บัดนี้ในป่าแถบนี้แทบจะร้างผู้คน ซ่งหลี่หมิงสำรวจทั้งหมดแล้ว จึงได้ปลอดโปร่งโล่งใจ เพราะเขาเป็นห่วงความปลอดภัยของคนรักของเขา ทั้งสองสบตากันนิ่ง ในดวงใจทั้งสองดวงเปี่ยมไปด้วยความรักที่แทบจะล้นปรี่ออกมา
ดวงตาของทั้งคู่ต่างก็มีไฟปรารถที่ลุกโชนไม่ต่่างกัน และแล้วใบหน้าก็ค่อยๆเลื่อนเข้าหากัน และในที่สุดลิ้นร้ายที่ร้อนรุ่มนั่นก็สอดเข้ามาในปากอวบอิ่มที่อ้าออกน้อยอย่างเต็มใจ แขนเรียวของหงลี่ยกขึ้นโอบต้นคอชายตรงหน้าของนางเอาไว้ และแล้วจูบที่ดูดดื่มและเร่าร้อนก็เกิดขึ้น และดำเนินต่อไปจนคุณหนูสาวแทบจะขาดอากาศหายใจ
นางยกมือทุบไปที่ไหล่หนาของคนตรงหน้า คนรักหนุ่มจึงยอมปล่อยปากอิ่มของนางเป็นอิสระ และเข้าซุกไซร้พรมจูบสองแก้มนวลของนาง แล้วละเรื่อยมาที่ซอกคอขาวผ่อง เขาขบเม้มทำรอยรักเอาไว้ประปรายอย่างหวงแหน เพราะเขาถือว่าหยูหงลี่คือคนรัก ที่เขาจะต้องได้นางมาครอบครอง
แม้ฐานะของพวกเขาจะแตกต่าง แต่เขาจะมุมานะสร้างตัวเพื่อให้คู่ควรกับนาง เพื่อจะได้ไปสู่ขอนางมาร่วมชีวิตกับเขาให้ได้เร็วที่สุด ที่อยู่ของนางคือข้างกายเขาเพียงเท่านั้น ชาตินี้เขากับนางจะต้องได้ครองคู่กัน เขาจะไม่ยอมให้มีสิ่งใดมาพรากเขากับหงลี่ให้แยกออกจากกันอย่างเด็ดขาด เขาสัญญากับตนเอง
เขาไล้เลียนางอย่างถือตัวว่าเขาคือเจ้าของ แม้จะยังไม่เป็นทางการ แต่ในใจของเขาก็ถือว่านางคือของๆเขา จนกระทั่งมาที่เนินอกอวบใหญ่ที่สั่นไหวแนบทรวงอกของเขาอยู่เมื่อครู่
คนรักหนุ่มเงยหน้าขึ้นจากเนินอกที่เขากำลังจู่โจมอยู่ แล้วสบตาที่กำลังจะหรี่ปรือของสตรีในอ้อมกอด “ ลี่เอ๋อ พี่อยากจะดื่มนม ” เขากระซิบบอกนางด้วยเสียงกระเส่า
ดวงตาคมกริบที่สบตากับนางเต็มไปด้วยไฟปรารถนาที่มากมาย จนหงลี่ไม่กล้าสบตา นางหลบตาคนรักด้วยความขวยเขิน แก้มสองข้างแดงปลั่ง นางหลบสายตาคมกริบที่เอาแต่จ้องมองนาง ด้วยความสะเทิ้นอายนัก “ หากข้าไม่ยอมล่ะเจ้าคะ….”
ช่างไม้หนุ่มหัวเราะหึหึ “ จริงหรือที่เจ้าไม่ยอม…ถ้าเช่นนั้นพี่จะพิสูจน์ให้เจ้าได้เห็นว่าเจ้าไม่ยินยอมจริงหรือไม่ ” เขาเอียงหน้าไปกระซิบที่ข้างใบหน้านางพร้อมกับเป่าลมหายใจที่ร้อนผ่าวอย่างจงใจ กายของหงลี่สะท้านไปหมด นางช้อนตามองเขาหวานฉ่ำ “ ท่านพี่….อ๊ะ…” แล้วทุบไหล่หนาของเขาเบาๆ
มือหนาของคนรักหนุ่มยกเอวคอดของนางขึ้นด้วยสองมือ แล่้วยกวางพาดบนก้อนหินใหญ่ตรงหน้าของเขา เรือนร่างขาวผ่องของสตรีคนรักเกยอยู่บนก้อนหินก้อนใหญ่นั้นเพียงครึ่งร่าง และแล้วใบหน้าหล่อคมนั้นก็ก้มลงจนชิดสองเต้างามที่กำลังกระเพื่อมด้วยจังหวะหอบหายใจของคุณหนูสาวที่รุนแรงขึ้นด้วยอารมณ์ปรารถนาของนางเอง
ที่เพิ่งจะรู้ว่าตนเองเป็นสตรีที่ร่านร้อนเช่นนี้ เพียงถูกเขาเปิดเปลือยตัวตนของนางเพียงครั้งแรก แต่นางก็รู้อยู่แก่ใจเหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะบุรุษผู้นี้คือคนที่นางรัก ที่นางรักมากเหลือเกิน จนพร้อมมอบทุกสิ่งให้แก่เขา
จากที่พยายามเบี่ยงกายหนีเพราะนางเองก็ยังไม่เคยกับเรื่องเช่นนี้ แม้จะรักเขา แต่ก็อดที่จะกระดากและอับอายไม่ได้ แต่บัดนี้กลับกลายเป็นว่านางกำลังร้องครวญครางปานจะขาดใจ และโยกเข้าหาร่างหนาของที่กำลังจะกลายเป็นสามีของนางแล้วอย่างเร่าร้อน เพราะหงลี่รู้ว่านางรักชายผู้นี้ไปจนเต็มหัวใจ นางยอมเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น ชีวิตนี้นางไม่คิดจะมีชายอื่นใดทั้งสิ้นนอกจากเขา นางทอดร่างให้เขาอย่างเต็มใจ
บัดนี้ปากหยักหนาของเขาก็ครอบอยู่ที่เต้าอวบใหญ่ข้างหนึ่งของนาง เขาทั้งดูดเต้าอวบใหญ่ของนางด้วยจังหวะรุนแรง เหมือนเขาหิวกระหายมันเหลือเกิน ดังเช่นที่เขากระซิบบอกนาง ส่วนมืออีกข้างก็เข้าฟอนเฟ้นอกอวบใหญ่อีกข้างของนางไม่ให้น้อยหน้า
“ เมียจ๋า เจ้าพร้อมรับพี่หรือยัง…” เขาเงยหน้าขึ้นสบตานางด้วยดวงตาวาววับ ขณะที่นางแอ่นอกอวบใหญ่ขึ้นหาเขาด้วยความเสียวซ่าน นางบิดเร่าๆ อยู่บนก้อนหินตรงหน้าเขา ส่วนสองขาของนางเข้าเกี่ยวรั้งเอวสอบของเขาเข้าแนบชิด นางตอบเขาด้วยภาษากายที่นางกับเขาต่างก็รับรู้มันอย่างเข้าใจ
และแล้วเจ้าลูกชายตัวร้ายที่ขยายใหญ่เต็มที่แล้ว ก็สอดเข้าไปในร่องรักของสตรีตรงหน้าในทันที มันค่อยๆ ขยับเข้าไป โดยที่นางเองก็เกี่ยวกระหวัดรัดเอวของเขาแน่นเข้า และในที่สุด มันก็มุดเข้าไปในร่องรักของนางจนมิดลำกาย กระทุ้งปลายทางอย่างแรง
“ โอ้ย…..ท่านพี่ ข้าเจ็บ เจ็บเหลือเกิน ” หงลี่ตกใจจากความเจ็บแสบแทบจะขาดใจ หลังจากที่เสียวซ่านจนเคลิบเคลิ้มไปหมด อยู่ๆ นางก็ร้องขึ้นอย่างตกใจเพราะความเจ็บแสบที่คาดไม่ถึง
“ ทนอีกนิด แล้วเจ้าจะดีขึ้นเชื่อพี่ ” หลี่หมิงกระซิบเบาๆ เพื่อปลอบโยนคนรัก เขารู้ว่าตัวตนของตนใหญ่นั้นใหญ่มากเพียงใด และยิ่งนางไม่เคยชาย แต่ในเมื่อหัวใจของเขามันมีเพียงนางก็ยิ่งทำให้อารมณ์รักที่มีต่อนางนั้นมันมากมาย จนกระทั่งลำกายขยายใหญ่เต็มที่ ทำให้ร่องรักของสตรีคนรักนั้นฉีกขาดและเจ็บปวดมากมายเพียงถึงนี้
เขายอมทนแช่ตัวตนเอาไว้เพราะไม่ต้องการให้นางได้รับประสบการณ์ที่เลวร้าย เขากัดฟันทน เพราะเขาเองก็เจ็บปวดลำกายเหลือเกิน ด้วยเพราะถูกบีบรัดไปทุกด้านจนแน่นไปหมด และแล้วก็ตัดสินใจก้มลงจูบสตรีใต้ร่างอีกครั้ง จูบแล้วจูบอีก จูบอย่างหิวกระกายจนกระทั่งสตรีใต้ร่างเคลิบเคลิ้มไปกับเขาอีกครั้ง
แล้วบทรักที่เร่าร้อน รุนแรง และถี่ยิบ กระแทกๆๆๆๆ ไม่ยั้ง จึงได้เริ่มต้นขึ้น บั้นเอวสอบโยกไหวรัวเร็วไม่พัก ขณะที่สตรีใต้ร่างนั้นบัดนี้ความเจ็บแสบได้จางหายไปหมดแล้ว เหลือเพียงความเสียวซ่านจนแทบจะกรีดร้อง นางแอ่นร่างส่ายไปมา บิดกายเร่าๆ ปากก็ร้องครวญครางปานจะขาดใจ
และแล้วจังหวะรักที่มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่รู้ ก็ดำเนินต่อไป หลี่หมิงที่บัดนี้ถือว่าตนเองคือสามีของนางอย่างเต็มตัวแล้ว เพราะเขาก็ยอมรับกับตนเองเขาทั้งรักทั้งหลงไหลนาง จนตอนนี้ก็แทบจะหลงจนโงหัวไม่ขึ้น
เขายอมรับ นางร่าน ร่านถูกใจเขามาก บั้นเอวสอบโยกไหวถี่รัว กระแทกๆๆๆๆๆ เขาหาร่องรักของสตรีตรงหน้าอย่างรุนแรง เขายกสะโพกนางให้ขึ้นมาวางบนก้อนหินให้ได้ระดับเดียวกับเขา เพื่อการกระแทกกระทั้นที่ได้จังหวะรับกันอย่างพอดี
“ โอ้วววว โอ้วววว ลี่เอ๋อ โอ้้วววว โอ้ววววว ” เขาร้องครวญครางปานจะขาดใจ ร้องเรียกชื่อของนางไม่ขาดปาก นางถูกใจเขายิ่งนัก เขาดีใจที่ตัดสินใจรวบรัดนางให้ตกเป็นของเขาเสีย อย่างไรชาตินี้เขาตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะต้องได้นางเป็นภรรยา ในไม่ช้าก็เร็ว
จนในที่สุดพวกเขาสองคนก็กลายเป็นสามีภรรยาอย่างเต็มตัว ที่เมื่อกลับไปแล้ว เขาจะไปสู่ขอนางทันที นางคือเมียของเขา และเขาจะไม่มีทางให้นางหนีเขาไปได้พ้นอย่างแน่นอน
เขาจะสัญญากับว่าที่พ่อตาว่าเขาจะตั้งใจทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวเพื่อให้คู่ควรกับนาง แม้ตอนนี้เขาจะฐานะยากจน แต่เขาก็จะตั้งใจสร้างฐานะอย่างขยันขันแข็งที่สุด เพื่อที่ลี่เอ๋อของเขาจะไม่ต้องอับอายผู้ใดในอนาคต
กบฎนั้นก่อโดยอ๋องเผยอันน้องชายของฮ่องเต้องค์เก่าที่เพิ่งจะสวรรคตไป และนางเองอดีตฮองเฮาต้องหอบหิ้วบุตรชายหนีมาเพราะนางให้กำเนิดเขาเมื่ออายุมากแล้ว ทั้งๆที่ไม่เคยคิดมาก่อนว่านางจะสามารถมีบุตรได้ และแล้วสวรรค์ก็ประทานบุตรชายให้กับนาง เขาคือองค์รัชทายาท แต่ก็มิอาจจะครองบััลลังฆ์ตามที่ควรจะเป็นได้ เพราะถูกก่อกบฎไปเสียก่อน แต่นางยังมีความหวัง เพราะนางเชื่อเต็มหัวใจว่ายังมีขุนนางและแม่ทัพนายกองมากมายที่ยังภักดีต่อฮ่องเต้พระองค์เดิม และองค์รัชทายาทที่บัดนี้เติบใหญ่จนสามารถจะกลับไปทวงบังลังฆ์ที่ควรจะเป็นของเขากลับคืนมาได้แล้วส่วนสตรีต่ำต้อยที่เป็นเพียงบุตรีของขุนนางขั้นสามนั่นก็ไม่ได้คู่ควรกับองค์รัชทายาทเช่นหลี่หมิงสักนิด ดีแล้วที่มันแสดงธาตุแท้ออกมาก่อน ตอนแรกนางก็ไม่เห็นด้วยนักที่เขาจะรับบุตรีขุนนางขั้นสามมาเป็นชายา แต่เมื่อบุตรชายทั้งรักทั้งหลงสตรีนางนั้นมากเหลือเกิน แม่อย่างนางที่รักบุตรชายมากและสงสารในชะตากรรมของเขา ที่ควรจะอยู่ในที่สูงส่งแต่กลับต้องมาลำบากอยู่ปะปนกับชาวบ้านทั่วไปเช่นนี้แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะซ่งหลี่หมิงแท้จริงเขาคือองค์รัชทายาทที่ไม่นานจะต้องได้คืนบังลังฆ
“ น่าขบขันนัก เจ้าช่างไม้ต่ำต้อย เงินสินสอดแค่หยิบมือ คิดจะมาสู่ขอบุตรสาวของขุนนางอย่างข้า คิดหรือว่าข้าจะยกหงลี่ให้กับเจ้า ช่างน่าหัวเราะสิ้นดี คำสัญญาที่เจ้าบอกข้า มันจับต้องไม่ได้หรอกนะ เจ้าจะทำมันได้หรือไม่ก็ยังไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เจ้าคือช่างไม้รับจ้างที่ยากจน มีเพียงบ้านหลังเล็กๆ เอาไว้ซุกหัวนอนกับแม่ที่แก่ชราของเจ้า เพียงเท่านั้น ข้าไม่โง่เง่าพอที่จะยกบุตรสาวของข้าให้ไปตกระกำลำบากกับเจ้าหรอก เป็นการิอยากจะกินเนื้อหงส์ ช่างน่าขบขันนัก ” ขุนนางหยูเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าทมึงถึงขัดกับคำพูดของเขาที่บอกว่าคำสัญญาของหลี่หมิงช่างน่าขบขัน เขากับฮูหยินจ้องมองช่างไม้หนุ่มกับมารดาด้วยสายตาดูแคลนไม่ปิดบังซักนิด พวกเขาไม่ยอมเรียกบุตรสาวออกมาพบกับทั้งสองเลยด้วยซ้ำ “ แต่ข้ากับหงลี่เราได้เสียกันแล้ว หากท่านไม่ยอมให้นางแต่งงานกับข้าแล้วนางเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา จะทำเช่นไร ” ช่างไม้หนุ่มตัดสินใจใช่้ไม้ตายของเขาที่คิดว่าหากพูดออกไปแล้วพ่อตาแม่ยายอาจจะใจอ่อนยอมให้หงลี่กับเขาแต่งงานกันก็เป็นได้“ หากนางตั้งครรภ์ข้าก็จะไม่เก็บเจ้าเด็กนั่นไว้ประจานสกุลของข้าหรอกนะ หรือไม่ข้าก็จะให้นางรีบแต
พวกเขาเข้าหอล่วงหน้าแล้ว แม้ในคราวแรกเขาไม่ได้ตั้งใจเลย เขาคิดจะถนอมนางเอาไว้จนกว่าจะถึงวันวิวาห์ของพวกเขา แต่ครั้งนี้ความใกล้ชิด ถูกเนื้อต้องตัวกันมันพาให้อารมณ์หนุ่มของเขาเตลิดจนกู่ไม่กลับ แต่เมื่อได้ล่วงเกินกันแล้วก็หยุดยั้งตนเองไม่ได้อีกต่อไป เมื่อกลับไปแล้ว ก็จะไปสู่ขอนางกับบิดามารดาของนาง แม้ในตอนนี้เขาจะยังไม่พร้อมทางด้านฐานะ อาจจะดูต่ำต้อยกว่าครอบครัวของนางไปสักนิด แต่เขาเชื่อมั่นว่าอีกไม่นานเขาจะสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวให้มีฐานะที่เป็นปึกแผ่นมากกว่านี้ เขาจะไม่ยอมให้หงลี่น้อยหน้าผู้อื่นอย่างแน่นอน ส่วนหงลี่บัดนี้นางโยกสะโพกอวบอัดเข้าหาชายที่กำลังโยกกระแทกนางอย่างรุนแรงนี้ นางเองก็หลงรักเขาดังเช่นที่เขาหลงรักนาง และยิ่งได้ตกเป็นของกันและกันแล้ว ความผูกพันธ์ของพวกเขาสองคนก็จะยิ่งแน่นแฟ้นขึ้น บัดนี้พี่หลี่หมิงไม่ใช่เพียงคนรักในความลับของนางอีกแล้ว แต่เขาคือสามีที่นางจะต้องได้แต่งงานกับเขาอย่างแน่นอน หงลี่คิดด้วยความสุขใจ นางยกแขนเรียวขาวเกี่ยวต้นคอของสามีหมาดๆ ลงมา แล้วทั้งสองก็จูบกันอย่างดูดดื่ม บทรักในสายธารน้ำตกดำเนินไปจนกระทั่งแตกระเบิดในเวลาไล่เลี่ยกัน แ
บัดนี้ในป่าแถบนี้แทบจะร้างผู้คน ซ่งหลี่หมิงสำรวจทั้งหมดแล้ว จึงได้ปลอดโปร่งโล่งใจ เพราะเขาเป็นห่วงความปลอดภัยของคนรักของเขา ทั้งสองสบตากันนิ่ง ในดวงใจทั้งสองดวงเปี่ยมไปด้วยความรักที่แทบจะล้นปรี่ออกมา ดวงตาของทั้งคู่ต่างก็มีไฟปรารถที่ลุกโชนไม่ต่่างกัน และแล้วใบหน้าก็ค่อยๆเลื่อนเข้าหากัน และในที่สุดลิ้นร้ายที่ร้อนรุ่มนั่นก็สอดเข้ามาในปากอวบอิ่มที่อ้าออกน้อยอย่างเต็มใจ แขนเรียวของหงลี่ยกขึ้นโอบต้นคอชายตรงหน้าของนางเอาไว้ และแล้วจูบที่ดูดดื่มและเร่าร้อนก็เกิดขึ้น และดำเนินต่อไปจนคุณหนูสาวแทบจะขาดอากาศหายใจนางยกมือทุบไปที่ไหล่หนาของคนตรงหน้า คนรักหนุ่มจึงยอมปล่อยปากอิ่มของนางเป็นอิสระ และเข้าซุกไซร้พรมจูบสองแก้มนวลของนาง แล้วละเรื่อยมาที่ซอกคอขาวผ่อง เขาขบเม้มทำรอยรักเอาไว้ประปรายอย่างหวงแหน เพราะเขาถือว่าหยูหงลี่คือคนรัก ที่เขาจะต้องได้นางมาครอบครอง แม้ฐานะของพวกเขาจะแตกต่าง แต่เขาจะมุมานะสร้างตัวเพื่อให้คู่ควรกับนาง เพื่อจะได้ไปสู่ขอนางมาร่วมชีวิตกับเขาให้ได้เร็วที่สุด ที่อยู่ของนางคือข้างกายเขาเพียงเท่านั้น ชาตินี้เขากับนางจะต้องได้ครองคู่กัน เขาจะไม่ยอมให้มีสิ่
หยูหงลี่บุตรีขุนนางขัั้นสามที่อยู่ๆ ก็เกิดได้เข้าถวายตัวเป็นสนมของฮ่องเต้พระองค์ใหม่ที่เพิ่งได้รับการสถาปนา และนางก็พบว่าฮ่องเต้พระองค์นั้นคืออดีตชายคนรักที่นางสลัดเขาทิ้งก็เพราะนางจำต้องเลือกครอบครัว แม้นางจะรักเขามาก แต่ก็มิอาจจะหนีตามเขาไปได้ เพราะครอบครัวของนางที่บิดาเป็นขุนนางขั้นสาม แต่เมื่ออยู่ในเมืองเล็กๆ อย่างหนิงโจว ก็ย่อมจะดูสูงส่งกว่าชาวบ้านโดยทั่วไป และบิดาไม่มีทางยอมรับเขยที่เป็นเพียงช่างไม้จนๆได้ อดีตชายคนรักที่มีนามเดิมว่า ซ่งหลี่หมิง เขาเป็นบุตรชายของสตรีหม้ายนางหนึ่งที่ไม่มีผู้ใดในหมู่บ้านหรือตำบลท่ี่นางย้ายมาอยู่รู้ว่าสองแม่ลูกมาจากที่ใด พวกเขาทราบเพียงว่าท่านป้าซ่งผู้นั้นหอบบุตรชายที่ยังเป็นเพียงเด็กชายตัวน้อยๆ มาตั้งหลักปักฐานที่หมู่บ้านเล็กๆ ที่นอกเมืองหนิงโจว นางบอกกับใครๆ ว่านางเป็นหญิงหม้ายเพราะสามีเสียชีวิตไปแล้ว และนางเองก็ไร้ญาติขาดมิตร มีเงินทองติดตัวมาเพียงเล็กน้อยจึงได้ขอซื้อที่ดินของหัวหน้าหมู่บ้านที่ยอมแบ่งขายให้ผืนหนึ่งซึ่งนางก็จ้างชาวบ้านที่นั่นช่วยกันปลูกบ้านหลังเล็กๆ และล้อมรั้วให้แน่นหนาให้พอเป็นที่พำนักของหญิงหม้ายเช่นนางกับบุตรชายไ