LOGINเวลาเกือบห้าโมงเย็นทั้งสามออกมาจากห้องเสื้อชื่อดังก็พากันมานั่งพูดคุยกันในร้านอาหารแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากห้องเสื้อนั้นมากนัก รัญลฎาที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ดูรูปที่ถูกถ่ายเมื่อครู่สีหน้ามีความสุข
“แกสวยมากจริงๆนะ ชุดนั้นเหมาะกับแกเลยบัว” ไอลดาที่นั่งอยู่ใกล้ๆชะโงกหน้ามาดูหน้าจอโทรศัพท์มือถือเพื่อนเอ่ยชมไม่ขาดปาก
“แกไม่ลองส่งไปให้พี่เขาดูล่ะ อยากรู้ว่าถ้าเขาเห็นแล้วจะแจ้นมาหาเธอที่นี่แล้วขอเธอแต่งงานเลยหรือเปล่า” ปั้นแก้มพูดอย่างนึกสนุก
“ไม่หรอก พี่เขาไม่ใช่คนที่จะตื่นเต้นอะไรง่ายๆ” รัญลฎาตอบด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม พวงแก้มขาวระเรื่อขึ้นสีชมพูจางๆ ก่อนจะลองส่งรูปที่ตนเองใส่ชุดเจ้าสาวส่งไปให้เขาได้ดู หวังลึกๆอยากเห็นปฏิกิริยาหรือคำชมจากเขา
รออยู่หลายนาทีข้อความดังกล่าวถึงได้ถูกเปิดอ่าน แต่กลับไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับนอกจากความนิ่งเฉยของเขาที่ทำเป็นปกติทุกครั้งที่เธอกดส่งอะไรไปให้เขาดู
ร่างเล็กเผลอขบกัดริมฝีปากล่างตัวเองเบาๆ ผิดหวังซ้ำๆกับการคาดหวังลมๆแล้งๆที่ก็รู้อยู่แล้วเขาไม่เคยสนใจอะไรอยู่แล้วทุกครั้งที่เธอส่งอะไรไปหาเขา การอ่านแล้วเงียบเฉยๆไม่แสดงความคิดเห็นหรือพิมพ์อะไรตอบกลับมาถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับเขา
“ช่างมันเถอะ เขาอาจจะยุ่งก็ได้” ไอลดาเอ่ยปลอบเพื่อนเห็นสีหน้าของเพื่อนที่ดูซึมลงไปถนัด
“อืม...แต่วันนี้เขาหยุดไม่ใช่เหรอ” คำพูดของปั้นแก้มคล้ายกระทุ้งความรู้สึก ยิ่งตอกย้ำให้รัญลฎารู้สึกแย่ลงไปอีก
สายฝนที่เริ่มโปรยปรายลงมาพร้อมกับพายุที่เริ่มโหมกระหน่ำ เสียงฟ้าร้องดังลั่นๆผสานกับสายฟ้าฟาดแปลบปลาบชวนให้หวาดเสียว อุณหภูมิในร้านอาหารยิ่งหนาวเย็นขึ้นไปอีก
“แล้วจะกลับยังไงละเนี่ย ฝนตกหนักแบบนี้ฉันไม่ได้เอารถมาด้วย” ปั้นแก้มบ่น สีหน้าเป็นกังวลเมื่อมองท้องฟ้าด้านนอกแล้วยิ่งรู้สึกเหนื่อยหน่าย
“เดี๋ยวฉันให้พี่บีมมารับ แกจะติดรถไปด้วยกันไหม”
“บ้านฉันกับเธอคนละฝั่งเลยนะลดา อย่าเลยฉันเกรงใจ...แล้วแกล่ะบัวกลับยังไง”
“นั่งแท็กซี่กลับแหละ”
“โอ้ยป่านนี้ จะมีรถให้เรียกเหรอ แล้วเส้นเนี่ยรถโดยสารก็ไม่ผ่านด้วย”
“แกโทรบอกให้แฟนแกมารับสิ เวลาแบบนี้ควรทำหน้าที่แฟนนะ” ปั้นแก้มหันมาออกความคิดเห็นที่ทำให้รัญลฏานิ่งไปหลายวินาทีด้วยความลังเล ในส่วนลึกเธอแอบหวั่นกลัวว่าเขาจะไม่ยอม หรือยินดีที่จะมารับเธออย่างแน่นอน
“อืม เดี๋ยวฉันลองโทรดู” สีหน้าหวาดหวั่นคล้ายไม่มั่นใจ ทำให้ไอลดาและปั้นแก้มแอบมองด้วยความเป็นห่วง
“ฉันไปส่งก็ได้นะบัว”
“อย่าเลย คนละทางกัน ฉันเกรงใจพี่บีม” เธอตอบปัดด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มอ่อนหวานดุจเดิม ก่อนจะหยิบโทรศัพท์กลับขึ้นมากดโทรหาคนรัก รอสายอยู่นานพอสมควรจนคิดจะเลิกล้มความตั้งใจ และจังหวะนั้นเขากดรับสายเธอเข้าพอดี
“อืม...ว่าไง”
“พี่พอร์ชคะ...ทำอะไรอยู่เหรอคะ”
“มีอะไร”
“ขะ....คือ...ที่นี่ฝนตกหนักมากเลยค่ะ พี่พอร์ชอยู่ที่ไหนเหรอคะตอนนี้”“แล้วมีอะไร” น้ำเสียงราบเรียบเย็นชาย้อนถามกลับทำให้เธอถึงกับนิ่งไปพูดอะไรไม่ออก จนเขาถามซ้ำด้วยน้ำเสียงเข้มดุมากขึ้นเธอจึงอ้อมแอ้มบอกเขาเสียงเบา
“พี่พอร์ชมารับบัวได้ไหมคะตอนสามทุ่ม”
“อืม...เดี๋ยวพี่ไป”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะงื้อ...พี่พอร์ชน่ารักที่สุดเลย เดี๋ยวบัวแชร์โลเคชั่นให้นะคะ” เสียงหวานเอ่ยอย่างกระตือรือร้น ตื้นเต้นดีใจขึ้นมาทันที
“อืม” เสียงตอบรับสั้นๆดังจากในลำคอผ่านโทรศัพท์มือถือ ทำให้รอยยิ้มหวานฉีกกว้างขึ้น แววตาเป็นประกายจนเพื่อนทั้งสองถึงกับอมยิ้มขำกับท่าทีเหล่านั้น พอได้วางสายจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยแซว
“อะไรกันยะ แกทำเหมือนกลัว เหมือนเกรงใจเขาซะงั้น ทั้งๆที่เขาเป็นแฟนแกนะเว้ย”
“นั่นสิ ฉันฟังๆดูแล้ว อารมณ์แกกับพี่เขาเหมือนไม่ใช่คนเป็นแฟนคุยกันเลย แกดูกลัวๆเขายังไงก็ไม่รู้อะบัว” รัญลฎานิ่งไปทันที ก้มหน้ามองโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนตักหลังจากส่งโลเคชั่นให้คนรักเรียบร้อยแล้ว
“ไม่รู้สิ เราแค่เกรงใจพี่เขา” อ้อมแอ้มตอบเสียงเบา ไม่กล้าสบตาเพื่อน
“แกสวยมากนะบัว น่ารักด้วย อยู่กับเขาก็ไม่จำเป็นต้องทำตัวให้เล็กลงขนาดนี้ไหม” ไอลดามองหน้าเพื่อนด้วยความรู้สึกเป็นห่วงอย่างบอกไม่ถูก แต่ในเมื่อเพื่อนเลือกในสิ่งที่คิดว่าดีแล้วเธอก็ไม่อยากจะขวางอะไรนัก นอกจากคอยดูแลและซัพพอร์ตแบบนี้ไปเรื่อยๆอย่างที่ผ่านมา
ตอนพิเศษ 6 แสงสีทองในเวลาเย็นสาดส่องกระทบผืนน้ำเป็นประกายระยิบระยับจับนัยน์ตา สองพ่อลูกที่กำลังนั่งเล่นอยู่ที่ริมชายหาด โดยที่คนเป็นพ่อ ยอมนอนให้ลูกสาวขุดหลุมฝั่งตัวเองไปเกือบครึ่งตัว เสียงหัวเราะคิกคักชอบใจดังจากสาวน้อยในชุดว่ายน้ำลวดลายสตอเบอรี่ ทักเปียสองข้างนั่งหยองๆโยนกองทรายใส่คนเป็นพ่อ “น้องเพิร์ล เล่นนานแล้วนะคะ หิวหรือยังลูก” เสียงหวานเอ่ยถามจากคนเป็นแม่ ทำให้สาวน้อยหันไปมองเพียงเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับมาสนใจตักทรายใส่กระบะแล้วยกมาวางใส่พ่อหน้าตาเฉย “น้องเพิร์ล แม่เรียกแล้วนะคะ ทำไมหนูไม่ตอบล่ะลูก” คนเป็นพ่อถามด้วยความเอ็นดู วางมือลงบนผมของลูกน้อย “เพิลเย่นอยู่ค่า”
ตอนพิเศษ 5 “ทำอะไรอยู่คะคนเก่ง” เสียงทุ้มห้าวของพ่อทูนหัวที่หอบหิ้วถุงมากมายเต็มสองมือเข้ามาในบ้านที่มีเด็กน้อยกำลังง่วนอยู่กับเล่นของเล่นตัวต่ออยู่ในคอกเด็ก “ป้อเขม” เสียงใสร้องเรียกคนมาใหม่ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจ พลางลุกเดินเข้าไปหา ชูสองมือให้เขาอุ้มมากอดไว้แนบอก “คิดถึงกันบ้างไหมคะ” “คิดถึงค่ะ คิดถึงป้อเขมที่ฉุดเยย” “อยากรู้ไหม...วันนี้พ่อซื้ออะไรมาให้หนูด้วย” “อาไยคะ”สาวน้อยเอียงคอถาม ด้วยความสงสัย “งั้นเดี๋ยวเราไปดูกัน” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยรอยยิ้มเอ็นดู ก่อนจะพาสาวน้อยไปนั่ง ดูสิ่งที่เขาซื้อขนมาวางที่โซฟาภายในห้องรับแขก “อะไรกันคะสองคนนี้ งุบงิบๆกันอยู่สองคน” หญิงสาวที่เพิ่งอุ้มสาวน้อยอีกคนออกมาจากห้องของน้องแพม ลูกสาวตัวน้อยวัยหกเดือนที่กำลังน่ารักน่าชัง “พี่ซื้อของที่มีใครบางคนโทรไปสั่งพี่มาน่ะสิ” “หื้อ...โทรไปสั่งเลยเหรอคะ”คิ้วสวยเลิกสูง มองหน้าสาวน้อยที่กำลังหลบตาคนเป็นแม่ซุกหน้าเข้ากับหลังพ่อทูนหัวตัวเอง “ไหน...ขอบัวดูได้ไหมคะ แกอยากได้อะไร” ชายห
ตอนพิเศษ 4 อากาศในยามเช้าหลังฝนเพิ่งหยุดโปรยปรายไปไม่นาน กลิ่นชื้นของไอดินกับบรรยากาศหลังฝนตก พลอยทำให้อากาศเช้านี้สดชื่นกว่าทุกวัน เด็กน้อยไร้เดียงสาในเปลนอน ถูกคนเป็นแม่ใช้มือโยกเบาๆ เพื่อให้สาวน้อยแก้มกลมนอนหลับได้ยาวนานและสบายตัวขึ้น “วันนี้บัวจะทานข้าวเช้าอะไรดีหื้อ เดี๋ยวพี่ลงไปทำให้” ชายหนุ่มที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ ร่างสูงยังพันเพียงผ้าเช็ดตัวเผยช่วงบนที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม ที่ทำให้คนเป็นภรรยาได้มองกี่ครั้งก็อดหายใจไม่ทั่วไม่ได้ หยดน้ำยังพราวทั่วตัว กลิ่นหอมสะอาดสดชื่นของคนเป็นสามีลอยแตะจมูก ก่อนจะเดินสาวเท้าเข้ามาใกล้ โน้มหน้ากดจูบที่ริมฝีปากบางเบาๆ “อะไรก็ได้ค่ะ พี่พอร์ชทำอะไรก็อร่อยทั้งนั้น บัวชอบ” “หึหึ วันก่อนน้องเพิร์ลบ่นอยากทานไข่ม้วนกับซุปมิโซะ” “ค่ะ งั้นบัวทานแบบลูกนะคะ” “รับทราบครับคุณผู้หญิง ว่าแต่น้องแพมดูเลี้ยงง่ายนะ กินกับนอน ไม่ค่อยร้องไห้งอแงเลย” “ใช่ค่ะ น้องแพมเลี้ยงง่ายกว่าน้องเพิร์ลเยอะเลยค่ะ รายนั้นฤทธิ์เยอะ ร้องไห้งอแงทั้งวัน” หญิงสาวเล่าไปเรื่อยโดยไม่ได้คิดอะไร บนใบหน้า
ตอนพิเศษ 3 ขีดสองขีดที่ขึ้นแสดงอยู่บนแทบสีขาวพลอยทำให้หญิงสาวที่กำลังมองดูอยู่ด้วยใจลุ้นระทึกถึงกับกรีดร้องออกมาด้วยความดีใจ จนเชฟหนุ่มที่กำลังง่วนอยู่กับการเตรียมวัตถุดิบสำหรับมื้อกลางวันต้องรีบวางงานในมือ วิ่งไปหาด้วยความร้อนใจ “บัว! เป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น!” “พี่พอร์ช!” “อะไร?” สายตาคมจ้องมองภรรยาสาวด้วยความแปลกใจ นัยน์ตายังเต็มไปด้วยความตระหนก ครั้นพอตั้งสติได้ เมื่อได้สังเกตเห็นแววตาคู่นั้นเต็มไปด้วยหยาดน้ำ รอยยิ้มหวานที่ฉีกกว้างขึ้น สองประเมินผลได้แทบทันที ย้อนถามเสียงสั่นเครือ หัวใจเขาเต้นโครมคราม ด้วยความดีใจ ไม่คาดฝัน “จริงเหรอบัว!” “นี่ไงคะ มันขึ้นสองขีด” หล่อนยืนยันเสียงสั่น ขณะยื่นของในมือส่งให้ชายหนุ่มได้เห็น มือหนาสั่นเทา ทั้งตื่นเต้นและดีใจ ขณะยื่นมือไปรับแท่งสีขาวจากเธอมาดู น้ำใส ๆ หยดไหลรินจากดวงตาคู่นั้นของเขา ขณะมองหน้าภรรยาสาวด้วยความตื้นตัน “บัว...พี่...” ชายหนุ่มถึงกับพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ยืนนิ่งงันอยู่ตรงนั้น กระทั่งสาวน้อยเจ้าของความสูงเกือบเก้าสิบเซนติเมตรวิ
ตอนพิเศษ2 จวบจนถึงเวลาเข้าหอ ที่เป็นพิธีการแบบเรียบง่ายมีผู้ใหญ่ของฝ่ายชายและเขมกรที่หญิงสาวเคารพดุจพี่ชายแท้ๆ มานั่งในห้องหอเพื่อให้พร และให้คู่สมรสที่ประสบความสำเร็จในชีวิตคู่อย่างท่านนายพลพัชระและคุณหญิงภารดี ขึ้นนอนบนเตียง แล้วกล่าวคำอวยพรก็ถือว่าสิ้นสุดงานในค่ำคืนนี้ เสียงข้อความจากโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นติดๆกันหลายครั้ง ทำให้ระหว่างคิ้วของหญิงสาวย่นหากันด้วยความแปลกใจ สายตาเหลือบมองไปยังคนเป็นสามีที่เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า หลังจากที่ให้เธอได้ทำธุระส่วนตัวก่อนจนเสร็จแล้วมานอนรอบนเตียง ชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์ทำให้หญิงนิ่งไปเล็กน้อย ‘มุกรดา’ ริมฝีปากบางเม้มแน่นเริ่มเป็นกังวล ระคนหึง
ตอนพิเศษ1 งานแต่งงานจัดขึ้นแบบเรียบง่าย บรรยากาศสบายๆ เชิญแขกไม่กี่สิบคน เฉพาะคนที่สนิทสนมรักใคร่ โดยใช้สถานที่ริมชายหาดของโรงแรมสิริมันตราบีช โดยมีเจ้าของโรงแรมคอยเป็นพ่องานดูแลให้ทุกอย่าง จนออกมาดีและได้รับแต่เสียงชื่นชม “บัวขอบคุณพี่เขมมากนะคะ สำหรับทุกอย่างที่ทำให้บัว” “ไม่เป็นไรหรอก ถือว่าเป็นของขวัญที่พี่จะมอบให้น้องสาวของพี่” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยรอยยิ้ม พลางสบตาเจ้าบ่าวที่ยืนโอบไหล่หญิงสาวที่เขาทั้งรักทั้งหวงแหนมากที่สุดยามนี้ “ฝากน้องสาวคนนี้ด้วยนะครับ หวังว่าคุณคงไม่ทำให้ผมผิดหวัง” “ไม่แน่นอนครับ” ชายหนุ่มยืนยันรับคำหนักแน่น หันมอง







