ถึงแม้ว่าข้างในใจจะยังอมทุกข์และไม่หายจากอาการโศกเศร้า มิหนำซ้ำดวงตายังแดงช้ำเพราะเพิ่งผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก แต่เธอก็พยายามที่จะปรับสภาพจิตใจให้เป็นปกติ เดินยิ้มเข้าไปหาทุกคน แล้วเอ่ยถามว่า
“ใครจะไปไหนกันเหรอคะ”
ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ รวมถึงพี่ชายอุทานขึ้นพร้อมกัน และต่างหันไปมองคนที่พวกเขาทั้งสามกำลังพูดถึง
“ว่าไงคะ ใครจะไปไหนกันเหรอคะ”ธารทีรายิ้มแฉ่ง แล้วเดินไปยืนเกาะข้างหลังเก้าอี้ตัวที่พี่ชายนั่ง
“ไม่มีใครไปไหนหรอก” คุณจอห์นบอกลูกสาว
“งั้นก็แล้วไป นึกว่าพี่ซีลจะไปไหนเสียอีก”เธอทำหน้าทะเล้นใส่พี่ชายที่กำลังเอียงหน้ามามองเธอ
“พี่จะไปไหนได้ครับ” หนึ่งนทีเอ่ยออกมา พลางเอื้อมมือ ไปกุมมือของน้องที่วางอยู่บนบ่าของเขา
“ทำไมคะ”น้องสาวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงขี้เล่น
“ก็ตอนนี้พี่เป็นบอดี้การ์ดของเธอไง” ผู้เป็นพี่ชายกระเซ้า
“ชิ!”ธารทีราทำเสียงขึ้นจมูกใส่พี่ชาย เมื่อได้สบดวงตาสีนิลที่ฉายแววขี้เล่น
“อย่ามัวแต่พูดกันเลยลูก มา ๆ มานั่งนี่มา” คุณหญิงโสภาบอกพร้อมกวักมือเรียกลูกสาว
“คุณพ่อคุณแม่ขา ไอซ์ขอโทษนะคะที่มาช้า”
ธารทีรารีบเดินเข้าไปกอดคุณจอห์นจากทางด้านหลัง แล้วก่อนจะนั่งเธอก็ถลันเข้าไปกอดคุณหญิงเพื่อเอาใจพวกท่าน
“ไม่เป็นไรเลยลูกแม่ มานั่งเร็ว ๆ” คุณหญิงโสภากอดตอบ แล้วลูบศีรษะหญิงสาว พร้อมกับบอกให้นั่งลงข้าง ๆ
“ขอบคุณค่ะ” ธารทีรานั่งลง พลางยกมือไหว้ขอบคุณ เมื่อแม่ตักข้าวใส่จานให้
“ทำไมบนโต๊ะมีแต่ของโปรดน้อง ผมชักจะน้อยใจแล้วนะครับ” ด้านหนึ่งนทีพูดขึ้น เพื่อเบี่ยงเบนให้น้องหันมาสนใจ
“ก็น้องไม่ได้กินอาหารฝีมือแม่นานแล้วนี่ ซีลน่ะได้กินตลอดนี่นา” คุณหญิงโสภาบอก แล้วโยนค้อนลูกใหญ่ใส่ลูกชาย
“พี่รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะกลายเป็นหมาหัวเน่า และกำลังจะมีกลิ่นเหม็น ๆ แล้วนะ” ผู้เป็นพี่ชายพูดกับธารทีราพร้อมยกแขนของตนขึ้นมาดม
“คิกๆ พี่ซีลก็พูดเวอร์ไปค่ะ” หญิงสาวหัวเราะเสียงเบาๆ ให้กับท่าทางของพี่ชายที่เอาแต่ดมกลิ่นของตัวเอง
ด้านคุณจอห์น เมื่อเห็นลูกสาวยิ้มและหัวเราะ เขาก็ยิ้มตามและเรียกลูกสาว
“ไอซ์”
“ค่ะคุณพ่อ” เจ้าของชื่อขานรับ ทั้งที่ยังยิ้มไม่หุบ
“จะไปทำงานวันไหนเหรอลูก” คุณจอห์นถามลูกสาว
“นั่นสิ นี่แม่กับพ่อและพี่ซีลกำลังคุยเรื่องของหนูอยู่นะ ตกลงจะไปทำงานวันไหน”
“ไอซ์ว่าจะเข้าไปดูโรงพยาบาลพรุ่งนี้ค่ะ”
“เร็วไปหรือเปล่าลูก พักก่อนดีไหม”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น คุณหญิงโสภาก็พูดขัดขึ้น เพราะอยากให้ลูกสาวพักผ่อนให้หายเหนื่อยเสียก่อน
“ไม่เร็วหรอกค่ะคุณแม่ ไอซ์ว่าจะไปสำรวจแผนกที่จะต้องไปประจำด้วยค่ะ”ธารทีราบอกแม่เสียงออดอ้อน แล้วสวมกอดเอวท่านจากทางด้านข้าง
“ดีแล้วลูกพ่อ”คุณจอห์นพูดสนับสนุนลูกสาว
“แม่นึกว่าหนูจะพักผ่อนอีกสักสองสามวันเสียอีก”
คุณหญิงโสภาทำเสียงน้อยใจ เพราะอยากอยู่กับลูกสาวให้นานกว่านี้ และมีกิจกรรมตั้งหลายอย่างที่อยากให้ลูกสาวมาทำด้วย แต่อีกฝ่ายกลับคิดที่จะไปทำงานเสียแล้ว
“ไอซ์พักมานานแล้วค่ะคุณแม่ อีกอย่างหนูอยากทำงานด้วยค่ะ” เธอยังกอดแม่ไว้ ดวงหน้าหวานซบที่หัวไหล่ของแม่ และเวลาที่พูดก็จูบแก้มของแม่ไปด้วย
เมื่อถูกลูกสาวอ้อน คุณหญิงก็ใจอ่อน
“งั้นก็ตามใจ”
หญิงสาวยิ้มและหอมแก้มแม่เมื่ออ้อนสำเร็จ จากนั้นก็หันไปมองพี่ชายที่อยู่ในชุดสูทพลางถามว่า
“พี่ซีลไปไหนคะวันนี้”
“พี่จะไปห้าง ไปด้วยไหม” หนึ่งนทีถือโอกาศชวนน้องสาวไปที่ห้าง ซึ่งเป็นอีกกิจการหนึ่งของครอบครัว
“ขอบายค่ะ ขี้เกียจเดินและเจอคนเยอะ ๆ” ธารทีราส่ายหน้าปฏิเสธ เพราะยังไม่ชินกับอากาศร้อน ๆ และเวลาของเมืองไทยจึงยังรู้สึกเพลีย ๆ อยู่ไม่น้อย
“ถ้าอย่างนั้น วันนี้ก็พักผ่อนอยู่ที่บ้านก็แล้วกันนะครับน้องสาว”
“ค่ะ แต่ถ้าพรุ่งนี้คงต้องรบกวนพี่ซีลพาไอซ์ไปโรงพยาบาลด้วยนะคะ”
“ได้เลยครับ เจ้าหญิงแสนสวยของพี่” หนึ่งนทีล้อเลียนน้องสาว แล้วลุกขึ้นยืน และก่อนที่เขาจะออกไปทำงานก็หันมาบอกกับพ่อแม่ว่า
“ผมไปทำงานก่อนนะครับ”
“อื้อ ๆ” คุณจอห์นพยักหน้าให้ลูกชาย ซึ่งท่านไว้ใจและมอบหน้าที่ทุกอย่างให้ลูกชายจัดการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญมากแค่ไหน หนึ่งนทีก็ทำมันได้ดีเสมอ
บทที่ 15ณ ไร่ทานตะวันตรงบริเวณสวนหย่อมหลังบ้าน มีสองสามีภรรยานั่งกินอาหารเช้ากันโดยสามีนั่งจิบกาแฟและอ่านหนังสือพิมพ์ไปด้วย ส่วนภรรยานั้นก็จิบน้ำส้มคั้น และรับประทานไข่ดาวกับขนมปังปิ้งอยู่ข้างๆ สามี พร้อมกับพูดคุยกันอย่างมีความสุขครืดด!! ครืดดด!!!..แรงสั่นของโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะกินข้าว ทำให้ทั้งสองต้องหันไปมอง ก่อนที่พ่อเลี้ยงสิงหาจะหยิบโทรศัพท์ของภรรยาขึ้นมาดู“ใครโทรมาคะ” แม่เลี้ยงม่านแก้วถามสามีด้วยความสงสัยเมื่อเห็นว่าสามีเอาแต่มองโทรศัพท์ของเธอ“ลูกชายของคุณไง” พ่อเลี้ยงสิงห์หาบอกพร้อมหันจอโทรศัพท์ให้ภรรยาดู“ตาดินโทรมาเหรอคะ” แม่เลี้ยงม่านแก้วขมวดคิ้วยุ่ง เพราะไม่อยากจะเชื่อว่าลูกชายจะโทรมาหา เพราะปกติแล้วลูกชายไม่เคยติดต่อมาก่อนเลย“อื้อ” พ่อเลี้ยงสิงหายื่นโทรศัพท์ให้ภรรยาเมื่อแม่เลี้ยงม่านแก้วรับโทรศัพท์จากมือสามีมาถือไว้ก็เปิดลำโพง แล้วเอาวางไว้บนโต๊ะ พลางเอ่ยทักคนในสายว่า“ว่าไงลูก”“แม่ว่างหรือเปล่าครับ” เสียงทุ้มที่ติดจะเย็นชาเอ่ยขึ้นเมื่อได้ยินเสียงของแม่“ว่างจ้ะ ดินมีอะไรหรือเปล่า” แม่เลี้ยงม่านแก้วหันไปสบตาสามีเล็กน้อย ขณะตอบคำถามลูกชาย“เมื่อวานไอ้ซีลมันพาน้อ
บทที่ 16ด้านแม่เลี้ยงม่านแก้วที่โทรหาคุณหญิงโสภานั้น เมื่อคนทางโน้นบอกว่าธารทีรากลับมาแล้วก็มองหน้าสามี แล้วพยักหน้าให้เป็นเชิงบอกว่าหลานกลับมาแล้วเมื่อรู้แน่ชัดว่าธารทีรากลับมาแล้ว เขาก็ทำมือทำไม้บอกภรรยาว่าจะไปออกไปสั่งลูกน้องให้จัดการหาตั๋วเครื่องบินให้ เพื่อเดินทางไปหาเพื่อนสนิทและหลานสาวเมื่อคุณหญิงโสภาวางสายโทรศัพท์สายเพื่อนก็เดินเข้ามาในห้องรับแขกที่มีสามีและลูกสาวนั่งคุยกันอยู่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“มีอะไรหรือเปล่าคุณภา เดินยิ้มมาแต่ไกลเลย”คุณจอห์นถามขึ้น เมื่อเห็นภรรยาเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ ด้วยสีหน้าสดใส“นั่นสิคะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”ธารทีราถามคำเดิมของพ่อ เมื่อแม่เอาแต่ทำท่างทางตื่นเต้นดีใจ และไม่ยอมบอกสักที“มีสิลูก ก็ลุงสิงหาและป้าม่านแก้วกำลังมากรุงเทพน่ะสิ”คุณหญิงโสภาบอกลูกสาว แต่กลับหันไปสบตาสามี“คุณสิงกับคุณม่านมากรุงเทพ มีอะไรหรือเปล่าคุณภา”คุณจอห์นถามภรรยา เพราะสองสามีภรรยาเพิ่งจะกลับไปเมื่ออาทิตย์ก่อนนี่เอง“ก็มาหาลูกสาวของเราไงคุณ”“พวกเขารู้…” คุณจอห์นมองหน้าภรรยาสลับกับลูกสาวคนสวยของตน“ค่ะ ม่านเขาโทรมาหาฉันเมื่อกี้ ฉันเลยบอกไปว่าลูกเรากลับมาแล้ว”ด้านคุณจอห์นพ
บทที่ 17เวลาห้าโมงเย็นที่บ้านของคุณจอห์น เสียงรถเก๋งคันหรูขับเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน ทำให้ทุกคนออกไปต้อนรับ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีธารทีราด้วย และเป็นคุณหญิงโสภาเองที่ดูตื่นเต้นจึงเอ่ยบอกสามีกับลูกสาวว่า“มากันแล้วคุณ”ด้านแม่เลี้ยงม่านแก้วและพ่อเลี้ยงสิงหาที่นั่งอยู่ในรถ เมื่อคนขับรถลงจากรถมาเปิดประตูรถให้ แม่เลี้ยงสาวก็รีบลงจากรถทันที“หนูไอซ์” ทันทีที่เห็นหน้าธารทีราท่านก็รีบเดินเข้าไปหา“คุณป้า” ด้านหญิงสาวก็ไม่ต่างกัน เธอยกมือไหว้แล้วเดินเข้าไปหา พร้อมกับโผเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของแม่เลี้ยงพรึบ!..“กลับมาทั้งที ไม่บอกป้าเลยนะ” แม่เลี้ยงม่านแก้วพูดชิดศีรษะของหลานสาว มือสองข้างลูบแผ่นหลังบางเบา ๆ ด้วยความรักและคิดถึง“ไอซ์กะว่าจะโทรหาคุณป้าอยู่ค่ะ แต่คุณป้ารู้ซะก่อน”ธารทีรารีบแก้ตัวและพูดอ้อนไป เพื่อเอาใจคุณป้าที่เธอเคารพ“นี่ถ้าพี่เขาไม่โทรถาม ป้าก็คงไม่รู้” แม่เลี้ยงม่านแก้วบอก พลางดันหลานสาวให้ออกห่าง เพื่อที่จะได้มองหลานสาวได้ถนัดตาคุณหญิงโสภาที่ยืนยิ้มไม่หุบเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย เมื่อได้ยินเพื่อนของท่านเอ่ยถึงเขตแดน“ตาดินโทรหาเธอเหรอ”“ก็ใช่น่ะสิ” แม่เลี้ยงม่านแก้วหันไปสบตาเพื่อ
บทที่ 18 เมื่อเห็นทุกคนเป็นกังวล คุณจอห์นจึงพูดขึ้นว่า“ทุกคนอย่าห่วงเลย ตอนนี้ตาซีลจัดการพวกนั้นแล้ว แต่ยังสืบไม่ได้ว่าเป็นใครก็เท่านั้นเอง”“อย่าประมาทนะ เดี๋ยวฉันให้ดินช่วยด้วยอีกแรง” พ่อเลี้ยงสิงหาเอ่ยเตือน เพราะไม่อยากให้เกิดความผิดพลาดขึ้นมาจึงคิดจะให้ลูกชายมาช่วยอีกแรง“แต่ตาดิน…” เมื่อพูดถึงลูกชายเพื่อน คุณหญิงก็มีสีหน้าลังเลเล็กน้อย“ไม่ต้องห่วงหรอก ดินทำได้แน่” พ่อเลี้ยงสิงหายืนยันที่จะให้ลูกชายเข้ามาช่วยดูแลธารทีรา“แต่ว่าตาดินเริ่มจะสงสัยแล้วนะ” แม่เลี้ยงม่านแก้วก็กังวลเช่นกัน“สงสัยอะไรม่าน” คุณหญิงโสภาหันไปถามเพื่อนรัก“ก็เมื่อเช้าตาดินโทรมาถามฉัน เกี่ยวกับเรื่องของหนูไอซ์น่ะสิ”“ไม่เป็นไรหรอก ยังไงเรื่องนี้ก็ปิดไว้ได้ไม่นาน สักวันเขาก็ต้องรู้”คุณจอห์นพูดพลางถอนหายใจออกมาหลายครั้ง“นั่นสินะ” พ่อเลี้ยงสิงหาเห็นด้วย เพราะความลับไม่เคยมีในโลก“แต่ตอนนี้ความปลอดภัยหนูไอซ์สำคัญที่สุดค่ะ” แม่เลี้ยงม่านแก้วพูดย้ำถึงเรื่องความปลอดภัยของธารทีรา ซึ่งทุกคนก็เห็นด้วย“แล้วนี่หนูไอซ์จะกลับมาอยู่ที่นี่ถาวรเลยเหรอ” แม่เลี้ยงถาม พร้อมมองหน้าเพื่อนและมองหน้าของสามีสลับกันไปมา
บทที่ 19เวลาทุ่มหนึ่งที่บ้านของคุณจอห์น เขตแดนขับรถตามรถของเพื่อนรักเข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้าน จากนั้นก็เดินลงจากรถ พร้อมกับเดินตามหนึ่งนทีเข้าไปในจังหวะที่ทั้งคู่กำลังเปลี่ยนไปใส่รองเท้าสำหรับใส่ในบ้าน พวกเขาก็ต้องหันไปมอง เมื่อมีเสียงหนึ่งดังขึ้นใกล้ตัว“มากันแล้วหรือ หนุ่ม ๆ” คุณหญิงโสภาที่เดินออกจากครัวเห็นลูกชายและลูกของเพื่อนมาถึงพอดีจึงเอ่ยทักทาย“สวัสดีครับคุณป้า” เขตแดนยกมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม“จ้า” คุณหญิงรับไหว้ แล้วบอกให้ลูกชายพาเขตแดนเข้าไปในห้องอาหาร ซึ่งชายหนุ่มทั้งสองก็เดินนำหน้าคุณหญิงโสภาเข้าไปในห้องอาหารก่อนเมื่อคุณจอห์นที่นั่งตรงหัวมุมของโต๊ะ เห็นลูกชายและเพื่อนของลูกชายเดินเข้ามาก็เอ่ยทักด้วยรอยยิ้ม“มาแล้วหรือสองหนุ่ม ซีลพาดินเข้ามานั่งนี่มา”“ครับ” เขตแดนเดินไปที่เก้าอี้ใกล้กับจุดที่พ่อแม่ของเขานั่งอยู่ ส่วนหนึ่งนทีก็เดินมานั่งลงข้างแม่ของตน ซึ่งตอนนี้ที่ฝั่งขวามือของเขามีธารทีรานั่งอยู่ก่อนแล้ว“สวัสดีครับพ่อแม่ สวัสดีครับคุณลุง” เขตแดนไหว้พ่อแม่ พลางยกมือไหว้คุณจอห์น“อื้อ นั่งๆ ลูก” คุณจอห์นรับไหว้ แล้วบอกเขตแดนให้นั่งลง ซึ่งเก้าอี้ตัวที่ชายหนุ่มนั่งลงไปนั้น
บทที่ 20ในขณะที่เขตแดนขับรถกลับบ้าน ชายหนุ่มมีสีหน้าขรึม แววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยคอยมองพ่อกับแม่ไปด้วย“มีอะไรหรือเปล่าลูก”แม่เลี้ยงม่านแก้วนั่งอยู่เบาะหลังถามลูกชาย“ผมไม่ยักจะรู้ว่าคุณพ่อกับคุณแม่สนิทกับลูกสาวบ้านโน้นด้วย”เขตแดนพูดทั้งที่กำลังขับรถอยู่ พลางชำเลืองอมองมารดาเป็นระยะด้านแม่เลี้ยงม่านแก้วชะงักไปเล็กน้อยกับคำถามของลูกชาย “ก็แม่เห็นน้องมาตั้งแต่เด็กนี่นา”คำตอบของแม่ทำให้เขตแดนเงียบไปเมื่อลูกชายเอาแต่เงียบ เหมือนกำลังจับผิดตนเอง ท่านจึงแอบสะกิดให้สามีพูดบ้าง“จำตอนที่พ่อกับแม่ไปอเมริกาบ่อย ๆ ได้ไหม” พ่อเลี้ยงสิงหาที่ถูกภรรยาสะกิดเอ่ยขึ้นมาบ้าง“ครับ” เขตแดนหันมองพ่อเล็กน้อย“พ่อกับแม่ก็ไปพักที่ห้องของน้องเขาบ่อย ๆ จนทำให้แม่ของเราสนิทกับน้องไงลูก”“ครับ” ชายหนุ่มทำเพียงพยักหน้ารับรู้ แต่ในใจของเขาก็ยังคิดที่จะหาทางสืบให้ได้ว่าธารทีราเป็นใครอยู่ดี เพราะมันเหมือนมีอะไรหลายอย่างบอกเขาว่า มีอะไรไม่ชอบมาพากลแฝงอยู่“มีอะไรจะถามแม่อีกไหม”เขตแดนไม่ตอบคำถามแม่ แต่กลับยิ้มเจ้าเล่ห์ เมื่อสบตากับแม่ของตนผ่านกระจกรถมองหลัง“นั่นสิ อยากรู้อะไรก็ถามพ่อได้นะ” พ่อเลี้ยงสิงหาบอก
บทที่ 21สามวันต่อมา...ธารทีราเดินลงมาจากห้องนอนด้วยชุดกระโปรงที่ดูสุภาพเรียบร้อย เนื่องจากวันนี้เธอจะไปที่โรงพยาบาลเพื่อรายงานตัวเป็นวันแรกเมื่อมีเสียงฝีเท้าเดินลงบันได คุณหญิงโสภาที่นั่งจิบกาแฟอยู่ในห้องอาหารก็หันไปมอง เมื่อเห็นว่าเป็นลูกสาวจึงเอ่ยทัก“ทำไมตื่นเช้าจังเลยลูก”“คุณแม่ก็ตื่นเช้าเหมือนกันนะคะ”ธารทีรายิ้มหวาน แล้วเดินไปนั่งข้าง ๆ แม่“แล้วนี่แต่งตัวสวยอย่างนี้ จะไปทำงานเหรอลูก”คุณหญิงเอ่ยถาม เพราะมองเสื้อผ้าที่ลูกสาวใส่ในเช้าวันนี้ดูจะเรียบร้อยผิดปกติ“ใช่ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับ แล้วหันไปเอ่ยขอบใจเด็กรับใช้ที่ยกอาหารเช้ามาเสิร์ฟให้เธอ“ไปคนเดียวหรือลูก”“ค่ะ”“แม่ว่าอย่าไปคนเดียวเลยลูก ให้พี่เขาไปเป็นเพื่อนนะ”“วันนี้วันหยุดพักผ่อนของพี่ซีล ไอซ์ไม่อยากรบกวนค่ะ”ธารทีรายิ้มให้แม่พร้อมกับเอ่ยปฏิเสธ เนื่องจากอยากไปทำงานตามลำพัง“ได้ไงลูก” คุณหญิงโสภาทำเสียงดุลูกสาว ก่อนจะหันไปสั่งเด็กรับใช้“นี่ดวงใจขึ้นไปดูคุณซีลซิว่าตื่นหรือยัง”ด้านธารทีรา เมื่อเห็นคนรับใช้กำลังจะทำตามที่มารดาบอกก็รีบร้องห้าม“พี่ดวงใจไม่ต้องขึ้นไปปลุกพี่ซีลหรอก พี่มีอะไรก็ไปทำเถอะค่ะ”“เอ่อ...ค่ะคุณไ
บทที่ 22ธารทีราไม่ตอบ เธอแค่เพียงพยักหน้าให้พี่ชาย แล้วหันหน้าไปมองรถมากมายที่ขับแซงรถของหนึ่งนทีขึ้นไปผ่านกระจกรถด้านข้างเมื่อไฟเขียวปรากฏขึ้น ชายหนุ่มก็ขับรถตรงไปข้างหน้า ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง เขาก็พาน้องสาวมาถึงโรงพยาบาล ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวหนึ่งนทีจอดรถตรงส่วนที่เป็นช่องจอดสำหรับ VIP และก่อนที่จะลงจากรถเพื่อไปเปิดประตูให้น้องสาว ชายหนุ่มก็เอ่ยถามคนข้างกายด้วยความห่วงใย“โอเคไหม”“สบายมากค่ะ” ธารทีราทำหน้าตาสบาย ๆ แล้วลงจากรถเมื่อพี่ชายมาเปิดประตูให้“โอเค ถ้างั้นพี่จะไปรอเราที่ห้องผู้บริหารนะ” ชายหนุ่มพยักหน้าให้น้องสาวเดินนำหน้าไปขึ้นลิฟต์“ค่ะ” เธอยิ้มให้พี่ชายขณะเดินเข้าลิฟต์ไป และรู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อลิฟต์เคลื่อนตัวมาถึงชั้นล็อบบี้“ถ้ารายงานตัวเสร็จแล้วก็ขึ้นไปหาพี่นะ” หนึ่งนทีเอ่ยกับน้องสาว โดยกดลิฟต์ให้เปิดค้างไว้ เพื่อให้อีกฝ่ายก้าวออกไป“ได้ค่ะ” เธอพยักหน้าให้พี่ชายอีกครั้ง แล้วก้าวเท้าออกไป หญิงสาวแอบใจสั่นเล็กน้อย เมื่อลิฟต์เคลื่อนตัวขึ้นไปแล้ว แต่ก็พยายามที่จะควบคุมมันเอาไว้ พร้อมกับเดินตรงไปยังส่วนในของล็อบบี้“สวัสดีค่ะ”ธารทีราเอ่ยทักทายเจ้าหน้าที่ที่หน้าเ
บทที่ 97สองอาทิตย์แล้วที่นักรบกลับมาอยู่บ้าน และวันนี้เป็นวันแรกที่ธารทีราต้องไปยังบริษัทอีกแห่ง ซึ่งพ่อของเธอและพ่อของเขตแดนหุ้นกันเปิดขึ้นมาตั้งแต่เธอยังเล็ก ๆ“มาหาใครคะ” พนักงานต้อนรับเอ่ยถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“คุณเขตแดนค่ะ” ธารทีราบอกพนักงาน“เอ่อ คุณได้นัดไว้ไหมคะ แล้วคุณ…”ธารทีราไม่รอให้พนักงานถามจนจบ เธอก็บอกไปว่า“ฉันชื่อธารทีราค่ะ เป็นน้องสาวของคุณหนึ่งนที” เธอบอกออกไปก่อนจะส่งบัตรวีไอพีของที่นี่ให้อีกฝ่ายดู“อ๋อค่ะ สวัสดีค่ะ” พนักงานฟังแล้วก็รีบเอ่ยทักทายอย่างรวดเร็วจากนั้นพนักงานก็เชิญเธอไปที่ลิฟต์“ชะ...เชิญทางนี้เลยค่ะ”เมื่อขึ้นลิฟต์มาถึงหน้าห้องทำงานของเขตแดน พนักงานก็ขอตัวทันที ทำให้หญิงสาวเคาะประตูขออนุญาต“เชิญ”เมื่อได้รับอนุญาตจากคนด้านใน ธารทีราก็เปิดประตูเข้าไปทันทีด้านเขตแดนที่นั่งทำงานอยู่เงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อย พอเห็นว่าใครเปิดประตูเข้ามาก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปหา“น้ำมาได้ยังไงครับ”“ทำอะไรอยู่คะ น้ำมากวนหรือเปล่า” หญิงสาวเอ่ยถาม ก่อนจะยอมให้อีกฝ่ายคว้าร่างของเธอไปกอด“ไม่กวนครับ” เขตแดนเอ่ยอย่างนุ่มนวล พลางฉวยโอกาสหอมแก้มไปหนึ่งที“พี่ดิน” เธอตีที่ท่อนแขนแข็
บทที่ 96“ป้านมคือคนที่คอยเลี้ยงเราสองคนไง” ธารทีราหันไปอธิบายให้พี่ชายฟังด้วยรอยยิ้ม“ขอโทษด้วยครับ ผม…” นักรบเอ่ยด้วยเสียงที่ขาดห้วงไป ด้วยรู้สึกผิดที่ตนเองจำคนใกล้ตัวในอดีตไม่ได้เลย ป้านมเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีอึดอัดใจจึงเอ่ยแทรกขึ้นว่า“ไม่เป็นไรนะคะ ป้าดีใจที่สุดเลยค่ะที่คุณรบกลับมา”“นี่เป็นเอกสารใหม่ของรบนะ คุณลุงทำไว้ให้จ้ะ” คุณหญิงโสภายื่นซองเอกสารไปให้หลานชายนักรบหยิบเอกสารขึ้นมาเปิดดู ซึ่งมันคือเอกสารการเปลี่ยนชื่อและเอกสารกรรมสิทธิ์ต่าง ๆ ของเขา ทั้งเรื่องบ้านและตัวธุรกิจที่เคยเป็นส่วนแบ่งของหมอคาร์ล“ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นกรรมสิทธิ์ของรบนะ”“แล้วน้ำล่ะครับ บ้านหลังนี้ก็ของพ่อแม่นี่ ทำไมถึง…” นักรบถามไม่ทันจบคำ ธารทีราก็พูดขึ้นว่า“คุณแม่จะยกบ้านหลังโน้นของคุณแม่ให้น้ำค่ะ ส่วนของพี่ซีลคุณแม่จะยกบ้านตากอากาศอีกหลังหนึ่งให้แทน”นักรบมองตามมือน้องสาวที่ชี้ให้เขาดูบ้านที่มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับบ้านหลังนี้ ซึ่งอยู่ข้าง ๆ กัน โดยแค่มีรั้วต้นไม้กั้นไว้เท่านั้น“รบคงไม่ว่าป้านะ ถ้าในช่วงนี้ป้าจะให้น้ำไปอยู่กับป้า”"ผมเข้าใจครับ มีน้ำไปอยู่กับคุณป้าก็ดีแล้วล่ะครับ““ขอบใจมากจ้ะ ตอนนี้ซีลไปพักท
บทที่ 95พอมาถึงเจดีย์สีขาวสะอาดที่โดยรอบมีการทำความสะอาดและมีดอกไม้พร้อมกระถางธูปจัดวางอย่างเรียบร้อย ชายหนุ่มก็หันมาหาน้องสาว“น้ำมาที่นี่บ่อยใช่ไหม”“คุณพ่อ...เอ่อ...ลุงจอห์นให้คนจัดการให้ตลอดค่ะ มันก็เลยดูดีแล้วก็สะอาดแบบนี้” หญิงสาวเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ เพราะทุกวันนี้เธอก็ยังคงเสียใจอยู่ จนพี่ชายต้องยกมือขึ้นไปจับที่บ่าบางแล้วบีบเบา ๆ“น้ำ ไม่เป็นไรนะ”“ค่ะ น้ำก็แค่คิดถึงอดีตที่ดี ๆ น่ะค่ะ คุณพ่อดีกับน้ำมาก ทั้งที่น้ำเป็นแค่หลานเท่านั้นเอง” เธอหันไปบอกพี่ชาย ก่อนจะยกมือขึ้นสัมผัสที่รูปของพ่อแม่ที่กำลังอุ้มพี่ชายของเธอตอนเล็ก ๆ อยู่ด้วย“เอาไว้น้ำจะให้คนมาเปลี่ยนรูปให้ใหม่นะคะ คุณพ่อคุณแม่”ธารทีราเอ่ยกับพ่อแม่ ทำเหมือนกับว่าท่านทั้งสองได้ยินสิ่งที่พูดไป จากนั้นก็หันมายิ้มให้พี่ชายสลับกับการมองเจดีย์ตรงหน้า“พ่อคะ แม่คะ น้ำพาพี่รบมาหาค่ะ”“พ่อครับ แม่ครับ ผมมาหาแล้วนะครับ” นักรบยกมือไหว้พ่อแม่ แม้หมอจะบอกว่าเขาคงไม่อาจจดจำอะไรได้แล้ว แต่เขาก็รู้ว่าพ่อกับแม่จะต้องรักเขามากอย่างแน่นอน จึงรู้สึกดีใจระคนเศร้าที่ได้มาหาพวกท่านจากนั้นสองพี่น้องต่างก็จมอยู่ในห้วงคิดส่วนตัว แต่แววตาของค
บทที่ 94หนึ่งอาทิตย์ต่อมา...เมื่อรถจอดตรงลานจอด เขตแดนก็ลงจากรถเดินอ้อมไปฝั่งข้างคนขับเพื่อเปิดประตูให้ธารทีรา“นี่ถ้าคุณแม่ไม่บอกให้มา น้ำก็ไม่อยากมาหรอกนะคะ”“พี่เข้าใจ ยังไงเขาก็ตายแล้ว น้ำก็อโหสิกรรมให้เขาเถอะ”“ก็เพราะว่าอโหสิกรรมให้ไงคะน้ำถึงมา” ธารทีราย่นหน้าใส่เขตแดน เอาจริงๆ ถึงจะโกรธและแค้นดาเนียลมากแค่ไหนพ่อแม่เธอก็คงไม่ฟื้นขึ้นมาอยู่ดี“งั้นเข้าไปกันเถอะ” เขตแดนบอก พร้อมจับมือหญิงสาวมากุม แล้วพาเดินเข้าไปในวัดช่วงเวลาที่เดินเข้าไปในวัดนั้น ธารทีราก็ถามเพราะสงสัยมากที่ดาเนียลซึ่งเป็นลูกครึ่งนั้นนับถือศาสนาพุทธ“ตอนแรกนึกว่าเขาจะจัดงานศพแบบคริสต์นะคะเนี่ย”“เห็นว่าเขานับถือศาสนาตามภรรยาน่ะ”“อ้อ...” ธารทีราตอบรับ ก่อนจะถามถึงเรื่องอื่น “พี่ดิน พี่รู้ไหมว่าพี่ซีลไปไหน ตั้งแต่เสร็จงานศพคุณพ่อก็ไม่ยอมกลับบ้านเลยค่ะ โทรไปหาก็บอกแต่ว่าขอไปพักผ่อนเงียบ ๆ สักพัก พอถามก็ไม่ยอมบอกว่าอยู่ที่ไหน”“ไม่รู้สิ พี่ก็ไม่เห็นมันไปที่ผับนานแล้วนะ ปกติมันจะเข้าผับทุกคืน นี่มันยังทิ้งงานที่บริษัทให้พี่ทำเลย บอกแค่ว่าอยากไปทำใจสักพัก”“ความจริงงานศพของดาเนียลคุณแม่จะให้พี่ซีลมานะ แต่พี่ซีลเล่น
บทที่ 93นักรบเองก็อึ้งไปเช่นกัน แต่แล้วชายหนุ่มก็ดึงสติกลับมาเมื่อมีมือของนาเดียร์ยื่นมาจับมืออีกข้างของเขาไว้ โดยที่มีอีกข้างตอนนี้มีธารทีราจับไว้เช่นกัน“แล้วแม่ล่ะ” นักรบถามเสียงเรียบ ทั้งที่ในใจกำลังห่วงใยมาดามอันนาอย่างที่สุด“คุณแม่ความดันกำเริบหมดสติ ตอนนี้นอนพักอยู่ที่ห้องพักฟื้นค่ะ” หญิงสาวร้องไห้ออกมาอีก ตอนนี้เธอเอาแต่ก้มหน้า เพราะไม่กล้าจะสู้หน้าใคร ทั้งที่เมื่อก่อนเป็นผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเองมาตลอด“แม่...” นักรบเอ่ยเสียงสั่น ครั้งนี้เขายอมปล่อยมือน้องสาวแท้ ๆ เพื่ออ้าแขนโอบกอดน้องสาวอีกคนไว้ ถึงจะไม่ใช่น้องแท้ ๆ แต่เขาก็รักเธอเหมือนน้องสาว“ไม่ต้องร้องไห้นะ เงียบซะ” นักรบกอดนาเดียร์ไว้แน่น และพูดปลอบขวัญอย่างอ่อนโยน“พี่ไทด์อยู่เป็นเพื่อนเดียก่อนได้ไหม เดียไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี ป๋ายังนอนอยู่ในนั้น คุณแม่ก็…” นาเดียร์ไม่ทันได้พูดจบประโยค เสียงทุ้มต่ำที่เธอไม่อยากได้ยินก็ดังขึ้น“ไอ้รบ ถ้ามึงช่วยเป็นธุระจัดงานศพให้ไอ้ฆาตกรที่มันฆ่าพ่อแม่มึงและฆ่าพ่อกู กูจะขอเป็นศัตรูกับมึงตลอดไป” หนึ่งนทีปล่อยแม่ให้ยืนอยู่กับธารทีรา แล้วเดินเข้าไปยืนใกล้นักรบที่กำลังยืนกอดนาเดียร์อยู่“ซี
บทที่ 92ณ โรงพยาบาลคุณหญิงโสภรีบเดินทางมายังโรงพยาบาลทันทีหลังทราบว่าสามีของตนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ“ซีล น้ำ พ่อเป็นยังไงบ้าง” เสียงสั่นเครือของคุณหญิงดังมาก่อนตัว โดยตอนนี้ที่หน้าห้องฉุกเฉินมีทั้งธารทีรา นักรบ หนึ่งนที รวมถึงเขตแดนยืนออกันอยู่“หมอยังไม่ออกมาบอกเลยค่ะ”“เกิดอะไรขึ้น ใครยิงพ่อ” คุณหญิงโสภามองลูกสาวและลูกชายที่ยังยืนหันหลังให้ เพราะหนึ่งนทีเอาแต่ยืนมองประตูห้องฉุกเฉินอย่างไม่ยอมละสายตาคำถามของแม่ ทำให้หญิงสาวหันไปมองนักรบ เมื่อพี่ชายพยักหน้าจึงเล่าให้แม่ฟัง“น้ำไม่แน่ใจค่ะว่าใครยิงคุณพ่อ เหตุการณืตอนนั้นวุ่นวายไปหมด แต่ที่แน่ ๆ ดาเนียลสั่งลูกน้องให้ยิงพวกเราค่ะ”“ไอ้ดาเนียล มึงทำร้ายพ่อกู ถ้าพ่อกูเป็นอะไรขึ้นมา กูจะฆ่าล้างโคตรมึง” หนึ่งนทีมองนักรบด้วยแววตาไม่พอใจ แม้เขาจะไม่โทษอีกฝ่ายออกมาตรง ๆ แต่ลึก ๆ ธารทีรารู้ดีว่าหนึ่งนทีคงไม่พอใจนักรบอย่างมากที่เอาตัวเข้าไปเสี่ยง จนทำให้พ่อของเขาต้องตามไปช่วย“คุณหมอ คุณลุงเป็นยังไงบ้างครับ” เขตแดนเอ่ยถามเมื่อเห็นว่ามีหมอคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินด้านคุณหมอมีสีหน้าเคร่งเครียด เขามองหน้าทุกคน โดยเฉพาะคุณหญิงโสภา ก่อนจะพูดอ
บทที่ 91“พี่รบ” ธารทีรากรีดร้อง ขณะถูกผลักให้พ้นจากวิถีกระสุน“ไม่เป็นไรนะน้ำ” นักรบถามพร้อมกับเข้าไปกอดน้องสาวไว้ แล้วยิงสวนกลับไปแต่ก็พลาดเป้าเนื่องจากฝ่ายตรงข้ามหลบเข้าที่กำบังได้ทันเวลา“ไทด์ ไม่ต้องห่วงแม่ พาน้องไทด์หนีไป” มาดามอันนาตะโกนบอกลูกชายดาเนียลจึงหันไปยิงปืนขู่ภรรยาทันที ทำให้ทั้งอันนาและนาเดียร์ต่างก็กรีดร้อง และกระโจนเข้ากอดกันด้วยความกลัว“กูบอกให้เงียบ!” ดาเนียลสั่งพร้อมชี้ปืนใส่ภรรยากับลูกสาว“พอได้แล้วดาเนียล” คุณจอห์นที่เข้ามาใกล้ตัวดาเนียลมากขึ้นพยายามห้าม แต่ตอนนี้ดาเนียลได้คลั่งไปแล้ว ทั้งยังสั่งให้ลูกน้องกราดยิงไปทั่ว“กูไม่หยุด วันนี้พวกมึงกับกูต้องตายกันไปข้าง ยิงพวกมันให้ตายไปให้หมด!”หลังจากที่คาเนีลออกคำสั่งก็เกิดการชุลมุนกันเกิดขึ้น กระสุนจำนวนมากสาดไปทั่วทุกทิศ ทว่านัดหนึ่งกลับพุ่งเข้าใส่คุณจอห์นที่หลบไม่ทัน“โอ๊ย!” คุณจอห์นใช้มือกุมหน้าอกที่เลือดค่อยๆ ไหลออกมา ทำให้เขาทรุดลงไปนอนนิ่งบนพื้น“คุณพ่อ!” ธารทีราที่อยู่ใกล้ที่สุดรีบวิ่งเข้าไปหาพ่อที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นด้วยความตกใจด้านนักรบทนเห็นดาเนียลทำร้ายใครต่อไปไม่ได้อีกแล้ว จึงตัดสินใจยิงไปที่อีกฝ
บทที่ 90หลังวางสายจากดาเนียลเมื่อวาน ในที่สุดนักรบก็ออกจากโรงพยาบาล ทั้งที่ยังบาดเจ็บและหมอก็ห้ามแต่เขาไม่ฟัง และในตอนนี้ทั้งธารทีรากับนักรบก็เดินทางมาถึงโกดังร้างที่นัดหมายไว้กับดาเนียลเรียบร้อยแล้ว โดยมีน้องสาวเป็นคนขับรถมาให้“ผมมาแล้ว” นักรบลงจากรถ แล้วเดินอ้อมไปยืนข้างน้องสาว พร้อมพูดเสียงเรียบใส่มือถือที่กำลังสนทนาอยู่กับดาเนียล“เข้ามา” ดาเนียลพอใจที่เห็นสองพี่น้องมากันแค่สองคนผ่านกล้องวงจรปิด เขาละสายตาจากกล้องที่ดูอยู่หันไปหัวเราะใส่ภรรยา“ฮ่า ๆ มันรักเธอจริง ๆ นะอันนา”“คุณมันเลว” มาดามอันนาโกรธจัด จึงต่อว่าสามีที่เอาเธอกับลูกสาวมาเป็นเหยื่อล่อดาเนียลหัวเราะเสียงดัง เขาไม่สนใจความรู้สึกของภรรยาและลูกสาว เพราะตอนนี้เขามีความสุขมากที่กำลังจะได้ทวงแค้นคืนจากครอบครัวนั้น และช่วงที่เขากำลังมีความสุขกับเสียงหัวเราะ ดาเนียลก็ต้องหุบยิ้ม เมื่อสองพี่น้องก้าวเข้ามา“หวัดดี ไอ้ลูกรัก หนูธารทีรา” ดาเนียลทักทายทั้งสองคนด้วยท่าทางสบาย ๆ“พี่รบ” ธารทีรารีบขยับไปยืนข้างหลังของพี่ชาย เพราะรู้สึกกลัวสายตาของคนตรงหน้าที่มองมา“น้ำไม่ต้องกลัว” นักรบกระซิบบอกน้องสาว พลางใช้ร่างของตนบังอีกฝ่ายเ
บทที่ 89เมื่อได้ยินเสียงปืนและเสียงร้องของแม่กับน้องนักรบก็ยิ่งร้อนรน เขาพยายามจะลงจากเตียง ทำให้น้องสาวที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ต้องถลันเข้าไปหา“พี่รบ อย่าค่ะ” ธารทีราพยายามห้ามพี่ชาย แต่ก็พอจะเดาได้ว่าคงจะเกิดเรื่องไม่ดีบางอย่างขึ้นกับมาดามอันนาและนาเดียร์แน่นอน พี่ชายของเธอถึงได้ร้อนรนปานนี้“ว่ายังไง”เสียงถามจากคนในสาย ทำให้นักรบหลือบตามองธารทีราครู่หนึ่ง ก่อนจะถามกลับไปว่า“ที่ไหน”“โกดังร้างนอกเมืองที่มึงก็น่าจะรู้จักดี”เมื่อได้บอกที่นัดหมายแล้ว ดาเนียลก็วางสายไปทันทีด้านนักรบเมื่อได้คำตอบแล้ว ชายหนุ่มก็ทรุดนั่งบนขอบเตียง มือใหญ่กำมือถือไว้แน่นจนเส้นเอ็นปูด“พี่รบเกิดอะไรขึ้นคะ” หญิงสาวเอ่ยถาม พร้อมทั้งเอามือถือจากมือพี่มาเก็บไว้ “คลายมือออกก่อนนะคะ เลือดย้อนขึ้นไปในสายน้ำเกลือหมดแล้ว”“น้ำ…” นักรบยังไม่ทันได้บอกน้องสาว ทั้งสองก็ต้องหันไปมองที่ประตูที่มีคนเปิดเข้ามา“มีอะไรกัน” คุณจอห์นเอ่ยถามขึ้น เพราะเมื่อครู่เหมือนจะทันได้ยินเสียงร้อนรนของลูกสาว ในขณะที่คุณหญิงโสภา หนึ่งนที รวมถึงเขตแดนที่ตามเข้ามาด้วยก็มองมาอย่างห่วงใยเช่นกัน“คุณพ่อ คุณแม่” หญิงสาวเรียกท่านทั้งสอง แต่ยังไม่กล