LOGINจือจื่อสังเกตเห็นสีหน้าของทั้งสองคนที่ยังคงดูไม่เชื่อ มุมปากยิ้มขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะยกมือขึ้นแล้วพูดเสียงหนักแน่น
"ไม่ต้องห่วงหรอก ข้าคิดว่ามันต้องได้ผล พวกเจ้าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในเร็วๆ นี้! ข้าจะทำให้ที่นี่เป็นที่ที่ทุกคนต้องมองมา! เตาแก๊สที่ใช้ประโยชน์ได้เต็มที่และสะดวกสบายสุดๆ"
ทั้งสองคนยังคงมองกันไปมาเหมือนไม่มั่นใจ แต่มันก็ไม่ได้หยุดความพยายามของจือจื่อเลยแม้แต่น้อย หญิงสาวคนนี้เต็มไปด้วยพลังความคิดสร้างสรรค์และความมุ่งมั่น
"เอาเถอะ พี่ใหญ่นางน่าสงสารนะนั่น" ซูอวี่พูดเบาๆ ขณะที่โจวชวีพยักหน้าหยักไปเล็กน้อย แต่ก็ยังแอบสงสัยว่าอะไรที่ทำให้จือจื่อมั่นใจขนาดนี้
จือจื่อยิ้มอย่างพอใจ ที่เห็นว่าแม้จะยังไม่เข้าใจทั้งหมด แต่ก็ดูเหมือนว่าจะทำให้ทั้งสองคนเริ่มเปิดใจให้กับความคิดของอยู่บ้าง
จือจื่อวิ่งเข้าไปในห้องที่เหมยจิ้งกับถานถานทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น หลังจากที่ได้มองเห็นความเป็นไปได้ของแผนการที่คิดขึ้นในหัว แน่นอนว่าไม่สามารถนั่งเฉยๆ ได้เมื่อคิดอะไรออกแล้วทันที
"จะต้องสำเร็จสินะ"พูดเสียงเบาแต่เต็มไปด้วยความมั่นใจ
"ระดับจือจื่อแล้ว ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้นอกจาก...มีสามี ฮ่าา" จือจื่อหัวเราะอย่างสนุกสนานในใจตัวเอง ขณะที่มือเรียวเริ่มฝนหมึกลงบนกระดาษอย่างรวดเร็ว
ร่างแบบที่เริ่มวาดบนกระดาษเป็นภาพที่เต็มไปด้วยเครื่องมือและขั้นตอนต่างๆ ที่จะช่วยให้ระบบแก๊สทำงานได้จริง โดยไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ยังไม่มีในยุคนี้ แต่ในใจของจือจื่อกลับเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง
"แค่เอาของเสียและเศษผักผลไม้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ก็จะทำให้เรามีแหล่งพลังงานที่สะดวกและประหยัด"
จือจื่อพูดกับตัวเองขณะที่มือลงฝนหมึก
เมื่อร่างแบบออกมาเริ่มเห็นภาพแล้ว จือจื่อก็พยักหน้ากับตัวเอง รู้สึกได้ว่าทุกอย่างจะต้องไปในทางที่ดีอย่างแน่นอน
"ไม่ต้องกังวลหรอก ข้าคิดมาดีแล้ว" กล่าวเสียงเบา ขณะที่เริ่มเขียนคำอธิบายและขั้นตอนการสร้างเตาแก๊สอย่างละเอียด
แม้ว่าเธอจะยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนในตอนนี้ แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความมั่นใจอย่างสูง"ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะทำให้ที่นี่เป็นที่ที่ทุกคนสามารถอยู่ได้อย่างมีความสุข" คิดในใจ ขณะที่ยังคงตั้งใจทำงานต่อไปอย่างไม่ลดละ
จือจื่อก็ได้ตระหนักว่า การที่มาที่นี่ไม่ใช่แค่การหลบหนีจากอดีต แต่เป็นการเริ่มต้นใหม่อย่างแท้จริง ไม่ต้องการกลับไปที่เดิมอีกแล้ว ต้องการจะสร้างชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิม ที่ที่ไม่มีการจำกัดความสามารถของตัวเอง, ที่ที่จะเป็นคนที่สร้างทุกสิ่งขึ้นมาเองโดยไม่ต้องพึ่งพาผู้ใด.
ป้อนวัตถุดิบ: ใส่เศษผัก/อาหาร (สับละเอียด) ผสมมูลสัตว์ (ถ้ามี) และน้ำลงในถังหมัก.การย่อยสลาย แบคทีเรียในถังจะย่อยสลายอินทรียวัตถุในสภาวะไร้อากาศ เกิดแก๊สชีวภาพ (มีเทน+คาร์บอนไดออกไซด์) .การเก็บแก๊ส: แก๊สจะดันตัวเองไปเก็บในถังเก็บแก๊ส (มักใช้ถัง 2 ใบซ้อนกัน) .ต่อท่อจากถังเก็บแก๊สไปยังเตาแก๊สที่ดัดแปลงรูหัวเตาให้ใหญ่ขึ้น.
อุปกรณ์
ถังหมัก ถังพลาสติกขนาดใหญ่ 200 ลิตร 1 ใบ (มีท่อเติมวัตถุดิบ ท่อน้ำล้น) .ถังเก็บแก๊ส ถังขนาด 200 ลิตร 2 ใบ (ใบหนึ่งใหญ่ หงายใส่น้ำ อีกใบเล็กกว่า คว่ำอยู่ข้างใน) ท่อและข้อต่อ สำหรับเชื่อมต่อระบบ
หัวเตาแก๊ส ที่ดัดแปลงแล้ว (ขยายรูหัวเตา) .
ขั้นตอนการทำ (แบบง่าย)
เตรียมถัง เจาะถังหมักเพื่อติดตั้งท่อเติมวัตถุดิบและท่อน้ำล้น เริ่มหมัก ใส่เศษอาหาร/ผักสับ 1 กก. ผสมน้ำ 1-2 ลิตร และมูลสัตว์ (ถ้ามี) ในถังหมัก.รอแก๊ส: ประมาณ 24 ชั่วโมงจะเริ่มมีแก๊ส (เปลวไฟสีส้ม/จุดไม่ติด) ต้องปล่อยทิ้งก่อนใช้งานจริง.เติมสม่ำเสมอ เติมวัตถุดิบใหม่ทุกวัน (สับให้ละเอียด) เพื่อให้มีแก๊สต่อเนื่อง.ระบายกาก เมื่อกากตะกอนเต็มให้ระบายออก นำไปใช้เป็นปุ๋ยได้
ข้อควรจำเศษอาหารและผักต้องสับให้ละเอียดที่สุด ช่วงแรกแก๊สอาจจุดไม่ติดหรือสีส้ม ต้องปล่อยทิ้งหลายๆ ครั้ง การใช้ระบบนี้เป็นการใช้พลังงานสะอาดและลดขยะได้ดี
จือจื่อสังเกตเห็นสีหน้าของทั้งสองคนที่ยังคงดูไม่เชื่อ มุมปากยิ้มขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะยกมือขึ้นแล้วพูดเสียงหนักแน่น"ไม่ต้องห่วงหรอก ข้าคิดว่ามันต้องได้ผล พวกเจ้าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในเร็วๆ นี้! ข้าจะทำให้ที่นี่เป็นที่ที่ทุกคนต้องมองมา! เตาแก๊สที่ใช้ประโยชน์ได้เต็มที่และสะดวกสบายสุดๆ"ทั้งสองคนยังคงมองกันไปมาเหมือนไม่มั่นใจ แต่มันก็ไม่ได้หยุดความพยายามของจือจื่อเลยแม้แต่น้อย หญิงสาวคนนี้เต็มไปด้วยพลังความคิดสร้างสรรค์และความมุ่งมั่น"เอาเถอะ พี่ใหญ่นางน่าสงสารนะนั่น" ซูอวี่พูดเบาๆ ขณะที่โจวชวีพยักหน้าหยักไปเล็กน้อย แต่ก็ยังแอบสงสัยว่าอะไรที่ทำให้จือจื่อมั่นใจขนาดนี้จือจื่อยิ้มอย่างพอใจ ที่เห็นว่าแม้จะยังไม่เข้าใจทั้งหมด แต่ก็ดูเหมือนว่าจะทำให้ทั้งสองคนเริ่มเปิดใจให้กับความคิดของอยู่บ้างจือจื่อวิ่งเข้าไปในห้องที่เหมยจิ้งกับถานถานทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น หลังจากที่ได้มองเห็นความเป็นไปได้ของแผนการที่คิดขึ้นในหัว แน่นอนว่าไม่สามารถนั่งเฉยๆ ได้เมื่อคิดอะไรออกแล้วทันที"จะต้องสำเร็จสินะ"พูดเสียงเบาแต่เต็มไปด้วยความมั่นใจ "ระดับจือจื่อแล้ว ไม่มีอะไร
เหมยจิ้งกับถานถานรับไก่จากโจวชวี่และชูอวี่ไปอย่างกระตือรือร้น ท่านทั้งสองเดินคุยกันอย่างสนิทสนม ขณะที่ถานถานยิ้มแย้มพูดกับเหมยจิ้งด้วยความอารมณ์ดีว่า"พี่เหมยจิ้งตามข้ามาเถอะ ยังดีที่ด้านหลังมีบ่อน้ำ พวกข้าแวะเวียนมาใช้บ้างบางครั้งจึงไม่ร้างเลย น้ำใสสะอาดเชียว"เหมยจิ้งพยักหน้า รอยยิ้มสดใสยิ่งขึ้นเมื่อนึกถึงน้ำใสๆ ในบ่อ“อย่าลืมจับไก่ขังไว้บางส่วนแล้วเราจะเริ่มให้อาหารมันเพื่อเลี้ยงพวกมันให้ขยายพันธุ์ก่อนจะทำมาทำอาหารนะ” จือจื่อพูดขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มๆ“พรุ่งนี้ข้าน้อยจะสร้างเล้าไก่เสียใหม่ขอรับ” หนานซ่งพูดเบาๆ จือจื่อพยักหน้ายิ้มๆ หันกลับมามองสองหนุ่มที่กำลังจัดฟืนที่หยิบติดมือมาด้วย และวางกองไม้ลงในที่ที่เหมาะสมสำหรับการก่อไฟ"ก่อไฟหรือ…ว๊าวจริงสินี่ยุคโบราณสินะฮ่าาา พวกเจ้ามาเถอะ ข้าจะก่อไฟเอง" จือจื่อพูดด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหยิบเอาไม้มาสองชิ้นเพื่อจะปั่นให้เกิดความร้อนและเปลวไฟ"นะๆๆๆ นายหญิง ท่านก่อไฟเป็นหรือขอรับ มันยากนะขอรับ" โจวชวี่พูดด้วยความสงสัย ขณะมองการกระทำของจือจื่อด้วยความไม่ค่อยมั่นใจจือจื่อยิ้มอย่างมั่นใจและตอบกลับไป "ไม่ต้องห่วงน่า เชื่อมือข้าเถอะระดับนี้แล้ว" ทั้งสอง
"ถานถานเจ้าไปทำความสะอาดให้องให้นายหญิง" หนานซ่งสั่งด้วยน้ำเสียงเรียบๆ หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าหันมามองเขาก่อนจะยิ้มให้ "ไม่เกินหนึ่งชั่วยามเจ้าค่ะ ข้าน้อยจะจัดการให้เรียบร้อย" ถานถานรับปากอย่างมั่นใจ ก่อนที่จะก้มศีรษะและหันไปทางเหมยจิ้งที่ยืนอยู่ข้างๆ"ข้าไปช่วยเจ้าด้วย" เหมยจิ้งพูดขึ้น พร้อมยิ้มให้กับถานถาน สองสาวเดินจากไปพร้อมกันอย่างรวดเร็วหนานซ่งหันไปทางจือจื่อ ยิ้มและกล่าวด้วยความเคารพ"เชิญนายหญิงทางนี้ขอรับ ที่นั่นสะอาดพอให้ได้นั่งขอรับ ส่วนข้าน้อยจะไปช่วยทั้งสองคนจับไก่"จือจื่อพยักหน้ารับ ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินไปที่หินอ่อนก้อนใหญ่ที่ดูเหมาะแก่การนั่งพักผ่อนหนานซ่งและสองแฝดเดินไปยังประตูใหญ่ของจวน จือจื่อหันหลังให้พวกเขาแล้วถอนหายใจยาว เหมือนกำลังผ่อนคลายความกังวลที่สะสมมานาน "อย่างน้อยก็ไม่แย่นะ ทุกคนดี แวดล้อมดี และชีวิตแสนสบายดี..." เธอพูดเบาๆ พลางบิดขี้เกียจด้วยท่าทางผ่อนคลาย "เฮ้อ สาวแก่อย่างฉัน จะต้องเอาตัวรอดได้สิน่าฮุๆๆ ไม่มีอะไรในโลกที่จือจื่อทำไม่ได้ยกเว้นการมีผัว..." จือจื่อพูดเล่นหัวเราะกับตัวเองเบาๆ ก่อนที่จะพูดต่อ"ก็สเปคฉันคือเทพเซียนนี่น่า ฮึ ถ้าไม่หล่อ
"พวกข้าก็พึ่งมาถึง เลยมาดูทำเลก่อน คิดกันว่าที่นี่รกร้าง ยึดสักห้องจะเป็นไรไป""พวกเจ้าตาถึงจริงๆ เลือกที่ดีเชียว ได้ข้าแบ่งให้พวกเจ้าช่วยกันครอบครองที่นี่" จือจื่อหัวเราะเบาๆ ดวงตาเป็นประกายเหมยจิ้งเดินกลับมาในจังหวะที่เสียงหัวเราะของจือจื่อกับสองแฝดยังดังไม่ขาดสามหัวสุมหัวเม้าท์มอยไปเรื่อยอย่างเข้าขา เหมยจิ้งมือถือตะกร้าใบเล็ก ภายในมีเข็ม ด้ายและเชือก อีกมือมีจานไม้ที่วางไก่สับแบ่งเรียบร้อยแล้ว กลิ่นอาหารลอยมาแล้วทำให้ทุกคนชะงักหันมามองด้านหลังเหมยจิ้งมีชายวัยกลางคนรูปร่างผอมสูงและสาวน้อยคนหนึ่งเดินตามมาด้วย สีหน้าทั้งคู่ดูทั้งตื่นเต้นทั้งเกร็ง เสื้อผ้าสีทึมเกือบขาด ชายคนนั้นก้าวเข้ามา พอเห็นจือจื่อนั่งอยู่ก็รีบคำนับอย่างลนลาน"ข้าน้อยหนานซ่ง เป็นพ่อบ้านดูแลจวนหลังนี้ คารวะพระสนม…ข้า…ข้าน้อยผิดเองที่ไม่ทราบว่าจะมีผู้ใดมาพัก ยังปล่อยให้จวนทรุดโทรมถึงเพียงนี้" หนานซ่งก้มศีรษะต่ำลงอีกครั้ง"พูดตามตรง…ข้าน้อยไม่เคยคิดว่าจะมีใครมาอยู่ที่นี่จริงๆ"โจวชวี่กับชูอวี่ที่กำลังแทะไก่ของตัวเองมองหน้ากัน ก่อนจะวางไก่ลงแล้วกอดอกยืดตัวเชิดหน้าโดยไม่รู้ตัว สีหน้าเหมือนเพิ่งได้ชัยชนะบางอย่างจากการ
"ตกปลา ล่าไก่หรือ เจ้าเป็นสนมอยู่ในวัง เป็นลูกขุนนาง คงไม่รู้ว่าเรื่องพวกนี้ทำยากขนาดไหน กว่าจะใช้ธนูยิงมาได้แต่ละตัว พวกข้าก็ไม่มีธนูตอนนี้"จือจือทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา"พวกเจ้านี่ไม่คิดจะพัฒนาบ้างหรือไร ไม่ต้องคิดมาก เดี๋ยวข้าสอนวิธีดีๆ ให้ มีร้อยแปดวิธีในการจับไก่"โจวชวี่เลิกคิ้วขึ้นอย่างสนใจ"เจ้าเอาเครื่องมือมาหรือ ดีเลย"จือจือส่ายหน้าอย่างอารมณ์ดี"ข้าจะทำเองให้พวกเจ้าต่างหาก แต่ว่าต้องใช้เวลา"นางเอามือลูบท้องตัวเองที่ร้องประท้วงไม่หยุด เสียงดังจ๊อกเบาๆ"ตอนนี้เรื่องสำคัญอันดับหนึ่งคือข้ากำลังหิวมาก ไก่ย่างของพวกเจ้าก็เอามาแบ่งเท่าๆ กัน รองท้องไปก่อนเถอะ อิ่มด้วยกัน อดด้วยกัน"จือจือเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย ดวงตาเป็นประกายอย่างคนเห็นภาพอนาคตไกล"ข้ารับรองว่าต่อจากนี้เราจะมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีสังกะสีคุ้มหัว เจ้าไม่ต้องห่วง"เหมยจิ้งยืนมองนายหญิงของตนอย่างตะลึง ส่วนเด็กหนุ่มทั้งสองยืนนิ่งไปชั่วอึดใจ โจวชวี่กับชูอวี่เผลอยิ้มตามโดยไม่รู้ตัว ความสดใสของจือจื่อทำให้บรรยากาศในตำหนักร้างที่มืดหม่นดูอ่อนลง หญิงอ้วนผู้มีแววตาสดใสคนนี้ประหลาดจริงเชียวโจวชวี่ก้มลงหยิ
จือจื่อเดินตามเหมยจิ้งเข้าไปด้วย ในจวนใหญ่รกร้างนั่นนับว่าคนขับรถม้าใจดีไม่น้อยอย่างน้อยอากาศหนาวๆ แบบนี้ทั้งสองก็ยังพอมีที่ซุกหัวนอนความเงียบงันของตำหนักร้างทำให้ทุกก้าวที่เหยียบลงไปเหมือนเหยียบลงบนหัวใจตัวเอง จือจื่อกวาดสายตามองซ้ายมองขวา ผนังไม้ผุพัง เถาวัลย์เลื้อยพันรั้ว เดินทะลุผ่านโถงด้านในไปจนถึงด้านหลังที่ถูกกั้นไว้เหมือนสวนร้าง หญ้าขึ้นรกสูงเกือบถึงเข่า กลิ่นอับชื้นปะปนกับกลิ่นควันจางๆ ลอยมากระทบจมูกดวงตาของจือจื่อเบิกกว้าง เมื่อเห็นควันไฟลอยออกมาจากห้องเก็บฟืนเก่าด้านหลัง หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุอก"แย่แล้วเหมยจิ้ง ใครมาเผาบ้าน รีบมาช่วยกันดับไฟเร็ววววว"เสียงตะโกนของนางดังลั่นจนเหมยจิ้งสะดุ้ง จือจื่อไม่รอช้า วิ่งพรวดเข้าไปผลักประตูห้องเก็บฟืนอย่างแรง ประตูไม้ผุส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด ก่อนจะเปิดออกพร้อมควันขาวลอยคลุ้งภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้นางชะงัก บุรุษหนุ่มสองคน อายุราวสิบห้าปี หน้าตาเหมือนกันราวกับแกะจากพิมพ์เดียวกัน เสื้อผ้าขาดรุ่ย เนื้อตัวมอมแมม นั่งยองๆ อยู่ข้างกองไฟเล็กๆ ที่ก่อจากเศษไม้แห้งทั้งสองอ้าปากค้าง ดวงตาเบิกโพลง ก่อนจะหงายหลังล้มผงะออกจากกองไฟด้วยความตกใจ"อ๊าก"





![จอมนางคู่บัลลังก์ [NC30+]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)

