ม่านฟ้าเดินกอดเอวแม่เข้ามาในบ้าน นั่งลงที่โต๊ะอาหารแล้วคุยกับพ่อแม่อย่างสนุกสนาน พร้อมกับกินอาหารที่แม่ตั้งใจทำไว้ให้
“กับข้าวฝีมือแม่อร่อยเหมือนเดิมเลยค่ะ” ม่านฟ้าบอกอย่างเอาใจมารดา แต่รสมือแม่ก็ไม่ตกเลย แม้ว่าท่านจะไม่ค่อยได้ทำกับข้าวแล้วเพราะต้องไปช่วยคุณพ่อทำงาน
“กลับมาอยู่บ้านสิ เดี๋ยวแม่ทำให้กินทุกวันเลย” นวลปรางพูดขึ้นยิ้มๆ เธอมีความสุขที่ได้อยู่พร้อมหน้ากันอย่างนี้ ถึงแม้ว่าจะขาดลูกชายคนโตที่ไปทำงานอยู่ที่ต่างประเทศก็ตาม
“แม่อะ เจ้าขาต้องไปเรียนนิคะ” ม่านฟ้ายู่หน้าใส่มารดาเพราะสุดท้ายแม่ก็วกกลับมาเรื่องเดิม
“ฮ่าๆ” นวลปรางหัวเราะด้วยความเอ็นดู ก่อนจะพูดต่อ“แม่พูดเล่น แม่เข้าใจลูกอยู่แล้ว ไว้วันหลังกลับมาอีกนะ แม่จะทำให้กินอีกนะลูก ให้คนขับรถไปรับมาแล้วกินข้าวเสร็จค่อยกลับไปก็ได้”
“ค่ะแม่” ม่านฟ้ายิ้มหวาน แล้วชวนพ่อแม่คุยเรื่องอื่น ๆ ต่อ
หญิงสาวอยู่ที่บ้านต่ออีกสองวันเพราะเป็นวันหยุดพอดี แล้วกลับไปเรียนตามปกติ ผ่านไปอีกหนึ่งเดือนเธอก็ยิ่งคุ้นชินกับการใช้ชีวิตแบบนี้ จนวันนี้จู่ ๆ เตยหอมพูดขึ้นมา
“เปิดหูเปิดตากันหน่อยไหมจ๊ะสาวๆ” เตยหอมเอ่ยขึ้นมาหลังจากเลิกคลาส หน้าตาเจ้าเล่ห์ซะจนม่านฟ้าและมะปรางหันมองหน้ากันด้วยความสงสัย
“จะชวนไปเที่ยวไหน” ม่านฟ้าเอ่ยถามขึ้นมา ปกติเตยหอมมักจะชวนไปหาของอร่อย ๆ กิน แต่ก็ไม่เคยทำสีหน้าเจ้าเล่ห์แบบนี้
“ไปเที่ยวผับ” เตยหอมตอบกลับมาสั้นๆ
“เที่ยวผับเหรอ” ม่านฟ้าขมวดคิ้วถาม
“จะเข้าได้เหรอ พวกเราอายุยังไม่ถึงนะ” มะปรางเอ่ยออกมาเพราะพวกเธออายุเพิ่งจะสิบแปดกันทั้งนั้น แล้วจะเข้าผับได้เหรอ
“เข้าได้แน่นอน ไปไหม ไปนะ” เตยหอมตอบกลับมาพร้อมกับมองหน้าเพื่อนทั้งสองและพยักหน้าชวน ลุ้นให้ตอบตกลง แต่ทว่าทั้งม่านฟ้าและมะปรางกลับทำหน้ากังวล
“เข้าได้จริง ๆ ฉันพาเข้าได้ แค่พวกแกตอบตกลง” เตยหอมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังเมื่อเห็นสีหน้าลังเลของเพื่อน
“เข้าน่ะเข้าได้ แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาล่ะ ถ้าตำรวจเข้าแล้วถูกจับ ฉันคงโดนพ่อแม่จับไปขังไว้ในกรงทองเหมือนเดิมแน่” ม่านฟ้ากลัวว่าถ้าตำรวจลงตรวจก็คงไม่รอดแน่ ๆ และถ้าเรื่องถึงพ่อแม่ของเธอ เธอคงขาดอิสรภาพแน่นอน
“ไม่มีปัญหาอะไรหรอก ผับนั้นเป็นของพี่ชายฉันเอง รับรองว่าพาหนีได้ทันเวลาแน่ หรือบอกว่าเราไปหาพี่ชายก็ได้ เราไม่ได้ไปเที่ยวสักหน่อย” เตยหอมเอ่ยออกมา เธอมีทางหนีทีไล่ไว้เรียบร้อยแล้ว ยังไงก็ไม่มีทางโดนอะไรแน่
“....” ทั้งม่านฟ้าและมะปรางยังคงลังเล แม้จะรู้ว่าที่นั่นเป็นผับของพี่ชายเพื่อน
“ไหน ๆ ก็ออกมาใช้ชีวิตอิสระแล้ว เก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้คุ้มหน่อยดิ” เตยหอมมองหน้าม่านฟ้าแล้วพูดโน้มน้าว เพราะถ้าคนใดคนหนึ่งไป อีกคนก็ต้องแพ้โหวต
“ไปก็ไป” ม่านฟ้าตอบตกลง เพราะทนความตื๊อของเตยหอมไม่ได้ อีกอย่างที่เพื่อนพูดมาก็ถูก ไหนๆ ก็มีอิสระแล้ว ก็เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไว้ก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร
“แกล่ะปราง” เตยหอมหันไปถามเพื่อนอีกคนบ้าง
“ไปดิ เราเพื่อนกัน ไปไหนไปกันอยู่แล้ว” มะปรางตอบกลับมา หากม่านฟ้าไปเธอก็ไป จะได้ไปเที่ยวกันครบแก๊ง
“โอเค งั้นเจอกันที่ผับ เดี๋ยวฉันจะแชร์โลเคชันไปให้ทางไลน์นะ” เตยหอมพูดออกมาอย่างดีใจ
“โอเค” ม่านฟ้าพูดขึ้นและทำท่าโอเค
“ตามนั้น” มะปรางพยักหน้ารับเบาๆ
จากนั้นทั้งสามคนก็แยกย้ายกันกลับที่พัก และนัดเจอกันที่ผับตอนสองทุ่ม
กลับมาถึงคอนโด ม่านฟ้าเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วไล่สายตาเลือกชุดที่จะใส่ไปเที่ยวในคืนนี้ เธอเลือกออกมา แล้วเอามาทาบตัวส่องกระจกอยู่หลายชุด จนได้ชุดที่พอใจก็ถอนหายใจโล่งอกออกมา ส่วนใหญ่ชุดของเธอจะสไตล์น่ารักเรียบร้อย เพราะแม่ของเธอเป็นคนซื้อให้ แต่มีชุดหนึ่งที่พอจะใส่ไปเที่ยวผับได้บ้าง
ม่านฟ้าออกมาที่ผับตรงเวลา เธอเจอเตยหอมยืนรออยู่แล้ว สักครู่หนึ่งมะปรางก็มาถึง สาว ๆ เดินเข้าไปในสถานบันเทิง เบียดนักท่องราตรีที่กำลังยืนเต้นไปตามจังหวะ จนขึ้นมาถึงชั้นสอง ที่เตยหอมจองโต๊ะ VVIP เอาไว้แล้ว
เป็นครั้งแรกของการมาเที่ยวกลางคืน ม่านฟ้าตื่นตากับแสงและเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มมากทีเดียว บรรยากาศไม่ได้แย่อย่างที่กังวล เพราะดูเป็นผับที่ดูหรูและมีระดับมาก
ม่านฟ้าเดินตามเพื่อนเข้าไป โดยที่ไม่รู้เลยว่าเธอตกอยู่ในสายตาของคนคนหนึ่งอาทิตย์เพ่งมองกลุ่มสาว ๆ ที่เดินผ่านหน้าโต๊ะตนเองไปที่อีกมุมหนึ่งของชั้นสอง ผ่านมาร่วมเดือนที่ไม่ได้เจอกัน แต่พอได้เจอ เธอก็ดึงสายตาของเขาเอาไว้ได้อีกแล้ว
‘เข้ามาได้ยังไง?’ อาทิตย์คิดสงสัยอยู่ในใจ ‘เธอเรียนปี 1 อายุก็น่าจะสิบแปดสิบเก้าแล้วทำไมถึงเข้ามาที่ผับนี้ได้ แถมยังไปนั่งในโซน VIP ซะด้วย’ ชายหนุ่มมองไม่วางตาตั้งแต่เธอเดินผ่านไป จนนั่งลงแล้วคุยกับเพื่อน ๆ ที่โต๊ะอย่างสนุกสนาน
“มึงชวนกูมาบ่อยมากเลยนะไฟ ช่วงนี้กูเมาหัวราน้ำทุกวัน” แชมป์เพิ่งมาถึงก็บ่นเพื่อนทันที เขาบ่นแบบนี้มาหลายวันแล้วแต่ก็ไม่เคยพลาดที่จะมาตามนัดเลยสักคืน ก็อย่างว่า ของฟรีใครจะไม่อยากมาวะ เพราะกลุ่มเขา ใครชวนคนนั้นจ่าย
“มึงบ่น แต่มึงก็มา” แบงค์เอ่ยออกมา แล้วชงเหล้าส่งให้เพื่อน
“ก็นะ ขอฟรีใครจะไม่อยากกินวะ” แชมป์ยักไหล่พูด ก่อนจะรับแก้วจากเพื่อนมาดื่ม
ส่วนอาทิตย์ไม่ตอบอะไรกลับไป เขามาที่นี่เพื่อลบใบหน้าของรุ่นน้องต่างคณะออกจากหัว ซึ่งก็ได้ผล เขาเพลิดเพลินกับการท่องราตรี ได้อยู่กับแสงสีและสาว ๆ จนเกือบลืมเธอไปได้สนิทแล้วนะแต่ทว่าดันได้เจอเธออีกครั้งเสียได้…แล้วเมื่อไรเขาจะลืมเธอได้ล่ะแบบนี้
ตอนพิเศษ 2ร้านอาหารอาทิตย์ขับรถมาจอดที่ร้านอาหาร โดยที่ข้างๆ มีม่านฟ้าที่ถูกผ้าสีสวยปิดตาไว้ เพราะเขาอยากจะเซอร์ไพรส์เธอ“ถึงแล้วครับเจ้าขา” อาทิตย์ที่เปิดประตูแล้วอ้อมไปเปิดให้แฟนสาวพูดขึ้น ก่อนจะช่วยเธอลงจากรถและให้เกาะแขนเขาไว้“ที่ไหนคะเนี่ย หอมจัง” ม่านฟ้าพูดขึ้นเมื่อเดินเกาะแขนแฟนหนุ่มไปอย่างมั่นใจว่าเขาจะไม่ให้เธอล้ม เธอได้กลิ่นขนมและกาแฟ“เดี๋ยวก็รู้ครับ เดินดีๆนะ” อาทิตย์บอกพร้อมกับวางมือทับลงไปที่มือของเธอ ตอนนี้ใครๆ มองมาก็เหมือนคู่บ่าวสาวที่กำลังเดินเข้าสู่พิธีการแต่งงาน เพราะทั้งคู่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าโทนสีเดียวกันอาทิตย์พาแฟนสาวเดินเข้ามาในร้านที่เขาและเพื่อนๆ มาช่วยกันตกแต่งไว้เพื่อม่านฟ้าโดยเฉพาะ จนมาหยุดอยู่ที่กลางร้าน เขาจึงเปลี่ยนมายืนซ้อนหลังเธอและค่อยๆ แกะผ้าปิดตาออกให้“โอ้ อะไรคะเนี่ยพี่ไฟ” ม่านฟ้าหันมาถามแฟนหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังด้วยดวงตาเบิกกว้าง“วันพิเศษ สำหรับคนพิเศษครับ” อาทิตย์ตอบกลับไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม“พี่ไฟ ทำไมน่ารักอย่างนี้คะ จุ๊บ” ม่านฟ้าบอกกับแฟนหนุ่มพร้อมทั้งหอมแก้มเขาเป็นการขอบคุณไปหนึ่งที เพราะว่าภาพตรงหน้าของเธอคือร้านคาเฟที่เขาเคยพาเธอมา
ตอนพิเศษ 1รถสปอร์ตสุดหรูขับเข้ามาจอดเทียบกันสามคันที่หน้าคณะบริหาร ก่อนจะมีชายหนุ่มลงจากรถมาสามคน พวกเขาอยู่ในชุดที่แตกต่างกันแต่ความหล่อก็กินกันไม่ลง“ไงวะไอ้นักธุรกิจใหญ่ เห็นว่าเพิ่งเปิดตัวรถรุ่นใหม่เหรอวะ ส่งมาใช้บ้างดิวะ รอบนี้ฟันไปเท่าไรล่ะ” แบงค์ที่อยู่ในชุดทำงานสบายๆ กางเกงยีนเสื้อเชิ้ตแต่ทุกอย่างคือแบรนด์เนมที่บ่งบอกถึงฐานผู้บริหารของบริษัทนำเข้ารถหรูที่แต่ละคันไม่ต่ำกว่าสิบล้าน“ไม่ให้โว้ย ของซื้อของขายว่าแต่โชว์รูทแกว่างไหมวะ จะฝากรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ไปโชว์สักหน่อย เผื่อลูกค้าแกจะซื้อไปให้ขับเล่นบ้าง” แชมป์ตอบกลับเพื่อนทันที เขาแต่งตัวสบายๆ เพราะเพิ่งกลับมาจากโรงงานผลิตรถยนต์ที่ร่วมทุนกับต่างประเทศ ตอนนี้เขานำเข้ารถไฟฟ้าทั้งราคาเบาๆ และแบบราคาแพงขึ้น เรียกว่าอะไรที่เกี่ยวกับรถไฟฟ้าเขาทำทั้งหมด“เขี้ยวฉิบหาย กับเพื่อนก็ไม่เว้น ว่าแต่แกเถอะไฟ เห็นเปิดตัวสินค้าเพิ่มเหรอวะ แค่ขายเครื่องใช้ไฟฟ้ามันยังรวยไม่พอหรือไง ถึงคิดจะมาขายโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่อย่างนั้น” แบงค์ต่อว่าแชมป์แล้วกลับมาถามอาทิตย์ที่ยืนพิงรถคันหรูที่เคยเป็นของเขามาก่อน ใช่ รถคันที่เป็นประเด็นนั้นแหละ หลังจากจบเรื่องแบงค
ตอนที่ 60ม่านฟ้ารู้สึกดีกับคำพูดของเขา เธอกลั้นยิ้มเอาไว้เพราะกลัวว่าอาทิตย์จะรู้ว่าเธอใจอ่อนแล้ว ความจริงเรื่องนี้เตยหอมกับมะปรางได้โทรมาคุยกับเธอแล้ว ทั้งสองคนยืนยันว่าพี่เขาเลือกเธอแทนที่จะเอารถหรูที่เขาอยากได้ แต่ความโกรธ ความเสียใจมันยังมีอยู่เต็มหัวใจ จึงของอนหน่อยก็แล้วกัน“ถ้าพี่ไม่รักเจ้าขา พี่ก็คงไม่มาที่นี่ เพราะรู้ว่าเจ้าขุนมันโกรธอยู่ แถมเตยกับปรางก็บอกว่าพ่อของหนูโหดมาก ถ้าพี่มาอาจจะโดนยำได้ แต่พี่ก็คิดแล้วว่าจะยอมให้พ่อหรือเจ้าขุนเตะต่อยได้เต็มที่เลยแลกกับได้เจอเจ้าขา” อาทิตย์พยายามพูดให้เธอเชื่อว่าเขารักเธอจริง ๆ และตั้งใจมาง้อให้สำเร็จโดยที่ไม่กลัวอะไร“พี่เจ้าขุนก็ไม่น่าให้เข้ามาง่าย ๆ เลย น่าจะเตะต่อยให้หนัก” ม่านฟ้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงเง้างอน ทั้งที่เธอไม่ได้อยากให้พี่ชายทำแบบนี้ เธอแค่ประชดอาทิตย์เท่านั้น“แต่เจ้าขุนจะขับรถชนพี่เลยนะ ดีที่พี่กระโดดหลบทัน ไม่งั้นหนูอาจจะได้ไปงานศพพี่แล้ว” อาทิตย์พูดออกมาเชิงฟ้องเล็กๆ เขาเล่นใหญ่เพราะรู้ว่าม่านฟ้าก็รักเขาเหมือนกันม่านฟ้าเบิกตาโตด้วยความตกใจ เธอลุกขึ้นแล้วจับตัวเขาหมุนไปหมุนมาเพื่อมองร่างกายของอาทิตย์ถนัดๆ ก็เห็นว่าตัว
ตอนที่ 59“ทำไมพ่อยอมให้ไฟเข้าไปง่ายแบบนี้เนี่ย น่าจะยำมันให้สาแก่ใจสักหน่อยนะพ่อ” ภูผาเอ่ยออกมาด้วยความหงุดหงิด แทนที่พ่อจะกั้นเอาไว้ไม่ยอมให้เข้าไปเจอกับม่านฟ้า แต่กลับเปิดโอกาสให้ง่าย ๆ เพียงแค่อาทิตย์เอ่ยออกมาอย่างจริงจังฉัตรเทพคลี่ยิ้มแล้วกอดคอลูกชายเอาไว้ ก่อนจะเอ่ยขึ้น“เวลาเรารักใครสักคน เราจะยอมทำอะไรหลายอย่างได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งเรื่องที่ดีและเรื่องที่งี่เง่าที่สุดในโลก ไฟเขาก็ยอมทำได้ขนาดนั้น พ่อว่าเขารักเจ้าขาจริง ๆ” ฉัตรเทพเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“พ่อเชื่อด้วยเหรอ” ภูผาถามพ่อออกไปอย่างแปลกใจ“แล้วเจ้าขุนไม่เชื่อไฟหรือไง เจ้าขุนคิดว่าไฟโกหกเหรอ ตอบพ่อแบบที่ไม่มีความโกรธอยู่นะ” ฉัตรเทพถามลูกชายขึ้นมาอีกภูผาเงียบไปชั่วขณะ เพราะลึก ๆ แล้วเขาก็เชื่อที่อาทิตย์พูด เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก เขารู้นิสัยกันดี แค่เห็นว่าอาทิตย์มาตามง้อถึงที่นี่ เขาก็คิดแล้วว่าต้องรักน้องสาวของเขาจริง ๆ เพียงแต่ภาพของม่านฟ้าตอนที่ร้องไห้โฮยังติดตาเขาอยู่ เขาเลยมองข้ามความคิดตนเองแล้วปกป้องน้องสาว“ผมก็คิดว่ามันพูดจริง” ภูผาตอบเสียงแผ่ว ฉัตรเทพก็เลยหัวเราะออกมา“เราก็ปล่อยให้เขาได้ปรับความเข้าใจ
ตอนที่ 58ม่านฟ้าเอาโทรศัพท์ออกมากดเปิดเครื่อง เธอเปิดปิดอยู่ตลอด หากมีธุระที่ต้องติดต่อก็เปิด แต่พอติดต่อเสร็จแล้วก็ปิดเครื่อง เธอไม่ได้ดูโซเชียลเลย แต่ตอนนี้เธอจะไม่หนีอีกต่อไปLineToey : เจ้าขาแกเป็นยังไงบ้างMaprang : ฉันเป็นห่วงแกนะJaokha : สบายดี ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ฉันกลับมาแล้วม่านฟ้าเข้าไลน์แล้วกดเข้าไปอ่านไลน์กลุ่มที่มีข้อความค้างอยู่เยอะมาก เธอไล่อ่านข้อความที่เพื่อน ๆ ก็ส่งมาถามไถ่อยู่ตลอด พอเธอตอบกลับไปแล้วก็กดออกจากไลน์กลุ่ม และเปิดไลน์อื่นๆ ดู ทำให้เห็นแชตของอาทิตย์Fire : พี่คิดถึงหนูมากนะครับเธอเห็นข้อความที่ค้างอยู่จำนวนมาก แต่ไม่ได้กดเข้าไปอ่าน หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้น เธอจะไม่ใจอ่อนให้เขาง่าย ๆ เด็ดขาด เขาเห็นความรู้สึกของเธอเป็นของเล่นมาตลอด เธอไม่อยากยุ่งกับคนใจร้ายแบบนี้อีกแล้วม่านฟ้าวางโทรศัพท์ลง แล้วเข้านอนไปในทันทีวันต่อมาอาทิตย์จำได้ว่าบ้านของภูผาอยู่ที่ไหน เขาไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์ รีบออกจากคอนโดไปที่บ้านของภูผาทันที เขาคิดว่าม่านฟ้าก็คงต้องอยู่ที่นั่น พี่ชายมาทั้งที เธอจะไปอยู่ที่ไหนได้หากไม่ได้อยู่ด้วยกันภูผากำลังจะออกไปข้างนอก แต่เห
ตอนที่ 57ม่านฟ้านั่งเงียบมาตลอดทาง เธออุตส่าห์หนีไปพักใจตั้งไกล แต่พอกลับมาถึงไทยคนแรกที่ได้เจอกันกลับเป็นเขา ไม่รู้ว่าทำไมโชคชะตาถึงใจร้ายกับเธอได้ถึงขนาดนี้ เพิ่งจะรู้สึกดีขึ้นก็ดันต้องกลับไปเริ่มทำใจใหม่ภูผาเห็นสีหน้าเศร้าหมองของน้อง ก็เอามือของเธอมากุมไว้เพื่อปลอบประโลม ไม่ให้เธอเศร้ามากหญิงสาวมองมือของพี่ชายแล้วคลี่ยิ้มให้ รอยยิ้มของเธอเศร้าลง ภูผาก็ได้แต่คอยลูบหลังมือของเธอ เขาไม่กล้าพูดอะไรออกไปในตอนนี้ เพราะกลัวว่าจะสะกิดแผลให้เธอเจ็บอีกกลับมาถึงคฤหาสน์หลังงามแล้ว ม่านฟ้าก็สูดลมหายใจเข้าปอดลึก เธอปั้นหน้ายิ้มเพื่อที่จะให้พ่อแม่ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมเธอถึงได้เศร้า ภูผามองหน้าม่านฟ้าด้วยความเป็นห่วง ต้องทนฝืนยิ้มก็ยิ่งเจ็บปวด“โอเคหรือเปล่า ถ้าไม่โอเคก็ไม่ต้องฝืนขนาดนี้หรอก” ภูผาเอ่ยถามน้องสาวเบาๆ“โอเคค่ะ พ่อแม่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวเจ้าขาจะอดไปอยู่คอนโด พี่เจ้าขุนอย่าบอกพ่อแม่นะคะ” ม่านฟ้ายิ้มทะเล้นให้พี่ชาย ใจจริงเธอก็กังวลเรื่องนี้ด้วย หากพ่อแม่รู้ว่าเธอย้ายออกไปอยู่ข้างนอกแล้วทุกข์ใจ ท่านคงให้เธอย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านแน่ ๆ“ฮ่า ๆ งั้นเข้าบ้านกัน” ภูผาหัวเราะเอ็นดูม่านฟ