Beranda / รักโบราณ / สตรีหม้ายนางนี้ข้าจะเกี้ยวเอง / บทที่ 16 สิ่งกีดขวางทางความรู้สึก

Share

บทที่ 16 สิ่งกีดขวางทางความรู้สึก

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-22 14:24:23

ด้านไป๋กู้ชวนนั้นหลังจากที่อ่านตำราจนเริ่มเบื่อหน่ายแล้ว จึงเดินออกมาสูดอากาศเสียหน่อย ยิ่งเข้าใกล้ช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิอากาศก็เริ่มดีขึ้น ไม่หนาวมากเท่าใดนัก เขาก้าวเดินออกมาจากห้องนอนของตนเอง ก่อนจะพบกับไป๋เหมยเหม่ยที่เดินผ่านมาพอดี เขาปรายตามองพี่สาวตนคราหนึ่ง ระยะหลังมานี้เขาคุ้นชินกับการวิ่งไปทั่วจวนของไป๋เหมยเหม่ยเสียแล้ว

ไป๋เหมยเหม่ยหันมาจ้องมองน้องชายตนคราหนึ่งก่อนจะเอ่ย

“กู้ชวน วันนี้เจ้าอยากกินสิ่งใด ข้าจะทำให้เจ้ากิน”

ไป๋กู้ชวนที่ได้ยินเช่นนั้นก็เม้มริมฝีปากแน่น นับตั้งแต่พี่สาวตัวดีกลับมาอยู่ที่จวน นอกจากนางจะไม่อาละวาดด่าทอตบตีบ่าวไพร่แล้ว ยังทำอาหารอร่อยมากอีกด้วย เขาหรี่ตามองนางคราหนึ่ง รู้สึกว่าพี่สาวของเขาตั้งแต่หย่าขาดจากสามีก็มีท่าทางแปลกไปไม่น้อย

แต่เขากลับรู้สึกดีกับนางกว่าแต่ก่อนมากนัก

เมื่อคิดได้เช่นนั้นเขาจึงเอ่ยกับไป๋เหมยเหม่ยทันที

“ทำสิ่งใดก็ทำมาเถิด กินได้ก็พอ”

ไป๋เหมยเหม่ยยิ้มตาหยีก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย แล้วจึงเดินตรงไปโรงครัวทันที เมื่อมาถึงโรงครัวเหล่าบ่าวไพร่ก็ช่วยนางเตรียมวัตถุดิบ นางคอยบอกเหล่าสาวใช้ให้ช่วยเตรียมสิ่งของต่าง ๆ อย่างใจเย็น ไม่ได้มีท่าทีเกรี้ยวกราดเช่นกาลก่อนอีก

“คุณหนูเจ้าคะ บ่าวก่อไฟเสร็จเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ”

หญิงชราผู้หนึ่งซึ่งเป็นหัวหน้าแม่ครัวเอ่ยกับไป๋เหมยเหม่ยด้วยน้ำเสียงที่นอบน้อม ไป๋เหมยเหม่ยหันมายิ้มให้หญิงชราคราหนึ่ง ก่อนจะเริ่มทำอาหารทันที ทุกคราที่ได้จับกระทะนางจะรู้สึกมีความสุขที่สุด กลิ่นอาหารหอมหวนไปทั่วทั้งโรงครัว จางเหยียนเหว่ยที่เดินผ่านมาพร้อมกับไป๋จินเซียงหยุดชะงักฝีเท้า ก่อนจะมองมาที่โรงครัว เขาเห็นไป๋เหมยเหม่ยกำลังทำอาหารและหัวเราะพูดจากับเหล่าสาวใช้อย่างสนุกสนาน เขาขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะครุ่นคิดในใจ

ไม่พบกันหลายปีนางมารน้อยผู้นี้ใจดีขึ้นผิดหูผิดตาจริงๆ

ไป๋จินเซียงที่เห็นว่าจางเหยียนเหว่ยหยุดเดินจึงหันไปมอง ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย

“เหมยเหม่ยทำอาหารอีกแล้ว”

“นางทำทุกวันเลยหรือ”

จางเหยียนเหว่ยหันมาเอ่ยถามไป๋จินเซียงคราหนึ่ง ไป๋จินเซียงส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะตอบ

“ไม่ทุกวันหรอก ยามใดที่นางมีเวลาและอาหารไม่ถูกปากนางก็จะทำเอง นับตั้งแต่นางหย่ากับหยางเจ๋อหยวนก็ดูจะเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีไม่น้อยเลย คงเพราะนางศีรษะกระแทกโต๊ะครานั้น หลังจากฟื้นขึ้นมาคงคิดได้ อีกทั้งคงคิดได้ว่าหยางเจ๋อหยวนไม่เคยรักนาง นับว่าโชคดีที่นางหย่าขาดจากคนเช่นหยางเจ๋อหยวนได้”

จางเหยียนเหว่ยไม่เอ่ยสิ่งใดเพียงยิ้มเล็กน้อยเท่านั้น

วันนี้จางเหยียนเหว่ยอยู่กินอาหารค่ำที่จวนตระกูลไป๋ เขามองดูอาหารตรงหน้าคราหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองไป๋เหมยเหม่ยที่ยามนี้กำลังถกเถียงอยู่กับไป๋กู้ชวน

“นี่คือสิ่งใดไป๋เหมยเหม่ย ไหนเจ้าบอกว่าจะทำอาหารอร่อยให้ข้ากิน”

ไป๋เหมยเหม่ยถลึงตาใส่ไป๋กู้ชวนคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย

“นี่อย่างไรเล่า หมูพันมันฝรั่งทอดผัดเปรี้ยวหวาน”

“มันกินได้หรือ”

“กินได้สิ ยัดเข้าปากไปเสีย ถามมากจริง”

ไป๋เหมยเหม่ยคีบอาหารให้ไป๋กู้ชวนอย่างใส่ใจ นี่คืออาหารจากยุคปัจจุบันที่นางนำมาลองทำ พบว่าแม้วัตถุดิบจะไม่ครบถ้วน แต่ก็ยังรสชาติดีไม่น้อย นางจะนำมันไปขายที่ร้านหม้อไฟด้วย

แม่ทััพใหญ่ไป๋ยิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะหันมาเอ่ยกับจางเหยียนเหว่ย

“ทำให้ท่านอ๋องขายหน้าแล้ว จวนของกระหม่อมก็มักวุ่นวายเช่นนี้”

จางเหยียนเหว่ยยิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย

“ไม่ต้องมากพิธีกับข้าหรอกท่านแม่ทัพใหญ่ เรารู้จักกันมานาน ยามอยู่ค่ายทหารที่ชายแดนก็นั่งกินอาหารร่วมกันอยู่เสมอ บรรยากาศเช่นนี้ก็ครึกครื้นดี ชวนให้นึกถึงยามที่อยู่ชายแดนยิ่งนัก”

จางเหยียนเหว่ยเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะครุ่นคิดในใจ จวนตระกูลไป๋ครึกครื้นจริงดังเขาว่า ครอบครัวที่อบอุ่นเช่นนี้มันทำให้เขารู้สึกอิจฉาในใจ เขาพยายามสงบสติอารมณ์เพื่อไม่ให้ความดำมืดในจิตใจปรากฏตัวออกมา ไป๋เหมยเหม่ยลอบสังเกตท่าทีของจางเหยียนเหว่ยเป็นระยะ นางอยากจะคีบอาหารให้เขาแต่กลับไม่กล้า 

จางเหยียนเหว่ยรับรู้ได้ถึงสายตาที่มองมาจึงหันมาสบตากับไป๋เหมยเหม่ย ไป๋เหมยเหม่ยตกใจไม่น้อย ก่อนจะรีบก้มหน้าก้มตากินอาหารต่อทันที จางเหยียนเหว่ยยิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะใช้ตะเกียบคีบหมูพันมันฝรั่งทอดผัดเปรี้ยวหวานขึ้นมากิน พบว่ารสชาติดีไม่น้อยเลย

อาหารมื้อนี้ผ่านไปด้วยดี จางเหยียนเหว่ยกำลังจะกลับจวนของตน ในระหว่างที่เขากำลังเดินไปที่หน้าประตูจวนพร้อมกับไป๋จินเซียง ก็พบกับไป๋เหมยเหม่ยเข้าเสียก่อน นางเดินมาหยุดตรงหน้าเขาก่อนจะยื่นกล่องอาหารส่งให้เขา จางเหยียนเหว่ยจ้องมองกล่องอาหารในมือนางก่อนจะเอ่ย

“นี่คือสิ่งใดหรือ”

ไป๋เหมยเหม่ยยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะเอ่ย

“นี่คือปลาต้มผักดองเพคะ ท่านอ๋องเสวยมื้อเย็นไปมากนัก เกรงว่าจะท้องอืดได้ หม่อมฉันจึงทำปลาต้มผักดองเอาไว้ให้ท่านอ๋องนำกลับไปเสวยที่จวนเผื่อว่าจะสบายท้องมากขึ้น ตอบแทนที่ท่านอ๋องมอบขนมให้หม่อมฉันถึงสองครั้ง”

ไป๋จินเซียงจ้องมองท่าทีของน้องสาวตนก่อนจะขมวดคิ้วมุ่น แต่ทว่าไม่ได้เอ่ยสิ่งใด จางเหยียนเหว่ยมองนางคราหนึ่ง ก่อนจะยื่นมือไปรับกล่องอาหารนั้นมาจากมือของนาง

“ขอบคุณเจ้ามาก”

“เพคะ เช่นนั้นหม่อมฉันขอตัวก่อน ท่านอ๋องกลับดีๆ นะเพคะ”

ไป๋เหมยเหม่ยเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินจากไป จางเหยียนเหว่ยไม่ได้เอ่ยสิ่งใด เขาเดินทางกลับจวนไปพร้อมกับกล่องอาหารนั้นของไป๋เหมยเหม่ย เมื่อเข้ามานั่งในรถม้าแล้ว เขาจึงเอ่ยกับองครักษ์คนสนิทของตนทันที

“กลับโรงน้ำชา”

“ไม่ไปโรงพนันก่อนหรือพ่ะย่ะค่ะ”

“ข้าสั่งให้กลับโรงน้ำชา”

องครักษ์มองเขาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถาม

“ท่านอ๋อง จะไม่คิดกลับไปที่จวนอ๋องจริงหรือพ่ะย่ะค่ะ อย่างไรที่นั่นก็เป็นบ้านของพระองค์นะพ่ะย่ะค่ะ”

จางเหยียนเหว่ยปรายตามององครักษ์ของตนด้วยแววตาที่เย็นเยียบ ก่อนจะเอ่ย

“ข้าสั่งให้ไปที่ใดก็ไปตามที่ข้าสั่ง หากเจ้ายังเอ่ยถามอีกข้าจะถีบเจ้าจริงๆ”

“ขออภัยพ่ะย่ะค่ะ”

องครักษ์ยกมือขึ้นเกาศีรษะคราหนึ่ง ก่อนจะครุ่นคิดในใจ

ระยะหลังมานี้คล้ายว่าเจ้านายของเขาจะแปลกไป ทุกคราเคยชอบไปแต่โรงพนัน แต่ครานี้กลับเปลี่ยนใจชอบมาที่จวนตระกูลไป๋แทน

จางเหยียนเหว่ยยิ้มออกมาเล็กน้อย ยามนี้เขาคิดว่าจวนตระกูลไป๋น่าสนใจกว่าโรงพนันเสียอีก

เปลี่ยนจากนำเงินที่มีไปจ่ายให้โรงพนันมาซื้อของกินให้นางดีกว่า

ใช้เวลาไม่นานรถม้าก็มาจอดที่ด้านหน้าโรงน้ำชา จางเหยียนเหว่ยก้าวเดินขึ้นไปที่ชั้นบนสุด ที่นี่คือที่พักของเขา ตั้งแต่กลับมาเมืองหลวงเขาก็สั่งให้คนนำของทุกอย่างที่เขาเคยใช้ที่จวนอ๋องมาไว้ที่นี่ เขานอนที่นี่ใช้ชีวิตที่นี่ โดยมีแม่นมเหลียน แม่นมที่เคยดูแลเขาในวัยเยาว์ดูแลกิจการโรงน้ำชาแทนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังรักเขาราวกับบุตรตนและเฝ้าคอยรับใช้

“ท่านอ๋อง เสด็จมาแล้วหรือเพคะ หม่อมฉันสั่งให้สาวใช้เตรียมน้ำอุ่นเอาไว้แล้วเพคะ หากอาบน้ำเสร็จแล้วจะทรงรับอาหารเย็นเลยหรือไม่เพคะ”

“ไม่ล่ะ ข้ากินมาจากข้างนอกแล้ว”

“เพคะ”

จางเหยียนเหว่ยกำลังจะไปอาบน้ำ แต่ทว่ากลับนึกขึ้นมาได้ว่าตนนำอาหารของไป๋เหมยเหม่ยติดมือมาด้วย จึงหันมาเอ่ยกับแม่นมเหลียนพร้อมกับยื่นกล่องอาหารส่งให้

“แม่นมช่วยนำปลาต้มผักกาดดองนี่ไปอุ่นให้ข้าที”

แม่นมเหลียนรับกล่องอาหารมาจากจางเหยียนเหว่ยก่อนจะก้าวเดินจากไป จางเหยียนเหว่ยที่เห็นเช่นนั้นจึงเดินไปที่อ่างน้ำพลางถอดเสื้อผ้าของตนออก เผยให้เห็นร่างกายกำยำล่ำสัน แต่ทว่ากลับมีบาดแผลเป็นรอยแผลเป็นนับไม่ถ้วน ทั้งรอยบาดแผลจากสงครามและรอยบาดแผลจากคมมีดที่เขาทำร้ายตนเอง

เขาถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะทิ้งกายลงนั่งในอ่างน้ำอุ่น เขาแช่ตัวอยู่เช่นนั้นเพื่อผ่อนคลาย พลางหลับตาลง แต่ทว่าภาพของไป๋เหมยเหม่ยกลับรบกวนจิตใจของเขายิ่งนัก จนเขาต้องลืมตาขึ้นมา

เฮ้อ!!! นางมารน้อย เจ้ากล้ามาก่อกวนในความฝันของข้าเชียวหรือ

ด้านไป๋เหมยเหม่ยที่กลับมาถึงเรือนแล้ว ก็ได้ยินว่าไป๋จินเซียงมาขอพบ นางจึงเดินออกมาพบเขาทันที 

“พี่ใหญ่มาหาข้ามีเรื่องใดหรือ หรือว่ากินมื้อเย็นไม่อิ่ม ข้าจะไปทำของอร่อยมาให้ท่านเพิ่มดีหรือไม่”

ไป๋จินเซียงส่ายหน้าไปมา ก่อนจะหันไปสั่งให้เหล่าสาวใช้ออกไปจนหมด ไป๋เหมยเหม่ยที่เห็นเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะเอ่ยถาม

“มีเรื่องใดหรือเจ้าคะ”

ไป๋จินเซียงถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย

“เหมยเหม่ย แต่ไหนแต่ไรเจ้าก็ไม่เคยสนใจอาเหยียน พี่คิดว่าเจ้าจะจำเขาไม่ได้เสียแล้ว แต่เมื่อใดกันที่เขาและเจ้าดูจะสนิทสนมกันมากเหลือเกิน”

ไป๋เหมยเหม่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็เม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะเอ่ย

“ท่านอ๋องเคยช่วยข้าในครั้งนั้นที่ฟ่านกุ้ยอิงมาก่อกวน ข้าจึงอยากตอบแทนเขา ไม่ได้คิดสิ่งใดทั้งนั้น”

ไป๋จินเซียงจ้องเข้ามาในดวงตาของน้องสาวตนเองจนคนถูกจ้องถึงกับหลบสายตา

“เหมยเหม่ย ทุกสิ่งในใต้หล้าพี่และท่านพ่อล้วนหามาให้เจ้าได้ แต่กับอาเหยียนไม่ใช่ เขาเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ ส่วนเจ้าเป็นสตรีที่เคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว แคว้นไท่เหลียงไม่เคยปรากฏมาก่อนที่เชื้อพระวงศ์จะแต่งสตรีที่ถูกหย่าเป็นภรรยาเอกได้ พี่ไม่ได้อยากพูดให้เจ้ารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ หากเจ้าคิดกับเขาเพียงคนที่เคยช่วยเหลือกันพี่ก็วางใจ เจ้าเข้าใจที่พี่พูดใช่หรือไม่ พี่ไม่อยากให้เจ้าเป็นทุกข์อีก เจ้าเองก็เคยมีสามีมาก่อน ผ่านการมีชีวิตคู่มาแล้ว เจ้าเองก็รู้ดีว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย”

ไป๋เหมยเหม่ยชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติและยิ้มให้พี่ชายตนเล็กน้อยแล้วเอ่ย

“ข้าเข้าใจเจ้าค่ะ พี่ใหญ่ไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่ทำสิ่งใดให้ตนเองต้องเป็นทุกข์อีก ท่านพี่วางใจเถิด”

ไป๋จินเซียงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะขอตัวกลับเรือนของตนเองไป

เมื่อไป๋จินเซียงจากไปแล้ว ไป๋เหมยเหม่ยก็เดินกลับเข้ามาในห้องนอน นางจ้องมองไปที่กล่องอาหารกล่องหนึ่งบนหัวเตียง ก่อนจะหยิบมันมาเปิดออก ด้านในคือขนมกุ้ยฮวาที่เหลืออยู่และถังหูลู่ที่จางเหยียนเหว่ยมอบให้นาง ไป๋เหมยเหม่ยยิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะครุ่นคิดในใจ

ชาติปัจจุบันนางไม่อาจเอื้อมเขา ชาตินี้นางกับเขาก็ยังมีเรื่องฐานะที่กีดขวางเอาไว้ แม้จะเข้าใกล้เขาได้มากขึ้นแต่คล้ายกับว่ามีเส้นบางๆ กั้นกลางระหว่างนางและเขาเอาไว้ไม่ให้ล้ำเส้นมากไปกว่านี้ได้

ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจพลันปรากฏขึ้นในใจของไป๋เหมยเหม่ยเล็กน้อย นางถอนหายใจก่อนจะยิ้มออกมา

ช่างเถิด เพียงเท่านี้ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ นางเองก็รู้ดีว่าไม่ควรล้ำเส้นไปหาเขามากกว่านี้

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • สตรีหม้ายนางนี้ข้าจะเกี้ยวเอง   ตอนพิเศษ

    งานแต่งงานผ่านพ้นไปได้ร่วมเดือนแล้ว ยามนี้จางเหยียนเหว่ยเข้ามาอยู่ที่จวนของไป๋เหมยเหม่ยอย่างเต็มตัวในฐานะบุตรเขยแล้ว เขาไม่ได้กลับไปพักที่โรงน้ำชาอีกเมื่อแต่งงานกันกิจการต่างๆ ของเขาก็ยกให้ไป๋เหมยเหม่ยทั้งหมด ไม่เหลือสิ่งใดที่เป็นของตนเลยแม้แต่น้อย มีคราหนึ่งเขาออกเดินทางไปที่นอกเมืองหลวง พบสตรีน้อยนางหนึ่งมาบอกรักเขา บอกว่ายินดีจะเคียงคู่เป็นภรรยาของเขาไปชั่วชีวิต เขากลับตอบเพียงว่า“ขออภัยด้วย เงินข้าอยู่กับภรรยาหมดแล้ว ไม่มีปัญญาเลี้ยงดูเจ้าหรอก ลำพังตัวข้าเองยังต้องขอเงินนางเลย เจ้าไปหาสามีคนอื่นเถิด ข้าจนมากทุกวันนี้ยังอาศัยบ้านภรรยาอยู่เลย”สตรีน้อยนางนั้นรู้สึกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก นางมองเขาด้วยสายตาที่อาลัยอาวรณ์ไม่เสื่อมคลายจางเหยียนเหว่ยคร้านจะสนใจสิ่งใดอีก วันนี้เขาไปพบท่านแม่มาและนำยาบำรุงไปให้นาง หน้าตาท่านแม่ดูสดใสขึ้นมาก อีกทั้งยังบอกให้เขารีบมีหลานเร็วๆ จางเหยียนเหว่ยเพียงยิ้ม ก่อนจะรีบกลับจวนมาหาไป๋เหมยเหม่ยทันที ระหว่างนั้นเขาพบกับไป๋กู้ชวนที่กำลังวุ่นวายอยู่ในครัว ได้ยินว่าระยะหลังมานี้เขามักสนใจการทำอาหารเป็นอย่างมากในขณะที่เขากำลังจะเอ่ยปากทักไป๋กู้ชวนอยู

  • สตรีหม้ายนางนี้ข้าจะเกี้ยวเอง   บทที่ 44 บทส่งท้าย

    จางเหยียนเหว่ยเดินมาพร้อมกับไป๋เหมยเหม่ย ในขณะที่กำลังจะขึ้นรถม้าก็พลันเห็นฮ่องเต้จางเหลียนไห่ที่กำลังเดินลงมาจากรถม้า ชายชราชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะจ้องมองคนทั้งสองด้วยแววตาที่วูบไหวจางเหยียนเหว่ยไม่เอ่ยสิ่งใด อีกทั้งยังไม่คิดจะบอกเรื่องราวของท่านแม่ให้คนผู้นี้ได้รับรู้ คนเช่นเขานี่คือการลงโทษที่ดีที่สุดแล้ว ให้เขาคิดว่าท่านแม่ตายไปแล้ว จมอยู่กับความทุกข์ใจของตนไปเช่นนี้ก็ดีไม่น้อยฮ่องเต้จางเหลียนไห่เพิ่งกลับมาจากที่ฝังศพของหลัวหลินฮวา คิดจะแวะมาไหว้พระที่วัดไป๋หวา แต่ไม่คาดคิดว่าจะได้เจอบุตรชายของตนเข้า ไป๋เหมยเหม่ยที่เห็นเช่นนั้นก็ทำความเคารพเขาอย่างนอบน้อม"อาเหยียน"ฮ่องเต้จางเหลียนไห่เอ่ยเรียกบุตรชายตนอย่างอ่อนโยน จางเหยียนเหว่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ส่งเสียงเหอะออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"ไม่คิดว่าคนเช่นท่านจะเข้าวัดด้วย คิดจะมาสนทนาธรรมหรือสารภาพบาปกันเล่า"ไป๋เหมยเหม่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็กระตุกแขนเสื้อจางเหยียนเหว่ยคราหนึ่งพลางส่งสายตาห้ามปรามเขา ฮ่องเต้จางเหลียนไห่คร้านจะใส่ใจคำพูดประชดประชันของลูกชายตน จึงเอ่ยตอบ"เจ้าจะแต่งงานแล้วนี่ ไม่คิดบอกข้าสักคำหรือ""ไม่จำเป็น ข้าจัดงานเองไ

  • สตรีหม้ายนางนี้ข้าจะเกี้ยวเอง   บทที่ 43 พบกันอีกครา

    เรือนหลังหนึ่งท้ายวัดไป๋หวายามนี้แม่นมหลัวกำลังพาจางเหยียนเหว่ยและไป๋เหมยเหม่ยมาที่เรือนหลังหนึ่งซึ่งอยู่ด้านหลังวัดไป๋หวา เรือนหลังนี้ค่อนข้างเล็ก เขามองไปโดยรอบก่อนจะครุ่นคิดเหตุใดเขาจึงไม่เคยรู้เลยว่ามีเรือนเช่นนี้อยู่ในวัดไป๋หวาด้วย"พระชายาอยู่ที่นี่เจ้าค่ะ นางอยู่ที่นี่มาหลายปีแล้ว"จางเหยียนเหว่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็มือสั่นเทาไม่น้อย เขาแทบจะไร้เรี่ยวแรง ยื่นมือไปเปิดประตูบานนั้นออก ความกลัวเริ่มปกคลุมในจิตใจ เขาเกรงว่าหากเขาเปิดประตูเข้าไปแล้วพบกับท่านแม่ นางจะรังเกียจเขาหรือไม่ นางจะด่าทอทุบตีเขาหรือไม่ระหว่างทางที่มาแม่นมหลัวเล่าว่าในวันที่ท่านแม่ป่วยตายนั้น แท้จริงแล้วเป็นเพียงละครฉากหนึ่งเท่านั้น ท่านแม่ให้แม่นมหลัวไปหายาชนิดหนึ่งมา ยานั้นหากกินเข้าไปแล้วจะหลับสนิท ไร้ลมหายใจราวกับตาย ต้องรีบใช้ยาแก้ภายในสองชั่วยาม มิเช่นนั้นจะตายจริงๆเขาเพิ่งเข้าใจในวันนี้ว่าเพราะเหตุใดแม่นมหลัวจึงเร่งให้นำศพของท่านแม่ไปฝัง จากนั้นเขาก็ไม่ได้ติดตามความเป็นไปของท่านแม่อีก ไม่ได้รับรู้ว่าคนของท่านแม่แยกย้ายไปอยู่ที่ใดกันบ้างหลังจากนำศพไปฝัง แม่นมหลัวก็นำคนที่ไว้ใจได้มาขุดหลุมศพและช่วยท่า

  • สตรีหม้ายนางนี้ข้าจะเกี้ยวเอง   บทที่ 42 แม่นมหลัว

    จางเหยียนเหว่ยที่กลับมาถึงเมืองหลวงก็รีบมาหาไป๋เหมยเหม่ยทันที เมื่อได้พบนางอีกคราเขาก็ปวดใจไม่น้อย คล้ายว่านางจะผอมลงไปมาก"เหมยเหม่ย""เหยียนเหยียน"เขารีบสั่งให้คนเปิดประตูคุกหลวงออก ก่อนจะรีบโผเข้าไปกอดนางทันที ไป๋เหมยเหม่ยที่เห็นว่าจางเหยียนเหว่ยกลับมาแล้วก็ดีใจจนร้องไห้โฮออกมาราวกับเด็กน้อย "ท่านกลับมาแล้ว ฮึก ข้ากลัวมากเลย มีแต่คนมารังแกข้า ฮือ"จางเหยียนเหว่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกผิดเหลือเกิน เขาไม่ได้บอกแผนการนี้กับนาง ทำได้เพียงปล่อยให้เรื่องราวเป็นเช่นนี้ เพราะว่าอะไรน่ะหรือ ก็เพื่อความปลอดภัยของนาง หากนางยังอยู่สุขสบาย คนตระกูลฟ่านย่อมไม่มีทางตายใจจนโผล่หางตนออกมา อีกทั้งยังอาจส่งคนมาลอบสังหารและทำร้ายนางกับครอบครัวอีกด้วย เมื่อคิดได้เช่นนั้นเขาจึงยกมือขึ้นลูบศีรษะนาง ก่อนจะเอ่ย"ข้าขอโทษ ข้าขอโทษที่ไม่ได้บอกเจ้านะ"ไป๋เหมยเหม่ยที่ได้ยินเช่นนั้นจึงผละออกจากเขาทันที จางเหยียนเหว่ยยิ้มให้นางก่อนจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้นางฟัง ไป๋เหมยเหม่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ทั้งโมโหทั้งดีใจในคราเดียวกัน"ท่านไม่บอกข้า!!! ข้าจะตีท่าน""ตีเลย ตีเลย ขอเพียงเจ้าหายโกรธข้าก็พอ"ไป๋เหมยเหม่ยยิ้ม

  • สตรีหม้ายนางนี้ข้าจะเกี้ยวเอง   บทที่ 41 จุดจบฟ่านกุ้ยอิง

    วันคืนผ่านไปเช่นนี้คืนแล้วคืนเล่า ไป๋เหมยเหม่ยไม่อาจรับรู้ข่าวคราวจากภายนอกได้เลยแม้แต่เรื่องเดียว จวบจนคืนหนึ่งที่ฟ่านเหลียนมาพบกับนาง เขาสั่งให้คนเปิดประตูห้องขังออก ก่อนจะก้าวเดินเข้ามาหานาง ฟ่านเหลียนจ้องมองนางด้วยแววตาที่เย้ยหยัน ก่อนจะเอ่ย"เป็นเช่นไรบ้างเล่าน้องเหมยเหม่ย รู้สำนึกแล้วหรือยัง หากว่าเจ้าเลือกข้าตั้งแต่วันนั้น เจ้าก็ไม่ต้องพบจุดจบเช่นวันนี้ เมื่อใดที่หลักฐานว่าบิดาและพี่ชายเจ้ายอมมอบข้อมูลทางการทหารให้แคว้นเซียวชัดเจน เจ้าจะถูกประหารทั้งตระกูล เฮ้อ!!! น่าเสียดายความงามของเจ้ายิ่งนัก"ไป๋เหมยเหม่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ส่งเสียงเหอะออกมาคราหนึ่ง ทำราวกับไม่สนใจคำพูดของฟ่านเหลียน ฟ่านเหลียนที่เห็นว่านางยังคงเฉยชาก็เริ่มมีโทสะ เขายื่นมือไปบีบคอของนาง ก่อนจะเอ่ย"อย่าอวดเก่งให้มากนัก!! ข้าจะให้หนทางรอดแก่เจ้า หากเจ้ายอมเป็นของเล่นของข้าและจางหลิงหยาง ข้ารับรองว่าจะหาทางช่วยเจ้า เป็นเช่นไร ข้อเสนอดีหรือไม่ รีบตัดสินใจเสียสิ เจ้าจะได้บุรุษมาครอบครองทีเดียวสองคนเลยนะ ไม่ดีหรือ อ้อ หรือว่าเจ้าจะรอว่าที่สามีใหม่ที่เป็นถึงท่านอ๋องมาช่วย โอ้ว เขาจะมาทันหรือ ยามนี้จะตายอยู่ในสนามรบ

  • สตรีหม้ายนางนี้ข้าจะเกี้ยวเอง   บทที่ 40 ถูกจับ

    ไป๋เหมยเหม่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็หน้าซีดเผือด ด้านจางเหยียนเหว่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะรีบหันมามองไป๋เหมยเหม่ยในทันที"เรารีบไปดูกันเถิด"ไป๋เหมยเหม่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าคราหนึ่ง ก่อนจะรีบกลับไปที่จวนตระกูลไป๋พร้อมจางเหยียนเหว่ยในทันที เมื่อมาถึงก็พบว่ายามนี้จวนตระกูลไป๋ถูกปิดล้อมเอาไว้หมดแล้ว เหล่าทหารจากวังหลวงยามนี้กำลังบุกเข้าไปในจวน ก่อนจะจับตัวคนในจวนออกมาทั้งหมด"ท่านแม่ กู้ชวน!!!"ไป๋เหมยเหม่ยร้องเรียกไป๋ฮูหยินและไป๋กู้ชวนที่ยามนี้ถูกจับตัวเอาไว้ ส่วนเหล่าบ่าวไพร่ในจวนล้วนถูกกักบริเวณไม่สามารถออกไปที่ใดได้ จางเหยียนเหว่ยจ้องมองทหารเหล่านั้นด้วยแววตาที่เย็นเยียบ ก่อนจะเอ่ย"ผู้ใดสั่งให้เจ้าบุกมาจับคนเช่นนี้ คำสั่งฝ่าบาทเช่นนั้นหรือ""ท่านอ๋องโปรดวางใจ หากการตรวจสอบพบว่าคนตระกูลไป๋บริสุทธิ์ ย่อมถูกปล่อยตัวในเร็ววัน"จางเหยียนเหว่ยที่ได้ยินเช่นนั้นจึงปรายตามองไปที่ด้านหน้าตนคราหนึ่ง พบว่าเป็นเสนาบดีฟ่านฉีนั่นเอง เขาขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะเอ่ยถาม"เสด็จลุงส่งท่านมาหรือ"เสนาบดีฟ่านฉียิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"เป็นรับสั่งของฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ หรือว่าท่านอ๋องคิดจะขัด

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status