ห้องทำงานเอริค
ประตูห้องทำงานถูกเปิดออกอย่างวิสาสะ พร้อมร่างสูงที่เดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มระรื่น เจ้าของห้องเงยหน้ามองคนมาใหม่ ด้วยความรู้สึกเคืองเล็กน้อย เมื่อ อยู่ ๆ ก็เข้ามาในห้องโดยที่เขายังไม่ได้รับอนุญาต
“พวกมึงนี่ว่างกันจังเลยนะ” เอริคพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ พร้อมจ้องมองคนมาใหม่ด้วยสายตาเบื่อหน่าย
“เพื่อนอุตส่าห์มาเที่ยวหา ทำไมพูดแบบนี้ละครับคุณเอริค” ไซออนเดินมานั่งเก้าอี้ตรงหน้าเอริค แล้วเอ่ยพูดยั่วออกไปด้วยสีหน้าทะเล้น
เพื่อนมาหาทั้งทีทำหน้ามันให้ดี ๆ หน่อยไม่ได้หรือไงนะไอ้เพื่อนคนนี้ ไซออนเพื่อนสนิทของเอริค พวกเขาคบกันมาแล้วตั้งแต่ตอนเรียนมหาลัย เลยสนิทกันมากและรู้จักนิสัยใจคอกันเป็นอย่างดี เมื่ออาทิตย์ก่อนไซออนพึ่งได้รับโทรศัพท์จากมังกร ที่เป็นเพื่อนสนิทอีกคน มังกรโทรมาบ่นเรื่องของเอริคให้ฟังอยู่นาน ไซออนเลยรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา เพราะเขาม่มีว่าเพื่อนสนิทของนี้ จะอาการหนักกว่าที่คิดมากขนาดนี้
คืนนั้นที่เอริคพาเด็กของมังกรขึ้นห้องไป แต่พอเข้าไปได้ไม่นาน อยู่ ๆ เอริคก็ไล่ตะเพิด เด็กคนนั้นออกจากห้องมาซะอย่างั้น ทำให้มังกรงงกับการกระทำของเพื่อนตัวเองมาก เอริคดูผิดปกติไปจากเดิมจริง ๆ มังกรรู้สึกเป็นห่วงสภาพของเอริค เลยโทรไปปรึกษาไซออน
“วันนี้กูไม่มีอารมณ์ไปเที่ยวไหนทั้งนั้น ไม่ต้องมาชวน” เอริคพูดขึ้นอย่างใส่อารมณ์ เมื่อรู้ทันว่าเพื่อนจะต้องมาชวนไปเที่ยวไหนอีกแน่
“นี่มึงแดกเหล้าแต่หัววันเลยเหรอวะ ไอ้ริค”
ไซออนสังเกตเห็นขวดเหล้าวางอยู่ข้าง ๆ เอริค ก็พูดขึ้นอย่างสงสัย ดูเหมือนเพื่อนเขาอาการหนักขึ้นทุกวันนะเนี่ย
“...” เอริคนั่งเงียบไม่สนใจคำถามของไซออน แล้วยกแก้วเหล้าดื่มโชว์แทนคำตอบ เขาจะดื่มตอนไหนแล้วเกี่ยวอะไรกับมันด้วย
“มึงนี่อาการหนักเหมือนที่ไอ้มังกรบอกจริง ๆ ด้วยนะเนี่ย” ไซออนเห็นสภาพเพื่อนตรงหน้าแล้ว ก็อดพูดบ่นขึ้นมาไม่ได้ แค่ผู้ชายคนเดียวทำให้เพื่อนของเขา เป็นได้มากขนาดนี้เหรอวะเนี่ย!!
“ไอ้มังกร” พอเอริคได้ยินชื่อของเพื่อนอีกคน ในหัวของเขาก็อดคิดถึงเรื่อง ที่ผับในคืนนั้นขึ้นมาอีกครั้งไม่ได้
คืนนั้นพอบอนขึ้นไปนอนรอบนเตียงตามคำสั่ง เอริคก็จัดการถอดกางเกง แล้วขึ้นไปนั่งคร่อมคนบนเตียงเอาไว้ เขาค่อย ๆ ก้มลงซุกไซร้คอขาวเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ ทำเหมือนทุกครั้งที่เคยผ่านมา แต่อยู่ ๆ มันก็เกิดเรื่องผิดปกติขึ้นกับเขา เมื่อเอริคพยายามรูชักแท่งเนื้อของตัวเอง ไปมาอยู่หลายครั้งเพื่อเตรียมตัว แต่มันกับไม่ยอมตั้งผงาดแข็งตัวเหมือนกับทุกที เอริคก้มมองแท่งเนื้อที่ยังอ่อนตัวของตัวเองอย่างหัวเสีย เพราะมันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
“เวรเอ๊ย” เสียงสบถดังขึ้นอย่างหัวเสีย เมื่อร่างกายไม่ยอมเป็นอย่างที่ต้องการ เอริครู้สึกหงุดหงิดกับสภาพของตัวเองในตอนนี้มาก
“มีอะไรหรือเปล่าครับ” บอนถามขึ้นเมื่อเห็นเอริคหยุดชะงักไม่ทำต่อ
“ออกไป” เอริคขยับออกมานั่งตรงปลายเตียง แล้วพูดสั่งออกไปเสียงเรียบ
“ครับ” เด็กหนุ่มถามกลับงุนงง เพราะไม่เข้าใจที่อีกฝ่ายพูด
“กูบอกว่า ใส่หัวไปไง”
เอริคหันไปตะคอกใส่เด็กหนุ่มอย่างสุดเสียง เวลานี้เขาไม่มีอารมณ์จะทำอะไรแล้ว ยิ่งพอก้มดูที่หว่างขาตัวเอง ใบหน้ายิ้มระรื่นของบาร์เทนเดอร์หนุ่ม ก็ลอยเข้ามาในหัวของเขาเต็มไปหมด ทำให้เอริคยิ่งรู้สึกโมโหมากขึ้นเป็นเท่าตัว
“ครับ ครับ” เด็กหนุ่มที่ถูกตะคอกใส่ ก็ตกใจกลัวรีบพยักรับ แล้วลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าอย่างงง ๆ ก่อนจะรีบออกไปจากห้องด้วยความกลัว
“ไอ้เฟย เป็นเพราะมึงทำให้กูต้องอยู่ในสภาพนี้”
พอเอริคคิดถึงเรื่องในคืนนั้นเมื่อไหร่ มือหนาทั้งสองข้างก็อดกำหมัดแน่น ด้วยความรู้สึกโกรธแค้นขึ้นมาอีกครั้งไม่ได้ ที่ร่างกายของเขาต่อต้าน ไร้ความรู้สึกกับคู่นอนแบบนี้ ก็เพราะไอ้จีนหื่นคนนั้นคนเดียวเลย หลังจากผ่านคืนนั้นมาเอริคได้ให้ลูกน้อง หาเด็กหนุ่มคนอื่นมาให้ลองเพิ่ม เผื่อว่าร่างกายของตัวเองจะกลับมาเป็นปกติแล้ว แต่ไม่ว่าจะพาใครมาให้ลอง สภาพร่างกายของเอริคก็คงยังเป็นเหมือนเดิม แท่งเนื้อที่เคยตั้งแข็งชูชันอย่างว่าง่าย ตอนนี้กลับไร้ความรู้สึกไม่ตั้งผงาดอีกเลย
ไอ้เฟย! เป็นเพราะมึงที่ทำให้ร่างกายกูอยู่ในสภาพนี้ คอยดูเถอะ กูจะต้องจับตัวมึงมาทรมานให้สาสมกับสิ่งที่มึงทำให้ได้!!
ไซออนนั่งส่ายหัวไปมาอย่างเอือมระอา เมื่อเห็นเอริคยกแก้วเหล้าดื่มรวดเดียวจนหมด ดูเหมือนเพื่อนของเขาจะอาการแย่มากแล้วจริง ๆ
“แล้วมาที่นี่มีธุระอะไร ถ้าไม่มีก็ไสหัวไป” เอริคทำเป็นไม่สนใจท่าทางของเพื่อน พูดถามกลับไปเสียงเรียบ เวลานี้เขาไม่อยากเจอหน้าหรือพูดคุยกับใครทั้งนั้น
“อ้าววว...พูดแบบนี้กูกลับเลยดีไหม คนอุตส่าห์เอาข่าวดีมาบอกแท้ ๆ” ไซออนพูดขึ้นอย่างน้อยใจที่ถูกไล่ เพื่อนอุตส่าห์มาหาทั้งที แต่ดูพูดเข้า มันหน้าปล่อยให้ตายคาขวดเหล้า อยู่ในห้องนี้คนเดียวซะจริง ๆ
“ข่าวดี...” คิ้วหนาขมวดเป็นปมอย่างสงสัย เอริคเงยหน้าขึ้นมองไซออนอย่างข้องใจ ข่าวดีอย่างงั้นเหรอ ไอ้เพื่อนบ้านี่ มันจะมาไม้ไหนอีกนะ
“ให้ทายครับ” ไซออนยื่นหน้าทำทะเล้นใส่เอริคอย่างกวน ๆ
“ไอ้ไซ” เอริคชักสีหน้าไม่พอใจใส่เพื่อนสนิท พร้อมเรียกชื่อออกมาเสียงดุ
สีหน้าของเอริคเริ่มบึ้งบูดขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเริ่มจะไม่สบอารมณ์กับท่าทางของเพื่อนตัวเอง มันใช่เวลาเล่นไหมวะ คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ ไอ้เพื่อนเวรนี่!!
“เอ่อ...นี่ไงข่าวดีที่กูบอก”
ไซออนเห็นสีหน้าบึ้งตึงของเพื่อน เลยเลิกล้อเล่น แล้วยกของบางอย่างในมือชูขึ้นให้เอริคดู ด้วยสีหน้าภาคภูมิใจในความสามารถของตัวเอง
“เรือสำราญ กูบอกแล้วไง ว่าไม่มีอารมณ์ไปเที่ยวไหนกับมึงทั้งนั้น” เอริคพูดขึ้นอย่างหัวเสีย เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในมือของไซออนแบบชัด ๆ ‘ตั๋วล่องเรือสำราญ’
ครั้งก่อนที่ไปเที่ยวล่องเรือสำราญกัน มันพึ่งผ่านมาได้สองเดือนกว่าเอง แถมเอริคยังไม่ทันได้เอาคืนกับตัวต้นเหตุ ที่ทำให้เขาอยู่สภาพนี้เลย แล้วนี่อะไรจะมาชวนเขาไปอีกแล้วเหรอ วัน วัน พวกมันไม่คิดจะทำงานกันบ้างเลยหรือไง เห็นหน้าก็ชวนเที่ยวกันอย่างเดียวเลย
“ไม่มีอารมณ์จริง ๆ เหรอ แต่เห็นเขาบอกว่า บาร์เทนเดอร์เรือลำนี้เป็นลูกครึ่งไทยจีนด้วยนะโว้ย” ไซออนไม่สนคำพูดของเอริค พูดขึ้นต่ออีกครั้งด้วยสีหน้าระรื่น หึหึ ดูสิว่าพอได้ยินแบบนี้ ยังจะไม่มีอารมณ์ไปเที่ยวกับเขาอยู่อีกไหม
“บาร์ เทน เดอร์ ลูกครึ่งไทยจีน” เอริคชะงักค้างไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันหน้ามาหาไซออน ด้วยสายตาเป็นประกาย
ลูกครึ่งไทยจีนอย่างงั้นเหรอ หรือว่า จะเป็น...ไอ้เฟย!!
“ใช่ครับ คุณเพื่อน” ไซออนยักคิ้วขึ้นลง แล้วพูดตอบกลับไปอย่างมั่นใจ ไซออนได้ลองให้ลูกน้องตัวเองไปสืบดูมาหมดแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ผิดอย่างแน่นอน
“ไอ้เฟย”
เอริคจ้องมองใบตั๋วเรือสำราญนิ่ง พร้อมเอ่ยชื่อคนที่ตัวเองพยายามตามหาอยู่หลายเดือน ออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ใบหน้าหล่อคมปรากฏรอยยิ้มแสนชั่วร้ายขึ้นทันที เมื่อได้ยินคำยืนยันจากปากของเพื่อนสนิท
ในที่สุดก็หาตัวไอ้จีนหื่นเจอสักที ไอ้เฟยเดี๋ยวมึงกับกูได้เจอกันแน่ แล้วรอบนี้อย่าหวังว่าจะหนีรอดเงื้อมมือของเขาไปได้ง่าย ๆ ด้วย
“ไง รู้สึกมีอารมณ์อยากไปเที่ยวขึ้นมาบ้างหรือยังครับคุณเพื่อน”
“หาตัวเจอสักทีนะ คุณบาร์เทนเดอร์”
พอได้ใบหน้าที่บึ้งตึงของเพื่อนสนิท ค่อย ๆ เปลี่ยนกลายเป็นรอยยิ้มขึ้นมาแทน ไซออนก็อดพูดแซวออกมาไม่ได้ หึหึ ดูถ้างานนี้จะมีคนสละโสดแล้วสินะ แค่บอกว่าหาคู่นอนเจอแล้ว ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ดูอารมณ์ดีขึ้นมาทันทีสักขนาดนี้
ไซออนที่พอรู้ว่าเพื่อนสนิทของตัวเอง คิดถึงคู่นอนบนเรือสำราญมาก ถึงขั้นให้ลูกน้องออกตามหาบาร์เทนหนุ่มไปทั่ว แต่เวลาผ่านไปหลายเดือนแล้วก็ยังหาไม่เจอ ทำให้เอริคหงุดหงิดโวยวายใส่ลูกน้องไม่หยุด ไซออนเห็นว่าเพื่อนตัวเองดูจะอาการหนักขึ้นทุกวัน เลยให้ลูกน้องของตัวเองช่วยตามหาบาร์เทนเดอร์ตัวปัญหานั่นอีกแรง
...จนในที่สุดก็หาร่องรอยของอีกฝ่ายเจอ แต่กว่าจะหาเจอก็เล่นทำพวกเขาเสียเวลาไปเป็นครึ่งเดือนอยู่เหมือนกัน คนอะไรหาตัวยากชะมัด ความจริงไซออนยังคงรู้สึกงงกับเรื่องนี้อยู่เลย เพราะทั้งที่ลูกน้องของเขากับเอริค พยายามหาตัวบาร์เทนเดอร์คนนี้มาตั้งนาน แต่กลับไม่มีวี่แววอะไรเลยสักนิด แต่อยู่ ๆ เมื่อวานก็มีข้อมูลปรากฏขึ้นมาซะดื้อ ๆ ราวกับว่าจงใจให้พวกเขาหาเจอยังไงก็ไม่รู้...
เพียะ!“โอ๊ย!...คุณเอริคตีผมทำไมครับ” เฟยร้องขึ้นทันที เมื่อถูกฝ่ามือของเอริคฟาดลงที่กลางหลังเต็มแรง“ไอ้เฟย! ไอ้เร็ว! มันเป็นแผนของมึงใช่ไหม ที่ให้กูมาหาที่นี่นะ” เอริคด่าเฟยสุดเสียงอย่างฉุนเฉียวตอนนี้เอริคเริ่มจับต้นชนปลายเรื่องราวทั้งหมดได้แล้ว เมื่อพอมารอคิดดูดี ๆ แล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นนี้มันก็ดูแปลกมากจริง ๆ เพราะตอนแรกเขาให้ลูกน้องตามหาตัวเฟยตั้งนาน กลับไม่มีวี่แววเลยสักนิด แต่อยู่ ๆ ครั้งนี้กลับมีชื่อของเฟยโผล่ขึ้นมาบนเรือลำนี้ซะดื้อ ๆอีกอย่างดูเหมือนเฟยจะมีการเตรียมพร้อม คอยรับมือเขาทุกอย่าง ตอนเจอกันที่บาร์ เฟยก็ไม่มีท่าทีตกใจที่ได้เจอเขาเลยสักนิด แปลว่าไอ้จีนหื่นนี่ มันจะต้องเป็นคนวางแผนล่อเขามาที่นี่แน่ ๆโอ๊ย! นี่เขาหลงกลไอ้จีนบ้ากาม ตั้งแต่ยังไม่ขึ้นเรือเลยสินะเนี่ย!! พอเอริคคิดย้อนกลับไปแล้ว ก็อยากด่าตัวเองจริง ๆ ทำไมเขาถึงไม่เอะใจเรื่องนี้เลยนะ“ที่ผมทำไป ก็เพราะผมคิดถึงคุณมากไงครับ” เฟยขยับตัวกอดเอริคไว้แน่น พร้อมเอ่ยยอมรับกับข้อกล่าวหาทุกอย่างของอีกฝ่าย“หึหึ คิดถึง
“แล้วน้องบาร์เทนเดอร์คนนั้นไม่มาด้วยเหรอวะ”ไซออนพูดถามออกมาอย่างสงสัย พร้อมหันซ้ายหันขวามองหาไปรอบ ๆ เอาน้องเขาไปนอนกกข้ามวันข้ามคืนขนาดนั้น ก็น่าจะพามาแนะนำให้เพื่อนรู้จักบ้างสิ ไม่ใช่หวงเก็บไว้ดูคนเดียว“หรือว่า ยังลุกจากเตียงไม่ขึ้นวะ” มังกรพูดเสริมขึ้นเพราะคิดว่าบาร์เทนเดอร์หนุ่มจะต้องอาการหนักกว่าเพื่อนของตัวเองแน่ ๆ ขนาดเอริคยังสภาพย่ำแย่แบบนี้เลยนี่นา แล้วน้องเขาจะสภาพย่ำแย่แค่ไหน จริงไหม“กูว่าเป็นไปได้วะ ขนาดตัวพ่อยังเสียศูนย์ขนาดนี้เลย” ไซออนหันหน้าไปพูดออกความเห็นกับมังกรอย่างเป็นตุเป็นตะ“พวกมึงนี่นะ...มันก็มาพร้อมกูนี่ละ แต่แวะไปซื้อเครื่องดื่มอยู่”เอริคส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมระอากับความคิดของพวกเพื่อน ๆ ก่อนจะเอ่ยพูดบอกออกไปอย่างเหนื่อยใจแต่พวกมันจะคิดกันแบบนั้นก็ไม่แปลก เพราะเอริคถูกเฟยกักตัวต้มยำทำแกงอยู่ในห้องนานตั้งสองวันเลยนี่นา เขาไม่อยากคิดเลยว่า ถ้าตัวเองไม่ยอมทำตามข้อเสนอนั้นเวลานี้เขาจะได้ลงจากเตียงหรือยัง“อ๋อออ” ทั้งสองยกยิ้มขึ้น ก่อน
หลังจากที่ทั้งสองพูดคุยตกลงกันเรียบร้อยแล้ว เฟยก็ยอมปล่อยเอริคลงเตียง พร้อมจัดการอุ้มพาเข้าไปอาบน้ำ แถมบริการช่วยอาบให้อีกหนึ่งเซต ถึงเจ้าตัวจะร้องปฏิเสธลั่นห้องน้ำยังไง บาร์เทนเดอร์หนุ่มผู้ใจดีก็ไม่สนใจพออาบเสร็จเฟยก็โทรสั่งอาหารมากินกันในห้อง เพราะสภาพของเอริคตอนนี้ย่ำแย่มาก ถึงเมื่อครู่จะได้นอนแช่น้ำอุ่นมาแล้ว แต่ร่างกายที่เจอศึกหนักติดต่อกันมาเป็นเวลานาน มันเลยปวดระบมไปหมดทั้งตัว แถมเนื้อตัวของเขายังมีแต่รอยแดง ที่ถูกดูดถูกกัดเต็มตัวไปหมด โดยเฉพาะรูรักของเขาที่ถูกเฟยกระแทกเข้าออกไม่หยุด มันเจ็บจี๊ดทุกครั้งที่เขาขยับตัวเลยเอริครู้สึกว่าครั้งนี้อาการดีกว่าครั้งแรกอยู่มาก เพราะครั้งก่อนตอนก้าวลงจากเตียงก้าวแรก เขาเจ็บมากจนตัวทรุดลงไปกองกับพื้นเลยทีเดียวแต่ที่หน้าเจ็บปวดที่สุด คือไอ้ตัวต้นเหตุมันไม่มีทีท่าจะสำนึกผิดเลยสักนิด เพราะในหัวมีแต่ความคิดจะจับเขากินอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับตอนนี้...จ๊วบ! จ๊วบ! จ๊วบ!เสียงลิ้นร้อนตวัดดูดกัดอยู่ที่หน้าอกหนา ข้างหนึ่งถูกดูดจนเปียกชุ่มเต็มไปด้วยน้ำลาย ส่วนอีกข้างก็ถูกนิ้วเรียวส
เฟยรู้ดีว่าในใจของเอริคกำลังคิดมากเรื่องอะไรอยู่ จากผู้ล่ากลายเป็นเหยื่อชั่วข้ามคืน เป็นเขาก็คงจะทำใจยอมรับไม่ได้เช่นกัน แต่ทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้ว เวลานี้ก็มีแต่ต้องยอมปรับเปลี่ยน เดินหน้าต่อเท่านั้นไม่ใช่หรือไง“งั้น คุณเอริคลองฟังข้อเสนอของผมก่อนไหมครับ” เฟยคิดอะไรบางอย่างได้ เลยพูดออกไป“ข้อเสนอ?” เอริคพูดทวน แล้วมองหน้าเฟยกลับสงสัย‘ข้อเสนอ’ อย่างงั้นเหรอ ไอ้จีนบ้านี่มันคิดจะทำอะไรแผลง ๆ อีกนะ“ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด เพื่อน ๆ กับพวกลูกน้องของคุณ คงคิดว่าผมถูกคุณจับกิน แล้วคุณเกิดถูกใจในตัวผมมาก เลยมาหาผมที่เรือลำนี้อีกครั้งใช่ไหมครับ”เฟยพูดเรียงลำดับเหตุการณ์ขึ้นตามที่ตัวเองคิดให้เอริคฟัง ถ้าเขาคิดไม่ผิดเรื่องที่เกิดขึ้น อีกฝ่ายคงยังปิดเป็นความลับไว้อยู่อย่างแน่นอน“แล้วไง?” เอริคถามกลับอย่างไม่เข้าใจ“งั้นผมจะยอมเป็นคู่นอนฝ่ายรับในนามของคุณ ตามที่ทุกคนคิดให้ก็ได้นะครับ เพื่อแลกกับชีวิตน้อย ๆ ของผม” เฟยพูดข้อเสนอให้เอริคฟังต่อหน้าคนอื่นเขายอมถูกมองว่าเปลี่ยนมาเป็นรับเองก็ได้ เพราะสำหรับเฟยแล้ว เขาไม่เคยสนใจเรื่องภาพลัก
“ไม่ต้องท้า กูทำแน่” เอริคพูดตอบเสียงแข็งสายตาดุดันจ้องมองคนตรงหน้าไม่กะพริบ คิดว่าเขาไม่กล้าฆ่าจริง ๆ หรือไง หึหึ รู้จักเอริคคนนี้น้อยไปซะแล้วเอริคเหนี่ยวไกปืนตามคำท้าของเฟยอย่างไม่ลังเล แต่...แกร็ก! แกร็ก! แกร็ก!!เสียงของปืนถูกเหนี่ยวไกซ้ำ ๆ ติดกันหลายครั้ง แต่คนถูกยิงกับยังคงนอนยิ้มระรื่นอยู่เหมือนเดิม“หรือว่ามึง...” เอริคเห็นปืนในมือยิงไม่ออก ก็พึมพำออกมาอย่างหัวเสีย เมื่อรู้ว่าตัวเองช้ากว่าเฟยไปก้าวหนึ่งอีกแล้ว เพราะเขาไม่คิดว่าเฟยจะแอบเอาลูกปืนออกไปจนหมดแบบนี้ บ้าเอ๊ย!!“หึหึ...คุณคิดจริง ๆ เหรอ ว่าผมจะทิ้งปืนที่มีลูกไว้ใกล้มือคุณแบบนั้น” เสียงหัวเราะในลำคออย่างชอบใจ เมื่อได้เห็นสีหน้าท่าทางของเอริคที่ทำตัวเองไม่ถูกเฟยรู้ดีว่าถ้าเอริคฤทธิ์ยาหมดจะต้องฆ่าตัวเองแน่ ๆ ดังนั้นพอจบศึกรอบสุดท้าย ก่อนที่ตัวเองจะนอน เลยแอบเอาลูกกระสุนไปทิ้งก่อน แล้วค่อยกลับขึ้นมานอนกับเอริคอีกครั้ง“มึง..!” เอริคโกรธจัดเมื่อเห็นว่าปืนไม่มีลูกกระสุน เขาเลยคิดจะเปลี่ยนใช้ปืนกระบอกมาตีหัวของเฟยแทน...แต่มือของเอริคก็ต้องหยุดอยู่กลางอากาศ เพราะถูกเฟยรู้ทันซะก่อน เลยรีบคว้ามือข้างที่จะตีเอาไว้ได้... เ
แสงแดดยามเช้าเริ่มสอดส่องเข้ามาในห้อง ทำให้เห็นร่างเปลือยเปล่าทั้งสอง ที่นอนขยับบดเบียดกันอยู่บนเตียงชัดขึ้น สะโพกหนาก็ยังคงขยับโยกขึ้นลงอย่างต่อเนื่อง บางครั้งก็เร่งจังหวะ บางครั้งก็ขยับช้าเนิน สลับสับเปลี่ยนกันไปริมฝีปากบางขบกัดริมฝีปากหนาอย่างหื่นกระหาย แสดงถึงความปรารถนาที่ไม่อาจห้ามใจได้ ขณะเดียวกันลิ้นร้ายก็ตวัดลากไปมา อย่างเร่าร้อนอยู่ในโพลงปากไม่หยุด เอริคที่ถูกเฟยปรนเปรอให้ยันเช้าอีกครั้ง ก็ได้แต่ส่งเสียงควรญครางอยู่ในลำคออย่างห้ามไม่ได้ เพราะถึงตอนนี้ฤทธิ์ในร่างกาย จะจางหายไปหมดแล้วก็ตาม...แต่เมื่อเฟยไม่ยอมหยุดการกระทำ บวกกับร่างกายของเขาที่อ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรง เอริคก็มิอาจต่อต้านอีกฝ่ายได้เลย...“อื้ออ...อื้อออ”เอริคยกมือทุบอกขาว เพื่อให้คนด้านบนถอนริมฝีปากออก เมื่อเริ่มรู้สึกหายใจไม่ทัน ถึงเขาจะถูกเฟยกดจูบหลายครั้ง จนริมฝีปากเริ่มรู้สึกเจ็บแสบ แต่เอริคก็ไม่เคยชินกับรสจูบของเฟยเลยสักที“ชอบใช่ไหมครับ” เฟยเงยหน้าขึ้นถามด้วยสายตาหวานเยิ้ม ถึงครั้งนี้ที่เอริคยอมนอนกับเขาก็เพราะจำใจ แต่เขาก็ยังอยากถามว่าอีกฝ่ายจะพูดตอบกลับมายังไง“ไม่” เอริคปฏิเสธกลับเสียงแข็งอย่างไม่ยอมรับ