Home / รักโบราณ / สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ / 1.3 นิสัยนางไหนเลยจะเป็นคนอ่อนแอ

Share

1.3 นิสัยนางไหนเลยจะเป็นคนอ่อนแอ

last update Last Updated: 2025-05-29 05:15:20

"..." เจียงเยี่ยนฟางที่ใบหน้านองไปด้วยน้ำตาจนผ้าปิดหน้าเปียกลู่แนบไปกับหน้าก็ได้แต่เงยหน้าขึ้นตามแรงดึง ต้องสบตาเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ในแววตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวที่มิอาจเอื้อนเอ่ยความน้อยใจออกมา

"อย่าทำให้ข้าต้องเดือดร้อน จงอยู่อย่างไร้ตัวตนไปเถิด เส้นทางนี้เป็นเจ้าเลือกเอง ก็ต้องยอมรับชะตากรรมของเจ้าไป และเจ้าคงรู้อยู่แล้วว่าในใจของข้ามีแค่เสี่ยวชิงเพียงผู้เดียว ที่ตบแต่งเจ้าเข้ามาก็เพียงเพราะพระราชทานสมรสจากฮ่องเต้เท่านั้น อย่าหวังว่าข้าจะชายตามองเจ้า รักเจ้า เห็นเจ้าเป็นพระชายาในจวนของข้าอีกคน!"

น้ำเสียงของเซียวลี่หยางนุ่มนวลน่าฟัง ดุจดั่งกำลังขับขานบทกวี แต่ก็กลับเด็ดขาดไปในตัว

ครั้นกล่าวจบเขาผลักหน้านางออกไปเหมือนสัมผัสโดนของสกปรก ซ้ำยังจับมือของนางออกจากหัวเข่าของตนเองอย่างแรง จนร่างที่เกาะเขาไว้เสมือนเป็นที่พักพิงก็ไม่ทันตั้งตัว เซล้มลงไปด้านข้างอย่างไม่เป็นท่า "ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เจ้าก็ย้ายไปอยู่ที่เรือนหลังเถิด ทำให้เหมือนว่าเจ้าไม่เคยมีตัวตนมาก่อน ข้าอาจจะพอมีเมตตา ไว้ชีวิตน้อย ๆ ของเจ้าให้ยังมีลมหายใจอยู่ได้"

"ท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันผิดไปแล้ว" เจียงเยี่ยนฟางสะอื้น พูดแทบไม่จบประโยค พยายามจะเข้าหาอีกฝ่าย แต่เขาก็ถอยรถเข็นหนีไป ทำให้นางได้แต่ก้มตัวลงเอาหัวโขกอยู่กับพื้นเพื่อจะอ้อนวอนขอร้องเขา วิงวอนให้เขาเห็นใจนาง "ท่านอ๋องได้โปรด ทรงเมตตา..."

เซียวลู่หยางขมวดคิ้ว พลางปรายตามองสตรีที่ตัวสั่นไม่หยุด ก่อนจะตะโกนเรียกหาคนด้านนอก ตัดคำอ้อนวอนของนางทิ้งไป "มีใครอยู่ข้างนอกบ้าง!"

สิ้นคำของเขา ก็ราวกับว่าคนด้านนอกรอจังหวะอยู่แล้ว บ่าวคนเดิมวิ่งจ้ำอ้าวเข้ามาในทันที

"ท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันผิดไปแล้ว ท่านอ๋องได้โปรดอภัยในความสะเพร่าของหม่อมฉัน ให้... ให้หม่อมฉันไปเอาสุรามงคลใหม่มาให้ดีไหมเพคะ" เจียงเยี่ยนฟางเห็นคนเข้ามาก็ยิ่งร้อนรน พยายามกล่าวคำพูดที่คิดไว้ในหัวตั้งแต่แรกอีกครั้ง นางเงยหน้าหันซ้ายทีหันขวาทีอย่างลนลาน

"ไม่ต้อง" เซียวลู่หยางเอ่ยกับนางด้วยเสียงเย็น ก่อนจะพยักหน้าให้กับหงเปา คนสนิทของตนที่เพิ่งเดินมาถึง ให้มาพาตัวเขาออกไป "อย่าลืมสั่งให้คนเข้ามาทำความสะอาดด้วย"

"พ่ะย่ะค่ะ" หงเปารับคำ เตรียมพาเจ้านายจากไป

"เตรียมเรือนไม้ด้านหลังให้นางอยู่ พิธีแค่นี้ก็ทำให้เสร็จสิ้นไม่ได้!" ยังมิลืมทิ้งท้ายคำพูดเพื่อให้คนด้านหลังตระหนักถึงความผิดของตนเองอีกครา

"พ่ะย่ะค่ะ" หงเปารับคำอีกรอบ พลางดึงสายตาที่มองร่างของเจ้าสาวบนพื้นกลับมาสนใจเส้นทางด้านหน้าแทน

"ท่านอ๋อง ท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ ท่านอ๋องโปรดอภัยด้วย ท่านอ๋อง..." เจียงเยี่ยนฟางคลานตามไปอย่างทุลักทุเล เพราะอาภรณ์อันรุ่มร่ามและเครื่องหัวที่ไม่จำเป็นเลยทำให้เคลื่อนไหวลำบาก โดยไม่ทันระวัง มือก็ไปทาบโดนสุราที่เจิ่งนองอยู่บนพื้นเข้าพอดี ทำให้ลื่นล้มตัวเซไปด้านหน้า นำพาให้สุราบนพื้นเปรอะเปื้อนไปบนชุดจนตกอยู่ในสภาพที่ดูไม่ได้ กระนั้นก็ยังร้องเรียกอีกฝ่ายไม่หยุดหย่อน

จวบจนประตูห้องหอปิดลง...

เสียงพ่นลมหายใจดัง 'เฮอะ' ก็เล็ดลอดออกมาจากผู้ที่เมื่อครู่เพิ่งจะร่ำไห้ไปหนึ่งที พร้อมกับร่างของเจ้าสาวที่ลุกขึ้นมานั่ง ปัดฝุ่นและคราบน้ำบางส่วนออกจากอาภรณ์ด้วยใบหน้าเรียบเฉย

ในหัวยังก้องสะท้อนถึงเสียงของตนเองที่เรียกอีกฝ่ายไปหลายตลบพาให้รู้สึกแสลงหูขึ้นมา หากแต่ดวงตาที่เจือไปด้วยหยาดน้ำตาจอมปลอม กลับยังคงจ้องมองไปยังประตูห้องหอที่แต่งแต้มผ้าแดงอย่างไร้อารมณ์

...แต่แล้วคิ้วก็ขมวดมุ่นด้วยความสงสัย

"หรือทำเช่นนี้ไม่ถูกกันนะ..." เมื่อครู่นางยังดีใจที่ไม่ต้องเข้าห้องหอกับเขา ทว่าต่อมาก็เพิ่งจะนึกถึงจุดประสงค์ของตนเองขึ้นมาได้ เหตุการณ์ในตอนนี้จึงไม่สอดคล้องกันเท่าไรนัก

ในห้วงความคิด เสียงแสบหูที่นึกรังเกียจก็วนเวียนอยู่ภายในหัวของนาง เป็นเสียงของสตรีที่จงเกลียดจงชังเจียงเยี่ยนฟางหนักหนา

'พี่หญิง ท่านจงนึกสำนึกบุญคุณของข้าที่ทำให้ท่านได้มีตำแหน่งพระชายาติดตัวเถิด หากมิใช่ข้าสงสารที่ท่านออกไปเร่ร่อนตัวคนเดียวมาช้านาน มีหรือข้าจะยอมเสียสละตำแหน่งพระชายาให้ท่าน'

ก่อนจะตามมาด้วยอีกคนที่ก็คงรังเกียจนางไม่แพ้กัน

'เจียงเยี่ยนฟาง เจ้ารู้ใช่รึไม่ว่าทำไมตัวเจ้าต้องตบแต่งเข้าตำหนักของชินอ๋อง หลายปีมานี้ มารดาของเจ้าก็เป็นข้าที่ดูแลให้เรื่อยมา ตอนนี้... ถึงเวลาตอบแทนบุญคุณแล้วไม่ใช่หรือไร'

สิ้นเสียงของสตรีทั้งสองนาง น้ำเสียงของบุรุษอีกคนหนึ่งก็ผุดแทรกขึ้นมา

'วางตัวให้ดี อย่าให้ตระกูลต้องขายหน้า!'

คนสุดท้ายนี้ แม้แต่นามของนาง เขาก็ไม่อยากแม้แต่จะเรียกออกมา

เจียงเยี่ยนฟางใช้มือข้างที่ไม่เปื้อนสุรายกขึ้นมาปาดน้ำตาปลอม ๆ ที่เกือบจะแห้งเหือดไปแล้วออกจากใต้ตา ในแววตายามนี้ไร้ซึ่งความรู้สึกใด ๆ ครั้นเมื่อเห็นว่าบ่าวรับใช้กำลังจะเข้ามาทำความสะอาดห้องให้ นางก็รีบลุกขึ้นยืน หมุนตัวกลับเข้าไปที่ห้องด้านใน

༻❁༺

อีกฝั่งที่นอกห้องหอ

"ท่านอ๋อง ทำเช่นนี้หากเรื่องถึงหูของฮ่องเต้จะไม่เป็นอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ" หงเปาเอ่ยถามเสียงเบา

เซียวลี่หยางไม่ได้ตอบคำถามแรกในทันที "ไหนลองบอกเรื่องเกี่ยวกับนางที่เจ้ารู้มาที"

"พ่ะย่ะค่ะ เจียงเยี่ยนฟางถูกตระกูลเดิมฝั่งมารดารับไปเลี้ยงตั้งแต่เยาว์วัย เนื่องจากในช่วงวัยเด็กนางป่วยหนักจนมีนักพรตมาทำนายว่าหากอยู่ในตระกูลเจียงต่อไป จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่พ้นปีนั้น จำต้องส่งนางไปที่อื่น สุดท้ายก็เลือกส่งนางไปบ้านเดิมของฟู่ฮูหยิน ให้ช่วยดูแลนางแทน"

"แล้วเจ้าว่ามันไม่น่าแปลกไปหน่อยหรือ ที่พอนางเติบโตมาอย่างแข็งแรงแต่กลับไม่ถูกรับกลับมาเสียที กระทั่งฮ่องเต้โยนงานมงคลของข้าไปให้ตระกูลเจียงแบกรับไว้ นางถึงได้ถูกเรียกตัวขึ้นมาเมืองหลวง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ต่างก็ไม่เคยมีใครรับรู้การมีอยู่ของนางมาก่อน"

"...ตอนที่ฮ่องเต้ทรงประกาศให้ทั่วแคว้นรู้เรื่องนี้ ชาวบ้านต่างก็คิดว่าจะต้องเป็นคุณหนูเจียง" ที่หงเปาหมายถึงก็คือเจียงเจียวเหม่ย ผู้ที่ทุกคนคิดว่าเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของขุนนางเจียงมาหลายปี

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 17.4 นางไหนจะเกรงกลัวผู้ใด

    ยามนี้ผ่านไปนานเกือบสิบเอ็ดปี จดหมายฉบับแรกนอกเหนือจากเงินที่เขาส่งมาให้ ก็คือเรียกข้ากลับไปแต่งงาน แต่ข้าไม่อยากแต่ง ข้ามีคนที่ข้ารัก...คนผู้นั้นเป็นเหมือนดั่งพี่ชายของข้า เป็นเหมือนดั่งสหายของข้า พวกเราเจอกันตั้งแต่ข้าอยู่ที่เมืองหลวง จนข้าจากไปไกลจึงทำได้เพียงเขียนจดหมายกลับไปหาเขา นับแต่นั้นมา ก็มีเขาที่ยังคอยห่วงหาข้าตลอด เราให้สัญญากัน ข้าเองก็รับปากแล้วว่าจะเป็นภรรยาของเขา" เวลามีเรื่องคิดไม่ตก เจียงเยี่ยนฟางมักจะติดนิสัยเดิม โดยชอบหยิบผ้าผูกผมที่ป้าซูทำให้มาจับเล่นอย่างเผลอตัว ในตอนนี้เองก็เช่นกันเสวี่ยหว่านมองตามมือของนางไปก็พบว่าสิ่งที่นางจับอยู่คือผ้าผูกผมรูปดอกไม้ที่มีปักลายเฉพาะ ผ้าผูกผมชิ้นนั้นดูไม่เข้ากับชุดที่เจียงเยี่ยนฟางขอสลับของนางไปใส่แม้แต่น้อย จังหวะต่อมาจึงเงยหน้าสบตาอีกฝ่ายแล้วถาม "...แล้วคนผู้นั้นตอนนี้เขารู้หรือไม่ว่าท่านกำลังจะไปแต่งงาน"เสวี่ยหว่านเป็นหมอยาพิษ การทำงานในจุดนี้ของนางย่อมพบเจอคนตายมาไม่น้อย จิตใจนับว่าด้านชาจนแทบไร้ความรู้สึก ยิ่งไม่สนใจเรื่องความรัก ยิ่งเมื่อได้ฟังก็เกิดสับสน บุรุษผู้นั้นดูแล้วน่าจะไม่ใช่คนธรรมดาที่สามารถเข้าออกจวนขุนนางจ

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 17.3 เรื่องราวของจุดเริ่มต้น

    เรื่องนี้เป็นความลับของนาง แต่ก็ไม่คิดจะปิดบังคนที่ช่วยชีวิตตนเองไว้ อีกทั้งนางก็ทะนงตนว่า สตรีตัวเล็กเช่นคนตรงหน้าไม่มีทางทำอะไรตนเองได้ หรือต่อให้อีกฝ่ายเอาเรื่องนางไปป่าวประกาศบอกผู้อื่นจนนางเดือดร้อน นางก็คิดว่านางสามารถแบกรับไหว"!!!" สองคนในรถม้าต่างตกใจ คนที่จะทำงานด้านนี้ได้มือต้องแปดเปื้อนมาไม่น้อย แต่สตรีตรงหน้าถึงจะไม่ค่อยยิ้ม ใบหน้าเรียบนิ่ง แต่น้ำเสียงกลับน่าฟัง ท่าทางไม่ถึงขั้นอ่อนหวานเหมือนสตรีที่ได้รับการอบรม แต่ท่าทางก็ดูนุ่มนวลไม่หยาบกระด้าง การพูดการจาก็ดูมีมารยาทไม่ทำตัวโผงผาง หากบอกว่าเป็นบุตรสาวตระกูลร่ำรวยพวกนางก็เชื่อ ไหนเลยจะถูกอีกฝ่ายใช้รูปลักษณ์ภายนอกมาตบตาเข้าให้แล้ว"คุณหนูทั้งสองไม่ต้องตกใจไป ผู้ที่มีบุญคุณ เสวี่ยหว่านผู้นี้ ย่อมไม่คิดร้ายด้วย อีกทั้งก็เป็นเพียงผู้ทำยาพิษและยาแก้พิษ ไม่ใช่ผู้ใช้พิษเสียหน่อย" เรื่องหลังนั้น... แน่นอนว่า ย่อมโกหกไปเจ็ดส่วน!อีกสองสามวันต่อมา เสวี่ยหว่านผู้นี้ก็ไม่ยอมจากไปเสียที จนซูเจียวเริ่มทนไม่ไหว ในตอนที่อยู่บนรถม้าก่อนจะลงไปเช่าโรงเตี๊ยมในหมู่บ้านกวนพักผ่อน นางก็เอ่ยปากถามด้วยตนเอง"พี่เสวี่ยหว่าน ท่านคิดจะไปที่ใดกันแน

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 17.2 บุญคุณครั้งเดียว จดจำจนตาย

    "เป็นคน เมื่อครู่ ข้ามั่นใจ!" เจียงเยี่ยนฟางตะโกนบอกไประหว่างทาง ดวงตาจ้องมองมือที่โผล่ขึ้นเหนือน้ำเพียงสองครั้งแล้วจมหายไป แต่ใต้ผืนน้ำที่ไหลแรงก็ยังพอมองเห็นเงาร่างสีม่วงเข้มได้เลือนราง"คน? คนอะไรไปอยู่... ไม่ ๆ ๆ คนที่ไหนจะโดนน้ำพัดขนาดนี้แล้วยังรอด คุณหนู อย่า ไม่!" ซูเจียวเพิ่งจะรู้สึกไปเมื่อครู่เองว่า สายน้ำเส้นนี้นั้นไหลแรงเกินไปจนน่ากลัวไม่อยากเข้าใกล้ และไม่อยากแม้แต่จะข้ามสะพานไม้นั้นอีกรอบอยู่เลย แต่คุณหนูของนางพูดแค่ 'เป็นคน' แล้วก็กระโจนลงน้ำไปได้อย่างไร!ซูเจียววิ่งตามไปหยุดอยู่ตรงจุดที่เจียงเยี่ยนฟางเพิ่งจะกระโดดลงไปเมื่อครู่ "คุณหนู คุณหนู!" นางตะโกนหาอีกฝ่ายพร้อมดวงตาก็กวาดมองไปทั่วผืนน้ำ หัวใจเต้นไม่หยุดด้วยความกลัว ถึงแม้นางจะบอกว่าตนไม่ค่อยชอบเจียงเยี่ยนฟางเพราะรู้สึกว่าตนอยู่ต่ำกว่าเสมอ แต่เมื่อถึงเวลาคับขันแห่งความเป็นความตาย นางกลับรู้สึกเป็นห่วงคนที่โตมาด้วยกันอย่างน่าประหลาดซูเจียวถอดรองเท้าและเสื้อตัวนอกออก หวังกระโดดลงน้ำไปดึงเจียงเยี่ยนฟางขึ้นมา ในระหว่างที่กำลังถอดเสื้อตัวนอกออกอยู่นั้น ก็ไม่หยุดสายตาสอดส่องมองหาคนไปทั่วผืนน้ำแต่ไม่ทันที่นางจะกระโดดลงไป

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 17.1 เรื่องราวเมื่อเดือนก่อน

    บทที่ 17วาสนาได้พานพบผู้มีบุญคุณเพียงชั่วครู่สารทฤดูเริ่มต้นไปได้ครึ่งทางแล้ว ใบไม้รอบด้านเริ่มเปลี่ยนสียามเมื่อออกเดินทางเวลานี้ ถือว่าเป็นผลพลอยได้ที่จะได้ชื่นชมธรรมชาติไปในตัวแต่คนบนรถม้าคันหนึ่งที่กำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงกลับดูเป็นกังวลไม่น้อย"คุณหนู ท่านจะแต่งเข้าจวนอ๋องจริงหรือเจ้าคะ" ซูเจียวนั่งอยู่บนพื้นของรถม้าก็เอ่ยถามสตรีอีกคนที่นั่งอยู่บนเบาะ ที่ผ่านมาตัวนางถูกเลี้ยงดูมากับสตรีตรงหน้า อยู่ด้วยกันในบ้านหลังเล็กที่เมืองลี่เจียง ดุจดั่งเป็นครอบครัวเดียวกันทว่าตั้งแต่เยาว์วัย มารดาของนางชอบบังคับให้นางเรียกอีกฝ่ายว่าคุณหนูอยู่ตลอด คราแรกนางไม่เข้าใจ และทุกครั้งที่ตีตัวเสมอเจียงเยี่ยนฟาง นางก็จะถูกมารดาดุด่าเป็นประจำ ตักเตือนให้นางนอบน้อมกับเจียงเยี่ยนฟางให้มากหน่อย นางก็ต้องทำโดยไม่สามารถอิดออดได้ ทั้งที่เจียงเยี่ยนฟางก็ถูกมารดาใช้งานหนักพอ ๆ กัน ไม่เคยปล่อยปละละเลยให้อีกฝ่ายทำเพียงแค่นอนและกินเหมือนคุณหนูจริง ๆ ต่างต้องทำงานทุกอย่างให้เป็นกระทั่งไม่กี่วันก่อนคุณหนูของนางได้รับจดหมายจากบิดาที่ทอดทิ้งตัวเองไปนาน เรียกตัวกลับเมืองหลวงเพื่อแต่งงานเข้าจวนชินอ๋อง!ชินอ๋อง

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 16.3 + บทที่ 16.4 มีผู้บุกรุก+ผู้เกรียงไกรก็มีวันล้มเป็น

    เจียงเยี่ยนฟางกลับมายังร้านน้ำชาอีกครั้งพร้อมถุงซาลาเปาในมือ คนที่รอนางอยู่ก็ได้ย้ายตัวเองไปบนรถม้าอยู่ก่อนแล้ว พอนางมาถึง บรรยากาศก็ผิดแผกไปอย่างเห็นได้ชัด เซียวลี่หยางไม่พูดไม่จาอันใดแม้ครึ่งคำแต่...ไม่พูดไม่จาก็แล้วไปเถิด นางอาจมาช้าทำให้เขารอนานจนเกิดไม่พอใจขึ้นมา เรื่องนั้นก็พอเข้าใจได้ ทว่าแววตารังเกียจที่เหมือนคราแรกพานพบกันในห้องหอนั้น กลับมาปรากฏบนสายตาเขาอีกครั้งนี่สิ นางถึงได้รู้สึกแปลกใจขึ้นมาคนผู้นี้เช้าเป็นอย่าง ดวงตะวันคล้อยบ่ายก็เป็นอีกอย่าง นางคาดเดาเขาไม่ได้เลยยามเมื่อเดินทางกลับมาถึงจวนแล้ว คนในรถม้าที่นั่งมากับนางนานสองนานก็ไม่รอให้นางออกไปก่อน เขารีบเรียกหงเปามาพาตัวเองเข็นรถลงไปทันทีที่รถม้าหยุดลง ประหนึ่งว่าไม่อยากใช้ลมหายใจในรถม้าร่วมกับนางนานกว่านี้ จึงทิ้งนางไว้เบื้องหลังไม่ใส่ใจ"เมื่อเช้ายังไปด้วยกันดี ๆ อยู่เลย ยามนี้ท่านอ๋องเหมือนจะกำลังไม่พอใจอยู่..." สาวใช้ที่อยู่ไม่ไกลก็พากันซุบซิบนินทา คิดว่าระยะขนาดนี้พระชายาเจียงน่าจะไม่ได้ยิน"แปลกอันใดกัน ที่ผ่านมาท่านอ๋องกับพระชายากู่ที่มักตัวติดกันตลอด แต่ท่านอ๋องก็นิ่งสงบปานท่อนไม้ขนาดนั้น ดูอย่างไรก็ไม่เหม

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 16.2 ช่างน่ารังเกียจเกินไปแล้ว!

    "เร็วหน่อยก็ดี แล้วเร็วที่สุดของเถ้าแก่ราวกี่วัน""สองชิ้นก็เจ็ดวัน ข้าจะหาช่างฝีมือสองคนทำก็แล้วกัน จะได้รอไม่นานเกินนี้""เงินในถุงพอค่ามัดจำหรือไม่" เจียงเยี่ยนฟางหันมองถุงเงินที่หายไปอยู่ในมือเถ้าแก่ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้"พอ ๆ ๆ ๆ แม่นาง...อยากเน้นส่วนไหนเป็นพิเศษ แจ้งมาได้เลย" เถ้าแก่พอได้จับถุงเงินแล้วก็อารมณ์ดีขึ้นอีกห้าส่วน ดวงตาสะท้อนไปด้วยเงินทองอยู่ภายใน"เถ้าแก่จัดการได้เลย อีกเจ็ดวันข้าจะมารับ" เจียงเยี่ยนฟางกล่าวเสร็จก็เตรียมจากไป"แม่นางเดินทางปลอดภัย" เถ้าแก่ร้านมีท่าทีกระตือรือร้นกว่าตอนแรกที่เจียงเยี่ยนฟางเข้ามามากนัก ถึงขั้นเดินออกมาส่งด้วยตัวเองเจียงเยี่ยนฟางพอออกมาจากร้านเครื่องประดับแล้วก็ยังคงแวะไปอีกหลายแห่งเพื่อสั่งของที่นางอยากได้ กระทั่งมาหยุดยืนอยู่หน้าร้านขายเครื่องประดับแผงลอยข้างทางร้านหนึ่ง เป็นร้านเล็ก ๆ ที่เน้นไปทางเชือกผูกผมกับปิ่นที่ทำมาจากไม้ หากแต่สิ่งที่สะดุดตานางมากที่สุดไม่ใช่ผ้าไหมซึ่งถูกทออย่างประณีต แต่เป็นลายปักบนผ้าผูกผมอันแสนคุ้นตานั่นต่างหาก"คุณหนู สนใจผ้าผูกผมสักชิ้นหรือไม่ ลองดูก่อนได้ ไม่เสียหายอะไร"เจียงเยี่ยนฟางเงยหน้าขึ้นสบตาแม่ค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status