Home / รักโบราณ / สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ / บทที่ 1.2 ทำตัวให้เหมือนคนไร้ตัวตน

Share

บทที่ 1.2 ทำตัวให้เหมือนคนไร้ตัวตน

last update Last Updated: 2025-05-28 09:22:58

กึก

เจียงเยี่ยนฟางแทบจะได้ยินเสียงฟันของตัวเองที่ขบกันจนเกือบแตก! แต่นางก็ประคองสติไว้ได้เมื่อนึกถึงสิ่งที่ตัวเองต้องทำให้สำเร็จ "ขออภัยเพคะท่านอ๋อง เป็นหม่อมฉันเลินเล่อเอง"

ร่างสูงในชุดเจ้าสาวสีแดงขยับเข้าใกล้เขาอีกนิด

"ยืนตรงหน้าข้า" เขาเอ่ยอย่างเหนื่อยหน่าย "ตระกูลเจียงไม่สอนแม้กระทั่งพิธี?!"

คำก็ตระกูลเจียง สองคำก็ตระกูลเจียง! นางจะอดทนไปได้สักกี่น้ำเชียว เพียงเพราะชอบสตรีผู้นั้นอยู่ก่อนแล้วและไม่ได้อยากแต่งงาน เหตุใดจึงดูจงเกลียดจงชังไปถึงตระกูลเจียงด้วย

เจียงเยี่ยนฟางเลือกที่จะทิ้งคำถามมากมายไว้ในใจ ก้าวเท้ากลับไปยืนตรงหน้าเขา ก่อนจะถูกดึงผ้าคลุมหน้าออก นางอดแปลกใจมิได้ ตัวนางเป็นสตรีร่างสูงพอ ๆ กับบุรุษ ไหนจะเครื่องประดับบนหัวที่สูงเกินหนึ่งฝ่ามือ แต่ผู้ที่เพิ่งกราบฟ้าดินกับนางมาซึ่งต้องนั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็นตลอด กลับสามารถตวัดผ้าออกจากศีรษะของนางที่ยืนเต็มความสูงได้อย่างง่ายได้

ชั่วลมหายใจนั้น นางก้มตาลงต่ำ แล้วคิดว่าเดี๋ยวค่อย ๆ ช้อนตาขึ้นมองหน้าเขาอย่างเชื่องช้าเพื่อทำเหมือนกำลังเขินอายให้สมกับเป็นสตรีทั่วไปเสียหน่อย ทว่าเมื่อได้มองอีกฝ่ายแล้วก็ต้องชะงัก ไม่ทันได้ดึงสายตากลับมาอย่างที่คิดไว้ในใจคราแรก สุดท้ายกลับกลายเป็นเหมือนตนเองตกใจในรูปโฉมของผู้อื่นแทน ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ

'ซีฮันชินอ๋องรูปโฉมงดงามชวนเพ้อฝัน สง่างามยิ่งกว่าเทพเซียนบนแดนสวรรค์ รูปร่างสูงใหญ่องอาจ ความปรีชาเหนือผู้ใดทั้งปวง'

นั่นคือคำเล่าขานที่นางเคยได้ยินมา เรื่องเล่านั้นช่างดูไกลตัวในคราแรก แต่ยามนี้พอได้แย้มยลด้วยตาตนเองก็พบว่า ไม่เกินจริง!

สิ่งที่ทำให้เจียงเยี่ยนฟางกลับมามีสติอีกครั้ง ก็คงจะเป็นสายตาเย้ยหยันของเขาที่มองนางกลับมา

"ขออภัยที่ใบหน้าของหม่อมฉันทำให้ท่านอ๋องทรงรู้สึกไม่สบายพระทัยเพคะ" เจียงเยี่ยนฟางรีบค้นหาผ้าปิดหน้าที่พกมาด้วยมาคลุมไว้ครึ่งหน้า

เป็นผู้ใดได้ยลโฉมนางก็ต้องตกใจกับแก้มที่บวมเป่งเหมือนโดนผึ้งต่อย แม้นในสายตานางถือว่าไม่ถึงขั้นอัปลักษณ์ แต่ก็มิได้น่ามอง ยังดีที่สายตาของเขาเพียงแค่มีความไม่พอใจเล็กน้อยเท่านั้น มิได้ถึงขั้นรังเกียจกัน

"ดื่มสุรามงคลเถิด" ประหนึ่งว่าเซียวลี่หยางมิอยากเสียเวลาเสวนากับนางให้มากความ จึงพูดถึงขั้นตอนต่อไปออกมา แถมยังเบนสายตามองไปทางอื่น

เจียงเยี่ยนฟางรับคำ พลางขยับตัวไปเข็นเก้าอี้รถเข็นพาเขาไปที่โต๊ะอาหาร

ต่อจากนั้นท่านอ๋องผู้สูงศักดิ์ก็เริ่มลงมือรินสุรามงคลให้นางด้วยตนเอง และมิทันรอให้สุราได้กำจายกลิ่นจรุงออกมา เขาก็ทำท่าจะยกจอกสุราของตนเองขึ้นมาแล้ว ดูอย่างไรก็รู้ว่าต้องการรีบเร่งพิธีให้จบอย่างไม่คิดจะปิดบัง หรือแม้แต่คิดจะรักษาน้ำใจนาง

ถึงแม้ใบหน้าของเจียงเยี่ยนฟางจะเรียกได้ว่าสามัญจนแทบจะไม่น่ามอง แต่แววตาคู่ที่อยู่พ้นผ้าปิดหน้าขึ้นมากลับสว่างไสวราวกับแสงดาว ยามนี้ดวงตาคู่นั้นที่กำลังชำเลืองมองจอกสุราก็สั่นไหวเพียงครู่หนึ่ง ก่อนจะปรายตาไปมองมือเรียวยาวของผู้ที่ตนเพิ่งเข้าพิธีมงคลด้วย กำลังยกจอกสุราขึ้นมา

นางก็รีบคว้าจอกสุราของตัวเองตามมาติด ๆ แต่กลับไม่ระวัง ตอนที่กำลังจะยกจอกไปหาอีกฝ่าย มือก็ปัดกาสุราหล่นจากโต๊ะจนตกแตก เสียงเคร้งคร้างของกาสุราที่ทำมาจากหยกชั้นดีก็ดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ แม้นกาหยกจะมีราคาแพง แต่ช่างแสนเปราะบาง เมื่อหล่นลงพื้นก็แตกกระจายไปคนละทิศละทางจนไม่เหลือรูปร่างเดิม

ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันนั้น เพราะความตกใจและมัวแต่หันไปมองตามกาสุราที่หล่นลงไป เจียงเยี่ยนฟางยังเผลอปัดมือไปชนกับมือของเซียวลี่หยางอย่างแรง เป็นผลให้จอกสุราของทั้งคู่หลุดออกจากมือไปพร้อมกัน

"..." เซียวลี่หยาง

เจียงเยี่ยนฟางรีบทรุดตัวนั่งลงหน้ารถเข็น ตัวสั่นงันงก "ขออภัยเพคะ ขออภัยเพคะท่านอ๋อง" นางเอ่ยด้วยเสียงอันสั่นเครือและรวดเร็ว แต่ภายใต้ใบหน้าที่ก้มอยู่ ดวงตากลับมองหาจอกสุราที่หล่นไปเมื่อครู่ว่าแตกไม่เหลือชิ้นดีเช่นกันกับกาสุราแล้วหรือไม่

ก่อนหน้านี้ตอนที่ทำจอกหลุดมือ คราแรกยังคิดว่าท่านอ๋องคงจะอารมณ์เสียใส่นาง เพราะดูจากการกระทำที่ผ่านมาตั้งแต่เจอหน้ากันเขาก็เอาแต่ไม่ชอบใจนาง ยามนี้มันควรจะเป็นอย่างที่นางคาดไว้ แต่เขากลับเพียงแค่ผ่อนลมหายใจแรง ๆ ออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายใจแทน ไม่เหมือนคนในตระกูลของนางที่แม้นจะเป็นตระกูลอันมีชื่อเสียง แต่การกระทำกลับไม่สูงส่งเหมือนคนตรงหน้าแม้แต่น้อย

เจียงเยี่ยนฟางค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นสบตากับคนที่นั่งอยู่สูงกว่า ใบหน้าใต้ผืนผ้าบางนั้นแทบจะร้องไห้อยู่รอมร่อ

"คุณหนูใหญ่เจียง เพียงแค่พิธีง่าย ๆ เจ้าก็ทำให้มันพังลงได้ ช่างมีความสามารถยิ่งนัก" หากแต่เมื่อเขาเอ่ยวาจาแล้วนั้น แม้ไม่ด่าทอทว่ากลับเจ็บแสบยิ่งนัก

คนฟังได้แต่นิ่งงัน ตกอยู่ในสภาพที่ไม่รู้ว่าควรเอ่ยสิ่งใดได้อีก กล่าวเช่นนี้ มิสู้ตบหน้านางเสียยังดีกว่า มิหนำซ้ำอีกฝ่ายยังคงกล่าวต่ออีกว่า

"แม้เจ้าจะถูกส่งไปอยู่บ้านเดิมของมารดาที่ห่างไกล แต่อย่างไรก็ขึ้นชื่อว่าเป็นบุตรสาวของขุนนางชั้นสูงในราชสำนักอยู่ดี อีกทั้งยังได้ตบแต่งมาเป็นเช่อฝูจิ้น [1] ในจวนชินอ๋อง อย่างไรก็ควรวางตัวให้ดีกว่านี้"

"หม่อมฉันทราบแล้วเพคะ ขอท่านอ๋องโปรดอภัย..." เจียงเยี่ยนฟางคลานเข่าเข้าไปเกาะที่หัวเข่าของอีกฝ่าย หยาดน้ำตาเอ่อคลอไปทั่วดวงตาคู่สวยจนดูน่าเวทนา

"ข้าขอเตือนเจ้า..." เซียวลู่หยางใช้มือบีบแก้มชายารองคนใหม่ของตนแน่น บังคับให้นางเชิดหน้าขึ้นมาสบตาตนเอง ไม่สนว่าอีกฝ่ายอยู่ในอาการหวาดกลัวตนเอง จนมือที่กำลังเกาะอยู่บนหัวเข่าของเขาจะสั่นเพียงไร นางก็แค่หมากตัวหนึ่งที่จะต้องกำจัดทิ้งในสักวัน ไม่ต้องให้เขานำมาใส่ใจ


[1] เช่อฝูจิ้น คือ ตำแหน่งพระชายารองของชินอ๋อง มีได้ทั้งหมดสี่คน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทส่งท้าย

    บทส่งท้ายในอ่างน้ำสววรค์เบื้องหน้า สะท้อนภาพของคนสองคนที่เดินเคียงคู่กัน ความรู้สึกที่ไม่ควรเกิดขึ้นก็หวนกลับมาอีกครั้ง"ท่านเทพจันทรา[1] ยังตัดใจไม่ได้อีกหรือ รึเป็นเพราะเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่ ความรู้สึกจึงยังคงอยู่" ซื่อหมิงซิงจวิน[2]ยืนซ้อนอยู่ที่ด้านหลังของเทพแห่งจันทรา เมื่อเขารู้ว่าอีก‍ฝ่ายได้ผ่านเคราะห์รักมาแล้ว และกลับมาจุติบนสวรรค์อีกครั้ง เขาก็รีบมาหา หวังมาเยี่ยมสหายเก่าเสียหน่อย แต่ไม่คิดว่าภาพที่ตนเห็นจะเป็นแผ่นหลังของสหายที่ดูอาลัยอาวรณ์ภาพในแอ่งน้ำสะท้อนชีวิตของมนุษย์ไม่น้อย เดาว่าการผ่านเคราะห์ครั้งนี้ของเจ้าตัวคงสาหัสเอาการโลกสวรรค์และโลกมนุษย์เวลาไม่เหมือนกัน เทพจันทราเพิ่งตายไปในร่างมนุษย์เมื่อครู่ แต่พอจุติบนสวรรค์อีกครา ที่โลกมนุษย์ก็ผ่านไปหลายเดือนแล้วเทพแห่งจันทราที่ถูกทักก็วาดมือผ่านอ่างน้ำสวรรค์ ปิดภาพของเจ้านายเก่าของตนทิ้งไป เตรียมจะเดินหนีสหายเก่า ทั้งที่ไม่เจอกันเพียงไม่กี่วันบนสวรรค์ แต่เพราะในโลกมนุษย์ยาวนานถึงยี่สิบกว่าปี เขาจึงยังรู้สึกไม่สนิทกับสหายเท่าเมื่อก่อน คิดว่าคงต้องใช้เวลาอีกสักพักตอนแรกเขายอมรับว่าตนยังห่วงหาสตรีผู้นั้นอยู่ อยากรู้ว่าหลั

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   ตอนพิเศษ 9

    ตอนพิเศษ 9รัชศกต้าเหนิง ปีที่ เก้า ราชวงศ์เซียวย่างเข้าวสันตฤดูแล้ว ในจวนที่ปลูกดอกไม้หลากหลายชนิด รวมถึงสมุนไพรมากมาย แทนที่จะมีกลิ่นหอมพาให้ผู้คนหลงใหลกลับมีกลิ่นเหม็นไหม้คละคลุ้งไปทั่วจวน"นายหญิง" เติ้ง‍อู๋เห็น‌นายหญิงท่าทางรีบร้อนเดินตรงไปหากลิ่นเหม็นไหม้ก็รีบดักทางไว้ นายหญิงของเขากำลังตั้งท้องเจ้านายตัวน้อยคนที่สามอยู่ ไม่ควรเข้าใกล้กลิ่นควันมากเกินไป หลังจากนี้คงต้องอาจหาญตักเตือนคนก่อควันสักหน่อย"เกิดอะไรขึ้น ข้าได้กลิ่นไหม้" ‌เสวี่ย‍หว่านชะเง้อหัวมองผ่านแขนเติ้งอู๋ไป พบว่าครัวด้านหลังจวนกำลังมีควันมากมายพวยพุ่งออกมา มิหนำซ้ำภายในควันนั้นก็มีร่างเล็กของเด็กชายวิ่งหนีตายออกมาด้วย"ท่านแม่" เด็กชายวัยหกขวบยกมือปิดปากแน่น ครั้นได้เจอผู้เป็นมารดาก็รีบวิ่งเข้ามาหาหน้าตื่น"เสี่ยวหลิวเจ้าทำอะไรอยู่ในครัว? น้องรองของเจ้าอยู่ที่ใดเล่า!?" ‌เสวี่ย‍หว่านรีบจับบุตรชายที่วิ่งมากอดตนไว้แน่นออกมาตรวจดูตามตัว ครั้นพบว่าไม่เจอบาดแผลก็เบาใจไป แต่ปกติเด็กคนนี้จะตัวติดกับน้องชายวัยสี่ขวบของตนเองเสมอ เวลานี้เอาน้องไปทิ้งไว้ที่ใดแล้ว!"แค่ก ๆ ข้าเปล่า ข้าไม่ได้ทำอันใดนะท่านแม่ ส่วนน้องรองแม่นมฉ

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   ตอนพิเศษ 8

    ตอนพิเศษ 8รัชศกต้าเหนิง[1] ปีที่ 3 ราชวงศ์เซียวในเมืองลั่ว จู่ ๆ ก็มีการปรากฏตัวของตระกูลเศรษฐีไร้ชื่อผู้หนึ่งขึ้นมา ไม่มีใครเคยเห็นคนด้านในจวนแห่งนี้เข้าออก หรือควรบอกว่า เป็นเพราะจวนตั้งอยู่ห่างไกลบ้านคนกันแน่ ทำให้ชาวบ้านแทบจะไม่เคยมีใครได้เห็นเจ้าของจวนแห่งนี้เลยแม้นก่อนหน้านี้จะมีคนงานในเมืองถูกเกณฑ์ไปสร้างเรือนอยู่นานร่วมหกเดือน แต่พวกเขากลับไม่เคยรู้ว่าผู้ว่าจ้างเป็นใคร มีเพียงเงินค่าจ้างที่ถูกนำมาวางไว้ให้ในแต่ละรอบเท่านั้นบรรดาคนงานก็บอกเพียงแค่ว่า พื้นที่โดยรอบที่ถูกปลูกต้นไม้ปิดบังเรือนไว้ ต่างก็ถูกเจ้าของจวนแห่งนี้กว้านซื้อไปจนหมดแล้วก็เท่านั้น นั่นทำให้ไม่ว่าผู้คนจะอยากรู้มากเพียงใด ก็เข้าไปใกล้ได้แค่ครึ่งทางของต้นไม้ด้านหน้า...กระทั่งล่วงเลยไปอีกหลายสิบปีก็ไม่มีใครเคยได้รู้ว่าเจ้าของจวนแห่งนั้นคือผู้ใดและตกดึกคืนนี้ ในเมืองลั่วก็มีการจัดงานเทศกาลลอยโคมขึ้นมาเซียว‍ลี่‍หยางจึงชวนเสวี่ย‍หว่านออกมาเดินเล่นในงานเทศกาลด้วยกันภายในงานเริ่มแรกจะมีแห่ขบวนโคมไฟที่ทำเป็นรูปมังกรและสิงโต เซียว‍ลี่‍หยางที่รู้ว่ามีขั้นตอนอะไรบ้าง จึงพาเสวี่ย‍หว่านขึ้นมานั่งรอชมขบวนแห่อยู่บนชั้

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   ตอนพิเศษ 7

    ตอนพิเศษ 7วสันตฤดูปีต่อมา ด้วยเพราะเติ้งอู๋ทำทางขึ้นภูเขาให้ใหม่แล้ว เวลานี้เขาก็ลงไปนำม้าของตนและของเจ้านายกลับขึ้นมาอยู่บนภูเขาด้วยกันเสวี่ย‍หว่านที่หูดีกว่าเซียว‍ลี่‍หยางก็ได้ยินเสียงเท้าของม้ามาตั้งแต่ไกล ๆ แล้ว จึงวิ่งออกไปรอที่หน้ารั้ว เมื่อเช้านางแอบเตรียมขนมไว้กินเล่นในตอนที่เซียว‍ลี่‍หยางไปซักผ้าที่ลำ‍ธาร เพราะคิดว่าวันนี้จะชวนเซียว‍ลี่‍หยางไปหานั่งกินขนมที่อีกฟากของภูเขาด้วยกันมือเรียวหยิบนกหวีดที่พกไว้ออกมาเป่า เรียกม้าประจำตัวของเซียว‍ลี่‍หยางให้รีบวิ่งมาหาอาชาสีขาวเมื่อสะบัดหลุดจากมือของเติ้งอู๋ได้ ก็รีบห้อตะบึงมาทางนางเช่นเดียวกัน มันจำได้ว่าสตรีผู้นี้ชอบเอาผลไม้มาให้มันกินบ่อย ๆ ตอนที่มันถูกเจ้านายฝากไว้ที่คอกม้าในหมู่บ้านข้างล่าง ตอนนี้ก็นับว่าสตรีคนนี้เป็นเจ้านายอีกคนไปแล้ว"หว่านหว่านระวัง!" เซียว‍ลี่‍หยางได้ยินเสียงนกหวีดก็ทิ้งฉู‍โถว[1]ที่อยู่ในมือ แล้วรีบวิ่งมาหาภรรยาที่หน้ารั้วไม้ ตอนนั้นก็เห็นว่าม้าของตัวเองพุ่งทะยานเข้ามา ทว่าเขาช้าไปหนึ่งก้าว ม้าของเขากำลังจะเหยียบภรรยาเข้าให้แล้ว ด้วยคิดว่าม้าของตนกำลังจะทำร้ายภรรยา หัวใจก็ดิ่งวูบราวกับไม่เคยเต้นมาก่อนแต่

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   ตอนพิเศษ 6

    ตอนพิเศษ 6เติ้ง‍อู๋จากไปคราวนี้ หวนกลับมาอีกคราก็เป็นตอนที่ต้นอ่อนของต้นมะเขือเทศที่‌เซียว‍ลี่‍หยางปลูกไว้เริ่มโตจนใกล้ออกดอกได้แล้วอีก‍ฝ่ายกลับมาถึงพร้อมกับหิมะที่ปกคลุมอยู่ทั่วศีรษะและหัวไหล่ของเขา ดูท่าแล้วอากาศข้างนอกภูเขาคงจะเข้าสู่เหมันต์ฤดูเต็มตัวแล้วแต่ตอนที่มาถึง ในตัวของเขาก็ดูเหมือนไม่ได้จะพกงูชนิดที่ตามหามาด้วยเลย‌เสวี่ย‍หว่านรีบเดินไปต้มชาร้อน ‍ๆ มาให้เขาดื่มก่อนเป็นอย่างแรก ยามนี้ด้านในกระท่อมฝั่งที่เคยเป็นครัวและพังไปในครั้งแรกก็ถูกซ่อมแซมใหม่แล้ว แต่‌เสวี่ย‍หว่านไม่ได้ย้ายครัวกลับเข้ามา เพียงทำเป็นที่ชงชาและไว้เก็บขนมเท่านั้น เผื่อตอนดึกเวลาหิวจะได้ไม่ต้องเดินออกจากตัวเรือนไปต้มน้ำร้อนแถมไม่นานมานี้ ก็ยังได้จ้างช่างมาทำชุดโต๊ะนั่งเล่นสำหรับใช้นั่งดื่มน้ำชาไว้ในส่วนของตรงนี้เพิ่มด้วย และไม่ลืมที่จะเพิ่มเก้าอี้เป็นสามที่นั่ง เวลานี้จึงมีที่นั่งเพียงพอสำหรับสามคนพอดีเสวี่ย‍หว่านเพิ่งจะเทน้ำร้อนใส่ใบชา ‌เซียว‍ลี่‍หยางก็มาขอรับช่วงต่อแทน นางจึงเดินกลับไปนั่งรอที่โต๊ะซึ่งอยู่ห่างกันไม่เกินสามก้าวจากที่ชงชา"เจ้าไม่ได้นำงูมาด้วย" เสวี่ย‍หว่านยังคงไม่อ้อมค้อมเช่นเคย"ขอร

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   ตอนพิเศษ 5

    ตอนพิเศษ 5เติ้ง‍อู๋จากไปเมื่อคืน แต่เมื่อดวงอาทิตย์สาดส่องที่ผืนดินอีกครั้ง เขาก็วนกลับมาอีกรอบ เมื่อวานเขาถูกเจ้านายสั่งให้ไปจับงูพิษและหาข้อมูลมาให้‌นายหญิงโดยไม่ต้องบอกเจ้าตัว แต่เขาก็เพิ่งจะนึกได้ว่าอีก‍ฝ่ายวานให้เขานำของไปมอบให้ตระกูลหงด้วยหากจะลงเขาไป ในตอนนั้นเขาปิดบังท่าน‍อ๋อง ช่วยนายหญิงทำเรื่องมากมายโดยไม่รายงานผู้เป็นนาย ครั้งนี้จึงต้องการไถ่โทษ จะบอกว่าเขาเป็นคนทรยศก็ได้ เพราะเขาก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน "ข้านึกว่าเจ้าจะจากไปโดยไม่บอกข้าเสียอีก" ‌เสวี่ย‍หว่านที่กำลังยืนรดน้ำใส่แปลงผักที่สามีเพิ่งปลูกไปเมื่อวาน ก็เอ่ยทักโดยไม่หันไปมอง "ข้ากลับมาเอาของที่ท่านบอกจะมอบให้ตระกูลหง"‌เสวี่ย‍หว่านหยิบไม้แกะสลักที่มีชื่อตัวเองมอบให้เติ้ง‍อู๋ไป ก่อนจะมอบขวดยาขวดหนึ่งให้เขาด้วย "ขวดยาเป็นของเจ้า" เห็นเขารับไปแล้วมองนางด้วยความสงสัยนางก็เอ่ยว่า "ข้าคิดว่าจะไว้ใจเจ้าได้เสียอีก"เติ้ง‍อู๋รีบคุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้น มือทุบอกก้มหน้าลงต่ำ เขาถูกจับได้เสียแล้ว! ไหนนายท่านบอกจะปิดบังเรื่องที่เขาเล่าให้ฟังไว้เล่า ไม่ว่าจะนายหญิง ไม่ว่าจะนายท่าน หรือกระทั่งตัวเขา ต่างก็ไม่ใช่ทั้งนักรบแล

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status