Masukสายฝนที่เริ่มโปรยปรายลงอย่างหนักตั้งแต่ห้าโมงเย็น ทำให้การจราจรติดขัดหนักกว่าปกติเล็กน้อยกลุ่มเพื่อนที่นัดกันมาสังสรรค์ตั้งแต่ช่วงเย็นเริ่มทยอยกันเดินเข้ามาในร้าน ภัทรกฤชหรือเชฟพอร์ชทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพเหมาโซนพิเศษนี้ไว้รอต้อนรับเพื่อนๆสมัยเรียนมหาวิทยาลัยที่ไม่ได้เจอกันนานร่วมปี
ชายหนุ่มใช้สิทธิพิเศษในการเป็นหุ้นส่วนร้านอาหารชื่อดังจองโซนวีไอพีไว้รอต้อนรับเพื่อนๆที่เริ่มทยอยกันเข้ามาในร้าน พร้อมกับอาหารที่จัดวางไว้อย่างเรียบร้อยพร้อมทาน โดยไม่ต้องเสียเวลาสั่ง แต่ถ้าหากอยากจะทานอะไรพิเศษเพิ่มก็สามารถสั่งได้ในตอนหลัง
ธาราเพื่อนสนิทของเขาเดินควงแฟนสาวที่คบหากันมานาน และตัวเขาเองก็เองก็รู้จักมักคุ้นสนิทสนมกับอีกฝ่ายพอสมควร เพราะเป็นเพื่อนสนิทของมุกรดา อดีตคนรักของเขาที่เลิกรากันไปเกือบสี่ปีเต็ม
ร่างสูงยืนมองเพื่อนสนิทที่ควงแฟนสาวเข้ามา ริมฝีปากหยักหนายกยิ้มบางๆก่อนจะค่อยๆเลือนหายไปเมื่อได้เห็นใครบางคนไม่ได้พบเจอกันมาเนิ่นนาน เดินตามหลังแฟนสาวของธาราเข้ามาด้วยรอยยิ้มหวานละมุนน่ามองจนสะกดสายตาเขาให้อยู่ที่เธอคนนั้นนานหลายนาที
“อ้าวเห้ย!! ไอ้พอร์ช อึ้งไปเลยเหรอวะ” ธาราหัวเราะร่วน เอ่ยเย้าเพื่อนสนิทด้วยความขับขัน ยิ่งเห็นสีหน้าท่าทางของอีกฝ่ายยืนอ้าปากค้าง นิ่งอึ้งราวกับถูกผีหลอกกลางห้องอาหารหรูชื่อดังอย่างไรอย่างนั้น
“คิกคิก พี่พอร์ชคะ...พี่พอร์ช” แคทแฟนสาวของธารา ร้องเรียกซ้ำพร้อมกับท่าทีขบขัน หัวเราะคิกคักด้วยความชอบใจกับการเซอร์ไพรส์ที่เธอเตรียมมาให้กับเพื่อนสนิทของแฟนหนุ่ม
“อะ...เอ่อครับ...ว่าไงนะน้องแคท”
“เปล่าค่ะ แคทแค่เรียกพี่พอร์ชเฉยๆ” หญิงสาวว่าพลางยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะออกมาเบาๆอย่างมีจริต
“เอ่อ...มุก กลับมาไทยนานแล้วเหรอ” หลายนาทีกว่าที่เชฟหนุ่มจะหาเสียงตัวเองเจอเอ่ยถามหญิงสาวอีกคนที่ยืนยิ้มหวานมองเขาอยู่เช่นกัน
“ค่ะ กลับมาได้สักพักแล้วค่ะพี่พอร์ช....พี่พอร์ชสบายดีนะคะ”
“ครับ...สบายดี มุกล่ะสบายดีไหม”
“สบายดีค่ะ”
“หึหึ พอๆมัวแต่ถามกันอยู่นั่น ไปนั่งคุยกันดีกว่า อ้าวเห้ยไอ้น็อตมึงมาแล้วเหรอวะ” ธาราเอ่ยแทรกคนทั้งคู่ด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม ก่อนจะหันไปทักทายเพื่อนคนอื่นๆที่มาถึงกันก่อนหน้านี้แล้ว เสียงทักทายพูดคุยดังขรม กับบรรยากาศที่ดูคึกคักขึ้นมาทันทีเมื่อธารามาถึง โดยไม่ลืมโอบเอวคนรักให้เดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะ ทิ้งมุกรดาให้ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น จนหล่อนวางสีหน้าไม่ถูก เพราะงานในวันนี้เธอแทบไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วยเลยซ้ำ เป็นงานเลี้ยงรุ่นพบปะสังสรรค์กลุ่มเพื่อนของธารา เธอเพียงแค่ถูกเพื่อนสนิทมัดมือชก อยู่ๆขับรถไปรับที่บ้านให้มาด้วย บอกเพียงว่ามารับประทานอาหารมื้อเย็นด้วยกันเพราะไม่ได้เจอกันนานแล้ว เธอจึงไม่ได้อิดออดหรือคิดมากอะไร แต่ก็ไม่นึกว่าร้านที่เพื่อนเธอบอกจะเป็นร้านอาหารของอดีตแฟนเก่าเธอเอง และยังเป็นงานรวมรุ่นที่มีเพื่อนฝูงเขามามากมายอีกต่างหาก
“ไปนั่งก่อนไหม เดี๋ยวพี่สั่งอะไรให้ทาน” กว่าเขาจะหาเสียงตัวเองเจออีกครั้งก็นานหลายนาที สายตาที่จ้องมองใบหน้าของหญิงสาวอดีตคนรักเป็นประกายแวววาวขึ้นจนคนถูกมองแสร้งหันมองทางอื่นด้วยความเก้อเขินที่ถูกอีกฝ่ายจ้องมองสายตาไม่ลดละ
“ค่ะ” ร่างสูงพาหญิงสาวมานั่งเก้าอี้อีกด้านของโต๊ะยาวที่ห่างไกลจากกลุ่มเพื่อนสนิทปากมากของเขาเล็กน้อย เพราะรู้ว่าเธอไม่ชอบเสียงดังและความวุ่นวายแต่ยังไม่วายเจอสายตาล้อเลียนที่ทุกคนใช้มองแต่เขาก็แสร้งทำเมิน สั่งอาหารและเครื่องดื่มแยกเข้ามาเพิ่ม ล้วนแล้วแต่เป็นเมนูโปรดที่เธอชอบทั้งสิ้น
“ขอบคุณนะคะ...ที่จำได้ว่ามุกชอบอะไร”
“จำได้สิ พี่ไม่เคยลืม” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยอย่างอ่อนโยน แววตาสีนิลคู่นั้นแฝงความนัยบางอย่างที่ทำให้อีกฝ่ายต้องก้มหน้าลง ตักอาหารทานแก้อาการประหม่า เชฟหนุ่มคนดังนั่งจ้องมองอดีตคนรักแววตาทอประกายสดใส ตื่นเต้นดีใจ ที่ได้เจอกับอดีตคนรักที่เขาคิดถึงและไม่เคยลืมเลือนเธอได้เลยตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ทั้งสองพูดคุยถามไถ่กันไปมา ในขณะที่เพื่อนรอบข้างเริ่มลุกเดินตั้งใจอ้อมมาหาเพื่อมาแซว หยอกล้อกันแต่ก็ไม่ได้วุ่นวายอะไรมากนัก เพราะอยากปล่อยเวลาให้คนทั้งคู่ได้มีโอกาสพูดคุยกันหลังจากที่ไม่เจอกันนาน
“พี่พอร์ชคะ”
“ครับ” ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นสูงหันมองหน้าคนรักของเพื่อนแววตาเป็นเชิงคำถาม หลังจากอีกฝ่ายที่เพิ่งควงเพื่อนเขาให้ลุกย้ายเดินมานั่งฝั่งเดียวกันกับเขาและมุกรดา
“ตอนนี้พี่พอร์ชโสดหรือเปล่าคะ” คำถามทีเล่นทีจริง แววตาหยั่งเชิงทำให้ภัทรกฤชนิ่งไปทันที ก่อนจะเหลือบสายตามองหน้าหญิงสาวอดีตคนรัก สีหน้าเงียบขรึมขึ้นพลอยทำให้ทั้งธาราและแฟนสาว รวมไปถึงมุกรดาแทบจะกลั้นหายใจ รอฟังคำตอบออกจากปากของเขา
“อือ โสด”
“อิอิ นั่นไงแคทว่าแล้ว ว่าพี่พอร์ชยังโสดอยู่” แคทเอ่ยด้วยรอยยิ้มน้ำเสียงสดใส ก่อนจะหันไปสบตาแฟนหนุ่ม เพราะในใจนั้นลุ้นอยากให้เพื่อนสนิททั้งสองคนได้กลับมาคืนดีและคบหากันดังเดิม เมื่อได้ยินคำตอบเช่นนี้ยิ่งรู้สึกยินดีมากขึ้น
ในขณะที่มุกรดานั้นเมื่อได้ยินว่าเขายังโสดก็ไม่ได้พูดหรือสีหน้าอะไรนอกจากนิ่งเฉยไปแค่นั้น แสร้งตักอาหารทานใส่ปาก ไม่ยอมเงยหน้าสบตาชายหนุ่มอดีตคนรัก
“ข้างนอกฝนตกหนักเลยนะ” บทสนทนาเรื่อยเปื่อยดำเนินมาได้ระยะหนึ่ง ธาราที่เหลือบสายตามองออกไปด้านนอกหน้าต่างเปรยออกมาเบาๆ มองเห็นสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างหนักร่วมชั่วโมงด้วยสีหน้ากังวล
“นั่นสิ รถติดน่าดู นี่จะสองทุ่มแล้วด้วย” แคทเอ่ยสำทับคนรักด้วยความรู้สึกเดียวกัน ฝนตกหนัก น้ำท่วมขัง การจราจรติดขัดทำให้หงุดหงิดพอสมควร
เวลาล่วงเลยมาจนดึก ฝนข้างนอกก็ยังโปรยปรายมาไม่ขาดสาย แขกในร้านก็เริ่มพาทยอยกลับ รวมถึงเพื่อนๆของเขาหลายๆคนก็เริ่มแยกย้ายขอตัวกลับกันไปก่อนก็มี
“แล้วมุกล่ะกลับยังไง ขับรถมาหรือเปล่า” เชฟหนุ่มเอ่ยถามขณะที่ทั้งสองย้ายมานั่งรวมกันกับคนอื่นๆ เอ่ยเสียงเบาให้ได้ยินกันแค่สองคน สายตาทอดมองด้วยความห่วงใย
“เปล่าค่ะ พี่ธารากับแคทขับรถไปรับมุกมาจากที่ร้าน”
“งั้น...เดี๋ยวพี่ไปส่งนะ” ร่างเล็กหันมองสบตาเขานิ่ง ก่อนจะหันไปมองเพื่อนสนิทตัวเองที่นั่งอยู่ตรงข้ามข้างคนรัก โดยที่อีกฝ่ายเองก็หันมาสนใจมองคนทั้งคู่อยู่เกือบตลอดเวลา
“อืม....ได้ค่ะ มุกรบกวนพี่พอร์ชด้วยนะคะ” เสียงหวานเอ่ยด้วยความเกรงใจเล็กน้อย
“ครับ”
ในเวลาเดียวกันร้านอาหารที่กลุ่มของรัญลฎามานั่งรับประทานอาหารพูดคุยเรื่องสัพเพเหระทั่วไปเรื่อยมาจนถึงเวลาที่ร้านใกล้ปิดทำการ ทั้งสามจึงเตรียมตัวที่จะแยกย้ายกันกลับ
“แน่ใจนะบัวว่าจะไม่ให้เราไปส่ง ฝนยังตกหนักอยู่เลยแบบนี้ แกจะรอรถคนเดียวได้ยังไง”
“ไม่เป็นไรหรอก พี่พอร์ชเขาบอกว่าจะมารับเรา เดี๋ยวเขาคงมาแหละ”
“งั้นแกโทรหาเขาเดี๋ยวนี้เลย ว่าตอนนี้เขาอยู่ไหนแล้ว พวกฉันจะได้อยู่รอเป็นเพื่อน” ปั้นแก้มน้ำเสียงติดเหวี่ยงเล็กน้อย ตามปกตินิสัยที่ชอบโวยวาย อีกทั้งยังเริ่มไม่พอใจชายหนุ่มคนรักของเพื่อนที่รับปากว่าจะมารับตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ จนถึงตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยดึกมากแล้ว รถราก็หายากอีกทั้งพายุฝนก็ยังโปรยปรายลงมาอย่างหนักอีก เธอจึงอดเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้
หญิงสาวร่างเล็กรับคำในลำคอ หยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากดโทรหาชายหนุ่ม แต่ก็ต้องนิ่วหน้าด้วยความแปลกใจเพราะเขาไม่รับสายเธอเลย
“ส่งข้อความอีกสิ”
“อืม” หญิงสาวถอนหายใจออกมาเบาๆ เพราะก่อนหน้านี้ที่เธอโลเคชั่นไปหาเขา จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้กดอ่านหรือตอบกลับอะไรเธอมา
“พี่เขาว่าจะมารับแกกี่โมง”
“สามทุ่มน่ะ”
“อืม งั้นคงใกล้มาละรถคงติดแหละ” ไอลดาพยายามปลอบเพื่อนที่เริ่มหน้าเสียลงทุกที ในขณะที่ปั้นแก้มยังคงโวยวายไม่เลิก เริ่มโกรธและไม่พอใจคนรักเพื่อนมากขึ้นเรื่อยๆ
“จะบ้าเหรอนี่จะสี่ทุ่มแล้วนะ”
“เอาน่า รถมันคงติดแหละ แกก็รู้นี่กรุงเทพน่ะฝนตกรถติดอยู่แล้ว”
“อ้าวแล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์ล่ะ รับสิจะได้รู้ว่าอยู่ตรงไหน หรือว่าใกล้ถึงหรือยัง”
“โอ้ยแกจะโวยวายทำไมล่ะ...พี่เขาอาจจะปิดเสียงไว้เลยไม่ได้ยินก็ได้”
“แล้วเอาไง จะทิ้งบัวไว้แบบนี้เหรอ ถนนมันเปลี่ยวนะ” ปั้นแก้มหันมาถาม สีหน้ากังวลและเป็นห่วงเพื่อนชัดเจน
“งั้นเดี๋ยวเรารอเป็นเพื่อนดีกว่า”
“อย่าเลยลดา เราเกรงใจพี่บีม เขามานั่งรอนานแล้วด้วย แกกับแก้มกลับไปเถอะ เดี๋ยวพี่พอร์ชคงใกล้มาแล้วล่ะ”
“เอางั้นเหรอ งั้นฉันกับแก้มจะนั่งรอเป็นเพื่อนแกแปบนึงแล้วกัน” ไอลดากับปั้มแก้มที่ยังคงเป็นห่วงเพื่อนตัดสินใจนั่งรอด้วยกัน แต่ว่ารัญลฎากลับไม่เห็นด้วย
“ไม่ต้องหรอก ร้านเขาจะปิดแล้วด้วย ฉันว่าจะไปนั่งรอที่ป้ายรถเมล์ตรงนี้แหละ ไฟก็สว่างดี แถมยังมีคนนั่งอยู่ตลอด คงไม่มีไรหรอก พวกแกกลับกันเถอะ” เมื่อถูกคะยั้นคะยอกอปรกับคำพูดหนักแน่นของรัญลฎาทำให้ทั้งสองที่มีท่าทีลังเล ลำบากใจละล้าละหลังพอสมควร แต่สุดท้ายทั้งสองจึงแยกตัวไปขึ้นรถของบีมแฟนไอลดาที่จอดรถรออยู่นานแล้ว ส่วนรัญลฎาตัดสินใจเดินตากฝนมานั่งรอที่ป้ายรถเมล์แทน เพราะคาดการณ์ว่าอีกไม่นาน เขาก็คงจะขับรถใกล้มาถึงแล้ว
ตอนพิเศษ 6 แสงสีทองในเวลาเย็นสาดส่องกระทบผืนน้ำเป็นประกายระยิบระยับจับนัยน์ตา สองพ่อลูกที่กำลังนั่งเล่นอยู่ที่ริมชายหาด โดยที่คนเป็นพ่อ ยอมนอนให้ลูกสาวขุดหลุมฝั่งตัวเองไปเกือบครึ่งตัว เสียงหัวเราะคิกคักชอบใจดังจากสาวน้อยในชุดว่ายน้ำลวดลายสตอเบอรี่ ทักเปียสองข้างนั่งหยองๆโยนกองทรายใส่คนเป็นพ่อ “น้องเพิร์ล เล่นนานแล้วนะคะ หิวหรือยังลูก” เสียงหวานเอ่ยถามจากคนเป็นแม่ ทำให้สาวน้อยหันไปมองเพียงเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับมาสนใจตักทรายใส่กระบะแล้วยกมาวางใส่พ่อหน้าตาเฉย “น้องเพิร์ล แม่เรียกแล้วนะคะ ทำไมหนูไม่ตอบล่ะลูก” คนเป็นพ่อถามด้วยความเอ็นดู วางมือลงบนผมของลูกน้อย “เพิลเย่นอยู่ค่า”
ตอนพิเศษ 5 “ทำอะไรอยู่คะคนเก่ง” เสียงทุ้มห้าวของพ่อทูนหัวที่หอบหิ้วถุงมากมายเต็มสองมือเข้ามาในบ้านที่มีเด็กน้อยกำลังง่วนอยู่กับเล่นของเล่นตัวต่ออยู่ในคอกเด็ก “ป้อเขม” เสียงใสร้องเรียกคนมาใหม่ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจ พลางลุกเดินเข้าไปหา ชูสองมือให้เขาอุ้มมากอดไว้แนบอก “คิดถึงกันบ้างไหมคะ” “คิดถึงค่ะ คิดถึงป้อเขมที่ฉุดเยย” “อยากรู้ไหม...วันนี้พ่อซื้ออะไรมาให้หนูด้วย” “อาไยคะ”สาวน้อยเอียงคอถาม ด้วยความสงสัย “งั้นเดี๋ยวเราไปดูกัน” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยรอยยิ้มเอ็นดู ก่อนจะพาสาวน้อยไปนั่ง ดูสิ่งที่เขาซื้อขนมาวางที่โซฟาภายในห้องรับแขก “อะไรกันคะสองคนนี้ งุบงิบๆกันอยู่สองคน” หญิงสาวที่เพิ่งอุ้มสาวน้อยอีกคนออกมาจากห้องของน้องแพม ลูกสาวตัวน้อยวัยหกเดือนที่กำลังน่ารักน่าชัง “พี่ซื้อของที่มีใครบางคนโทรไปสั่งพี่มาน่ะสิ” “หื้อ...โทรไปสั่งเลยเหรอคะ”คิ้วสวยเลิกสูง มองหน้าสาวน้อยที่กำลังหลบตาคนเป็นแม่ซุกหน้าเข้ากับหลังพ่อทูนหัวตัวเอง “ไหน...ขอบัวดูได้ไหมคะ แกอยากได้อะไร” ชายห
ตอนพิเศษ 4 อากาศในยามเช้าหลังฝนเพิ่งหยุดโปรยปรายไปไม่นาน กลิ่นชื้นของไอดินกับบรรยากาศหลังฝนตก พลอยทำให้อากาศเช้านี้สดชื่นกว่าทุกวัน เด็กน้อยไร้เดียงสาในเปลนอน ถูกคนเป็นแม่ใช้มือโยกเบาๆ เพื่อให้สาวน้อยแก้มกลมนอนหลับได้ยาวนานและสบายตัวขึ้น “วันนี้บัวจะทานข้าวเช้าอะไรดีหื้อ เดี๋ยวพี่ลงไปทำให้” ชายหนุ่มที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ ร่างสูงยังพันเพียงผ้าเช็ดตัวเผยช่วงบนที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม ที่ทำให้คนเป็นภรรยาได้มองกี่ครั้งก็อดหายใจไม่ทั่วไม่ได้ หยดน้ำยังพราวทั่วตัว กลิ่นหอมสะอาดสดชื่นของคนเป็นสามีลอยแตะจมูก ก่อนจะเดินสาวเท้าเข้ามาใกล้ โน้มหน้ากดจูบที่ริมฝีปากบางเบาๆ “อะไรก็ได้ค่ะ พี่พอร์ชทำอะไรก็อร่อยทั้งนั้น บัวชอบ” “หึหึ วันก่อนน้องเพิร์ลบ่นอยากทานไข่ม้วนกับซุปมิโซะ” “ค่ะ งั้นบัวทานแบบลูกนะคะ” “รับทราบครับคุณผู้หญิง ว่าแต่น้องแพมดูเลี้ยงง่ายนะ กินกับนอน ไม่ค่อยร้องไห้งอแงเลย” “ใช่ค่ะ น้องแพมเลี้ยงง่ายกว่าน้องเพิร์ลเยอะเลยค่ะ รายนั้นฤทธิ์เยอะ ร้องไห้งอแงทั้งวัน” หญิงสาวเล่าไปเรื่อยโดยไม่ได้คิดอะไร บนใบหน้า
ตอนพิเศษ 3 ขีดสองขีดที่ขึ้นแสดงอยู่บนแทบสีขาวพลอยทำให้หญิงสาวที่กำลังมองดูอยู่ด้วยใจลุ้นระทึกถึงกับกรีดร้องออกมาด้วยความดีใจ จนเชฟหนุ่มที่กำลังง่วนอยู่กับการเตรียมวัตถุดิบสำหรับมื้อกลางวันต้องรีบวางงานในมือ วิ่งไปหาด้วยความร้อนใจ “บัว! เป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น!” “พี่พอร์ช!” “อะไร?” สายตาคมจ้องมองภรรยาสาวด้วยความแปลกใจ นัยน์ตายังเต็มไปด้วยความตระหนก ครั้นพอตั้งสติได้ เมื่อได้สังเกตเห็นแววตาคู่นั้นเต็มไปด้วยหยาดน้ำ รอยยิ้มหวานที่ฉีกกว้างขึ้น สองประเมินผลได้แทบทันที ย้อนถามเสียงสั่นเครือ หัวใจเขาเต้นโครมคราม ด้วยความดีใจ ไม่คาดฝัน “จริงเหรอบัว!” “นี่ไงคะ มันขึ้นสองขีด” หล่อนยืนยันเสียงสั่น ขณะยื่นของในมือส่งให้ชายหนุ่มได้เห็น มือหนาสั่นเทา ทั้งตื่นเต้นและดีใจ ขณะยื่นมือไปรับแท่งสีขาวจากเธอมาดู น้ำใส ๆ หยดไหลรินจากดวงตาคู่นั้นของเขา ขณะมองหน้าภรรยาสาวด้วยความตื้นตัน “บัว...พี่...” ชายหนุ่มถึงกับพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ยืนนิ่งงันอยู่ตรงนั้น กระทั่งสาวน้อยเจ้าของความสูงเกือบเก้าสิบเซนติเมตรวิ
ตอนพิเศษ2 จวบจนถึงเวลาเข้าหอ ที่เป็นพิธีการแบบเรียบง่ายมีผู้ใหญ่ของฝ่ายชายและเขมกรที่หญิงสาวเคารพดุจพี่ชายแท้ๆ มานั่งในห้องหอเพื่อให้พร และให้คู่สมรสที่ประสบความสำเร็จในชีวิตคู่อย่างท่านนายพลพัชระและคุณหญิงภารดี ขึ้นนอนบนเตียง แล้วกล่าวคำอวยพรก็ถือว่าสิ้นสุดงานในค่ำคืนนี้ เสียงข้อความจากโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นติดๆกันหลายครั้ง ทำให้ระหว่างคิ้วของหญิงสาวย่นหากันด้วยความแปลกใจ สายตาเหลือบมองไปยังคนเป็นสามีที่เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า หลังจากที่ให้เธอได้ทำธุระส่วนตัวก่อนจนเสร็จแล้วมานอนรอบนเตียง ชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์ทำให้หญิงนิ่งไปเล็กน้อย ‘มุกรดา’ ริมฝีปากบางเม้มแน่นเริ่มเป็นกังวล ระคนหึง
ตอนพิเศษ1 งานแต่งงานจัดขึ้นแบบเรียบง่าย บรรยากาศสบายๆ เชิญแขกไม่กี่สิบคน เฉพาะคนที่สนิทสนมรักใคร่ โดยใช้สถานที่ริมชายหาดของโรงแรมสิริมันตราบีช โดยมีเจ้าของโรงแรมคอยเป็นพ่องานดูแลให้ทุกอย่าง จนออกมาดีและได้รับแต่เสียงชื่นชม “บัวขอบคุณพี่เขมมากนะคะ สำหรับทุกอย่างที่ทำให้บัว” “ไม่เป็นไรหรอก ถือว่าเป็นของขวัญที่พี่จะมอบให้น้องสาวของพี่” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยรอยยิ้ม พลางสบตาเจ้าบ่าวที่ยืนโอบไหล่หญิงสาวที่เขาทั้งรักทั้งหวงแหนมากที่สุดยามนี้ “ฝากน้องสาวคนนี้ด้วยนะครับ หวังว่าคุณคงไม่ทำให้ผมผิดหวัง” “ไม่แน่นอนครับ” ชายหนุ่มยืนยันรับคำหนักแน่น หันมอง







