Share

บทที่ 17 ทุบตีคนชั่ว

last update Last Updated: 2025-04-22 14:24:42

หลังจากวันนั้นจางเหยียนเหว่ยก็ไม่ได้พบเจอกับไป๋เหมยเหม่ยอีก เขาเองก็มีงานให้ต้องไปทำเช่นเดียวกัน นั่นคือตามล่าหาตัวคนบงการที่ส่งคนมาลอบสังหารจางจิ้งเฉวียนและจางหนิงหนิง แต่จนแล้วจนรอดก็ยังหาตัวผู้บงการไม่พบ จางเหยียนเหว่ยขมวดคิ้วมุ่นรู้สึกว่าเรื่องนี้มันมีที่มาที่ไปน่าแปลกยิ่งนัก เขาส่งคนไปสืบหาทั้งในเมืองหลวงและนอกเมืองหลวง แต่กลับไม่พบเบาะแสใดที่จะโยงถึงตัวผู้สั่งการได้ พวกมันกลับเก็บตัวเงียบซ่อนเร้นแฝงกายได้อย่างไม่น่าเชื่อ

วังหลวง

ด้านฮ่องเต้จางเหลียนไห่ที่ได้ทราบว่าจางเหยียนเหว่ยยังไม่พบเบาะแสใดก็ค่อนข้างกังวลใจไม่น้อย เขารู้ดีว่าหลานชายผู้นี้มีฝีมือไม่ธรรมดา อีกทั้งยังมีทหารรับใช้ที่ไม่ขึ้นตรงต่อราชสำนักอีกหลายแสนนาย เป็นทหารที่จางเหยียนเหว่ยฝึกฝนขึ้นมาเองกับมือ ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าเขาเองก็มีความหวาดกลัวในตัวหลานชายผู้นี้ว่าอาจมีใจคิดก่อกบฏ แต่อีกใจหนึ่งเขาก็ไม่กล้าเอ่ยสิ่งใดออกไป เพราะเกรงว่าจะทำร้ายจิตใจของจางเหยียนเหว่ยเอาได้

ยิ่งรู้ว่าจางเหยียนเหว่ยตั้งแต่กลับเมืองหลวงก็ไม่เคยกลับเข้าไปที่จวนจวิ้นอ๋องเลย อยู่แต่ที่โรงน้ำชาเขาก็ยิ่งไม่สบายใจ จวนอ๋องยามนี้ราวกับจวนร้าง โชคดีที่หลายปีมานี้เขาสั่งให้คนเข้าไปดูแลไม่ได้ขาด

อีกเรื่องหนึ่งก็คือ จางเหยียนเหว่ยนั้นชอบไปที่จวนตระกูลไป๋อยู่บ่อยครั้ง เขารู้ว่าตระกูลไป๋ไม่เคยมีใจคิดกบฏ แต่คนนอกจะมองเช่นไรเล่า นี่คือสิ่งที่เขาเป็นกังวล

อีกเรื่องก็คือเขาไม่ต้องการให้จางเหยียนเหว่ยสนิทสนมกับไป๋เหมยเหม่ยมากนัก สตรีที่จะเข้ามาเป็นพระชายาเอกจวิ้นอ๋องควรจะเป็นสตรีที่งดงามเพียบพร้อมไม่มีตำหนิจึงจะเหมาะสม

ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งปวดหัวไม่น้อยเลย ความทุกข์ใจเพียงหนึ่งเดียวของเขาก็คือจางเหยียนเหว่ยเพียงเท่านั้น

“ฝ่าบาท จวิ้นอ๋องเสด็จมาถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

เกากงกง ขันทีคนสนิทเอ่ยกับฮ่องเต้จางเหลียนไห่ด้วยท่าทีนอบน้อม ฮ่องเต้จางเหลียนไห่ที่ได้ยินเช่นนั้นจึงเอ่ยขึ้นมาทันที

“ให้เขาเข้ามาเร็ว”

“พ่ะย่ะค่ะ”

ไม่นานนักจางเหยียนเหว่ยก็ก้าวเดินเข้ามาในห้องทรงอักษร เขาจ้องมองฮ่องเต้จางเหลียนไห่ด้วยแววตาที่เย็นชา ก่อนจะเอ่ย

“ข้าส่งจดหมายมาแจ้งเรื่องพวกนักฆ่าแล้วมิใช่หรือ เหตุใดจึงเรียกข้ามาอีก หรือว่าท่านเห็นข้าว่างมากนัก”

มาถึงก็เอ่ยวาจาเหน็บแนมเขาเช่นนี้เสียแล้ว ฮ่องเต้จางเหลียนไห่ที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง

“อาเหยียน เราพูดจากันดีๆ เช่นแต่ก่อนไม่ได้แล้วจริงๆ หรือ”

“มีสิ่งใดก็รีบเอ่ยมาเถิดเสด็จลุง”

เมื่อเห็นว่าจางเหยียนเหว่ยรักษาระยะห่างถึงเพียงนี้ ฮ่องเต้จางเหลียนไห่จึงไม่อยากเซ้าซี้เขาอีก

“ข้าจะหาสตรีดีๆ สักคนให้เจ้า ได้ยินว่าตระกูลจ้าวนั้นมีบุตรสาวที่เกิดจากภรรยาเอกนางหนึ่งงดงามเพียบพร้อม...”

“หากไม่อยากเร่งวันตายให้นาง ข้าขอเตือนว่าอย่ายัดเยียดนางเข้ามาในชีวิตข้า”

“จางเหยียนเหว่ย ข้าทำไปเพื่อเจ้าทั้งนั้น!!!”

“ท่านก็รู้ว่าข้าไม่ใช่บุรุษที่ดีงามเท่าใดนัก หากข้าอารมณ์ไม่ดีแล้วเกิดพลั้งมือฆ่านางขึ้นมา เกรงว่าจะต้องลำบากท่านหาข้อแก้ต่างกับจวนตระกูลจ้าวอีก หากท่านยังดึงดันก็รอดูจุดจบของสตรีนางนั้นได้เลย”

ไม่รอให้ฮ่องเต้จางเหลียนไห่เอ่ยสิ่งใดต่อ จางเหยียนเหว่ยก็เดินจากไปเสียแล้ว ทิ้งให้บุรุษวัยกลางคนผู้ได้ชื่อว่าเป็นฮ่องเต้ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยล้า

เจ้าไม่เข้าใจข้า ข้าเพียงอยากหาสิ่งดีๆ มอบให้เจ้าเพื่อชดเชยเรื่องราวในครั้งนั้น

ต้นฤดูใบไม้ผลิอากาศช่างดีไม่น้อย วันนี้ไป๋เหมยเหม่ยลองนำผลไม้ที่มีประจำฤดูมาเคลือบน้ำตาลขาย พบว่ามีคนให้การตอบรับที่ดีไม่น้อยเลย อีกทั้งหม้อไฟก็ขายหมดเร็วกว่าทุกวัน นางจึงเตรียมจะปิดร้าน แต่ว่ากลับมีใครบางคนเดินเข้ามาเสียก่อน

“น้องเหมยเหม่ยจะปิดร้านแล้วหรือ พี่ฟ่านเหลียนว่าจะมากินหม้อไฟร้านเจ้าเสียหน่อย”

ไป๋เหมยเหม่ยปรายตามองฟ่านเหลียนคราหนึ่งด้วยแววตาที่เย็นชา ก่อนจะเอ่ย

“หมดแล้ว”

นางเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงห้วนๆ ฟ่านเหลียนจ้องมองไป๋เหมยเหม่ยด้วยแววตาแทะโลม เขาอยากจะฉีกทึ้งเสื้อผ้านางออกให้หมดเสียตรงนี้ แล้วกอดจูบลูบคลำนาง เขาอยากรู้เหลือเกินว่าสตรีหม้ายที่ถูกสามีหย่านั้นจะมีสิ่งใดสึกหรอไปบ้างหรือไม่ เขาไม่รังเกียจที่นางเคยมีสามีมาก่อน ขอเพียงได้เชยชมนางสักครั้งก็พอ

ไป๋เหมยเหม่ยเมื่อได้เห็นว่าฟ่านเหลียนส่งสายตาแทะโลมนางไม่เลิกราก็รู้สึกรังเกียจยิ่งนัก คราก่อนยังไม่เข็ดสินะที่โดนนางจัดการไป หากมันกล้าลวนลามนางอีกครั้ง นางจะจัดการมันให้หนักกว่าครั้งก่อนเลยคอยดู

“คุณหนู บ่าวเก็บของเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ”

เฉียวเหลียนที่เดินออกมาจากด้านในห้องครัว เมื่อเห็นฟ่านเหลียนยืนอยู่หน้าร้านก็ขมวดคิ้วมุ่น คุณชายฟ่านผู้นี้เอะอะก็มาตามแทะโลมคุณหนูของนางตลอด นางไม่ชอบหน้าเขาเลย

ไป๋เหมยเหม่ยคร้านจะสนใจฟ่านเหลียนอีก นางจึงหันไปเอ่ยกับเฉียวเหลียนทันที

“เรากลับกันเถิด”

ในขณะที่ไป๋เหมยเหม่ยกำลังจะเดินไปที่รถม้า อยู่ๆ ฟ่านเหลียนก็ยื่นมือมาคว้าแขนของนางเอาไว้ ไป๋เหมยเหม่ยที่เห็นเช่นนั้นก็จ้องมองฟ่านเหลียนอย่างเอาเรื่อง

“ปล่อยข้า”

ฟ่านเหลียนยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างคนที่ไร้ยางอาย เขาโน้มใบหน้าเข้ามาหานางพลางทำจมูกฟุดฟิดคล้ายสูดดมบางอย่าง ไป๋เหมยเหม่ยรีบเบี่ยงกายหลบอย่างรังเกียจ

“น้องเหมยเหม่ย กลิ่นตัวเจ้าช่างหอมนัก ข้าอยากจะลองดมดูข้างในเหลือเกินว่ามันจะหอมสักเพียงใด”

“ปากของเจ้านี่มันเหม็นเน่าจริงเชียว ไม่มีความเป็นบุรุษที่ดีเลยแม้แต่น้อย”

ฟ่านเหลียนส่งเสียงเหอะออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย

“เหมยเหม่ย เจ้ายังกล้าเอ่ยวาจาเช่นนี้กับข้าอีกหรือ หากเจ้าดีจริง หยางเจ๋อหยวนจะมอบหนังสือหย่าให้เจ้าทำไมกัน หากเจ้าได้ข้าเป็นสามีคนที่สองนี่ก็นับว่าโชคดีมากแล้ว ดีกว่าไปได้พวกพ่อค้าหรือว่าขอทานข้างถนนพวกนั้นเสียอีก เจ้าเองก็เสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว ยังจะมาเล่นตัวอีกทำไมกัน”

เฉียวเหลียนที่เห็นฟ่านเหลียนใช้วาจาเน่าเหม็นว่าร้ายไป๋เหมยเหม่ยก็ทนไม่ไหว รีบเอ่ยปากปกป้องเจ้านายของตนทันที

“คุณชายฟ่านอย่ากล่าววาจาเหลวไหล คุณหนูของข้ายังบริสุทธิ์อยู่ นายน้อยหยางไม่เคยแตะต้องคุณหนูของข้าเลยแม้แต่ปลายเล็บ!!!”

“เฉียวเหลียนเงียบ!!!”

ไป๋เหมยเหม่ยหันมาเอ่ยกับเฉียวเหลียนคราหนึ่ง ด้านฟ่านเหลียนที่ได้ยินเช่นนั้นก็ดวงตาลุกวาว เขาใช้สายตาหื่นกามแทะโลมไป๋เหมยเหม่ยหนักขึ้นไปอีก แม้กระทั่งผู้คนที่เข้ามาชมละครงิ้วฉากนี้ต่างก็ซุบซิบนินทากันไปต่างๆ นานา

ต้องเป็นสตรีน่าเกลียดเพียงใดกัน สามีจึงไม่เคยแตะต้องนาง

ได้ยินว่าสามีนางเอาแต่อยู่กับแม่นางฟ่านผู้เป็นภรรยารอง ไม่เคยมาหานางเลยสักครา

นางชั่วร้ายออกปานนั้น ผู้ใดจะหลับนอนกับนางลงกัน

เสียงวิจารณ์มากมายดังออกมาเป็นระยะ ไป๋เหมยเหม่ยพยายามข่มกลั้นอารมณ์ ยุคสมัยนี้อยู่ยากจริงๆ สตรีจะขยับตัวสิ่งใดก็ต้องเป็นขี้ปากให้คนเอาไปนินทาเล่นอยู่เสมอ

ฟ่านเหลียนจ้องมองไป๋เหมยเหม่ยราวกับมองอาหารอันโอชะ ก่อนจะเอ่ย

“เจ้ายังไม่เคยเสียตัวเลยหรือ ดีเลย เช่นนั้นข้าก็จะเป็นสามีคนแรกให้เจ้าเอง”

ฟ่านเหลียนพยายามจะเข้ามาลวนลามไป๋เหมยเหม่ย เฉียวเหลียนรีบเข้ามาช่วยนายตนทันที แต่ทว่ากลับถูกฟ่านเหลียนง้างมือตบจนนางล้มลงไปกองกับพื้น

“เฉียวเหลียน!!!”

ไป๋เหมยเหม่ยโมโหแล้ว นางหันมาจ้องมองฟ่านเหลียนคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย

“เจ้ากล้าดีเช่นไรจึงกล้ามาทำร้ายบ่าวของข้า!!! วันนี้ข้าจะทำให้เจ้าจำจนวันตายเลยฟ่านเหลียน”

พลั่ก!!!

ไป๋เหมยเหม่ยใช้มือข้างที่ว่างชกเข้าไปที่ใบหน้าของฟ่านเหลียนอย่างเต็มแรง จนบุรุษตรงหน้าดวงตาเลื่อนลอยปล่อยมือที่จับแขนนางเอาไว้ในทันที ไป๋เหมยเหม่ยกำลังจะพุ่งเข้าไปต่อยซ้ำ แต่ทว่ายังไม่ทันที่ไป๋เหมยเหม่ยจะทุบตีฟ่านเหลียนให้สาแก่ใจ ก็พบว่ามีคนผู้หนึ่งก้าวเดินเข้ามาก่อนจะยกเท้าถีบฟ่านเหลียนจนกระเด็นลอยไปนอนร้องโอดครวญอยู่ที่กองขยะเสียแล้ว ฟ่านเหลียนกระอักโลหิตออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะมองบุรุษตรงหน้าด้วยแววตาที่ขุ่นเคือง

“ท่านอ๋องมาได้เช่นไรเพคะ”

“มานานแล้ว เมื่อครู่เจ้าออกแรงเบาไปหน่อยนะ ควรจะออกแรงมากกว่านี้ เอาให้มันฟันร่วงหมดปากไปเลย”

ไป๋เหมยเหม่ยจ้องมองจางเหยียนเหว่ยคราหนึ่ง เป็นเขาที่ถีบฟ่านเหลียนจนกระเด็น ด้านฟ่านเหลียนที่คิดจะหาเรื่องต่อ แต่เมื่อได้ยินคำว่าท่านอ๋องก็หน้าซีดเผือดขึ้นมาทันที

จางเหยียนเหว่ยจ้องมองที่ข้อมือของไป๋เหมยเหม่ย ซึ่งยามนี้แดงเป็นรอยมือเพราะถูกฟ่านเหลียนฉุดกระชากก็บังเกิดโทสะขึ้นมาในใจ เขาเดินเข้าไปหาบุรุษเฮงซวยผู้นั้นทันที ฟ่านเหลียนที่เห็นเช่นนั้นก็รีบถอยร่นหนีอย่างหวาดกลัว แม้เขาจะโง่แต่ก็พอรู้ ท่านอ๋องหรือ แคว้นไท่เหลียงมีท่านอ๋องสองคน คนแรกคือชินอ๋องจางเหวินฟู่ที่ไม่กลับเมืองหลวงมาสักระยะแล้ว ส่วนท่านอ๋องอีกคนคือจวิ้นอ๋องหนุ่มผู้ที่เพิ่งกลับมาจากสมรภูมิสงคราม

เป็นจวิ้นอ๋องผู้นั้นไม่ผิดแน่ แม้เขาจะไม่เคยเห็นหน้าท่านอ๋องผู้นี้ แต่ดูจากรัศมีความอำมหิตที่แผ่ซ่านออกมาเขาก็คิดว่าตนเองเดาไม่ผิดเป็นแน่

“ทะ ท่าน อั๊ก!!!”

ไม่รอให้ฟ่านเหลียนเอ่ยสิ่งใด จางเหลียนเหว่ยก็ยกปลายเท้าเตะเสยไปที่ปลายคางของฟ่านเหลียนอย่างเต็มแรง จนฟ่านเหลียนสลบเหมือดไปทันที ก่อนจะหันมาเอ่ยกับองครักษ์ของตน

“ส่งตัวเขากลับจวนตระกูลฟ่าน บอกว่าเขารังแกสตรีไปทั่ว ข้าพบเข้าจึงกล่าวเตือน แต่เขากลับต่อต้านจึงถูกข้าสั่งสอน หากมีปัญหาก็มาหาข้าได้”

“พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง”

ผู้คนที่รุมล้อมส่งเสียงซุบซิบนินทาก่อนหน้านี้ เมื่อเห็นว่าจางเหยียนเหว่ยปรายตามองก็รีบสลายหายไปในทันที ไป๋เหมยเหม่ยถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะหันไปช่วยพยุงเฉียวเหลียนขึ้นมา แล้วจึงหันมามองจางเหยียนเหว่ย

เขามาช่วยนางอีกแล้ว

ทุกคราที่คิดจะหลบหลีกเขา เขาก็เป็นฝ่ายมาปรากฏตัวต่อหน้านางทุกครั้ง

จางเหยียนเหว่ยก้าวเดินเข้ามาหานางก่อนจะเอ่ย

“เป็นอันใดหรือไม่”

ไป๋เหมยเหม่ยส่ายหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยตอบ

“ไม่เป็นอันใดเพคะ ขอบคุณท่านอ๋องมาก หม่อมฉันขอตัวก่อนเพคะ จะรีบพาสาวใช้กลับจวน”

จางเหยียนเหว่ยที่เห็นท่าทีของไป๋เหมยเหม่ยก็ขมวดคิ้วมุ่น รู้สึกว่าวันนี้นางเหมือนจะทำตัวรักษาระยะห่างจากเขา ทั้งที่หลายวันก่อนนางยังยิ้มแย้มพูดจากับเขาเป็นอย่างดีอยู่เลย 

ไป๋เหมยเหม่ยเองก็ทุกข์ใจไม่น้อย คำพูดของไป๋จินเซียงในวันนั้นทำให้นางคิดได้ ว่านางไม่คู่ควรกับเขา

จางเหยียนเหว่ยจ้องมองสตรีตรงหน้าด้วยแววตาที่ครุ่นคิด ก่อนหน้านี้เขากำลังไปที่โรงน้ำชา แต่กลับพบว่าไป๋เหมยเหม่ยกำลังถูกบุรุษผู้หนึ่งหาเรื่อง เมื่อมองให้ดีก็พบว่าเป็นฟ่านเหลียน บุตรชายของเสนาบดีกรมกลาโหมนั่นเอง อีกทั้งน้าสาวของฟ่านเหลียนยามนี้ยังเป็นถึงสนมเอกของเสด็จลุงเขา และยังให้กำเนิดองค์ชายรองอีกด้วย ตั้งแต่เขากลับมาเมืองหลวงก็ได้รู้เรื่องราวในเมืองหลวงไม่น้อย ได้รู้จักขุนนางหลายตระกูล รวมถึงความเป็นไปของเมืองหลวงในระยะนี้ด้วย

เขารู้สึกไม่ชอบใจที่ฟ่านเหลียนเอ่ยวาจาไม่ดีกับไป๋เหมยเหม่ย เขามองดูอยู่นานจนกระทั่งทนไม่ไหวจึงกระโดดถีบเข้าให้

เขามองเห็นแววตาของนางมีความดีใจที่ได้พบเขา แต่ทว่านางกลับทำท่าทีเหินห่างกับเขานี่มันคือสิ่งใดกัน

ไป๋เหมยเหม่ยถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง นางพยายามไม่มองเขาอีก รีบพยุงเฉียวเหลียนให้เข้าไปนั่งในรถม้า คิดเพียงว่าอยากจะรีบกลับจวนให้เร็วที่สุด 

“ช้าก่อน”

ไป๋เหมยเหม่ยพลันชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะก้มมองที่แขนของตนก็พบว่ายามนี้จางเหยียนเหว่ยกำลังคว้าจับแขนของนางเอาไว้ ไป๋เหมยเหม่ยตกใจเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย

“เอ่อ ท่านอ๋อง ปล่อยหม่อมฉันเถิดเพคะ”

“ไปกับข้า ส่วนสาวใช้ของเจ้าข้าจะให้คนของข้าไปส่งนางกลับจวนเอง”

“จะพาหม่อมฉันไปที่ใดเพคะ”

“ตามมาเถิด ข้าไม่พาเจ้าไปทำเรื่องไม่ดีหรอก”

จางเหยียนเหว่ยจ้องมองไป๋เหมยเหม่ยคราหนึ่ง ก่อนจะคว้าจับมือของนางเอาไว้แน่นแล้วจึงพานางเดินไปโดยไม่สนใจสายตาของผู้คนเลยแม้แต่น้อย ไป๋เหมยเหม่ยตกใจไม่น้อย แต่กลับไม่อยากปล่อยมือจากเขา นางจ้องมองแผ่นหลังของบุรุษร่างสูงตรงหน้า ก่อนจะครุ่นคิดในใจ

ข้าคิดจะหลบ แต่ท่านกลับมาตามติด ท่านคิดสิ่งใดอยู่กันแน่จางเหยียนเหว่ย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สตรีหม้ายนางนี้ข้าจะเกี้ยวเอง   ตอนพิเศษ

    งานแต่งงานผ่านพ้นไปได้ร่วมเดือนแล้ว ยามนี้จางเหยียนเหว่ยเข้ามาอยู่ที่จวนของไป๋เหมยเหม่ยอย่างเต็มตัวในฐานะบุตรเขยแล้ว เขาไม่ได้กลับไปพักที่โรงน้ำชาอีกเมื่อแต่งงานกันกิจการต่างๆ ของเขาก็ยกให้ไป๋เหมยเหม่ยทั้งหมด ไม่เหลือสิ่งใดที่เป็นของตนเลยแม้แต่น้อย มีคราหนึ่งเขาออกเดินทางไปที่นอกเมืองหลวง พบสตรีน้อยนางหนึ่งมาบอกรักเขา บอกว่ายินดีจะเคียงคู่เป็นภรรยาของเขาไปชั่วชีวิต เขากลับตอบเพียงว่า“ขออภัยด้วย เงินข้าอยู่กับภรรยาหมดแล้ว ไม่มีปัญญาเลี้ยงดูเจ้าหรอก ลำพังตัวข้าเองยังต้องขอเงินนางเลย เจ้าไปหาสามีคนอื่นเถิด ข้าจนมากทุกวันนี้ยังอาศัยบ้านภรรยาอยู่เลย”สตรีน้อยนางนั้นรู้สึกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก นางมองเขาด้วยสายตาที่อาลัยอาวรณ์ไม่เสื่อมคลายจางเหยียนเหว่ยคร้านจะสนใจสิ่งใดอีก วันนี้เขาไปพบท่านแม่มาและนำยาบำรุงไปให้นาง หน้าตาท่านแม่ดูสดใสขึ้นมาก อีกทั้งยังบอกให้เขารีบมีหลานเร็วๆ จางเหยียนเหว่ยเพียงยิ้ม ก่อนจะรีบกลับจวนมาหาไป๋เหมยเหม่ยทันที ระหว่างนั้นเขาพบกับไป๋กู้ชวนที่กำลังวุ่นวายอยู่ในครัว ได้ยินว่าระยะหลังมานี้เขามักสนใจการทำอาหารเป็นอย่างมากในขณะที่เขากำลังจะเอ่ยปากทักไป๋กู้ชวนอยู

  • สตรีหม้ายนางนี้ข้าจะเกี้ยวเอง   บทที่ 44 บทส่งท้าย

    จางเหยียนเหว่ยเดินมาพร้อมกับไป๋เหมยเหม่ย ในขณะที่กำลังจะขึ้นรถม้าก็พลันเห็นฮ่องเต้จางเหลียนไห่ที่กำลังเดินลงมาจากรถม้า ชายชราชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะจ้องมองคนทั้งสองด้วยแววตาที่วูบไหวจางเหยียนเหว่ยไม่เอ่ยสิ่งใด อีกทั้งยังไม่คิดจะบอกเรื่องราวของท่านแม่ให้คนผู้นี้ได้รับรู้ คนเช่นเขานี่คือการลงโทษที่ดีที่สุดแล้ว ให้เขาคิดว่าท่านแม่ตายไปแล้ว จมอยู่กับความทุกข์ใจของตนไปเช่นนี้ก็ดีไม่น้อยฮ่องเต้จางเหลียนไห่เพิ่งกลับมาจากที่ฝังศพของหลัวหลินฮวา คิดจะแวะมาไหว้พระที่วัดไป๋หวา แต่ไม่คาดคิดว่าจะได้เจอบุตรชายของตนเข้า ไป๋เหมยเหม่ยที่เห็นเช่นนั้นก็ทำความเคารพเขาอย่างนอบน้อม"อาเหยียน"ฮ่องเต้จางเหลียนไห่เอ่ยเรียกบุตรชายตนอย่างอ่อนโยน จางเหยียนเหว่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ส่งเสียงเหอะออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"ไม่คิดว่าคนเช่นท่านจะเข้าวัดด้วย คิดจะมาสนทนาธรรมหรือสารภาพบาปกันเล่า"ไป๋เหมยเหม่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็กระตุกแขนเสื้อจางเหยียนเหว่ยคราหนึ่งพลางส่งสายตาห้ามปรามเขา ฮ่องเต้จางเหลียนไห่คร้านจะใส่ใจคำพูดประชดประชันของลูกชายตน จึงเอ่ยตอบ"เจ้าจะแต่งงานแล้วนี่ ไม่คิดบอกข้าสักคำหรือ""ไม่จำเป็น ข้าจัดงานเองไ

  • สตรีหม้ายนางนี้ข้าจะเกี้ยวเอง   บทที่ 43 พบกันอีกครา

    เรือนหลังหนึ่งท้ายวัดไป๋หวายามนี้แม่นมหลัวกำลังพาจางเหยียนเหว่ยและไป๋เหมยเหม่ยมาที่เรือนหลังหนึ่งซึ่งอยู่ด้านหลังวัดไป๋หวา เรือนหลังนี้ค่อนข้างเล็ก เขามองไปโดยรอบก่อนจะครุ่นคิดเหตุใดเขาจึงไม่เคยรู้เลยว่ามีเรือนเช่นนี้อยู่ในวัดไป๋หวาด้วย"พระชายาอยู่ที่นี่เจ้าค่ะ นางอยู่ที่นี่มาหลายปีแล้ว"จางเหยียนเหว่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็มือสั่นเทาไม่น้อย เขาแทบจะไร้เรี่ยวแรง ยื่นมือไปเปิดประตูบานนั้นออก ความกลัวเริ่มปกคลุมในจิตใจ เขาเกรงว่าหากเขาเปิดประตูเข้าไปแล้วพบกับท่านแม่ นางจะรังเกียจเขาหรือไม่ นางจะด่าทอทุบตีเขาหรือไม่ระหว่างทางที่มาแม่นมหลัวเล่าว่าในวันที่ท่านแม่ป่วยตายนั้น แท้จริงแล้วเป็นเพียงละครฉากหนึ่งเท่านั้น ท่านแม่ให้แม่นมหลัวไปหายาชนิดหนึ่งมา ยานั้นหากกินเข้าไปแล้วจะหลับสนิท ไร้ลมหายใจราวกับตาย ต้องรีบใช้ยาแก้ภายในสองชั่วยาม มิเช่นนั้นจะตายจริงๆเขาเพิ่งเข้าใจในวันนี้ว่าเพราะเหตุใดแม่นมหลัวจึงเร่งให้นำศพของท่านแม่ไปฝัง จากนั้นเขาก็ไม่ได้ติดตามความเป็นไปของท่านแม่อีก ไม่ได้รับรู้ว่าคนของท่านแม่แยกย้ายไปอยู่ที่ใดกันบ้างหลังจากนำศพไปฝัง แม่นมหลัวก็นำคนที่ไว้ใจได้มาขุดหลุมศพและช่วยท่า

  • สตรีหม้ายนางนี้ข้าจะเกี้ยวเอง   บทที่ 42 แม่นมหลัว

    จางเหยียนเหว่ยที่กลับมาถึงเมืองหลวงก็รีบมาหาไป๋เหมยเหม่ยทันที เมื่อได้พบนางอีกคราเขาก็ปวดใจไม่น้อย คล้ายว่านางจะผอมลงไปมาก"เหมยเหม่ย""เหยียนเหยียน"เขารีบสั่งให้คนเปิดประตูคุกหลวงออก ก่อนจะรีบโผเข้าไปกอดนางทันที ไป๋เหมยเหม่ยที่เห็นว่าจางเหยียนเหว่ยกลับมาแล้วก็ดีใจจนร้องไห้โฮออกมาราวกับเด็กน้อย "ท่านกลับมาแล้ว ฮึก ข้ากลัวมากเลย มีแต่คนมารังแกข้า ฮือ"จางเหยียนเหว่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกผิดเหลือเกิน เขาไม่ได้บอกแผนการนี้กับนาง ทำได้เพียงปล่อยให้เรื่องราวเป็นเช่นนี้ เพราะว่าอะไรน่ะหรือ ก็เพื่อความปลอดภัยของนาง หากนางยังอยู่สุขสบาย คนตระกูลฟ่านย่อมไม่มีทางตายใจจนโผล่หางตนออกมา อีกทั้งยังอาจส่งคนมาลอบสังหารและทำร้ายนางกับครอบครัวอีกด้วย เมื่อคิดได้เช่นนั้นเขาจึงยกมือขึ้นลูบศีรษะนาง ก่อนจะเอ่ย"ข้าขอโทษ ข้าขอโทษที่ไม่ได้บอกเจ้านะ"ไป๋เหมยเหม่ยที่ได้ยินเช่นนั้นจึงผละออกจากเขาทันที จางเหยียนเหว่ยยิ้มให้นางก่อนจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้นางฟัง ไป๋เหมยเหม่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ทั้งโมโหทั้งดีใจในคราเดียวกัน"ท่านไม่บอกข้า!!! ข้าจะตีท่าน""ตีเลย ตีเลย ขอเพียงเจ้าหายโกรธข้าก็พอ"ไป๋เหมยเหม่ยยิ้ม

  • สตรีหม้ายนางนี้ข้าจะเกี้ยวเอง   บทที่ 41 จุดจบฟ่านกุ้ยอิง

    วันคืนผ่านไปเช่นนี้คืนแล้วคืนเล่า ไป๋เหมยเหม่ยไม่อาจรับรู้ข่าวคราวจากภายนอกได้เลยแม้แต่เรื่องเดียว จวบจนคืนหนึ่งที่ฟ่านเหลียนมาพบกับนาง เขาสั่งให้คนเปิดประตูห้องขังออก ก่อนจะก้าวเดินเข้ามาหานาง ฟ่านเหลียนจ้องมองนางด้วยแววตาที่เย้ยหยัน ก่อนจะเอ่ย"เป็นเช่นไรบ้างเล่าน้องเหมยเหม่ย รู้สำนึกแล้วหรือยัง หากว่าเจ้าเลือกข้าตั้งแต่วันนั้น เจ้าก็ไม่ต้องพบจุดจบเช่นวันนี้ เมื่อใดที่หลักฐานว่าบิดาและพี่ชายเจ้ายอมมอบข้อมูลทางการทหารให้แคว้นเซียวชัดเจน เจ้าจะถูกประหารทั้งตระกูล เฮ้อ!!! น่าเสียดายความงามของเจ้ายิ่งนัก"ไป๋เหมยเหม่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ส่งเสียงเหอะออกมาคราหนึ่ง ทำราวกับไม่สนใจคำพูดของฟ่านเหลียน ฟ่านเหลียนที่เห็นว่านางยังคงเฉยชาก็เริ่มมีโทสะ เขายื่นมือไปบีบคอของนาง ก่อนจะเอ่ย"อย่าอวดเก่งให้มากนัก!! ข้าจะให้หนทางรอดแก่เจ้า หากเจ้ายอมเป็นของเล่นของข้าและจางหลิงหยาง ข้ารับรองว่าจะหาทางช่วยเจ้า เป็นเช่นไร ข้อเสนอดีหรือไม่ รีบตัดสินใจเสียสิ เจ้าจะได้บุรุษมาครอบครองทีเดียวสองคนเลยนะ ไม่ดีหรือ อ้อ หรือว่าเจ้าจะรอว่าที่สามีใหม่ที่เป็นถึงท่านอ๋องมาช่วย โอ้ว เขาจะมาทันหรือ ยามนี้จะตายอยู่ในสนามรบ

  • สตรีหม้ายนางนี้ข้าจะเกี้ยวเอง   บทที่ 40 ถูกจับ

    ไป๋เหมยเหม่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็หน้าซีดเผือด ด้านจางเหยียนเหว่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะรีบหันมามองไป๋เหมยเหม่ยในทันที"เรารีบไปดูกันเถิด"ไป๋เหมยเหม่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าคราหนึ่ง ก่อนจะรีบกลับไปที่จวนตระกูลไป๋พร้อมจางเหยียนเหว่ยในทันที เมื่อมาถึงก็พบว่ายามนี้จวนตระกูลไป๋ถูกปิดล้อมเอาไว้หมดแล้ว เหล่าทหารจากวังหลวงยามนี้กำลังบุกเข้าไปในจวน ก่อนจะจับตัวคนในจวนออกมาทั้งหมด"ท่านแม่ กู้ชวน!!!"ไป๋เหมยเหม่ยร้องเรียกไป๋ฮูหยินและไป๋กู้ชวนที่ยามนี้ถูกจับตัวเอาไว้ ส่วนเหล่าบ่าวไพร่ในจวนล้วนถูกกักบริเวณไม่สามารถออกไปที่ใดได้ จางเหยียนเหว่ยจ้องมองทหารเหล่านั้นด้วยแววตาที่เย็นเยียบ ก่อนจะเอ่ย"ผู้ใดสั่งให้เจ้าบุกมาจับคนเช่นนี้ คำสั่งฝ่าบาทเช่นนั้นหรือ""ท่านอ๋องโปรดวางใจ หากการตรวจสอบพบว่าคนตระกูลไป๋บริสุทธิ์ ย่อมถูกปล่อยตัวในเร็ววัน"จางเหยียนเหว่ยที่ได้ยินเช่นนั้นจึงปรายตามองไปที่ด้านหน้าตนคราหนึ่ง พบว่าเป็นเสนาบดีฟ่านฉีนั่นเอง เขาขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะเอ่ยถาม"เสด็จลุงส่งท่านมาหรือ"เสนาบดีฟ่านฉียิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"เป็นรับสั่งของฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ หรือว่าท่านอ๋องคิดจะขัด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status