แชร์

บทที่ 4 ฝัน

ผู้เขียน: องค์หญิงโนเนม
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-22 14:43:57

เมื่อหาทางกลั่นแกล้งเสิ่นลี่จูไม่สำเร็จ เจิ้งจิ่งเหอก็ถึงกับอารมณ์เสียในทันที เขาจ้องมองนางอย่างไม่ชอบใจ ก่อนจะสั่งให้เหล่าขันทีและนางกำนัลเอาอาหารไปเททิ้งเสียให้หมด และเดินกลับตำหนักของตนไปในทันที เสิ่นลี่จูลอบเบ้ปากคราหนึ่งอย่างไม่ใส่ใจ รีบ ๆ กลับไปเสียก็ดีแล้ว อย่าได้คิดมาระรานนางเชียว

เมื่อคนจากไปแล้ว สิ่งที่เสิ่นลี่จูต้องทำต่อก็คือให้เมี่ยวเถียนตามตัวนางกำนัลเหล่านั้นที่เอาของของนางไปกลับคืนมา เมื่อเรียกตัวคนมาแล้ว นากำนัลเจ้าเล่ห์เหล่านั้นกลับไม่ยอมรับหาทางบ่ายเบี่ยงสารพัด แต่เสิ่นลี่จูมีหรือจะยอม นางงัดสารพัดไม้เด็ดมาข่มขู่นางกำนัลเจ้าเล่ห์พวกนั้น อีกทั้งยังสั่งโบยพวกนางอย่างไม่ปรานี ท้ายที่สุดพวกนางจึงยอมรับสารภาพว่าเอาสินเดิมของนางไปจริง บางส่วนที่ได้คืนมาก็มีไม่น้อย บางส่วนก็ถูกนำไปขายแลกมาเป็นเงิน ซึ่งเสิ่นลี่จูก็ริบเงินของนางกำนัลเหล่านั้นเอาไว้ ไม่ยอมให้พวกนางได้มีโอกาสทำเรื่องชั่วช้าลับหลังนางได้อีก

เรื่องที่เสิ่นลี่จูเรียกนางกำนัลมาสั่งสอน รู้มาถึงหูของเจิ้งจิ่งเหออย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มเพียงย่นหัวคิ้ว ก่อนจะส่งเสียงเหอะในลำคอคราหนึ่ง 

หลังจากที่นางหายจากอาการล้มป่วยก็ดูเหมือนจะแปลกไปไม่ใช่น้อย ดูเก่งกล้าขึ้น อีกทั้งยังกล้าสบตาเขาอย่างไม่เกรงกลัว นับว่าใจกล้าไม่เบา

"เสด็จพี่"

ในขณะที่เจิ้งจิ่งเหอกำลังครุ่นคิดเรื่องของเสิ่นลี่จูอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงหวานใสของสตรีน้อยนางหนึ่งเอ่ยเรียกเขา ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นไปมอง ก่อนจะยิ้มอย่างอ่อนโยน

"หมี่เอ๋อร์ เจ้ามาแล้วหรือ"

น้ำเสียงที่เจิ้งจิ่งเหอเอ่ยกับสตรีน้อยตรงหน้านั้นดูอ่อนโยนเป็นอย่างยิ่ง

สตรีน้อยนางนี้มีนามว่าเจิ้งหมี่ เป็นน้องสาวต่างมารดาของเขา เจิ้งหมี่เป็นองค์หญิงที่เกิดจากอดีตพระสนมกุ้ยเฟยที่ตายจากไป เสด็จพ่อมีบุตรยากทำให้มีเพียงเขาและเจิ้งหมี่เพียงสองพี่น้องเท่านั้น เมื่อมารดาของนางตายจากไป เสด็จแม่ของเขาก็รับนางมาเลี้ยงดูต่อ เจิ้งหมี่อยู่ในวังหลวงไม่ได้รับความลำบากใจเลยแม้แต่น้อย เขาเองก็เอ็นดูน้องสาวเป็นอย่างมาก 

เจิ้งหมี่ยิ้มให้เจิ้งจิ่งเหอ ก่อนจะเดินมาคล้องแขนพี่ชายของตน

"น้องไปเดินเล่นที่สวนบุปผามาเพคะ อีกทั้งยังเก็บดอกเหมยมาปักแจกันให้เสด็จพี่ด้วยเพคะ"

"อืม"

เจิ้งจิ่งเหอพยักหน้าเล็กน้อย เจิ้งหมี่ที่เห็นเช่นนั้นก็มีความสุขมากเหลือเกิน ตั้งแต่มารดาตายจากไปนางก็มีเจิ้งจิ่งเหอเป็นเพียงที่พึ่งเดียว พี่ชายดีกับนางมาก ยามที่กู้ไทเฮาสั่งสอนหรือต่อว่านาง เจิ้งจิ่งเหอก็จะคอยปกป้องนางอยู่เสมอ นางรู้ว่าตนไม่ใช่บุตรในอุทรของกู้ไทเฮา อย่างไรกู้ไทเฮาย่อมไม่ได้รักเอ็นดูนางจากใจจริง

สองพี่น้องสนทนาพูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง เจิ้งหมี่ก็ขอตัวกลับตำหนักของตนไป

ด้านเสีิ่นลี่จูนั้น ยามนี้เมื่อได้ของมีค่าและเงินบางส่วนกลับคืนมาแล้ว นางก็สั่งให้เมี่ยวเถียนนำเงินส่วนหนึ่งไปติดสินบนพ่อครัวในห้องเครื่องหลวง ให้เขาทำอาหารดี ๆ มาให้นางกินสักมื้อ ที่ผ่านมานางกินแต่ผักจนแทบจะผอมโซอยู่แล้ว

เมี่ยวเถียนก็ทำงานได้รวดเร็ว ไม่นานนักก็ยกอาหารอันโอชะมาตรงหน้านาง เสิ่นลี่จูกินอย่างมีความสุข สองสามวันมานี้นางกำนัลน้อยในตำหนักต่างไม่กล้าแข็งข้อกับนางอีก

หลังจากที่กินมื้อเช้าอิ่มแล้ว เสิ่นลี่จูก็รู้สึกเบื่อหน่ายเป็นอย่างมาก เพราะนางไม่มีสิ่งใดให้ต้องทำเลย นอกจากนอน จะหยิบจับสิ่งใดล้วนมีนางกำนัลมาคอยทำให้อยู่เสมอ

เมื่อมีเวลาว่างได้คิดใคร่ครวญ เสิ่นลี่จู

ก็คิดถึงเรื่องของเสิ่นอ้ายเยว่ขึ้นมาได้

ตอนนั้นนางยังอ่านนิยายเรื่องนี้ไม่จบ จึงไม่รู้แน่ชัดว่าสาเหตุการตายของเสิ่นอ้้ายเยว่เกิดจากอะไรกันแน่ แต่นางพอจะคาดเดาได้ว่าการตายของเสิ่นอ้ายเยว่มีปัญหา

เสิ่นลี่จูย่นหัวคิ้ว ก่อนจะหันไปมองเทพธิดาจิ้งจกที่ตอนนี้กำลังอ้าปากและใช้ลิ้นตวัดแมลงเข้าปากอย่างสบายอารมณ์คราหนึ่ง

"นี่เทพธิดาจิ้งจก ข้ามีเรื่องอยากจะถามท่านเสียหน่อย"

เทพธิดาจิ้งจกละสายตาจากแมลงตรงหน้าและหันมามองเสิ่นลี่จู เดิมทีนางไม่อยากจะกินเจ้าแมลงน่ารังเกียจพวกนี้ ทว่าต้องทำตามสัญชาตญาณ

แต่จะว่าไปมันก็อร่อยดีนะ

"ว่าอย่างไรจูจูน้อย มีเรื่องใดอยากจะถามข้าหรือ"

"ท่านพอจะรู้สาเหตุการตายของเสิ่นอ้ายเยว่หรือไม่ ว่ามาจากสาเหตุใด และใครคือฆาตกรกันแน่ ก่อนจะทะลุมิติมาข้ายังอ่านนิยายไม่จบ จึงไม่ทราบรายละเอียดมากนัก"

เทพธิดาจิ้งจกกลอกตาไปมา ก่อนจะเอ่ยตอบ

"ข้าไม่รู้หรอก ข้ามาที่นี่เพื่อช่วยเจ้าให้ครองคู่กับเนื้อคู่ของเจ้าเท่านั้น เรื่องอื่นข้าไม่รู้ไม่เห็น"

ไร้ประโยชน์สิ้นดี!

เสิ่นลี่จูลอบก่นด่าเทพธิดาจิ้งจกในใจ ก่อนจะยกมือขึ้นเท้าคางพลางมองไปด้านนอกหน้าต่าง ตอนนี้อากาศหนาวเย็นหิมะเริ่มตกหนักขึ้น นางไม่ชอบบรรยากาศเช่นนี้เท่าใดนัก จึงเดินไปปิดหน้าต่างเสีย เมื่อภายในห้องอบอุ่นขึ้น เสิ่นลี่จูจึงเอนกายลงนอน ก่อนจะหลับใหลและเข้าสู่ห้วงนิทรา

ในฝันนางเห็นสตรีหน้าตางดงามนางหนึ่ง ดวงตาของนางเศร้าโศกอย่างยิ่ง อีกทั้งน้ำตายังไหลพรากอาบแก้ม ดูน่าสงสารเป็นอย่างมาก

"ลี่จูช่วยพี่ด้วย ช่วยคืนความเป็นธรรมให้พี่ด้วย"

"เสิ่นอ้ายเยว่!"

เสิ่นลี่จูลุกพรวดขึ้นมาจากเตียง นางหายใจหอบแรง เหงื่อเม็ดเล็กผุดซึมตามใบหน้า หญิงสาวหลับตาลงเพื่อตั้งสติ ก่อนจะขมวดคิ้วมุ่น

สตรีนางนั้นที่มาเข้าฝันนางคือเสิ่นอ้ายเยว่อย่างนั้นหรือ

เสิ่นอ้ายเยว่ต้องการจะบอกสิ่งใดกับนางกันแน่!

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • สนมคนงามเรามาเล่นกันเถอะ   ตอนจบ

    ยามนี้ทหารกบฏตายหมดสิ้นแล้ว อู๋อ๋องถูกตัดศีรษะ แต่ทว่าเจิ้งจิ่งเหอกลับหาตัวของเจิ้งมู่หยางไม่พบเวลาเดียวกันนั้น เสิ่นฮูหยินก็มาแจ้งว่า เสิ่นลี่จูหายตัวไปตั้งแต่กลางดึกแล้ว นางส่งคนออกตามหาแต่กลับไม่พบตัวคนเจิ้งจิ่งเหอและกู้อวิ๋นหานตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก เขาสั่งคนออกตามหาเสิ่นลี่จูแต่กลับไร้วี่แวว เจิ้งจิ่งเหอคิดว่าเรื่องนี้จะต้องเกี่ยวพันกับเจิ้งมู่หยางเป็นแน่เมื่อหาเสิ่นลี่จูไม่พบ เจิ้งจิ่งเหอก็ไม่เป็นอันทำสิ่งใด เขาเหมือนคนคลุ้มคลั่ง ในขณะที่กำลังสิ้นหวังเต็มที เขาก็เหลือบไปเห็นว่าบนโต๊ะมีกระดาษแผ่นหนึ่งวางอยู่ บนกระดาษมีข้อความเขียนเอาไว้คนรักของเจ้าอยู่ที่ป่าไผ่รกทึบ ห่างจากจวนตระกูลเฉิงไปไม่ไกล ใต้ต้นไม้ใหญ่ มีร่องรอยของการขุดฝัง รีบไปก่อนจะไม่ทันการณ์เจิ้งจิ่งเหอกำจดหมายนั้นเอาไว้แน่น เขาไม่รู้ว่าใครเป็นคนส่งมา แต่ยามนี้ทางใดที่เหมือนแสงสว่างเขายินดีทำทั้งหมด กู้อวิ๋นหานเมื่อได้ทราบข่าวจากเจิ้งจิ่งเหอก็รีบไปช่วยตามหา แม่ทัพใหญ่เสิ่นนั้นก็เร่งตามไปเช่นเดียวกันชายหนุ่มทั้งสองมายังจุดที่จดหมายปริศนาบอกเอาไว้ เขาตรงไปที่ต้นไม้ใหญ่และพบร่องรอยการขุดดินจริง ๆเจิ้งจิ่งเหอรีบใช้

  • สนมคนงามเรามาเล่นกันเถอะ   บทที่ 32 ใจคนช่างน่ากลัว

    หลายสิบวันต่อมา ในที่สุดเจิ้งจิ่งเหอก็เดินทางมาถึงชายแดนเมืองหวายเยียนพร้อมกับกู้อวิ๋นหาน ครั้งนี้เขานำกำลังทหารมาไม่น้อยเลย แม่ทัพใหญ่โต้วรีบออกมาต้อนรับด้วยตนเอง ครั้งนี้บิดาของเสิ่นลี่จูก็ออกมารับเสด็จเช่นเดียวกัน เจิ้งจิ่งเหอยังไม่ทันได้พบกับเสิ่นลี่จูก็รีบเร่งรุดไปที่ชายแดนเสียก่อน เขาจัดกำลังทหารใหม่ ได้พักเพียงวันเดียวก็ต้องออกรบทำศึกเสียแล้วเสิ่นลี่จูอยู่ที่จวนตระกูลเฉิง นางทำอาหารหลายอย่างและให้เจิ้งจิ่งเหอ กู้อวิ๋นหาน และคนอื่น ๆ ได้กินรองท้อง ตั้งแต่เขาเดินทางมาที่นี่ยังไม่ได้พบกับนางเลย แต่เสิ่นลี่จูกลับไม่ได้รู้สึกน้อยใจ นางรู้ดีว่าเขากำลังมีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการมากกว่าเรื่องของนางเจิ้งจิ่งเหอออกรบอยู่ที่นอกกำแพงเมือง เมื่อเขามาถึงก็ทำให้ได้ทราบว่า แท้จริงแล้วกุนซือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการก่อสงครามครั้งนี้ก็คือเจิ้งมู่หยางเจิ้งมู่หยางยังไม่ตาย ศพที่พบก่อนหน้าคือคนทีี่ปลอมตัวเป็นเจิ้งมู่หยางโดยใช้หน้ากากหนังมนุษย์เพื่อหลอกให้เขาตายใจเจิ้งมู่หยางนำกำลังทหารของตนไปผนวกร่วมเข้ากับแคว้นอู๋ และร่วมมือกันก่อกบฏ โดยใช้อู๋อ๋องเป็นคนนำทัพ ส่วนตนเองนั้นคอยบงการอยู่เบื้องหลัง

  • สนมคนงามเรามาเล่นกันเถอะ   บทที่ 31 งานศพญาติสนิท

    หลายวันต่อมา เสิ่นฮูหยินก็ได้รับจดหมายฉบับหนึ่ง ซึ่งส่งมาจากเมืองหวายเยียน บอกว่าน้องชายของนางเกิดล้มป่วยกะทันหัน คาดว่าคงจะอยู่ได้อีกไม่นาน และอยากจะพบหน้านางซึ่งเป็นพี่สาวครั้งสุดท้าย เสิ่นฮูหยินจึงรีบสั่งให้คนเก็บข้าวของเพื่อเดินทางไปเมืองหวายเยียนทันทีเสิ่นฮูหยินมารดาของเสิ่นลี่จูเป็นสตรีที่มีถิ่นฐานเดิมมาจากเมืองหวายเยียน ยามนั้นแม่ทัพใหญ่เสิ่นไปออกรบ คนทั้งสองได้พบรักกัน มารดาของนางเป็นบุตรสาวของคหบดีที่ร่ำรวยผู้หนึ่งในเมืองหวายเยียน อีกทั้งยังมีกิจการอยู่ที่เมืองหลวงไม่น้อย เมื่อแต่งกับแม่ทัพใหญ่เสิ่นจึงได้ย้ายมาอยู่ที่เมืองหลวง ร้านรวงที่อยู่ในเมืองหลวง ทางครอบครัวได้มอบให้เป็นสินเดิมของนางทั้งหมดแม่ทัพใหญ่เสิ่นที่ได้ทราบข่าวก็ตั้งใจว่าจะเดินทางไปกับภรรยาด้วยเช่นเดียวกัน เพราะเขาไม่มีสิ่งใดต้องรับผิดชอบอีกแล้ว เสิ่นลี่จูก็ต้องร่วมเดินทางไปด้วยเช่นเดียวกัน เผื่อว่าทางใต้มีทำเลทิศทางทำการค้าได้ดี นางอาจจะเปิดภัตตาคารที่นั่นอีกสาขาหนึ่งเจิ้งจิ่งเหอที่ได้ทราบข่าวเดิมทีเขาไม่อยากให้นางไป ตอนนี้ทางทิศใต้สงครามยังไม่สงบ รองแม่ทัพโต้วซึ่งยามนี้กลายเป็นแม่ทัพใหญ่โต้วคนใหม่ ได้ไปปราบ

  • สนมคนงามเรามาเล่นกันเถอะ   บทที่ 30 ปรับความเข้าใจ

    เอ่ยจบเขาก็กึ่งเดินกึ่งลากตัวนางออกมาจากเรือน เสิ่นลี่จูรีบรั้งตนเองเอาไว้ ก่อนจะเอ่ย"ฝ่าบาท เหตุใดจึงทรงทำเช่นนี้เล่าเพคะ"เจิ้งจิ่งเหอหันมาจ้องสตรีตรงหน้าเขม็ง"ทำไม หรือว่าเจ้าอยากแต่งกับเขา เสิ่นลี่จู ข้าขอบอกเจ้าเอาไว้ตรงนี้เลยนะ ข้าไม่มีวันให้เจ้าได้สมใจ""เพราะเหตุใด เราต่างไม่มีเรื่องติดค้างใจต่อกันแล้ว พระองค์ไม่มีสิทธิ์มาทำเช่นนี้ตามใจชอบ""เพราะว่าข้าชอบเจ้าได้ยินหรือไม่!""ฮะ!"เสิ่นลี่จูถึงกับเอ่ยวาจาใดไม่ออก นางรู้สึกว่าตนเองกำลังหูฝาดไป จึงเอ่ยถามเขาย้ำอีกหน"ฝ่าบาททรงเอ่ยว่าอย่างไรนะเพคะ"เจิ้งจิ่งเหอถอนหายใจออกมา เขาเม้มริมฝีปากแน่น เสิ่นลี่จูนางหูหนวกหรือว่าหูตึงจึงไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาบอก เมื่อคิดได้เช่นนั้นชายหนุ่มจึงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะตะโกนจนลั่นจวน"ข้าชอบเจ้า สตรีหน้าโง่ เจ้าได้ยินหรือไม่ว่าข้าชอบเจ้า!"เสียงของเขาดังมาก ดังเสียจนทำให้บ่าวที่กวาดลานถึงกับทำไม้กวาดหล่นจากมือ สาวใช้ที่กำลังเช็ดจวนถึงกับทำผ้าหล่นลงพื้น แม่ทัพใหญ่เสิ่นหันไปมองฮูหยินของตนคราหนึ่งเมื่อได้ยินชัด ๆ แล้ว เสิ่นลี่จูก็ยิ้มออกมาในทันที นางไม่เคยคิดเลยว่ารักครั้งแรกของนางจะต้องมาเจ

  • สนมคนงามเรามาเล่นกันเถอะ   บทที่ 29 ชีวิตใหม่

    เมื่อกลับมาอยู่ที่จวนแล้ว เสิ่นลี่จูก็เริ่มหมักสุราตามสูตรของนาง นางฝังสุราหลายไหเอาไว้ใต้ต้นไม้ สุราแต่ละชนิดล้วนมีเวลาการหมักบ่มของมัน เสิ่นลี่จูเองก็ไม่รีบร้อน อีกทั้งนางยังสั่งให้บ่าวไพร่ปลูกผักในจวนเอาไว้ขาย ไม่นานมานี้นางยังไปปรับปรุงภัตตาคารในเมืองหลวงซึ่งเป็นสินเดิมของมารดาเพื่อทำการค้าใหม่ ฝีมือการทำอาหารของเสิ่นลี่จูนับว่ายอดเยี่ยม ประจวบเหมาะกับนางนำความรู้จากยุคปัจจุบันมาประยุกต์ใช้ จึงทำให้อาหารที่ภัตตาคารของนางไม่เหมือนกับที่ใดที่ชวนให้ผู้คนสนใจมากที่สุด ก็เห็นจะเป็นการสุ่มอาหาร ลูกค้าที่เข้ามาจะสามารถเลือกการจับฉลากสุ่มอาหารได้ เพียงจ่ายในราคาหนึ่งตำลึงสำหรับการสุ่มอาหารชุดใหญ่ ราคาสิบอีแปะสำหรับการสุ่มอาหารชุดกลาง และราคาสามอีแปะสำหรับการสุ่มอาหารชุดเล็ก พวกเขาจะไม่รู้เลยว่าอาหารชุดใหญ่นั้นจะมีอะไรบ้าง บางครายังได้สุราชั้นดีแถมกลับบ้านอีกด้วย เรื่องนี้สร้างความสนุกสนานแก่ผู้คนในเมืองหลวงไม่น้อยส่วนอาหารที่ขึ้นชื่ออีกอย่างก็คือ สลัดผัก เพราะในยุคโบราณมีวัตถุดิบไม่มาก นางจึงใช้น้ำมันงามาทำน้ำสลัดอย่างง่าย ๆ แต่รสชาติกลมกล่อมเป็นอย่างมาก สตรีในเมืองหลวงหลายคนที่ต้องการล

  • สนมคนงามเรามาเล่นกันเถอะ   บทที่ 28 แยกทาง

    กว่าจะเดินทางกลับเข้าเมืองหลวงก็เป็นเวลาเย็นย่ำมากแล้ว เมื่อกลับมาถึงตำหนักเสิ่นลี่จูก็รีบผลัดเปลี่ยนอาภรณ์และมากินมื้อเย็น หลังจากกินอิ่มแล้ว นางจึงไปเยี่ยมกู้ไทเฮาและอยู่พูดคุยด้วยกันครู่หนึ่ง ก่อนจะกลับมาที่ตำหนักของตนเสิ่นลี่จูก็เดินไปที่โต๊ะตำรา ก่อนจะเปิดตำราเล่มหนึ่ง ด้านในนั้นมีหนังสือสัญญาที่เขาและนางลงลายมือประทับเอาไว้ร่วมกัน ไม่รู้เพราะเหตุใดยามที่คิดว่าถึงเวลาจะต้องแยกทางกันแล้ว นางจึงรู้สึกเศร้าใจถึงเพียงนี้ไม่รู้ว่านางเกิดความรู้สึกผูกพันกับเจิ้งจิ่งเหอยามใด เดิมทีเขาและนางเปรียบเหมือนกับเส้นขนานที่ไม่อาจจะมาบรรจบกันได้ เขาไม่เคยรักนาง ส่วนนางก็ต้องกลับไปยังที่ที่ตนเองจากมา เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วการไม่สานความสัมพันธ์ใด ๆ ต่อกันนับว่าเป็นเรื่องดีเมื่อนึกเรื่องที่ต้องกลับไปยังโลกอนาคต เสิ่นลี่จูก็พลันนึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ เรื่องของเสิ่นอ้ายเยว่ก็ผ่านพ้นไปแล้ว แต่ว่าเหตุใดนางจึงกลับไปไม่ได้เล่าหญิงสาวมองไปโดยรอบ ก่อนจะพบเข้ากับเทพธิดาจิ้งจกที่เกาะอยู่ตรงประตู"เทพธิดาจิ้งจก ข้าไขคดีการตายของเสิ้นอ้ายเยว่ได้แล้ว เหตุใดจึงยังไม่สามารถกลับไปได้อีกเล่า"เทพธิดาจิ้งจกปรา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status