หน้าหลัก / รักโบราณ / สนมวังเย็นที่แสนรัก / บทที่ 4 กาอยากจะกินเนื้อหงส์

แชร์

บทที่ 4 กาอยากจะกินเนื้อหงส์

ผู้เขียน: Lovedee
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-02 16:07:12

“  น่าขบขันนัก เจ้าช่างไม้ต่ำต้อย เงินสินสอดแค่หยิบมือ  คิดจะมาสู่ขอบุตรสาวของขุนนางอย่างข้า  คิดหรือว่าข้าจะยกหงลี่ให้กับเจ้า  ช่างน่าหัวเราะสิ้นดี  คำสัญญาที่เจ้าบอกข้า  มันจับต้องไม่ได้หรอกนะ  เจ้าจะทำมันได้หรือไม่ก็ยังไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เจ้าคือช่างไม้รับจ้างที่ยากจน มีเพียงบ้านหลังเล็กๆ เอาไว้ซุกหัวนอนกับแม่ที่แก่ชราของเจ้า เพียงเท่านั้น ข้าไม่โง่เง่าพอที่จะยกบุตรสาวของข้าให้ไปตกระกำลำบากกับเจ้าหรอก  เป็นการิอยากจะกินเนื้อหงส์  ช่างน่าขบขันนัก ” 

ขุนนางหยูเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าทมึงถึงขัดกับคำพูดของเขาที่บอกว่าคำสัญญาของหลี่หมิงช่างน่าขบขัน    เขากับฮูหยินจ้องมองช่างไม้หนุ่มกับมารดาด้วยสายตาดูแคลนไม่ปิดบังซักนิด 

พวกเขาไม่ยอมเรียกบุตรสาวออกมาพบกับทั้งสองเลยด้วยซ้ำ  “ แต่ข้ากับหงลี่เราได้เสียกันแล้ว หากท่านไม่ยอมให้นางแต่งงานกับข้าแล้วนางเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา  จะทำเช่นไร ” ช่างไม้หนุ่มตัดสินใจใช่้ไม้ตายของเขาที่คิดว่าหากพูดออกไปแล้วพ่อตาแม่ยายอาจจะใจอ่อนยอมให้หงลี่กับเขาแต่งงานกันก็เป็นได้

“ หากนางตั้งครรภ์ข้าก็จะไม่เก็บเจ้าเด็กนั่นไว้ประจานสกุลของข้าหรอกนะ  หรือไม่ข้าก็จะให้นางรีบแต่งงานออกไปให้เร็วที่สุด เพราะบุตรชายคหบดีเหยาก็ส่งคนมาสู่ขอนางแล้ว  และข้าก็คงจะเลือกบุตรชายคหบดีที่ร่ำรวยมากในเมืองนี้มาเป็นบุตรเขยมากกว่าจะเลือกช่างไม้จนๆอย่างเจ้า  

เอาละออกไปจากจวนของข้าได้แล้ว  เดี๋ยวเกิดว่าที่บุตรเขยของข้ารู้เข้า หงลี่จะเสื่อมเสียไปเสียเปล่าๆ นางจะต้องเตรียมตัวแต่งงานในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว  เจ้าพาแม่ของเจ้าออกไปจากจวนของข้า  แล้วไม่ต้องกลับรับจ้างทำงานที่จวนของข้าอีก  ข้าจะให้เจ้านายของเจ้าหาคนงานใหม่มาทำงานแทนเจ้า  ชิ… เจ้าคนไม่เจียมตน "  

แต่เมื่อซ่งหลี่หมิงดื้อดึงเพราะเขาไม่อยากให้หงลี่แต่งงานไปกับชายอื่น  แม้มารดาจะห้ามปรามแต่เขาก็ไม่ฟัง  ก็เพราะเกรงว่าจะสูญเสียคนรักที่กลายเป็นภรรยาของเขาแล้วไป  นั่นทำให้ขุนนางหยูสั่งให้บ่าวชายในจวน  รุมกันทุบตีเขา กระทืบเขาต่อหน้าต่อตาของทุกคนที่บริเวณหน้าเรือนหลักในจวนสกุลหยู

และเพียงไม่นานหงลี่ก็วิ่งออกมา  แต่นางถูกสาวใช้สามคนช่วยกันจับเอาไว้  “ ปล่อยข้านะ ปล่อย  อย่าทำพี่หลี่หมิงนะ อย่าทำเขา  อย่านะ ”  ท่านพ่อของนางเมื่อหันไปเห็นบุตรสาววิ่งมาห้ามปรามไม่ให้เขาทุบตีเจ้าคนไม่เจียมตัวคนนี้  เขาก็รีบเดินไปใกล้ๆบุตรสาวของตนเอง  แล้วพูดด้วยเสียงเบาๆว่า

“ หงลี่  หากเจ้าไม่บอกให้เจ้าหมอนี่มันไปให้พ้นจวนของข้าข้าจะให้บ่าวรุมทุบตีมันให้พิการหรือไม่ก็ตายไปเลย  บอกมันไปว่าเจ้าเลือกคุณชายเหยาและกำลังจะแต่งงานกับเขาในอีกสามวันนี้แล้ว บอกมันไป หากไม่อยากให้มันพิการหรือตายไปต่อหน้าของเจ้า ”  ขุนนางหยูกระซิบบอกบุตรสาว

หงลี่ตกใจนัก นางหันไปมองคนรักของนางที่ถูกรุมกระทืบอยู่ตรงหน้าเรือนของบิดา  เมื่อมองเห็นเลือดของเขาเริ่มออกมามากมาย  และแม่ของเขาก็กำลังทรุดนั่งร้องไห้อยู่ไม่ไกลจากร่างของบุตรชายนัก  นางไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากรีบตะโกนออกไปว่า

 “ พี่หลี่หมิง  ท่านพาท่านป้ากลับไปเสียเถิด  ข้าไม่ได้รักท่านแล้ว  ข้ากำลังจะแต่งงานกับคุณชายเหยา เพราะข้าพึงใจเขา  และไม่ต้องการไปลำบากกับท่าน  ข้าแค่หลอกท่านเล่นๆ  แค่เห็นว่าท่านหล่อเหลาก็เลยหลอกให้รักเล่นๆ แต่คนที่ข้าจะร่วมชีวิตด้วยนั้นต้องมีฐานะที่ร่ำรวย ไม่ใช่คนจนๆ ไม่มีอะไรเลยอย่างท่าน กลับไปเสียเถิด และอย่ากลับมาที่นี่อีก  ขอให้ลืมข้าเสีย  ให้ถือเสียว่าเราไม่เคยพบกัน ”  หงลี่ร้องตะโกนแม้น้ำตาของนางจะเอ่อคลอเต็มดวงตา

ด้านหลี่หมิงที่บัดนี้  บ่าวชายที่รุมล้อมเขาอยู่หยุดการทำร้ายเขาแล้ว  เขานอนตะแคงตัวอยู่บนพื้นและแหงนหน้าขึ้นจ้องมองคนรักที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก  ที่บัดนี้สาวใช้สามนางก็ปล่อยแขนหงลี่แล้วเช่นกัน  

หลี่หมิงเช็ดเลือดที่มุมปากแล้วก็ค่อยๆ ยันกายให้ลุกขึ้น  เมื่อทรงตัวขึ้นได้แล้ว  เขาหันไปมองหงลี่แล้วร้องถามว่า “ เจ้าพูดจริงหรือว่าเจ้าจะแต่งงานกับชายอื่น  ทั้งๆที่เจ้าเป็นเมียของข้าแล้ว  ” เขาถามย้ำกับนางเพื่อให้แน่ใจ  

หงลี่ที่บัดนี้นางรีบเช็ดน้ำตาไปก่อนที่หลี่หมิงจะทันได้สังเกตุแล้วรีบพูดออกมาทันทีว่า  “ ใช่  ข้าแค่หลอกท่านเล่น  ไม่ได้คิดจะจริงจังสักหน่อย ท่านคิดไปเองว่าข้าเองก็รักท่าน  ข้าจะบอกให้นะ  ว่าข้าไม่ได้รักท่านหรอก  ข้ารักเงินทองและบุรุษที่ข้าจะยอมร่วมชีวิตด้วยก็ต้องร่ำรวยเท่านั้น   และคนอย่างข้ารักแต่ตัวเอง  ไม่ใช่ชายใดทั้งนั้น  

ท่านรู้ความจริงเช่นนี้แล้วก็รีบกลับไปเถิด  แล้วอย่ากลับมาที่นี่อีก ”  หงลี่พูดแล้วก็หันหลังเพราะนางเกรงว่าเขาจะเห็นน้ำตาที่กำลังจะไหลรินลงมาอีกครั้ง

หงลี่รีบก้าวเท้าออกไปจากที่นั่น  แล้วมุ่งหน้าเดินกลับเรือนด้วยหัวใจที่แหลกสลาย  นางรักพี่หลี่หมิง  แต่นางมิอาจจะปล่อยให้ท่านพ่อทำร้ายเขาจนพิการหรือตายได้   นางรักเขามาก   แต่ชะตาของเขากับนางคงมิอาจจะครองคู่ร่วมกันได้ นางรู้ว่าท่านพ่อเอาจริง  เขาพูดจริง  หากนางยังไม่ยอมหยุด  นางเกรงว่าพี่หลี่หมิงจะเป็นอันตราย  

หากเขายังอยู่ที่เมืองหนิงโจวนี้  เขาก็ไม่ควรเป็นศัตรูกับบิดาของนาง  เพราะสำหรับชาวบ้านแถบนี้  ขุนนางยังคงเป็นคนใหญ่คนโตที่ไม่ควรจะยุ่งเกี่ยว  และนางก็รู้ว่าพี่หลี่หมิงกับท่านป้า  แทบจะไม่มีญาติพี่น้องและพวกพ้องในเมืองนี้เลย  เขาคงมิอาจจะต่อกรกับท่านพ่อของนางได้

นางเอ่ยคำร่ำลาเขาอยู่ในใจ  แต่ก็ไม่กล้าหันกลับไปมองเขา  นางทิ้งเขาเอาไว้ที่เบื้องหลังแล้วเดินจากมาพร้อมกับน้ำตาที่หลั่งไหลไม่ขาดสาย  ลาก่อนพี่หลี่หมิง  ข้ารักท่าน……..

ท่านป้าซ่งประคองบุตรชายที่สะบักสะบอมเพราะถูกรุมทำร้ายในจวนของขุนนางที่ไร้เมตตาเช่นขุนนางหยู  บิดาของสตรีแพศยานั่น  ป้าซ่งเคียดแค้นนัก  นังแพศยาร่านชาย  ถึงขนาดยอมทอดกายให้หลี่หมิงเชยชม  จนเขาหลงไหลมันแทบจะคลั่ง  แต่แล้วมันก็ทอดทิ้งเขาไปแต่งงานกับคนร่ำรวย  แน่ละ ฐานะของนางและบุตรชายยากจนนัก  

หากเป็นเมื่อก่อน…….คงไม่เกิดเรื่องเช่นนี้   ท่านป้าซ่งหยุดความคิดเอาไว้เพียงแค่นั้น  แล้วพยายามประคองบุตรชายกลับบ้านไป

ไม่มีผู้ใดในเมืองหนิงโจวแห่งนี้รู้ที่มาที่ไปของนางกับบุตรชาย  นางหนีมาซ่อนตัวอยู่ที่นอกเมืองหนิงโจวแห่งนี้  ไม่เคยปริปากบอกผู้ใดว่านางคือใคร มากจากที่ใด  นางหอบหิ้วบุตรชายตัวเล็กมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นี่  ก็เพราะสามีเสียชีวิตใช่…

สิ่งนั้นคือความจริงเพียงหนึ่งเดียวที่นางบอกกับคนอื่นๆ  แต่นางไม่เคยปริปากบอกใครว่านางคืออดีตฮองเฮาของแคว้นแห่งนี้  และซ่งหลี่หมิงที่ใครๆในเมืองนี้รู้จักก็คือ องค์รัชทายาท ที่จำเป็นต้องหนีมาลี้ภัยอยู่ที่บ้านนอกแห่งนี้  ก็เพราะว่าเกิดการก่อกบฎที่ในวังหลวง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • สนมวังเย็นที่แสนรัก   บทที่ 5 ความจริงที่ซ่อนเอาไว้

    กบฎนั้นก่อโดยอ๋องเผยอันน้องชายของฮ่องเต้องค์เก่าที่เพิ่งจะสวรรคตไป และนางเองอดีตฮองเฮาต้องหอบหิ้วบุตรชายหนีมาเพราะนางให้กำเนิดเขาเมื่ออายุมากแล้ว ทั้งๆที่ไม่เคยคิดมาก่อนว่านางจะสามารถมีบุตรได้ และแล้วสวรรค์ก็ประทานบุตรชายให้กับนาง เขาคือองค์รัชทายาท แต่ก็มิอาจจะครองบััลลังฆ์ตามที่ควรจะเป็นได้ เพราะถูกก่อกบฎไปเสียก่อน แต่นางยังมีความหวัง เพราะนางเชื่อเต็มหัวใจว่ายังมีขุนนางและแม่ทัพนายกองมากมายที่ยังภักดีต่อฮ่องเต้พระองค์เดิม และองค์รัชทายาทที่บัดนี้เติบใหญ่จนสามารถจะกลับไปทวงบังลังฆ์ที่ควรจะเป็นของเขากลับคืนมาได้แล้วส่วนสตรีต่ำต้อยที่เป็นเพียงบุตรีของขุนนางขั้นสามนั่นก็ไม่ได้คู่ควรกับองค์รัชทายาทเช่นหลี่หมิงสักนิด ดีแล้วที่มันแสดงธาตุแท้ออกมาก่อน ตอนแรกนางก็ไม่เห็นด้วยนักที่เขาจะรับบุตรีขุนนางขั้นสามมาเป็นชายา แต่เมื่อบุตรชายทั้งรักทั้งหลงสตรีนางนั้นมากเหลือเกิน แม่อย่างนางที่รักบุตรชายมากและสงสารในชะตากรรมของเขา ที่ควรจะอยู่ในที่สูงส่งแต่กลับต้องมาลำบากอยู่ปะปนกับชาวบ้านทั่วไปเช่นนี้แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะซ่งหลี่หมิงแท้จริงเขาคือองค์รัชทายาทที่ไม่นานจะต้องได้คืนบังลังฆ

  • สนมวังเย็นที่แสนรัก   บทที่ 4 กาอยากจะกินเนื้อหงส์

    “ น่าขบขันนัก เจ้าช่างไม้ต่ำต้อย เงินสินสอดแค่หยิบมือ คิดจะมาสู่ขอบุตรสาวของขุนนางอย่างข้า คิดหรือว่าข้าจะยกหงลี่ให้กับเจ้า ช่างน่าหัวเราะสิ้นดี คำสัญญาที่เจ้าบอกข้า มันจับต้องไม่ได้หรอกนะ เจ้าจะทำมันได้หรือไม่ก็ยังไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เจ้าคือช่างไม้รับจ้างที่ยากจน มีเพียงบ้านหลังเล็กๆ เอาไว้ซุกหัวนอนกับแม่ที่แก่ชราของเจ้า เพียงเท่านั้น ข้าไม่โง่เง่าพอที่จะยกบุตรสาวของข้าให้ไปตกระกำลำบากกับเจ้าหรอก เป็นการิอยากจะกินเนื้อหงส์ ช่างน่าขบขันนัก ” ขุนนางหยูเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าทมึงถึงขัดกับคำพูดของเขาที่บอกว่าคำสัญญาของหลี่หมิงช่างน่าขบขัน เขากับฮูหยินจ้องมองช่างไม้หนุ่มกับมารดาด้วยสายตาดูแคลนไม่ปิดบังซักนิด พวกเขาไม่ยอมเรียกบุตรสาวออกมาพบกับทั้งสองเลยด้วยซ้ำ “ แต่ข้ากับหงลี่เราได้เสียกันแล้ว หากท่านไม่ยอมให้นางแต่งงานกับข้าแล้วนางเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา จะทำเช่นไร ” ช่างไม้หนุ่มตัดสินใจใช่้ไม้ตายของเขาที่คิดว่าหากพูดออกไปแล้วพ่อตาแม่ยายอาจจะใจอ่อนยอมให้หงลี่กับเขาแต่งงานกันก็เป็นได้“ หากนางตั้งครรภ์ข้าก็จะไม่เก็บเจ้าเด็กนั่นไว้ประจานสกุลของข้าหรอกนะ หรือไม่ข้าก็จะให้นางรีบแต

  • สนมวังเย็นที่แสนรัก   บทที่ 3 อย่างไรเจ้าก็เป็นของข้า nc

    พวกเขาเข้าหอล่วงหน้าแล้ว แม้ในคราวแรกเขาไม่ได้ตั้งใจเลย เขาคิดจะถนอมนางเอาไว้จนกว่าจะถึงวันวิวาห์ของพวกเขา แต่ครั้งนี้ความใกล้ชิด ถูกเนื้อต้องตัวกันมันพาให้อารมณ์หนุ่มของเขาเตลิดจนกู่ไม่กลับ แต่เมื่อได้ล่วงเกินกันแล้วก็หยุดยั้งตนเองไม่ได้อีกต่อไป เมื่อกลับไปแล้ว ก็จะไปสู่ขอนางกับบิดามารดาของนาง แม้ในตอนนี้เขาจะยังไม่พร้อมทางด้านฐานะ อาจจะดูต่ำต้อยกว่าครอบครัวของนางไปสักนิด แต่เขาเชื่อมั่นว่าอีกไม่นานเขาจะสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวให้มีฐานะที่เป็นปึกแผ่นมากกว่านี้ เขาจะไม่ยอมให้หงลี่น้อยหน้าผู้อื่นอย่างแน่นอน ส่วนหงลี่บัดนี้นางโยกสะโพกอวบอัดเข้าหาชายที่กำลังโยกกระแทกนางอย่างรุนแรงนี้ นางเองก็หลงรักเขาดังเช่นที่เขาหลงรักนาง และยิ่งได้ตกเป็นของกันและกันแล้ว ความผูกพันธ์ของพวกเขาสองคนก็จะยิ่งแน่นแฟ้นขึ้น บัดนี้พี่หลี่หมิงไม่ใช่เพียงคนรักในความลับของนางอีกแล้ว แต่เขาคือสามีที่นางจะต้องได้แต่งงานกับเขาอย่างแน่นอน หงลี่คิดด้วยความสุขใจ นางยกแขนเรียวขาวเกี่ยวต้นคอของสามีหมาดๆ ลงมา แล้วทั้งสองก็จูบกันอย่างดูดดื่ม บทรักในสายธารน้ำตกดำเนินไปจนกระทั่งแตกระเบิดในเวลาไล่เลี่ยกัน แ

  • สนมวังเย็นที่แสนรัก   บทที่ 2 ข้าวสารที่กลายเป็นข้าวสุก

    บัดนี้ในป่าแถบนี้แทบจะร้างผู้คน ซ่งหลี่หมิงสำรวจทั้งหมดแล้ว จึงได้ปลอดโปร่งโล่งใจ เพราะเขาเป็นห่วงความปลอดภัยของคนรักของเขา ทั้งสองสบตากันนิ่ง ในดวงใจทั้งสองดวงเปี่ยมไปด้วยความรักที่แทบจะล้นปรี่ออกมา ดวงตาของทั้งคู่ต่างก็มีไฟปรารถที่ลุกโชนไม่ต่่างกัน และแล้วใบหน้าก็ค่อยๆเลื่อนเข้าหากัน และในที่สุดลิ้นร้ายที่ร้อนรุ่มนั่นก็สอดเข้ามาในปากอวบอิ่มที่อ้าออกน้อยอย่างเต็มใจ แขนเรียวของหงลี่ยกขึ้นโอบต้นคอชายตรงหน้าของนางเอาไว้ และแล้วจูบที่ดูดดื่มและเร่าร้อนก็เกิดขึ้น และดำเนินต่อไปจนคุณหนูสาวแทบจะขาดอากาศหายใจนางยกมือทุบไปที่ไหล่หนาของคนตรงหน้า คนรักหนุ่มจึงยอมปล่อยปากอิ่มของนางเป็นอิสระ และเข้าซุกไซร้พรมจูบสองแก้มนวลของนาง แล้วละเรื่อยมาที่ซอกคอขาวผ่อง เขาขบเม้มทำรอยรักเอาไว้ประปรายอย่างหวงแหน เพราะเขาถือว่าหยูหงลี่คือคนรัก ที่เขาจะต้องได้นางมาครอบครอง แม้ฐานะของพวกเขาจะแตกต่าง แต่เขาจะมุมานะสร้างตัวเพื่อให้คู่ควรกับนาง เพื่อจะได้ไปสู่ขอนางมาร่วมชีวิตกับเขาให้ได้เร็วที่สุด ที่อยู่ของนางคือข้างกายเขาเพียงเท่านั้น ชาตินี้เขากับนางจะต้องได้ครองคู่กัน เขาจะไม่ยอมให้มีสิ่

  • สนมวังเย็นที่แสนรัก   บทที่ 1 ต้นเหตุของเรื่องราว

    หยูหงลี่บุตรีขุนนางขัั้นสามที่อยู่ๆ ก็เกิดได้เข้าถวายตัวเป็นสนมของฮ่องเต้พระองค์ใหม่ที่เพิ่งได้รับการสถาปนา และนางก็พบว่าฮ่องเต้พระองค์นั้นคืออดีตชายคนรักที่นางสลัดเขาทิ้งก็เพราะนางจำต้องเลือกครอบครัว แม้นางจะรักเขามาก แต่ก็มิอาจจะหนีตามเขาไปได้ เพราะครอบครัวของนางที่บิดาเป็นขุนนางขั้นสาม แต่เมื่ออยู่ในเมืองเล็กๆ อย่างหนิงโจว ก็ย่อมจะดูสูงส่งกว่าชาวบ้านโดยทั่วไป และบิดาไม่มีทางยอมรับเขยที่เป็นเพียงช่างไม้จนๆได้ อดีตชายคนรักที่มีนามเดิมว่า ซ่งหลี่หมิง เขาเป็นบุตรชายของสตรีหม้ายนางหนึ่งที่ไม่มีผู้ใดในหมู่บ้านหรือตำบลท่ี่นางย้ายมาอยู่รู้ว่าสองแม่ลูกมาจากที่ใด พวกเขาทราบเพียงว่าท่านป้าซ่งผู้นั้นหอบบุตรชายที่ยังเป็นเพียงเด็กชายตัวน้อยๆ มาตั้งหลักปักฐานที่หมู่บ้านเล็กๆ ที่นอกเมืองหนิงโจว นางบอกกับใครๆ ว่านางเป็นหญิงหม้ายเพราะสามีเสียชีวิตไปแล้ว และนางเองก็ไร้ญาติขาดมิตร มีเงินทองติดตัวมาเพียงเล็กน้อยจึงได้ขอซื้อที่ดินของหัวหน้าหมู่บ้านที่ยอมแบ่งขายให้ผืนหนึ่งซึ่งนางก็จ้างชาวบ้านที่นั่นช่วยกันปลูกบ้านหลังเล็กๆ และล้อมรั้วให้แน่นหนาให้พอเป็นที่พำนักของหญิงหม้ายเช่นนางกับบุตรชายไ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status