เข้าสู่ระบบบัดนี้ในป่าแถบนี้แทบจะร้างผู้คน ซ่งหลี่หมิงสำรวจทั้งหมดแล้ว จึงได้ปลอดโปร่งโล่งใจ เพราะเขาเป็นห่วงความปลอดภัยของคนรักของเขา ทั้งสองสบตากันนิ่ง ในดวงใจทั้งสองดวงเปี่ยมไปด้วยความรักที่แทบจะล้นปรี่ออกมา
ดวงตาของทั้งคู่ต่างก็มีไฟปรารถที่ลุกโชนไม่ต่่างกัน และแล้วใบหน้าก็ค่อยๆเลื่อนเข้าหากัน และในที่สุดลิ้นร้ายที่ร้อนรุ่มนั่นก็สอดเข้ามาในปากอวบอิ่มที่อ้าออกน้อยอย่างเต็มใจ แขนเรียวของหงลี่ยกขึ้นโอบต้นคอชายตรงหน้าของนางเอาไว้ และแล้วจูบที่ดูดดื่มและเร่าร้อนก็เกิดขึ้น และดำเนินต่อไปจนคุณหนูสาวแทบจะขาดอากาศหายใจ
นางยกมือทุบไปที่ไหล่หนาของคนตรงหน้า คนรักหนุ่มจึงยอมปล่อยปากอิ่มของนางเป็นอิสระ และเข้าซุกไซร้พรมจูบสองแก้มนวลของนาง แล้วละเรื่อยมาที่ซอกคอขาวผ่อง เขาขบเม้มทำรอยรักเอาไว้ประปรายอย่างหวงแหน เพราะเขาถือว่าหยูหงลี่คือคนรัก ที่เขาจะต้องได้นางมาครอบครอง
แม้ฐานะของพวกเขาจะแตกต่าง แต่เขาจะมุมานะสร้างตัวเพื่อให้คู่ควรกับนาง เพื่อจะได้ไปสู่ขอนางมาร่วมชีวิตกับเขาให้ได้เร็วที่สุด ที่อยู่ของนางคือข้างกายเขาเพียงเท่านั้น ชาตินี้เขากับนางจะต้องได้ครองคู่กัน เขาจะไม่ยอมให้มีสิ่งใดมาพรากเขากับหงลี่ให้แยกออกจากกันอย่างเด็ดขาด เขาสัญญากับตนเอง
เขาไล้เลียนางอย่างถือตัวว่าเขาคือเจ้าของ แม้จะยังไม่เป็นทางการ แต่ในใจของเขาก็ถือว่านางคือของๆเขา จนกระทั่งมาที่เนินอกอวบใหญ่ที่สั่นไหวแนบทรวงอกของเขาอยู่เมื่อครู่
คนรักหนุ่มเงยหน้าขึ้นจากเนินอกที่เขากำลังจู่โจมอยู่ แล้วสบตาที่กำลังจะหรี่ปรือของสตรีในอ้อมกอด “ ลี่เอ๋อ พี่อยากจะดื่มนม ” เขากระซิบบอกนางด้วยเสียงกระเส่า
ดวงตาคมกริบที่สบตากับนางเต็มไปด้วยไฟปรารถนาที่มากมาย จนหงลี่ไม่กล้าสบตา นางหลบตาคนรักด้วยความขวยเขิน แก้มสองข้างแดงปลั่ง นางหลบสายตาคมกริบที่เอาแต่จ้องมองนาง ด้วยความสะเทิ้นอายนัก “ หากข้าไม่ยอมล่ะเจ้าคะ….”
ช่างไม้หนุ่มหัวเราะหึหึ “ จริงหรือที่เจ้าไม่ยอม…ถ้าเช่นนั้นพี่จะพิสูจน์ให้เจ้าได้เห็นว่าเจ้าไม่ยินยอมจริงหรือไม่ ” เขาเอียงหน้าไปกระซิบที่ข้างใบหน้านางพร้อมกับเป่าลมหายใจที่ร้อนผ่าวอย่างจงใจ กายของหงลี่สะท้านไปหมด นางช้อนตามองเขาหวานฉ่ำ “ ท่านพี่….อ๊ะ…” แล้วทุบไหล่หนาของเขาเบาๆ
มือหนาของคนรักหนุ่มยกเอวคอดของนางขึ้นด้วยสองมือ แล่้วยกวางพาดบนก้อนหินใหญ่ตรงหน้าของเขา เรือนร่างขาวผ่องของสตรีคนรักเกยอยู่บนก้อนหินก้อนใหญ่นั้นเพียงครึ่งร่าง และแล้วใบหน้าหล่อคมนั้นก็ก้มลงจนชิดสองเต้างามที่กำลังกระเพื่อมด้วยจังหวะหอบหายใจของคุณหนูสาวที่รุนแรงขึ้นด้วยอารมณ์ปรารถนาของนางเอง
ที่เพิ่งจะรู้ว่าตนเองเป็นสตรีที่ร่านร้อนเช่นนี้ เพียงถูกเขาเปิดเปลือยตัวตนของนางเพียงครั้งแรก แต่นางก็รู้อยู่แก่ใจเหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะบุรุษผู้นี้คือคนที่นางรัก ที่นางรักมากเหลือเกิน จนพร้อมมอบทุกสิ่งให้แก่เขา
จากที่พยายามเบี่ยงกายหนีเพราะนางเองก็ยังไม่เคยกับเรื่องเช่นนี้ แม้จะรักเขา แต่ก็อดที่จะกระดากและอับอายไม่ได้ แต่บัดนี้กลับกลายเป็นว่านางกำลังร้องครวญครางปานจะขาดใจ และโยกเข้าหาร่างหนาของที่กำลังจะกลายเป็นสามีของนางแล้วอย่างเร่าร้อน เพราะหงลี่รู้ว่านางรักชายผู้นี้ไปจนเต็มหัวใจ นางยอมเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น ชีวิตนี้นางไม่คิดจะมีชายอื่นใดทั้งสิ้นนอกจากเขา นางทอดร่างให้เขาอย่างเต็มใจ
บัดนี้ปากหยักหนาของเขาก็ครอบอยู่ที่เต้าอวบใหญ่ข้างหนึ่งของนาง เขาทั้งดูดเต้าอวบใหญ่ของนางด้วยจังหวะรุนแรง เหมือนเขาหิวกระหายมันเหลือเกิน ดังเช่นที่เขากระซิบบอกนาง ส่วนมืออีกข้างก็เข้าฟอนเฟ้นอกอวบใหญ่อีกข้างของนางไม่ให้น้อยหน้า
“ เมียจ๋า เจ้าพร้อมรับพี่หรือยัง…” เขาเงยหน้าขึ้นสบตานางด้วยดวงตาวาววับ ขณะที่นางแอ่นอกอวบใหญ่ขึ้นหาเขาด้วยความเสียวซ่าน นางบิดเร่าๆ อยู่บนก้อนหินตรงหน้าเขา ส่วนสองขาของนางเข้าเกี่ยวรั้งเอวสอบของเขาเข้าแนบชิด นางตอบเขาด้วยภาษากายที่นางกับเขาต่างก็รับรู้มันอย่างเข้าใจ
และแล้วเจ้าลูกชายตัวร้ายที่ขยายใหญ่เต็มที่แล้ว ก็สอดเข้าไปในร่องรักของสตรีตรงหน้าในทันที มันค่อยๆ ขยับเข้าไป โดยที่นางเองก็เกี่ยวกระหวัดรัดเอวของเขาแน่นเข้า และในที่สุด มันก็มุดเข้าไปในร่องรักของนางจนมิดลำกาย กระทุ้งปลายทางอย่างแรง
“ โอ้ย…..ท่านพี่ ข้าเจ็บ เจ็บเหลือเกิน ” หงลี่ตกใจจากความเจ็บแสบแทบจะขาดใจ หลังจากที่เสียวซ่านจนเคลิบเคลิ้มไปหมด อยู่ๆ นางก็ร้องขึ้นอย่างตกใจเพราะความเจ็บแสบที่คาดไม่ถึง
“ ทนอีกนิด แล้วเจ้าจะดีขึ้นเชื่อพี่ ” หลี่หมิงกระซิบเบาๆ เพื่อปลอบโยนคนรัก เขารู้ว่าตัวตนของตนใหญ่นั้นใหญ่มากเพียงใด และยิ่งนางไม่เคยชาย แต่ในเมื่อหัวใจของเขามันมีเพียงนางก็ยิ่งทำให้อารมณ์รักที่มีต่อนางนั้นมันมากมาย จนกระทั่งลำกายขยายใหญ่เต็มที่ ทำให้ร่องรักของสตรีคนรักนั้นฉีกขาดและเจ็บปวดมากมายเพียงถึงนี้
เขายอมทนแช่ตัวตนเอาไว้เพราะไม่ต้องการให้นางได้รับประสบการณ์ที่เลวร้าย เขากัดฟันทน เพราะเขาเองก็เจ็บปวดลำกายเหลือเกิน ด้วยเพราะถูกบีบรัดไปทุกด้านจนแน่นไปหมด และแล้วก็ตัดสินใจก้มลงจูบสตรีใต้ร่างอีกครั้ง จูบแล้วจูบอีก จูบอย่างหิวกระกายจนกระทั่งสตรีใต้ร่างเคลิบเคลิ้มไปกับเขาอีกครั้ง
แล้วบทรักที่เร่าร้อน รุนแรง และถี่ยิบ กระแทกๆๆๆๆ ไม่ยั้ง จึงได้เริ่มต้นขึ้น บั้นเอวสอบโยกไหวรัวเร็วไม่พัก ขณะที่สตรีใต้ร่างนั้นบัดนี้ความเจ็บแสบได้จางหายไปหมดแล้ว เหลือเพียงความเสียวซ่านจนแทบจะกรีดร้อง นางแอ่นร่างส่ายไปมา บิดกายเร่าๆ ปากก็ร้องครวญครางปานจะขาดใจ
และแล้วจังหวะรักที่มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่รู้ ก็ดำเนินต่อไป หลี่หมิงที่บัดนี้ถือว่าตนเองคือสามีของนางอย่างเต็มตัวแล้ว เพราะเขาก็ยอมรับกับตนเองเขาทั้งรักทั้งหลงไหลนาง จนตอนนี้ก็แทบจะหลงจนโงหัวไม่ขึ้น
เขายอมรับ นางร่าน ร่านถูกใจเขามาก บั้นเอวสอบโยกไหวถี่รัว กระแทกๆๆๆๆๆ เขาหาร่องรักของสตรีตรงหน้าอย่างรุนแรง เขายกสะโพกนางให้ขึ้นมาวางบนก้อนหินให้ได้ระดับเดียวกับเขา เพื่อการกระแทกกระทั้นที่ได้จังหวะรับกันอย่างพอดี
“ โอ้วววว โอ้วววว ลี่เอ๋อ โอ้้วววว โอ้ววววว ” เขาร้องครวญครางปานจะขาดใจ ร้องเรียกชื่อของนางไม่ขาดปาก นางถูกใจเขายิ่งนัก เขาดีใจที่ตัดสินใจรวบรัดนางให้ตกเป็นของเขาเสีย อย่างไรชาตินี้เขาตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะต้องได้นางเป็นภรรยา ในไม่ช้าก็เร็ว
จนในที่สุดพวกเขาสองคนก็กลายเป็นสามีภรรยาอย่างเต็มตัว ที่เมื่อกลับไปแล้ว เขาจะไปสู่ขอนางทันที นางคือเมียของเขา และเขาจะไม่มีทางให้นางหนีเขาไปได้พ้นอย่างแน่นอน
เขาจะสัญญากับว่าที่พ่อตาว่าเขาจะตั้งใจทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวเพื่อให้คู่ควรกับนาง แม้ตอนนี้เขาจะฐานะยากจน แต่เขาก็จะตั้งใจสร้างฐานะอย่างขยันขันแข็งที่สุด เพื่อที่ลี่เอ๋อของเขาจะไม่ต้องอับอายผู้ใดในอนาคต
ทำให้หงลี่สบายใจขึ้น นางส่งข้าวของและเงินทองไปให้แก่บิดามารดาเพื่อแสดงความกตัญญู ทำให้ที่จวนของบิดามารดาของนางนั้นต่างก็ยินดี และพากันแซ่ซ้องบุตรสาวที่กลายเป็นฮองเฮาไปอย่างไม่น่าเชื่อในบุญวาสนาของนาง พ่อตาและแม่ยายของเฟยหลงฮ่องเต้มิได้โกรธเคืองเขาที่สั่งลงโทษพวกตน เพราะพวกเขาเองก็ตกใจที่ได้รู้ว่าชายที่เขาสั่งให้ทุบตีอย่างหนักในค่ำคืนนั้นคือฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน และไม่ได้ถือโทษโกรธเคืองแต่อย่างใด มีแต่ความรู้สึกผิดต่อฮ่องเต้เพียงเท่านั้น พวกเขานั้นบัดนี้กลับได้มีชีวิตที่สุขสบายและร่ำรวยเงินทองขึ้นมากว่าเดิม แถมบิดายังได้รับการเลื่อนขั้นให้เป็นเจ้าเมืองหนิงโจวในเวลาต่อมาหลังจากตำแหน่งเจ้าเมืองว่างเว้นลง ส่วนฟางเอ๋อสาวใช้ที่หลงลืมตนไปชั่วขณะ บัดนี้เสียใจมาก นางเสียดายวันคืนที่ได้รับใช้พระสนมหยูที่ดีมีน้ำใจกับนางมาเสมอ นางเสียใจที่ตนเองหลงผิดไปชั่ววูบที่คิดตีตนเสมอกับอดีตนายหญิง จนกระทั่งบัดนี้ตนเองกับมารดาถูกขับไล่ออกมาจากวังหลวงด้วยกันทั้งคู่ เพราะเมื่อสืบสวนแล้วพบว่ามารดาของนางก็มีส่วนในแผนการณ์ครั้งนี้ แต่หงลี่ขอร้องมิให้ลงโทษพวกนางไปมากกว่านี้ เพราะเห็นแก่เรื่องราวที่
“ ลี่เอ๋อ….เมียจ๋า โอ้วววว ” เขาครางออกมาด้วยความเสียวจนแทบจะทนต่อไปไม่ไหว เขาลุกลนถอดเสื้อคลุมตัวเดียวที่เขาสวมเวลาเข้านอนโยนทิ้งไป แล้วก็ก้มลงคลุกเคล้าสตรีด้านล่างที่มีกลิ่นหอมเช่นเดียวกับเมียรักของเขา เพราะนางใช้น้ำหอมกลิ่นเดียวกับหงลี่ อาภรณ์ที่นางสวมก็ใช้ของหงลี่ มือหนาแหวกสาปเสื้อบางตรงหน้าออกไปด้านข้าง แล้วก้มลงอ้าปากครอบลงบนเต้าอวบของสตรีด้านล่างที่ไม่เคยชายเลยสักนิด ฟางเอ๋อแทบจะขาดใจ ยามปากหนาของฮ่องเต้หนุ่มครอบลงมาที่เต้าอวบของนาง นางแอ่นอกอวบขึ้นหาเขาเพราะเสียวซ่านจนเกินจะทนได้ มันเป็นเช่นนี้เองหรือความสุขระหว่างหญิงชาย ฟางเอ๋อยกยิ้มอย่างสมใจ ในที่สุดตำแหน่งพระสนมก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมต่อไปนางก็คงไม่ต้องมารับใช้สตรีอื่นงกๆเช่นนี้อีกแล้ว และคืนนี้ฟางเอ๋อจะทำทุกอย่างให้ฮ่องเต้หลงไหลนางจนโงหัวไม่ขึ้นมิน่าเล่า…..ลีลารักของฮ่องเต้หนุ่มแม้ยามเขามีสติไม่เต็มร้อยก็ช่างช่ำชองนัก ผลอิงเถาสีชมพูเข้มที่ไม่เคยผ่านมือชายใดทั้งสิ้นบัดนี้ถูกลิ้นสากของฮ่องเต้หนุ่มไล้เลียสลับกับดูดดื่มจนนางแทบจะขาดใจ ฟางเอ๋อแอ่นร่างหยัดขึ้นจนหลังของนางแทบจะโค้ง ด้วยความเสียวซ่านแทบจะทนไม่ไหว
“ เสด็จพี่เพคะ ท่านควรจะไปหาชายาหรือสนมนางอื่นๆบ้างก็ได้ หม่อมฉันอนุญาต เพราะเกรงว่าพระองค์จะเคร่งเครียดกับราชกิจจนเกินไป อีกไม่นานหม่อมฉันก็จะคลอดองค์ชายหรือองค์หญิงน้อยให้แก่พระองค์แล้ว คงจะทำหน้าที่ภรรยาได้ไม่สมบูรณ์เต็มที่นัก ” แต่ฮ่องเต้หนุ่มกลับเดินมากอดภรรยาที่เขารักไว้แนบอก “ ไม่ล่ะ พี่เหนื่อย ชายากับสนมหลายๆคนก็ขอลาออกไปอยู่นอกวังกัันแล้ว บางคนก็ลาออกไปแต่งงานพี่ก็ไม่ว่าอะไรนะ พวกนางคงจะเหงา เพราะพี่ไม่ได้ไปหาพวกนางเลย พี่ทำใจที่จะทำหน้าที่สามีให้พวกนางไม่ได้ แม้จะรู้ว่าเป็นหน้าที่ แต่ว่าพี่ไม่ได้รักพวกนาง จึงคิดว่าชายานางใด สนมนางใด อยากจะอยู่ในวังหลังพี่ก็จะเลี้ยงดูอย่างดีดังเช่นเดิม ส่วนผู้ใดอยากจะลากลับไปอยู่บ้านเดิมก็ไม่ว่ากัน หากจะลาออกไปแต่งงานข้างนอกก็ไม่ว่ากันอีก เพราะเข้าใจหัวอกพวกนางดี ” เขาบอกกับว่าที่ฮองเฮาที่รอการสถานปนาหลังจากคลอดบุตรชายแล้วอย่างรักใคร่และโอบกอดนางเอาไว้ในอกแน่นเข้าด้านที่ห้องแถวห้องหนึ่งด้านหลังโรงเย็บปักที่เป็นที่พำนักของมารดาของฟางเอ๋อ สองแม่ลูกกำลังนั่งจิบน้ำชาหลังมื้ออาหารค่ำ ที่วันนี้ฟางเอ๋อลามาเยี่ยมมารดาและขอนอน
หรูอี้รู้ดีว่าระหว่างสองบุรุษในชีวิตของนางช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว เมื่อองครักษ์หนุ่มเห็นสตรีใต้ร่างเสร็จสมอย่างรุนแรงไปต่อหน้าแล้ว เขาก็รีบร้อนถอดกางเกงของเขาออกให้พ้นสะโพกหนาลงไปที่ใต้เข่าในทันที ส่วนเสื้อตัวบนยังอยู่ครบครัน เพราะสถานที่ไม่เอื้ออำนวยในการเริงรัก และแล้วเมื่อเจ้าลูกชายที่ขยายใหญ่จนแทบปริแตก สอดเข้าไปในร่องรักของสตรีใต้ร่าง หรูอี้ก็กระตุกเกร็งไปอีกครั้งเพราะนางเสร็จสม นางเสร็จเพราะนางรักเขา นางรู้แล้วนางยังรักอาเหวินของนางไม่เสื่อมคลาย ไม่ใช่ฮ่องเต้เย็นชาผู้นั้น และต่อไปนางจะหาทางเลิกรากับเชา และออกจากวังหลวงไปแต่งงานใหม่กับอาเหวิน ที่บัดนี้กำลังจะกลายมาเป็นสามีของนางอาเหวินร้องออกมาอย่างเสียวจนแทบบ้า เพราะสตรีร่านร้อนตรงหน้า นางเสร็จสมไปทั้งๆที่เขาเพียงแค่สอดใส่เข้าไปแค่เพียงส่วนปลายของเจ้าลูกชายแสนล่ำของเขา “ โอ้วววว โอ้วววว เมียจ๋า โอ้วววว ผัวเสียว เสียวเหลือเกิน โอ้วววว ”องครักษ์หนุ่มครางออกมา แล้วก็โยกบั้นเอวดันเจ้าลูกชายที่ดิ้นรนจะเข้าไปในร่องรักที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำรักที่ไหลรินออกมาอย่างมากมาย เพราะหรูอี้เสร็จสมไปแล้วนับครั้งไม่ถ้วนและแล้วจังหว
ส่วนเหลียนหรูอี้ นางกลัดกลุ้มและรู้สึกเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยวเหมือนกับตนเองเป็นสตรีขี้ริ้วขี้เหร่เสียเต็มประดา ทำให้บุรุษไม่ต้องการนาง เพราะตั้งแต่มาเข้าหอในค่ำคืนนั้น ฮ่องเต้หนุ่มไม่เคยย่างเท้ามาหานางที่ตำหนักอีกเลย ทำให้หรูอี้กลัดกลุ้มและเสียความมั่นใจเป็นอย่างมาก ว่านางมีอะไรที่ผิดพลาดไป หรือสู้สตรีต่ำต้อยนั่นไม่ได้สักนิดเลยหรือ และยิ่งสนมปลายแถวที่พวกนางเคยดูแคลนบัดนี้ตั้งครรภ์มังกรแล้ว แน่นอนว่าฐานะของนางย่อมเปลี่ยนไป ส่วนคนที่ต้องเป็นกังวลกลับกลายเป็นเหล่าชายาและสนมทั้งหลายที่ฮ่องเต้ไม่โปรดปรานเช่นพวกนางแทนยามค่ำคืนวันหนึ่ง หรูอี้กลัดกลุ้มเต็มที หลังจากอาบน้ำเข้านอนไปแล้ว นางนอนเท่าไหร่ก็ไม่หลับ จึงได้ออกมาเดินเล่นที่สวนโดยไม่ได้ปลุกสาวใช้ที่กลับไปนอนพักที่ห้องด้านหลังตำหนักให้ลุกมาเดินเป็นเพื่่อน อีกอย่างนางเองก็อยากจะเดินเล่นเงียบๆ ใช้ความคิดเงียบๆ ตามลำพัง นางสวมเพียงอาภรณ์ที่เตรียมเข้านอนเป็นอาภรณ์สีขาวเนื้อผ้าบางเบา และไม่ได้สวมเสื้อคลุมเพราะอากาศร้อน นางออกมาเดินเล่นที่สวน ก็รู้สึกเย็นสบายขึ้น แต่แล้วขณะที่นางเดินผ่านต้นไม้ขนาดไม่ใหญ่นักต้นหนึ่ง แต่แล้วเหมือนกั
ไทเฮานั้นจากที่กำลังโมโหและดึงดั้นจะต่อต้านสตรีแพศยานั่น ก็หยุดชะงักเพราะกำลังอึ้งงันอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวและแล้วก็ครางออกมาว่า“ นางกำลังตั้งครรภ์มังกรหรือ…. มีถึงสองคนเลยหรือ ” แล้วก็หันไปจับจ้องสตรีตัวปัญหาที่บัดนี้คงไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปแล้ว เพราะนางคือว่าที่พระมารดาขององค์ชายหรือองค์หญิงตัวน้อย ๆ ที่ไทเฮาใฝ่ฝันเหลือเกินว่าจะมีโอกาสได้อุ้ม“ ในที่สุด แม่ก็สมหวังแล้ว เรากำลังจะมีทายาทสืบทอดราชวงศ์ซ่งของเราแล้ว แม่ดีใจจริงๆ ”น้ำเสียงของไทเฮานั้นเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือพระนางค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้โดยมีขันทีคนสนิทของพระองค์รีบเข้าไปประคองให้ลุกขึ้น ไทเฮาก้าวลงจากพระที่นั่งแล้วก็เดินตรงไปหาสนมหยูหงลี่แล้วเข้าโอบกอดสตรีที่ตนเองเคยรังเกียจเอาไว้อย่างทะนุถนอม “ เจ้าตั้งครรภ์มังกรแล้ว ข้าดีใจจริง ๆ ดูแลองค์ชายและองค์หญิงน้อยในท้องเจ้าให้ดีนะ มีหวังแล้ว มีหวังแล้วที่จะได้องค์รัชทายาท”ไทเฮาพร่ำพูดระหว่างที่โอบกอดหงลี่อย่างดีอกดีใจ หงลี่ยิ้มให้ไทเฮาอย่างรักใคร่ เพราะนางเองก็รักแม่สามีดังเช่นเดิมเหมือนครั้งอดีต และบัดนี้ก็ดีใจนักที่ไทเฮานั้นเหมือนจะยกโทษให้นางแล้ว “







