共有

ตอนที่ 4 แผนการ

last update 最終更新日: 2025-02-02 12:58:03

เมืองหนานอัน ยามโหยว่(1)

ภายในเรือนหลังขนาดกลางของอนุจินหรง เสียงเอะอะโวยวายปะปนกับเสียงร้องไห้ของหญิงต่างวัยดังขึ้น ณ ยามนี้ผู้เป็นใหญ่ของจวนแห่งนี้กำลังสั่งให้บ่าวรับใช้ลงโทษบุตรีที่เกิดจากอนุจินหรงรวมไปถึงสองสาวใช้ที่ติดตามนาง สาเหตุของการลงโทษในครั้งนี้นั้น เป็นเพราะหลินเยว่หรูหรือคุณหนูรองของฮูหยินใหญ่ ได้รายงานถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานกับน้องห้าของเธอให้บิดาฟัง ทำให้เย็นนี้เขาต้องมาจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเอง เมื่อไตร่สวนแล้วพบว่าเรื่องที่หลินเยว่หรูเล่ามานั้นคือเรื่องจริง

“นังลูกไม่รักดี!!! เหตุใดเจ้าถึงต้องกระทำการรุนแรงกับบ่าวของน้องสาวเจ้าด้วย พ่อเคยสั่งสอนเจ้าแล้วมิใช่หรือว่ามิให้ใช้กำลังไม่ว่าจะกับใครก็ตาม"

“ท่านพ่อลูกขอโทษเจ้าค่ะ ลูกขอโทษฮือๆๆๆ” คุณหนูสี่ร้องไห้คร่ำครวญกล่าวคำขอโทษออกมา

"แล้วเจ้า… ไปยุ่งอันใดกับน้องสาวของเจ้าหรือไม่ น้องห้าของเจ้าร่างกายอ่อนแอมาแต่ไหนแต่ไร เจ้าต้องรักและเอ็นดูนาง มิใช่ไปรังแกนาง”

“ท่านพี่… อภัยให้ลูกสี่เถอะนะเจ้าคะ ลูกสี่ไม่ได้ตั้งใจ อีกอย่างนางยังเด็กนัก ยังไม่รู้ความ” อนุจินหรงคุกเข่าอ้อนวอนผู้เป็นสามี

“หุบปาก!!! อนุจิน หากเจ้าดูแลนางไม่ได้ข้าจะให้ส่งนางให้กับฮูหยินสั่งสอนแทน เจ้าว่าดีไหมล่ะ”

นั่นเป็นเรื่องที่นางกลัวมากที่สุด คือการที่บุตรสาวต้องไปอยู่ในการดูแลของผู้อื่นโดยเฉพาะฮูหยินใหญ่ที่เกลียดชังนางเช่นกัน ดีที่ว่าบุตรชายของนั้นเพิ่งสอบผ่านได้เป็นจิ้นซื่อ(2) ซึ่งเป็นที่แน่นอนแล้วว่าเขาจะได้เป็นขุนนางในวังหลวง นางจึงไม่ห่วงหรือกังวลอันใดอีก คงจะมีแต่บุตรสาวผู้ดื้อรั้นผู้นี้เท่านั้นที่นางยังคงต้องดูแลเอาใจใส่

“ฮือๆๆๆ ไม่นะท่านพ่อ ลูกผิดไปแล้ว ให้อภัยลูกเถิด ลูกเพียงอยากให้น้องห้าได้พักผ่อน ออกมาตากแดดตากลมเช่นนั้นข้าก็กังวลว่าน้องห้าจะป่วยหนักไปกว่าเดิม” หลินจินหรูร้องไห้คร่ำครวญออกมาราวกับว่ากำลังสำนึกผิดแต่ทว่าภายในใจนางนั้นกลับมีจิตใจที่เคียดแค้น

“นังบ่าวสองคน!!! เจ้าสองคนทำความผิดคือไม่ห้ามปรามคุณหนูสี่ กลับให้ท้ายและเป็นฝ่ายทำตามคำสั่งนาง เจ้าตบเด็กรับใช้ของคุณหนูสี่ใช่ไหม พวกเจ้า!!! ตบหน้านังสองคนนี้คนละยี่สิบที!!”

เจ้ากรมการกลาโหมผู้ที่ยึดในความถูกต้องเสมอมาเอ่ยถามบ่าวรับใช้สองคนของหลินจินหรู ก่อนที่จะหันไปสั่งบ่าวไพร่ที่เป็นสตรีให้จัดการกับบ่าวสองคนของบุตรีที่ไม่ยอมห้ามปราม กลับกระทำตามคำสั่งทั้งๆ ที่รู้ว่ามันไม่ถูกต้อง

“นายท่านเจ้าคะ พวกข้าผิดไปแล้ว อภัยให้พวกข้าเถิดนะเจ้าคะ” สาวใช้ข้างกายของหลินจินหรูเอ่ยออกมาทั้งน้ำหูน้ำตา

“หึ!! ตบพวกมันเพื่อให้เป็นตัวอย่าง ว่าจวนของข้าไม่ใช่ที่ใครจะมารังแกใครก็ได้”

หลินหยางไม่อยากจะฟังคำแก้ตัว หากวันนี้เขาไม่ลงโทษพวกนาง วันหน้าอาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ใหญ่กว่าเมื่อวานนี้ก็เป็นได้ บ่าวที่เป็นสตรีร่างกายอวบอ้วนสี่คนจัดการจับตัวเด็กรับใช้ทั้งสองให้ยืนขึ้นแล้วตบลงไปที่ใบหน้าของพวกนางคนละยี่สิบทีตามคำสั่งของนายท่าน

“โอ๊ย!!! ฮือๆๆๆ ข้าผิดไปแล้ว นายหญิง… คุณหนูสี่ช่วยพวกเราด้วยเจ้าค่ะฮือๆๆ”

สาวใช้ทั้งสองต่างพากันร่ำร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ฝ่ามืออวบอ้วนของสาวใช้รุ่นป้าที่ตกลงมากระทบเนื้อนั้นช่างทำให้เนื้อพวกนางนั้นเจ็บแสบนัก

“ตบพวกนางต่อไป จนกว่าจะครบตามคำสั่งของข้า”

หลิวหยางออกคำสั่งอย่างเด็ดขาด เขาไม่สนใจคำอ้อนวอนของผู้กระทำผิด ความเด็ดเดี่ยวของเขาทำให้บ่าวในจวนเคารพนับถือ รวมไปถึงเกรงกลัวเขาอยู่ไม่น้อย เสียงฝ่ามือที่ฟาดลงบนเนื้อแก้มของสองสาวรับใช้ดังขึ้นมาไม่ขาดสายพร้อมกับเสียงครวญครางออกมาด้วยความเจ็บปวดของพวกนาง

“ส่วนนาง….. ให้คุกเข่าสำนึกผิดอยู่ที่นี่จนกว่าจะยามซวี่(3) อ้อ….แล้วห้ามพวกเจ้าให้นางลุกขึ้นก่อนถึงชั่วยามที่ข้าสั่งเด็ดขาด" หลิวหยางออกคำสั่งกับบ่าวรับใช้ที่เป็นสตรี

"เจ้าจงจำเอาไว้ลูกสี่ ถึงเจ้าจะเป็นบุตรีของข้า แต่ถ้าเจ้ากระทำผิดข้าก็ไม่มีวันอ่อนข้อให้ และทีหลังจะออกคำสั่งให้พวกเด็กรับใช้กระทำการสิ่งใด หากมันผิดแล้วข้าจับได้ เจ้าจะถูกส่งตัวให้ฮูหยินใหญ่ไปอบรม เข้าใจไหม”

เสี่ยวเอ๋อที่แอบมองอยู่ไม่ไกลนั้นฉีกยิ้มออกมา ถึงคุณหนูห้าของเธอจะเป็นบุตรีที่เกิดจากอนุ แต่ทว่าบิดาอย่างเจ้ากรมการกลาโหมกลับรักและเอ็นดูไม่แพ้บุตรชายและบุตรีคนอื่นๆ ติดเพียงแต่ว่า ร่างกายของคุณหนูของเธอนั้นอ่อนแอไม่แข็งแรง จึงถูกคุณหนูสี่กลั่นแกล้งรังแกเสมอมา ร่างบางรีบเดินหลบไปทางเรือนของอนุซูฉีที่ซึ่งเป็นที่พักของคุณหนูของนาง

หลังจากสำเร็จโทษบุตรีและบ่าวทั้งสองคนของนางแล้ว เจ้ากรมการกลาโหมหลิวหยางจึงเดินกลับเรือนใหญ่ไปด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองที่ไม่ลดลงเลยแม้แต่นิด แม้แต่หน้าของอนุจินเขาก็ไม่หันมอง น้ำตาของนางไหลลงเมื่อหันกลับไปมองภาพบุตรสาวยังคงนั่งอยู่กับที่ไม่ขยับไปไหน แม้จะอยากขัดคำสั่งแต่ในเมื่อผู้เป็นสามีสั่งเช่นนั้นเธอก็จำเป็นต้องทำตาม ผ่านไปนานเท่าใดมิอาจรู้ได้ หลินจินหรูหลั่งน้ำตาลงมาพร้อมกับความเคียดแค้นที่ฝังอยู่ภายในใจ การที่นางโดนลงโทษในวันนี้นางหาได้สำนึกผิดไม่ แต่ทว่านางกลับโทษที่มีน้องสาวที่อ่อนแอ และเด็กรับใช้ที่บังอาจขึ้นเสียงใส่คุณหนูสี่อย่างนาง

“คุณหนูสี่เจ้าคะ ลุกขึ้นเถิดเจ้าค่ะ นายท่านอนุญาตให้คุณหนูสี่กลับเข้าเรือนได้แล้วเจ้าค่ะ” สาวใช้ของเรือนใหญ่เดินมาบอกคุณหนูของเรือนสาม

“เร็วเข้า… ช่วยพยุงคุณหนูสี่ขึ้นมาแล้วพาเข้าไปพักในห้องของนาง” อนุจินรีบบอกให้สาวรับใช้ในเรือนของนาง

สตรีร่างเล็กถูกสตรีร่างใหญ่ช่วยโอบประคองแขนทั้งสองข้างก่อนที่จะพยุงเดินเข้าไปภายในเรือนหลังขนาดกลางซึ่งเป็นที่พักของนาง อนุจินมองบุตรสาวของตนด้วยแววตาสงสาร จากนั้นจึงรีบสาวเท้าก้าวตามไป

“ท่านแม่… ข้าเจ็บ”

หลินจินหรูร้องบอกมารดา นางไม่โทษมารดาที่ช่วยเหลือนางไม่ได้ แต่ทว่านางโทษคนที่ทำให้นางต้องถูกลงโทษมากกว่า แต่สำหรับพี่รองแล้ว นางมิอาจจะแตะต้อง รังแกหรือทำร้ายนางได้ แต่คนที่นางเคียดแค้นมากกว่าใครคือน้องต่างมารดาอย่าง หลินซูเหมยมากกว่า

“นอนลงเถอะลูก เดี๋ยวแม่จะให้ท่านหมอมาดูเข่าให้เจ้า”

อนุจินบอกบุตรสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่ทว่าภายในใจของนางนั้นกลับรู้สึกเจ็บปวดไม่ต่างกัน

“ท่านแม่ ข้าจะทำให้คนที่ทำให้ข้าเป็นแบบนี้เจ็บปวดกว่าข้าหลายเท่า” หลินจินหรงตกใจกับความคิดของบุตรสาว แต่นางเองก็ยอมจบเรื่องนี้ไม่ได้เช่นเดียวกัน ด้วยความเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น นางจึงไม่ยอมปล่อยวาง

“แม่มีแผน แม่รู้ว่าเจ้าคงไม่อยากจะเห็นนังเด็กนั่นอีกแล้วใช่ไหม แม่เองก็เบื่อท่านพ่อของเจ้าเต็มทน ที่ไปคอยประคบประหงมมัน เห็นทีแม่คงต้องถอนฟืนใต้หม้อ(4)มิเช่นนั้นเรื่องราวคงจะต้องวุ่นวายมิจบสิ้น” ทันทีที่มารดาบอกว่ามีแผนการ หลินจินหรูก็เงยหน้าขึ้นมองหน้ามารดาของนางอย่างมีความหวังทันที

หลินจินหรงกระซิบบอกบุตรสาวเกี่ยวกับแผนการที่ตนคิดได้ในยามนี้ ถึงแม้จะร้ายแรงถึงขั้นเอาชีวิต แต่ทว่าอีกฝ่ายนั้นหาได้จะมีชีวิตอยู่นานขนาดนั้น หากเด็กนั่นยังคงมีชีวิตอยู่ก็คงจะเป็นหนามทิ่มแทงใจของบุตรสาวของนางและถูกผู้เป็นบิดาทำโทษไม่รู้อีกกี่ครั้งกี่หน นางทนไม่ได้ที่ต้องเห็นบุตรสาวต้องมาเจ็บทั้งกาย เจ็บทั้งใจ

หลินจินหรูตาโต แต่ทว่านางกลับเห็นด้วยกับแผนการของมารดา และคอยนับวันเวลาที่จะได้เอาคืน นางไม่มีวันยอมปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปง่ายๆ ในเมื่อมีนางอยู่ ณ จวนแห่งนี้ จะต้องไม่มีเด็กนั่น มารดาก็ต่ำต้อยถึงเพียงนั้นมีอะไรมาสู้มารดาของนางได้กัน มารดาของนางเป็นถึงบุตรีของขุนนางระดับกลาง ถึงจะมียศไม่ใหญ่โตเฉกเช่นบิดาแต่ญาติของนางก็เป็นที่นับหน้าถือตาของเมืองหนานอัน

สามวันต่อมา

ขณะที่หลินซูเหมยกำลังเดินออกกำลังตามคำสั่งของบิดา นางเดินลัดเลาะไปตามสวนดอกไม้ที่งดงาม ดอกไม้กำลังเบ่งบานเต็มไปด้วยภู่ภมรที่คอยดอมดม เสี่ยวเอ๋อเด็กสาวรับใช้คนสนิทเดินตามคุณหนูห้าของนางไม่ห่าง ก่อนที่ทั้งคู่จะหยุดเดินเพราะลมหนาว หลินซูเหมยหลับตาลงแล้วสูดลมหายใจรับอากาศที่บริสุทธิ์เข้าไปภายในปอด

“คุณหนู เสี่ยวเอ๋อว่าวันนี้น่าจะเป็นวันลี่ตง(5)แล้วนะเจ้าคะ คุณหนูรอข้าอยู่ที่นี่สักครู่ เดี๋ยวข้าจะเข้าไปหยิบผ้ามาห่มให้คุณหนูนะเจ้าคะ” เสี่ยวเอ๋อบอกคุณหนูห้าของนาง

“เจ้าไปเถอะ ข้าอยู่ที่นี่ผู้เดียวได้” หลินซูเหมยบอกเด็กรับใช้คนสนิทของเธอทั้งที่เปลือกตายังคงปิดอยู่

“คุณหนูห้าอย่าเดินไปแถวริมน้ำนะเจ้าคะ รอข้าอยู่ที่นี่นะเจ้าคะ” เสี่ยวเอ๋อไม่ลืมที่จะกำชับด้วยความเป็นห่วง

“อืม… เจ้าไปเถอะ อย่างกังวลไปเลย ข้าจะยืนอยู่ตรงนี้แหละ”

ร่างบางที่ยืนโงนเงนบอกเด็กรับใช้ของเธอ เสี่ยวเอ๋อเดินกลับไปทางเรือนของนาง

ในระหว่างที่ยืนรอเสี่ยวเอ๋อให้นำผ้ามาให้เธอห่ม หูของเธอกลับได้ยินเสียงร้องของลูกแมวที่ริมสระน้ำ สองขาเรียวเยื้องย่างไปตามเสียงทันที ดวงตากลมมองไปเห็นลูกแมวน้อยอยู่ที่ริมขอบสระที่มีน้ำอยู่จนเต็ม แม้ใจจะกล้าๆ กลัวๆ แต่ทว่าความเป็นคนที่มีจิตใจเมตตากรุณาต่อสัตว์ หลินซูเหมยจึงเดินตรงไปหาลูกแมวน้อยที่เหมือนจะนอนบาดเจ็บอยู่ แต่แล้วร่างบางของนางกลับถูกมือที่นางมองไม่เห็นผลักตกลงไปในสระน้ำเบื้องหน้าทั้งคนและแมว

ไร้เรี่ยวแรง นางจมลงไปใต้น้ำทันที คนร้ายที่ผลักนางยืนมองดูนางจมน้ำไปอย่างเลือดเย็น ก่อนที่จะรีบหลบไปจากสถานที่แห่งนี้ เสี่ยวเอ๋อที่เดินกลับมาไม่เจอคุณหนูห้าก็ตกใจ นางรีบวิ่งไปดูรอบๆ สวนดอกไม้และริมน้ำ ก่อนที่จะร้องเรียกบ่าวในเรือนให้มาช่วยกันหาคุณหนูห้า บ่าวในเรือนทุกคนต่างร้องเรียกหาหลินซูเหมยจนอนุซูฉีได้ยินแล้วรีบวิ่งออกมาจากเรือน ตรงตามเสียงมาจนถึงต้นเสียงจึงได้รับรู้ว่าบุตรสาวของนางนั้นหายไป เสี่ยวเอ๋อเดินไปพบรองเท้าของคุณหนูห้าที่ริมสระจึงร้องเรียกให้บ่าวที่เป็นชายลงไปดูในสระน้ำ เพียงไม่นานบ่าวชายที่กระโดดลงน้ำไปก็พาร่างของคุณหนูห้าขึ้นมาจากใต้น้ำด้วยร่างกายที่เปียกปอน

“ฮือๆๆๆ ลูกแม่ เจ้าอย่าเป็นอันใดนะ เร็วเข้า!!! ช่วยลูกสาวข้าเร็ว”

อนุซูฉีตกใจจนไม่เป็นตัวของตนเอง นางร้องไห้ฟูมฟายจนเป็นลมไป หลินหยางและหลินฮูหยินที่กำลังพักผ่อนอยู่ได้ยินเข้าจึงรีบมาดูด้วยความร้อนใจ

“ลูกห้า!!! ลูกห้า!!! เสี่ยวเหมย เจ้าเป็นอันใดกัน ฟื้นขึ้นมาสิลูก" ร่างหนาของหลินหยางพุ่งเข้าหาร่างบางที่เปียกปอนไม่ได้สติของบุตรีทันที

"เหตุใดลูกห้าของข้าถึงตกน้ำไปได้ เสี่ยวเอ๋อ!!! เกิดอะไรขึ้น" หลินหยางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว

“ฮือๆๆๆ นายท่าน ข้าผิดเอง ข้าเห็นว่าอากาศหนาวเลยเข้าไปหยิบผ้ามาให้คุณหนูห่ม แต่ไม่รู้เป็นเพราะเหตุใดนางถึงตกลงไปในสระน้ำได้ ก่อนที่ข้าจะเข้าไปนางยังยืนอยู่ที่สวนดอกไม้อยู่เลย” เสี่ยวเอ๋อเล่าออกมาตามความจริง

"แล้วเหตุใดเจ้าไม่อยู่กับคุณหนูของเจ้า จะทิ้งนางไปทำไม”

น้ำเสียงเกรี้ยวโกรธดังขึ้นอีกครั้งจนทำให้เสี่ยวเอ๋อนั่งคุกเข่าลงร้องไห้ฟูมฟายออกมา

“นายท่านข้าพบลูกแมวที่จมน้ำไปกับคุณหนูห้าด้วยขอรับ” บ่าวชายรายงานขัดจังหวะขึ้นมา

“ไปตามท่านหมอหวงมา เร็วเข้า!!!”

หลินหยางออกคำสั่งกับบ่าวก่อนที่จะช้อนอุ้มหลินซูเหมยเดินแกมวิ่งกลับไปยังเรือนสี่ซึ่งเป็นเรือนของอนุซูฉี

เสี่ยวเอ๋อรีบประคองนายหญิงของนางตามไปเช่นกัน หลินฮูหยินมิได้ว่าอันใด นางหันไปสั่งให้คนรับใช้ตรวจตราดูรอบๆ หากว่านี่ไม่ใช่อุบัติเหตุแล้ว นางก็ไม่คิดจะเก็บคนร้ายเอาไว้ในจวนเช่นกัน

เพียงหนึ่งเค่อ(6)ท่านหมอหวงก็เดินทางมาถึงที่เรือนสี่และได้ตรวจอาการของคุณหนูห้าทันที นางยังไม่ตายแต่ทว่ากลับยังไม่ได้สติ นางเหมือนคนนอนหลับแต่ไร้ซึ่งการตอบสนอง เขาจึงให้เจ้ากรมการกลาโหมคอยดูอาการของนางภายในสามวันหากนางไม่ฟื้นแล้ว นางคงจะไม่มีโอกาสฟื้นขึ้นมาอีกแล้ว ซูอี๋เหนียงและเสี่ยวเอ๋อร้องไห้ออกมาทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น

หลินหยางสั่งลงโทษโบยเสี่ยวเอ๋อยี่สิบที โทษฐานที่ไม่ดูแลคุณหนูของนางให้ดีทำให้หลินซูเหมยต้องตกอยู่ในอันตราย เสี่ยวเอ๋อยอมรับผิด นางถูกโบยจนจับไข้ แต่นางก็มิได้ละเลยที่ปรนบัติดูแลคุณหนูห้าของนาง หลินจินหรงกับสาวใช้สองคนที่แอบมองดูเหตุการณ์ทั้งหมดมาตั้งแต่ต้นถึงกับพากันยิ้มออกมา นางมั่นใจว่าน้องสาวนอกไส้ของนางคนนี้จะไม่มีวันฟื้นขึ้นมาอีกแล้วอย่างแน่นอน

1. ยามโหย่ว เวลา17.00-18.59น.

2. จิ้นซื่อ คือ บัณฑิตขั้นสูง เทียบเท่าปริญญาเอกในปัจจุบัน

3. ยามซวี่ เวลา 19.00-20.59น.

4. ถอนฟืนใต้หม้อ เป็นสำนวนเหมือนตัดไฟตั้งแต่ต้นลม

5. วันลี่ตง คือวันเริ่มต้นของฤดูหนาว

6. 1 เค่อเท่ากับ 15 นาที 8 เค่อ เท่ากับหนึ่งชั่วยาม หนึ่งชั่วยามเท่ากับ 2 ชั่วโมง

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • สตรีแกร่ง หลินซูเหมย   ตอนที่ 44 - 1 ความสงบสุขหวนคืน (จบ)

    “ลูกชายของผู้ใดกัน ช่างเหมือนท่านแม่ของเขายิ่งนัก” ฟางเซี่ยหมินแสร้งหยอกเย้าภรรยา “ข้าทั้งอุ้มท้อง ทั้งเบ่งเขาออกมา เขาย่อมเหมือนข้าแน่อยู่แล้วเจ้าค่ะ” หลินซูเหมยยอมรับออกมาอย่างภูมิใจ “แล้วลูกล่ะเจ้าคะ ลูกเหมือนท่านพ่อหรือท่านแม่” ฟางซูลี่ สาวน้อยตากลมเอ่ยถามมารดาออกมาด้วยความสงสัย ถ้าพี่ชายใหญ่เหมือนท่านแม่แล้วนางเหมือนผู้ใดกัน นางเป็นสตรีเช่นเดียวกับท่านแม่ หรือนางจะต้องเหมือนกับท่านพ่อ “เจ้าก็เหมือนท่านแม่ของเจ้าเช่นกัน ลี่เอ๋อร์… ไม่ว่าจะพี่ใหญ่ของเจ้า หรือตัวเจ้า ต่างก็เป็นลูกที่เกิดมาจากความรักของพ่อแม่ พ่อมีความสุขที่ได้มีแม่ของเจ้าและพวกเจ้ามาเป็นครอบครัวของพ่อ” ฟางเซี่ยหมินโอบกอดร่างเล็กพลางใช้มือหนาโยกศีรษะเล็กของบุตรีไปมาอย่างเอ็นดู ฟางซูลี่ฉีกยิ้มกว้างเห็นฟันซี่เล็กเรียงรายให้กับบิดาและมารดา หลินซูเหมยมองสามีและบุตรีด้วยแววตารักใคร่ หลังจากงานตีคลีผ่านพ้นไป คุณชายใหญ่และคุณหนูรองของจวนท่านโหวฟางเซี่ยหมิน ก็เป็นที่กล่าวถึงไปทั่วทั้งเมืองหนานถิง หลายตระกูลย่อมอยากที่จะเกี่ยวดองกับพวกเขา โดยเฉพาะคุณชายใหญ่ที่ในภายภาคหน้าจะต้องได้รับยศถาบรรดาศักดิ์โหวต่อจากบิดา “ลูกทั้ง

  • สตรีแกร่ง หลินซูเหมย   ตอนที่ 44 ความสงบสุขหวนคืน

    เกือบสองเดือนที่แม่ทัพฟางเซี่ยหมิน และกองทัพทหารของเขารั้งอยู่ที่เมืองซาย่า หนึ่งก็เพื่อรอสังเกตความเคลื่อนไหวของทหารฝ่ายตรงข้าม สองเพื่อช่วยชาวเมืองฟื้นฟูและซ่อมแซมเมืองที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม แม้ภายในใจจะแสนคะนึงหาภรรยาอันเป็นที่รัก และสองลูกน้อยที่ห่างมานาน แต่เพราะภาระหน้าที่แล้วเขาจึงต้องทน“ท่านแม่ทัพ งานซ่อมแซมที่นี่ก็ไม่มีอันใดให้ต้องเป็นห่วงแล้ว สถานการณ์ทางฝั่งเมืองเมืองฉงหนานก็ดูสงบเรียบร้อยดี ข้าว่าพวกเรายกทัพกลับเมืองหนานถิงกันดีหรือไม่ขอรับ เหล่าทหารที่จากครอบครัวมานาน คงจะคะนึงหาคนที่รออยู่ไม่น้อยแล้ว”ฉงจี้ กุนซือคนสนิทกล่าวออกมาในขณะที่เห็นท่านแม่ทัพยืนอยู่บนกำแพงเมือง แล้วกำลังทอดสายตามองไปยังทิศทางที่เมืองหนานถิงตั้งอยู่ ใบหน้าคมมีหนวดเคราครึ้มหันหน้ากลับมามองกุนซือ“อืม… ข้าก็เห็นด้วยกับท่านกุนซือ เพราะแม้แต่ตัวข้าเอง ก็คิดถึงฮูหยินและลูกๆ ของข้าเหลือเกิน”แม่ทัพผู้องอาจยอมรับออกมาอย่างไม่อาย สงครามไม่เคยทำให้ผู้ใดมีความสุข มีแต่จะพรากความสุขและชีวิตของผู้คนอันเป็นที่รักไป มีทหารหลายนายที่ไม่ได้กลับไปพร้อมกับพวกตน ครอบครัวที่รออยู่ที่เรือนจะพากันเศร้าโศกเพียงใด แ

  • สตรีแกร่ง หลินซูเหมย   ตอนที่ 43 - 1 มีสุขร่วมเสพ...มีทุกข์ร่วมต้าน

    และแล้วแผนการของแม่ทัพฟางเซี่ยหมินก็ได้เริ่มต้นขึ้นในยามโฉ่ว ในขณะที่ทหารของเหล่าข้าศึกกำลังพักผ่อน เหล่าทหารกล้าฝีมือดีของเมืองซาย่านับร้อยก็พากันลักลอบออกจากกำแพงเมือง โดยใช้เส้นทางลับที่คราก่อนท่านแม่ทัพฟางได้สั่งให้สร้างเอาไว้ เส้นทางลับนี้มีแต่เหล่าทหารกล้าเท่านั้นที่รู้ เพราะคนยิ่งรู้น้อยเมืองก็ยิ่งปลอดภัยมากเท่านั้นทหารกลุ่มหนึ่งค่อยๆ ย่องทะลุผ่านป่าออกไปอย่างเงียบเชียบ และอีกส่วนหนึ่งเตรียมลูกธนูเอาไว้เพื่อจุดไฟแล้วยิงตีวงล้อม เพราะพวกข้าศึกข้ามแม่น้ำที่แห้งขอดมาได้แล้ว จึงตั้งกระโจมอยู่ไม่ห่างจากกำแพงเมืองมากนัก แม้จะมีโอกาสเข้าโจมตีเมืองซาย่าหลายต่อหลายครั้ง แต่ทว่ากลับถูกทหารของเมืองซาย่าโดยมีเทพสงครามอย่างแม่ทัพฟางเซี่ยหมินคอยคุมทัพอยู่ จัดการจนพวกข้าพากันศึกถอยร่นเกือบไม่ทัน ต้องกลับมาตั้งหลักกันใหม่อยู่ถึงสามหนรองแม่ทัพหนุ่มพร้อมกลุ่มทหารกลุ่มที่รับหน้าที่เผาเสบียง เริ่มลงมือหลังจากที่พวกเขาค่อยๆ จัดการฆ่าปิดปากพวกทหารที่เฝ้ายามแล้วนำเสื้อผ้าของพวกมันมาใส่สวมไว้แทน พวกข้าศึกไม่คิดว่าพวกทหารในเมืองซาย่าจะกล้าออกจากเมืองมาจึงไม่มีผู้ใดนึกหวาดระแวง"รอพวกมันเผลอ แล้วอ้อมไ

  • สตรีแกร่ง หลินซูเหมย   ตอนที่ 43 มีสุขร่วมเสพ...มีทุกร่วมต้าน

    ศึกภายนอกสงบสุขได้เพียงสองปี ข้าศึกก็กลับมารุกรานชายแดนเมืองซาย่าอีกครา ที่ผ่านมาแม่ทัพหนุ่มมิได้ชะล่าใจเลยแม้แต่น้อย เขาได้สั่งกำลังพลให้เตรียมพร้อมรับมืออยู่เสมอ แม้กำแพงเมืองจะแข็งแกร่งแต่ข้าศึกก็ยังคงสามารถส่งไส้ศึกให้เข้ามาในเมืองได้อยู่ร่ำไป แม่ทัพหนุ่มจึงจำต้องออกไปสู้รบเพื่อทวงคืนสงบสุขให้กลับคืนมาดังเดิมยามนี้บุตรชายคนโตนั้นก็อายุได้สี่ขวบแล้ว และบุตรีคนรองของเขาก็เข้าสู่วัยสองขวบ เขาสั่งให้ภรรยาพาลูกๆ กลับไปยังเมืองหนานอันเพื่อความปลอดภัย แต่มีหรือว่าหลินซูเหมยจะยอมเชื่อฟัง นางจัดตั้งศูนย์พักพิงเพื่อชาวเมืองที่อพยพมาอีกครา และคอยช่วยคัดกรองผู้อพยพด้วยตนเอง ส่วนเด็กๆ นางก็ให้ป้ามู่ และมู่หลันพาเดินทางกลับไปอยู่กับท่านผู้เฒ่าฟางและฮูหยินผู้เฒ่าฟางยังจวนแม่ทัพฟางที่เมืองหนานอันแล้ว เสี่ยวเอ๋อนั้นดื้อรั้นที่จะติดตามนางมาโดยฝากบุตรชายไว้กับมู่หลัน ซึ่งอีกฝ่ายก็ยินยอมจากไปเพื่อความปลอดภัยของเด็กๆ แต่โดยดี“ฮูหยินขอรับ… มีข้าวกับยาส่งมาจากเมืองหนานอันขอรับ บอกว่ามาจากตระกูลหลินกับตระกูลฟาง” ได้ยินเช่นนั้นหลินซูเหมยจึงยิ้มออกมาทันที เพราะนางรู้ดีว่าผู้ใดที่ส่งข้าวและยามาสนับสนุนนาง

  • สตรีแกร่ง หลินซูเหมย   ตอนที่ 42 - 1 ทายาทคนที่สองของท่านแม่ทัพ

    หกเดือนต่อมาภายในจวนแม่ทัพทิศเหนือยามนี้กำลังวุ่นวายเพราะนายหญิงใหญ่กำลังจะคลอดทายาทคนที่สองของท่านแม่ทัพ ครานี้ฟางเซี่ยหมินไม่ยอมละสายตาจากภรรยาแม้เขาจะเตรียมการก่อนที่ภรรยาจะคลอดแล้วก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นสาวใช้ที่ช่ำชองเรื่องการช่วยหมอตำแยคลอดลูก หมอตำแย และหมอหลวง ทุกคนต่างทำหน้าที่กันอย่างขะมักเขม้น เจ้าของร่างอวบอิ่มที่มีหน้าท้องยื่นออกมาราวกับลูกแตงโมกำลังนอนหน้าซีดอยู่บนเตียง“เป็นเช่นไรบ้างขอรับท่านหมอหลวง” ฟางเซี่ยหมินเอ่ยถามหมอหลวงออกมาด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล“เด็กกลับหัวแล้วขอรับ ต่อไปเชิญหมอตำแยมาทำหน้าที่ต่อได้เลยขอรับ”ท่านหมอหลวงยิ้มก่อนที่จะรายงานผลการตรวจออกมา หลังจากตรวจเสร็จท่านหมอหลวงก็ออกไปรออยู่ด้านนอกห้องปล่อยให้หมอตำแยทำหน้าที่คลอดทารกต่อ แต่เขายังมิได้กลับทันทีเพราะยังคงต้องรอตรวจอาการหลังคลอดให้ฮูหยินแม่ทัพอีกครั้งหนึ่งเมื่อได้ยินเช่นนั้นหมอตำแยจึงเข้าไปประจำที่แทนหมอหลวงที่ทำการตรวจชีพจรให้แก่ฮูหยินก่อนหน้า ท่านแม่ทัพหนุ่มเข้าไปปลอบใจภรรยา มือหนาคว้ามือบางขึ้นมากุมเอาไว้“มิต้องกังวลนะน้องหญิง พี่จะอยู่เคียงข้างเจ้ากับลูก จะไม่ทิ้งพวกเจ้าไปไหน”น้ำเสียงอบอุ่นกับ

  • สตรีแกร่ง หลินซูเหมย   ตอนที่ 42 ทายาทคนที่สองของท่านแม่ทัพ

    ผ่านไปไม่ถึงสามเดือนหลังจากที่เสี่ยวเอ๋อคลอดบุตรชายคนแรกของนางกับตงหลง จวนแม่ทัพก็มีข่าวน่ายินดีอีกครั้ง เพราะฮูหยินกำลังตั้งครรภ์ทายาทคนที่สองของนางกับท่านแม่ทัพ จากกำหนดการที่จะกลับไปเยี่ยมบ้านก็เป็นอันต้องเลื่อนออกไปเพราะกำลังต้งครรภ์อ่อนๆ ทำให้มิสามารถเดินทางไกลได้ ฟางเซี่ยเหวินตื่นเต้นอยู่กับน้องตัวเล็ก ลูกชายของเสี่ยวเอ๋อกับตงหลงจนมิยอมกลับเรือน เหล่าพี่เลี้ยงจึงต้องไปคอยดูแลคุณชายใหญ่ที่นั่นเพราะนายหญิงใหญ่มิสามารถดูแลคุณชายใหญ่ได้เต็มที่ด้วยอาการแพ้ท้อง“แอว๊ะ……อ๊วก…….” เสียงอาเจียนดังมาตั้งแต่ยามเหม่า การตั้งครรภ์ครานี้นั้นหลินซูเหมยลำบากอยู่ไม่น้อยเพราะอาการแพ้ท้องออกเร็ว“ฮูหยินเจ้าเป็นเช่นไรบ้าง ให้พี่ตามหมอหลวงมาตรวจอาการดีหรือไม่”ฟางเซี่ยหมินเอ่ยถามภรรยาออกมาด้วยน้ำเสียงร้อนรน เหตุใดเกิดมาเป็นสตรีต้องทรมานเช่นนี้ในยามตั้งครรภ์ก็ไม่รู้ เขาไม่เข้าใจเอาเสียเลย เพราะเป็นเช่นนี้เขาจึงต้องทะนุถนอมภรรยาให้มากๆ เพราะนางเสียสละร่างกายของนางเพื่อให้กำเนิดทายาทสืบสกุล“ดมยาหอมค่อยรู้สึกดีขึ้นหน่อยเจ้าค่ะท่านพี่ นี่ท่านมิออกไปชายแดนหรือเจ้าคะ” มู่หลันนำยาหอมมาให้นายหญิงสูดดมเพื่อลด

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status