หยางหลงและน้องชายทั้งสอง บังคับเกวียนวัว เข้ามาในหมู่บ้าน ท่ามกลางเสียงซุบซิบ ของชาวบ้าน แต่ทั้งสามคน ก็ไม่ได้ใส่ใจนัก ตั้งแต่ย้ายมาที่หมู่บ้านนี้ ครอบครัวหนิงก็ไม่ได้ สนิทชิดเชื้อกับเพื่อนบ้านมากนัก เพียงแค่ทักทายกันตามมารยาทเพียงเท่านั้น เมื่อถึงบ้าน ทั้งสามคนช่วยกันขนของลงและ เอาเข้าไปเก็บในบ้าน ด้วยจำนวนของที่ซื้อมามีจำนวนมาก จึงทำให้เป็นเป้าสายตาสำหรับชาวบ้าน
“พี่ใหญ่ เราต้องทำคอกให้วัวนะขอรับ ประเดี๋ยวพอหนาวมาเยือน จะลำบากไหนจะหิมะตกอีก”
“ได้ เจ้าสองคนหาน้ำหาหญ้าให้วัวกินก่อน แล้วค่อยไปหาไม้ไผ่ มาทำคอกชั่วคราวไปก่อน เดี๋ยวค่อยไปจ้างช่างไม้มาทำใหม่”
หลังจากหาน้ำให้วัวแล้ว ทั้งสามคนเดินขึ้นเขาไปตัดไม้ไผ่ทันที ในขณะที่เดินขึ้นเขาเพื่อไปตัดไม้ไผ่ เนี่ยหลิงก็แบกหมูป่าลงมาพอดี ทำให้เจอกับพวกหยางหลงระหว่างทาง
“น้องหญิง เจ้าหนักหรือไม่ วางหมูลงมาเถอะ พี่จะแบกกลับไปให้เอง”
“ท่านพี่ พวกท่านกำลังจะไปที่ใดกันเจ้าคะ นี่ใกล้จะค่ำแล้วนะเจ้าคะ”
“จะไปตัดไม้ไผ่มาทำคอกให้วัวน่ะ น้องหญิง ”
“พี่ใหญ่ท่านช่วยพี่สะใภ้เอาหมูกลับบ้านเถอะ ขอรับ ส่วนไม้ไผ่ พวกข้าสองคนจะไปตัดเอง คงใช้เวลาไม่นาน”
“ได้ เอาตามที่พวกเจ้าว่า”
เนี่ยหลิงและหยางหลงเดินกลับบ้าน ระหว่างทาง พบชาวบ้านที่ลงจากเขา บ้างแต่ไม่มากนัก ส่วนมากจะเป็นหญิงชาวบ้านที่ขึ้นมาเก็บผักป่าเพื่อไปทำอาหาร ท่ามกลางสายตาชาวบ้านที่มองมาด้วยความอิจฉา ต้องโชคดีขนาดไหนถึง ล่าหมูป่ามาได้ เพราะป่าชั้นนอกแทบไม่มีสัตว์ออกมา ให้พบเห็นบ่อยนัก ชาวบ้าน เป็นเพียงคนธรรมดาไม่ใช่ผู้ฝึกตน จึงไม่กล้าเข้าป่า ลึก อันเป็นที่อยู่ของสัตว์วิญญาณ เมื่อทั้งคู่เดินมาถึงบ้าน หยางหลงเอาหมูไปไว้หลังบ้าน เพื่อจะได้ชำแหละ และทำความสะอาด เนี่ยหลิงเดินเข้าไปในบ้าน ท่านแม่ บอกว่าปลา ของวันนี้แล่เสร็จแล้วให้เนี่ยหลิงไปจัดการส่วนปรุงรส เนี่ยหลิงรับคำแม่สามี เมื่อจัดการหมักปลาและนำใส่ไหไว้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยเอาออกมาตากแดด
เนี่ยหลิงและหยางหลง รับหน้าที่ ทำความสะอาดหมู ท่านแม่กับน้องเล็กทำอาหาร เมื่อน้องชายทั้งสอง ขนไม้ไผ่ลงมาจากเขา ท่านพ่อก็ออกมาช่วยทำคอกวัว ส่วน ลูกๆวิ่งเล่น ที่ลานบ้าน เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว ได้เวลาอาหารเย็นพอดี ทุกคน ไปล้างหน้า ล้างมือและ รีบกินข้าวด้วยความหิวโหย หลังจากอิ่มแล้วท่านพ่อ ให้ทุกคน มารวมกันที่ห้องโถง เพื่อปรึกษากัน เรื่องที่จะซ่อมแซมบ้าน ก่อนที่หน้าหนาวจะมาถึงหยางหลงได้นำเงินที่ไปขายเห็ดหลินจือ วางตรงหน้า ท่านพ่อ 2,400 ตำลึงทอง
“ท่านพ่อ นี่คือเงินที่ ได้วันนี้ เหลือจากที่ข้า ซื้อเกวียน และ ข้าวของเครื่องใช้ ”
“พ่ออยากหารือกับพวกเจ้า หากว่าจะซ่อมแซม หลังคา กับผนังบ้านตรงส่วนที่ชำรุด ให้ผ่านหนาวนี้ไปก่อน พวกเจ้าคิดเห็นเช่นไร”
“ข้าเห็นด้วยเจ้าค่ะท่านพ่อ หากจะสร้างบ้านใหม่เลย ข้ากลัวว่าจะเสร็จไม่ทัน อีกอย่าง ถ้าสร้างบ้านข้าอยากให้ มีห้องเพียงพอกับทุกคน น้องรอง กับน้องสามในอนาคตต้องแต่งภรรยา ห้องหับต้องมีเพียงพอเจ้าค่ะ ข้ากลัวว่าเงินที่มีอยู่ตอนนี้ พอสร้างบ้านแล้วจะเหลือเงินไม่มากนัก อีกทั้งข้าอยากได้ที่ดินเพิ่มด้วยเจ้าค่ะ”
“อาหลิงเจ้าจะเอาที่ดิน มากมายมาทำอันใด” ท่านแม่เอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย
“ข้าอยาก จะได้ที่ดินไว้เพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ จะอาศัยแต่การล่าสัตว์ บนเขาไม่ได้นะเจ้าคะ อย่างน้อยๆ หน้าหนาวเราก็จะมีเสบียงอาหารที่เพียงพอ อีกทั้ง เวลา สร้างบ้าน ข้า อยากให้ น้องรอง และ น้องสาม มีบ้านเป็นของตัวเองด้วยเจ้าค่ะ เวลา น้องทั้งสองแต่งภรรยาเข้ามา จะได้ ไม่คับแคบ เกินไป ”
“พ่อขอบใจเจ้าอาหลิง ที่คิดแทนทุกคน ”
“ขอบคุณขอรับพี่สะใภ้”
“ขอบคุณเจ้าค่ะพี่สะใภ้”
“ไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก เราเป็นครอบครัวเดียวกัน เป็นสิ่งที่ข้าสมควรทำ”
หยางหลงมองเนี่ยหลิง ด้วยสายตารักใคร่ และขอบคุณ ในขณะที่พวกเขาลำบากภรรยาไม่เคยทอดทิ้ง ยังอยู่เคียงข้างเขาเสมอ
“ท่านพี่ พรุ่งนี้ท่านไปหาช่างมาซ่อมบ้านนะเจ้าคะ และให้ช่างทำคอกวัว ให้ด้วยเลย ส่วน ท่านแม่กับน้องเล็ก ให้น้องรอง ขับเกวียนพาเข้าเมืองไปซื้อ ผ้าห่ม ที่นอน ชุดกันหนาวสำหรับทุกคน และผ้าสำหรับตัดชุด ให้เพียงพอในแต่ละคน”
“แล้วข้าล่ะพี่สะใภ้ ”
“น้องสาม ส่วนเจ้าไปเอาปลาที่หลุมดักปลามาให้ข้าและตัดกิ่งสนมาด้วย ข้าจะทำหมูรมควันเก็บไว้เป็นเสบียงหน้าหนาว อ่อข้าลืมไป วันนี้ข้าได้ หญ้ามรกตเหมันต์มา ห้าต้น น้องรองเจ้านำมันไปขายด้วยพรุ่งนี้ คงได้ไม่กี่มากน้อย เพราะไม่ใช่สมุนไพรวิญญาณ”
“ขอรับพี่สะใภ้”
เมื่อพูดคุยตกลง กันได้แล้วก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน อีกไม่ถึง เดือนหน้าหนาวจะมาเยือนแล้ว ได้แต่หวังว่า คงจะไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นนะ อย่างน้อยๆ ปีนี้บ้านหนิงก็ไม่ต้อง อดอยากและทนหนาวอีกต่อไป แค่นี้ก็นับว่าดีมากแล้ว