LOGINแชมเปญกลับมาที่คอนโดพร้อมกับดอกไม้ที่สั่งไว้ หลังจากจัดห้องเสร็จเธอก็มานั่งบนโซฟากลางห้องนั่งเล่นด้วยความรู้สึกที่ยังคงสงสัยไม่หายเกี่ยวกับเรื่องที่เพิ่งเกิดชึ้น
“รู้แบบนี้น่าจะตัดสินใจถามออกไปสิ” หญิงสาวนึกเสียดายโอกาสนั้นที่ตัวเองได้พลาดไป เพราะแม้แต่ตอนขับรถกลับมาถึงที่ห้องแล้วเธอเองก็ยังคงติดใจกับสายตาคู่นั้นไม่หาย ทั้งความรู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาดตั้งแต่แรกเห็น กับเขาที่มองเธอราวกับมีบางอย่างอยู่ภายในใจ มันทำให้แชมเปญไม่สามารถจะสลัดความสงสัยออกไปได้เลย ขณะที่กำลังฮึดฮัดกับตัวเองอยู่เสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่ด้านข้างของเธอก็ดังขึ้น ซึ่งเป็นสายโทรเข้าจากผู้เป็นพ่อทำให้แชมเปญหยุดคิดถึงเรื่องของพนักงานคนนั้นไปได้พักหนึ่งแล้วกดรับสาย “ค่ะ” (ขับรถอยู่รึเปล่า?) “เปล่าค่ะ ตอนนี้หนูอยู่ที่ห้องแล้ว กลับมาจากร้านดอกไม้ได้ประมาณเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้วค่ะ” “คุณพ่อมีอะไรหรือเปล่าคะ?” (พ่อจะบอกว่างานเลี้ยงการกุศลจะมีตอนเย็นวันอาทิตย์นี้นะ และพ่อกับแม่คงไปกับลูกไม่ได้แล้วเพราะพวกเราต้องไปงานวันเกิดของคุณลุงชวิลแทน ลูกไปคนเดียวได้รึเปล่า?) แชมเปญเงียบไปเพราะกำลังใช้ความคิด งานที่พ่อของเธอพูดถึงเป็นงานเลี้ยงการกุศลที่เธอจะต้องไปในนามของร้านเพชร Cara jewelry ซึ่งเป็นงานสังคมที่ปกติคนทำธุรกิจหรือคนมีหน้ามีตาในสังคมจะต้องไปเข้าร่วมอยู่แล้ว แต่สำหรับแชมเปญที่เพิ่งกลับมาไทยนี่คืองานสังคมงานแรกของเธอที่จะได้เจอกับนักธุรกิจคนอื่นหลังจากโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ทำให้เธอจึงต้องใช้เวลาคิดสักเล็กน้อย ส่วนอีกงานที่พ่อกับแม่ของเธอไปก็คงจะสำคัญไม่ต่างกัน และแชมเปญคงจะไปแทนหรือขอให้ใครคนใดคนหนึ่งไปเป็นเพื่อนเธอแบบเด็ก ๆ ไม่ได้ด้วย แม้ว่าจะเป็นครั้งแรกแต่มันก็เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้อยู่ดีในฐานะของคนที่จะมารับช่วงต่อธุรกิจร้านเพชรของครอบครัว มันคงจะไม่ต่างกับงานเลี้ยงที่เธอไปเข้าร่วมตอนอยู่อังกฤษนักหรอก พอคิดได้แบบนั้นหญิงสาวจึงตอบตกลงไป “คุณพ่อไม่ต้องห่วงค่ะ หนูไปเองได้” (พ่อเองก็เชื่อว่าลูกทำได้นะ) (แล้วเรื่องช่างแต่งหน้าแม่บอกลูกแล้วใช่มั้ย?) “ค่ะ หนูคุยกับคุณแม่แล้ว” เมื่อได้ยินดังนั้นคนฟังก็สบายใจ หน้าที่คนเป็นพ่อและแม่แบบพวกเขามีเพียงแค่เตรียมการทุกอย่างให้พร้อมที่สุดสำหรับลูก ส่วนหลังจากนั้นคงเป็นหน้าที่ของแชมเปญแล้วที่จะต้องเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และหาประสบการณ์ให้ได้มากที่สุดด้วยตนเอง วันงานเลี้ยง แชมเปญเดินเข้ามาในงานเลี้ยงการกุศลเพียงคนเดียว วันนี้เธอใส่ชุดราตรีตัวยาวแบบเรียบง่ายที่สวนทางกับเครื่องประดับบนตัวอย่างสิ้นเชิง กลับกันความเรียบง่ายของชุดยิ่งช่วยส่งให้เครื่องเพชรที่แชมเปญสวมใส่อยู่ดูโดดเด่นมากขึ้นไปอีก ทุกคนต่างเข้ามาทักทายลูกสาวเจ้าของร้านเพชรชี่อดังราวกับสนิทสนมกันมานาน แต่นั่นไม่ได้ทำให้หญิงสาวรู้สึกหนักใจเลยกับการต้องมางานเลี้ยงคนเดียว งานพวกนี้เธอเองก็เคยเข้าร่วมตอนอยู่เมืองนอกมาแล้วจึงทำให้แชมเปญสามารถวางตัวได้อย่างเหมาะสมเป็นอย่างดี แต่จะมีก็แค่คนเดียวเท่านั้นที่จะทำให้หญิงสาวรู้สึกถึงความผิดปกติได้ ซึ่งก็คือ ‘กฤติน’ ลูกชายคนเล็กของยศพล ที่ครอบครัวนี้ขึ้นชื่อว่ามีอำนาจล้นมือตั้งแต่รุ่นปู่ของพวกเขา...และมันก็ไม่ใช่ด้านที่ดีเท่าไรนัก “คุณแชมเปญจะไปไหนเหรอครับ?” แชมเปญที่กำลังจะเดินไปหามุมสงบถูกขวางด้วยชายหนุ่มผู้ดีในชุดสูท ที่เธอแทบจะไม่ต้องเดาเลยแต่ก็สามารถเห็นเจตนาของเขาได้ชัดเจนจากสายตาคู่นั้น แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไรนักหากจะเป็นศัตรูกับตระกูลดังที่มีประวัติมาอย่างยาวนานแบบนั้น เธอจึงต้องพยายามตอบกลับไปอย่างสุภาพที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลังได้ “ฉันจะไปเข้าห้องน้ำน่ะค่ะ” “น่าเสียดายนะครับที่ในงานทุกคนต่างก็มารายล้อมคุณ ทำให้พวกเราไม่ค่อยมีโอกาสได้คุยกันเลย” “ถ้าผมจะของแลกคอนแทคไว้คุยกันได้รึเปล่า” แชมเปญนึกอยากจะตอกกลับแรง ๆ กลับไปกับความไร้มารยาทของอีกฝ่ายที่สายตาของเขาแทะโลมชัดเจนโดยไม่ให้เกียรติเธอเลยแม้แต่นิดเดียว นอกจากจะไม่มีการแนะนำตัวเองแล้วยังมาขวางทางผู้หญิงที่บอกว่าจะไปเข้าห้องน้ำอีก! เธอได้แต่ภาวนาให้มีคนรู้จักผ่านมาเพื่อจะได้หลบหลีกได้แนบเนียน แต่ว่าพื้นที่ตรงนี้กลับไม่มีใครเลย ดังนั้นแชมเปญจึงเลือกที่จะหยิบนามบัตรของเธอให้กับเขาแทน “ถ้าสนใจเพชรของร้านเราสามารถติดต่อตามนี้ได้เลยค่ะ” “ผมไม่ได้อยากได้นามบัตรเพื่อคุยธุรกิจสักหน่อย” ถึงจะพูดแบบนั้นแต่มือของเขาก็รับนามบัตรไปพร้อมกับการฉวยโอกาสในการสัมผัสผิวเนียนนุ่มของอีกฝ่ายไปด้วย “...วันนี้คุณสวยมากเลยนะ ผมเคยได้ยินแต่คนอื่นพูดถึงคุณ แต่พอมาเจอตัวจริงแล้วกลับดูดียิ่งกว่าที่คนอื่นชมอีก” นี่มันคุกคามกันชัด ๆ ! แชมเปญก้าวถอยหลังอัตโนมัติตอนที่อีกฝ่ายเข้ามาประชิดตัว เธอคิดว่าวันนี้คงจะได้หมดความอดทนจริง ๆ แน่ แต่ยังไม่ทันที่จะได้คุยกันต่อเสียงของแจกันที่แตกก็ดังขึ้นเสียก่อน เพล้ง! “ขอโทษครับ พอดีผมเผลอทำหลุดมือ” “เป็นอะไรรึเปล่าคะ” แชมเปญรีบเดินเข้าไปช่วยพนักงานหนุ่มซึ่งการกระทำของเขาได้มาขัดจังหวะบรรยากาศชวนอึดอัดแบบพอดิบพอดี เธอแสร้งทำเป็นให้ความสนใจกับคนตรงหน้าแล้วช่วยเขาเก็บเศษแจกันที่กระจายอยู่บนพื้น ทำให้อีกคนที่ยืนอยู่ถูกเมินไปโดยปริยาย แชมเปญนึกขอบคุณอะไรก็แล้วแต่ที่เข้ามาขัดจังหวะความน่าอึดอัดนี้ก่อนที่เธอจะได้สร้างเรื่องในงานเลี้ยงการกุศลจริง ๆ แต่พอเงยหน้ามองพนักงานตรงหน้าหญิงสาวก็ต้องชะงักไป เขาคือพนักงานคนนั้นที่เธอเจอที่ร้านดอกไม้ กฤตินได้แต่นึกหงุดหงิดในใจที่มันอีกแค่นิดเดียวเท่านั้น เขาก็จะได้สัมผัสเธอมากกว่านี้แล้ว ตอนแรกที่เขาตามแชมเปญมาเพราะเห็นว่าเธอเดินไปในที่ที่ไม่มีคนพอดี แต่ทำไมตอนนี้ถึงได้มีคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องได้วะ! แชมเปญละสายตาจากชายหนุ่มตรงหน้าแล้วเอี้ยวกลับไปมองที่ด้านหลัง สัมผัสตรงมือที่โดนกฤตินจับเมื่อครู่ยังทำให้แชมเปญรู้สึกรังเกียจอยู่ไม่หาย พอเห็นว่าอีกคนได้หายไปแล้วก็พอดีกับที่ดีนเก็บเศษแจกันเสร็จพอดี “ขอบคุณนะครับที่มาช่วย แล้วก็ขอโทษด้วยที่มาขัดจังหวะของพวกคุณ” “เดี๋ยวก่อนค่ะ” คราวนี้แชมเปญไม่ยอมปล่อยผ่านไปง่าย ๆ ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่คิดถึงเรื่องนี้เลย แต่พอได้เจอกับเขาอีกครั้งมันก็เป็นโอกาสที่แชมเปญจะได้ถามสิ่งที่รู้สึกติดค้างอยู่ออกมา “ฉันมีเรื่องจะถามคุณค่ะ” “ครับ” มุมปากหนาลอบกระตุกยิ้มแล้วหันกลับมาเผชิญหน้ากับไฮโซสาวตรง ๆ เพราะวันนี้เธอใส่ส้นสูงเลยทำให้ความสูงของทั้งคู่ไม่ต่างกันมากนัก ทั้ง ๆ ที่เขาจำได้ว่าปกติแชมเปญจะตัวเล็กกว่าเขาอยู่เสมอไม่ว่าจะอยู่ในวัยใดก็ตาม “คุณดีนใช่ไหมคะ?วันนั้นที่ร้านดอกไม้ฉันได้ยินพนักงานคนอื่นเรียกคุณแบบนั้น” “ใช่ครับ นั่นเป็นอีกชื่อหนึ่งของผมเอง” “ค่ะ ไม่รู้ว่าคุณจะยังจำฉันได้อยู่รึเปล่า แต่พอดีว่าฉันมีเรื่องที่ยังสงสัยอยู่นิดหน่อยน่ะค่ะ” “ครับ มีเรื่องอะไรเหรอครับ” “ฉันกำลังสงสัยว่าเราสองคน...เคยรู้จักกันมาก่อนรึเปล่าคะ?”“ฉันแค่รู้สึกคุ้นหน้าคุณน่ะค่ะ” ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงได้รู้สึกประหม่าขึ้นมาเหมือนคนที่ทำความผิด แต่พอเห็นคิ้วที่ขมวดของชายหนุ่ม เธอก็ต้องรีบอธิบายเพิ่มออกไป“ผมเพิ่งมาอยู่ที่นี่แค่ไม่กี่เดือนเองครับ ตั้งแต่ที่จำความได้ก็อยู่ต่างจังหวัดกับแม่มาตลอดเลย”“เป็นลูกครึ่งเหรอคะ?”“คุณแชมเปญดูสนใจเรื่องของผมจังเลยนะครับ “แชมเปญมองลึกเข้าไปยังนัยน์ตาสีเทาที่สะท้อนความสุขุมออกมา แม้ว่าน้ำเสียงของเขาจะติดเล่นไม่ได้จริงจังก็ตาม แต่ก็ทำให้คนฟังไปต่อไม่ถูกเหมือนกัน” ผมแค่รู้สึกดีใจที่คนระดับคุณสนใจผมแค่นั้นเองครับ “ดีนหลุดหัวเราะออกมาทำลายความเงียบก่อนจะตอบกลับไป“ครับ พ่อผมเป็นคนเดนมาร์กส่วนแม่เป็นคนไทยครับ""ถ้าคุณแชมเปญไม่มีอะไรแล้ว งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ คิดว่าคงจะต้องรีบไปเปลี่ยนของที่เพิ่งแตกไปก่อนจะโดนจับได้แล้ว" ดีนส่งยิ้มให้ไฮโซสาวเป็นครั้งสุดท้ายแล้วหมุนตัวกลับไปทำให้ใบหน้าของเขากลับมาเป็นปกติอีกครั้ง“ดูมันอยากได้คุณแชมเปญมากเลยนะครับ” ชายหนุ่มอีกคนที่ยืนอยู่เอ่ยออกมาตามความคิดหลังเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง แต่ดีแลนกลับยังคงมีสีหน้าที่นิ่งเรียบเช่นเดิมสิ่งหนึ่งที่ทำให้มาเฟียหนุ่มต
แชมเปญกลับมาที่คอนโดพร้อมกับดอกไม้ที่สั่งไว้ หลังจากจัดห้องเสร็จเธอก็มานั่งบนโซฟากลางห้องนั่งเล่นด้วยความรู้สึกที่ยังคงสงสัยไม่หายเกี่ยวกับเรื่องที่เพิ่งเกิดชึ้น“รู้แบบนี้น่าจะตัดสินใจถามออกไปสิ” หญิงสาวนึกเสียดายโอกาสนั้นที่ตัวเองได้พลาดไป เพราะแม้แต่ตอนขับรถกลับมาถึงที่ห้องแล้วเธอเองก็ยังคงติดใจกับสายตาคู่นั้นไม่หายทั้งความรู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาดตั้งแต่แรกเห็น กับเขาที่มองเธอราวกับมีบางอย่างอยู่ภายในใจ มันทำให้แชมเปญไม่สามารถจะสลัดความสงสัยออกไปได้เลยขณะที่กำลังฮึดฮัดกับตัวเองอยู่เสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่ด้านข้างของเธอก็ดังขึ้น ซึ่งเป็นสายโทรเข้าจากผู้เป็นพ่อทำให้แชมเปญหยุดคิดถึงเรื่องของพนักงานคนนั้นไปได้พักหนึ่งแล้วกดรับสาย“ค่ะ”(ขับรถอยู่รึเปล่า?)“เปล่าค่ะ ตอนนี้หนูอยู่ที่ห้องแล้ว กลับมาจากร้านดอกไม้ได้ประมาณเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้วค่ะ”“คุณพ่อมีอะไรหรือเปล่าคะ?”(พ่อจะบอกว่างานเลี้ยงการกุศลจะมีตอนเย็นวันอาทิตย์นี้นะ และพ่อกับแม่คงไปกับลูกไม่ได้แล้วเพราะพวกเราต้องไปงานวันเกิดของคุณลุงชวิลแทน ลูกไปคนเดียวได้รึเปล่า?)แชมเปญเงียบไปเพราะกำลังใช้ความคิด งานที่พ่อของเธอพูดถึงเป็น
เสียงของรองเท้าส้นสูงดังขึ้นทุกครั้งที่หญิงสาวก้าวเดิน ท่าทางมั่นใจและใบหน้าสะสวยสามารถดึงความสนใจจากพนักงานหลายคนได้ไม่เว้นแม้แต่คนที่กำลังทำงานอยู่ด้านหลังร้านอย่างดีน เพราะการปรากฏตัวของเธอทำให้ตอนนี้ชมพู่เองก็ได้ย้ายตัวเองไปหน้าร้านแทนแล้วจนเหลือเพียงแค่ดีนเท่านั้นที่ยังคงมองหญิงสาวจากมุมหนึ่งของร้านอยู่“สวัสดีค่ะคุณแชมเปญ” พอเธอเดินเข้ามาในร้านพนักงานต่างก็รีบมาต้อนรับหญิงสาวไฮโซทันที เช่นเดียวกับแชมเปญที่ไม่ได้ถือตัวแล้วพูดคุยกับพนักงานด้วยความสุภาพ“มารับดอกไม้ที่สั่งไว้น่ะค่ะ”“ทางเราเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ ให้ยกไปที่รถคุณแชมเปญเลยมั้ยคะ”“ได้ค่ะ รบกวนด้วยนะคะ”“คุณแชมเปญคะ ไม่ทราบว่าคุณจะรีบไปไหนรึเปล่าคะ”แชมเปญเลิกคิ้วด้วยความไม่เข้าใจกับคำถามที่ดูเหมือนจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับการมารับดอกไม้ของเธอเลย แต่พอเห็นสีหน้าที่คาดหวังพร้อมกับดวงตาที่เปล่งประกายของคนตรงหน้าก็ทำให้หญิงสาวปฏิเสธออกไปไม่ได้“วันนี้ยังไม่มีแพลนไปที่ไหนค่ะ”“ถ้างั้นช่วงรอคุณแชมเปญสะดวกอยู่ดื่มชาก่อนมั้ยคะ พอดีร้านเราเพิ่งนำเข้าชาดอกไม้มาเพื่อเตรียมจะเปิดคาเฟ่ในเดือนหน้าน่ะค่ะ ระหว่างนั้นก็จะให้พนักงานย
“แชมเปญ!” เสียงประตูที่ถูกเปิดพรวดพราดเข้ามาพร้อมกับร่างสูงของชายหนุ่มทำให้ไฮโซสาวเงยหน้าจากจอแล็ปท็อปแล้วมองที่สามีของตน ขอบตาที่แดงก่ำและเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาทำให้เขารับรู้ได้ว่าเธอ...ได้รู้เรื่องบางอย่างแล้ว“นี่มันอะไรคะดีน”“ทำไมข้อมูลบริษัททั้งหมดถึงอยู่ที่คุณ ทั้ง ๆ ที่คุณพ่อไม่เคยปล่อยให้เรื่องพวกนี้หลุดออกไปได้เลย”“คุณเป็นใครกันแน่?”แชมเปญถามทั้งที่น้ำตาคลอ ถ้าไม่มีคนนั้นที่มาบอกกับเธอ วันนี้เธอก็คงจะไม่นึกเฉลียวใจเลยแม้แต่นิดเดียวว่าสามีของตนเองที่เธอตกหลุมรักเขาหมดหัวใจจะกำลังทำบางอย่างลับหลังเธออยู่“บอกมาสิว่ามันไม่จริง!” เธอปิดหน้าจอแล้วเดินเข้าไปเผชิญหน้ากับชายคนรักเพื่อต้องการจะให้เขายืนยันในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ดีนกลับไม่ได้ดูตกใจที่ถูกจับได้เลยแม้แต่นิดเดียว แววตาของเขาในตอนนี้ต่างจากผู้ชายที่แชมเปญเคยใช้เวลาร่วมกันมาหลายเดือนราวกับว่า...เขาได้เตรียมใจไว้แล้วว่าสักวันเธอจะต้องรับรู้เรื่องนี้“ถ้าคุณเห็นแบบนั้นแล้วก็ไม่ควรจะหลอกตัวเองต่อไปนะ”“ดีน...นี่คุณกำลังหลอกใช้ฉันจริง ๆ งั้นเหรอ?”“แชมเปญ” ดีนไม่ได้ตอบคำถามแต่เขาเลือกที่จะกดล็อกประตูด้านหลังแล้วดันตัวของไฮ
“อื้อ! เบา ๆ หน่อย อย่าดูดแรงสิ” ถ้อยคำห้ามปรามดังเคล้ากับเสียงครวญครางที่หลุดออกมาอย่างสุดกลั้น พร้อมกับมือและเท้าที่จิกเกร็งกับความเสียวซ่านที่ตรงเข้าเล่นงาน ทำให้ชายหนุ่มต้องยอมผละใบหน้าจากจุดสงวนของหญิงสาว แล้วโต้เถียงกลับไปอย่างไม่ยอมเช่นกัน“แต่คุณก็ชอบไม่ใช่เหรอครับ?”คนเจ้าเล่ห์ แชมเปญนึกหมั่นไส้เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาในใจ แต่เธอจะทำอย่างไรได้ในเมื่อตอนนี้ร่างกายทั้งหมดได้ถูกครอบครองโดยสามีนิสัยไม่ดีทั้งหมดแล้วครั้งแรกที่เจอกันเธอยังคิดว่านิสัยของเขาสวนทางกับใบหน้าคมคายอย่างสิ้นเชิง แต่ตอนนี้แชมเปญรู้แล้วว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้เป็นคนเนิร์ดชวนน่าเบื่อเหมือนที่เขาแสดงออกมาตอนแรก ซึ่งหลักฐานก็คงจะเป็นการกระทำของเขาที่ทำให้เธอหมดแรงได้ทุกคืนตั้งแต่เมื่อสามเดือนก่อนจนถึงตอนนี้ท่อนขาเนียนสวยของแชมเปญถูกวางพาดบนบ่ากว้างทั้ง ๆ ที่ยังยืนเปลือยกายอยู่ใต้สายน้ำเย็น โดยมีชายหนุ่มร่างสูงที่คุกเข่าตรงหน้าและคอยทำหน้าที่ปรนนิบัติให้ภรรยาได้พึงพอใจ“บอกแล้วไงว่าอย่าเรียกแบบนี้” แชมเปญเบือนหน้าหลบและเริ่มสัมผัสได้ถึงความรู้สึกวาบหวิวในท้อง นอกจากนี้เธอยังรู้สึกว่าทั่วทั้งใบหน้าเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมา







