แชร์

ตอนที่ 18 ศาลเทพมังกร

ผู้เขียน: บ.บี
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-20 21:20:42

พิธีบูชาเทพมังกรของตระกูลอ๋าวเริ่มจากการจุดธูปสักการะปักลงบนแท่นบูชากลางแจ้งขนาดใหญ่ตรงลานกว้างหน้าศาลบรรพชนประจำตระกูล มีผลไม้หลากหลายชนิด บ๊ะจ่างกับนกนางแอ่นย่างเป็นเครื่องถวายเพียงสามสิ่งเท่านั้น

พวกเขาสร้างรูปปั้นมังกรเหยียบลูกแก้วสีดำสนิทเป็นตัวแทนในการบูชา กัวฮูหยินผู้นำตระกูลเป็นผู้กล่าวคำสวดเบาๆ ถ้อยคำเหล่านั้นอ๋าวหลวนหลงไม่อาจได้ยินว่าท่านย่าพูดอะไรบ้าง สุดท้ายก็เป็นการขอพรให้กับลูกหลานในสกุลอ๋าว แล้วคนอื่น ๆ จึงได้เข้าไปจุดธูปบูชาตามลำดับ

ขั้นตอนง่ายๆ เพียงเท่านี้แต่กว่าจะแล้วเสร็จก็ใช้เวลาไปนานพอสมควร เพราะทายาทสกุลอ๋าวทั้งสายหลักสายรองที่มาเข้าร่วมพิธีมีราว 300 คน 

ต่อไปก็เป็นการไหว้บรรพชน” ผู้อาวุโสหนึ่งคนเดิมประกาศเสียงดังหลังจากที่เห็นว่าทายาททุกคนได้บูชาเทพมังกรกันครบแล้ว

อ๋าวหลวนหลงรู้สึกอยากรู้อยากเห็นไปเสียหมดในเรื่องการบูชาเทพมังกรของชาวมนุษย์ เขารู้ดีในฐานะที่ตนก็เป็นหนึ่งในสมาชิกแดนสวรรค์ การเคารพบูชาเทพมังกรนี้หาได้ส่งผลไปถึงเบื้องบนแต่อย่างใด ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเทพมังกรชอบกินบ๊ะจ่างกับนกนางแอ่นย่าง!

เมื่อมาเห็นกับตาก็ยังไม่ได้รู้สึกพิเศษอันใดกับการเคารพเหล่านี้ สิ่งเดียวที่สะดุดตาก็คงจะเป็นลูกแก้วสีดำสนิทที่รูปปั้นมังกรเหยียบอยู่เท่านั้น ลูกแก้วนี้บนแดนสวรรค์ก็มีให้เห็นเกลื่อนกลาดเพียงแต่มันไม่ได้มีเพียงสีดำสีเดียว

สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าในอดีตมนุษย์มีโอกาสเห็นมังกรจริงๆ แดนสวรรค์และแดนมนุษย์เคยติดต่อสื่อสารกัน ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงไม่ได้เห็นลูกแก้วที่เกิดจากน้ำลายของมังกรบนสวรรค์เป็นแน่

ในศาลบรรพชนก็มีการกราบไหว้คล้ายๆ กับการบูชาเทพมังกรกลางแจ้ง เพียงแต่มีการเพิ่มเครื่องเซ่นไหว้บางอย่างกับกระดาษเงินกระดาษทองที่พับเป็นรูปร่างสวยงามวางกองไว้สูงท่วมหัว

อ๋าวหลวนหลงต้องอดทนไม่ปริปากบ่นบรรดาพี่น้องที่แสร้งเดินเข้ามาชน หรือไม่ก็แกล้งเหยียบเท้าตนอยู่ตลอดเวลา เขารู้แล้วว่าท่านย่าถือหางทางตนไม่น้อยและไม่อยากสร้างความลำบากใจให้กับนางอีก

กราบไหว้บรรพชนเผากระดาษเงินกระดาษทองจำนวนมากจนควันลอยไปทั่วบริเวณ ขั้นตอนต่อไปก็เป็นการรออยู่ชั่วครู่ใหญ่จนธูปมอดดับสนิท แล้วทายาทสกุลอ๋าวฝ่ายสตรีก็จะช่วยกันนำผลไม้ เครื่องเซ่นไหว้ทั้งหมดมาแจกจ่ายให้กับทุกคนได้กินกันภายในบริเวณพื้นที่ศาลบรรพชน

ด้วยจำนวนคนที่มากและไม่มีการจัดโต๊ะนั่งไว้เพียงพอ หลายคนก็ต้องหาที่ยืนกินบ๊ะจ่างหรือผลไม้กันคนละมุม อ๋าวหลวนหลงมองหาผลท้อในถาดผลไม้ในมือของสตรีคนอื่น ๆ ก็ไม่เห็น เขาจึงเลือกหยิบส้มมาสองผลเดินมานั่งอยู่ใต้ต้นไม้ไกลจากคนอื่นพอสมควร

พี่สี่” อ๋าวหลวนหลิงคุณหนูหกทายาทอายุน้อยที่สุดในกลุ่มบ้านสายหลักเดินจับมือคุณชายสามอ๋าวหลวนกังพี่ชายแท้ๆ ของนางเดินมาทางอ๋าวหลวนหลง

พี่สาม น้องหก” เด็กหนุ่มลุกขึ้นโค้งคำนับให้อ๋าวหลวนกังอย่างมีมารยาท

ตามสบายน้องสี่ วันนี้เจ้าอยู่เข้าร่วมพิธีจนครบถ้วนทุกขั้นตอนเหนื่อยหรือไม่ หากจะกลับไปที่เรือนข้ากับน้องหกจะเดินไปส่งเอง”

ไม่เหนื่อยเลยขอรับพี่สาม กล่าวตามจริงสุขภาพข้าดีขึ้นทุกวันมาตลอด ขอบคุณพี่สามที่เป็นห่วง”

พี่สี่ ข้าว่าท่านรีบกลับไปจะดีกว่าเจ้าค่ะ ท่านอย่าลืมสิว่าช่วงบ่ายพวกเราต้องทำสิ่งใดกัน” อ๋าวหลวนหลิงร้องเตือนด้วยความเป็นห่วง

อ๋าวหลวนหลงย่อมรู้ว่าหลังจากนี้จะเป็นการเปิดศาลเทพมังกรที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกถัดจากศาลบรรพชนไปเล็กน้อย เพียงแต่หูกุ้ยเป็นเพียงบ่าวไม่สามารถเข้ามาในเขตศาลบรรพชนหรือศาลเทพมังกรได้ เขาจึงไม่รู้ว่าการเปิดศาลเทพมังกรที่ไม่เคยเปิดได้มาก่อนนั้นมีขั้นตอนอย่างไร

ข้าย่อมรู้ และข้าก็อยากเข้าร่วมการเปิดศาลเทพมังกรกับพวกเจ้าสักครั้ง”

น้องสี่ อย่าหาว่าข้าใจร้ายกับเจ้าเลย เจ้าก็รู้ดีว่านั่นเป็นไปไม่ได้!” อ๋าวหลวนกังชายหนุ่มวัย 16 อายุมากกว่าอ๋าวหลวนหลงปีเดียวรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยกับคำตอบของน้องชาย

ข้าเห็นว่าเจ้าไม่ได้เอาแต่หดหัวยอมคนเหมือนแต่ก่อนยังรู้สึกภูมิใจแทน แต่เจ้าต้องรู้จักประมาณตนเอาไว้ด้วย หากเจ้าเข้าร่วมการเปิดศาลย่อมไม่พ้นต้องไปทะเลาะกับพวกเขาอีกรอบ เวลานั้นท่านย่าก็ต้องเดือดร้อนออกหน้าแทนเจ้าอีก”

อ๋าวหลวนหลงยืนงงเป็นไก่ตาแตก หลังจากศึกชิงเก้าอี้ เขาก็พยายามไม่วุ่นวายและทำทุกอย่างเหมือนคนอื่นทุกประการ แค่เรื่องการเปิดศาลเทพมังกรเหตุใดตนจึงต้องประมาณตน ต้องไปทะเลาะกับผู้อื่นด้วยเล่า?

อ๋าวหลวนกังคิดว่าน้องชายแสร้งโง่และทำกวนประสาทไปเช่นนั้น เขาส่ายหน้าเบาๆ “อยากเจ็บตัวเจ็บใจอีกก็แล้วแต่เจ้า ข้าพยายามช่วยแล้ว” ชายหนุ่มกล่าวจบก็เดินจากไปรวมกลุ่มกับทายาทวัยเดียวกัน เหลือเพียงอ๋าวหลวนหลิงที่ยังคงยืนทำหน้าเสีย ไม่รู้จะยืนอยู่ต่อหรือจะเดินตามพี่ชายสามกลับไปดี

พี่สี่ พวกเขาจะรังแกท่านอีกนะเจ้าคะ”

หลวนหลิง พี่สี่ลืมไปหมดแล้วว่าหลังจากนี้ต้องทำอะไร เจ้าบอกข้าอีกครั้งได้หรือไม่ ประเดี๋ยวข้าจะตัดสินเองว่าข้าควรกลับหรือไม่ควร”

ก็การเปิดศาลเทพมังกรต้องให้ทุกคนประลองกัน และต้องส่งพลังปราณไปที่ลูกแก้วเพื่อเปิดศาล แต่..ท่านไม่มีพลังปราณ…” เด็กน้อยพยายามหลบตาพี่ชายของนาง เกรงว่าพี่ชายสี่จะเข้าใจผิดคิดว่านางมาเย้ยหยันดูแคลน

อ๋าวหลวนหลงยืดตัวขึ้นตรง มองไปยังศาลเทพมังกรที่มีขนาดใหญ่เพียงครึ่งหนึ่งของศาลบรรพชน

หูกุ้ยบอกว่าตั้งแต่รุ่นปู่ของปู่สกุลหูของเขา ล้วนทำงานรับใช้อย่างซื่อสัตย์เคียงข้างทายาทสกุลอ๋าวมาหลายรุ่น ศาลเทพมังกรแห่งนี้ก็ไม่เคยมีใครเปิดเข้าไปด้านในได้เลยสักคน เมื่อครู่พิธีบูชาเทพมังกรของตระกูลอ๋าวจึงต้องทำกลางแจ้ง

วิธีการเปิดเข้าไปด้านใน ก็คงเป็นอย่างที่อ๋าวหลวนหลิงกล่าวเมื่อครู่ แต่มันมีความพิเศษอันใดกว่านั้นในเมื่อทายาทตระกูลอ๋าวก็เป็นผู้ฝึกตนมิใช่หรือ? แค่การส่งปราณไปยังลูกแก้วมันจะยากอันใด

เจ้ากลัวว่าข้าจะถูกเยาะเย้ยต่อหน้าผู้คน เมื่อไม่สามารถส่งพลังปราณเข้าไปในลูกแก้วได้สินะ" อ๋าวหลวนหลงลูบศีรษะน้องสาวเบาๆ แทนการขอบคุณ

เจ้าคอยดูก็แล้วกันหลวนหลิง”

……….

หลังจากดื่มกินอาหารกันไปพอสมควรแล้ว ผู้อาวุโสหนึ่งก็เริ่มเชิญผู้นำตระกูลและทุกคนไปที่ศาลเทพมังกร

ศาลเทพมังกรเป็นอาคารกึ่งไม้กึ่งอิฐมีการออกแบบรูปทรงและลวดลายแกะสลักไม้วิจิตรบรรจง แต่งแต้มด้วยสีน้ำเงินแดงและสีทองเป็นหลัก พื้นที่ด้านหน้าประตูมีแท่นหินขนาดใหญ่ตรงกลางเป็นลูกแก้วมังกร หรือที่อ๋าวหลวนหลงเรียกมันว่าไข่มุกจันทราขนาดเท่ากำปั้นบุรุษวางอยู่ 1 ลูก

หลวนหลง.." อ๋าวซีซวนพยายามเดินเลี่ยงออกมาหาบุตรชาย คำกล่าวต่อไปที่จะสั่งให้เขากลับไปที่เรือนพลันต้องชะงักค้างไปเมื่อเห็นสายตาของอ๋าวหลวนหลงที่เปลี่ยนไปราวกับคนเป็นคนละตน

บุตรชายยืดแผ่นหลังขึ้นตรง ใบหน้าและแววตามองไปเบื้องหน้าไม่ได้ก้มต่ำมองพื้นเหมือนเคย ซ้ำยังดูเหมือนว่าจะเงยหน้าเชิดขึ้นสูงด้วยซ้ำ เขาไม่สะทกสะท้านกับสายตาและเสียงหัวเราะของพี่น้องที่ยืนอยู่รอบข้าง ทำราวกับว่าคนทั้งหมดเป็นเพียงฝุ่นผงที่ลอยผ่านไปผ่านมาไม่มีผิด

บุตรชายเปลี่ยนไปแล้ว แม้จะไม่มีพลังปราณแต่สามารถเรียกขวัญตนเองให้เผชิญหน้ากับผู้อื่นได้ อ๋าวซีซวนถอยหลังไปก้าวหนึ่งด้วยความลังเลใจว่าจะไปยับยั้งความคิดของบุตรชายดีหรือไม่

พี่สาม ท่านไม่อาจคุ้มครองเขาได้ตลอดไป หลวนหลงต้องเผชิญชีวิตด้วยตนเอง พวกเด็กๆ เป็นสายเลือดเดียวกันไม่ถึงขั้นฆ่าแกงกันหรอก” อ๋าวซีฮันเดินมาตบบ่าผู้เป็นพี่ชายเบาๆ 

เปิดลาน!!” เสียงดังมาจากใครอ๋าวหลวนหลงไม่ทันได้เห็น แต่เวลานี้ทุกคนกำลังเบี่ยงตัวหลบออกไปด้านข้าง เปิดพื้นที่ตรงกลางหน้าศาลเทพมังกรเป็นวงกลมขนาดใหญ่

เชิญ!!” 

สิ้นเสียงคำเชิญเด็กหนุ่มวัย 10 ปีคนหนึ่งก็ก้าวออกมายืนตรงกลางวงกลม “ข้าน้อยอ๋าวจงซูมาจากสกุลอ๋าวเมืองเยี่ยขอรับ เชิญทุกท่านชี้แนะ” 

ครู่เดียวเด็กชายวัยเดียวกับอ๋าวจงซูก็ก้าวออกมาแนะนำตัวในเชิงว่าเขาคือคู่ต่อสู้ที่ตอบรับคำเชิญท้าประลอง

เด็กชายสองคนเริ่มกำหนดลมปราณที่จุดตันเถียน บริเวณท้องส่องแสงสีเหลืองอำพันเล็กๆ จนเกือบจะมองไม่เห็นออกมา แล้วเข้าต่อสู้ตะลุมบอนกันในท่าทางที่ผิดปกติจนอ๋าวหลวนหลงต้องอ้าปากค้าง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 93 ตอนจบ

    “นี่พวกเจ้าไม่คิดจะทำสิ่งอื่นนอกจากเกี้ยวพาราสีกันทุกเมื่อเชื่อวันเช่นนี้บ้างหรือไร!” เสียงหวานใสของซินหรูอี้ดังมาแต่ไกล“หรูอี้!! ข้าบอกเจ้ากี่ครั้งแล้วให้พูดแต่คำหวานๆ รักษากิริยาให้สำรวมไว้หน่อยเถิด หากลูกในท้องติดนิสัยโผงผางเช่นเจ้ามาข้าคงต้องกลั้นใจตายสักวันเป็นแน่” เวยวั่งซูชักสีหน้าไม่พอใจแต่สองมือก็ประคองปกป้องร่างภรรยารักเอาไว้ราวกับไข่ในหิน“ท่านก็เลิกวุ่นวายกับชีวิตข้าเสียทีเวยวั่งซู!! ข้ามันคิดผิดจริงๆ ที่ยอมแต่งให้ท่าน ดูสิทุกวันนี้ข้าต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในแดนเหนือที่หนาวเย็นจนถึงกระดูก คลอดลูกออกมาเมื่อใดข้าจะย้ายมาอยู่กับเหยาจีที่ทางใต้เสียให้รู้แล้วรู้รอด”“ก็ข้าเป็นผู้ฝึกตนสายน้ำแข็งนี่นา ไม่อยู่กับหิมะจะให้ข้าไปอยู่ในกองเพลิงหรือไร แล้วเมื่อครู่เจ้าว่าอะไรนะ? คลอดบุตรแล้วเจ้าจะมาอยู่ทางใต้ คิดจะทิ้งเราสองพ่อลูกไว้ทางเหนือเพียงลำพังเช่นนั้นหรือ? ฝันไปเถิด!!" “เจ้าจะหงุดหงิดอันใดนักหนาเล่าวั่งซู นางยังไม่ทันคลอดด้วยซ้ำ ข้าแนะนำให้เอง!! กลับไปแดนเหนือคราวนี้ไม่สู้เจ้าแช่แข็งนางเอาไว้เป็นไร นางจะได้ไม่หนีไปเที่ยวเล่นที่ใดได้อีก”ซินหรูอี้ใช้สองมือประคองท้องกลมโตเดินอาดๆ ม

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 92 3,000 ปี

    หญิงสาวก้าวออกมายืนด้านหน้าผู้คนแทนที่อ๋าวหลวนหลง“ชัยชนะของพวกเราในครั้งนี้จะไม่สำเร็จโดยง่ายหากปราศจากพวกเขาเช่นกัน” มู่เหยาจีผายมือไปด้านขวาของนาง สายตามองไปยังสัตว์เลี้ยง 12 ตัวที่ยังรอดชีวิตอยู่“สัตว์ปราณทั้ง 12 ตัว ได้รับผลท้อไปแล้ว 5 ตัว ข้าจะไม่ลังเลเลยที่จะมอบผลท้อสวรรค์อีก 7 ผลให้กับพวกมันอย่างยุติธรรม วันใดที่มนุษย์ไม่อาจไว้วางใจกันเอง พวกท่านโปรดจำเอาไว้ว่าสัตว์ทั้ง 12 จะเป็นผู้ที่ปกป้องท่านจากภยันตรายทั้งปวง”สิ้นคำกล่าวของหญิงสาว ผีเสื้อเกล็ดแก้ว 7 ตัวก็โบยบินออกไปส่งมอบผลท้อสวรรค์ให้วานรสองตัว สุนัขจิ้งจอกสองตัว หวางผาง เต่าและปลาหมึก“ท้อสวรรค์ 7 ผลที่เหลือข้าจะให้ผีเสื้อเกล็ดแก้วเป็นผู้คัดเลือกผู้โชคดีขึ้นมาตามแบบอย่างที่เคยทำในแดนสวรรค์ และจากนี้ไปผลท้อที่สุกออกมาทั้งหมดก็จะใช้วิธีเดียวกันนี้เช่นกัน”มู่เหยาจีวาดเรียวแขนงามออกมาโบกสะบัดชายแขนเสื้อยาวกรุยกรายสยายออกเป็นวงกว้างในอากาศพร้อมกับมีร่างของผีเสื้อเกล็ดแก้วลำตัวใสกระจ่างระยิบระยับเจ็ดตัวโบยบินไปวนเวียนอยู่เหนือศีรษะกลุ่มผู้ฝึกตนที่รวมกลุ่มกันอยู่ผู้โชคดีทั้งเจ็ดคนมีทั้งอดีตเซียนที่ลงมาจากแดนสวรรค์และผู้ฝึกต

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 91 ชัยชนะ

    “ยามนี้บนเกาะลอยที่เหลือเพียงครึ่งไม่มีผลท้อธรรมดาที่สามารถช่วยรักษาอาการบาดเจ็บเลยสักผล ทำอย่างไรดีพี่สี่เสิน หวางเซี่ยเจ้าต้องหยุดพักรักษาตัวก่อน เราจะหาทางกลับไปเอาผลท้อมาช่วยเจ้ากันเอง!!” หญิงสาวละล่ำละลัก หันพูดทางนั้นทีทางนี้ทีตัดสินใจทำสิ่งใดไม่ถูก“น้องสาว ผลท้อธรรมดาไม่อาจรักษาอาการบาดเจ็บของหวางเซี่ยได้หรอก ต่อให้เจ้าฝืนเด็ดผลท้อสวรรค์ที่ยังไม่สุกหยิบยื่นให้เขาก็ยังไม่อาจรักษาบาดแผลที่สาหัสนั้นได้ ปล่อยให้เขาทำสิ่งที่เขาต้องการต่อไปเถิด”“ผลท้อช่วยไม่ได้ เช่นนั้นลูกแก้วมังกรของพี่หลวนหลงก็ต้องช่วยได้สิเจ้าคะ ท่านลองส่งสารบอกผีเสื้อเกล็ดแก้วดู ให้พวกเขาพาคุณชายสี่กลับมาที่นี่ก่อน” น้ำตาสองสายไหลออกมาเต็มใบหน้างาม อ้อนวอนร้องขอความช่วยเหลืออย่างน่าเวทนา“เจ้าตั้งสติให้ดีๆ อวัยวะภายในของหวางเซี่ยเสียหายรุนแรงเกินไป หาใช่ขาดแล้วเชื่อมต่อใหม่ได้เหมือนอย่างเส้นเอ็นของหลวนหลง เจ้าดูดวงตาของฝูซีสิ สิ่งที่ขาดหายไปแล้วน้ำลายมังกรไม่อาจสร้างมันขึ้นมาใหม่ได้”ไม่ต้องอธิบายมากไปกว่านี้มู่เหยาจีก็รับรู้ได้ถึงความรุนแรงอันหนักหน่วงบนร่างกายสหายรักใต้น้ำสองพี่น้องเดินลงไปที่ชายหาดจุดเดิมที

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 90 สาหัส

    การเคลื่อนไหวอันทรงพลังของนกอินทรียักษ์รวดเร็วประหนึ่งสายฟ้าฟาด เพียงไม่นานมันก็พาอ๋าวหลวนหลงมาพบกับกลุ่มผีเสื้อเกล็ดแก้วที่กำลังรุมล้อมรอบเกาะลอยพุ่งโจมตีไส้เดือนปีศาจยี่สิบตัวกันไม่ยั้งมือ“นั่นมัน!!” ดวงตาคมกริบของอ๋าวหลวนหลงเบิกค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ คำพูดที่กำลังจะเอ่ยออกมาก็พลันถูกกลืนลงคอไปด้วยความตื่นตะลึงชายหนุ่มขยี้ตาซ้ำๆ อีกหลายครั้งและสุดท้ายก็ต้องเชื่ออย่างสนิทใจว่าเขาตาไม่ฝาด ยามนี้บนต้นท้อสวรรค์มีผลท้อสีเขียวอมชมพูส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลล่องลอยไปทั่วบริเวณ“เป็นไปได้อย่างไรกัน! ท้อสวรรค์ออกผลอีกแล้ว! ฮ่าๆๆๆ ผลงานของเหยาจีนี่ดูท่าจะลูกดกดีแท้!!” กล่าวจบชายหนุ่มก็ต้องรีบจับขนหลังคอนกอินทรีตัวเขื่องเอาไว้แน่น เจ้านกยักษ์แกล้งบินลงต่ำกะทันหันด้วยความหมั่นไส้กับคำพูดที่กำกวมของมนุษย์ไร้ขนที่ขี่หลังมันอยู่“ข้าหมายถึงผลท้อ เจ้าจะขัดเคืองอันใดนักหนา!!” อ๋าวหลวนหลงเอื้อมมือไปตบหัวนกอินทรีทีหนึ่งอย่างอดไม่ได้ แต่ใบหน้าคมกลับแดงก่ำที่ถูกจับได้ว่าแอบคิดนอกลู่นอกทางในยามคับขัน“พวกเขาจัดการเจ้าหนอนเหล่านี้ได้แน่นอน เราต้องไปช่วยทางนั้น” อ๋าวหลวนหลงชี้มือไปยังบริเวณชายหาดเพิกเฉยกับการต

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 89 หวาดกลัว

    “ข้ายังมีพลังอ่อนด้อยเกินไป ไม่สามารถติดต่อกับผีเสื้อเกล็ดแก้วที่อยู่ทางใต้ไม่ได้ แต่การที่หวางเซี่ยและคู่ของมันลุกขึ้นมาสู้สุดใจเช่นนี้อาจเกิดเรื่องกับทางหลวนหลง” ฝูซีเอ่ยปากอย่างร้อนรน“คุณชายสี่อยู่ทางนั้นเพียงลำพังหรือเจ้าคะ” มู่เหยาจีก็เพิ่งรู้ว่าอ๋าวหลวนหลงไม่ได้อยู่ร่วมการต่อสู้ทางชายหาดบริเวณนี้“ใช่ เขาต้องรีบผนึกรอยแยกใต้ทะเล ทางนี้พวกเราตกลงกันแล้วว่าจะปล่อยให้พวกมันขึ้นมาบริเวณน้ำตื้นเพื่อจัดการมันได้ง่ายหน่อย แต่จะไม่ยอมปล่อยให้มันขึ้นฝั่ง การที่หวางเซี่ยพาเกาะลอยกลับลงทะเลลึกอยู่นอกเหนือจากที่เราตกลงกันไว้”“เช่นนั้นข้าจะส่งนกอินทรีออกไปสืบข่าว” ต้าโหวจื้อกระโดดลงจากหลังนกอินทรี แล้วปล่อยให้นกยักษ์บินกลับไปเพียงลำพังเพราะตัวเขายังมีประโยชน์ในการสู้รบกับกลุ่มปีศาจมากมายที่มารวมตัวกันบริเวณนี้ไม่มีเวลาให้ทุกคนได้ไตร่ตรองสิ่งใดต่อไป สัตว์ปีศาจที่เล็ดลอดออกจากรอยแยกใต้ทะเลรวมกับกลุ่มที่หลอกล่อให้มนุษย์หลงไปผิดทางก็มีไม่น้อย พวกเขายังไม่สามารถจัดการมันได้ทั้งหมดหากปราศจากความช่วยเหลือจากผีเสื้อเกล็ดแก้วที่แข็งแกร่งทั้งหกพันตัวอินทรียักษ์บินเลยผ่านหวางเซี่ยที่เคลื่อนตัวไปได้

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 88 สละชีวิต

    เมื่อเห็นหวางเซี่ยพยายามชิงพื้นที่การควบคุมเกาะลอยใต้น้ำไว้อย่างยากลำบาก ผู้ฝึกตนระดับสูงทั้งหกคนก็มุ่งเข้ามาช่วยเหลือปูยักษ์สองสามีภรรยาโดยพร้อมเพรียงกัน“เหยาจี!! เป็นอย่างไรบ้าง” มู่สี่เสินทะยานขึ้นไปบนเกาะไปหาน้องสาวเป็นคนแรก“พี่สี่เสินข้าปลอดภัย พวกมันกำลังพยายามจะขึ้นไปบนฝั่งเจ้าค่ะ”“ฝูซีก็คาดเดาเรื่องนี้ไว้แล้วเช่นกัน เราจะไม่ยอมให้พวกมันเอาต้นท้อสวรรค์กลับลงไปยังแดนปีศาจได้สำเร็จแน่นอน”“พวกเราต้องช่วยหวางเซี่ย ไส้เดือนปีศาจเหล่านั้นแข็งแกร่งมากอีกไม่นานหวางเซี่ยอาจจะทนต่อไปไม่ไหวเจ้าค่ะ”หญิงสาวสงสารและเป็นห่วงปูยักษ์จับใจ ขาทั้งแปดของหวางเซี่ยขยับเขยื้อนได้เพียงเล็กน้อย ความสามารถในการป้องกันตัวแทบจะเป็นศูนย์ แต่โชคดีที่มันมีร่างกายใหญ่โตกว่าไส้เดือนตาบอดเหล่านั้นจึงยังใช้กระดองดันไส้เดือนปีศาจให้อยู่รอบนอกโดยมันควบคุมพื้นที่ใต้เกาะลอยส่วนใหญ่เอาไว้ได้พอดิบพอดีมู่สี่เสินคว้ามือของน้องสาวย่อตัวลงเล็กน้อยและออกแรงกระโดดขึ้นไปอยู่บนร่างของวานรทั้งสองตัวเพื่อเข้าร่วมการต่อสู้กับปีศาจไส้เดือนที่กำลังพยายามยึดเอาเกาะลอยกลับคืนมาจากหวางเซี่ย……….รอยแยกใต้ทะเลลึกผีเสื้อเกล็ดแก้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status