พวกเขาเข้าหอล่วงหน้าแล้ว แม้ในคราวแรกเขาไม่ได้ตั้งใจเลย เขาคิดจะถนอมนางเอาไว้จนกว่าจะถึงวันวิวาห์ของพวกเขา แต่ครั้งนี้ความใกล้ชิด ถูกเนื้อต้องตัวกันมันพาให้อารมณ์หนุ่มของเขาเตลิดจนกู่ไม่กลับ แต่เมื่อได้ล่วงเกินกันแล้วก็หยุดยั้งตนเองไม่ได้อีกต่อไป
เมื่อกลับไปแล้ว ก็จะไปสู่ขอนางกับบิดามารดาของนาง แม้ในตอนนี้เขาจะยังไม่พร้อมทางด้านฐานะ อาจจะดูต่ำต้อยกว่าครอบครัวของนางไปสักนิด แต่เขาเชื่อมั่นว่าอีกไม่นานเขาจะสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวให้มีฐานะที่เป็นปึกแผ่นมากกว่านี้ เขาจะไม่ยอมให้หงลี่น้อยหน้าผู้อื่นอย่างแน่นอน
ส่วนหงลี่บัดนี้นางโยกสะโพกอวบอัดเข้าหาชายที่กำลังโยกกระแทกนางอย่างรุนแรงนี้ นางเองก็หลงรักเขาดังเช่นที่เขาหลงรักนาง และยิ่งได้ตกเป็นของกันและกันแล้ว ความผูกพันธ์ของพวกเขาสองคนก็จะยิ่งแน่นแฟ้นขึ้น บัดนี้พี่หลี่หมิงไม่ใช่เพียงคนรักในความลับของนางอีกแล้ว แต่เขาคือสามีที่นางจะต้องได้แต่งงานกับเขาอย่างแน่นอน หงลี่คิดด้วยความสุขใจ นางยกแขนเรียวขาวเกี่ยวต้นคอของสามีหมาดๆ ลงมา แล้วทั้งสองก็จูบกันอย่างดูดดื่ม
บทรักในสายธารน้ำตกดำเนินไปจนกระทั่งแตกระเบิดในเวลาไล่เลี่ยกัน แต่ช่างไม้หนุ่มก็ไม่ยอมถอดถอนกายออกจากร่างงามของภรรยาที่เขายอมรับอย่างเต็มปากว่าคือนาง เขายกร่างของนางให้เกี่ยวกระหวัดรัดที่บั้นเอวเขาให้แน่นขึ้น และหงลี่ก็รู้ความนัก นางยกแขนเรียวขึ้นโอบต้นคอสามีหมาดๆ ให้แน่นขึ้นอีก แล้วเกี่ยวขาเรียวงามไว้ที่เอวของเขา และแล้วจังหวะรักที่เร้าใจเหลือเกินก็เริ่มต้นขึ้นใหม่อีกครั้ง
หงลี่เสียวซ่านจนแทบจะขาดใจ นางร้องครวญครางอย่างบ้าคลั่ง ยกสะโพกอวบอัดลงกดกระแทกสามีที่อุ้มกระเตงนางเดินไปกระแทกไปอย่างเร่าร้อน ในบริเวณโพลงถ้ำใต้น้ำตกนั้น และแล้วสองร่างก็มาอยู่ใต้สายธารน้ำตกที่หลั่งไหลอย่างรุนแรง และโยกขย่มกันอีกครั้งอย่างเร่าร้อน เสียงร้องครวญครางผสานกันดังก้อง แต่ก็มิอาจจะดังไปกว่าสายน้ำที่กำลังไหลกระแทกโขดหินเสียงดังสนั่นไปได้
พวกเขาอยู่ใต้สายธารน้ำตกภายในซอกหินใต้สายธารนั้น และบัดนี้กำลังโยกขย่มกันอย่างเร้าใจนัก เสียงร้องครวญครางของทั้งหญิงและชายผสานกันเสียงดังอย่างรุนแรง บทรักที่เร่าร้อนใต้สายธารน้ำตกนั้นทั้งเร้าใจและตื่นเต้น จนหงลี่แทบจะบ้า เพราะนางทั้งเสียวซ่านจนเกินจะทนได้ ชายผู้นี้เกิดมาเพื่อเป็นของนาง และจะต้องเป็นของนางเพียงเท่านั้น
สะโพกอวบโยกเข้าหาลำกายแกร่งของเขาอย่างร่านร้อน ขณะที่ลิ้นทั้งสองก็เข้าเกี่ยวพันกันอย่างดูดดื่ม บทรักที่เร่าร้อนดำเนินไปท่ามกลางธรรมชาติที่งดงาม จนสองสามีภรรยาหมาดๆ นั้นมีความสุขอย่างมากมาย พวกเขาไม่ได้สนใจรับรู้สิ่งใด และหลงลืมทุกๆอย่างที่ทิ้งเอาไว้เบื้องหลังไปจนหมดสิ้น เวลานี้มีเพียงพวกเขาสองคนเพียงเท่านั้น
เมื่อต่างก็เริงรักกันจนพอใจแล้ว ทั้งสองก็ต่างพากันไปอาบน้ำด้วยกัน แล้วก็พากันเดินขึ้นไปที่ริมฝั่งที่พวกเขาถอดอาภรณ์วางทิ้งเอาไว้ แล้วก็พากันสวมอาภรณ์อยู่ข้างๆ กัน
หงลี่ถูกสายตาคมของสามีหมาดๆจ้องมองไม่คลาดสายตา เขาขยันส่งสายตาหวานฉ่ำให้กับนางจนแทบจะกลืนกิน ความรักของหนุ่มสาวที่กำลังเบ่งบานนั้น ทำให้ทั้งสองต่างก็มีความสุขและมีความหวังอย่างมากว่าจะได้ครองคู่กัน
เมื่อต่างก็สวมอาภรณ์เสร็จสิ้นแล้ว ช้างไม้หนุ่มก็จูงมือคนรักที่บัดนี้กลายมาเป็นเมียของเขาแล้ว พากันเดินออกไปที่ข้างทางที่เป็นเส้นทางที่มุ่งเข้าสู่ในเมือง เขาจูงมือนางเดินเลียบทางมาเรื่อยๆ
จนกระทั่งถึงที่ประตูเมืองในเวลาไม่นานนัก เพราะน้ำตกที่เขาไปเที่ยวเล่นกันนั้นอยู่ในป่าข้างทางที่ลึกเข้าไปและต้องเป็นผู้ที่ชำนาญเส้นทางเท่านั้นถึงจะเข้าไปได้ถูกและกลับออกมาอย่างไม่หลงป่าไปเสียก่อน
และความลับของพวกเขาก็ไม่มีผู้ใดมารับรู้ได้ แต่บัดนี้เมื่อได้นางเป็นภรรยาแล้ว หลี่หมิงก็อยากจะครองคู่กับหงลี่อย่างเปิดเผย แม้ในตอนแรกอาจจะลำบากไปสักนิด แต่เขาก็พอมีเงินเก็บออมอยู่บ้าง เขาคิดว่าเพียงไม่กี่ปีเขาจะสร้างบ้านหลังใหม่ในที่ดินของมารดา เพื่อให้หงลี่ได้อยู่สุขสบายพร้อมกับเขาและมารดาด้วย
และช่วยกันสร้างครอบครัวที่มีเขาเป็นหัวหน้าครอบครัว เขาจะขยันขันแข็งอย่างที่สุด ก็เพื่อให้มารดาและภรรยาหมาดๆ ของเขาคนนี้ได้อยู่อย่างสุขสบายและก็เพื่อบุตรของเขากับนางที่จะต้องมาเกิดในอีกไม่นานนี้ได้อยู่อย่างมีความสุขแสะสะดวกสบายไม่น้อยหน้าผู้ใด
ความฝันของช่างไม้หนุ่มช่างบรรเจิดนัก เขาและหงลี่มีความฝันของวัยหนุ่มสาวแรกรุ่นที่ไม่คิดว่าอุปสรรครักของพวกเขานั้นจะมีสิ่งใดมากมาย แต่เรื่องใจของคนนั้นยากจะหยั่งถึง และครอบครัวของหงลี่ก็ไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดา แม้จะเป็นเพียงขุนนางขั้นสาม แต่พวกเขาก็ถือตัวนักว่าสูงส่งกว่าชาวบ้านร้านถิ่นทั่วไป
และแน่นอนว่าการแอบมาเที่ยวเล่นเพื่อจะพลอดรักกับคนรักของหงลี่นั้นอยู่ในสายตาของบิดาที่ส่งคนสนิทมาสอดแนมและบัดนี้เขาได้รับรู้แล้วว่าคุณหนูรองของนายท่านนั้นได้ปล่อยตัวให้กับช่างไม้จนๆ นั่นไปเสียแล้ว
และเมื่อหงลี่กลับไปถึงจวนโดยมีคนรักตามไปส่ง และแยกตัวไปก่อนที่นางจะถึงจวนของบิดา เพราะเกรงว่าจะมีคนเห็นเข้าเสียก่อน เขาจึงได้แต่ยืนแอบส่งนางจนเห็นว่าคนรักก้าวเท้าเข้าไปในจวนบิดาแล้ว เขาจึงได้ย้อนกลับไปตามเส้นทางเดิมเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน อารมณ์ของช่างไม้หนุ่มนั้นดีนัก เขาเดินผิวปากอย่างรื่นเริงใจเพราะคิดว่าความรักของตนเองนั้นสมหวังแน่แล้ว
อีกไม่นานเขากับท่านแม่จะไปสู่ขอหงลี่ที่จวนบิดาของนาง และเขาคิดว่าบิดาของนางเมื่อได้รู้ว่าเขากับนางได้ตกเป็นของกันและกันแล้วก็คงจะไม่อาจจะขัดขวางได้ แต่เขาจะให้คำมั่นกับท่านพ่อตาว่าเขาจะเลี้ยงดูหงลี่อย่างดี และจะมุ่งมั่นสร้างฐานะให้เป็นปึกแผ่นในเวลาไม่นานนักอย่างแน่นอน
แต่เมื่อช่างไม้หนุ่มที่มีความฝันอันบรรเจิดอย่างไร้เดียงสาตามประสาชายหนุ่มที่เพิ่งเติบโตมาไม่นาน และยังไม่มีประสบการณ์์ชีวิตว่า บางครั้งคนเราก็ไม่ได้สมหวังในทุกอย่างเสมอไป และสิ่งที่เราคิดว่าง่ายดายไปทุกสิ่งนั้น มันอาจจะไม่ง่ายอย่างเช่นที่เราคิด
และคำสัญญาปากเปล่านั้นจะมีค่ามากกว่าเงินทองที่มากองตรงหน้าให้เห็นๆได้อย่างไรกัน และคนเราก็ต้องเลือกสิ่งที่หยิบจับได้ มองเห็นได้ตรงหน้า ไม่ใช่คำสัญญาที่เลื่อนลอย อันไม่แน่ว่าสิ่งที่สัญญานั้นผู้ให้คำมั่นจะทำได้ดังเช่นที่ตนเองรับปากหรือไม่
และบิดาของหงลี่ก็คิดเช่นนั้น เมื่อซ่งหลี่หมิงพามารดาผู้ชราไปสู่ขอหยูหงลี่ที่จวน พร้อมกับสินสอดจำนวนไม่มากนัก แต่แล้วเขาก็ได้รับรู้ความจริงที่แสนจะเจ็บปวด
กบฎนั้นก่อโดยอ๋องเผยอันน้องชายของฮ่องเต้องค์เก่าที่เพิ่งจะสวรรคตไป และนางเองอดีตฮองเฮาต้องหอบหิ้วบุตรชายหนีมาเพราะนางให้กำเนิดเขาเมื่ออายุมากแล้ว ทั้งๆที่ไม่เคยคิดมาก่อนว่านางจะสามารถมีบุตรได้ และแล้วสวรรค์ก็ประทานบุตรชายให้กับนาง เขาคือองค์รัชทายาท แต่ก็มิอาจจะครองบััลลังฆ์ตามที่ควรจะเป็นได้ เพราะถูกก่อกบฎไปเสียก่อน แต่นางยังมีความหวัง เพราะนางเชื่อเต็มหัวใจว่ายังมีขุนนางและแม่ทัพนายกองมากมายที่ยังภักดีต่อฮ่องเต้พระองค์เดิม และองค์รัชทายาทที่บัดนี้เติบใหญ่จนสามารถจะกลับไปทวงบังลังฆ์ที่ควรจะเป็นของเขากลับคืนมาได้แล้วส่วนสตรีต่ำต้อยที่เป็นเพียงบุตรีของขุนนางขั้นสามนั่นก็ไม่ได้คู่ควรกับองค์รัชทายาทเช่นหลี่หมิงสักนิด ดีแล้วที่มันแสดงธาตุแท้ออกมาก่อน ตอนแรกนางก็ไม่เห็นด้วยนักที่เขาจะรับบุตรีขุนนางขั้นสามมาเป็นชายา แต่เมื่อบุตรชายทั้งรักทั้งหลงสตรีนางนั้นมากเหลือเกิน แม่อย่างนางที่รักบุตรชายมากและสงสารในชะตากรรมของเขา ที่ควรจะอยู่ในที่สูงส่งแต่กลับต้องมาลำบากอยู่ปะปนกับชาวบ้านทั่วไปเช่นนี้แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะซ่งหลี่หมิงแท้จริงเขาคือองค์รัชทายาทที่ไม่นานจะต้องได้คืนบังลังฆ
“ น่าขบขันนัก เจ้าช่างไม้ต่ำต้อย เงินสินสอดแค่หยิบมือ คิดจะมาสู่ขอบุตรสาวของขุนนางอย่างข้า คิดหรือว่าข้าจะยกหงลี่ให้กับเจ้า ช่างน่าหัวเราะสิ้นดี คำสัญญาที่เจ้าบอกข้า มันจับต้องไม่ได้หรอกนะ เจ้าจะทำมันได้หรือไม่ก็ยังไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เจ้าคือช่างไม้รับจ้างที่ยากจน มีเพียงบ้านหลังเล็กๆ เอาไว้ซุกหัวนอนกับแม่ที่แก่ชราของเจ้า เพียงเท่านั้น ข้าไม่โง่เง่าพอที่จะยกบุตรสาวของข้าให้ไปตกระกำลำบากกับเจ้าหรอก เป็นการิอยากจะกินเนื้อหงส์ ช่างน่าขบขันนัก ” ขุนนางหยูเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าทมึงถึงขัดกับคำพูดของเขาที่บอกว่าคำสัญญาของหลี่หมิงช่างน่าขบขัน เขากับฮูหยินจ้องมองช่างไม้หนุ่มกับมารดาด้วยสายตาดูแคลนไม่ปิดบังซักนิด พวกเขาไม่ยอมเรียกบุตรสาวออกมาพบกับทั้งสองเลยด้วยซ้ำ “ แต่ข้ากับหงลี่เราได้เสียกันแล้ว หากท่านไม่ยอมให้นางแต่งงานกับข้าแล้วนางเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา จะทำเช่นไร ” ช่างไม้หนุ่มตัดสินใจใช่้ไม้ตายของเขาที่คิดว่าหากพูดออกไปแล้วพ่อตาแม่ยายอาจจะใจอ่อนยอมให้หงลี่กับเขาแต่งงานกันก็เป็นได้“ หากนางตั้งครรภ์ข้าก็จะไม่เก็บเจ้าเด็กนั่นไว้ประจานสกุลของข้าหรอกนะ หรือไม่ข้าก็จะให้นางรีบแต
พวกเขาเข้าหอล่วงหน้าแล้ว แม้ในคราวแรกเขาไม่ได้ตั้งใจเลย เขาคิดจะถนอมนางเอาไว้จนกว่าจะถึงวันวิวาห์ของพวกเขา แต่ครั้งนี้ความใกล้ชิด ถูกเนื้อต้องตัวกันมันพาให้อารมณ์หนุ่มของเขาเตลิดจนกู่ไม่กลับ แต่เมื่อได้ล่วงเกินกันแล้วก็หยุดยั้งตนเองไม่ได้อีกต่อไป เมื่อกลับไปแล้ว ก็จะไปสู่ขอนางกับบิดามารดาของนาง แม้ในตอนนี้เขาจะยังไม่พร้อมทางด้านฐานะ อาจจะดูต่ำต้อยกว่าครอบครัวของนางไปสักนิด แต่เขาเชื่อมั่นว่าอีกไม่นานเขาจะสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวให้มีฐานะที่เป็นปึกแผ่นมากกว่านี้ เขาจะไม่ยอมให้หงลี่น้อยหน้าผู้อื่นอย่างแน่นอน ส่วนหงลี่บัดนี้นางโยกสะโพกอวบอัดเข้าหาชายที่กำลังโยกกระแทกนางอย่างรุนแรงนี้ นางเองก็หลงรักเขาดังเช่นที่เขาหลงรักนาง และยิ่งได้ตกเป็นของกันและกันแล้ว ความผูกพันธ์ของพวกเขาสองคนก็จะยิ่งแน่นแฟ้นขึ้น บัดนี้พี่หลี่หมิงไม่ใช่เพียงคนรักในความลับของนางอีกแล้ว แต่เขาคือสามีที่นางจะต้องได้แต่งงานกับเขาอย่างแน่นอน หงลี่คิดด้วยความสุขใจ นางยกแขนเรียวขาวเกี่ยวต้นคอของสามีหมาดๆ ลงมา แล้วทั้งสองก็จูบกันอย่างดูดดื่ม บทรักในสายธารน้ำตกดำเนินไปจนกระทั่งแตกระเบิดในเวลาไล่เลี่ยกัน แ
บัดนี้ในป่าแถบนี้แทบจะร้างผู้คน ซ่งหลี่หมิงสำรวจทั้งหมดแล้ว จึงได้ปลอดโปร่งโล่งใจ เพราะเขาเป็นห่วงความปลอดภัยของคนรักของเขา ทั้งสองสบตากันนิ่ง ในดวงใจทั้งสองดวงเปี่ยมไปด้วยความรักที่แทบจะล้นปรี่ออกมา ดวงตาของทั้งคู่ต่างก็มีไฟปรารถที่ลุกโชนไม่ต่่างกัน และแล้วใบหน้าก็ค่อยๆเลื่อนเข้าหากัน และในที่สุดลิ้นร้ายที่ร้อนรุ่มนั่นก็สอดเข้ามาในปากอวบอิ่มที่อ้าออกน้อยอย่างเต็มใจ แขนเรียวของหงลี่ยกขึ้นโอบต้นคอชายตรงหน้าของนางเอาไว้ และแล้วจูบที่ดูดดื่มและเร่าร้อนก็เกิดขึ้น และดำเนินต่อไปจนคุณหนูสาวแทบจะขาดอากาศหายใจนางยกมือทุบไปที่ไหล่หนาของคนตรงหน้า คนรักหนุ่มจึงยอมปล่อยปากอิ่มของนางเป็นอิสระ และเข้าซุกไซร้พรมจูบสองแก้มนวลของนาง แล้วละเรื่อยมาที่ซอกคอขาวผ่อง เขาขบเม้มทำรอยรักเอาไว้ประปรายอย่างหวงแหน เพราะเขาถือว่าหยูหงลี่คือคนรัก ที่เขาจะต้องได้นางมาครอบครอง แม้ฐานะของพวกเขาจะแตกต่าง แต่เขาจะมุมานะสร้างตัวเพื่อให้คู่ควรกับนาง เพื่อจะได้ไปสู่ขอนางมาร่วมชีวิตกับเขาให้ได้เร็วที่สุด ที่อยู่ของนางคือข้างกายเขาเพียงเท่านั้น ชาตินี้เขากับนางจะต้องได้ครองคู่กัน เขาจะไม่ยอมให้มีสิ่
หยูหงลี่บุตรีขุนนางขัั้นสามที่อยู่ๆ ก็เกิดได้เข้าถวายตัวเป็นสนมของฮ่องเต้พระองค์ใหม่ที่เพิ่งได้รับการสถาปนา และนางก็พบว่าฮ่องเต้พระองค์นั้นคืออดีตชายคนรักที่นางสลัดเขาทิ้งก็เพราะนางจำต้องเลือกครอบครัว แม้นางจะรักเขามาก แต่ก็มิอาจจะหนีตามเขาไปได้ เพราะครอบครัวของนางที่บิดาเป็นขุนนางขั้นสาม แต่เมื่ออยู่ในเมืองเล็กๆ อย่างหนิงโจว ก็ย่อมจะดูสูงส่งกว่าชาวบ้านโดยทั่วไป และบิดาไม่มีทางยอมรับเขยที่เป็นเพียงช่างไม้จนๆได้ อดีตชายคนรักที่มีนามเดิมว่า ซ่งหลี่หมิง เขาเป็นบุตรชายของสตรีหม้ายนางหนึ่งที่ไม่มีผู้ใดในหมู่บ้านหรือตำบลท่ี่นางย้ายมาอยู่รู้ว่าสองแม่ลูกมาจากที่ใด พวกเขาทราบเพียงว่าท่านป้าซ่งผู้นั้นหอบบุตรชายที่ยังเป็นเพียงเด็กชายตัวน้อยๆ มาตั้งหลักปักฐานที่หมู่บ้านเล็กๆ ที่นอกเมืองหนิงโจว นางบอกกับใครๆ ว่านางเป็นหญิงหม้ายเพราะสามีเสียชีวิตไปแล้ว และนางเองก็ไร้ญาติขาดมิตร มีเงินทองติดตัวมาเพียงเล็กน้อยจึงได้ขอซื้อที่ดินของหัวหน้าหมู่บ้านที่ยอมแบ่งขายให้ผืนหนึ่งซึ่งนางก็จ้างชาวบ้านที่นั่นช่วยกันปลูกบ้านหลังเล็กๆ และล้อมรั้วให้แน่นหนาให้พอเป็นที่พำนักของหญิงหม้ายเช่นนางกับบุตรชายไ