ธารทีราตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อใส่บาตรทำบุญกรวดน้ำให้ผู้ล่วงลับไปแล้ว เมื่อใส่บาตรเสร็จเธอก็แยกจากคนรับใช้
หญิงสาวเดินเล่นที่สนามหน้าบ้านเพลินไปหน่อยจนเดินเลยมาถึงบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ด้านหลังคฤหาสน์หลังใหญ่ ภาพบ้านหลังที่คุ้นเคยตรงหน้าค่อยๆ เลือนหายไป เพราะม่านตากำลังมีน้ำใสเอ่อคลอ
เธอสาวเท้าเข้าไปยืนตรงหน้าประตูบ้าน แล้วยกมืออันสั่นระริกขึ้นกดรหัสผ่านสำหรับเปิดประตู จากนั้นก็ผลักเข้าไปด้านใน
ทันทีที่ก้าวเข้าไปในบ้าน หญิงสาวก็มองไปรอบบ้านทั้งน้ำตา แม้บ้านหลังนี้จะเก่าลงไปตามวันเวลาที่ผ่านเลยไป แต่ก็ยังคงได้รับการดูแลอย่างดี
ธารทีราเดินตรงไปที่ห้อง ๆ หนึ่ง เมื่อเปิดประตูเข้าไปด้านในก็ถึงกับชะงักไป ความเจ็บปวดแล่นริ้วขึ้นมา จนทำให้เธอยากที่จะระงับความทุกข์ไว้ได้
“อึก หนูกลับมาแล้วนะคะ” เธอพูดเสียงสั่นเครือกับภาพของครอบครัวที่ตั้งอยู่บนโต๊ะตรงหน้า จากนั้นก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนักราวกับว่าแทบจะขาดใจ
เมื่อภาพครอบครัวในความทรงจำค่อย ๆ ผุดขึ้นมาในมโนนึก แม้จะยังเด็ก แต่เจ้าตัวก็ยังจำได้ไม่เคยลืม
“ทุกคนคิดถึงหนูไหมคะ” เธอยิ้มทั้งที่มีน้ำตาไหลไม่ขาดสาย ยามยกมือขึ้นลูบภาพครอบครัวตรงหน้าอย่างแผ่วเบา
ภาพของธารทีราที่นั่งกอดรูปภาพแล้วร้องไห้ออกมาปานจะขาดใจนั้น ทำให้ป้านมที่แอบเดินตามมาเห็นเจ็บปวดไม่ต่างกัน นางยืนน้ำตาไหลเพราะสงสารคุณหนูที่เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก แม้จะอยากเข้าไปกอดปลอบในตอนแรก ทว่าเมื่อคิดได้ว่าควรให้เวลาหญิงสาวบ้าง จึงเดินออกมาจากตรงนั้นอย่างเงียบ ๆ
ตอนนี้ทุกคนในบ้านกำลังมารวมตัวกันที่ห้องอาหารเพื่อเตรียมรับประทานอาหารเช้า ขาดก็แต่ธารทีราที่ยังไม่กลับเข้าบ้านมา ทำให้คุณหญิงโสภาเอาแต่ชะเง้อคอมองออกไปทางด้านหน้าบ้านด้วยความห่วงใยในตัวบุตรสาว
“ป้านมคะ?”
เสียงของนายหญิงของบ้าน ทำให้ป้านมที่เดินเข้ามาในบ้าน และกำลังจะเดินเข้าไปในห้องครัวนั้น ต้องหันไปมองและเอ่ยทักเจ้านายว่า
“คุณผู้หญิงขา”
คุณหญิงโสภาเห็นป้านมเดินเข้ามาในบ้านเพียงลำพัง โดยไม่มีบุตรสาวของท่านมาด้วยทั้งที่อาสาจะไปตามมาให้ในตอนแรกจึงเอ่ยถามขึ้นมา
“ยัยไอซ์ล่ะคะ”
“อยู่ที่บ้านหลังเล็กค่ะ” ป้านมตอบคำถามของนายหญิง พลางก้มหน้าลง เพราะไม่อยากให้เจ้านายเห็นว่านางร้องไห้ กิริยาซึมเศร้าของป้านมทำให้ทุกคนเข้าใจทันทีว่าอะไรเป็นอะไร
“ไอซ์ลูกแม่ นี่คงจะร้องไห้คนเดียวอีกแล้วสินะ”
“คุณแม่จะไปไหนครับ” หนึ่งนทีถาม เมื่อเห็นมารดากำลังจะลุกขึ้น
“แม่จะไปดูน้องน่ะสิ”
ด้านคุณจอห์นได้ยินเช่นนั้นก็รีบบอกภรรยาว่า
“ไม่ต้องไปหรอก ผมว่าปล่อยยัยไอซ์อยู่คนเดียวสักพักเถอะ ถ้าลูกสบายใจขึ้นแล้ว เดี๋ยวก็มาเองแหละ”
“แต่ฉันเป็นห่วงลูกนี่คะ”
“คุณหญิง” คุณจอห์นทำเสียงเข้มดุใส่ภรรยา เมื่ออีกฝ่ายมีวี่แววไม่เชื่อฟัง
“เดี๋ยวผมจะไปดูน้องให้เองครับ คุณพ่อคุณแม่กินข้าวเถอะครับ” หนึ่งนทีเห็นคุณพ่อกับคุณแม่กำลังเคือง ๆ กันอยู่ จึงอาสาไปดูธารทีราให้เอง
“นั่งลงซีล ไม่ต้องไปกวนใจน้อง รู้ๆ นิสัยยัยไอซ์กันอยู่”
คุณจอห์นดุภรรยายังไม่พอ ตอนนี้ยังหันไปทำเสียงตึงๆ ใส่ลูกชายด้วย ท่าทีน่าเกรงขามและโทนเสียงขรึมดุดันของบิดา ทำให้ชายหนุ่มจำต้องนั่งลงแต่โดยดี
“ครับ”
จากนั้นคนทั้งสามก็นั่งกินข้าวกัน โดยที่ไม่มีใครพูดอะไร ทว่าผ่านไปราวสิบนาทีคุณหญิงโสภาก็เอ่ยถามขึ้นมาเรื่องหนึ่ง
“ซีล”
“ครับ” หนึ่งนทีขานรับ
“ว่าแต่น้องจะเข้าไปทำงานที่บริษัทเลยหรือเปล่า”
“ผมก็ไม่แน่ใจนะครับ”
“จะไปเร่งลูกให้ออกไปทำงานทำไมคุณหญิง ให้ลูกได้พักสักอาทิตย์สองอาทิตย์ก่อนดีไหม” คุณจอห์นจิบกาแฟ พร้อมเอ่ยตำหนิภรรยา
“ฉันไม่ได้เร่งค่ะ แค่อยากรู้ว่าลูกจะเริ่มทำงานวันไหนเท่านั้นเอง”
ด้านคุณหญิงโสภาหน้างอใส่สามี และทำท่าจะโต้กลับ แต่ท่านก็ต้องชะงักไป เมื่อเห็นบุตรสาวเดินกลับเข้ามาในบ้าน
บทที่ 97สองอาทิตย์แล้วที่นักรบกลับมาอยู่บ้าน และวันนี้เป็นวันแรกที่ธารทีราต้องไปยังบริษัทอีกแห่ง ซึ่งพ่อของเธอและพ่อของเขตแดนหุ้นกันเปิดขึ้นมาตั้งแต่เธอยังเล็ก ๆ“มาหาใครคะ” พนักงานต้อนรับเอ่ยถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“คุณเขตแดนค่ะ” ธารทีราบอกพนักงาน“เอ่อ คุณได้นัดไว้ไหมคะ แล้วคุณ…”ธารทีราไม่รอให้พนักงานถามจนจบ เธอก็บอกไปว่า“ฉันชื่อธารทีราค่ะ เป็นน้องสาวของคุณหนึ่งนที” เธอบอกออกไปก่อนจะส่งบัตรวีไอพีของที่นี่ให้อีกฝ่ายดู“อ๋อค่ะ สวัสดีค่ะ” พนักงานฟังแล้วก็รีบเอ่ยทักทายอย่างรวดเร็วจากนั้นพนักงานก็เชิญเธอไปที่ลิฟต์“ชะ...เชิญทางนี้เลยค่ะ”เมื่อขึ้นลิฟต์มาถึงหน้าห้องทำงานของเขตแดน พนักงานก็ขอตัวทันที ทำให้หญิงสาวเคาะประตูขออนุญาต“เชิญ”เมื่อได้รับอนุญาตจากคนด้านใน ธารทีราก็เปิดประตูเข้าไปทันทีด้านเขตแดนที่นั่งทำงานอยู่เงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อย พอเห็นว่าใครเปิดประตูเข้ามาก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปหา“น้ำมาได้ยังไงครับ”“ทำอะไรอยู่คะ น้ำมากวนหรือเปล่า” หญิงสาวเอ่ยถาม ก่อนจะยอมให้อีกฝ่ายคว้าร่างของเธอไปกอด“ไม่กวนครับ” เขตแดนเอ่ยอย่างนุ่มนวล พลางฉวยโอกาสหอมแก้มไปหนึ่งที“พี่ดิน” เธอตีที่ท่อนแขนแข็
บทที่ 96“ป้านมคือคนที่คอยเลี้ยงเราสองคนไง” ธารทีราหันไปอธิบายให้พี่ชายฟังด้วยรอยยิ้ม“ขอโทษด้วยครับ ผม…” นักรบเอ่ยด้วยเสียงที่ขาดห้วงไป ด้วยรู้สึกผิดที่ตนเองจำคนใกล้ตัวในอดีตไม่ได้เลย ป้านมเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีอึดอัดใจจึงเอ่ยแทรกขึ้นว่า“ไม่เป็นไรนะคะ ป้าดีใจที่สุดเลยค่ะที่คุณรบกลับมา”“นี่เป็นเอกสารใหม่ของรบนะ คุณลุงทำไว้ให้จ้ะ” คุณหญิงโสภายื่นซองเอกสารไปให้หลานชายนักรบหยิบเอกสารขึ้นมาเปิดดู ซึ่งมันคือเอกสารการเปลี่ยนชื่อและเอกสารกรรมสิทธิ์ต่าง ๆ ของเขา ทั้งเรื่องบ้านและตัวธุรกิจที่เคยเป็นส่วนแบ่งของหมอคาร์ล“ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นกรรมสิทธิ์ของรบนะ”“แล้วน้ำล่ะครับ บ้านหลังนี้ก็ของพ่อแม่นี่ ทำไมถึง…” นักรบถามไม่ทันจบคำ ธารทีราก็พูดขึ้นว่า“คุณแม่จะยกบ้านหลังโน้นของคุณแม่ให้น้ำค่ะ ส่วนของพี่ซีลคุณแม่จะยกบ้านตากอากาศอีกหลังหนึ่งให้แทน”นักรบมองตามมือน้องสาวที่ชี้ให้เขาดูบ้านที่มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับบ้านหลังนี้ ซึ่งอยู่ข้าง ๆ กัน โดยแค่มีรั้วต้นไม้กั้นไว้เท่านั้น“รบคงไม่ว่าป้านะ ถ้าในช่วงนี้ป้าจะให้น้ำไปอยู่กับป้า”"ผมเข้าใจครับ มีน้ำไปอยู่กับคุณป้าก็ดีแล้วล่ะครับ““ขอบใจมากจ้ะ ตอนนี้ซีลไปพักท
บทที่ 95พอมาถึงเจดีย์สีขาวสะอาดที่โดยรอบมีการทำความสะอาดและมีดอกไม้พร้อมกระถางธูปจัดวางอย่างเรียบร้อย ชายหนุ่มก็หันมาหาน้องสาว“น้ำมาที่นี่บ่อยใช่ไหม”“คุณพ่อ...เอ่อ...ลุงจอห์นให้คนจัดการให้ตลอดค่ะ มันก็เลยดูดีแล้วก็สะอาดแบบนี้” หญิงสาวเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ เพราะทุกวันนี้เธอก็ยังคงเสียใจอยู่ จนพี่ชายต้องยกมือขึ้นไปจับที่บ่าบางแล้วบีบเบา ๆ“น้ำ ไม่เป็นไรนะ”“ค่ะ น้ำก็แค่คิดถึงอดีตที่ดี ๆ น่ะค่ะ คุณพ่อดีกับน้ำมาก ทั้งที่น้ำเป็นแค่หลานเท่านั้นเอง” เธอหันไปบอกพี่ชาย ก่อนจะยกมือขึ้นสัมผัสที่รูปของพ่อแม่ที่กำลังอุ้มพี่ชายของเธอตอนเล็ก ๆ อยู่ด้วย“เอาไว้น้ำจะให้คนมาเปลี่ยนรูปให้ใหม่นะคะ คุณพ่อคุณแม่”ธารทีราเอ่ยกับพ่อแม่ ทำเหมือนกับว่าท่านทั้งสองได้ยินสิ่งที่พูดไป จากนั้นก็หันมายิ้มให้พี่ชายสลับกับการมองเจดีย์ตรงหน้า“พ่อคะ แม่คะ น้ำพาพี่รบมาหาค่ะ”“พ่อครับ แม่ครับ ผมมาหาแล้วนะครับ” นักรบยกมือไหว้พ่อแม่ แม้หมอจะบอกว่าเขาคงไม่อาจจดจำอะไรได้แล้ว แต่เขาก็รู้ว่าพ่อกับแม่จะต้องรักเขามากอย่างแน่นอน จึงรู้สึกดีใจระคนเศร้าที่ได้มาหาพวกท่านจากนั้นสองพี่น้องต่างก็จมอยู่ในห้วงคิดส่วนตัว แต่แววตาของค
บทที่ 94หนึ่งอาทิตย์ต่อมา...เมื่อรถจอดตรงลานจอด เขตแดนก็ลงจากรถเดินอ้อมไปฝั่งข้างคนขับเพื่อเปิดประตูให้ธารทีรา“นี่ถ้าคุณแม่ไม่บอกให้มา น้ำก็ไม่อยากมาหรอกนะคะ”“พี่เข้าใจ ยังไงเขาก็ตายแล้ว น้ำก็อโหสิกรรมให้เขาเถอะ”“ก็เพราะว่าอโหสิกรรมให้ไงคะน้ำถึงมา” ธารทีราย่นหน้าใส่เขตแดน เอาจริงๆ ถึงจะโกรธและแค้นดาเนียลมากแค่ไหนพ่อแม่เธอก็คงไม่ฟื้นขึ้นมาอยู่ดี“งั้นเข้าไปกันเถอะ” เขตแดนบอก พร้อมจับมือหญิงสาวมากุม แล้วพาเดินเข้าไปในวัดช่วงเวลาที่เดินเข้าไปในวัดนั้น ธารทีราก็ถามเพราะสงสัยมากที่ดาเนียลซึ่งเป็นลูกครึ่งนั้นนับถือศาสนาพุทธ“ตอนแรกนึกว่าเขาจะจัดงานศพแบบคริสต์นะคะเนี่ย”“เห็นว่าเขานับถือศาสนาตามภรรยาน่ะ”“อ้อ...” ธารทีราตอบรับ ก่อนจะถามถึงเรื่องอื่น “พี่ดิน พี่รู้ไหมว่าพี่ซีลไปไหน ตั้งแต่เสร็จงานศพคุณพ่อก็ไม่ยอมกลับบ้านเลยค่ะ โทรไปหาก็บอกแต่ว่าขอไปพักผ่อนเงียบ ๆ สักพัก พอถามก็ไม่ยอมบอกว่าอยู่ที่ไหน”“ไม่รู้สิ พี่ก็ไม่เห็นมันไปที่ผับนานแล้วนะ ปกติมันจะเข้าผับทุกคืน นี่มันยังทิ้งงานที่บริษัทให้พี่ทำเลย บอกแค่ว่าอยากไปทำใจสักพัก”“ความจริงงานศพของดาเนียลคุณแม่จะให้พี่ซีลมานะ แต่พี่ซีลเล่น
บทที่ 93นักรบเองก็อึ้งไปเช่นกัน แต่แล้วชายหนุ่มก็ดึงสติกลับมาเมื่อมีมือของนาเดียร์ยื่นมาจับมืออีกข้างของเขาไว้ โดยที่มีอีกข้างตอนนี้มีธารทีราจับไว้เช่นกัน“แล้วแม่ล่ะ” นักรบถามเสียงเรียบ ทั้งที่ในใจกำลังห่วงใยมาดามอันนาอย่างที่สุด“คุณแม่ความดันกำเริบหมดสติ ตอนนี้นอนพักอยู่ที่ห้องพักฟื้นค่ะ” หญิงสาวร้องไห้ออกมาอีก ตอนนี้เธอเอาแต่ก้มหน้า เพราะไม่กล้าจะสู้หน้าใคร ทั้งที่เมื่อก่อนเป็นผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเองมาตลอด“แม่...” นักรบเอ่ยเสียงสั่น ครั้งนี้เขายอมปล่อยมือน้องสาวแท้ ๆ เพื่ออ้าแขนโอบกอดน้องสาวอีกคนไว้ ถึงจะไม่ใช่น้องแท้ ๆ แต่เขาก็รักเธอเหมือนน้องสาว“ไม่ต้องร้องไห้นะ เงียบซะ” นักรบกอดนาเดียร์ไว้แน่น และพูดปลอบขวัญอย่างอ่อนโยน“พี่ไทด์อยู่เป็นเพื่อนเดียก่อนได้ไหม เดียไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี ป๋ายังนอนอยู่ในนั้น คุณแม่ก็…” นาเดียร์ไม่ทันได้พูดจบประโยค เสียงทุ้มต่ำที่เธอไม่อยากได้ยินก็ดังขึ้น“ไอ้รบ ถ้ามึงช่วยเป็นธุระจัดงานศพให้ไอ้ฆาตกรที่มันฆ่าพ่อแม่มึงและฆ่าพ่อกู กูจะขอเป็นศัตรูกับมึงตลอดไป” หนึ่งนทีปล่อยแม่ให้ยืนอยู่กับธารทีรา แล้วเดินเข้าไปยืนใกล้นักรบที่กำลังยืนกอดนาเดียร์อยู่“ซี
บทที่ 92ณ โรงพยาบาลคุณหญิงโสภรีบเดินทางมายังโรงพยาบาลทันทีหลังทราบว่าสามีของตนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ“ซีล น้ำ พ่อเป็นยังไงบ้าง” เสียงสั่นเครือของคุณหญิงดังมาก่อนตัว โดยตอนนี้ที่หน้าห้องฉุกเฉินมีทั้งธารทีรา นักรบ หนึ่งนที รวมถึงเขตแดนยืนออกันอยู่“หมอยังไม่ออกมาบอกเลยค่ะ”“เกิดอะไรขึ้น ใครยิงพ่อ” คุณหญิงโสภามองลูกสาวและลูกชายที่ยังยืนหันหลังให้ เพราะหนึ่งนทีเอาแต่ยืนมองประตูห้องฉุกเฉินอย่างไม่ยอมละสายตาคำถามของแม่ ทำให้หญิงสาวหันไปมองนักรบ เมื่อพี่ชายพยักหน้าจึงเล่าให้แม่ฟัง“น้ำไม่แน่ใจค่ะว่าใครยิงคุณพ่อ เหตุการณืตอนนั้นวุ่นวายไปหมด แต่ที่แน่ ๆ ดาเนียลสั่งลูกน้องให้ยิงพวกเราค่ะ”“ไอ้ดาเนียล มึงทำร้ายพ่อกู ถ้าพ่อกูเป็นอะไรขึ้นมา กูจะฆ่าล้างโคตรมึง” หนึ่งนทีมองนักรบด้วยแววตาไม่พอใจ แม้เขาจะไม่โทษอีกฝ่ายออกมาตรง ๆ แต่ลึก ๆ ธารทีรารู้ดีว่าหนึ่งนทีคงไม่พอใจนักรบอย่างมากที่เอาตัวเข้าไปเสี่ยง จนทำให้พ่อของเขาต้องตามไปช่วย“คุณหมอ คุณลุงเป็นยังไงบ้างครับ” เขตแดนเอ่ยถามเมื่อเห็นว่ามีหมอคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินด้านคุณหมอมีสีหน้าเคร่งเครียด เขามองหน้าทุกคน โดยเฉพาะคุณหญิงโสภา ก่อนจะพูดอ