นเอง เขาขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะเอ่ยถาม"เสด็จลุงส่งท่านมาหรือ"เสนาบดีฟ่านฉียิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"เป็นรับสั่งของฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ หรือว่าท่านอ๋องคิดจะขัด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status