Home / รักโบราณ / สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ / บทที่ 1.2 ทำตัวให้เหมือนคนไร้ตัวตน

Share

บทที่ 1.2 ทำตัวให้เหมือนคนไร้ตัวตน

last update Last Updated: 2025-05-28 09:22:58

กึก

เจียงเยี่ยนฟางแทบจะได้ยินเสียงฟันของตัวเองที่ขบกันจนเกือบแตก! แต่นางก็ประคองสติไว้ได้เมื่อนึกถึงสิ่งที่ตัวเองต้องทำให้สำเร็จ "ขออภัยเพคะท่านอ๋อง เป็นหม่อมฉันเลินเล่อเอง"

ร่างสูงในชุดเจ้าสาวสีแดงขยับเข้าใกล้เขาอีกนิด

"ยืนตรงหน้าข้า" เขาเอ่ยอย่างเหนื่อยหน่าย "ตระกูลเจียงไม่สอนแม้กระทั่งพิธี?!"

คำก็ตระกูลเจียง สองคำก็ตระกูลเจียง! นางจะอดทนไปได้สักกี่น้ำเชียว เพียงเพราะชอบสตรีผู้นั้นอยู่ก่อนแล้วและไม่ได้อยากแต่งงาน เหตุใดจึงดูจงเกลียดจงชังไปถึงตระกูลเจียงด้วย

เจียงเยี่ยนฟางเลือกที่จะทิ้งคำถามมากมายไว้ในใจ ก้าวเท้ากลับไปยืนตรงหน้าเขา ก่อนจะถูกดึงผ้าคลุมหน้าออก นางอดแปลกใจมิได้ ตัวนางเป็นสตรีร่างสูงพอ ๆ กับบุรุษ ไหนจะเครื่องประดับบนหัวที่สูงเกินหนึ่งฝ่ามือ แต่ผู้ที่เพิ่งกราบฟ้าดินกับนางมาซึ่งต้องนั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็นตลอด กลับสามารถตวัดผ้าออกจากศีรษะของนางที่ยืนเต็มความสูงได้อย่างง่ายได้

ชั่วลมหายใจนั้น นางก้มตาลงต่ำ แล้วคิดว่าเดี๋ยวค่อย ๆ ช้อนตาขึ้นมองหน้าเขาอย่างเชื่องช้าเพื่อทำเหมือนกำลังเขินอายให้สมกับเป็นสตรีทั่วไปเสียหน่อย ทว่าเมื่อได้มองอีกฝ่ายแล้วก็ต้องชะงัก ไม่ทันได้ดึงสายตากลับมาอย่างที่คิดไว้ในใจคราแรก สุดท้ายกลับกลายเป็นเหมือนตนเองตกใจในรูปโฉมของผู้อื่นแทน ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ

'ซีฮันชินอ๋องรูปโฉมงดงามชวนเพ้อฝัน สง่างามยิ่งกว่าเทพเซียนบนแดนสวรรค์ รูปร่างสูงใหญ่องอาจ ความปรีชาเหนือผู้ใดทั้งปวง'

นั่นคือคำเล่าขานที่นางเคยได้ยินมา เรื่องเล่านั้นช่างดูไกลตัวในคราแรก แต่ยามนี้พอได้แย้มยลด้วยตาตนเองก็พบว่า ไม่เกินจริง!

สิ่งที่ทำให้เจียงเยี่ยนฟางกลับมามีสติอีกครั้ง ก็คงจะเป็นสายตาเย้ยหยันของเขาที่มองนางกลับมา

"ขออภัยที่ใบหน้าของหม่อมฉันทำให้ท่านอ๋องทรงรู้สึกไม่สบายพระทัยเพคะ" เจียงเยี่ยนฟางรีบค้นหาผ้าปิดหน้าที่พกมาด้วยมาคลุมไว้ครึ่งหน้า

เป็นผู้ใดได้ยลโฉมนางก็ต้องตกใจกับแก้มที่บวมเป่งเหมือนโดนผึ้งต่อย แม้นในสายตานางถือว่าไม่ถึงขั้นอัปลักษณ์ แต่ก็มิได้น่ามอง ยังดีที่สายตาของเขาเพียงแค่มีความไม่พอใจเล็กน้อยเท่านั้น มิได้ถึงขั้นรังเกียจกัน

"ดื่มสุรามงคลเถิด" ประหนึ่งว่าเซียวลี่หยางมิอยากเสียเวลาเสวนากับนางให้มากความ จึงพูดถึงขั้นตอนต่อไปออกมา แถมยังเบนสายตามองไปทางอื่น

เจียงเยี่ยนฟางรับคำ พลางขยับตัวไปเข็นเก้าอี้รถเข็นพาเขาไปที่โต๊ะอาหาร

ต่อจากนั้นท่านอ๋องผู้สูงศักดิ์ก็เริ่มลงมือรินสุรามงคลให้นางด้วยตนเอง และมิทันรอให้สุราได้กำจายกลิ่นจรุงออกมา เขาก็ทำท่าจะยกจอกสุราของตนเองขึ้นมาแล้ว ดูอย่างไรก็รู้ว่าต้องการรีบเร่งพิธีให้จบอย่างไม่คิดจะปิดบัง หรือแม้แต่คิดจะรักษาน้ำใจนาง

ถึงแม้ใบหน้าของเจียงเยี่ยนฟางจะเรียกได้ว่าสามัญจนแทบจะไม่น่ามอง แต่แววตาคู่ที่อยู่พ้นผ้าปิดหน้าขึ้นมากลับสว่างไสวราวกับแสงดาว ยามนี้ดวงตาคู่นั้นที่กำลังชำเลืองมองจอกสุราก็สั่นไหวเพียงครู่หนึ่ง ก่อนจะปรายตาไปมองมือเรียวยาวของผู้ที่ตนเพิ่งเข้าพิธีมงคลด้วย กำลังยกจอกสุราขึ้นมา

นางก็รีบคว้าจอกสุราของตัวเองตามมาติด ๆ แต่กลับไม่ระวัง ตอนที่กำลังจะยกจอกไปหาอีกฝ่าย มือก็ปัดกาสุราหล่นจากโต๊ะจนตกแตก เสียงเคร้งคร้างของกาสุราที่ทำมาจากหยกชั้นดีก็ดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ แม้นกาหยกจะมีราคาแพง แต่ช่างแสนเปราะบาง เมื่อหล่นลงพื้นก็แตกกระจายไปคนละทิศละทางจนไม่เหลือรูปร่างเดิม

ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันนั้น เพราะความตกใจและมัวแต่หันไปมองตามกาสุราที่หล่นลงไป เจียงเยี่ยนฟางยังเผลอปัดมือไปชนกับมือของเซียวลี่หยางอย่างแรง เป็นผลให้จอกสุราของทั้งคู่หลุดออกจากมือไปพร้อมกัน

"..." เซียวลี่หยาง

เจียงเยี่ยนฟางรีบทรุดตัวนั่งลงหน้ารถเข็น ตัวสั่นงันงก "ขออภัยเพคะ ขออภัยเพคะท่านอ๋อง" นางเอ่ยด้วยเสียงอันสั่นเครือและรวดเร็ว แต่ภายใต้ใบหน้าที่ก้มอยู่ ดวงตากลับมองหาจอกสุราที่หล่นไปเมื่อครู่ว่าแตกไม่เหลือชิ้นดีเช่นกันกับกาสุราแล้วหรือไม่

ก่อนหน้านี้ตอนที่ทำจอกหลุดมือ คราแรกยังคิดว่าท่านอ๋องคงจะอารมณ์เสียใส่นาง เพราะดูจากการกระทำที่ผ่านมาตั้งแต่เจอหน้ากันเขาก็เอาแต่ไม่ชอบใจนาง ยามนี้มันควรจะเป็นอย่างที่นางคาดไว้ แต่เขากลับเพียงแค่ผ่อนลมหายใจแรง ๆ ออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายใจแทน ไม่เหมือนคนในตระกูลของนางที่แม้นจะเป็นตระกูลอันมีชื่อเสียง แต่การกระทำกลับไม่สูงส่งเหมือนคนตรงหน้าแม้แต่น้อย

เจียงเยี่ยนฟางค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นสบตากับคนที่นั่งอยู่สูงกว่า ใบหน้าใต้ผืนผ้าบางนั้นแทบจะร้องไห้อยู่รอมร่อ

"คุณหนูใหญ่เจียง เพียงแค่พิธีง่าย ๆ เจ้าก็ทำให้มันพังลงได้ ช่างมีความสามารถยิ่งนัก" หากแต่เมื่อเขาเอ่ยวาจาแล้วนั้น แม้ไม่ด่าทอทว่ากลับเจ็บแสบยิ่งนัก

คนฟังได้แต่นิ่งงัน ตกอยู่ในสภาพที่ไม่รู้ว่าควรเอ่ยสิ่งใดได้อีก กล่าวเช่นนี้ มิสู้ตบหน้านางเสียยังดีกว่า มิหนำซ้ำอีกฝ่ายยังคงกล่าวต่ออีกว่า

"แม้เจ้าจะถูกส่งไปอยู่บ้านเดิมของมารดาที่ห่างไกล แต่อย่างไรก็ขึ้นชื่อว่าเป็นบุตรสาวของขุนนางชั้นสูงในราชสำนักอยู่ดี อีกทั้งยังได้ตบแต่งมาเป็นเช่อฝูจิ้น [1] ในจวนชินอ๋อง อย่างไรก็ควรวางตัวให้ดีกว่านี้"

"หม่อมฉันทราบแล้วเพคะ ขอท่านอ๋องโปรดอภัย..." เจียงเยี่ยนฟางคลานเข่าเข้าไปเกาะที่หัวเข่าของอีกฝ่าย หยาดน้ำตาเอ่อคลอไปทั่วดวงตาคู่สวยจนดูน่าเวทนา

"ข้าขอเตือนเจ้า..." เซียวลู่หยางใช้มือบีบแก้มชายารองคนใหม่ของตนแน่น บังคับให้นางเชิดหน้าขึ้นมาสบตาตนเอง ไม่สนว่าอีกฝ่ายอยู่ในอาการหวาดกลัวตนเอง จนมือที่กำลังเกาะอยู่บนหัวเข่าของเขาจะสั่นเพียงไร นางก็แค่หมากตัวหนึ่งที่จะต้องกำจัดทิ้งในสักวัน ไม่ต้องให้เขานำมาใส่ใจ


[1] เช่อฝูจิ้น คือ ตำแหน่งพระชายารองของชินอ๋อง มีได้ทั้งหมดสี่คน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 17.4 นางไหนจะเกรงกลัวผู้ใด

    ยามนี้ผ่านไปนานเกือบสิบเอ็ดปี จดหมายฉบับแรกนอกเหนือจากเงินที่เขาส่งมาให้ ก็คือเรียกข้ากลับไปแต่งงาน แต่ข้าไม่อยากแต่ง ข้ามีคนที่ข้ารัก...คนผู้นั้นเป็นเหมือนดั่งพี่ชายของข้า เป็นเหมือนดั่งสหายของข้า พวกเราเจอกันตั้งแต่ข้าอยู่ที่เมืองหลวง จนข้าจากไปไกลจึงทำได้เพียงเขียนจดหมายกลับไปหาเขา นับแต่นั้นมา ก็มีเขาที่ยังคอยห่วงหาข้าตลอด เราให้สัญญากัน ข้าเองก็รับปากแล้วว่าจะเป็นภรรยาของเขา" เวลามีเรื่องคิดไม่ตก เจียงเยี่ยนฟางมักจะติดนิสัยเดิม โดยชอบหยิบผ้าผูกผมที่ป้าซูทำให้มาจับเล่นอย่างเผลอตัว ในตอนนี้เองก็เช่นกันเสวี่ยหว่านมองตามมือของนางไปก็พบว่าสิ่งที่นางจับอยู่คือผ้าผูกผมรูปดอกไม้ที่มีปักลายเฉพาะ ผ้าผูกผมชิ้นนั้นดูไม่เข้ากับชุดที่เจียงเยี่ยนฟางขอสลับของนางไปใส่แม้แต่น้อย จังหวะต่อมาจึงเงยหน้าสบตาอีกฝ่ายแล้วถาม "...แล้วคนผู้นั้นตอนนี้เขารู้หรือไม่ว่าท่านกำลังจะไปแต่งงาน"เสวี่ยหว่านเป็นหมอยาพิษ การทำงานในจุดนี้ของนางย่อมพบเจอคนตายมาไม่น้อย จิตใจนับว่าด้านชาจนแทบไร้ความรู้สึก ยิ่งไม่สนใจเรื่องความรัก ยิ่งเมื่อได้ฟังก็เกิดสับสน บุรุษผู้นั้นดูแล้วน่าจะไม่ใช่คนธรรมดาที่สามารถเข้าออกจวนขุนนางจ

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 17.3 เรื่องราวของจุดเริ่มต้น

    เรื่องนี้เป็นความลับของนาง แต่ก็ไม่คิดจะปิดบังคนที่ช่วยชีวิตตนเองไว้ อีกทั้งนางก็ทะนงตนว่า สตรีตัวเล็กเช่นคนตรงหน้าไม่มีทางทำอะไรตนเองได้ หรือต่อให้อีกฝ่ายเอาเรื่องนางไปป่าวประกาศบอกผู้อื่นจนนางเดือดร้อน นางก็คิดว่านางสามารถแบกรับไหว"!!!" สองคนในรถม้าต่างตกใจ คนที่จะทำงานด้านนี้ได้มือต้องแปดเปื้อนมาไม่น้อย แต่สตรีตรงหน้าถึงจะไม่ค่อยยิ้ม ใบหน้าเรียบนิ่ง แต่น้ำเสียงกลับน่าฟัง ท่าทางไม่ถึงขั้นอ่อนหวานเหมือนสตรีที่ได้รับการอบรม แต่ท่าทางก็ดูนุ่มนวลไม่หยาบกระด้าง การพูดการจาก็ดูมีมารยาทไม่ทำตัวโผงผาง หากบอกว่าเป็นบุตรสาวตระกูลร่ำรวยพวกนางก็เชื่อ ไหนเลยจะถูกอีกฝ่ายใช้รูปลักษณ์ภายนอกมาตบตาเข้าให้แล้ว"คุณหนูทั้งสองไม่ต้องตกใจไป ผู้ที่มีบุญคุณ เสวี่ยหว่านผู้นี้ ย่อมไม่คิดร้ายด้วย อีกทั้งก็เป็นเพียงผู้ทำยาพิษและยาแก้พิษ ไม่ใช่ผู้ใช้พิษเสียหน่อย" เรื่องหลังนั้น... แน่นอนว่า ย่อมโกหกไปเจ็ดส่วน!อีกสองสามวันต่อมา เสวี่ยหว่านผู้นี้ก็ไม่ยอมจากไปเสียที จนซูเจียวเริ่มทนไม่ไหว ในตอนที่อยู่บนรถม้าก่อนจะลงไปเช่าโรงเตี๊ยมในหมู่บ้านกวนพักผ่อน นางก็เอ่ยปากถามด้วยตนเอง"พี่เสวี่ยหว่าน ท่านคิดจะไปที่ใดกันแน

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 17.2 บุญคุณครั้งเดียว จดจำจนตาย

    "เป็นคน เมื่อครู่ ข้ามั่นใจ!" เจียงเยี่ยนฟางตะโกนบอกไประหว่างทาง ดวงตาจ้องมองมือที่โผล่ขึ้นเหนือน้ำเพียงสองครั้งแล้วจมหายไป แต่ใต้ผืนน้ำที่ไหลแรงก็ยังพอมองเห็นเงาร่างสีม่วงเข้มได้เลือนราง"คน? คนอะไรไปอยู่... ไม่ ๆ ๆ คนที่ไหนจะโดนน้ำพัดขนาดนี้แล้วยังรอด คุณหนู อย่า ไม่!" ซูเจียวเพิ่งจะรู้สึกไปเมื่อครู่เองว่า สายน้ำเส้นนี้นั้นไหลแรงเกินไปจนน่ากลัวไม่อยากเข้าใกล้ และไม่อยากแม้แต่จะข้ามสะพานไม้นั้นอีกรอบอยู่เลย แต่คุณหนูของนางพูดแค่ 'เป็นคน' แล้วก็กระโจนลงน้ำไปได้อย่างไร!ซูเจียววิ่งตามไปหยุดอยู่ตรงจุดที่เจียงเยี่ยนฟางเพิ่งจะกระโดดลงไปเมื่อครู่ "คุณหนู คุณหนู!" นางตะโกนหาอีกฝ่ายพร้อมดวงตาก็กวาดมองไปทั่วผืนน้ำ หัวใจเต้นไม่หยุดด้วยความกลัว ถึงแม้นางจะบอกว่าตนไม่ค่อยชอบเจียงเยี่ยนฟางเพราะรู้สึกว่าตนอยู่ต่ำกว่าเสมอ แต่เมื่อถึงเวลาคับขันแห่งความเป็นความตาย นางกลับรู้สึกเป็นห่วงคนที่โตมาด้วยกันอย่างน่าประหลาดซูเจียวถอดรองเท้าและเสื้อตัวนอกออก หวังกระโดดลงน้ำไปดึงเจียงเยี่ยนฟางขึ้นมา ในระหว่างที่กำลังถอดเสื้อตัวนอกออกอยู่นั้น ก็ไม่หยุดสายตาสอดส่องมองหาคนไปทั่วผืนน้ำแต่ไม่ทันที่นางจะกระโดดลงไป

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 17.1 เรื่องราวเมื่อเดือนก่อน

    บทที่ 17วาสนาได้พานพบผู้มีบุญคุณเพียงชั่วครู่สารทฤดูเริ่มต้นไปได้ครึ่งทางแล้ว ใบไม้รอบด้านเริ่มเปลี่ยนสียามเมื่อออกเดินทางเวลานี้ ถือว่าเป็นผลพลอยได้ที่จะได้ชื่นชมธรรมชาติไปในตัวแต่คนบนรถม้าคันหนึ่งที่กำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงกลับดูเป็นกังวลไม่น้อย"คุณหนู ท่านจะแต่งเข้าจวนอ๋องจริงหรือเจ้าคะ" ซูเจียวนั่งอยู่บนพื้นของรถม้าก็เอ่ยถามสตรีอีกคนที่นั่งอยู่บนเบาะ ที่ผ่านมาตัวนางถูกเลี้ยงดูมากับสตรีตรงหน้า อยู่ด้วยกันในบ้านหลังเล็กที่เมืองลี่เจียง ดุจดั่งเป็นครอบครัวเดียวกันทว่าตั้งแต่เยาว์วัย มารดาของนางชอบบังคับให้นางเรียกอีกฝ่ายว่าคุณหนูอยู่ตลอด คราแรกนางไม่เข้าใจ และทุกครั้งที่ตีตัวเสมอเจียงเยี่ยนฟาง นางก็จะถูกมารดาดุด่าเป็นประจำ ตักเตือนให้นางนอบน้อมกับเจียงเยี่ยนฟางให้มากหน่อย นางก็ต้องทำโดยไม่สามารถอิดออดได้ ทั้งที่เจียงเยี่ยนฟางก็ถูกมารดาใช้งานหนักพอ ๆ กัน ไม่เคยปล่อยปละละเลยให้อีกฝ่ายทำเพียงแค่นอนและกินเหมือนคุณหนูจริง ๆ ต่างต้องทำงานทุกอย่างให้เป็นกระทั่งไม่กี่วันก่อนคุณหนูของนางได้รับจดหมายจากบิดาที่ทอดทิ้งตัวเองไปนาน เรียกตัวกลับเมืองหลวงเพื่อแต่งงานเข้าจวนชินอ๋อง!ชินอ๋อง

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 16.3 + บทที่ 16.4 มีผู้บุกรุก+ผู้เกรียงไกรก็มีวันล้มเป็น

    เจียงเยี่ยนฟางกลับมายังร้านน้ำชาอีกครั้งพร้อมถุงซาลาเปาในมือ คนที่รอนางอยู่ก็ได้ย้ายตัวเองไปบนรถม้าอยู่ก่อนแล้ว พอนางมาถึง บรรยากาศก็ผิดแผกไปอย่างเห็นได้ชัด เซียวลี่หยางไม่พูดไม่จาอันใดแม้ครึ่งคำแต่...ไม่พูดไม่จาก็แล้วไปเถิด นางอาจมาช้าทำให้เขารอนานจนเกิดไม่พอใจขึ้นมา เรื่องนั้นก็พอเข้าใจได้ ทว่าแววตารังเกียจที่เหมือนคราแรกพานพบกันในห้องหอนั้น กลับมาปรากฏบนสายตาเขาอีกครั้งนี่สิ นางถึงได้รู้สึกแปลกใจขึ้นมาคนผู้นี้เช้าเป็นอย่าง ดวงตะวันคล้อยบ่ายก็เป็นอีกอย่าง นางคาดเดาเขาไม่ได้เลยยามเมื่อเดินทางกลับมาถึงจวนแล้ว คนในรถม้าที่นั่งมากับนางนานสองนานก็ไม่รอให้นางออกไปก่อน เขารีบเรียกหงเปามาพาตัวเองเข็นรถลงไปทันทีที่รถม้าหยุดลง ประหนึ่งว่าไม่อยากใช้ลมหายใจในรถม้าร่วมกับนางนานกว่านี้ จึงทิ้งนางไว้เบื้องหลังไม่ใส่ใจ"เมื่อเช้ายังไปด้วยกันดี ๆ อยู่เลย ยามนี้ท่านอ๋องเหมือนจะกำลังไม่พอใจอยู่..." สาวใช้ที่อยู่ไม่ไกลก็พากันซุบซิบนินทา คิดว่าระยะขนาดนี้พระชายาเจียงน่าจะไม่ได้ยิน"แปลกอันใดกัน ที่ผ่านมาท่านอ๋องกับพระชายากู่ที่มักตัวติดกันตลอด แต่ท่านอ๋องก็นิ่งสงบปานท่อนไม้ขนาดนั้น ดูอย่างไรก็ไม่เหม

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 16.2 ช่างน่ารังเกียจเกินไปแล้ว!

    "เร็วหน่อยก็ดี แล้วเร็วที่สุดของเถ้าแก่ราวกี่วัน""สองชิ้นก็เจ็ดวัน ข้าจะหาช่างฝีมือสองคนทำก็แล้วกัน จะได้รอไม่นานเกินนี้""เงินในถุงพอค่ามัดจำหรือไม่" เจียงเยี่ยนฟางหันมองถุงเงินที่หายไปอยู่ในมือเถ้าแก่ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้"พอ ๆ ๆ ๆ แม่นาง...อยากเน้นส่วนไหนเป็นพิเศษ แจ้งมาได้เลย" เถ้าแก่พอได้จับถุงเงินแล้วก็อารมณ์ดีขึ้นอีกห้าส่วน ดวงตาสะท้อนไปด้วยเงินทองอยู่ภายใน"เถ้าแก่จัดการได้เลย อีกเจ็ดวันข้าจะมารับ" เจียงเยี่ยนฟางกล่าวเสร็จก็เตรียมจากไป"แม่นางเดินทางปลอดภัย" เถ้าแก่ร้านมีท่าทีกระตือรือร้นกว่าตอนแรกที่เจียงเยี่ยนฟางเข้ามามากนัก ถึงขั้นเดินออกมาส่งด้วยตัวเองเจียงเยี่ยนฟางพอออกมาจากร้านเครื่องประดับแล้วก็ยังคงแวะไปอีกหลายแห่งเพื่อสั่งของที่นางอยากได้ กระทั่งมาหยุดยืนอยู่หน้าร้านขายเครื่องประดับแผงลอยข้างทางร้านหนึ่ง เป็นร้านเล็ก ๆ ที่เน้นไปทางเชือกผูกผมกับปิ่นที่ทำมาจากไม้ หากแต่สิ่งที่สะดุดตานางมากที่สุดไม่ใช่ผ้าไหมซึ่งถูกทออย่างประณีต แต่เป็นลายปักบนผ้าผูกผมอันแสนคุ้นตานั่นต่างหาก"คุณหนู สนใจผ้าผูกผมสักชิ้นหรือไม่ ลองดูก่อนได้ ไม่เสียหายอะไร"เจียงเยี่ยนฟางเงยหน้าขึ้นสบตาแม่ค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status