Home / รักโบราณ / สตรีแกร่ง หลินซูเหมย / ตอนที่ 3 สัญญาณเตือน

Share

ตอนที่ 3 สัญญาณเตือน

last update Last Updated: 2025-02-02 12:54:40

เสียงเนื้อกระทบกับกระสอบทรายดังขึ้นมาไม่ขาดสาย ค่ายมวยที่เต็มไปด้วยนักมวยชายรูปร่างกำยำกำลังฝึกซ้อมมวยกันอยู่อย่างขะมักเขม้น รวมไปถึงร่างเล็กแต่กำยำของหญิงสาวที่มีใบหน้าสะสวยกำลังซ้อมอยู่กับคู่ซ้อมที่เป็นชายอยู่อย่างไม่เกรงกลัว ท่าทางออกหมัด เท้า เข่า ศอกของเธอเป็นไปอย่างชำนาญ อีกทั้งยังหลบหลีกคู่ต่อสู้ได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว

เสียงระฆังดังเตือนหมดยกจากข้างเวทีมวย ร่างบางจึงเดินกลับไปทิ้งตัวลงที่เก้าอี้พักผ่อนของเธอ อมิตายกขวดน้ำเกลือแร่ขึ้นมาดื่ม ก่อนที่จะหยิบผ้าเย็นที่พี่เลี้ยงเตรียมเอาไว้ให้ขึ้นมาเช็ดเหงื่อ

“อีกตั้งหลายเดือนกว่าจะได้แข่งอีก พี่ต้าทำไมซ้อมหนักจัง” ไข่หวานนักมวยสาวสมัครเล่นภายในค่ายมวยอรุณรุ่งแห่งนี้เอ่ยถามไอดอลของเธอออกมา

“ก็เพราะการรักษาแชมป์พี่จึงต้องฝึกให้ร่างกายพร้อมและตื่นตัวอยู่เสมอไง” ต้า นางฟ้าเอเชียหรือ อมิตานักมวยคนสวยตอบรุ่นน้องด้วยรอยยิ้ม

“อนาคตข้างหน้า หากไข่หวานได้ก้าวขึ้นสังเวียน ไข่หวานต้องจำเอาไว้ให้ดีว่าการเป็นแชมป์มันไม่ยาก แต่สิ่งที่ยากกว่าคือการรักษาแชมป์ เข้าใจไหม” อมิตาบอกรุ่นน้องสาวก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วเดินไปกลางเวที

นวมของเธอชนกับนวมของคู่ซ้อมอีกครั้ง ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะแลกอาวุธกันอย่างดุเดือดแบบไม่มีใครยอมใคร เสียงเชียร์จากลูกศิษย์ของเจ้าของค่าย รวมไปถึงนักมวยของค่ายดังไปทั่วทั้งค่ายมวย นายอรุณมองบุตรสาวอยู่ไกลๆ ด้วยสายตาแห่งความภูมิใจ กว่าอมิตาจะมีวันนี้มันไม่ง่ายเลย แต่ทุกอย่างก็เป็นไปได้เพียงเพราะเธออดทนและพยายามฟันฝ่าทุกอุปสรรคที่เข้ามา

นักมวยหนุ่มพ่ายแพ้ให้กับชั้นเชิงการหลบหลีกที่เหนือกว่า และหมัดกับเข่าที่เน้นหนักจนเขาต้องยอมรับเลยว่า สมแล้วกับแชมป์ที่เธอได้รับ ดีที่ว่าเธอไม่น๊อคเขากลางอากาศอย่างเช่นคู่แข่งคนอื่น

"พี่ว่าผู้ท้าชิงรอบหน้าน๊อคตั้งแต่ยกแรกแน่ๆ ฮ่าๆ" นักมวยหนุ่มรุ่นพี่เอ่ยขึ้น

"หึๆ พี่ก็พูดเกินไป รอบหน้าหนูอาจจะพลาดก็ได้" อมิตาบอกพร้อมกับหัวเราะออกมา นักมวยรุ่นพี่กับรุ่นน้องถึงกับปรามออกมา

"พูดอะไรแบบนั้นต้า ยังไงแกก็ทำได้อยู่แล้ว พี่ว่าอนาคตแชมป์โลกไม่ไกลแน่นอน"

“นั่นสิ! พี่ก็คิดเหมือนกันว่าต้าเป็นนักมวยอนาคตไกล” พี่เลี้ยงนักมวยที่เป็นคนดูแลนักมวยสาวมาตั้งแต่ขึ้นสังเวียนชกครั้งแรกเอ่ยออกมาอย่างมั่นใจ

“โอเค อาทิตย์หน้าวันเกิดต้าแล้ว ขอเชิญพี่ๆ น้องๆ ทุกคนมาร่วมงานด้วยนะ” นักมวยสาวบอกขณะที่ลุกขึ้นยืน

“ได้เลย” ทุกคนเอ่ยออกมาพร้อมกัน ต้า หรืออมิตาจึงเดินมุดเชือกแล้วลงจากเวทีฝึกซ้อมมวยของบิดา

เธอเดินจากไปท่ามกลางสายตาของทุกคนที่มองตามไปด้วยความชื่นชม อมิตาเป็นนักมวยหญิงที่เก่งจนหาตัวจับยากในปัจจุบัน ไม่เพียงศิลปะแม่ไม้มวยไทยเท่านั้น เรียกได้ว่าศิลปะการต่อสู้ทุกอย่างเธอเก่งหมด แต่ถ้าถนัดและชื่นชอบจริงๆ คงต้องยกให้การชกมวยเป็นลำดับแรก

"เห้ย!!"

จู่ๆ รุ่นน้องในค่ายก็อุทานออกมาเสียงดังพร้อมกับแสดงท่าทางตกใจราวกับมองเห็นบางสิ่งบางอย่างเบื้องหน้าที่ทำให้เกิดอาการแบบนั้น

"ไอ้บอส เป็นอะไรของมึงวะ ร้องซะเสียงดัง กูสะดุ้งหมดไอ้เด็กนี่"

"พ่ะ...พ่ะ... พวกพี่ไม่เห็นกันเหรอ" เด็กหนุ่มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ราวกับกำลังเสียขวัญ

"เห็น... เห็นอะไรของมึง กูก็เห็นน้องต้าเดินกลับบ้านเธอไปปกติ" รุ่นพี่เอ่ยถามออกมาอย่างงุนงง

"ป่ะ...ผม ผม เห็น.... เห็น"

"เห็นอะไรของมึง พูดดีๆ นะ ถ้าโจ๊กใส่พวกกู มึงโดนอัดแทนกระสอบทรายแน่" นักมวยรุ่นพี่คนหนึ่งเอ่ยขึ้น

“ผ่ะ…ผม เห็นพี่ต้า… เห็นพี่ต้า” รุ่นน้องชื่อบอสเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ พร้อมทั้งขยี้เปลือกตาของตนอีกครั้ง

“เออ…กูรู้แล้ว กูก็เห็นน้องต้าเพิ่งเดินไป ไอ้นี่!!! จะโวยวายทำเพื่อ!!!”

นักมวยรุ่นพี่ตะคอกใส่รุ่นน้องที่ชื่อบอสเสียงดังก่อนที่จะตบหัวเด็กหนุ่มไปหนึ่งทีแล้วแยกย้ายกันไปฝึกซ้อมต่อ บอสไม่กล้าพูดเรื่องที่เขามองเห็นเมื่อสักครู่ออกมา เขากลัวว่าถ้าพูดไปแล้วจะทำให้ทุกคนรู้สึกไม่ดีและไม่สบายใจไปด้วย เขาจึงเลือกที่จะไม่พูดมัน ว่าเขามองเห็นนักมวยสาวดาวรุ่งที่กำลังมีชื่อเสียงโด่งดังในวงการมวยอย่าง พี่ต้า นางฟ้ามวยไทยไม่มีศีรษะ เด็กหนุ่มยกแขนขึ้นมาก็พบว่าขนของเขาลุกชัน ถึงจะเพียงแค่แว๊บเดียวมันก็ทำให้เขารู้สึกใจคอไม่ดี

“พ่อจ๋า… กำลังทำอะไรอยู่จ๊ะ”

ต้า หรืออมิตาเดินเข้ามาภายในบ้านก็มองเห็นบิดานั่งเช็ดถ้วยรางวัลของเธอที่ได้มาจากการแข่งขันชกมวยมาตั้งแต่เด็กจึงเอ่ยถามขึ้น ก่อนที่จะเดินไปนั่งลงข้างๆ ของบิดา

“พ่อกำลังเช็ดถ้วยรางวัลของลูกอยู่น่ะต้า เป็นยังไงซ้อมมวยเหนื่อยไหม”

น้ำเสียงอ่อนโยนดังออกมาจากริมฝีปากหนาของชายวัยสี่สิบ เขาละสายตาจากสิ่งที่กำลังทำอยู่แล้วเงยหน้าขึ้นมองบุตรสาววัยสิบเก้าปีที่เป็นดังตัวแทนความรักของเขาและภรรยา เขาและภรรยาอายุเท่ากันแต่งงานกันตอนอายุยี่สิบปี และมีบุตรสาวเพียงคนเดียวคือต้า หรืออมิตา ภรรยาจากเขาไปในวัยเพียงสามสิบห้าปี

“กำลังคิดถึงแม่อยู่ล่ะสิ” เธอยิ้มบางๆ ออกมา

“อืม…. ความสำเร็จในวันนี้ของลูก เสียดายที่แม่เขาไม่ได้เห็น”

อรุณเอ่ยออกมาน้ำตาซึมเมื่อนึกถึงภรรยาที่ร่วมกันปลุกปั้นนักมวยกันมา รวมไปถึงบุตรสาวที่ภรรยาสนับสนุนให้ชกมวยมาตั้งแต่ห้าขวบ

“พ่อจ๋า.. ต้าเชื่อว่าแม่จะต้องมองเห็น พ่ออย่าเสียใจไปเลยนะจ๊ะ ถึงเราสามคนจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่ยังไงเราก็ยังอยู่ในใจของกันและกันเสมอ ต้าเชื่อว่าแม่กำลังมองมาที่เราสองคนพ่อลูกอย่างมีความสุข และต้าเชื่อว่าแม่ต้องภูมิใจในตัวต้า”

หญิงสาวเมื่อถอดชุดนักมวย ถอดนวมออกนักมวยสาวที่เก่งกาจก็กลายเป็นเพียงบุตรสาวที่น่ารักของบิดาเสมอ อรุณดึงร่างเล็กของบุตรสาวเข้ามาในอ้อมกอด

“ชีวิตของพ่อตอนนี้ก็มีแค่ลูกคนเดียวเท่านั้นที่พ่อเป็นห่วง ถึงลูกจะเก่งกาจขนาดไหน แต่อย่าลืมว่าอย่าใช้ชีวิตประมาท” อรุณบอกบุตรสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“จ้ะพ่อ… ต้าจะใช้ชีวิตให้ดีๆ จะไม่ประมาทและจะคิดก่อนทำเสมอ” อมิตาให้คำมั่นสัญญากับบิดา

สองพ่อลูกนั่งช่วยกันเช็ดถ้วยรางวัลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะขอตัวกลับเข้าห้องไปดูซีรีส์จีนที่เธอชื่นชอบ อรุณมองตามร่างบางที่เดินจากไปด้วยสายตาห่วงใย ทั้งชีวิตนี้เขาก็เหลือบุตรสาวเพียงคนเดียวแล้ว มีเพียงเธอที่เขาเป็นห่วงและอยากพาเธอเดินไปบนเส้นทางความฝันให้ได้ไกลที่สุดเท่าที่พ่อคนหนึ่งจะสามารถทำเพื่อลูกได้

อมิตาเดินเข้าห้องนอนของตนก่อนที่จะตรงไปยังห้องน้ำเพื่ออาบน้ำชำระล้างคราบเหงื่อไคลจากการฝึกซ้อมมวยเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนชุดที่สวมใส่สบายๆ เสร็จแล้ว ร่างเล็กที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามจึงเดินกลับมายังเตียงนอน เธอเอื้อมมือไปหยิบแทปแล็ตเครื่องบางขึ้นมาแล้วเปิดแอปพลิเคชันเพื่อดูซีรีส์จีนที่ตนชื่นชอบ

“โถ่เว้ย!!! เป็นลูกอนุแล้วยังไงวะ เป็นลูกอนุแล้วไม่ใช่คนหรือยังไงกันวะ”

เสียงหวานสบถออกมาให้กับฉากหนึ่งของซีรีส์จีนที่กำลังดูอยู่ ซีรีส์จีนเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับครอบครัวของขุนนางที่มีภรรยาหลวงและภรรยาน้อย บุตรของภรรยาน้อยนั้นโดนดูถูกเหยียดหยาม และถูกข่มเหงสารพัด ต่างจากลูกที่เกิดจากภรรยาหลวง การแบ่งชนชั้นในซีรีส์ทำให้เธอรู้สึกโมโหและอินไปกับเนื้อเรื่องด้วย

“ถ้าแม่เป็นนางเอกนะ แม่จะจัดการคนพวกนี้ให้หลาบจำเลย กล้าดียังไงมารังแกนาง คนเขียนบททำไมเขียนให้นางเอกอ่อนแอจังวะหึ่ยๆๆๆ”

เธอยังคงก่นด่าและแสดงความคิดเห็นออกมาอย่างออกรสออกชาติ เธอปิดแอปพลิเคชันก่อนที่จะวางแทปแล็ตเครื่องบางของตนไว้บนหัวเตียงเช่นเดิม

อารมณ์การดูซีรีส์เรื่องนี้ของเธอหมดไปทันทีที่นางเอกของเรื่องถูกรังแก เธอเอาแต่คิดเล่นๆ อยู่ภายในใจ ถ้าหากเธอเป็นลูกอนุแบบในซีรีส์เธอจะไม่อ่อนแอแบบในซีรีส์เด็ดขาด เธอจะต่อสู้กับทุกอุปสรรคที่เข้ามาและเธอจะปกป้องคนที่เธอรัก แต่พอคิดไปคิดมานี่ก็เป็นแค่ละครที่มีคนเขียนบทขึ้นมา หากเป็นเรื่องจริงนางเอกคงจะไม่ยอมคนง่ายๆ แบบนั้นแน่ๆ เธอล้มตัวลงนอนก่อนที่จะหลับตาลงเพียงไม่นานเธอก็ผล็อยหลับไปเพราะความอ่อนเพลียจากการฝึกซ้อมมวย

ช่วงเย็นหลังจากที่อรุณทำอาหารง่ายๆ ให้ตนเองและบุตรสาวเสร็จเขาจึงหันไปล้างจาน แต่ทว่าเขากลับพลาดไปถูกจานใบโปรดของอมิตาตกลงมาแตกกระจาย บุตรสาวเมื่อได้ยินเสียงของตกแตกดังมาจากในครัวเธอจึงรีบสาวเท้าก้าวเดินไปตามเสียงทันที

“พ่อ!!! เป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะ” เสียงหวานอุทานร้องเรียกบิดา ก่อนที่จะเอ่ยถามขึ้นมา

“โอ๊ย!!! อย่าเพิ่งเข้ามาลูก พ่อทำจานตกแตก” อรุณอุทานออกมาเมื่อจานที่แตกบาดเข้าที่มือของตน ก่อนที่จะร้องห้ามไม่ให้บุตรสาวเดินเข้ามาหาตน

“โถ่!!! พ่อจ๋า…. ทำไมไม่ระวังเลยจ๊ะ พ่อรีบไปทำแผลเถอะ เดี๋ยวทางนี้ต้าเก็บกวาดให้”

อมิตารีบบอกบิดาด้วยน้ำเสียงห่วงใย อรุณพยักหน้าก่อนที่จะลุกขึ้นยืน เขามองจานที่แตกก่อนที่จะมองไปยังใบหน้าสวยของบุตรสาวอย่างใจคอไม่ดี

“ต้า… เก็บระวังหน่อยนะลูก อย่าให้เศษจานบาดนะ” เขาบอกเธอด้วยความเป็นห่วง

“จ้ะพ่อ… พ่อรีบไปทำแผลเถอะนะจ๊ะ” อมิตาบอกบิดา อรุณพยักหน้าก่อนที่จะเดินจากไป

อมิตาก้มหน้าลงมองเศษจานที่แตกกระจายบนพื้น จานใบนี้เป็นจานที่เธอชอบมากเพราะเป็นจานที่มารดาซื้อมาให้เธอโดยเฉพาะ ถึงจะรู้สึกเสียดายแต่ในเมื่อของมันแตกไปแล้วมันก็คงไม่สามารถทำให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ อมิตาเดินไปหยิบที่ตักผงขยะกับไม้กวาดมาจัดการเก็บกวาดเศษแก้วที่อยู่บนพื้นอย่างระมัดระวัง เมื่อเก็บกวาดเสร็จแล้วเธอจึงนำไปเททิ้งลงถังขยะ

“พ่อจ๋า… ทำแผลหรือยังจ๊ะ” เธอเอ่ยถามบิดาหลังจากที่ทิ้งเศษจานที่แตกเรียบร้อยแล้ว

“ทำแล้วลูก แผลนิดเดียวไกลหัวใจ” อรุณชูมือที่ทำแผลเรียบร้อยให้บุตรสาวดู

“ไปกินข้าวเย็นกันดีกว่านะลูก พ่อหิวแล้ว”

อมิตาพยักหน้าก่อนที่จะเดินนำไปที่ห้องครัว แล้วเป็นฝ่ายตักผัดและแกงใส่จานชามวางลงบนโต๊ะบริการบิดาที่บาดเจ็บเพราะล้างจานแทนเธอ ทุกทีเธอจะเป็นฝ่ายล้างจานด้วยตนเองแต่ไม่รู้ว่าวันนี้เป็นเพราะเหตุใดเธอจึงนอนหลับลึกจนเลยเวลาที่ต้องล้างจาน พอตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงของที่ตกแตกพอดีจึงได้เห็นว่าบิดาทำจานใบโปรดของเธอตกแตก แต่เธอก็ไม่ได้โกรธเขา เพราะตัวเขามีค่ากับเธอมากกว่าจานใบนั้นหลายเท่า

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สตรีแกร่ง หลินซูเหมย   ตอนที่ 44 - 1 ความสงบสุขหวนคืน (จบ)

    “ลูกชายของผู้ใดกัน ช่างเหมือนท่านแม่ของเขายิ่งนัก” ฟางเซี่ยหมินแสร้งหยอกเย้าภรรยา “ข้าทั้งอุ้มท้อง ทั้งเบ่งเขาออกมา เขาย่อมเหมือนข้าแน่อยู่แล้วเจ้าค่ะ” หลินซูเหมยยอมรับออกมาอย่างภูมิใจ “แล้วลูกล่ะเจ้าคะ ลูกเหมือนท่านพ่อหรือท่านแม่” ฟางซูลี่ สาวน้อยตากลมเอ่ยถามมารดาออกมาด้วยความสงสัย ถ้าพี่ชายใหญ่เหมือนท่านแม่แล้วนางเหมือนผู้ใดกัน นางเป็นสตรีเช่นเดียวกับท่านแม่ หรือนางจะต้องเหมือนกับท่านพ่อ “เจ้าก็เหมือนท่านแม่ของเจ้าเช่นกัน ลี่เอ๋อร์… ไม่ว่าจะพี่ใหญ่ของเจ้า หรือตัวเจ้า ต่างก็เป็นลูกที่เกิดมาจากความรักของพ่อแม่ พ่อมีความสุขที่ได้มีแม่ของเจ้าและพวกเจ้ามาเป็นครอบครัวของพ่อ” ฟางเซี่ยหมินโอบกอดร่างเล็กพลางใช้มือหนาโยกศีรษะเล็กของบุตรีไปมาอย่างเอ็นดู ฟางซูลี่ฉีกยิ้มกว้างเห็นฟันซี่เล็กเรียงรายให้กับบิดาและมารดา หลินซูเหมยมองสามีและบุตรีด้วยแววตารักใคร่ หลังจากงานตีคลีผ่านพ้นไป คุณชายใหญ่และคุณหนูรองของจวนท่านโหวฟางเซี่ยหมิน ก็เป็นที่กล่าวถึงไปทั่วทั้งเมืองหนานถิง หลายตระกูลย่อมอยากที่จะเกี่ยวดองกับพวกเขา โดยเฉพาะคุณชายใหญ่ที่ในภายภาคหน้าจะต้องได้รับยศถาบรรดาศักดิ์โหวต่อจากบิดา “ลูกทั้ง

  • สตรีแกร่ง หลินซูเหมย   ตอนที่ 44 ความสงบสุขหวนคืน

    เกือบสองเดือนที่แม่ทัพฟางเซี่ยหมิน และกองทัพทหารของเขารั้งอยู่ที่เมืองซาย่า หนึ่งก็เพื่อรอสังเกตความเคลื่อนไหวของทหารฝ่ายตรงข้าม สองเพื่อช่วยชาวเมืองฟื้นฟูและซ่อมแซมเมืองที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม แม้ภายในใจจะแสนคะนึงหาภรรยาอันเป็นที่รัก และสองลูกน้อยที่ห่างมานาน แต่เพราะภาระหน้าที่แล้วเขาจึงต้องทน“ท่านแม่ทัพ งานซ่อมแซมที่นี่ก็ไม่มีอันใดให้ต้องเป็นห่วงแล้ว สถานการณ์ทางฝั่งเมืองเมืองฉงหนานก็ดูสงบเรียบร้อยดี ข้าว่าพวกเรายกทัพกลับเมืองหนานถิงกันดีหรือไม่ขอรับ เหล่าทหารที่จากครอบครัวมานาน คงจะคะนึงหาคนที่รออยู่ไม่น้อยแล้ว”ฉงจี้ กุนซือคนสนิทกล่าวออกมาในขณะที่เห็นท่านแม่ทัพยืนอยู่บนกำแพงเมือง แล้วกำลังทอดสายตามองไปยังทิศทางที่เมืองหนานถิงตั้งอยู่ ใบหน้าคมมีหนวดเคราครึ้มหันหน้ากลับมามองกุนซือ“อืม… ข้าก็เห็นด้วยกับท่านกุนซือ เพราะแม้แต่ตัวข้าเอง ก็คิดถึงฮูหยินและลูกๆ ของข้าเหลือเกิน”แม่ทัพผู้องอาจยอมรับออกมาอย่างไม่อาย สงครามไม่เคยทำให้ผู้ใดมีความสุข มีแต่จะพรากความสุขและชีวิตของผู้คนอันเป็นที่รักไป มีทหารหลายนายที่ไม่ได้กลับไปพร้อมกับพวกตน ครอบครัวที่รออยู่ที่เรือนจะพากันเศร้าโศกเพียงใด แ

  • สตรีแกร่ง หลินซูเหมย   ตอนที่ 43 - 1 มีสุขร่วมเสพ...มีทุกข์ร่วมต้าน

    และแล้วแผนการของแม่ทัพฟางเซี่ยหมินก็ได้เริ่มต้นขึ้นในยามโฉ่ว ในขณะที่ทหารของเหล่าข้าศึกกำลังพักผ่อน เหล่าทหารกล้าฝีมือดีของเมืองซาย่านับร้อยก็พากันลักลอบออกจากกำแพงเมือง โดยใช้เส้นทางลับที่คราก่อนท่านแม่ทัพฟางได้สั่งให้สร้างเอาไว้ เส้นทางลับนี้มีแต่เหล่าทหารกล้าเท่านั้นที่รู้ เพราะคนยิ่งรู้น้อยเมืองก็ยิ่งปลอดภัยมากเท่านั้นทหารกลุ่มหนึ่งค่อยๆ ย่องทะลุผ่านป่าออกไปอย่างเงียบเชียบ และอีกส่วนหนึ่งเตรียมลูกธนูเอาไว้เพื่อจุดไฟแล้วยิงตีวงล้อม เพราะพวกข้าศึกข้ามแม่น้ำที่แห้งขอดมาได้แล้ว จึงตั้งกระโจมอยู่ไม่ห่างจากกำแพงเมืองมากนัก แม้จะมีโอกาสเข้าโจมตีเมืองซาย่าหลายต่อหลายครั้ง แต่ทว่ากลับถูกทหารของเมืองซาย่าโดยมีเทพสงครามอย่างแม่ทัพฟางเซี่ยหมินคอยคุมทัพอยู่ จัดการจนพวกข้าพากันศึกถอยร่นเกือบไม่ทัน ต้องกลับมาตั้งหลักกันใหม่อยู่ถึงสามหนรองแม่ทัพหนุ่มพร้อมกลุ่มทหารกลุ่มที่รับหน้าที่เผาเสบียง เริ่มลงมือหลังจากที่พวกเขาค่อยๆ จัดการฆ่าปิดปากพวกทหารที่เฝ้ายามแล้วนำเสื้อผ้าของพวกมันมาใส่สวมไว้แทน พวกข้าศึกไม่คิดว่าพวกทหารในเมืองซาย่าจะกล้าออกจากเมืองมาจึงไม่มีผู้ใดนึกหวาดระแวง"รอพวกมันเผลอ แล้วอ้อมไ

  • สตรีแกร่ง หลินซูเหมย   ตอนที่ 43 มีสุขร่วมเสพ...มีทุกร่วมต้าน

    ศึกภายนอกสงบสุขได้เพียงสองปี ข้าศึกก็กลับมารุกรานชายแดนเมืองซาย่าอีกครา ที่ผ่านมาแม่ทัพหนุ่มมิได้ชะล่าใจเลยแม้แต่น้อย เขาได้สั่งกำลังพลให้เตรียมพร้อมรับมืออยู่เสมอ แม้กำแพงเมืองจะแข็งแกร่งแต่ข้าศึกก็ยังคงสามารถส่งไส้ศึกให้เข้ามาในเมืองได้อยู่ร่ำไป แม่ทัพหนุ่มจึงจำต้องออกไปสู้รบเพื่อทวงคืนสงบสุขให้กลับคืนมาดังเดิมยามนี้บุตรชายคนโตนั้นก็อายุได้สี่ขวบแล้ว และบุตรีคนรองของเขาก็เข้าสู่วัยสองขวบ เขาสั่งให้ภรรยาพาลูกๆ กลับไปยังเมืองหนานอันเพื่อความปลอดภัย แต่มีหรือว่าหลินซูเหมยจะยอมเชื่อฟัง นางจัดตั้งศูนย์พักพิงเพื่อชาวเมืองที่อพยพมาอีกครา และคอยช่วยคัดกรองผู้อพยพด้วยตนเอง ส่วนเด็กๆ นางก็ให้ป้ามู่ และมู่หลันพาเดินทางกลับไปอยู่กับท่านผู้เฒ่าฟางและฮูหยินผู้เฒ่าฟางยังจวนแม่ทัพฟางที่เมืองหนานอันแล้ว เสี่ยวเอ๋อนั้นดื้อรั้นที่จะติดตามนางมาโดยฝากบุตรชายไว้กับมู่หลัน ซึ่งอีกฝ่ายก็ยินยอมจากไปเพื่อความปลอดภัยของเด็กๆ แต่โดยดี“ฮูหยินขอรับ… มีข้าวกับยาส่งมาจากเมืองหนานอันขอรับ บอกว่ามาจากตระกูลหลินกับตระกูลฟาง” ได้ยินเช่นนั้นหลินซูเหมยจึงยิ้มออกมาทันที เพราะนางรู้ดีว่าผู้ใดที่ส่งข้าวและยามาสนับสนุนนาง

  • สตรีแกร่ง หลินซูเหมย   ตอนที่ 42 - 1 ทายาทคนที่สองของท่านแม่ทัพ

    หกเดือนต่อมาภายในจวนแม่ทัพทิศเหนือยามนี้กำลังวุ่นวายเพราะนายหญิงใหญ่กำลังจะคลอดทายาทคนที่สองของท่านแม่ทัพ ครานี้ฟางเซี่ยหมินไม่ยอมละสายตาจากภรรยาแม้เขาจะเตรียมการก่อนที่ภรรยาจะคลอดแล้วก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นสาวใช้ที่ช่ำชองเรื่องการช่วยหมอตำแยคลอดลูก หมอตำแย และหมอหลวง ทุกคนต่างทำหน้าที่กันอย่างขะมักเขม้น เจ้าของร่างอวบอิ่มที่มีหน้าท้องยื่นออกมาราวกับลูกแตงโมกำลังนอนหน้าซีดอยู่บนเตียง“เป็นเช่นไรบ้างขอรับท่านหมอหลวง” ฟางเซี่ยหมินเอ่ยถามหมอหลวงออกมาด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล“เด็กกลับหัวแล้วขอรับ ต่อไปเชิญหมอตำแยมาทำหน้าที่ต่อได้เลยขอรับ”ท่านหมอหลวงยิ้มก่อนที่จะรายงานผลการตรวจออกมา หลังจากตรวจเสร็จท่านหมอหลวงก็ออกไปรออยู่ด้านนอกห้องปล่อยให้หมอตำแยทำหน้าที่คลอดทารกต่อ แต่เขายังมิได้กลับทันทีเพราะยังคงต้องรอตรวจอาการหลังคลอดให้ฮูหยินแม่ทัพอีกครั้งหนึ่งเมื่อได้ยินเช่นนั้นหมอตำแยจึงเข้าไปประจำที่แทนหมอหลวงที่ทำการตรวจชีพจรให้แก่ฮูหยินก่อนหน้า ท่านแม่ทัพหนุ่มเข้าไปปลอบใจภรรยา มือหนาคว้ามือบางขึ้นมากุมเอาไว้“มิต้องกังวลนะน้องหญิง พี่จะอยู่เคียงข้างเจ้ากับลูก จะไม่ทิ้งพวกเจ้าไปไหน”น้ำเสียงอบอุ่นกับ

  • สตรีแกร่ง หลินซูเหมย   ตอนที่ 42 ทายาทคนที่สองของท่านแม่ทัพ

    ผ่านไปไม่ถึงสามเดือนหลังจากที่เสี่ยวเอ๋อคลอดบุตรชายคนแรกของนางกับตงหลง จวนแม่ทัพก็มีข่าวน่ายินดีอีกครั้ง เพราะฮูหยินกำลังตั้งครรภ์ทายาทคนที่สองของนางกับท่านแม่ทัพ จากกำหนดการที่จะกลับไปเยี่ยมบ้านก็เป็นอันต้องเลื่อนออกไปเพราะกำลังต้งครรภ์อ่อนๆ ทำให้มิสามารถเดินทางไกลได้ ฟางเซี่ยเหวินตื่นเต้นอยู่กับน้องตัวเล็ก ลูกชายของเสี่ยวเอ๋อกับตงหลงจนมิยอมกลับเรือน เหล่าพี่เลี้ยงจึงต้องไปคอยดูแลคุณชายใหญ่ที่นั่นเพราะนายหญิงใหญ่มิสามารถดูแลคุณชายใหญ่ได้เต็มที่ด้วยอาการแพ้ท้อง“แอว๊ะ……อ๊วก…….” เสียงอาเจียนดังมาตั้งแต่ยามเหม่า การตั้งครรภ์ครานี้นั้นหลินซูเหมยลำบากอยู่ไม่น้อยเพราะอาการแพ้ท้องออกเร็ว“ฮูหยินเจ้าเป็นเช่นไรบ้าง ให้พี่ตามหมอหลวงมาตรวจอาการดีหรือไม่”ฟางเซี่ยหมินเอ่ยถามภรรยาออกมาด้วยน้ำเสียงร้อนรน เหตุใดเกิดมาเป็นสตรีต้องทรมานเช่นนี้ในยามตั้งครรภ์ก็ไม่รู้ เขาไม่เข้าใจเอาเสียเลย เพราะเป็นเช่นนี้เขาจึงต้องทะนุถนอมภรรยาให้มากๆ เพราะนางเสียสละร่างกายของนางเพื่อให้กำเนิดทายาทสืบสกุล“ดมยาหอมค่อยรู้สึกดีขึ้นหน่อยเจ้าค่ะท่านพี่ นี่ท่านมิออกไปชายแดนหรือเจ้าคะ” มู่หลันนำยาหอมมาให้นายหญิงสูดดมเพื่อลด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status