เช้าวันต่อมา
ม่านฟ้ารีบตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวแล้วเดินไปที่ซอยข้าง ๆ ก่อนจะไปมหาวิทยาลัย ตอนที่อยู่บ้านเธอมีแม่บ้านทำอาหารเช้าเอาไว้ให้ แต่พอมาอยู่คนเดียว เธอก็ปรับตัวด้วยการตื่นไวกว่าปกตินิดหน่อย แล้วมาหาอะไรรองท้องก่อนไปเรียน ในซอยมีร้านอาหารเช้าจำนวนมาก จึงไม่มีปัญหาในเรื่องนี้
“เป็นไงบ้างจ๊ะ ได้ใช้ชีวิตแบบอิสระหนึ่งวันเต็ม ๆ” เตยหอมเอ่ยถามม่านฟ้าทันที เธอมาถึงมหาวิทยาลัยก่อนใคร
“ก็ดีนะ” ม่านฟ้ายักไหล่ตอบอย่างสบายๆ วันแรกยังไม่รู้หรอกเพราะยังตื่นเต้นกับชีวิตอิสระนี้ แต่เธอก็คิดว่าหลังจากนี้ไปก็คงไม่มีอะไร เพราะถ้าขาดเหลือตรงไหน พ่อแม่ก็ต้องให้มาอยู่แล้ว
หนึ่งเดือนผ่านไป
ม่านฟ้าได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตนเองต้องการมากว่าหนึ่ง เดือนแล้ว กิจวัตรประจำวันไม่ได้มีอะไรที่แตกต่างไปจากเดิม วันจันทร์ถึงศุกร์ก็มีเรียน เสาร์อาทิตย์มีเข้ากลุ่มรับน้องบ้าง ส่วนใหญ่เป็นการแนะนำการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยและการละลายพฤติกรรมเท่านั้น หนึ่งเดือนที่ผ่านมาเธอยังไม่ได้กลับบ้านเลยสักครั้ง เพราะทั้งเรียนหนักและกิจกรรมเยอะ พ่อแม่ก็เข้าใจและไม่ว่าอะไรเพราะเธอโทรกลับไปที่บ้านบ่อยๆ
“ยัยเตย อาจารย์มองแกแล้วนะ” ม่านฟ้าเอ่ยออกมาด้วยระดับเสียงที่แผ่วเบา พร้อมกับใช้มือเล็กสะกิดแขนเพื่อนที่กำลังฟุบหน้าลงที่โต๊ะ
เตยหอมก็ยังเป็นเหมือนเดิม เธอชอบแอบหลับในเวลาเรียน โดยเฉพาะวิชาที่อาจารย์ชอบพูดบรรยายยืดยาว หญิงสาวถูกปลุกก็รีบมองไปที่อาจารย์ หญิงวัยกลางคนจับขาแว่นตาและเขม่นใส่เตยหอมแล้วบรรยายต่อเหมือนจะอยากให้คำพูดไหลเข้าหัวนักศึกษา
“ง่วงว่ะ อาจารย์พูดยาวจังวะ” เตยหอมเอียงหน้ามาบ่นอุบอิบเบาๆ กับม่านฟ้าและมะปราง
“ตั้งใจเรียนหน่อยสิ” มะปรางเอ่ยดุออกมาเบาๆ
เตยหอมถูกรุมดุจึงไม่เอ่ยอะไรอีกแล้ว เธอหยิบมือถือมาเลื่อนหาของกินสำหรับมื้อกลางวัน จนเลิกคลาส เตยหอมก็ได้ร้านที่อยู่ไม่ไกลจากคณะของตน
“วันนี้กินอะไรกันดี” ม่านฟ้าเอ่ยถามขึ้นมา เธอกำลังก้มหน้าก้มตาเก็บกระเป๋าและรู้ว่าเตยหอมคงหาร้านไว้แล้ว
“เบื่อข้าวมันไก่แล้ว ว่าจะกินก๋วยเตี๋ยว” มะปรางตอบกลับมา
“เหมือนกันเลย ฉันก็ว่าจะกินก๋วยเตี๋ยว” ม่านฟ้าเก็บของเสร็จก็ลุกขึ้นเพื่อที่จะรอเดินออกจากห้องเรียน
“ก๋วยเตี๋ยวคณะเราอร่อยซะที่ไหนล่ะ” เตยหอมเอ่ยออกมาพร้อมกับหันหน้าจอโทรศัพท์ให้เพื่อนดู
“ร้านนี้สิอร่อย เราไปกินที่คณะวิศวะกันดีกว่า ดูสิ เขารีวิวกันว่าก๋วยเตี๋ยวที่นี่เด็ดมากนะ” เตยหอมพูดต่อเพื่อชักชวนเพื่อนไปร้านที่ตัวเองหมายตาไว้
“ไม่เอาอะ ไม่ชอบคนที่นั่นเลย” ม่านฟ้าบอกออกไปทันทีเธอยังจำวันแรกที่ไปเดินทัวร์รอบมหาวิทยาลัยได้ แค่เดินไปตึกวิศวะ ก็ถูกแซวตั้งแต่หน้าตึกจนถึงโรงอาหาร เธอเลยไม่อยากเข้าใกล้คณะนี้อีก
“แต่ร้านอร่อย ๆ อยู่ที่นั่นนะแก แกดูคอมเมนต์สิ มีแต่คนคอนเฟิร์มว่าอร่อยจริง ๆ” เตยหอมโน้มน้าวให้เพื่อนเปลี่ยนใจเพราะเธอเบื่อข้าวที่โรงอาหารของคณะเต็มที อยากเปลี่ยนที่กินบ้าง และที่นี่ก็น่าสนใจมาก
“ฉันว่าแค่ไปกินก๋วยเตี๋ยวเอง ไม่เป็นไรหรอกน่าเจ้าขา” มะปรางก็เห็นด้วยกับเตยหอม ก๋วยเตี๋ยวหน้าตาน่าลองชิม จนเธอก็อดใจไม่ไหว
“สองเสียงชนะ ไปกัน เดี๋ยวถ้าใครแซวแก ฉันจะจัดการเอง” เตยหอมพูดขึ้นมาอย่างผู้ชนะ เธอกอดแขนม่านฟ้าแล้วดึงให้เดินออกจากห้องไปด้วยกัน
ม่านฟ้าต้องยอมไปที่ตึกวิศวะอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะเธอแพ้โหวต ขณะที่เดินเข้าไป เธอก็พยายามที่จะไม่สนใจสายตาของใครทั้งนั้น พอเข้ามาถึงหน้าโรงอาหารของคณะวิศวะ หญิงสาวก็ถอนหายใจออกมา เพราะกว่าจะฟันฝ่าไม่สนใจใครมาถึงตรงนี้ได้ เธอเกร็งแทบแย่ เพราะในโรงอาหารก็มีคนอยู่ไม่น้อย“เห้อ...น่าเบื่อ” ม่านฟ้าถอนหายใจออกมาเพราะยังหาโต๊ะจะนั่งยังไม่ได้ คนเยอะสุดๆ
นักศึกษาสาวที่ยืนถอนหายใจราวกับมีเรื่องหนักอก ดึงสายตาของอาทิตย์เอาไว้ ชายหนุ่มในชุดช้อปมองเธอด้วยความสนใจ ใบหน้าของสาวรุ่นน้องสวยน่ารักจนไม่อยากละสายตาไป
อาทิตย์มองตามเฟรชชีสาวต่างคณะ จนเธอไปหาที่นั่ง แล้วเขาก็ยังเลื่อนสายตาไปทางอื่น ทุกท่าทางของเธอที่เป็นธรรมชาติดึงดูดสายตามากทีเดียว
“มึงมองอะไรวะไฟ”
อาทิตย์สะดุ้งแล้วดึงสายตากลับมาที่แชมป์ เพื่อนในแก๊งของเขาที่ถามขึ้นมา พวกเขามักจะมานั่งเล่นกันที่โรงอาหารในเวลาว่าง เพราะชอบมามองสาว ๆ สวย ๆ เป็นอาหารตา บางครั้งก็แซวสาว ๆ ที่หลงมากันอย่างสนุกปาก
“มองไปเรื่อย” อาทิตย์ตอบกลับเสียงเรียบเหมือนเขาไม่ได้โฟกัสที่ไหนเป็นพิเศษ
“แน่ใจเหรอวะ” แบงค์จับไหล่อาทิตย์ให้หันมาสบสายตาแล้วเอ่ยถามอย่างจับผิด น้ำเสียงทะเล้นของเขาทำให้อาทิตย์มองด้วยสายตาขุ่น
“แน่” อาทิตย์ตอบแล้วดันมือเพื่อนรักลงจากไหล่
“กูเห็นนะว่ามึงมองน้องปีหนึ่งคนนั้นจนเหลียวหลัง” แชมป์เอ่ยออกมา เขามองตามเพื่อนตั้งแต่แรก ถึงรู้ทันว่าอาทิตย์กำลังมองรุ่นน้องด้วยความตะลึง
“ใช่ กูก็เห็น มึงมองน้องจนน้ำลายหก แล้วยังจะมาปฏิเสธอีก” แบงค์แกล้งเช็ดน้ำลายที่กรอบปากของอาทิตย์ ชายหนุ่มถูกเพื่อนรุมแซว เขาจึงต้องหงุดหงิดเพื่อกลบเกลื่อน
“พวกมึงอย่ากวนตีน น้องสวยอะใช่ แต่ไม่ได้สวยจนตกกูได้ขนาดนั้น สวยกว่านี้กูก็เคยคบมาแล้ว” อาทิตย์พูดขึ้นมาอย่างถือดี
แบงค์และแชมป์หรี่ตามองหน้าเพื่อนสนิท อาทิตย์เก็บอาการได้เก่ง เขาไม่ได้แสดงพิรุธออกมาทางสีหน้าอีก แบงค์และแชมป์ก็เลยไม่ได้แซวต่อ
อาทิตย์ลอบถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ อาศัยจังหวะที่เพื่อนกำลังแซวสาว ๆ หันไปมองรุ่นน้องปี 1 ที่กำลังกินก๋วยเตี๋ยวแล้วคุยเล่นกับเพื่อน รอยยิ้มของน้องทำให้เขาเผลอยิ้มตามโดยที่ไม่รู้ตัว
ตอนพิเศษ 2ร้านอาหารอาทิตย์ขับรถมาจอดที่ร้านอาหาร โดยที่ข้างๆ มีม่านฟ้าที่ถูกผ้าสีสวยปิดตาไว้ เพราะเขาอยากจะเซอร์ไพรส์เธอ“ถึงแล้วครับเจ้าขา” อาทิตย์ที่เปิดประตูแล้วอ้อมไปเปิดให้แฟนสาวพูดขึ้น ก่อนจะช่วยเธอลงจากรถและให้เกาะแขนเขาไว้“ที่ไหนคะเนี่ย หอมจัง” ม่านฟ้าพูดขึ้นเมื่อเดินเกาะแขนแฟนหนุ่มไปอย่างมั่นใจว่าเขาจะไม่ให้เธอล้ม เธอได้กลิ่นขนมและกาแฟ“เดี๋ยวก็รู้ครับ เดินดีๆนะ” อาทิตย์บอกพร้อมกับวางมือทับลงไปที่มือของเธอ ตอนนี้ใครๆ มองมาก็เหมือนคู่บ่าวสาวที่กำลังเดินเข้าสู่พิธีการแต่งงาน เพราะทั้งคู่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าโทนสีเดียวกันอาทิตย์พาแฟนสาวเดินเข้ามาในร้านที่เขาและเพื่อนๆ มาช่วยกันตกแต่งไว้เพื่อม่านฟ้าโดยเฉพาะ จนมาหยุดอยู่ที่กลางร้าน เขาจึงเปลี่ยนมายืนซ้อนหลังเธอและค่อยๆ แกะผ้าปิดตาออกให้“โอ้ อะไรคะเนี่ยพี่ไฟ” ม่านฟ้าหันมาถามแฟนหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังด้วยดวงตาเบิกกว้าง“วันพิเศษ สำหรับคนพิเศษครับ” อาทิตย์ตอบกลับไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม“พี่ไฟ ทำไมน่ารักอย่างนี้คะ จุ๊บ” ม่านฟ้าบอกกับแฟนหนุ่มพร้อมทั้งหอมแก้มเขาเป็นการขอบคุณไปหนึ่งที เพราะว่าภาพตรงหน้าของเธอคือร้านคาเฟที่เขาเคยพาเธอมา
ตอนพิเศษ 1รถสปอร์ตสุดหรูขับเข้ามาจอดเทียบกันสามคันที่หน้าคณะบริหาร ก่อนจะมีชายหนุ่มลงจากรถมาสามคน พวกเขาอยู่ในชุดที่แตกต่างกันแต่ความหล่อก็กินกันไม่ลง“ไงวะไอ้นักธุรกิจใหญ่ เห็นว่าเพิ่งเปิดตัวรถรุ่นใหม่เหรอวะ ส่งมาใช้บ้างดิวะ รอบนี้ฟันไปเท่าไรล่ะ” แบงค์ที่อยู่ในชุดทำงานสบายๆ กางเกงยีนเสื้อเชิ้ตแต่ทุกอย่างคือแบรนด์เนมที่บ่งบอกถึงฐานผู้บริหารของบริษัทนำเข้ารถหรูที่แต่ละคันไม่ต่ำกว่าสิบล้าน“ไม่ให้โว้ย ของซื้อของขายว่าแต่โชว์รูทแกว่างไหมวะ จะฝากรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ไปโชว์สักหน่อย เผื่อลูกค้าแกจะซื้อไปให้ขับเล่นบ้าง” แชมป์ตอบกลับเพื่อนทันที เขาแต่งตัวสบายๆ เพราะเพิ่งกลับมาจากโรงงานผลิตรถยนต์ที่ร่วมทุนกับต่างประเทศ ตอนนี้เขานำเข้ารถไฟฟ้าทั้งราคาเบาๆ และแบบราคาแพงขึ้น เรียกว่าอะไรที่เกี่ยวกับรถไฟฟ้าเขาทำทั้งหมด“เขี้ยวฉิบหาย กับเพื่อนก็ไม่เว้น ว่าแต่แกเถอะไฟ เห็นเปิดตัวสินค้าเพิ่มเหรอวะ แค่ขายเครื่องใช้ไฟฟ้ามันยังรวยไม่พอหรือไง ถึงคิดจะมาขายโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่อย่างนั้น” แบงค์ต่อว่าแชมป์แล้วกลับมาถามอาทิตย์ที่ยืนพิงรถคันหรูที่เคยเป็นของเขามาก่อน ใช่ รถคันที่เป็นประเด็นนั้นแหละ หลังจากจบเรื่องแบงค
ตอนที่ 60ม่านฟ้ารู้สึกดีกับคำพูดของเขา เธอกลั้นยิ้มเอาไว้เพราะกลัวว่าอาทิตย์จะรู้ว่าเธอใจอ่อนแล้ว ความจริงเรื่องนี้เตยหอมกับมะปรางได้โทรมาคุยกับเธอแล้ว ทั้งสองคนยืนยันว่าพี่เขาเลือกเธอแทนที่จะเอารถหรูที่เขาอยากได้ แต่ความโกรธ ความเสียใจมันยังมีอยู่เต็มหัวใจ จึงของอนหน่อยก็แล้วกัน“ถ้าพี่ไม่รักเจ้าขา พี่ก็คงไม่มาที่นี่ เพราะรู้ว่าเจ้าขุนมันโกรธอยู่ แถมเตยกับปรางก็บอกว่าพ่อของหนูโหดมาก ถ้าพี่มาอาจจะโดนยำได้ แต่พี่ก็คิดแล้วว่าจะยอมให้พ่อหรือเจ้าขุนเตะต่อยได้เต็มที่เลยแลกกับได้เจอเจ้าขา” อาทิตย์พยายามพูดให้เธอเชื่อว่าเขารักเธอจริง ๆ และตั้งใจมาง้อให้สำเร็จโดยที่ไม่กลัวอะไร“พี่เจ้าขุนก็ไม่น่าให้เข้ามาง่าย ๆ เลย น่าจะเตะต่อยให้หนัก” ม่านฟ้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงเง้างอน ทั้งที่เธอไม่ได้อยากให้พี่ชายทำแบบนี้ เธอแค่ประชดอาทิตย์เท่านั้น“แต่เจ้าขุนจะขับรถชนพี่เลยนะ ดีที่พี่กระโดดหลบทัน ไม่งั้นหนูอาจจะได้ไปงานศพพี่แล้ว” อาทิตย์พูดออกมาเชิงฟ้องเล็กๆ เขาเล่นใหญ่เพราะรู้ว่าม่านฟ้าก็รักเขาเหมือนกันม่านฟ้าเบิกตาโตด้วยความตกใจ เธอลุกขึ้นแล้วจับตัวเขาหมุนไปหมุนมาเพื่อมองร่างกายของอาทิตย์ถนัดๆ ก็เห็นว่าตัว
ตอนที่ 59“ทำไมพ่อยอมให้ไฟเข้าไปง่ายแบบนี้เนี่ย น่าจะยำมันให้สาแก่ใจสักหน่อยนะพ่อ” ภูผาเอ่ยออกมาด้วยความหงุดหงิด แทนที่พ่อจะกั้นเอาไว้ไม่ยอมให้เข้าไปเจอกับม่านฟ้า แต่กลับเปิดโอกาสให้ง่าย ๆ เพียงแค่อาทิตย์เอ่ยออกมาอย่างจริงจังฉัตรเทพคลี่ยิ้มแล้วกอดคอลูกชายเอาไว้ ก่อนจะเอ่ยขึ้น“เวลาเรารักใครสักคน เราจะยอมทำอะไรหลายอย่างได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งเรื่องที่ดีและเรื่องที่งี่เง่าที่สุดในโลก ไฟเขาก็ยอมทำได้ขนาดนั้น พ่อว่าเขารักเจ้าขาจริง ๆ” ฉัตรเทพเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“พ่อเชื่อด้วยเหรอ” ภูผาถามพ่อออกไปอย่างแปลกใจ“แล้วเจ้าขุนไม่เชื่อไฟหรือไง เจ้าขุนคิดว่าไฟโกหกเหรอ ตอบพ่อแบบที่ไม่มีความโกรธอยู่นะ” ฉัตรเทพถามลูกชายขึ้นมาอีกภูผาเงียบไปชั่วขณะ เพราะลึก ๆ แล้วเขาก็เชื่อที่อาทิตย์พูด เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก เขารู้นิสัยกันดี แค่เห็นว่าอาทิตย์มาตามง้อถึงที่นี่ เขาก็คิดแล้วว่าต้องรักน้องสาวของเขาจริง ๆ เพียงแต่ภาพของม่านฟ้าตอนที่ร้องไห้โฮยังติดตาเขาอยู่ เขาเลยมองข้ามความคิดตนเองแล้วปกป้องน้องสาว“ผมก็คิดว่ามันพูดจริง” ภูผาตอบเสียงแผ่ว ฉัตรเทพก็เลยหัวเราะออกมา“เราก็ปล่อยให้เขาได้ปรับความเข้าใจ
ตอนที่ 58ม่านฟ้าเอาโทรศัพท์ออกมากดเปิดเครื่อง เธอเปิดปิดอยู่ตลอด หากมีธุระที่ต้องติดต่อก็เปิด แต่พอติดต่อเสร็จแล้วก็ปิดเครื่อง เธอไม่ได้ดูโซเชียลเลย แต่ตอนนี้เธอจะไม่หนีอีกต่อไปLineToey : เจ้าขาแกเป็นยังไงบ้างMaprang : ฉันเป็นห่วงแกนะJaokha : สบายดี ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ฉันกลับมาแล้วม่านฟ้าเข้าไลน์แล้วกดเข้าไปอ่านไลน์กลุ่มที่มีข้อความค้างอยู่เยอะมาก เธอไล่อ่านข้อความที่เพื่อน ๆ ก็ส่งมาถามไถ่อยู่ตลอด พอเธอตอบกลับไปแล้วก็กดออกจากไลน์กลุ่ม และเปิดไลน์อื่นๆ ดู ทำให้เห็นแชตของอาทิตย์Fire : พี่คิดถึงหนูมากนะครับเธอเห็นข้อความที่ค้างอยู่จำนวนมาก แต่ไม่ได้กดเข้าไปอ่าน หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้น เธอจะไม่ใจอ่อนให้เขาง่าย ๆ เด็ดขาด เขาเห็นความรู้สึกของเธอเป็นของเล่นมาตลอด เธอไม่อยากยุ่งกับคนใจร้ายแบบนี้อีกแล้วม่านฟ้าวางโทรศัพท์ลง แล้วเข้านอนไปในทันทีวันต่อมาอาทิตย์จำได้ว่าบ้านของภูผาอยู่ที่ไหน เขาไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์ รีบออกจากคอนโดไปที่บ้านของภูผาทันที เขาคิดว่าม่านฟ้าก็คงต้องอยู่ที่นั่น พี่ชายมาทั้งที เธอจะไปอยู่ที่ไหนได้หากไม่ได้อยู่ด้วยกันภูผากำลังจะออกไปข้างนอก แต่เห
ตอนที่ 57ม่านฟ้านั่งเงียบมาตลอดทาง เธออุตส่าห์หนีไปพักใจตั้งไกล แต่พอกลับมาถึงไทยคนแรกที่ได้เจอกันกลับเป็นเขา ไม่รู้ว่าทำไมโชคชะตาถึงใจร้ายกับเธอได้ถึงขนาดนี้ เพิ่งจะรู้สึกดีขึ้นก็ดันต้องกลับไปเริ่มทำใจใหม่ภูผาเห็นสีหน้าเศร้าหมองของน้อง ก็เอามือของเธอมากุมไว้เพื่อปลอบประโลม ไม่ให้เธอเศร้ามากหญิงสาวมองมือของพี่ชายแล้วคลี่ยิ้มให้ รอยยิ้มของเธอเศร้าลง ภูผาก็ได้แต่คอยลูบหลังมือของเธอ เขาไม่กล้าพูดอะไรออกไปในตอนนี้ เพราะกลัวว่าจะสะกิดแผลให้เธอเจ็บอีกกลับมาถึงคฤหาสน์หลังงามแล้ว ม่านฟ้าก็สูดลมหายใจเข้าปอดลึก เธอปั้นหน้ายิ้มเพื่อที่จะให้พ่อแม่ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมเธอถึงได้เศร้า ภูผามองหน้าม่านฟ้าด้วยความเป็นห่วง ต้องทนฝืนยิ้มก็ยิ่งเจ็บปวด“โอเคหรือเปล่า ถ้าไม่โอเคก็ไม่ต้องฝืนขนาดนี้หรอก” ภูผาเอ่ยถามน้องสาวเบาๆ“โอเคค่ะ พ่อแม่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวเจ้าขาจะอดไปอยู่คอนโด พี่เจ้าขุนอย่าบอกพ่อแม่นะคะ” ม่านฟ้ายิ้มทะเล้นให้พี่ชาย ใจจริงเธอก็กังวลเรื่องนี้ด้วย หากพ่อแม่รู้ว่าเธอย้ายออกไปอยู่ข้างนอกแล้วทุกข์ใจ ท่านคงให้เธอย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านแน่ ๆ“ฮ่า ๆ งั้นเข้าบ้านกัน” ภูผาหัวเราะเอ็นดูม่านฟ