เข้าสู่ระบบบัดนี้ในป่าแถบนี้แทบจะร้างผู้คน ซ่งหลี่หมิงสำรวจทั้งหมดแล้ว จึงได้ปลอดโปร่งโล่งใจ เพราะเขาเป็นห่วงความปลอดภัยของคนรักของเขา ทั้งสองสบตากันนิ่ง ในดวงใจทั้งสองดวงเปี่ยมไปด้วยความรักที่แทบจะล้นปรี่ออกมา
ดวงตาของทั้งคู่ต่างก็มีไฟปรารถที่ลุกโชนไม่ต่่างกัน และแล้วใบหน้าก็ค่อยๆเลื่อนเข้าหากัน และในที่สุดลิ้นร้ายที่ร้อนรุ่มนั่นก็สอดเข้ามาในปากอวบอิ่มที่อ้าออกน้อยอย่างเต็มใจ แขนเรียวของหงลี่ยกขึ้นโอบต้นคอชายตรงหน้าของนางเอาไว้ และแล้วจูบที่ดูดดื่มและเร่าร้อนก็เกิดขึ้น และดำเนินต่อไปจนคุณหนูสาวแทบจะขาดอากาศหายใจ
นางยกมือทุบไปที่ไหล่หนาของคนตรงหน้า คนรักหนุ่มจึงยอมปล่อยปากอิ่มของนางเป็นอิสระ และเข้าซุกไซร้พรมจูบสองแก้มนวลของนาง แล้วละเรื่อยมาที่ซอกคอขาวผ่อง เขาขบเม้มทำรอยรักเอาไว้ประปรายอย่างหวงแหน เพราะเขาถือว่าหยูหงลี่คือคนรัก ที่เขาจะต้องได้นางมาครอบครอง
แม้ฐานะของพวกเขาจะแตกต่าง แต่เขาจะมุมานะสร้างตัวเพื่อให้คู่ควรกับนาง เพื่อจะได้ไปสู่ขอนางมาร่วมชีวิตกับเขาให้ได้เร็วที่สุด ที่อยู่ของนางคือข้างกายเขาเพียงเท่านั้น ชาตินี้เขากับนางจะต้องได้ครองคู่กัน เขาจะไม่ยอมให้มีสิ่งใดมาพรากเขากับหงลี่ให้แยกออกจากกันอย่างเด็ดขาด เขาสัญญากับตนเอง
เขาไล้เลียนางอย่างถือตัวว่าเขาคือเจ้าของ แม้จะยังไม่เป็นทางการ แต่ในใจของเขาก็ถือว่านางคือของๆเขา จนกระทั่งมาที่เนินอกอวบใหญ่ที่สั่นไหวแนบทรวงอกของเขาอยู่เมื่อครู่
คนรักหนุ่มเงยหน้าขึ้นจากเนินอกที่เขากำลังจู่โจมอยู่ แล้วสบตาที่กำลังจะหรี่ปรือของสตรีในอ้อมกอด “ ลี่เอ๋อ พี่อยากจะดื่มนม ” เขากระซิบบอกนางด้วยเสียงกระเส่า
ดวงตาคมกริบที่สบตากับนางเต็มไปด้วยไฟปรารถนาที่มากมาย จนหงลี่ไม่กล้าสบตา นางหลบตาคนรักด้วยความขวยเขิน แก้มสองข้างแดงปลั่ง นางหลบสายตาคมกริบที่เอาแต่จ้องมองนาง ด้วยความสะเทิ้นอายนัก “ หากข้าไม่ยอมล่ะเจ้าคะ….”
ช่างไม้หนุ่มหัวเราะหึหึ “ จริงหรือที่เจ้าไม่ยอม…ถ้าเช่นนั้นพี่จะพิสูจน์ให้เจ้าได้เห็นว่าเจ้าไม่ยินยอมจริงหรือไม่ ” เขาเอียงหน้าไปกระซิบที่ข้างใบหน้านางพร้อมกับเป่าลมหายใจที่ร้อนผ่าวอย่างจงใจ กายของหงลี่สะท้านไปหมด นางช้อนตามองเขาหวานฉ่ำ “ ท่านพี่….อ๊ะ…” แล้วทุบไหล่หนาของเขาเบาๆ
มือหนาของคนรักหนุ่มยกเอวคอดของนางขึ้นด้วยสองมือ แล่้วยกวางพาดบนก้อนหินใหญ่ตรงหน้าของเขา เรือนร่างขาวผ่องของสตรีคนรักเกยอยู่บนก้อนหินก้อนใหญ่นั้นเพียงครึ่งร่าง และแล้วใบหน้าหล่อคมนั้นก็ก้มลงจนชิดสองเต้างามที่กำลังกระเพื่อมด้วยจังหวะหอบหายใจของคุณหนูสาวที่รุนแรงขึ้นด้วยอารมณ์ปรารถนาของนางเอง
ที่เพิ่งจะรู้ว่าตนเองเป็นสตรีที่ร่านร้อนเช่นนี้ เพียงถูกเขาเปิดเปลือยตัวตนของนางเพียงครั้งแรก แต่นางก็รู้อยู่แก่ใจเหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะบุรุษผู้นี้คือคนที่นางรัก ที่นางรักมากเหลือเกิน จนพร้อมมอบทุกสิ่งให้แก่เขา
จากที่พยายามเบี่ยงกายหนีเพราะนางเองก็ยังไม่เคยกับเรื่องเช่นนี้ แม้จะรักเขา แต่ก็อดที่จะกระดากและอับอายไม่ได้ แต่บัดนี้กลับกลายเป็นว่านางกำลังร้องครวญครางปานจะขาดใจ และโยกเข้าหาร่างหนาของที่กำลังจะกลายเป็นสามีของนางแล้วอย่างเร่าร้อน เพราะหงลี่รู้ว่านางรักชายผู้นี้ไปจนเต็มหัวใจ นางยอมเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น ชีวิตนี้นางไม่คิดจะมีชายอื่นใดทั้งสิ้นนอกจากเขา นางทอดร่างให้เขาอย่างเต็มใจ
บัดนี้ปากหยักหนาของเขาก็ครอบอยู่ที่เต้าอวบใหญ่ข้างหนึ่งของนาง เขาทั้งดูดเต้าอวบใหญ่ของนางด้วยจังหวะรุนแรง เหมือนเขาหิวกระหายมันเหลือเกิน ดังเช่นที่เขากระซิบบอกนาง ส่วนมืออีกข้างก็เข้าฟอนเฟ้นอกอวบใหญ่อีกข้างของนางไม่ให้น้อยหน้า
“ เมียจ๋า เจ้าพร้อมรับพี่หรือยัง…” เขาเงยหน้าขึ้นสบตานางด้วยดวงตาวาววับ ขณะที่นางแอ่นอกอวบใหญ่ขึ้นหาเขาด้วยความเสียวซ่าน นางบิดเร่าๆ อยู่บนก้อนหินตรงหน้าเขา ส่วนสองขาของนางเข้าเกี่ยวรั้งเอวสอบของเขาเข้าแนบชิด นางตอบเขาด้วยภาษากายที่นางกับเขาต่างก็รับรู้มันอย่างเข้าใจ
และแล้วเจ้าลูกชายตัวร้ายที่ขยายใหญ่เต็มที่แล้ว ก็สอดเข้าไปในร่องรักของสตรีตรงหน้าในทันที มันค่อยๆ ขยับเข้าไป โดยที่นางเองก็เกี่ยวกระหวัดรัดเอวของเขาแน่นเข้า และในที่สุด มันก็มุดเข้าไปในร่องรักของนางจนมิดลำกาย กระทุ้งปลายทางอย่างแรง
“ โอ้ย…..ท่านพี่ ข้าเจ็บ เจ็บเหลือเกิน ” หงลี่ตกใจจากความเจ็บแสบแทบจะขาดใจ หลังจากที่เสียวซ่านจนเคลิบเคลิ้มไปหมด อยู่ๆ นางก็ร้องขึ้นอย่างตกใจเพราะความเจ็บแสบที่คาดไม่ถึง
“ ทนอีกนิด แล้วเจ้าจะดีขึ้นเชื่อพี่ ” หลี่หมิงกระซิบเบาๆ เพื่อปลอบโยนคนรัก เขารู้ว่าตัวตนของตนใหญ่นั้นใหญ่มากเพียงใด และยิ่งนางไม่เคยชาย แต่ในเมื่อหัวใจของเขามันมีเพียงนางก็ยิ่งทำให้อารมณ์รักที่มีต่อนางนั้นมันมากมาย จนกระทั่งลำกายขยายใหญ่เต็มที่ ทำให้ร่องรักของสตรีคนรักนั้นฉีกขาดและเจ็บปวดมากมายเพียงถึงนี้
เขายอมทนแช่ตัวตนเอาไว้เพราะไม่ต้องการให้นางได้รับประสบการณ์ที่เลวร้าย เขากัดฟันทน เพราะเขาเองก็เจ็บปวดลำกายเหลือเกิน ด้วยเพราะถูกบีบรัดไปทุกด้านจนแน่นไปหมด และแล้วก็ตัดสินใจก้มลงจูบสตรีใต้ร่างอีกครั้ง จูบแล้วจูบอีก จูบอย่างหิวกระกายจนกระทั่งสตรีใต้ร่างเคลิบเคลิ้มไปกับเขาอีกครั้ง
แล้วบทรักที่เร่าร้อน รุนแรง และถี่ยิบ กระแทกๆๆๆๆ ไม่ยั้ง จึงได้เริ่มต้นขึ้น บั้นเอวสอบโยกไหวรัวเร็วไม่พัก ขณะที่สตรีใต้ร่างนั้นบัดนี้ความเจ็บแสบได้จางหายไปหมดแล้ว เหลือเพียงความเสียวซ่านจนแทบจะกรีดร้อง นางแอ่นร่างส่ายไปมา บิดกายเร่าๆ ปากก็ร้องครวญครางปานจะขาดใจ
และแล้วจังหวะรักที่มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่รู้ ก็ดำเนินต่อไป หลี่หมิงที่บัดนี้ถือว่าตนเองคือสามีของนางอย่างเต็มตัวแล้ว เพราะเขาก็ยอมรับกับตนเองเขาทั้งรักทั้งหลงไหลนาง จนตอนนี้ก็แทบจะหลงจนโงหัวไม่ขึ้น
เขายอมรับ นางร่าน ร่านถูกใจเขามาก บั้นเอวสอบโยกไหวถี่รัว กระแทกๆๆๆๆๆ เขาหาร่องรักของสตรีตรงหน้าอย่างรุนแรง เขายกสะโพกนางให้ขึ้นมาวางบนก้อนหินให้ได้ระดับเดียวกับเขา เพื่อการกระแทกกระทั้นที่ได้จังหวะรับกันอย่างพอดี
“ โอ้วววว โอ้วววว ลี่เอ๋อ โอ้้วววว โอ้ววววว ” เขาร้องครวญครางปานจะขาดใจ ร้องเรียกชื่อของนางไม่ขาดปาก นางถูกใจเขายิ่งนัก เขาดีใจที่ตัดสินใจรวบรัดนางให้ตกเป็นของเขาเสีย อย่างไรชาตินี้เขาตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะต้องได้นางเป็นภรรยา ในไม่ช้าก็เร็ว
จนในที่สุดพวกเขาสองคนก็กลายเป็นสามีภรรยาอย่างเต็มตัว ที่เมื่อกลับไปแล้ว เขาจะไปสู่ขอนางทันที นางคือเมียของเขา และเขาจะไม่มีทางให้นางหนีเขาไปได้พ้นอย่างแน่นอน
เขาจะสัญญากับว่าที่พ่อตาว่าเขาจะตั้งใจทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวเพื่อให้คู่ควรกับนาง แม้ตอนนี้เขาจะฐานะยากจน แต่เขาก็จะตั้งใจสร้างฐานะอย่างขยันขันแข็งที่สุด เพื่อที่ลี่เอ๋อของเขาจะไม่ต้องอับอายผู้ใดในอนาคต
มือบางของนางเสยเข้าที่เส้นผมของฮ่องเต้หนุ่มอย่างไม่เกรงกลัวอีกต่อไป แต่เขาก็มิได้ว่าอะไรนางสักคำปล่อยให้นิ้วน้อยๆ ของนางเสยเข้าไปในเส้นผมดกหนาของเขา แล้วโน้มศีรษะของเขาลงมาจนชิดอกอวบใหญ่ที่แอ่นระแน้ขึ้นหาเขา เสียงดูดจ๊วบจ๊าบดังขึ้นอย่างหยาบคาย ฮ่องเต้หนุ่มไม่ได้สนใจสิ่งใดนอกจากเต้าอวบคู่หวานตรงหน้า เขาสลับเชยชมมันไปมาทั้งสองข้าง ดูดดื่มมันดังเช่นทารกกระหายนมมารดากระนั้น ส่วนสตรีร่างบางแต่เมื่อยามเปลือยเปล่าเรือนร่างกลับอวบอิ่มงดงามยิ่งนัก นางร้องครวญครางปานจะขาดใจ เมื่อถูกทั้งดูดทั้งไล้เลียสลับกันไปทั้งสองข้าง เมื่อดูดเต้าหวานของสตรีบนตักจนพอใจแล้ว เขาก็เงยหน้าขึ้นสบตาที่เต็มไปด้วยไฟสวาทของสนมตัวน้อยของเขา และแล้วใบหน้าของทั้งสองก็เลื่อนเข้าหากัน แล้วจูบที่ดูดดื่มและเร่าร้อนเหมือนหิวกระหายในกันและกันเหลือแสนก็เริ่มต้นขึ้น จูบนั้นยาวนานเหลือเกิน นานจนหงลี่แทบจะขาดใจ ฮ่องเต้หนุ่มจึงยอมปล่อยนาง ขณะที่มือหนาของเขาก็สอดเข้าไปใต้กระโปรงที่บัดนี้เลิกขึ้นมาอยู่ที่เอวคอดของนาง ส่วนด้านล่างนั้นเปลือยเปล่า ชั้นในตัวน้อยที่ผูกปมเอาไว้ที่สะโพกทั้งสองข้างนั้นไม่ทราบว่าหายไปที่ใดแล้
ระหว่างนี้เขาก็ยกสุราขึ้นดื่มอวยพรเป็นระยะ เวลาที่เหล่าชายาของเขากล่าวอวยพระพระมารดา รวมถึงเหล่าขุนนางทั้งหลายที่พากันยกจอกสุราดื่มอวยพร และพากันทะยอยมอบของขวัญบรรณการกันเป็นระยะ รวมถึงเหล่าภรรยาใหม่ๆทั้งหลายของเขาที่พากันถวายของขวัญแก่พระมารดาของเขาเพื่อเอาอกเอาใจกันเป็นระยะ บางนางมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยของขวัญก็ย่อมจะล้ำค่าราคาแพงและแปลกตา ไทเฮาขอบคุณเหล่าสะใภ้และขุนนางที่เข้าถวายของขวัญแก่พระนางส่วนสนมปลายแถวเช่นหงลี่จะมีอะไรไปถวายว่าที่แม่สามีกันเล่า ได้แต่เฝ้ามองคนอื่นๆ มอบของขวัญ และเฝ้ามองการแสดงตรงหน้าที่สลับกันมาให้ความบันเทิงในหลากหลายรูปแบบเท่านั้นเมื่องานเลี้ยงใกล้จะเลิกรา ก็มีการถวายพระพรกันอีกครั้งและก็กล่าวปิดงานโดยไทเฮาและฮ่องเต้ที่ขอบใจเหล่าบรรดาราชวงศ์และขุนนางน้อยใหญ่ที่มาเข้าร่วมถวายพระพรองค์ไทเฮา และเหล่าแขกที่มาร่วมงานก็เริ่มทะยอยกันออกไปจากท้องพระโรง ส่วนฮ่องเต้และฮองเฮาเสด็จลงจากที่ประทับทางด้านข้าง และก็หายลับเข้าไปทางห้องด้านหลังเป็นอันว่าเสด็จกลับแล้ว พระชายาและสนมน้อยใหญ่ก็พากันลุกขึ้นแล้วก็ทะยอยกลับเช่นกัน รวมถึงเหล่าขุนนางด้วย ส่วนหงลี่ก็เม
ช่วงสายวันต่อมา ฟางเอ๋อเข้ามาแสดงความยินดีกับพระสนมหยูนายหญิงของตนเอง เพราะนางดีใจเหลือเกินที่ฮ่องเต้เสด็จมาหาพระสนมที่ตำหนักนี้และอยู่ค้างคืนจนกระทั่งเช้าจึงได้กลับไป นับว่าเป็นข่าวดีนัก ที่พระสนมที่เกือบจะปลายแถวเช่นนายหญิงของตนได้รับใช้องค์ฮ่องเต้ในเวลาอันรวดเร็วเช่นนี้ ขนาดพระชายาที่รับการแต่งตั้งถึงสามนางยังไม่มีผู้ใดได้รับโอกาสในการถวายการรับใช้ดังเช่นนายหญิงของตนเลย“ บ่าวยินดีกับพระสนมจริงๆนะเพคะ ที่ท่านได้มีโอกาสปรนนิบัติฮ่องเต้แล้ว และรวดเร็วกว่าสตรีใดในวังหลังแห่งนี้เลยนะเพคะ หม่อมฉันทราบในตอนแรกแทบจะไม่เชื่อเลยว่าพระสนมจะได้ปรนนิบัติองค์ฮ่องเต้ได้รวดเร็วปานนี้ บ่าวได้ยินว่าขนาดพระชายาสามพระองค์นั่นยังไม่ได้มีโอกาสรับใช้ฮ่องเต้เลยนะเพคะ ”ฟางเอ๋อนางกำนัลน้อยกล่าวอย่างยินดีในบุญวาสนาของนายหญิงตนเอง ขณะที่นางกำลังปรนนิบัตินายหญิงหลังจากอาบน้ำแล้ว ก็หวีผมยาวสลวยให้และกำลังติดเครื่องประดับผมที่มีขันทีนำมามอบให้เมื่อวานนี้ ใบหน้าของหงลี่เปลี่ยนสีไปทันที ใครบอกว่าฮ่องเต้เสด็จมาที่ตำหนักของนางกัน ชายคนเมื่อคืนที่เคี่ยวกรำนางแทบจะทั้งคืนกว่าจะยอมปล่อยให้นางนอนหลับ แ
หลี่หมิงดึงรั้งอาภรณ์ของสตรีใต้ร่างจนแทบจะหลุดลุ่ย เขาฉีกตูโต้วผืนบางของนางออกจนขาดเป็นทาง แล้วแหวกกระโปรงผ้าเนื้อบางเบาของนางออก เลิกมันขึ้นไปจนสูง เปิดเปลือยเนินเนื้ออวบใหญ่ที่คุ้นตาให้แก่เขา หลี่หมิงถอดกางเกงของตนเองอย่างรวดเร็ว แล้วจับเจ้าลูกชายของเขาถูไถเนินเนื้อของนางไปมา แต่ไม่ยอมสอดเข้าไป เพียงถูไถมันไปมาเพียงเท่านั้น ส่วนสตรีใต้ร่างก็ดิ้นรนขัดขืนไม่สมยอมเขาดังเช่นที่เคยผ่านมา “ ปล่อยข้านะ ปล่อยข้า เจ้าคนชั่ว เจ้าคนเลวอย่าทำอะไรข้านะ ไม่อย่างนั้นข้าจะร้องให้คนช่วย ออกไปจากเรือนของข้านะ ” นางกรีดร้อง แต่ก็ไม่กล้าเสียงดังจนเกินไปเพราะเกรงจะมีคนได้ยิน แล้วหลี่หมิงจะเดือดร้อน นางแค่ต้องการให้เขาโกรธและเลิกมายุ่งเกี่ยวกับนางแต่หลี่หมิงไม่สนใจเสียงข่มขู่นั้น เขากลับก้มลงดูดอกอวบใหญ่ที่สั่นไหวอยู่ใต้ร่าง เขาขบกัดผลอิงเถาของนางอย่างแรง สลับกับไล้เลียมันไปมา หงลี่พยายามดิ้นรนไม่ยอมให้เขากระทำตามใจ แต่ยิ่งดิ้นยิ่งถูกดูด เขาดูดเต้าหวานของนางจนแทบจะเข้าไปในปากทั้งเต้า ดูดอย่างแรง ดูดสลับกับไล้เลียชิมรสของมัน ดูดจนสตรีใต้ร่างเลิกดิ้นรนหนี แต่เปลีี่ยนไปเป็นดิ้นพล
หลังจากผ่านไปกว่าสิบวัน หงลี่ก็เริ่มดีขึ้น นางทำใจได้แล้ว เพราะถึงทำใจไม่ได้นางก็ทำอะไรไม่ได้ ครอบครัวที่ถูกเนรเทศไปก็ยังดีกว่าถูกประหาร นางได้คิดก็เพราะมีนางกำนัลวัยกลางคนที่นำอาภรณ์และข้าวของมาให้กับนางได้เตือนสตินางเช่นนี้ ใช่ อย่างน้อยพวกเขาก็ยังไม่ตาย แค่เพียงย้ายถิ่นฐานไปอยู่แคว้นอื่น หากมีวาสนาภายหน้าอาจจะได้พบกัน ส่วนนางบัดนี้มาอยู่ในวังหลวง ไม่ได้ทำการงานอะไร เพียงนั่งทอดถอนหายใจทิ้งไปไว้ๆ นางมาอยู่ที่นี่ได้เพียงสองวันก็มีสาวใช้นางหนึ่งมาแนะนำตัวกับนาง ว่ามีชื่อว่าฟางเอ๋อ ได้รับมอบหมายให้มาเป็นนางกำนัลประจำตัวของพระสนม แม้นางจะเป็นสนมขั้นต่ำสุด แต่ก็ยังมีคนรับใช้ และเมื่ออยู่ๆ ไปก็ได้รับความรู้จากนางกำนัลที่มารับใช้ว่านางคือพระสนมขั้นเฟย ที่เป็นชั้นต่ำสุดในบรรดาพระสนม และพระสนมทุกคนในวังหลวงก็ใช่ว่าจะได้ถวายตัวให้แก่ฮ่องเต้ บางคนก็ไม่เคยได้พบหน้าพระองค์เลยด้วยซ้ำ ฟางเอ๋อยกตัวอย่างฮ่องเต้รัชกาลที่ผ่านมาให้ฟังส่วนฮ่องเต้องค์ใหม่พระองค์นี้ เพิ่งจะรับนางสนม และพระชายาเข้ามาเป็นชุดแรก ส่วนฮองเฮายังไม่ได้สถานปนาเพราะพระองค์เพิ่งขึ้นครองราชย์ หงลี่นั่งรับฟังก
แต่คำตอบของหงลี่ก็คือการที่นางตวัดฝ่ามือตบหน้าของเขาดังฉาด “ ออกไปนะ ออกไปจากห้องของข้า ไม่อย่างนั้นข้าจะตะโกนให้คนรู้กันทั้งจวนว่าเจ้าลอบเข้ามาในห้องนอนของข้า ” หลี่หมิงชะงักไป เขาจ้องมองใบหน้าที่มองเขาด้วยดวงตาเฉยชา นางมองเมินไปทางอื่น หลี่หมิงจ้องมองใบหน้างามของอดีตคนรักแล้วก็ตัดสินใจถอยออกไปจากเรือนของนาง คนที่ไม่มีใจต่อให้เขายื้อยุดนางเอาไว้แทบตาย ก็คงจะยื้อนางเอาไว้ไม่ได้เขามาที่นี่ก็เพื่อให้แน่ใจว่าเขาได้ยินไม่ผิดไป นางไม่ได้มีใจให้เขา แค่เพียงหลอกปั่นหัวเขาเล่นๆ และวันนี้เขาแน่ใจแล้วว่านางไม่ได้รักเขาจริงๆเขากลับออกมาเพราะเสียใจที่ได้รู้ว่าอดีตคนที่เขาคิดว่ารักกลับไม่ได้รักตนเอง เพียงหลอกลวงเล่น ๆ และนางนั้นมิได้รักบุรุษใดทั้งสิ้น รักเพียงเงินของบุรุษผู้นั้น ส่วนเขาไม่มีสิ่งที่นางอยากได้นางจึงไม่ต้องการแต่งงานกับเขาอยู่แล้ว หลี่หมิงเสียใจและผิดหวังเหลือเกิน เขาเดินออกมาจากเรือนของสตรีอดีตคนเคยรักแล้วก็ลัดเลาะออกมาจากจวนของขุนนาง หยูได้อย่างปลอดภัย หลังจากค่ำคืนแห่งรักและแค้นคืนนั้น หลี่หมิงก็ลอบออกมาจากจวนของขุนนางหยูแล้วก็กลับเรือนของตนเองไปเขาตั้งใจว







