เพลย์บอยแบบเขาโดนเพื่อนในกลุ่มท้าให้จีบสาวน้อยผู้แสนจะอ่อนต่อโลก มีหรือที่เขาจะพลาด ก็ของรางวัลมันน่าสนใจ เพราะเขาจะได้ทั้งเธอ และทั้งรถสปอร์ตอย่างไรล่ะ
View Moreยามค่ำคืนที่เงียบสงัดภายในบ้านหลังใหญ่ปิดไฟมืดสนิทแต่มีอยู่หนึ่งห้องที่ยังเปิดไฟสลัวจากโคมไฟบนโต๊ะของตนเอง ม่านฟ้าเปิดโน้ตบุ๊กแล้วค้นหาหอพักและคอนโดที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยชื่อดังที่ตนเองกำลังจะเข้าไปเป็นนักศึกษาที่นั่น
หลาย ๆ ที่ดูน่าสนใจ เธอดูรายละเอียดทั้งในเรื่องของราคาและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ จนตาลาย ดวงตาเริ่มหรี่ลงจะหลับเสียให้ได้ แต่เธอมีเวลาในการเตรียมตัวเรื่องที่พักไม่มากนักจึงต้องพยายามค้นหาต่อไป
มือเล็กป้องปากหาวอยู่หลายรอบ เอกสารหอพักหลายแผ่นรวมกันเป็นปึก มีทั้งราคาถูกและแพงปนกันมา เธอคิดว่าเลือกแค่นี้ก็พอแล้วถึงได้ปิดโน้ตบุ๊กและปิดโคมไฟลงเข้าสู่ห้วงนิทรา
ม่านฟ้าตื่นขึ้นมาในเช้าตรู่ มีความอิดโรยเจืออยู่เพราะนอนดึกกว่าทุกที หญิงสาวรีบลุกไปอาบน้ำแล้วแต่งตัวอย่างเร่งรีบ เหตุเพราะจะต้องนำที่พักที่หาเอาเมื่อคืนลงไปให้บิดาของตนเองได้เลือก
“อรุณสวัสดิ์ค่ะพ่อ อรุณสวัสดิ์ค่ะแม่” ม่านฟ้าเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสดใส แต่ผู้เป็นแม่ก็สังเกตเห็นว่าดวงตาของลูกหมองกว่าปกติ แต่ก็ทำเป็นนิ่งไว้ก่อน เพราะหากถามไปในตอนนี้ลูกสาวก็อาจจะโดนพ่อที่ขึ้นชื่อว่าทั้งหวงลูกสาวที่สุดและทั้งดุเค้นถามเอาได้ เธอตั้งใจว่าเดี๋ยวจะหาเวลาคุยกับลูกสาวในภายหลัง
“เอกสารอะไรน่ะลูก” ฉัตรเทพถามขึ้นมาเมื่อเห็นในมือของลูกมีเอกสารอยู่ด้วยจำนวนหนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องสำคัญถึงได้หอบเข้ามาที่โต๊ะอาหารด้วยแบบนี้
“เจ้าขาเอาที่อยู่คอนโดที่จะไปเช่าอยู่มาให้พ่อกับแม่ช่วยเลือกค่ะ” ม่านฟ้ายื่นกระดาษหลายแผ่นในมือตนเองไปให้บิดาดูอย่างกระตือรือร้น
“หือ คอนโดอะไร” ฉัตรเทพหันไปมองหน้าภรรยาด้วยความสงสัย เขารับกระดาษพวกนั้นไปแล้วนั่งดูกับภรรยา
“ที่อยู่? เจ้าขาหมายความว่ายังไงลูก” นวลปรางเอ่ยถามลูกสาวออกไปอย่างสงสัย
“ก็ที่อยู่คอนโดที่เจ้าขาจะไปอยู่ในตอนเรียนไงคะ” ม่านฟ้ารีบบอกพ่อกับแม่ของเธอทันที
“ไม่ได้!!!” พ่อแม่ของเธอตอบกลับพร้อมกันทันที น้ำเสียงทรงพลังเสียจนคิดว่าจะขัดไม่ได้ แต่ม่านฟ้าไม่ยอมแพ้ เพราะเธอตั้งใจไว้แล้วว่าพอเข้ามหาวิทยาลัยเธอจะต้องได้ย้ายไปอยู่ข้างนอกให้ได้ จึงเริ่มยกเหตุผลทั้งหมดขึ้นมาอ้าง
“ทำไมล่ะคะ บ้านเราไกลจากมหา’ลัยมากเลยนะ ถ้าให้เจ้าขาตื่นแต่เช้าไปเรียน และกว่าจะเลิกเรียนถึงบ้านก็จะมืดไปเลย เจ้าขาไม่ไหวนะคะ อีกอย่างเจ้าขาเคยขอพ่อกับไม่ไว้แล้วไงคะ ว่าถ้าเรียนมหาวิทยาลัย เจ้าขาขอไปอยู่คอนโดใกล้ๆ มหาวิทยาลัยเพื่อความสะดวก ยิ่งปี 1 ยิ่งกิจกรรมเยอะ อีกไม่นานเจ้าขาก็จะเปิดเทอมแล้ว ก็เลยหาที่อยู่เอาไว้เพื่อให้พ่อกับแม่ช่วยเลือกด้วยไงคะ” ม่านฟ้าพูดออกไปอย่างออดอ้อนและทำสีหน้าให้ดูจริงจังบ้านของเธออยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยพอสมควร เพราะกิจการที่เป็นการนำเข้าและส่งออกอาหารแปรรูป จึงใช้พื้นที่เยอะอยู่ชานเมืองที่อ้อมน้อย สมุทรสาคร ถนนในตอนเช้าและเย็น รถก็มักจะติดหนักมาก เพราะมีแต่คนต้องรีบร้อนไปเรียนไปทำงาน
“มันไม่ได้ไกลมากขนาดนั้น” ฉัตรเทพพูดขึ้นอย่างไม่เห็นด้วย แววตาของเขานิ่งเรียบ น้ำเสียงก็จริงจังตามแบบฉบับของพ่อที่หวงลูกสาว
ม่านฟ้ากะพริบตาปริบ ๆ กำลังใช้ความคิดว่าจะอ้างยังไงดี ก่อนจะใช้ลูกอ้อนที่ได้ผลมาตลอด
“โถ่ พ่อขา แต่เจ้าขาต้องนั่งรถหลายต่อเลยนะคะพ่อ การเดินทางไม่ใช่ว่านั่งรถเพียงสายเดียวก็ถึงมหาวิทยาลัยเลยสักหน่อย แถมปีหนึ่งก็มีกิจกรรมเยอะแยะเลย บางทีต้องอยู่มหาวิทยาลัยจนมืด เจ้าขาไม่อยากเสี่ยงกลับบ้านดึกๆ นะคะ แท็กซี่ทุกวันนี้ก็ไว้ใจได้ยาก คุณพ่อคุณแม่ไม่ห่วงเจ้าขาเหรอคะ” ม่านฟ้าพูดไปก็เข้าไปกอดเอวพ่อของตนเองและเอาหน้าถูไถเหมือนแมวที่กำลังอ้อนเจ้าของ
ฉัตรเทพคลี่ยิ้มออกมาเมื่อเห็นท่าทางนั้นของลูกสาว ม่านฟ้ายิ้มตามอย่างมีความหวัง
“พ่อไม่ปล่อยให้ลูกสาวของพ่อต้องขึ้นรถไปหรอกลูก พ่อจะให้คนขับรถที่บ้านไปส่งเจ้าขาเองดีไหมลูก เจ้าขาจะไม่เหนื่อย”ฉัตรเทพยกมือขึ้นลูบหัวลูกสาว ก่อนจะพูดออกมาอย่างอ่อนโยน
รอยยิ้มบนใบหน้าของม่านฟ้าหายไปในทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น“โหยพ่ออ่ะ!” หญิงสาวร้องโอดโอย ก่อนจะผละออกมาจากอกพ่อ เธอไม่อยากใช้ชีวิตเหมือนนกน้อยในกรงทองอีกแล้ว เธอมีความฝันที่จะโบยบินอย่างอิสระไม่มีใครมาคอยควบคุม
พ่อแม่เป็นห่วงมากน่ะเธอรู้ แต่เธอก็อยากได้ใช้ชีวิตของตัวเอง เธอหาหอและคอนโดมาทั้งคืนแต่พ่อกลับไม่สนใจเลย
“กินข้าวซะลูก” ฉัตรเทพตักอาหารใส่จานของลูกสาวอย่างใส่ใจ และส่งปึกกระดาษให้แม่บ้านเอาออกไปไว้ที่อื่น
‘ใครจะไปกินข้าวลงกันล่ะ!’ ม่านฟ้าก้มหน้ามุ่ยเขี่ยข้าวในจานไปมาและไม่ยอมตักใส่ปากสักที พ่อกับแม่ดูท่าทางของลูกสาวแล้วหันไปมองหน้ากัน ก่อนที่ฉัตรเทพจะพยักหน้าให้เป็นหน้าที่ของภรรยา
“พ่อกับแม่เป็นห่วงเจ้าขามากนะลูก เจ้าขาน่าจะรู้นะ” นวลปรางเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ม่านฟ้าเป็นลูกสาวคนเดียวและเป็นคนเล็ก พ่อกับแม่ทั้งเป็นห่วงและหวงมาก ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอและสามีเลี้ยงม่านฟ้ามาอย่างไข่ในหิน เรียนที่โรงเรียนนานาชาติใกล้บ้านมาตลอดตั้งแต่อนุบาลจนจบมัธยมปลาย
“เจ้าขารู้ค่ะ” ม่านฟ้าตอบเซ็ง ๆ เธอรู้ว่าพ่อแม่ทั้งห่วงและหวงจนดูแลทะนุถนอมเธอราวกับไข่ในหิน เธอถึงได้อยากอยู่ให้ห่างจากท่านบ้างเพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตของตนเองอย่างอิสระ ม่านฟ้าเฝ้ารอวันที่จะได้เข้าไปเรียนมหาวิทยาลัย เพราะจะขอท่านออกไปอยู่ตามลำพัง แต่ท่านก็ดับฝันของเธอลงเสียได้
“แต่อยู่ที่นี่การเดินทางก็ใช้เวลานาน เจ้าขาคงจะเพลียน่าดูนะคะ แล้วไหนจะต้องตื่นแต่เช้าอีก เจ้าขาไม่ไหวแน่ ๆ พ่อกับแม่ก็รู้ว่าเจ้าขาตื่นเช้าๆ ไม่ได้” ม่านฟ้าพยายามหาข้ออ้าง เมื่อก่อนเธอตื่น 6 โมงเช้ายังไปเรียนทัน แต่นี่คงต้องตื่นตั้งแต่ตี 4 แน่เลย
“ระยะทางจากบ้านเราไปมหา’ลัยไม่ถือว่าไกลมากนะลูก ที่อเมริกาน่ะมหา’ลัยอยู่ห่างจากบ้านไกลกว่านี้เยอะ ยังไปเรียนกันได้เลย” ฉัตรเทพพูดขึ้นมาบ้าง
ตอนพิเศษ 2ร้านอาหารอาทิตย์ขับรถมาจอดที่ร้านอาหาร โดยที่ข้างๆ มีม่านฟ้าที่ถูกผ้าสีสวยปิดตาไว้ เพราะเขาอยากจะเซอร์ไพรส์เธอ“ถึงแล้วครับเจ้าขา” อาทิตย์ที่เปิดประตูแล้วอ้อมไปเปิดให้แฟนสาวพูดขึ้น ก่อนจะช่วยเธอลงจากรถและให้เกาะแขนเขาไว้“ที่ไหนคะเนี่ย หอมจัง” ม่านฟ้าพูดขึ้นเมื่อเดินเกาะแขนแฟนหนุ่มไปอย่างมั่นใจว่าเขาจะไม่ให้เธอล้ม เธอได้กลิ่นขนมและกาแฟ“เดี๋ยวก็รู้ครับ เดินดีๆนะ” อาทิตย์บอกพร้อมกับวางมือทับลงไปที่มือของเธอ ตอนนี้ใครๆ มองมาก็เหมือนคู่บ่าวสาวที่กำลังเดินเข้าสู่พิธีการแต่งงาน เพราะทั้งคู่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าโทนสีเดียวกันอาทิตย์พาแฟนสาวเดินเข้ามาในร้านที่เขาและเพื่อนๆ มาช่วยกันตกแต่งไว้เพื่อม่านฟ้าโดยเฉพาะ จนมาหยุดอยู่ที่กลางร้าน เขาจึงเปลี่ยนมายืนซ้อนหลังเธอและค่อยๆ แกะผ้าปิดตาออกให้“โอ้ อะไรคะเนี่ยพี่ไฟ” ม่านฟ้าหันมาถามแฟนหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังด้วยดวงตาเบิกกว้าง“วันพิเศษ สำหรับคนพิเศษครับ” อาทิตย์ตอบกลับไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม“พี่ไฟ ทำไมน่ารักอย่างนี้คะ จุ๊บ” ม่านฟ้าบอกกับแฟนหนุ่มพร้อมทั้งหอมแก้มเขาเป็นการขอบคุณไปหนึ่งที เพราะว่าภาพตรงหน้าของเธอคือร้านคาเฟที่เขาเคยพาเธอมา
ตอนพิเศษ 1รถสปอร์ตสุดหรูขับเข้ามาจอดเทียบกันสามคันที่หน้าคณะบริหาร ก่อนจะมีชายหนุ่มลงจากรถมาสามคน พวกเขาอยู่ในชุดที่แตกต่างกันแต่ความหล่อก็กินกันไม่ลง“ไงวะไอ้นักธุรกิจใหญ่ เห็นว่าเพิ่งเปิดตัวรถรุ่นใหม่เหรอวะ ส่งมาใช้บ้างดิวะ รอบนี้ฟันไปเท่าไรล่ะ” แบงค์ที่อยู่ในชุดทำงานสบายๆ กางเกงยีนเสื้อเชิ้ตแต่ทุกอย่างคือแบรนด์เนมที่บ่งบอกถึงฐานผู้บริหารของบริษัทนำเข้ารถหรูที่แต่ละคันไม่ต่ำกว่าสิบล้าน“ไม่ให้โว้ย ของซื้อของขายว่าแต่โชว์รูทแกว่างไหมวะ จะฝากรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ไปโชว์สักหน่อย เผื่อลูกค้าแกจะซื้อไปให้ขับเล่นบ้าง” แชมป์ตอบกลับเพื่อนทันที เขาแต่งตัวสบายๆ เพราะเพิ่งกลับมาจากโรงงานผลิตรถยนต์ที่ร่วมทุนกับต่างประเทศ ตอนนี้เขานำเข้ารถไฟฟ้าทั้งราคาเบาๆ และแบบราคาแพงขึ้น เรียกว่าอะไรที่เกี่ยวกับรถไฟฟ้าเขาทำทั้งหมด“เขี้ยวฉิบหาย กับเพื่อนก็ไม่เว้น ว่าแต่แกเถอะไฟ เห็นเปิดตัวสินค้าเพิ่มเหรอวะ แค่ขายเครื่องใช้ไฟฟ้ามันยังรวยไม่พอหรือไง ถึงคิดจะมาขายโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่อย่างนั้น” แบงค์ต่อว่าแชมป์แล้วกลับมาถามอาทิตย์ที่ยืนพิงรถคันหรูที่เคยเป็นของเขามาก่อน ใช่ รถคันที่เป็นประเด็นนั้นแหละ หลังจากจบเรื่องแบงค
ตอนที่ 60ม่านฟ้ารู้สึกดีกับคำพูดของเขา เธอกลั้นยิ้มเอาไว้เพราะกลัวว่าอาทิตย์จะรู้ว่าเธอใจอ่อนแล้ว ความจริงเรื่องนี้เตยหอมกับมะปรางได้โทรมาคุยกับเธอแล้ว ทั้งสองคนยืนยันว่าพี่เขาเลือกเธอแทนที่จะเอารถหรูที่เขาอยากได้ แต่ความโกรธ ความเสียใจมันยังมีอยู่เต็มหัวใจ จึงของอนหน่อยก็แล้วกัน“ถ้าพี่ไม่รักเจ้าขา พี่ก็คงไม่มาที่นี่ เพราะรู้ว่าเจ้าขุนมันโกรธอยู่ แถมเตยกับปรางก็บอกว่าพ่อของหนูโหดมาก ถ้าพี่มาอาจจะโดนยำได้ แต่พี่ก็คิดแล้วว่าจะยอมให้พ่อหรือเจ้าขุนเตะต่อยได้เต็มที่เลยแลกกับได้เจอเจ้าขา” อาทิตย์พยายามพูดให้เธอเชื่อว่าเขารักเธอจริง ๆ และตั้งใจมาง้อให้สำเร็จโดยที่ไม่กลัวอะไร“พี่เจ้าขุนก็ไม่น่าให้เข้ามาง่าย ๆ เลย น่าจะเตะต่อยให้หนัก” ม่านฟ้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงเง้างอน ทั้งที่เธอไม่ได้อยากให้พี่ชายทำแบบนี้ เธอแค่ประชดอาทิตย์เท่านั้น“แต่เจ้าขุนจะขับรถชนพี่เลยนะ ดีที่พี่กระโดดหลบทัน ไม่งั้นหนูอาจจะได้ไปงานศพพี่แล้ว” อาทิตย์พูดออกมาเชิงฟ้องเล็กๆ เขาเล่นใหญ่เพราะรู้ว่าม่านฟ้าก็รักเขาเหมือนกันม่านฟ้าเบิกตาโตด้วยความตกใจ เธอลุกขึ้นแล้วจับตัวเขาหมุนไปหมุนมาเพื่อมองร่างกายของอาทิตย์ถนัดๆ ก็เห็นว่าตัว
ตอนที่ 59“ทำไมพ่อยอมให้ไฟเข้าไปง่ายแบบนี้เนี่ย น่าจะยำมันให้สาแก่ใจสักหน่อยนะพ่อ” ภูผาเอ่ยออกมาด้วยความหงุดหงิด แทนที่พ่อจะกั้นเอาไว้ไม่ยอมให้เข้าไปเจอกับม่านฟ้า แต่กลับเปิดโอกาสให้ง่าย ๆ เพียงแค่อาทิตย์เอ่ยออกมาอย่างจริงจังฉัตรเทพคลี่ยิ้มแล้วกอดคอลูกชายเอาไว้ ก่อนจะเอ่ยขึ้น“เวลาเรารักใครสักคน เราจะยอมทำอะไรหลายอย่างได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งเรื่องที่ดีและเรื่องที่งี่เง่าที่สุดในโลก ไฟเขาก็ยอมทำได้ขนาดนั้น พ่อว่าเขารักเจ้าขาจริง ๆ” ฉัตรเทพเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“พ่อเชื่อด้วยเหรอ” ภูผาถามพ่อออกไปอย่างแปลกใจ“แล้วเจ้าขุนไม่เชื่อไฟหรือไง เจ้าขุนคิดว่าไฟโกหกเหรอ ตอบพ่อแบบที่ไม่มีความโกรธอยู่นะ” ฉัตรเทพถามลูกชายขึ้นมาอีกภูผาเงียบไปชั่วขณะ เพราะลึก ๆ แล้วเขาก็เชื่อที่อาทิตย์พูด เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก เขารู้นิสัยกันดี แค่เห็นว่าอาทิตย์มาตามง้อถึงที่นี่ เขาก็คิดแล้วว่าต้องรักน้องสาวของเขาจริง ๆ เพียงแต่ภาพของม่านฟ้าตอนที่ร้องไห้โฮยังติดตาเขาอยู่ เขาเลยมองข้ามความคิดตนเองแล้วปกป้องน้องสาว“ผมก็คิดว่ามันพูดจริง” ภูผาตอบเสียงแผ่ว ฉัตรเทพก็เลยหัวเราะออกมา“เราก็ปล่อยให้เขาได้ปรับความเข้าใจ
ตอนที่ 58ม่านฟ้าเอาโทรศัพท์ออกมากดเปิดเครื่อง เธอเปิดปิดอยู่ตลอด หากมีธุระที่ต้องติดต่อก็เปิด แต่พอติดต่อเสร็จแล้วก็ปิดเครื่อง เธอไม่ได้ดูโซเชียลเลย แต่ตอนนี้เธอจะไม่หนีอีกต่อไปLineToey : เจ้าขาแกเป็นยังไงบ้างMaprang : ฉันเป็นห่วงแกนะJaokha : สบายดี ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ฉันกลับมาแล้วม่านฟ้าเข้าไลน์แล้วกดเข้าไปอ่านไลน์กลุ่มที่มีข้อความค้างอยู่เยอะมาก เธอไล่อ่านข้อความที่เพื่อน ๆ ก็ส่งมาถามไถ่อยู่ตลอด พอเธอตอบกลับไปแล้วก็กดออกจากไลน์กลุ่ม และเปิดไลน์อื่นๆ ดู ทำให้เห็นแชตของอาทิตย์Fire : พี่คิดถึงหนูมากนะครับเธอเห็นข้อความที่ค้างอยู่จำนวนมาก แต่ไม่ได้กดเข้าไปอ่าน หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้น เธอจะไม่ใจอ่อนให้เขาง่าย ๆ เด็ดขาด เขาเห็นความรู้สึกของเธอเป็นของเล่นมาตลอด เธอไม่อยากยุ่งกับคนใจร้ายแบบนี้อีกแล้วม่านฟ้าวางโทรศัพท์ลง แล้วเข้านอนไปในทันทีวันต่อมาอาทิตย์จำได้ว่าบ้านของภูผาอยู่ที่ไหน เขาไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์ รีบออกจากคอนโดไปที่บ้านของภูผาทันที เขาคิดว่าม่านฟ้าก็คงต้องอยู่ที่นั่น พี่ชายมาทั้งที เธอจะไปอยู่ที่ไหนได้หากไม่ได้อยู่ด้วยกันภูผากำลังจะออกไปข้างนอก แต่เห
ตอนที่ 57ม่านฟ้านั่งเงียบมาตลอดทาง เธออุตส่าห์หนีไปพักใจตั้งไกล แต่พอกลับมาถึงไทยคนแรกที่ได้เจอกันกลับเป็นเขา ไม่รู้ว่าทำไมโชคชะตาถึงใจร้ายกับเธอได้ถึงขนาดนี้ เพิ่งจะรู้สึกดีขึ้นก็ดันต้องกลับไปเริ่มทำใจใหม่ภูผาเห็นสีหน้าเศร้าหมองของน้อง ก็เอามือของเธอมากุมไว้เพื่อปลอบประโลม ไม่ให้เธอเศร้ามากหญิงสาวมองมือของพี่ชายแล้วคลี่ยิ้มให้ รอยยิ้มของเธอเศร้าลง ภูผาก็ได้แต่คอยลูบหลังมือของเธอ เขาไม่กล้าพูดอะไรออกไปในตอนนี้ เพราะกลัวว่าจะสะกิดแผลให้เธอเจ็บอีกกลับมาถึงคฤหาสน์หลังงามแล้ว ม่านฟ้าก็สูดลมหายใจเข้าปอดลึก เธอปั้นหน้ายิ้มเพื่อที่จะให้พ่อแม่ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมเธอถึงได้เศร้า ภูผามองหน้าม่านฟ้าด้วยความเป็นห่วง ต้องทนฝืนยิ้มก็ยิ่งเจ็บปวด“โอเคหรือเปล่า ถ้าไม่โอเคก็ไม่ต้องฝืนขนาดนี้หรอก” ภูผาเอ่ยถามน้องสาวเบาๆ“โอเคค่ะ พ่อแม่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวเจ้าขาจะอดไปอยู่คอนโด พี่เจ้าขุนอย่าบอกพ่อแม่นะคะ” ม่านฟ้ายิ้มทะเล้นให้พี่ชาย ใจจริงเธอก็กังวลเรื่องนี้ด้วย หากพ่อแม่รู้ว่าเธอย้ายออกไปอยู่ข้างนอกแล้วทุกข์ใจ ท่านคงให้เธอย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านแน่ ๆ“ฮ่า ๆ งั้นเข้าบ้านกัน” ภูผาหัวเราะเอ็นดูม่านฟ
Comments