หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นมา ปลุกคนตัวเล็กที่นอนหลับสนิทให้ตื่นจากนิทรา ม่านฟ้าลุกขึ้นมาทันทีอย่างไม่มีท่าทางอิดออด
“อืบบบบ” ม่านฟ้าลุกขึ้นนั่งและบิดตัวไปมาเพื่อไล่ความง่วงและเรียกความสดชื่น ใบหน้าสวยคลี่ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข แม้จะต้องตื่นแต่เช้าตรู่ แต่เธอก็ยังสดชื่น เพราะเมื่อคืนเข้านอนแต่หัวค่ำ อีกทั้งยังตื่นเต้นกับการเริ่มต้นการเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย
หญิงสาวรีบไปอาบน้ำแล้วสวมชุดนักศึกษา เสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตาพอดีตัว เธอติดเข็มตรามหาวิทยาลัยเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว กระโปรงพลีทยาวคลุมเข่าเรียบร้อย ม่านฟ้าหมุนตัวอยู่หน้ากระจกอย่างภาคภูมิใจในตัวเอง ชุดนี้ทำให้เธอดูโตขึ้นมาอีกนิด ผิดกับตอนที่สวมชุดมัธยมปลาย
นักศึกษาสาวเตรียมของจำเป็นใส่กระเป๋าสะพายและจัดหนังสือที่ต้องเรียนในวันนี้ไปด้วย เธอเดินลงมาจากชั้นสองด้วยสีหน้าสดใสอารมณ์ดี แม่บ้านมองคุณหนูที่ดูโตขึ้นแล้วคลี่ยิ้มเอ็นดู
“คุณหนูของป้าจะเป็นสาวแล้ว” ป้าแก้วแม่บ้านเก่าแก่พูดขึ้นมาอย่างภูมิใจในคนที่เธอเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก
“ขอบคุณนะคะป้าแก้ว ที่ดูแลเจ้าขามาอย่างดี”
ม่านฟ้าได้ยินแม่บ้านเอ่ยออกมาแบบนั้น เธอคลี่ยิ้มหวานให้แล้วสวมกอดอย่างสนิทสนม เพราะป้าแก้วเป็นแม่บ้านที่อยู่คู่บ้านหลังนี้มาเนิ่นนานจึงสนิทกันเหมือนเป็นญาติคนหนึ่ง เธออยากได้ยินคนบอกว่าเธอโตขึ้นแล้วเพราะที่ผ่านมาแม้อายุจะมากขึ้นทุกวัน แต่การเลี้ยงดูอย่างประคบประหงมของพ่อและแม่ ก็ทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กอยู่ตลอดเวลา
“เจ้าขามากินข้าวก่อนลูก เดี๋ยวพ่อและแม่จะไปส่งที่มหาวิทยาลัย” นวลปรางเดินออกจากห้องอาหารเพื่อมาตามลูกสาวไปกินข้าว
“ค่ะแม่” ม่านฟ้าเดินตามมารดาเข้าไปในห้องอาหาร พ่อของเธอนั่งรออยู่ก่อนแล้ว เธอจึงเข้าไปยกมือไหว้ กอดและหอมแก้มอย่างที่เคยทำทุกวัน “สวัสดีค่ะพ่อ”
“สวัสดีลูก มานั่งกินข้าวจะได้รีบเดินทาง” ฉัตรเทพยกมือขึ้นตบหัวลูกสาวเบาๆ อย่างเอ็นดู ก่อนจะบอกให้เธอไปนั่งเพื่อกินข้าว
“ป้าแก้วตักข้าวได้เลยจ้ะ” คุณนวลปรางบอกแม่บ้านในตอนที่มานั่งพร้อมกันแล้ว
แม่บ้านตักข้าวต้มมาเสิร์ฟให้ ม่านฟ้ากินอย่างเอร็ดอร่อยและกินค่อนข้างไว เพราะอยากรีบไปมหาวิทยาลัยเต็มแก่
“ใจเย็นๆ ค่อยๆ กินก็ได้ เดี๋ยวก็สำลักหรอก” แม่ของเธอต้องรีบบอกว่าเพราะกลัวลูกสาวจะสำลัก
“ค่ะแม่” หญิงสาวเงยหน้ายิ้มตอบ แต่ยังก้มหน้าก้มตากินข้าวต้มต่อ ให้หมดชามโดยเร็ว
ฉัตรเทพเห็นท่าทางของลูกก็เข้าใจว่าลูกคงตื่นเต้นมาก เขาเอ็นดูลูกสาวมากจึงเอื้อมมือไปลูบศีรษะอย่างอ่อนโยน ก่อนจะพากันรีบกินข้าว เพื่อจะได้ออกเดินทางไปมหาวิทยาลัย
จากนั้นทั้งสามคนก็เดินทางไปที่มหาวิทยาลัยด้วยรถตู้คันหรูสมฐานะของเจ้าของบริษัทนำเข้าและส่งออกอาหารแปรรูป
*****
“จอดค่า” ม่านฟ้าร้องออกมากะทันหัน จนคนขับรถต้องรีบเหยียบเบรกทันที
“จะให้จอดทำไมลูก” ฉัตรเทพเอ่ยถามด้วยความสงสัยเพราะตอนนี้ยังอยู่แค่หน้ามหาวิทยาลัยเท่านั้น
“ไม่ได้ส่งแต่ที่หน้ามหา’ลัยเหรอคะ” ม่านฟ้าหันไปถามพ่อกับแม่ที่นั่งอยู่ข้างๆ
“พ่อกับแม่ไม่ปล่อยให้เจ้าขาเดินเข้ามาอย่างโดดเดี่ยวหรอกลูก วันนี้พ่อกับแม่จะไปส่งให้ถึงห้องเรียนเลย” นวลปรางยิ้มให้ลูกสาวอย่างอ่อนโยน
ม่านฟ้าได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ แล้วต้องปล่อยให้ท่านเข้ามาส่งอย่างไม่มีทางเลือกเพราะเธอขัดอะไรไม่ได้ ยังไงท่านก็คงยืนกรานอย่างเดิมแน่นอน พ่อกับแม่ทำแบบนี้ตั้งแต่เธอเป็นเด็กจนถึงเรียนจบชั้นมัธยมปลาย ทุกวันเปิดภาคเรียนใหม่ ท่านทั้งสองจะต้องมาส่งมาเธอจนถึงหน้าตึกด้วยความเป็นห่วง ซึ่งความเป็นห่วงนี้ก็ตามมาจนถึงการเปิดเรียนของมหาลัยเลยทีเดียว
“ตั้งใจเรียนนะเจ้าขา” นวลปรางเดินเข้ามาถึงหน้าตึกคณะพร้อมกับสามีของเธอ
“ค่ะแม่ แล้วคอนโดของเจ้าขาล่ะคะ” ม่านฟ้ายิ้มขอบคุณและเอ่ยถามเรื่องคอนโดของเธอ
พ่อของเธอจึงเอาคีย์การ์ดให้พร้อมกับบอกที่อยู่ของคอนโดให้ลูกสาวรับรู้
“นี่คีย์การ์ดนะ เย็นนี้พ่อจะให้คนขับรถมารับและพาไปที่คอนโด ข้าวของของลูก เดี๋ยววันนี้พ่อจะให้คนงานที่บ้านเป็นคนขนขึ้นไปจัดไว้ให้เอง เจ้าขาไปถึงก็จะเห็นของเองลูก” ฉัตรเทพบอกอย่างอ่อนโยน เขาจะกลับไปสั่งแม่บ้าน คนสวน คนขับรถให้ช่วยกันขนของของม่านฟ้าไปไว้ที่คอนโด มีทั้งที่ซื้อใหม่และของเก่าที่เธอใช้ประจำ
“ขอบคุณค่ะพ่อ แค่เอาไปไว้ในห้องก็พอค่ะ เดี๋ยวเจ้าขาจัดของเอง” ม่านฟ้ายิ้มกว้างพร้อมกับรับคีย์การ์ดมา คอนโดแห่งนี้พ่อเธอเพิ่งทำการซื้อและใส่ชื่อท่านไว้ก่อนเพราะเธออายุยังไม่ถึงยี่สิบปี แต่สุดท้ายมันก็ต้องเป็นของเธอ
“จะจัดเองให้เหนื่อยทำไม พ่อว่าให้คนงานของเราจัดให้ดีกว่า” ฉัตรเทพบอกอย่างใจดี เพราะปกติลูกสาวคนนี้ก็แทบจะไม่ได้ทำอะไรด้วยตัวเองอยู่แล้ว
“เจ้าขาอยากทำเองค่ะ พ่อให้เจ้าขาทำอะไรด้วยตัวเองบ้างสิคะ เจ้าขาโตแล้วนะคะ” ม่านฟ้ายืนกรานเสียงแข็ง ใบหน้าสวยเจือความเซ็งอยู่ในที จึงทำหน้ายู่ใส่พ่อ
“ตามใจก็แล้วกัน งั้นเดี๋ยวพ่อให้คนขนไปให้ แล้วลูกก็จัดเอาเอง” ฉัตรเทพต้องยอมให้ลูกจัดของเอง เห็นเธออารมณ์ดีมา ก็ไม่อยากให้ต้องหงุดหงิดก่อนขึ้นไปเรียนวันแรก
“ขอบคุณค่ะ” คราวนี้ม่านฟ้าคลี่ยิ้มแป้น แล้วยกมือไหว้พ่อและแม่อย่างอารมณ์ดี
“ไปเรียนได้แล้วลูก พ่อกับแม่จะกลับแล้ว เจอกันวันหยุดนะลูก” นวลปรางดึงลูกสาวเข้ามากอด ก่อนจะผละออกแล้วบอกให้ลูกสาวไปเรียน ส่วนเธอกับสามีก็เดินไปขึ้นรถตู้เพื่อกลับบ้าน
“ค่ะแม่” ม่านฟ้าตอบกลับพ่อแม่และยืนรอจนรถวิ่งออกไป
ตอนพิเศษ 2ร้านอาหารอาทิตย์ขับรถมาจอดที่ร้านอาหาร โดยที่ข้างๆ มีม่านฟ้าที่ถูกผ้าสีสวยปิดตาไว้ เพราะเขาอยากจะเซอร์ไพรส์เธอ“ถึงแล้วครับเจ้าขา” อาทิตย์ที่เปิดประตูแล้วอ้อมไปเปิดให้แฟนสาวพูดขึ้น ก่อนจะช่วยเธอลงจากรถและให้เกาะแขนเขาไว้“ที่ไหนคะเนี่ย หอมจัง” ม่านฟ้าพูดขึ้นเมื่อเดินเกาะแขนแฟนหนุ่มไปอย่างมั่นใจว่าเขาจะไม่ให้เธอล้ม เธอได้กลิ่นขนมและกาแฟ“เดี๋ยวก็รู้ครับ เดินดีๆนะ” อาทิตย์บอกพร้อมกับวางมือทับลงไปที่มือของเธอ ตอนนี้ใครๆ มองมาก็เหมือนคู่บ่าวสาวที่กำลังเดินเข้าสู่พิธีการแต่งงาน เพราะทั้งคู่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าโทนสีเดียวกันอาทิตย์พาแฟนสาวเดินเข้ามาในร้านที่เขาและเพื่อนๆ มาช่วยกันตกแต่งไว้เพื่อม่านฟ้าโดยเฉพาะ จนมาหยุดอยู่ที่กลางร้าน เขาจึงเปลี่ยนมายืนซ้อนหลังเธอและค่อยๆ แกะผ้าปิดตาออกให้“โอ้ อะไรคะเนี่ยพี่ไฟ” ม่านฟ้าหันมาถามแฟนหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังด้วยดวงตาเบิกกว้าง“วันพิเศษ สำหรับคนพิเศษครับ” อาทิตย์ตอบกลับไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม“พี่ไฟ ทำไมน่ารักอย่างนี้คะ จุ๊บ” ม่านฟ้าบอกกับแฟนหนุ่มพร้อมทั้งหอมแก้มเขาเป็นการขอบคุณไปหนึ่งที เพราะว่าภาพตรงหน้าของเธอคือร้านคาเฟที่เขาเคยพาเธอมา
ตอนพิเศษ 1รถสปอร์ตสุดหรูขับเข้ามาจอดเทียบกันสามคันที่หน้าคณะบริหาร ก่อนจะมีชายหนุ่มลงจากรถมาสามคน พวกเขาอยู่ในชุดที่แตกต่างกันแต่ความหล่อก็กินกันไม่ลง“ไงวะไอ้นักธุรกิจใหญ่ เห็นว่าเพิ่งเปิดตัวรถรุ่นใหม่เหรอวะ ส่งมาใช้บ้างดิวะ รอบนี้ฟันไปเท่าไรล่ะ” แบงค์ที่อยู่ในชุดทำงานสบายๆ กางเกงยีนเสื้อเชิ้ตแต่ทุกอย่างคือแบรนด์เนมที่บ่งบอกถึงฐานผู้บริหารของบริษัทนำเข้ารถหรูที่แต่ละคันไม่ต่ำกว่าสิบล้าน“ไม่ให้โว้ย ของซื้อของขายว่าแต่โชว์รูทแกว่างไหมวะ จะฝากรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ไปโชว์สักหน่อย เผื่อลูกค้าแกจะซื้อไปให้ขับเล่นบ้าง” แชมป์ตอบกลับเพื่อนทันที เขาแต่งตัวสบายๆ เพราะเพิ่งกลับมาจากโรงงานผลิตรถยนต์ที่ร่วมทุนกับต่างประเทศ ตอนนี้เขานำเข้ารถไฟฟ้าทั้งราคาเบาๆ และแบบราคาแพงขึ้น เรียกว่าอะไรที่เกี่ยวกับรถไฟฟ้าเขาทำทั้งหมด“เขี้ยวฉิบหาย กับเพื่อนก็ไม่เว้น ว่าแต่แกเถอะไฟ เห็นเปิดตัวสินค้าเพิ่มเหรอวะ แค่ขายเครื่องใช้ไฟฟ้ามันยังรวยไม่พอหรือไง ถึงคิดจะมาขายโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่อย่างนั้น” แบงค์ต่อว่าแชมป์แล้วกลับมาถามอาทิตย์ที่ยืนพิงรถคันหรูที่เคยเป็นของเขามาก่อน ใช่ รถคันที่เป็นประเด็นนั้นแหละ หลังจากจบเรื่องแบงค
ตอนที่ 60ม่านฟ้ารู้สึกดีกับคำพูดของเขา เธอกลั้นยิ้มเอาไว้เพราะกลัวว่าอาทิตย์จะรู้ว่าเธอใจอ่อนแล้ว ความจริงเรื่องนี้เตยหอมกับมะปรางได้โทรมาคุยกับเธอแล้ว ทั้งสองคนยืนยันว่าพี่เขาเลือกเธอแทนที่จะเอารถหรูที่เขาอยากได้ แต่ความโกรธ ความเสียใจมันยังมีอยู่เต็มหัวใจ จึงของอนหน่อยก็แล้วกัน“ถ้าพี่ไม่รักเจ้าขา พี่ก็คงไม่มาที่นี่ เพราะรู้ว่าเจ้าขุนมันโกรธอยู่ แถมเตยกับปรางก็บอกว่าพ่อของหนูโหดมาก ถ้าพี่มาอาจจะโดนยำได้ แต่พี่ก็คิดแล้วว่าจะยอมให้พ่อหรือเจ้าขุนเตะต่อยได้เต็มที่เลยแลกกับได้เจอเจ้าขา” อาทิตย์พยายามพูดให้เธอเชื่อว่าเขารักเธอจริง ๆ และตั้งใจมาง้อให้สำเร็จโดยที่ไม่กลัวอะไร“พี่เจ้าขุนก็ไม่น่าให้เข้ามาง่าย ๆ เลย น่าจะเตะต่อยให้หนัก” ม่านฟ้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงเง้างอน ทั้งที่เธอไม่ได้อยากให้พี่ชายทำแบบนี้ เธอแค่ประชดอาทิตย์เท่านั้น“แต่เจ้าขุนจะขับรถชนพี่เลยนะ ดีที่พี่กระโดดหลบทัน ไม่งั้นหนูอาจจะได้ไปงานศพพี่แล้ว” อาทิตย์พูดออกมาเชิงฟ้องเล็กๆ เขาเล่นใหญ่เพราะรู้ว่าม่านฟ้าก็รักเขาเหมือนกันม่านฟ้าเบิกตาโตด้วยความตกใจ เธอลุกขึ้นแล้วจับตัวเขาหมุนไปหมุนมาเพื่อมองร่างกายของอาทิตย์ถนัดๆ ก็เห็นว่าตัว
ตอนที่ 59“ทำไมพ่อยอมให้ไฟเข้าไปง่ายแบบนี้เนี่ย น่าจะยำมันให้สาแก่ใจสักหน่อยนะพ่อ” ภูผาเอ่ยออกมาด้วยความหงุดหงิด แทนที่พ่อจะกั้นเอาไว้ไม่ยอมให้เข้าไปเจอกับม่านฟ้า แต่กลับเปิดโอกาสให้ง่าย ๆ เพียงแค่อาทิตย์เอ่ยออกมาอย่างจริงจังฉัตรเทพคลี่ยิ้มแล้วกอดคอลูกชายเอาไว้ ก่อนจะเอ่ยขึ้น“เวลาเรารักใครสักคน เราจะยอมทำอะไรหลายอย่างได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งเรื่องที่ดีและเรื่องที่งี่เง่าที่สุดในโลก ไฟเขาก็ยอมทำได้ขนาดนั้น พ่อว่าเขารักเจ้าขาจริง ๆ” ฉัตรเทพเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“พ่อเชื่อด้วยเหรอ” ภูผาถามพ่อออกไปอย่างแปลกใจ“แล้วเจ้าขุนไม่เชื่อไฟหรือไง เจ้าขุนคิดว่าไฟโกหกเหรอ ตอบพ่อแบบที่ไม่มีความโกรธอยู่นะ” ฉัตรเทพถามลูกชายขึ้นมาอีกภูผาเงียบไปชั่วขณะ เพราะลึก ๆ แล้วเขาก็เชื่อที่อาทิตย์พูด เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก เขารู้นิสัยกันดี แค่เห็นว่าอาทิตย์มาตามง้อถึงที่นี่ เขาก็คิดแล้วว่าต้องรักน้องสาวของเขาจริง ๆ เพียงแต่ภาพของม่านฟ้าตอนที่ร้องไห้โฮยังติดตาเขาอยู่ เขาเลยมองข้ามความคิดตนเองแล้วปกป้องน้องสาว“ผมก็คิดว่ามันพูดจริง” ภูผาตอบเสียงแผ่ว ฉัตรเทพก็เลยหัวเราะออกมา“เราก็ปล่อยให้เขาได้ปรับความเข้าใจ
ตอนที่ 58ม่านฟ้าเอาโทรศัพท์ออกมากดเปิดเครื่อง เธอเปิดปิดอยู่ตลอด หากมีธุระที่ต้องติดต่อก็เปิด แต่พอติดต่อเสร็จแล้วก็ปิดเครื่อง เธอไม่ได้ดูโซเชียลเลย แต่ตอนนี้เธอจะไม่หนีอีกต่อไปLineToey : เจ้าขาแกเป็นยังไงบ้างMaprang : ฉันเป็นห่วงแกนะJaokha : สบายดี ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ฉันกลับมาแล้วม่านฟ้าเข้าไลน์แล้วกดเข้าไปอ่านไลน์กลุ่มที่มีข้อความค้างอยู่เยอะมาก เธอไล่อ่านข้อความที่เพื่อน ๆ ก็ส่งมาถามไถ่อยู่ตลอด พอเธอตอบกลับไปแล้วก็กดออกจากไลน์กลุ่ม และเปิดไลน์อื่นๆ ดู ทำให้เห็นแชตของอาทิตย์Fire : พี่คิดถึงหนูมากนะครับเธอเห็นข้อความที่ค้างอยู่จำนวนมาก แต่ไม่ได้กดเข้าไปอ่าน หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้น เธอจะไม่ใจอ่อนให้เขาง่าย ๆ เด็ดขาด เขาเห็นความรู้สึกของเธอเป็นของเล่นมาตลอด เธอไม่อยากยุ่งกับคนใจร้ายแบบนี้อีกแล้วม่านฟ้าวางโทรศัพท์ลง แล้วเข้านอนไปในทันทีวันต่อมาอาทิตย์จำได้ว่าบ้านของภูผาอยู่ที่ไหน เขาไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์ รีบออกจากคอนโดไปที่บ้านของภูผาทันที เขาคิดว่าม่านฟ้าก็คงต้องอยู่ที่นั่น พี่ชายมาทั้งที เธอจะไปอยู่ที่ไหนได้หากไม่ได้อยู่ด้วยกันภูผากำลังจะออกไปข้างนอก แต่เห
ตอนที่ 57ม่านฟ้านั่งเงียบมาตลอดทาง เธออุตส่าห์หนีไปพักใจตั้งไกล แต่พอกลับมาถึงไทยคนแรกที่ได้เจอกันกลับเป็นเขา ไม่รู้ว่าทำไมโชคชะตาถึงใจร้ายกับเธอได้ถึงขนาดนี้ เพิ่งจะรู้สึกดีขึ้นก็ดันต้องกลับไปเริ่มทำใจใหม่ภูผาเห็นสีหน้าเศร้าหมองของน้อง ก็เอามือของเธอมากุมไว้เพื่อปลอบประโลม ไม่ให้เธอเศร้ามากหญิงสาวมองมือของพี่ชายแล้วคลี่ยิ้มให้ รอยยิ้มของเธอเศร้าลง ภูผาก็ได้แต่คอยลูบหลังมือของเธอ เขาไม่กล้าพูดอะไรออกไปในตอนนี้ เพราะกลัวว่าจะสะกิดแผลให้เธอเจ็บอีกกลับมาถึงคฤหาสน์หลังงามแล้ว ม่านฟ้าก็สูดลมหายใจเข้าปอดลึก เธอปั้นหน้ายิ้มเพื่อที่จะให้พ่อแม่ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมเธอถึงได้เศร้า ภูผามองหน้าม่านฟ้าด้วยความเป็นห่วง ต้องทนฝืนยิ้มก็ยิ่งเจ็บปวด“โอเคหรือเปล่า ถ้าไม่โอเคก็ไม่ต้องฝืนขนาดนี้หรอก” ภูผาเอ่ยถามน้องสาวเบาๆ“โอเคค่ะ พ่อแม่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวเจ้าขาจะอดไปอยู่คอนโด พี่เจ้าขุนอย่าบอกพ่อแม่นะคะ” ม่านฟ้ายิ้มทะเล้นให้พี่ชาย ใจจริงเธอก็กังวลเรื่องนี้ด้วย หากพ่อแม่รู้ว่าเธอย้ายออกไปอยู่ข้างนอกแล้วทุกข์ใจ ท่านคงให้เธอย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านแน่ ๆ“ฮ่า ๆ งั้นเข้าบ้านกัน” ภูผาหัวเราะเอ็นดูม่านฟ