Home / รักโบราณ / สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ / 1.3 นิสัยนางไหนเลยจะเป็นคนอ่อนแอ

Share

1.3 นิสัยนางไหนเลยจะเป็นคนอ่อนแอ

last update Last Updated: 2025-05-29 05:15:20

"..." เจียงเยี่ยนฟางที่ใบหน้านองไปด้วยน้ำตาจนผ้าปิดหน้าเปียกลู่แนบไปกับหน้าก็ได้แต่เงยหน้าขึ้นตามแรงดึง ต้องสบตาเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ในแววตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวที่มิอาจเอื้อนเอ่ยความน้อยใจออกมา

"อย่าทำให้ข้าต้องเดือดร้อน จงอยู่อย่างไร้ตัวตนไปเถิด เส้นทางนี้เป็นเจ้าเลือกเอง ก็ต้องยอมรับชะตากรรมของเจ้าไป และเจ้าคงรู้อยู่แล้วว่าในใจของข้ามีแค่เสี่ยวชิงเพียงผู้เดียว ที่ตบแต่งเจ้าเข้ามาก็เพียงเพราะพระราชทานสมรสจากฮ่องเต้เท่านั้น อย่าหวังว่าข้าจะชายตามองเจ้า รักเจ้า เห็นเจ้าเป็นพระชายาในจวนของข้าอีกคน!"

น้ำเสียงของเซียวลี่หยางนุ่มนวลน่าฟัง ดุจดั่งกำลังขับขานบทกวี แต่ก็กลับเด็ดขาดไปในตัว

ครั้นกล่าวจบเขาผลักหน้านางออกไปเหมือนสัมผัสโดนของสกปรก ซ้ำยังจับมือของนางออกจากหัวเข่าของตนเองอย่างแรง จนร่างที่เกาะเขาไว้เสมือนเป็นที่พักพิงก็ไม่ทันตั้งตัว เซล้มลงไปด้านข้างอย่างไม่เป็นท่า "ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เจ้าก็ย้ายไปอยู่ที่เรือนหลังเถิด ทำให้เหมือนว่าเจ้าไม่เคยมีตัวตนมาก่อน ข้าอาจจะพอมีเมตตา ไว้ชีวิตน้อย ๆ ของเจ้าให้ยังมีลมหายใจอยู่ได้"

"ท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันผิดไปแล้ว" เจียงเยี่ยนฟางสะอื้น พูดแทบไม่จบประโยค พยายามจะเข้าหาอีกฝ่าย แต่เขาก็ถอยรถเข็นหนีไป ทำให้นางได้แต่ก้มตัวลงเอาหัวโขกอยู่กับพื้นเพื่อจะอ้อนวอนขอร้องเขา วิงวอนให้เขาเห็นใจนาง "ท่านอ๋องได้โปรด ทรงเมตตา..."

เซียวลู่หยางขมวดคิ้ว พลางปรายตามองสตรีที่ตัวสั่นไม่หยุด ก่อนจะตะโกนเรียกหาคนด้านนอก ตัดคำอ้อนวอนของนางทิ้งไป "มีใครอยู่ข้างนอกบ้าง!"

สิ้นคำของเขา ก็ราวกับว่าคนด้านนอกรอจังหวะอยู่แล้ว บ่าวคนเดิมวิ่งจ้ำอ้าวเข้ามาในทันที

"ท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันผิดไปแล้ว ท่านอ๋องได้โปรดอภัยในความสะเพร่าของหม่อมฉัน ให้... ให้หม่อมฉันไปเอาสุรามงคลใหม่มาให้ดีไหมเพคะ" เจียงเยี่ยนฟางเห็นคนเข้ามาก็ยิ่งร้อนรน พยายามกล่าวคำพูดที่คิดไว้ในหัวตั้งแต่แรกอีกครั้ง นางเงยหน้าหันซ้ายทีหันขวาทีอย่างลนลาน

"ไม่ต้อง" เซียวลู่หยางเอ่ยกับนางด้วยเสียงเย็น ก่อนจะพยักหน้าให้กับหงเปา คนสนิทของตนที่เพิ่งเดินมาถึง ให้มาพาตัวเขาออกไป "อย่าลืมสั่งให้คนเข้ามาทำความสะอาดด้วย"

"พ่ะย่ะค่ะ" หงเปารับคำ เตรียมพาเจ้านายจากไป

"เตรียมเรือนไม้ด้านหลังให้นางอยู่ พิธีแค่นี้ก็ทำให้เสร็จสิ้นไม่ได้!" ยังมิลืมทิ้งท้ายคำพูดเพื่อให้คนด้านหลังตระหนักถึงความผิดของตนเองอีกครา

"พ่ะย่ะค่ะ" หงเปารับคำอีกรอบ พลางดึงสายตาที่มองร่างของเจ้าสาวบนพื้นกลับมาสนใจเส้นทางด้านหน้าแทน

"ท่านอ๋อง ท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ ท่านอ๋องโปรดอภัยด้วย ท่านอ๋อง..." เจียงเยี่ยนฟางคลานตามไปอย่างทุลักทุเล เพราะอาภรณ์อันรุ่มร่ามและเครื่องหัวที่ไม่จำเป็นเลยทำให้เคลื่อนไหวลำบาก โดยไม่ทันระวัง มือก็ไปทาบโดนสุราที่เจิ่งนองอยู่บนพื้นเข้าพอดี ทำให้ลื่นล้มตัวเซไปด้านหน้า นำพาให้สุราบนพื้นเปรอะเปื้อนไปบนชุดจนตกอยู่ในสภาพที่ดูไม่ได้ กระนั้นก็ยังร้องเรียกอีกฝ่ายไม่หยุดหย่อน

จวบจนประตูห้องหอปิดลง...

เสียงพ่นลมหายใจดัง 'เฮอะ' ก็เล็ดลอดออกมาจากผู้ที่เมื่อครู่เพิ่งจะร่ำไห้ไปหนึ่งที พร้อมกับร่างของเจ้าสาวที่ลุกขึ้นมานั่ง ปัดฝุ่นและคราบน้ำบางส่วนออกจากอาภรณ์ด้วยใบหน้าเรียบเฉย

ในหัวยังก้องสะท้อนถึงเสียงของตนเองที่เรียกอีกฝ่ายไปหลายตลบพาให้รู้สึกแสลงหูขึ้นมา หากแต่ดวงตาที่เจือไปด้วยหยาดน้ำตาจอมปลอม กลับยังคงจ้องมองไปยังประตูห้องหอที่แต่งแต้มผ้าแดงอย่างไร้อารมณ์

...แต่แล้วคิ้วก็ขมวดมุ่นด้วยความสงสัย

"หรือทำเช่นนี้ไม่ถูกกันนะ..." เมื่อครู่นางยังดีใจที่ไม่ต้องเข้าห้องหอกับเขา ทว่าต่อมาก็เพิ่งจะนึกถึงจุดประสงค์ของตนเองขึ้นมาได้ เหตุการณ์ในตอนนี้จึงไม่สอดคล้องกันเท่าไรนัก

ในห้วงความคิด เสียงแสบหูที่นึกรังเกียจก็วนเวียนอยู่ภายในหัวของนาง เป็นเสียงของสตรีที่จงเกลียดจงชังเจียงเยี่ยนฟางหนักหนา

'พี่หญิง ท่านจงนึกสำนึกบุญคุณของข้าที่ทำให้ท่านได้มีตำแหน่งพระชายาติดตัวเถิด หากมิใช่ข้าสงสารที่ท่านออกไปเร่ร่อนตัวคนเดียวมาช้านาน มีหรือข้าจะยอมเสียสละตำแหน่งพระชายาให้ท่าน'

ก่อนจะตามมาด้วยอีกคนที่ก็คงรังเกียจนางไม่แพ้กัน

'เจียงเยี่ยนฟาง เจ้ารู้ใช่รึไม่ว่าทำไมตัวเจ้าต้องตบแต่งเข้าตำหนักของชินอ๋อง หลายปีมานี้ มารดาของเจ้าก็เป็นข้าที่ดูแลให้เรื่อยมา ตอนนี้... ถึงเวลาตอบแทนบุญคุณแล้วไม่ใช่หรือไร'

สิ้นเสียงของสตรีทั้งสองนาง น้ำเสียงของบุรุษอีกคนหนึ่งก็ผุดแทรกขึ้นมา

'วางตัวให้ดี อย่าให้ตระกูลต้องขายหน้า!'

คนสุดท้ายนี้ แม้แต่นามของนาง เขาก็ไม่อยากแม้แต่จะเรียกออกมา

เจียงเยี่ยนฟางใช้มือข้างที่ไม่เปื้อนสุรายกขึ้นมาปาดน้ำตาปลอม ๆ ที่เกือบจะแห้งเหือดไปแล้วออกจากใต้ตา ในแววตายามนี้ไร้ซึ่งความรู้สึกใด ๆ ครั้นเมื่อเห็นว่าบ่าวรับใช้กำลังจะเข้ามาทำความสะอาดห้องให้ นางก็รีบลุกขึ้นยืน หมุนตัวกลับเข้าไปที่ห้องด้านใน

༻❁༺

อีกฝั่งที่นอกห้องหอ

"ท่านอ๋อง ทำเช่นนี้หากเรื่องถึงหูของฮ่องเต้จะไม่เป็นอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ" หงเปาเอ่ยถามเสียงเบา

เซียวลี่หยางไม่ได้ตอบคำถามแรกในทันที "ไหนลองบอกเรื่องเกี่ยวกับนางที่เจ้ารู้มาที"

"พ่ะย่ะค่ะ เจียงเยี่ยนฟางถูกตระกูลเดิมฝั่งมารดารับไปเลี้ยงตั้งแต่เยาว์วัย เนื่องจากในช่วงวัยเด็กนางป่วยหนักจนมีนักพรตมาทำนายว่าหากอยู่ในตระกูลเจียงต่อไป จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่พ้นปีนั้น จำต้องส่งนางไปที่อื่น สุดท้ายก็เลือกส่งนางไปบ้านเดิมของฟู่ฮูหยิน ให้ช่วยดูแลนางแทน"

"แล้วเจ้าว่ามันไม่น่าแปลกไปหน่อยหรือ ที่พอนางเติบโตมาอย่างแข็งแรงแต่กลับไม่ถูกรับกลับมาเสียที กระทั่งฮ่องเต้โยนงานมงคลของข้าไปให้ตระกูลเจียงแบกรับไว้ นางถึงได้ถูกเรียกตัวขึ้นมาเมืองหลวง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ต่างก็ไม่เคยมีใครรับรู้การมีอยู่ของนางมาก่อน"

"...ตอนที่ฮ่องเต้ทรงประกาศให้ทั่วแคว้นรู้เรื่องนี้ ชาวบ้านต่างก็คิดว่าจะต้องเป็นคุณหนูเจียง" ที่หงเปาหมายถึงก็คือเจียงเจียวเหม่ย ผู้ที่ทุกคนคิดว่าเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของขุนนางเจียงมาหลายปี

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 29.3 "ข้าจะปกป้องท่านเอง"

    สามวันต่อมาก็ถึงวันที่ตลับหมึกแห้งตามที่เจียงเยี่ยนฟางคาดเดาไว้พอดี หลายวันก่อนหน้านี้ นางก็ได้ให้เซียวลี่หยางทำการขอเข้าเฝ้าไปล่วงหน้าแล้ว ได้ความว่าให้ไปหลังการประชุมในยามเช้าเสร็จสิ้นก่อน"ท่านไม่ต้องไปกับข้าก็ได้ อย่างไรเสีย เรื่องตลับหมึกนี่ก็เป็นฮ่องเต้เคยคุยกับข้าไว้แล้ว ไม่ใช่จู่ ๆ ข้าก็ทำไปถวายโดยไม่บอกล่วงหน้า""ข้าจะไปกับเจ้า" เซียวลี่หยางยืนยันอีกรอบเจียงเยี่ยนฟางมองดูคนที่กำลังจะถอดอาภรณ์ชิ้นล่างออก หลายวันที่ผ่านมานางช่วยทาแผลเป็นให้เขาจนรู้สึกคุ้นชินไปแล้ว แถมปกติก็ไม่ใช่คนที่คิดมากเรื่องชายหญิงไม่ควรใกล้ชิด เวลานี้จึงลืมไปเสียสนิท กระทั่งถูกเซียวลี่หยางจ้องมองนางนิ่ง ถึงเพิ่งจะเข้าใจ"หึ ร่างกายของท่าน ข้าเห็นจนเกือบหมดแล้ว ยังอายอะไรอยู่อีก" นางว่าพลางหันหลังให้ เดินไปค้นหาผ้าปิดตาที่เคยเก็บไว้ในเรือนของเขา พอได้ยินเสียงเขากระแอมจึงรู้ว่าเจ้าตัวนอนรอแล้ว หลังผูกผ้าปิดตาเสร็จ ก็เดินคลำทางกลับมาที่เตียง ยามที่ฝังเข็มลงไปบนขาของเขาก็เอ่ยถามว่า "ท่านคิดจะทำเช่นไรต่อไปกับบิดาของกู่เยว่ชิง"ด้วยเพราะเมื่อช่วงรุ่งสาง เติ้งอู๋เพิ่งจะมารายงานเรื่องของบิดากู่เยว่ชิงให้ฟัง ว่าแ

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 29.2 ท่านอ๋องประกาศหย่าแล้ว ว้ายยยย

    เติ้งอู๋ด้วยตระหนักว่าชายหญิงไม่ควรใกล้ชิด อีกอย่างท่านอ๋องก็ยังไม่ป่าวประกาศว่ากู่เยว่ชิงถูกปลดออกจากตำแหน่งแล้ว แถมยังไม่ทันได้ทำเรื่องหย่า ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าจับกู่เยว่ชิงแรงเกินไป ผลสุดท้ายคนก็ดิ้นหลุดออกจากมือไปอีกรอบ!เจียงเยี่ยนฟางถูกกระชากไหล่ให้หันกลับมา ครั้นเมื่อตัวนางเอียงกลับมาแล้ว มืออีกข้างของกู่เยว่ชิงก็พยายามจะดึงผ้าปิดหน้านางออก"เจ้ามันอัปลักษณ์ เจ้านั่นแหละที่อัปลักษณ์!" นางแผดเสียงแหลมสูง หวังเปิดเผยใบหน้าของเจียงเยี่ยนฟาง เพราะหากทำสำเร็จ ความรู้สึกที่ตัวเองต้องสูญเสียใบหน้างดงามไป ก็อาจจะลดน้อยถอยลงมาได้บ้าง แต่ไม่คาดว่าสตรีที่ไร้ทักษะดาบตามที่ท่านอ๋องเคยบอก กลับสามารถหลบมือตนได้พ้น!"..." เจียงเยี่ยนฟางที่เอียงหน้าหลบได้แล้วก็ยกมือกระชากผ้าปิดหน้าของกู่เยว่ชิงออกแทน"ผ้า ผ้าของข้า!" คนที่รับรู้ได้ว่าผ้าของตนถูกดึงออก ก็รีบใช้มือปิดใบหน้าซึ่งเต็มไปด้วยแผลพุพองที่เริ่มขึ้นหนองสีเหลืองไม่น่ามองไว้ ดวงตากวาดมองตามผ้าที่กำลังร่วงหล่นสู่พื้นดิน ก่อนรีบทรุดตัวลงไปจะดึงผ้าคืนมา สภาพยิ่งน่าเวทนา ไม่น่ามองเจียงเยี่ยนฟางตาไวพอที่จะทันได้เห็นใบหน้าของกู่เยว่ชิงแล้วก็พอใจ

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 29.1 สตรีที่ท่านเคยประกาศรักมั่นเสียโฉมแล้ว

    บทที่ 29สตรีที่ท่านเคยประกาศรักมั่นเสียโฉมแล้วสามวันก่อนที่จะเดินทางเข้าเฝ้าฮ่องเต้เจียงเยี่ยนฟางก็ได้ขอออกไปเดินดูสมุนไพรที่ร้านขายสมุนไพรในตลาดเพราะอยู่แต่ในจวนนานเกินไป นานเสียจนนางแทบจะจำไม่ได้แล้วว่า ตอนที่ตนเดินทางท่องไปทั่วทุกแว่นแคว้นนั้นความรู้สึกเป็นเช่นไรแต่พอออกมาแล้วก็รู้สึกไม่ต่างกันกับอยู่ในจวนเท่าไรนัก เพราะมีเซียวลี่หยางตามประกบไปด้วยทุกที่ หากเขาไม่บอกว่าจะซื้อทุกอย่างที่นางต้องการให้ นางก็คงปล่อยเขาทิ้งไว้ที่จวนแล้ว ไม่สนแม้กระทั่งคำเตือนของเขา ที่กลัวว่าฮ่องเต้จะส่งคนมาทำร้ายนาง ด้วยเหตุผลว่านางเป็นคนที่เขาเลือกขึ้นมาเป็นพระชายาเอกด้วยซ้ำไป"เจ้าอยากตัดชุดใหม่เพิ่มหรือไม่" เซียวลี่หยางที่อยู่บนรถม้าก็กำลังมองผ่านหน้าต่างไปยังร้านผ้าขึ้นชื่อแห่งหนึ่ง เวลานี้ก็มีเหล่าสตรีแต่งตัวสวยสดงดงามเดินออกมาไม่ขาดสาย ได้คิดเองไปแล้วว่า สตรีก็คงชอบอะไรสวยงามเหมือนกันหมด จึงอยากสั่งตัดชุดให้เจียงเยี่ยนฟางขึ้นมา เพราะชุดที่นางสวมใส่อยู่ในจวน ล้วนเป็นชุดเหมือนบุรุษ ยามออกมานอกจวนก็สวมอยู่เพียงแค่ชุดเดียวคือชุดที่นางสั่งตัดใหม่ตอนไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ครั้งที่สอง เวลานี้เองก็เช่นกัน

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 28.4 (เริ่มเล่ม 4) ส่วนท้าย

    บทที่ 28ส่วนท้าย"เจ้าเลือกเองนะ! หากเสียใจภายหลังก็ไม่ทันแล้ว" เซียวลี่หยางกำข้อมือนางไว้แล้วดึงนางให้มานั่งบนตักตัวเอง หาไม่แล้วเขาต้องถูกนางจับอุ้มไปแน่ ๆ หัวใจของเขาแทบจะกระเด็นออกมานอกอกอยู่แล้ว สตรีผู้นี้ถูกสอนมาอย่างไรเขาก็เข้าใจอยู่ แต่นางก็ควรรู้ว่าทำแบบนี้มีแต่นางที่จะเสียเปรียบ!เจียงเยี่ยนฟางเองก็ปล่อยกายทาบทับไปบนตัวผู้อื่นเสียเลย! นางเหนื่อยมากแล้ว ไม่อยากออกแรงเยอะ ครั้นนางล้มลงไปแล้วก็ถูกเขาปล่อยข้อมือให้เป็นอิสระ เพราะเจ้าตัวต้องย้ายมือไปโอบเอวนางไว้ เพื่อไม่ให้นางหล่นลงไปแทน ด้วยความสูงของนางพอมานั่งบนตักเขาแล้ว ก็ทำให้หัวสูงเลยเขาไปนิดหนึ่ง"เหอะ! เซียวลี่หยางท่านควรรู้ไว้อย่างหนึ่ง" นางที่ไม่ถูกพันธนาการแล้วจึงเป็นฝ่ายไปเกาะคอเขาไว้แทน มืออีกข้างก็พลันบีบเข้าที่กรามได้รูปของเขา บังคับให้สบตากับตนเอง แถมยังจงใจใช้นิ้วไล่ไปบนกลีบปากที่ชอบพ่นอะไรไม่รู้ออกมาเพื่อแกล้งเขา ด้วยรู้ว่าพอทำเช่นนี้แล้ว พระอิฐพระปูนเช่นเขาคงอกแตกตายและหัวเสียใส่นางเป็นแน่ จะได้ทำให้นางมีอารมณ์สุนทรีย์บ้าง "ข้าไม่เคยเดินไปบนเส้นทางที่จะทำให้ตัวเองเสียใจ"ใครเล่าจะคิดว่า มือใหญ่กลับขยับมาดึงท้

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 28.3 (จบเล่ม 3) "มานั่งตรงนี้ ถ.อ.ดเสื้อผ้าออกให้หมด" \( ̄(oo) ̄)/

    "เข้าใจแล้ว" ไม่รู้ทำไมถึงยอมได้โดยง่าย!บางทีเพราะนางกำลังรู้สึกติดค้างเขาอยู่ก็ได้ เจียงเยี่ยนฟางที่รู้ตัวว่าตนเองยอมอ่อนข้อให้ผู้อื่น ก็คิดข้ออ้างในใจได้เพียงเท่านี้หลังทานข้าวเสร็จแล้วเจียงเยี่ยนฟางก็กลับมาทำงานอีกรอบ ส่วนคนที่เหลือก็ยังอยู่ในเวลาช่วงพัก มีเพียงเซียวลี่หยางที่ตามมาด้วย และสั่งคนย้ายเตาของตัวเองมานั่งข้างนางมือเรียวยาวดั่งหยกขาวล้ำค่าที่เคยจับดาบมานาน พอว่างเว้นจากการฝึกดาบไปก็แลดูอ่อนนุ่มขึ้นมากนัก บัดนี้พอต้องมาจับพัดเพื่อปัดลมเข้าเตา ก็ทำให้ดูงดงามเหนือมือของนักรบทั่วไปเซียวลี่หยางก็ลงมือต้มยาหม้อใหม่อีกครั้ง หลังจากใส่ของที่ถูกเตรียมไว้ให้อยู่แล้วจนครบ สายตาก็ไปหยุดนิ่งที่คนข้างกาย"เจ้าทำสิ่งใดอยู่" ตัวยาที่ต้องทำยาแก้สารพัดพิษไม่มีส่วนผสมไหนที่ต้องบด แต่ในรางบดสมุนไพรของนางกลับดูต่างออกไป ครั้นถามแล้วก็ถอนหายใจอยู่ในใจเงียบ ๆ คนเดียว เขาควรรู้ว่านางชอบไม่ตอบคำถาม ดังนั้นจึงไม่ควรถามนางตั้งแต่แรก และไม่รู้ทำไมก็เริ่มรู้สึกน้อยใจขึ้นมา ทั้งที่ปกติเจียงเยี่ยนฟางก็เป็นแบบนี้มาตลอดแต่สุดท้ายแล้วก็เป็นเขาที่คาดเดาคนข้างกายผิดไป"ไว้หากทำสำเร็จแล้ว ข้าจะบอกท่าน"

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 28.2 ลูกศิษย์คนนี้ก็พอจะให้สั่งสอนได้อยู่บ้าง

    ผ่านไปสักพัก หลังตะวันตั้งขึ้นเหนือศีรษะ ก็เป็นเซียวลี่หยางที่ทำเสร็จเป็นคนแรก เขาให้เติ้งอู๋พาเขาเข้าไปหาเจียงเยี่ยนฟางที่จู่ ๆ ก็บอกขอตัวไปพักครู่หนึ่งในเรือนของตน แล้วเรียกเจินเจินที่ชั่งยาครบตามจำนวนแล้วมาเฝ้าเตาต้มยาของตัวเองให้แทนเมื่อเข้ามาก็เห็นเจียงเยี่ยนฟางหลับตาเอนตัวพิงตั่งยาวอยู่ด้านในของห้องนอน เจ้าตัวพอรู้สึกว่ามีคนเข้ามาจึงเปิดเปลือกตาขึ้นมองอย่างเชื่องช้า ดูเกียจคร้านเหมือนเด็กน้อยที่หนีออกจากห้องเรียนไปแอบนอน ทำให้มุมปากของเซียวลี่หยางยกขึ้นโดยไม่รู้ตัวด้วยความเอ็นดู พอมองเห็นเต็มตาว่าผู้ใดเป็นคนเข้ามา นางก็ขยับกายลุกขึ้นมานั่ง รอเขาเข้าไปหาเซียวลี่หยางปัดมือสั่งเติ้งอู๋ให้ออกไปช่วยดูแลข้างนอกเสร็จแล้วก็หันไปหาคนบนตั่งนอน "แบบนี้คือสำเร็จแล้วหรือไม่" ว่าพลางยื่นยาก้อนกลมสีน้ำตาลเข้มบนกระดาษไข ที่ตัวเองเป็นคนกลั่นเองกับมือและเพิ่งปั้นเสร็จเมื่อครู่ให้นางดูเจียงเยี่ยนฟางก้มลงไปพิจารณาสีและลองดมกลิ่นดู ก่อนพยักหน้าให้เขาแผ่วเบา "ท่านอ๋องเก่งมากเลยเพคะ อยากเป็นศิษย์นักปรุงยาพิษของหม่อมฉันหรือไม่"เซียวลี่หยางกำลังจะตอบรับ ว่าเขายินดีเป็นลูกศิษย์นางไปตลอดชีวิตเลยด้วยซ้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status