LOGINเสียงของรองเท้าส้นสูงดังขึ้นทุกครั้งที่หญิงสาวก้าวเดิน ท่าทางมั่นใจและใบหน้าสะสวยสามารถดึงความสนใจจากพนักงานหลายคนได้ไม่เว้นแม้แต่คนที่กำลังทำงานอยู่ด้านหลังร้านอย่างดีน เพราะการปรากฏตัวของเธอทำให้ตอนนี้ชมพู่เองก็ได้ย้ายตัวเองไปหน้าร้านแทนแล้วจนเหลือเพียงแค่ดีนเท่านั้นที่ยังคงมองหญิงสาวจากมุมหนึ่งของร้านอยู่
“สวัสดีค่ะคุณแชมเปญ” พอเธอเดินเข้ามาในร้านพนักงานต่างก็รีบมาต้อนรับหญิงสาวไฮโซทันที เช่นเดียวกับแชมเปญที่ไม่ได้ถือตัวแล้วพูดคุยกับพนักงานด้วยความสุภาพ “มารับดอกไม้ที่สั่งไว้น่ะค่ะ” “ทางเราเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ ให้ยกไปที่รถคุณแชมเปญเลยมั้ยคะ” “ได้ค่ะ รบกวนด้วยนะคะ” “คุณแชมเปญคะ ไม่ทราบว่าคุณจะรีบไปไหนรึเปล่าคะ” แชมเปญเลิกคิ้วด้วยความไม่เข้าใจกับคำถามที่ดูเหมือนจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับการมารับดอกไม้ของเธอเลย แต่พอเห็นสีหน้าที่คาดหวังพร้อมกับดวงตาที่เปล่งประกายของคนตรงหน้าก็ทำให้หญิงสาวปฏิเสธออกไปไม่ได้ “วันนี้ยังไม่มีแพลนไปที่ไหนค่ะ” “ถ้างั้นช่วงรอคุณแชมเปญสะดวกอยู่ดื่มชาก่อนมั้ยคะ พอดีร้านเราเพิ่งนำเข้าชาดอกไม้มาเพื่อเตรียมจะเปิดคาเฟ่ในเดือนหน้าน่ะค่ะ ระหว่างนั้นก็จะให้พนักงานยกดอกไม้ไปไว้ที่รถให้ด้วย” “เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ” พอหญิงสาวรับคำเชิญทุกคนก็แสดงสีหน้าดีใจออกมา เพราะเธอเรียนที่เมืองนอกมาตั้งหลายปีคงพอจะให้ช่วยชิมเมนูที่เตรียมจะเปิดขายให้ได้ว่ามันดีพอหรือไม่ อีกทั้งจะได้เป็นการสร้างความประทับใจให้กับลูกสาวของลูกค้ารายใหญ่ที่เพิ่งกลับมาประเทศไทยด้วย แชมเปญถูกพาไปที่โต๊ะซึ่งได้เตรียมเอาไว้โดยมีพนักงานสาวเดินนำ ใช้เวลาไม่นานชาดอกไม้ก็ถูกเสิร์ฟพร้อมกับขนมจำนวนหนึ่งบนโต๊ะ ระหว่างนั้นดอกไม้ที่สั่งไว้ก็ถูกพนักงานยกมาวางเตรียมไว้เพื่อจะไปไว้ที่รถคันหรู “ดีน! มาช่วยพี่ยกของหน่อยสิ” เพราะมีพนักงานชายไม่กี่คนในร้าน หน้าที่ในการยกของจึงตกเป็นของพวกเขาไปโดยปริยาย คนที่ถูกเรียกตัววางมือจากงานที่ทำอยู่ด้านหลังร้านแล้วเดินออกมาช่วยพนักงานคนอื่นยกของเพื่อส่งมอบให้กับลูกค้า เปิดโอกาสให้แชมเปญได้เห็นหนุ่มร่างสูงซึ่งเป็นพนักงานอีกคนของร้าน ชายหนุ่มหันไปมองไฮโซสาวที่นั่งดื่มชาอยู่ราวกับจงใจที่จะมองเธอตั้งแต่แรกทำให้สายตาของทั้งคู่สอดประสานกันพอดี แม้จะเป็นเพียงการ ‘บังเอิญ’ สบตาธรรมดาแต่แชมเปญกลับรู้สึกคุ้นเคยกับแววตาคู่นั้นเป็นอย่างมาก เธอวางแก้วชาลงแล้วไล่สายตาสำรวจพนักงานหนุ่มซึ่งยังคงจับจ้องมาที่เธออยู่ แม้ภาพลักษณ์ภายนอกจะดูเชยและน่าเบื่อ แต่สายตาของเขากลับดูดุดันสวนทางกับบุคลิกอย่างสิ้นเชิง ‘เป็นผู้ชายประเภทฮอร์ตเนิร์ดงั้นเหรอ?’ ไฮโซสาวคิดในใจแล้วพยายามนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตของตัวเองไปด้วยว่าเธอกับเขาเคยรู้จักกันมาก่อนหรือไม่ แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่เคยจะจำได้เลยว่าตนเองเคยเจอกับผู้ชายคนนี้มาก่อน หรือเขาจะแค่มองเธอตามปกติแบบคนที่เผลอสบตากันพอดีงั้นหรือ? แต่คนที่ไม่รู้จักกันที่ไหนจะจ้องกันนานขนาดนี้ล่ะ ดูเหมือนเธอจะแสดงออกทางสีหน้ามากเกินไปเลยทำให้ดีนละสายตาจากเธอแล้วไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ แต่นั่นก็ไม่สามารถจะทำให้แชมเปญคลายความสงสัยได้ “ชารสชาติถูกปากมั้ยคะ” พอแชมเปญลุกออกมาพนักงานสาวคนเดิมก็เดินเข้ามาถามถึงความประทับใจทันที เธอตอบกลับไปอย่างสุภาพโดยเหลือบมองชายหนุ่มที่กำลังยกของอยู่เล็กน้อย “ค่ะ ชาหอมมากเลยค่ะ ถ้าเปิดร้านเมื่อไหร่คงมาเป็นลูกค้าประจำแน่นอนค่ะ” “ดีใจที่คุณแชมเปญชอบนะคะ” แชมเปญยิ้มตอบกลับแล้วเดินออกไปที่รถของตนเองซึ่งดอกไม้ทั้งหมดได้ถูกจัดวางอย่างเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว เธอมองพนักงานหนุ่มอย่างไม่ละสายตาเพราะความสงสัยต่อสายตาของเขาเมื่อสักครู่ยังคงมีอยู่ จนกระทั่งสุดท้ายแชมเปญก็หลุดปากเรียกเขาในตอนที่ชายหนุ่มกำลังจะเดินกลับเข้าไปในร้าน “คุณคะ” “ครับ?” ดีนหันกลับมามองไฮโซสาวพลางเลิกคิ้วขึ้นแต่คราวนี้กลับไม่ได้มีแค่เขาที่อยู่กับเธอ เพราะยังมีพนักงานหญิงอีกสองคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วย สายตาของเขาที่มองเธอเต็มไปด้วยคำถามราวกับว่าก่อนหน้านี้ทั้งคู่ไม่เคยสบตากันมาก่อนแบบตอนนั้น รวมถึงดวงตาคู่นั้นที่อ่อนลงไม่ต่างจากบุคลิกภายนอกเลยแม้แต่น้อย พอทุกอย่างเป็นแบบนี้แชมเปญเลยลังเลที่จะถามสิ่งที่สงสัยออกไป หรือว่าเขาแค่มองคนอื่นแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้ว?แชมเปญคิดกับตัวเอง สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะเก็บความสงสัยไว้ในใจแล้วไม่ถามออกไป “ไม่มีอะไรแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาช่วยยกของให้” “ครับ ไม่เป็นไรครับ” ดีนก้มหัวให้กับไฮโซสาวด้วยความสุภาพเป็นครั้งสุดท้ายแล้วเดินกลับเข้าไปด้านในร้านตำแหน่งเดิมที่เขาทำงานค้างไว้อยู่ ณ มุมหนึ่งด้านหลังร้านสายตาของชายหนุ่มยังคงจ้องมองไปยังหญิงสาวที่เขาเพิ่งพูดคุยกับเธอสั้น ๆ อย่างไม่ละสายตา“ฉันแค่รู้สึกคุ้นหน้าคุณน่ะค่ะ” ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงได้รู้สึกประหม่าขึ้นมาเหมือนคนที่ทำความผิด แต่พอเห็นคิ้วที่ขมวดของชายหนุ่ม เธอก็ต้องรีบอธิบายเพิ่มออกไป“ผมเพิ่งมาอยู่ที่นี่แค่ไม่กี่เดือนเองครับ ตั้งแต่ที่จำความได้ก็อยู่ต่างจังหวัดกับแม่มาตลอดเลย”“เป็นลูกครึ่งเหรอคะ?”“คุณแชมเปญดูสนใจเรื่องของผมจังเลยนะครับ “แชมเปญมองลึกเข้าไปยังนัยน์ตาสีเทาที่สะท้อนความสุขุมออกมา แม้ว่าน้ำเสียงของเขาจะติดเล่นไม่ได้จริงจังก็ตาม แต่ก็ทำให้คนฟังไปต่อไม่ถูกเหมือนกัน” ผมแค่รู้สึกดีใจที่คนระดับคุณสนใจผมแค่นั้นเองครับ “ดีนหลุดหัวเราะออกมาทำลายความเงียบก่อนจะตอบกลับไป“ครับ พ่อผมเป็นคนเดนมาร์กส่วนแม่เป็นคนไทยครับ""ถ้าคุณแชมเปญไม่มีอะไรแล้ว งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ คิดว่าคงจะต้องรีบไปเปลี่ยนของที่เพิ่งแตกไปก่อนจะโดนจับได้แล้ว" ดีนส่งยิ้มให้ไฮโซสาวเป็นครั้งสุดท้ายแล้วหมุนตัวกลับไปทำให้ใบหน้าของเขากลับมาเป็นปกติอีกครั้ง“ดูมันอยากได้คุณแชมเปญมากเลยนะครับ” ชายหนุ่มอีกคนที่ยืนอยู่เอ่ยออกมาตามความคิดหลังเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง แต่ดีแลนกลับยังคงมีสีหน้าที่นิ่งเรียบเช่นเดิมสิ่งหนึ่งที่ทำให้มาเฟียหนุ่มต
แชมเปญกลับมาที่คอนโดพร้อมกับดอกไม้ที่สั่งไว้ หลังจากจัดห้องเสร็จเธอก็มานั่งบนโซฟากลางห้องนั่งเล่นด้วยความรู้สึกที่ยังคงสงสัยไม่หายเกี่ยวกับเรื่องที่เพิ่งเกิดชึ้น“รู้แบบนี้น่าจะตัดสินใจถามออกไปสิ” หญิงสาวนึกเสียดายโอกาสนั้นที่ตัวเองได้พลาดไป เพราะแม้แต่ตอนขับรถกลับมาถึงที่ห้องแล้วเธอเองก็ยังคงติดใจกับสายตาคู่นั้นไม่หายทั้งความรู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาดตั้งแต่แรกเห็น กับเขาที่มองเธอราวกับมีบางอย่างอยู่ภายในใจ มันทำให้แชมเปญไม่สามารถจะสลัดความสงสัยออกไปได้เลยขณะที่กำลังฮึดฮัดกับตัวเองอยู่เสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่ด้านข้างของเธอก็ดังขึ้น ซึ่งเป็นสายโทรเข้าจากผู้เป็นพ่อทำให้แชมเปญหยุดคิดถึงเรื่องของพนักงานคนนั้นไปได้พักหนึ่งแล้วกดรับสาย“ค่ะ”(ขับรถอยู่รึเปล่า?)“เปล่าค่ะ ตอนนี้หนูอยู่ที่ห้องแล้ว กลับมาจากร้านดอกไม้ได้ประมาณเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้วค่ะ”“คุณพ่อมีอะไรหรือเปล่าคะ?”(พ่อจะบอกว่างานเลี้ยงการกุศลจะมีตอนเย็นวันอาทิตย์นี้นะ และพ่อกับแม่คงไปกับลูกไม่ได้แล้วเพราะพวกเราต้องไปงานวันเกิดของคุณลุงชวิลแทน ลูกไปคนเดียวได้รึเปล่า?)แชมเปญเงียบไปเพราะกำลังใช้ความคิด งานที่พ่อของเธอพูดถึงเป็น
เสียงของรองเท้าส้นสูงดังขึ้นทุกครั้งที่หญิงสาวก้าวเดิน ท่าทางมั่นใจและใบหน้าสะสวยสามารถดึงความสนใจจากพนักงานหลายคนได้ไม่เว้นแม้แต่คนที่กำลังทำงานอยู่ด้านหลังร้านอย่างดีน เพราะการปรากฏตัวของเธอทำให้ตอนนี้ชมพู่เองก็ได้ย้ายตัวเองไปหน้าร้านแทนแล้วจนเหลือเพียงแค่ดีนเท่านั้นที่ยังคงมองหญิงสาวจากมุมหนึ่งของร้านอยู่“สวัสดีค่ะคุณแชมเปญ” พอเธอเดินเข้ามาในร้านพนักงานต่างก็รีบมาต้อนรับหญิงสาวไฮโซทันที เช่นเดียวกับแชมเปญที่ไม่ได้ถือตัวแล้วพูดคุยกับพนักงานด้วยความสุภาพ“มารับดอกไม้ที่สั่งไว้น่ะค่ะ”“ทางเราเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ ให้ยกไปที่รถคุณแชมเปญเลยมั้ยคะ”“ได้ค่ะ รบกวนด้วยนะคะ”“คุณแชมเปญคะ ไม่ทราบว่าคุณจะรีบไปไหนรึเปล่าคะ”แชมเปญเลิกคิ้วด้วยความไม่เข้าใจกับคำถามที่ดูเหมือนจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับการมารับดอกไม้ของเธอเลย แต่พอเห็นสีหน้าที่คาดหวังพร้อมกับดวงตาที่เปล่งประกายของคนตรงหน้าก็ทำให้หญิงสาวปฏิเสธออกไปไม่ได้“วันนี้ยังไม่มีแพลนไปที่ไหนค่ะ”“ถ้างั้นช่วงรอคุณแชมเปญสะดวกอยู่ดื่มชาก่อนมั้ยคะ พอดีร้านเราเพิ่งนำเข้าชาดอกไม้มาเพื่อเตรียมจะเปิดคาเฟ่ในเดือนหน้าน่ะค่ะ ระหว่างนั้นก็จะให้พนักงานย
“แชมเปญ!” เสียงประตูที่ถูกเปิดพรวดพราดเข้ามาพร้อมกับร่างสูงของชายหนุ่มทำให้ไฮโซสาวเงยหน้าจากจอแล็ปท็อปแล้วมองที่สามีของตน ขอบตาที่แดงก่ำและเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาทำให้เขารับรู้ได้ว่าเธอ...ได้รู้เรื่องบางอย่างแล้ว“นี่มันอะไรคะดีน”“ทำไมข้อมูลบริษัททั้งหมดถึงอยู่ที่คุณ ทั้ง ๆ ที่คุณพ่อไม่เคยปล่อยให้เรื่องพวกนี้หลุดออกไปได้เลย”“คุณเป็นใครกันแน่?”แชมเปญถามทั้งที่น้ำตาคลอ ถ้าไม่มีคนนั้นที่มาบอกกับเธอ วันนี้เธอก็คงจะไม่นึกเฉลียวใจเลยแม้แต่นิดเดียวว่าสามีของตนเองที่เธอตกหลุมรักเขาหมดหัวใจจะกำลังทำบางอย่างลับหลังเธออยู่“บอกมาสิว่ามันไม่จริง!” เธอปิดหน้าจอแล้วเดินเข้าไปเผชิญหน้ากับชายคนรักเพื่อต้องการจะให้เขายืนยันในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ดีนกลับไม่ได้ดูตกใจที่ถูกจับได้เลยแม้แต่นิดเดียว แววตาของเขาในตอนนี้ต่างจากผู้ชายที่แชมเปญเคยใช้เวลาร่วมกันมาหลายเดือนราวกับว่า...เขาได้เตรียมใจไว้แล้วว่าสักวันเธอจะต้องรับรู้เรื่องนี้“ถ้าคุณเห็นแบบนั้นแล้วก็ไม่ควรจะหลอกตัวเองต่อไปนะ”“ดีน...นี่คุณกำลังหลอกใช้ฉันจริง ๆ งั้นเหรอ?”“แชมเปญ” ดีนไม่ได้ตอบคำถามแต่เขาเลือกที่จะกดล็อกประตูด้านหลังแล้วดันตัวของไฮ
“อื้อ! เบา ๆ หน่อย อย่าดูดแรงสิ” ถ้อยคำห้ามปรามดังเคล้ากับเสียงครวญครางที่หลุดออกมาอย่างสุดกลั้น พร้อมกับมือและเท้าที่จิกเกร็งกับความเสียวซ่านที่ตรงเข้าเล่นงาน ทำให้ชายหนุ่มต้องยอมผละใบหน้าจากจุดสงวนของหญิงสาว แล้วโต้เถียงกลับไปอย่างไม่ยอมเช่นกัน“แต่คุณก็ชอบไม่ใช่เหรอครับ?”คนเจ้าเล่ห์ แชมเปญนึกหมั่นไส้เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาในใจ แต่เธอจะทำอย่างไรได้ในเมื่อตอนนี้ร่างกายทั้งหมดได้ถูกครอบครองโดยสามีนิสัยไม่ดีทั้งหมดแล้วครั้งแรกที่เจอกันเธอยังคิดว่านิสัยของเขาสวนทางกับใบหน้าคมคายอย่างสิ้นเชิง แต่ตอนนี้แชมเปญรู้แล้วว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้เป็นคนเนิร์ดชวนน่าเบื่อเหมือนที่เขาแสดงออกมาตอนแรก ซึ่งหลักฐานก็คงจะเป็นการกระทำของเขาที่ทำให้เธอหมดแรงได้ทุกคืนตั้งแต่เมื่อสามเดือนก่อนจนถึงตอนนี้ท่อนขาเนียนสวยของแชมเปญถูกวางพาดบนบ่ากว้างทั้ง ๆ ที่ยังยืนเปลือยกายอยู่ใต้สายน้ำเย็น โดยมีชายหนุ่มร่างสูงที่คุกเข่าตรงหน้าและคอยทำหน้าที่ปรนนิบัติให้ภรรยาได้พึงพอใจ“บอกแล้วไงว่าอย่าเรียกแบบนี้” แชมเปญเบือนหน้าหลบและเริ่มสัมผัสได้ถึงความรู้สึกวาบหวิวในท้อง นอกจากนี้เธอยังรู้สึกว่าทั่วทั้งใบหน้าเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมา







