Home / รักโบราณ / สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ / 1.4 หาใช่ผู้ที่ทุกคนคิดว่าเป็น

Share

1.4 หาใช่ผู้ที่ทุกคนคิดว่าเป็น

last update Last Updated: 2025-05-29 05:15:51

แรกเริ่มเดิมทีชาวบ้านต่างก็รู้เพียงแค่นั้นจริง ๆ ทว่าพอมีพระราชโองการออกมา เจียงเยี่ยนฟางกลับโผล่มาจากไหนไม่มีใครรู้ได้ รู้กันอีกที นางก็คือบุตรสาวคนโตของตระกูลเจียง และเป็นผู้ที่ได้รับพระราชทานสมรสลงมาแบบส้มหล่น [1] แทนน้องสาวไปแล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่าเพราะนางเป็นบุตรคนโต การแต่งงานครั้งนี้จึงตกไปที่นางแทนเจียงเจียวเหม่ยทันที

และไม่กี่วันก่อนถึงเพิ่งมีข่าวลือเกี่ยวกับนางหลุดรอดออกมา นั่นก็คือสิ่งที่หงเปาพูดไปก่อนหน้านี้

"หากไม่เกิดเรื่องขึ้น เจียงเยี่ยนฟางคงถูกปล่อยทิ้งไปทั้งอย่างนั้น ขุนนางเจียงมีตำแหน่งหน้าที่การงานใหญ่โต ทั้งก้าวหน้าและมีชื่อเสียง แต่โชคร้ายที่ไร้บุตรชายสืบสกุล หากจะทำให้ตระกูลมั่นคงก็ต้องใช้บุตรสาวช่วยค้ำจุน จำต้องให้บุตรสาวไปตบแต่งสามีดี ๆ เข้ามาแทน และทั้งที่มีบุตรสาวถึงสองคน เหตุใดถึงได้ปล่อยปละละเลยอีกคนไป ไม่ใช้ประโยชน์จากนางตั้งแต่แรกกัน" เซียวลี่หยางหยิบกระดาษเล็กแผ่นหนึ่งออกมาจากในแขนเสื้อ แล้วยื่นไปให้หงเปารับไว้

หงเปาที่เพิ่งจะพาเจ้านายกลับมาถึงเรือนอี้พอดีก็รับไปเปิดอ่าน "นางไม่ใช่บุตรสาวของฟู่ฮูหยิน" เขาจำเจ้าของลายมือในกระดาษแผ่นนี้ได้ เป็นเติ้งอู๋ที่ถูกเจ้านายส่งไปที่อื่นเมื่อสี่วันก่อน แท้จริงแล้วก็ไปสืบเรื่องนี้นี่เอง

เซียวลี่หยางไม่ลืมบอกส่วนที่เหลือให้หงเปารู้ เพราะส่วนที่เหลือเป็นคำรายงานจากปากลูกน้องที่เติ้งอู๋ส่งมาบอกเป็นคำพูดอีกที เขาต้องทำแบบนี้ก็เพื่อป้องกันหลายทาง หากส่งเป็นลายลักษณ์อักษรทั้งหมดแล้วมีคนสังหารผู้ส่งข่าวของเขา ข้อมูลก็จะรั่วไหลทันที แต่หากไม่มีลายมือของคนสนิทเขาก็จะไม่เชื่อเช่นกัน ดังนั้นเวลาที่ลูกน้องจะส่งข่าวมาหา จำต้องส่งมาทั้งลายลักษณ์อักษรและคำพูด

"เจียงเยี่ยนฟางเป็นบุตรสาวของเจียงเจียวจ้านจริง แต่มิใช่บุตรจากฟู่ซินหยาน นางคือบุตรของบ่าวรับใช้ในจวน ที่ได้แอบคลอดออกมาในตอนที่เจียงเจียวจ้านถูกส่งตัวไปต่างเมืองจากรับสั่งของฮ่องเต้พระองค์ก่อน โดยที่ครานั้นเขาก็ได้พาฮูหยินของตนตามติดไปด้วย

ก่อนหน้านั้นฟู่ซินหยานไม่สามารถมีบุตรได้ เจียงเยี่ยนฟางจึงยังคงได้ใช้ชีวิตอยู่ในจวนตระกูลเจียงอีกพักหนึ่ง สองปีต่อมาฟู่ฮูหยินก็ได้ให้กำเนิดเจียงเจียวเหม่ย หลังจากนั้นนางจึงพยายามทำทุกทางเพื่อจะกำจัดลูกนอกสมรสของเจียงเจียวจ้านให้พ้นทาง แต่เด็กคนนั้นกลับดวงแข็ง จึงรอดมาได้ตลอด สุดท้ายฟู่ซินหยานต้องหาเรื่องส่งอีกฝ่ายออกไปแทน"

"เช่นนั้นเรื่องที่นางถูกส่งตัวไปอยู่กับตระกูลฟู่ในเมืองโจวตามที่ชาวบ้านต่างได้ยินกัน ก็คงไม่เป็นความจริงใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ" หงเปาลองพินิจดู "ฟู่ฮูหยินไม่ชอบนางขนาดนั้น คงไม่ใจดีส่งไปที่บ้านเดิมของตนเอง"

เซียวลี่หยางพยักหน้าตอบ พลางนึกถึงสภาพของเจียงเยี่ยนฟางเมื่อครู่ในห้องหอขึ้นมา ต่อให้ตัดเรื่องหน้าตาออกไป อย่างไรกิริยาและนิสัยที่นางแสดงออกมาก็ดูไม่เหมือนคนที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดี หรือได้รับการศึกษาที่เหมาะสมดั่งการเป็นคนในตระกูลขุนนางแม้แต่น้อย สอดคล้องกับเรื่องที่เติ้งอู๋สืบมาได้พอดี เมื่อวานพอได้รู้เรื่องนี้แล้ว เขาก็ได้ให้เติ้งอู๋ตามสืบเรื่องนางต่อ

"หมากที่มีตำหนิและถูกทิ้งไปแล้ว แต่ถูกนำขึ้นมาบนกระดานใหม่อีกครั้ง... ไม่รู้ว่าใครตั้งใจส่งนางมาหรือไม่ อาจเป็นเจียงเจียวจ้านที่ส่งหมากพร้อมตายตัวนี้มาติดอยู่ข้างกายข้า หรืออาจจะเป็นฮ่องเต้ที่ส่งนางมา ข้าไม่อยากมีเรื่องให้คิดหนักเพิ่มขึ้นมาอีก ถึงได้ส่งตัวนางไปอยู่ห่าง ๆ หน่อย" เซียวลี่หยางวนกลับมาเอ่ยตอบคำถามก่อนหน้านี้ของหงเปา "ฮ่องเต้จะทรงพิโรธแล้วอย่างไรเล่า หากพระองค์ได้รู้ก็แสดงว่าในจวนของเรามีคนของพระองค์อยู่"

หงเปาพยักหน้าเข้าใจแล้วว่า หากฮ่องเต้ทรงรู้เรื่องในวันนี้เข้าและพิโรธลงมา ก็แสดงว่าเจียงเยี่ยนฟางอาจเป็นคนของพระองค์ หรือหากไม่ใช่นางจริง พวกเขาก็ยังได้รู้ว่าในจวนของตัวเองมีคนของฮ่องเต้อยู่ มุมปากของหงเปากดปากลึกลง รู้สึกเหนื่อยแทนเจ้านายของตน

เจ้านายของเขาเป็นองค์ชายสี่ของแคว้นเฉิง เป็นเทพสงครามผู้เกรียงไกร สู้รบเพื่อบ้านเมืองมาตลอด แต่กลับต้องมาพิการเดินไม่ได้เพราะถูกโจรป่าลอบทำร้าย ซีฮันชินอ๋องผู้นี้ยอมปลดตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ ยอมละทิ้งตำแหน่งองค์ชายและถอนตัวออกจากวังหลวงมาตั้งจวนอยู่แยกต่างหาก แต่ก็ยังถูกฮ่องเต้ระแวงไม่เลิกรา

และทั้งที่ทั่วบ้านทั่วเมืองต่างรู้อยู่แล้วว่าท่านอ๋องของเขารักมั่นใจเดียวอยู่กับกู่เยว่ชิง แต่ฮ่องเต้ก็ยังจะมีพระราชโองการลงมาอีก ก่อนหน้านี้ก็ไม่ยอมให้กู่เยว่ชิงเป็นพระชายาเอกของจวนชินอ๋อง ให้ได้แค่ตำแหน่งพระชายารอง เจ้านายเขาก็ยอมมาโดยตลอด

แต่ยามนี้กลับตั้งใจส่งพระชายาคนใหม่มาอีก ไม่รู้ว่ากลัวจวนของชินอ๋องจะเงียบเหงาหรือไร แถมยังจะให้คุณหนูใหญ่เจียงเป็นพระชายาเอกให้ได้ ท่านอ๋องของเขาต้องขอร้องอยู่นาน จนสุดท้ายยื่นคำขาดว่า จะยอมตบแต่งนางก็ได้ แต่ก็ให้ได้แค่ตำแหน่งพระชายารองอีกคนเท่านั้น ฮ่องเต้ถึงได้ตกปากรับคำในที่สุด

"คุณหนูใหญ่เจียงดูไม่เหมือนหมากที่จะถูกฮ่องเต้ส่งมาได้เลยนะพ่ะย่ะค่ะ" หงเปาก็เห็นว่าเจ้านายก็พยักหน้าเห็นด้วยกับเขาเช่นเดียวกัน

ก็จะไม่ให้คิดเช่นนั้นได้อย่างไร เพราะคุณหนูใหญ่เจียงช่างดูอ่อนปวกเปียกไร้พิษสงขนาดนั้น แถมเมื่อครู่เพิ่งจะโดนท่านอ๋องตักเตือนไป นางเองก็คงอยู่เงียบ ๆ ไม่มาวุ่นวายให้เจ้านายของตนไม่สบายใจอีก

หงเปาเพิ่งจะคิดไปเช่นนั้นไม่เกินวัน เช้าตรู่วันต่อมาเขากลับได้เห็นว่าสตรีที่ตนคิดว่าจะอยู่เงียบ ๆ กำลังมายืนเฝ้าหน้าประตูเรือนอี้ตั้งแต่แสงแรกของอรุณเพิ่งจะมาเยือนได้ไม่นาน! 


[1] การได้รับสิ่งที่ดีแบบเหนือความคาดหมาย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 17.4 นางไหนจะเกรงกลัวผู้ใด

    ยามนี้ผ่านไปนานเกือบสิบเอ็ดปี จดหมายฉบับแรกนอกเหนือจากเงินที่เขาส่งมาให้ ก็คือเรียกข้ากลับไปแต่งงาน แต่ข้าไม่อยากแต่ง ข้ามีคนที่ข้ารัก...คนผู้นั้นเป็นเหมือนดั่งพี่ชายของข้า เป็นเหมือนดั่งสหายของข้า พวกเราเจอกันตั้งแต่ข้าอยู่ที่เมืองหลวง จนข้าจากไปไกลจึงทำได้เพียงเขียนจดหมายกลับไปหาเขา นับแต่นั้นมา ก็มีเขาที่ยังคอยห่วงหาข้าตลอด เราให้สัญญากัน ข้าเองก็รับปากแล้วว่าจะเป็นภรรยาของเขา" เวลามีเรื่องคิดไม่ตก เจียงเยี่ยนฟางมักจะติดนิสัยเดิม โดยชอบหยิบผ้าผูกผมที่ป้าซูทำให้มาจับเล่นอย่างเผลอตัว ในตอนนี้เองก็เช่นกันเสวี่ยหว่านมองตามมือของนางไปก็พบว่าสิ่งที่นางจับอยู่คือผ้าผูกผมรูปดอกไม้ที่มีปักลายเฉพาะ ผ้าผูกผมชิ้นนั้นดูไม่เข้ากับชุดที่เจียงเยี่ยนฟางขอสลับของนางไปใส่แม้แต่น้อย จังหวะต่อมาจึงเงยหน้าสบตาอีกฝ่ายแล้วถาม "...แล้วคนผู้นั้นตอนนี้เขารู้หรือไม่ว่าท่านกำลังจะไปแต่งงาน"เสวี่ยหว่านเป็นหมอยาพิษ การทำงานในจุดนี้ของนางย่อมพบเจอคนตายมาไม่น้อย จิตใจนับว่าด้านชาจนแทบไร้ความรู้สึก ยิ่งไม่สนใจเรื่องความรัก ยิ่งเมื่อได้ฟังก็เกิดสับสน บุรุษผู้นั้นดูแล้วน่าจะไม่ใช่คนธรรมดาที่สามารถเข้าออกจวนขุนนางจ

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 17.3 เรื่องราวของจุดเริ่มต้น

    เรื่องนี้เป็นความลับของนาง แต่ก็ไม่คิดจะปิดบังคนที่ช่วยชีวิตตนเองไว้ อีกทั้งนางก็ทะนงตนว่า สตรีตัวเล็กเช่นคนตรงหน้าไม่มีทางทำอะไรตนเองได้ หรือต่อให้อีกฝ่ายเอาเรื่องนางไปป่าวประกาศบอกผู้อื่นจนนางเดือดร้อน นางก็คิดว่านางสามารถแบกรับไหว"!!!" สองคนในรถม้าต่างตกใจ คนที่จะทำงานด้านนี้ได้มือต้องแปดเปื้อนมาไม่น้อย แต่สตรีตรงหน้าถึงจะไม่ค่อยยิ้ม ใบหน้าเรียบนิ่ง แต่น้ำเสียงกลับน่าฟัง ท่าทางไม่ถึงขั้นอ่อนหวานเหมือนสตรีที่ได้รับการอบรม แต่ท่าทางก็ดูนุ่มนวลไม่หยาบกระด้าง การพูดการจาก็ดูมีมารยาทไม่ทำตัวโผงผาง หากบอกว่าเป็นบุตรสาวตระกูลร่ำรวยพวกนางก็เชื่อ ไหนเลยจะถูกอีกฝ่ายใช้รูปลักษณ์ภายนอกมาตบตาเข้าให้แล้ว"คุณหนูทั้งสองไม่ต้องตกใจไป ผู้ที่มีบุญคุณ เสวี่ยหว่านผู้นี้ ย่อมไม่คิดร้ายด้วย อีกทั้งก็เป็นเพียงผู้ทำยาพิษและยาแก้พิษ ไม่ใช่ผู้ใช้พิษเสียหน่อย" เรื่องหลังนั้น... แน่นอนว่า ย่อมโกหกไปเจ็ดส่วน!อีกสองสามวันต่อมา เสวี่ยหว่านผู้นี้ก็ไม่ยอมจากไปเสียที จนซูเจียวเริ่มทนไม่ไหว ในตอนที่อยู่บนรถม้าก่อนจะลงไปเช่าโรงเตี๊ยมในหมู่บ้านกวนพักผ่อน นางก็เอ่ยปากถามด้วยตนเอง"พี่เสวี่ยหว่าน ท่านคิดจะไปที่ใดกันแน

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 17.2 บุญคุณครั้งเดียว จดจำจนตาย

    "เป็นคน เมื่อครู่ ข้ามั่นใจ!" เจียงเยี่ยนฟางตะโกนบอกไประหว่างทาง ดวงตาจ้องมองมือที่โผล่ขึ้นเหนือน้ำเพียงสองครั้งแล้วจมหายไป แต่ใต้ผืนน้ำที่ไหลแรงก็ยังพอมองเห็นเงาร่างสีม่วงเข้มได้เลือนราง"คน? คนอะไรไปอยู่... ไม่ ๆ ๆ คนที่ไหนจะโดนน้ำพัดขนาดนี้แล้วยังรอด คุณหนู อย่า ไม่!" ซูเจียวเพิ่งจะรู้สึกไปเมื่อครู่เองว่า สายน้ำเส้นนี้นั้นไหลแรงเกินไปจนน่ากลัวไม่อยากเข้าใกล้ และไม่อยากแม้แต่จะข้ามสะพานไม้นั้นอีกรอบอยู่เลย แต่คุณหนูของนางพูดแค่ 'เป็นคน' แล้วก็กระโจนลงน้ำไปได้อย่างไร!ซูเจียววิ่งตามไปหยุดอยู่ตรงจุดที่เจียงเยี่ยนฟางเพิ่งจะกระโดดลงไปเมื่อครู่ "คุณหนู คุณหนู!" นางตะโกนหาอีกฝ่ายพร้อมดวงตาก็กวาดมองไปทั่วผืนน้ำ หัวใจเต้นไม่หยุดด้วยความกลัว ถึงแม้นางจะบอกว่าตนไม่ค่อยชอบเจียงเยี่ยนฟางเพราะรู้สึกว่าตนอยู่ต่ำกว่าเสมอ แต่เมื่อถึงเวลาคับขันแห่งความเป็นความตาย นางกลับรู้สึกเป็นห่วงคนที่โตมาด้วยกันอย่างน่าประหลาดซูเจียวถอดรองเท้าและเสื้อตัวนอกออก หวังกระโดดลงน้ำไปดึงเจียงเยี่ยนฟางขึ้นมา ในระหว่างที่กำลังถอดเสื้อตัวนอกออกอยู่นั้น ก็ไม่หยุดสายตาสอดส่องมองหาคนไปทั่วผืนน้ำแต่ไม่ทันที่นางจะกระโดดลงไป

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 17.1 เรื่องราวเมื่อเดือนก่อน

    บทที่ 17วาสนาได้พานพบผู้มีบุญคุณเพียงชั่วครู่สารทฤดูเริ่มต้นไปได้ครึ่งทางแล้ว ใบไม้รอบด้านเริ่มเปลี่ยนสียามเมื่อออกเดินทางเวลานี้ ถือว่าเป็นผลพลอยได้ที่จะได้ชื่นชมธรรมชาติไปในตัวแต่คนบนรถม้าคันหนึ่งที่กำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงกลับดูเป็นกังวลไม่น้อย"คุณหนู ท่านจะแต่งเข้าจวนอ๋องจริงหรือเจ้าคะ" ซูเจียวนั่งอยู่บนพื้นของรถม้าก็เอ่ยถามสตรีอีกคนที่นั่งอยู่บนเบาะ ที่ผ่านมาตัวนางถูกเลี้ยงดูมากับสตรีตรงหน้า อยู่ด้วยกันในบ้านหลังเล็กที่เมืองลี่เจียง ดุจดั่งเป็นครอบครัวเดียวกันทว่าตั้งแต่เยาว์วัย มารดาของนางชอบบังคับให้นางเรียกอีกฝ่ายว่าคุณหนูอยู่ตลอด คราแรกนางไม่เข้าใจ และทุกครั้งที่ตีตัวเสมอเจียงเยี่ยนฟาง นางก็จะถูกมารดาดุด่าเป็นประจำ ตักเตือนให้นางนอบน้อมกับเจียงเยี่ยนฟางให้มากหน่อย นางก็ต้องทำโดยไม่สามารถอิดออดได้ ทั้งที่เจียงเยี่ยนฟางก็ถูกมารดาใช้งานหนักพอ ๆ กัน ไม่เคยปล่อยปละละเลยให้อีกฝ่ายทำเพียงแค่นอนและกินเหมือนคุณหนูจริง ๆ ต่างต้องทำงานทุกอย่างให้เป็นกระทั่งไม่กี่วันก่อนคุณหนูของนางได้รับจดหมายจากบิดาที่ทอดทิ้งตัวเองไปนาน เรียกตัวกลับเมืองหลวงเพื่อแต่งงานเข้าจวนชินอ๋อง!ชินอ๋อง

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 16.3 + บทที่ 16.4 มีผู้บุกรุก+ผู้เกรียงไกรก็มีวันล้มเป็น

    เจียงเยี่ยนฟางกลับมายังร้านน้ำชาอีกครั้งพร้อมถุงซาลาเปาในมือ คนที่รอนางอยู่ก็ได้ย้ายตัวเองไปบนรถม้าอยู่ก่อนแล้ว พอนางมาถึง บรรยากาศก็ผิดแผกไปอย่างเห็นได้ชัด เซียวลี่หยางไม่พูดไม่จาอันใดแม้ครึ่งคำแต่...ไม่พูดไม่จาก็แล้วไปเถิด นางอาจมาช้าทำให้เขารอนานจนเกิดไม่พอใจขึ้นมา เรื่องนั้นก็พอเข้าใจได้ ทว่าแววตารังเกียจที่เหมือนคราแรกพานพบกันในห้องหอนั้น กลับมาปรากฏบนสายตาเขาอีกครั้งนี่สิ นางถึงได้รู้สึกแปลกใจขึ้นมาคนผู้นี้เช้าเป็นอย่าง ดวงตะวันคล้อยบ่ายก็เป็นอีกอย่าง นางคาดเดาเขาไม่ได้เลยยามเมื่อเดินทางกลับมาถึงจวนแล้ว คนในรถม้าที่นั่งมากับนางนานสองนานก็ไม่รอให้นางออกไปก่อน เขารีบเรียกหงเปามาพาตัวเองเข็นรถลงไปทันทีที่รถม้าหยุดลง ประหนึ่งว่าไม่อยากใช้ลมหายใจในรถม้าร่วมกับนางนานกว่านี้ จึงทิ้งนางไว้เบื้องหลังไม่ใส่ใจ"เมื่อเช้ายังไปด้วยกันดี ๆ อยู่เลย ยามนี้ท่านอ๋องเหมือนจะกำลังไม่พอใจอยู่..." สาวใช้ที่อยู่ไม่ไกลก็พากันซุบซิบนินทา คิดว่าระยะขนาดนี้พระชายาเจียงน่าจะไม่ได้ยิน"แปลกอันใดกัน ที่ผ่านมาท่านอ๋องกับพระชายากู่ที่มักตัวติดกันตลอด แต่ท่านอ๋องก็นิ่งสงบปานท่อนไม้ขนาดนั้น ดูอย่างไรก็ไม่เหม

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 16.2 ช่างน่ารังเกียจเกินไปแล้ว!

    "เร็วหน่อยก็ดี แล้วเร็วที่สุดของเถ้าแก่ราวกี่วัน""สองชิ้นก็เจ็ดวัน ข้าจะหาช่างฝีมือสองคนทำก็แล้วกัน จะได้รอไม่นานเกินนี้""เงินในถุงพอค่ามัดจำหรือไม่" เจียงเยี่ยนฟางหันมองถุงเงินที่หายไปอยู่ในมือเถ้าแก่ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้"พอ ๆ ๆ ๆ แม่นาง...อยากเน้นส่วนไหนเป็นพิเศษ แจ้งมาได้เลย" เถ้าแก่พอได้จับถุงเงินแล้วก็อารมณ์ดีขึ้นอีกห้าส่วน ดวงตาสะท้อนไปด้วยเงินทองอยู่ภายใน"เถ้าแก่จัดการได้เลย อีกเจ็ดวันข้าจะมารับ" เจียงเยี่ยนฟางกล่าวเสร็จก็เตรียมจากไป"แม่นางเดินทางปลอดภัย" เถ้าแก่ร้านมีท่าทีกระตือรือร้นกว่าตอนแรกที่เจียงเยี่ยนฟางเข้ามามากนัก ถึงขั้นเดินออกมาส่งด้วยตัวเองเจียงเยี่ยนฟางพอออกมาจากร้านเครื่องประดับแล้วก็ยังคงแวะไปอีกหลายแห่งเพื่อสั่งของที่นางอยากได้ กระทั่งมาหยุดยืนอยู่หน้าร้านขายเครื่องประดับแผงลอยข้างทางร้านหนึ่ง เป็นร้านเล็ก ๆ ที่เน้นไปทางเชือกผูกผมกับปิ่นที่ทำมาจากไม้ หากแต่สิ่งที่สะดุดตานางมากที่สุดไม่ใช่ผ้าไหมซึ่งถูกทออย่างประณีต แต่เป็นลายปักบนผ้าผูกผมอันแสนคุ้นตานั่นต่างหาก"คุณหนู สนใจผ้าผูกผมสักชิ้นหรือไม่ ลองดูก่อนได้ ไม่เสียหายอะไร"เจียงเยี่ยนฟางเงยหน้าขึ้นสบตาแม่ค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status