หน้าหลัก / รักโบราณ / สนมวังเย็นที่แสนรัก / บทที่ 4 กาอยากจะกินเนื้อหงส์

แชร์

บทที่ 4 กาอยากจะกินเนื้อหงส์

ผู้เขียน: Lovedee
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-02 16:07:12

“  น่าขบขันนัก เจ้าช่างไม้ต่ำต้อย เงินสินสอดแค่หยิบมือ  คิดจะมาสู่ขอบุตรสาวของขุนนางอย่างข้า  คิดหรือว่าข้าจะยกหงลี่ให้กับเจ้า  ช่างน่าหัวเราะสิ้นดี  คำสัญญาที่เจ้าบอกข้า  มันจับต้องไม่ได้หรอกนะ  เจ้าจะทำมันได้หรือไม่ก็ยังไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เจ้าคือช่างไม้รับจ้างที่ยากจน มีเพียงบ้านหลังเล็กๆ เอาไว้ซุกหัวนอนกับแม่ที่แก่ชราของเจ้า เพียงเท่านั้น ข้าไม่โง่เง่าพอที่จะยกบุตรสาวของข้าให้ไปตกระกำลำบากกับเจ้าหรอก  เป็นการิอยากจะกินเนื้อหงส์  ช่างน่าขบขันนัก ” 

ขุนนางหยูเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าทมึงถึงขัดกับคำพูดของเขาที่บอกว่าคำสัญญาของหลี่หมิงช่างน่าขบขัน    เขากับฮูหยินจ้องมองช่างไม้หนุ่มกับมารดาด้วยสายตาดูแคลนไม่ปิดบังซักนิด 

พวกเขาไม่ยอมเรียกบุตรสาวออกมาพบกับทั้งสองเลยด้วยซ้ำ  “ แต่ข้ากับหงลี่เราได้เสียกันแล้ว หากท่านไม่ยอมให้นางแต่งงานกับข้าแล้วนางเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา  จะทำเช่นไร ” ช่างไม้หนุ่มตัดสินใจใช่้ไม้ตายของเขาที่คิดว่าหากพูดออกไปแล้วพ่อตาแม่ยายอาจจะใจอ่อนยอมให้หงลี่กับเขาแต่งงานกันก็เป็นได้

“ หากนางตั้งครรภ์ข้าก็จะไม่เก็บเจ้าเด็กนั่นไว้ประจานสกุลของข้าหรอกนะ  หรือไม่ข้าก็จะให้นางรีบแต่งงานออกไปให้เร็วที่สุด เพราะบุตรชายคหบดีเหยาก็ส่งคนมาสู่ขอนางแล้ว  และข้าก็คงจะเลือกบุตรชายคหบดีที่ร่ำรวยมากในเมืองนี้มาเป็นบุตรเขยมากกว่าจะเลือกช่างไม้จนๆอย่างเจ้า  

เอาละออกไปจากจวนของข้าได้แล้ว  เดี๋ยวเกิดว่าที่บุตรเขยของข้ารู้เข้า หงลี่จะเสื่อมเสียไปเสียเปล่าๆ นางจะต้องเตรียมตัวแต่งงานในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว  เจ้าพาแม่ของเจ้าออกไปจากจวนของข้า  แล้วไม่ต้องกลับรับจ้างทำงานที่จวนของข้าอีก  ข้าจะให้เจ้านายของเจ้าหาคนงานใหม่มาทำงานแทนเจ้า  ชิ… เจ้าคนไม่เจียมตน "  

แต่เมื่อซ่งหลี่หมิงดื้อดึงเพราะเขาไม่อยากให้หงลี่แต่งงานไปกับชายอื่น  แม้มารดาจะห้ามปรามแต่เขาก็ไม่ฟัง  ก็เพราะเกรงว่าจะสูญเสียคนรักที่กลายเป็นภรรยาของเขาแล้วไป  นั่นทำให้ขุนนางหยูสั่งให้บ่าวชายในจวน  รุมกันทุบตีเขา กระทืบเขาต่อหน้าต่อตาของทุกคนที่บริเวณหน้าเรือนหลักในจวนสกุลหยู

และเพียงไม่นานหงลี่ก็วิ่งออกมา  แต่นางถูกสาวใช้สามคนช่วยกันจับเอาไว้  “ ปล่อยข้านะ ปล่อย  อย่าทำพี่หลี่หมิงนะ อย่าทำเขา  อย่านะ ”  ท่านพ่อของนางเมื่อหันไปเห็นบุตรสาววิ่งมาห้ามปรามไม่ให้เขาทุบตีเจ้าคนไม่เจียมตัวคนนี้  เขาก็รีบเดินไปใกล้ๆบุตรสาวของตนเอง  แล้วพูดด้วยเสียงเบาๆว่า

“ หงลี่  หากเจ้าไม่บอกให้เจ้าหมอนี่มันไปให้พ้นจวนของข้าข้าจะให้บ่าวรุมทุบตีมันให้พิการหรือไม่ก็ตายไปเลย  บอกมันไปว่าเจ้าเลือกคุณชายเหยาและกำลังจะแต่งงานกับเขาในอีกสามวันนี้แล้ว บอกมันไป หากไม่อยากให้มันพิการหรือตายไปต่อหน้าของเจ้า ”  ขุนนางหยูกระซิบบอกบุตรสาว

หงลี่ตกใจนัก นางหันไปมองคนรักของนางที่ถูกรุมกระทืบอยู่ตรงหน้าเรือนของบิดา  เมื่อมองเห็นเลือดของเขาเริ่มออกมามากมาย  และแม่ของเขาก็กำลังทรุดนั่งร้องไห้อยู่ไม่ไกลจากร่างของบุตรชายนัก  นางไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากรีบตะโกนออกไปว่า

 “ พี่หลี่หมิง  ท่านพาท่านป้ากลับไปเสียเถิด  ข้าไม่ได้รักท่านแล้ว  ข้ากำลังจะแต่งงานกับคุณชายเหยา เพราะข้าพึงใจเขา  และไม่ต้องการไปลำบากกับท่าน  ข้าแค่หลอกท่านเล่นๆ  แค่เห็นว่าท่านหล่อเหลาก็เลยหลอกให้รักเล่นๆ แต่คนที่ข้าจะร่วมชีวิตด้วยนั้นต้องมีฐานะที่ร่ำรวย ไม่ใช่คนจนๆ ไม่มีอะไรเลยอย่างท่าน กลับไปเสียเถิด และอย่ากลับมาที่นี่อีก  ขอให้ลืมข้าเสีย  ให้ถือเสียว่าเราไม่เคยพบกัน ”  หงลี่ร้องตะโกนแม้น้ำตาของนางจะเอ่อคลอเต็มดวงตา

ด้านหลี่หมิงที่บัดนี้  บ่าวชายที่รุมล้อมเขาอยู่หยุดการทำร้ายเขาแล้ว  เขานอนตะแคงตัวอยู่บนพื้นและแหงนหน้าขึ้นจ้องมองคนรักที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก  ที่บัดนี้สาวใช้สามนางก็ปล่อยแขนหงลี่แล้วเช่นกัน  

หลี่หมิงเช็ดเลือดที่มุมปากแล้วก็ค่อยๆ ยันกายให้ลุกขึ้น  เมื่อทรงตัวขึ้นได้แล้ว  เขาหันไปมองหงลี่แล้วร้องถามว่า “ เจ้าพูดจริงหรือว่าเจ้าจะแต่งงานกับชายอื่น  ทั้งๆที่เจ้าเป็นเมียของข้าแล้ว  ” เขาถามย้ำกับนางเพื่อให้แน่ใจ  

หงลี่ที่บัดนี้นางรีบเช็ดน้ำตาไปก่อนที่หลี่หมิงจะทันได้สังเกตุแล้วรีบพูดออกมาทันทีว่า  “ ใช่  ข้าแค่หลอกท่านเล่น  ไม่ได้คิดจะจริงจังสักหน่อย ท่านคิดไปเองว่าข้าเองก็รักท่าน  ข้าจะบอกให้นะ  ว่าข้าไม่ได้รักท่านหรอก  ข้ารักเงินทองและบุรุษที่ข้าจะยอมร่วมชีวิตด้วยก็ต้องร่ำรวยเท่านั้น   และคนอย่างข้ารักแต่ตัวเอง  ไม่ใช่ชายใดทั้งนั้น  

ท่านรู้ความจริงเช่นนี้แล้วก็รีบกลับไปเถิด  แล้วอย่ากลับมาที่นี่อีก ”  หงลี่พูดแล้วก็หันหลังเพราะนางเกรงว่าเขาจะเห็นน้ำตาที่กำลังจะไหลรินลงมาอีกครั้ง

หงลี่รีบก้าวเท้าออกไปจากที่นั่น  แล้วมุ่งหน้าเดินกลับเรือนด้วยหัวใจที่แหลกสลาย  นางรักพี่หลี่หมิง  แต่นางมิอาจจะปล่อยให้ท่านพ่อทำร้ายเขาจนพิการหรือตายได้   นางรักเขามาก   แต่ชะตาของเขากับนางคงมิอาจจะครองคู่ร่วมกันได้ นางรู้ว่าท่านพ่อเอาจริง  เขาพูดจริง  หากนางยังไม่ยอมหยุด  นางเกรงว่าพี่หลี่หมิงจะเป็นอันตราย  

หากเขายังอยู่ที่เมืองหนิงโจวนี้  เขาก็ไม่ควรเป็นศัตรูกับบิดาของนาง  เพราะสำหรับชาวบ้านแถบนี้  ขุนนางยังคงเป็นคนใหญ่คนโตที่ไม่ควรจะยุ่งเกี่ยว  และนางก็รู้ว่าพี่หลี่หมิงกับท่านป้า  แทบจะไม่มีญาติพี่น้องและพวกพ้องในเมืองนี้เลย  เขาคงมิอาจจะต่อกรกับท่านพ่อของนางได้

นางเอ่ยคำร่ำลาเขาอยู่ในใจ  แต่ก็ไม่กล้าหันกลับไปมองเขา  นางทิ้งเขาเอาไว้ที่เบื้องหลังแล้วเดินจากมาพร้อมกับน้ำตาที่หลั่งไหลไม่ขาดสาย  ลาก่อนพี่หลี่หมิง  ข้ารักท่าน……..

ท่านป้าซ่งประคองบุตรชายที่สะบักสะบอมเพราะถูกรุมทำร้ายในจวนของขุนนางที่ไร้เมตตาเช่นขุนนางหยู  บิดาของสตรีแพศยานั่น  ป้าซ่งเคียดแค้นนัก  นังแพศยาร่านชาย  ถึงขนาดยอมทอดกายให้หลี่หมิงเชยชม  จนเขาหลงไหลมันแทบจะคลั่ง  แต่แล้วมันก็ทอดทิ้งเขาไปแต่งงานกับคนร่ำรวย  แน่ละ ฐานะของนางและบุตรชายยากจนนัก  

หากเป็นเมื่อก่อน…….คงไม่เกิดเรื่องเช่นนี้   ท่านป้าซ่งหยุดความคิดเอาไว้เพียงแค่นั้น  แล้วพยายามประคองบุตรชายกลับบ้านไป

ไม่มีผู้ใดในเมืองหนิงโจวแห่งนี้รู้ที่มาที่ไปของนางกับบุตรชาย  นางหนีมาซ่อนตัวอยู่ที่นอกเมืองหนิงโจวแห่งนี้  ไม่เคยปริปากบอกผู้ใดว่านางคือใคร มากจากที่ใด  นางหอบหิ้วบุตรชายตัวเล็กมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นี่  ก็เพราะสามีเสียชีวิตใช่…

สิ่งนั้นคือความจริงเพียงหนึ่งเดียวที่นางบอกกับคนอื่นๆ  แต่นางไม่เคยปริปากบอกใครว่านางคืออดีตฮองเฮาของแคว้นแห่งนี้  และซ่งหลี่หมิงที่ใครๆในเมืองนี้รู้จักก็คือ องค์รัชทายาท ที่จำเป็นต้องหนีมาลี้ภัยอยู่ที่บ้านนอกแห่งนี้  ก็เพราะว่าเกิดการก่อกบฎที่ในวังหลวง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • สนมวังเย็นที่แสนรัก   บทที่ 11 ความเกลียดที่เร่าร้อน nc

    มือบางของนางเสยเข้าที่เส้นผมของฮ่องเต้หนุ่มอย่างไม่เกรงกลัวอีกต่อไป แต่เขาก็มิได้ว่าอะไรนางสักคำปล่อยให้นิ้วน้อยๆ ของนางเสยเข้าไปในเส้นผมดกหนาของเขา แล้วโน้มศีรษะของเขาลงมาจนชิดอกอวบใหญ่ที่แอ่นระแน้ขึ้นหาเขา เสียงดูดจ๊วบจ๊าบดังขึ้นอย่างหยาบคาย ฮ่องเต้หนุ่มไม่ได้สนใจสิ่งใดนอกจากเต้าอวบคู่หวานตรงหน้า เขาสลับเชยชมมันไปมาทั้งสองข้าง ดูดดื่มมันดังเช่นทารกกระหายนมมารดากระนั้น ส่วนสตรีร่างบางแต่เมื่อยามเปลือยเปล่าเรือนร่างกลับอวบอิ่มงดงามยิ่งนัก นางร้องครวญครางปานจะขาดใจ เมื่อถูกทั้งดูดทั้งไล้เลียสลับกันไปทั้งสองข้าง เมื่อดูดเต้าหวานของสตรีบนตักจนพอใจแล้ว เขาก็เงยหน้าขึ้นสบตาที่เต็มไปด้วยไฟสวาทของสนมตัวน้อยของเขา และแล้วใบหน้าของทั้งสองก็เลื่อนเข้าหากัน แล้วจูบที่ดูดดื่มและเร่าร้อนเหมือนหิวกระหายในกันและกันเหลือแสนก็เริ่มต้นขึ้น จูบนั้นยาวนานเหลือเกิน นานจนหงลี่แทบจะขาดใจ ฮ่องเต้หนุ่มจึงยอมปล่อยนาง ขณะที่มือหนาของเขาก็สอดเข้าไปใต้กระโปรงที่บัดนี้เลิกขึ้นมาอยู่ที่เอวคอดของนาง ส่วนด้านล่างนั้นเปลือยเปล่า ชั้นในตัวน้อยที่ผูกปมเอาไว้ที่สะโพกทั้งสองข้างนั้นไม่ทราบว่าหายไปที่ใดแล้

  • สนมวังเย็นที่แสนรัก   บทที่ 10 ห้องอักษรที่เร้ารัก nc

    ระหว่างนี้เขาก็ยกสุราขึ้นดื่มอวยพรเป็นระยะ เวลาที่เหล่าชายาของเขากล่าวอวยพระพระมารดา รวมถึงเหล่าขุนนางทั้งหลายที่พากันยกจอกสุราดื่มอวยพร และพากันทะยอยมอบของขวัญบรรณการกันเป็นระยะ รวมถึงเหล่าภรรยาใหม่ๆทั้งหลายของเขาที่พากันถวายของขวัญแก่พระมารดาของเขาเพื่อเอาอกเอาใจกันเป็นระยะ บางนางมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยของขวัญก็ย่อมจะล้ำค่าราคาแพงและแปลกตา ไทเฮาขอบคุณเหล่าสะใภ้และขุนนางที่เข้าถวายของขวัญแก่พระนางส่วนสนมปลายแถวเช่นหงลี่จะมีอะไรไปถวายว่าที่แม่สามีกันเล่า ได้แต่เฝ้ามองคนอื่นๆ มอบของขวัญ และเฝ้ามองการแสดงตรงหน้าที่สลับกันมาให้ความบันเทิงในหลากหลายรูปแบบเท่านั้นเมื่องานเลี้ยงใกล้จะเลิกรา ก็มีการถวายพระพรกันอีกครั้งและก็กล่าวปิดงานโดยไทเฮาและฮ่องเต้ที่ขอบใจเหล่าบรรดาราชวงศ์และขุนนางน้อยใหญ่ที่มาเข้าร่วมถวายพระพรองค์ไทเฮา และเหล่าแขกที่มาร่วมงานก็เริ่มทะยอยกันออกไปจากท้องพระโรง ส่วนฮ่องเต้และฮองเฮาเสด็จลงจากที่ประทับทางด้านข้าง และก็หายลับเข้าไปทางห้องด้านหลังเป็นอันว่าเสด็จกลับแล้ว พระชายาและสนมน้อยใหญ่ก็พากันลุกขึ้นแล้วก็ทะยอยกลับเช่นกัน รวมถึงเหล่าขุนนางด้วย ส่วนหงลี่ก็เม

  • สนมวังเย็นที่แสนรัก   บทที่ 9 อยู่ด้วยความหวาดหวั่น

    ช่วงสายวันต่อมา ฟางเอ๋อเข้ามาแสดงความยินดีกับพระสนมหยูนายหญิงของตนเอง เพราะนางดีใจเหลือเกินที่ฮ่องเต้เสด็จมาหาพระสนมที่ตำหนักนี้และอยู่ค้างคืนจนกระทั่งเช้าจึงได้กลับไป นับว่าเป็นข่าวดีนัก ที่พระสนมที่เกือบจะปลายแถวเช่นนายหญิงของตนได้รับใช้องค์ฮ่องเต้ในเวลาอันรวดเร็วเช่นนี้ ขนาดพระชายาที่รับการแต่งตั้งถึงสามนางยังไม่มีผู้ใดได้รับโอกาสในการถวายการรับใช้ดังเช่นนายหญิงของตนเลย“ บ่าวยินดีกับพระสนมจริงๆนะเพคะ ที่ท่านได้มีโอกาสปรนนิบัติฮ่องเต้แล้ว และรวดเร็วกว่าสตรีใดในวังหลังแห่งนี้เลยนะเพคะ หม่อมฉันทราบในตอนแรกแทบจะไม่เชื่อเลยว่าพระสนมจะได้ปรนนิบัติองค์ฮ่องเต้ได้รวดเร็วปานนี้ บ่าวได้ยินว่าขนาดพระชายาสามพระองค์นั่นยังไม่ได้มีโอกาสรับใช้ฮ่องเต้เลยนะเพคะ ”ฟางเอ๋อนางกำนัลน้อยกล่าวอย่างยินดีในบุญวาสนาของนายหญิงตนเอง ขณะที่นางกำลังปรนนิบัตินายหญิงหลังจากอาบน้ำแล้ว ก็หวีผมยาวสลวยให้และกำลังติดเครื่องประดับผมที่มีขันทีนำมามอบให้เมื่อวานนี้ ใบหน้าของหงลี่เปลี่ยนสีไปทันที ใครบอกว่าฮ่องเต้เสด็จมาที่ตำหนักของนางกัน ชายคนเมื่อคืนที่เคี่ยวกรำนางแทบจะทั้งคืนกว่าจะยอมปล่อยให้นางนอนหลับ แ

  • สนมวังเย็นที่แสนรัก   บทที่ 8 ยิ่งเกลียดยิ่งดุดัน nc

    หลี่หมิงดึงรั้งอาภรณ์ของสตรีใต้ร่างจนแทบจะหลุดลุ่ย เขาฉีกตูโต้วผืนบางของนางออกจนขาดเป็นทาง แล้วแหวกกระโปรงผ้าเนื้อบางเบาของนางออก เลิกมันขึ้นไปจนสูง เปิดเปลือยเนินเนื้ออวบใหญ่ที่คุ้นตาให้แก่เขา หลี่หมิงถอดกางเกงของตนเองอย่างรวดเร็ว แล้วจับเจ้าลูกชายของเขาถูไถเนินเนื้อของนางไปมา แต่ไม่ยอมสอดเข้าไป เพียงถูไถมันไปมาเพียงเท่านั้น ส่วนสตรีใต้ร่างก็ดิ้นรนขัดขืนไม่สมยอมเขาดังเช่นที่เคยผ่านมา “ ปล่อยข้านะ ปล่อยข้า เจ้าคนชั่ว เจ้าคนเลวอย่าทำอะไรข้านะ ไม่อย่างนั้นข้าจะร้องให้คนช่วย ออกไปจากเรือนของข้านะ ” นางกรีดร้อง แต่ก็ไม่กล้าเสียงดังจนเกินไปเพราะเกรงจะมีคนได้ยิน แล้วหลี่หมิงจะเดือดร้อน นางแค่ต้องการให้เขาโกรธและเลิกมายุ่งเกี่ยวกับนางแต่หลี่หมิงไม่สนใจเสียงข่มขู่นั้น เขากลับก้มลงดูดอกอวบใหญ่ที่สั่นไหวอยู่ใต้ร่าง เขาขบกัดผลอิงเถาของนางอย่างแรง สลับกับไล้เลียมันไปมา หงลี่พยายามดิ้นรนไม่ยอมให้เขากระทำตามใจ แต่ยิ่งดิ้นยิ่งถูกดูด เขาดูดเต้าหวานของนางจนแทบจะเข้าไปในปากทั้งเต้า ดูดอย่างแรง ดูดสลับกับไล้เลียชิมรสของมัน ดูดจนสตรีใต้ร่างเลิกดิ้นรนหนี แต่เปลีี่ยนไปเป็นดิ้นพล

  • สนมวังเย็นที่แสนรัก   บทที่ 7 เร้ารักบนความแค้น nc

    หลังจากผ่านไปกว่าสิบวัน หงลี่ก็เริ่มดีขึ้น นางทำใจได้แล้ว เพราะถึงทำใจไม่ได้นางก็ทำอะไรไม่ได้ ครอบครัวที่ถูกเนรเทศไปก็ยังดีกว่าถูกประหาร นางได้คิดก็เพราะมีนางกำนัลวัยกลางคนที่นำอาภรณ์และข้าวของมาให้กับนางได้เตือนสตินางเช่นนี้ ใช่ อย่างน้อยพวกเขาก็ยังไม่ตาย แค่เพียงย้ายถิ่นฐานไปอยู่แคว้นอื่น หากมีวาสนาภายหน้าอาจจะได้พบกัน ส่วนนางบัดนี้มาอยู่ในวังหลวง ไม่ได้ทำการงานอะไร เพียงนั่งทอดถอนหายใจทิ้งไปไว้ๆ นางมาอยู่ที่นี่ได้เพียงสองวันก็มีสาวใช้นางหนึ่งมาแนะนำตัวกับนาง ว่ามีชื่อว่าฟางเอ๋อ ได้รับมอบหมายให้มาเป็นนางกำนัลประจำตัวของพระสนม แม้นางจะเป็นสนมขั้นต่ำสุด แต่ก็ยังมีคนรับใช้ และเมื่ออยู่ๆ ไปก็ได้รับความรู้จากนางกำนัลที่มารับใช้ว่านางคือพระสนมขั้นเฟย ที่เป็นชั้นต่ำสุดในบรรดาพระสนม และพระสนมทุกคนในวังหลวงก็ใช่ว่าจะได้ถวายตัวให้แก่ฮ่องเต้ บางคนก็ไม่เคยได้พบหน้าพระองค์เลยด้วยซ้ำ ฟางเอ๋อยกตัวอย่างฮ่องเต้รัชกาลที่ผ่านมาให้ฟังส่วนฮ่องเต้องค์ใหม่พระองค์นี้ เพิ่งจะรับนางสนม และพระชายาเข้ามาเป็นชุดแรก ส่วนฮองเฮายังไม่ได้สถานปนาเพราะพระองค์เพิ่งขึ้นครองราชย์ หงลี่นั่งรับฟังก

  • สนมวังเย็นที่แสนรัก   บทที่ 6 อยู่ ๆ ครอบครัวก็ถูกเนรเทศ

    แต่คำตอบของหงลี่ก็คือการที่นางตวัดฝ่ามือตบหน้าของเขาดังฉาด “ ออกไปนะ ออกไปจากห้องของข้า ไม่อย่างนั้นข้าจะตะโกนให้คนรู้กันทั้งจวนว่าเจ้าลอบเข้ามาในห้องนอนของข้า ” หลี่หมิงชะงักไป เขาจ้องมองใบหน้าที่มองเขาด้วยดวงตาเฉยชา นางมองเมินไปทางอื่น หลี่หมิงจ้องมองใบหน้างามของอดีตคนรักแล้วก็ตัดสินใจถอยออกไปจากเรือนของนาง คนที่ไม่มีใจต่อให้เขายื้อยุดนางเอาไว้แทบตาย ก็คงจะยื้อนางเอาไว้ไม่ได้เขามาที่นี่ก็เพื่อให้แน่ใจว่าเขาได้ยินไม่ผิดไป นางไม่ได้มีใจให้เขา แค่เพียงหลอกปั่นหัวเขาเล่นๆ และวันนี้เขาแน่ใจแล้วว่านางไม่ได้รักเขาจริงๆเขากลับออกมาเพราะเสียใจที่ได้รู้ว่าอดีตคนที่เขาคิดว่ารักกลับไม่ได้รักตนเอง เพียงหลอกลวงเล่น ๆ และนางนั้นมิได้รักบุรุษใดทั้งสิ้น รักเพียงเงินของบุรุษผู้นั้น ส่วนเขาไม่มีสิ่งที่นางอยากได้นางจึงไม่ต้องการแต่งงานกับเขาอยู่แล้ว หลี่หมิงเสียใจและผิดหวังเหลือเกิน เขาเดินออกมาจากเรือนของสตรีอดีตคนเคยรักแล้วก็ลัดเลาะออกมาจากจวนของขุนนาง หยูได้อย่างปลอดภัย หลังจากค่ำคืนแห่งรักและแค้นคืนนั้น หลี่หมิงก็ลอบออกมาจากจวนของขุนนางหยูแล้วก็กลับเรือนของตนเองไปเขาตั้งใจว

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status