มู่หลันฮวาถูกแม่เลี้ยงกลั่นแกล้งและเป่าหูคนในหมู่บ้านให้ส่งนางไปเป็นเครื่องบูชายัญให้แก่ปีศาจพญางูบนเขา เพื่อแก้ภัยพิบัติที่แห้งแล้งในเมืองหางโจว นางจำต้องยอมรับชะตากรรม แต่เมื่อได้พบกับเขา หลี่เย่ ปีศาจงู นางก็รู้สึกชื่นชอบเขาขึ้นมา โดยเฉพาะคืนพระจันทร์เต็มดวงที่เขาจะกลายร่างเป็นมนุษย์ เขาช่างรูปงามเย้ายวนใจนางยิ่งนัก แม้ในใจจะหวาดกลัวเขาอยู่ไม่น้อย แต่นางก็อยากได้เขาเป็นสามี จะต้องทำเช่นไรกันเล่า!!!
Lihat lebih banyak1000 ปีก่อน
"หลี่เย่ ข้าจะช่วยท่านเอง!!!"
"อย่านะ!!! มู่เหลียนฮวา ไม่!!!"
"ข้าจะช่วยท่านให้หลุดพ้นจากการจองจำที่เจดีย์เหลยเฟิงแห่งนี้ให้ได้ ด้วยชีวิตของข้า!!!"
มู่เหลียนฮวาใช้ดาบยาวแทงเข้ามาที่ร่างของตนเองจนโลหิตสีแดงฉานไหลอาบลงพื้นเป็นทางยาว หลี่เย่ที่ถูกจองจำอยู่บนเจดีย์เหลยเฟิง ทำได้เพียงจ้องมองนางด้วยแววตาที่เจ็บปวด!!!
เขากับนางเป็นคู่รักกัน นางเป็นมนุษย์แต่เขาเป็นปีศาจงู!!!
นางเป็นบุตรสาวของพ่อค้าที่ร่ำรวยในชนบท มีรูปโฉมงดงามเกินสตรีใด อยู่มาวันหนึ่งเป็นวันพระจันทร์เต็มดวงนางได้ขึ้นมาเก็บสมุนไพรที่บนเขาและพักค้างแรมอยู่บนต้นไม้กลางป่าในกลางดึก และได้พบกับเขาในร่างของมนุษย์ที่กำลังบาดเจ็บ เพราะถูกภิกษุนามว่า ไห่ฝู่ ตามล่า และพยายามใช้กริชปราบปีศาจทำร้ายเขา แต่เขาหนีรอดกลับมาได้ และได้รับความช่วยเหลือจากนาง นางดีกับเขามาตลอด จนกระทั่งวันที่นางรู้ว่าเขาไม่ใช่มนุษย์ นางก็ยังไม่เคยนึกรังเกียจเขาเลยแม้แต่น้อย จนวันสุดท้ายของชีวิตนางที่เขาถูกไห่ฝู่จองจำ ก็เป็นนางที่ใช้เลือดบริสุทธิ์ปลดปล่อยเขาให้หลุดพ้น วันนั้นหญ้าเซียนซึ่งสามารถชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นขึ้นมาได้เกิดหายไปจากหอเจดีย์เหลยเฟิง ทำให้เขาไม่อาจยื้อชีวิตของมู่เหลียนฮวาเอาไว้ได้
นางคือผู้สืบสายเลือดบริสุทธิ์ ที่ปีศาจและเหล่ามารต่างต้องการ หากใครได้ดื่มเลือดของนาง มันผู้นั้นจะเป็นอมตะเหนือสรรพสิ่งทั้งปวง
"ดื่มเลือดข้า"
"ไม่"
ก่อนนางจะหมดลมหายใจ นางได้ใช้แรงเฮือกสุดท้ายนำเลือดของตนมายัดเยียดให้เขาได้ดื่มกิน ยามนั้นเขายังเป็นเพียงปีศาจงูต่ำต้อย แต่เมื่อได้ดื่มเลือดของนางเพียงน้อยนิด เขากลับรู้สึกว่ามีพลังมากมายไหลเวียนในร่าง
"หลี่เย่ หากข้า ฮึก ข้าตายแล้ว เจ้าจงกลืนกินร่างของข้าเสีย"
"ไม่ ฮือ เหลียนฮวา ข้าทำไม่ได้!!!"
"ท่านต้องทำได้!!! ข้าไม่อยากให้ร่างของข้าตกเป็นอาหารแก่ปีศาจตนอื่น ได้โปรด อั๊ก!!!"
"เหลียนฮวา!!!"
ฉับพลันท้องฟ้าก็เกิดมืดครึ้ม พายุฝนก่อตัวขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง
"เร็วเข้า!!! หลี่เย่!!! พวกมันมาแล้ว!!!"
"ไม่!!!"
"หลี่เย่!!! ทำเพื่อข้าเป็นครั้งสุดท้ายเถิด!!!"
หลี่เย่ส่งเสียงคำรามออกมาด้วยความอดกลั้น ช่างบัดซบยิ่งนัก!!!นางคือสตรีที่เขาเฝ้ารักและทะนุถนอมมาโดยตลอด แต่บัดนี้เขากลับต้องมากลืนกินนางลงท้องเสียเอง!!!
"หลี่เย่!!!"
"อ๊าส์!!!"
มู่เหลียนฮวาสิ้นใจตายในอ้อมกอดของเขา นางยอมใช้เลือดบริสุทธิ์ของตนเพื่อลบล้างการจองจำของไห่ฝู่ ช่วยให้เขาได้ออกมาจากเจดีย์เหลยเฟิงอีกครั้ง
เพราะนางเป็นมนุษย์มารักกับปีศาจงูเช่นเขา นั่นคือสิ่งต้องห้ามของมนุษย์ นางจึงต้องมาจบชีวิตลงเช่นนี้!!!
หลี่เย่ส่งเสียงกู่ร้องก้องฟ้า ก่อนจะกลายร่างเป็นงูและกลืนกินร่างของมู่เหลียนฮวาจนหมดสิ้น
กรร!!! ฟ่อ
เพราะพลังจากเลือดบริสุทธิ์ บัดนี้หลี่เย่กลายร่างเป็นปีศาจพญางูชั้นสูง เหล่าปีศาจตนอื่นต่างหลบหลีกมิกล้ามายุ่งเกี่ยวกับเขา เขาหลบลี้หนีหายเข้าไปซ่อนเร้นกายในหุบเขา ไห่ฝู่เองก็ไม่กล้าตามไปเพราะรู้ดีว่ายามนี้หลี่เย่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตนอีกต่อไป
1400 ปีต่อมา
"นายท่านขอรับ ใกล้เทศกาลบูชาขอฝนของชาวบ้านเมืองหางโจวแล้วขอรับ"
หลี่เย่พยักหน้าให้เจียวฟางงูเขียวน้อยที่เป็นงูรับใช้ของเขาอย่างขอไปที ดวงตาสีเหลืองอำพันจ้องมองออกไปด้านนอกถ้ำด้วยสายตาที่เบื่อหน่าย
เขาหลบเร้นกายเข้ามาอยู่ในป่าใหญ่ เฝ้าบำเพ็ญเพียรเพื่อต้องการบรรลุเป็นสัตว์เทพ แต่ทว่าวันหนึ่งเขาได้พบเจอกับมนุษย์ที่พาบุตรชายเดินขึ้นเขามาหาน้ำดื่มบนเขา เพราะยามนี้เมืองหางโจวแห้งแล้งเสียจนไร้น้ำดื่มกินชาวบ้านเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ชายผู้นั้นเฝ้ากราบไหว้เทพเจ้ากลางป่า จนมาพบกับเขาที่แปลงกายเป็นงูขาวตัวน้อยที่ออกมาห้อยกายรับลมอยู่บนกิ่งไม้ เขาเกิดสงสารจึงบันดาลฝนไปให้ห่าหนึ่ง ชายผู้นั้นจึงนำไปเล่าขานต่อว่าบนหุบเขามีงูขาวตัวหนึ่งสามารถบันดาลฝนฟ้าได้ จึงพากันมากราบไหว้บูชาตั้งแต่บัดนั้น
เขาบำเพ็ญเพียรไม่กินเนื้อมนุษย์หรือดื่มโลหิตจากมนุษย์มาเกือบพันกว่าปี ข่าวนี้ล่วงรู้ถึงแม่ทัพสวรรค์ ผู้มีหน้าที่ปราบเหล่ามารและปีศาจ แม่ทัพสวรรค์จึงมอบพลังวิเศษให้เขาสามารถบันดาลฟ้าฝนได้เพื่อดูแลเหล่ามนุษย์ จวบจนบำเพ็ญเพียรครบหนึ่งพันห้าร้อยปีเขาจึงจะได้เป็นสัตว์เทพตามความปรารถนา หลี่เย่ก้มลงมองร่างของตนที่ยามนี้ท่อนบนเป็นคนท่อนล่างเป็นงูอย่างทอดถอนใจ เขาไม่สามารถเป็นมนุษย์ได้อย่างเต็มตัว นอกเสียจากจะเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง
สิ่งที่พิเศษในกายของเขาอีกอย่างหนึ่งก็คือ ยามเขาเป็นครึ่งคนครึ่งงูดวงตาของเขาจะเป็นสีเหลืองอำพัน หากเขากลายร่างเป็นงูใหญ่ ดวงตาของเขาจะเป็นสีแดง หากเมื่อใดที่เขาเป็นมนุษย์ ดวงตาของเขาจะเป็นสีดำเหมือนกับมนุษย์ทั่วไป
"นายท่านขอรับ ปีนี้ข้าคงจะได้กินขนมกุ้ยฮวาของชาวบ้านอีกคราแล้ว"
"เจ้างูเด็กตะกละ!!!"
หลี่เย่ปรายตามองเจียวฟางที่ยามนี้กลายร่างเป็นเด็กน้อย กำลังนอนแช่อยู่ในบ่อน้ำขนาดใหญ่ภายในถ้ำอย่างสำราญใจ หลี่เย่ยกยิ้มเพียงเล็กน้อย ก่อนจะมองไปที่ภาพวาดที่แขวนเอาไว้บนผนังถ้ำ
มู่เหลียนฮวา ข้าคิดถึงเจ้ายิ่งนัก
หลี่ฮวาจ้องมองไปยังเบื้องหน้าด้วยแววตาที่เรียบเฉย ยามนี้นางตามเฟิ่งจิ้งมาที่เผ่ามารด้วย เจียวฟางงูน้อยและเซียงเซียงปีศาจแมวก็คอยตามมารับใช้นางด้วยตามคำสั่งของหลี่เย่และมู่หลันฮวา จวนตระกูลมู่ถูกปิดตายเอาไว้เช่นนั้นไม่มีผู้ใดอยู่อีก นางคิดว่าไว้มีเวลาว่างนางจะกลับไปเยี่ยมจวนของท่านแม่เป็นครั้งคราวเผ่ามารเป็นสถานที่น่าเกรงขาม รอบบริเวณต่างปกคลุมไปด้วยไอหมอกหนาสีดำ สถานที่แห่งนี้ดูแล้วช่างน่าอันตรายไม่น้อย สายตาของเหล่ามารที่มองนางก็ดูจะไม่ค่อยเป็นมิตรเสียเท่าไหร่เฟิ่งจิ้งแต่งงานกับนางแล้ว เขาพานางมายังเผ่ามารด้วยกัน แม้ภายนอกเขาจะดูเงียบขรึมแต่ทว่ายามที่อยู่กับนางเขาช่างร้อนแรงไม่เบา เขาพานางเดินมายังสถานที่แห่งหนึ่ง มันคล้ายกับเรือนพักของมนุษย์ แต่ดูจะใหญ่โตมากกว่า ภายในประดับตกแต่งด้วยหัวกะโหลกของมนุษย์มากมาย ชวนให้รู้สึกหวาดกลัวยิ่งนัก ตั้งแต่ถูกจองจำในครั้งนั้นเฟิ่งจิ้งก็ตั้งใจแน่วแน่ว่าเขาจะไม่ทำร้ายมนุษย์บริสุทธิ์อีก นอกจากมนุษย์จิตใจต่ำช้าเพียงเท่านั้น น่าแปลกยิ่งนักการที่เขาได้กินหัวใจสด ๆ และกลืนกินพลังชีวิตของเหล่ามนุษย์จิตใจหยาบช้า พลังของเขากลับมีมากมายกว่าแต่ก่อนเสียอีก
เมื่อสารทฤดูมาเยือน (ฤดูใบไม้ร่วง) หลี่เว่ยต้องรีบกลับมาหาผู้เป็นมารดาอย่างรีบร้อน ด้วยเพราะได้รับข่าวแจ้งจากหลี่ฮวา ว่ามู่หลันฮวาใกล้หมดสิ้นลมหายใจสุดท้ายเต็มทีแล้ว นางสั่งเสียให้บุตรทั้งสองพานางขึ้นไปบนเจดีย์เหลยเฟิง มู่หลันฮวาจ้องมองไปที่เจดีย์สูงตระหง่านด้วยดวงตาที่พร่ามัว มือเหี่ยวย่นยื่นไปจับมือของบุตรทั้งสองมากอบกุมเอาไว้ "จงรักกัน พึ่งพากัน สายใยพี่น้องย่อมมิอาจตัดขาด"หลี่เว่ยและหลี่ฮวาพยักหน้าทั้งน้ำตา เขามิอยากสูญเสียมารดาไปเช่นนี้เลย แต่จะให้ทำเช่นไรได้เล่า มารดาของเขาเป็นมนุษย์ ย่อมมีวันหมดสิ้นอายุขัยเป็นเรื่องธรรมดาห้วงลมหายใจสุดท้าย ก่อนที่มู่หลันฮวาจะจากโลกนี้ไป ก็บังเกิดลำแสงสีขาวพวยพุ่งลงมาจากบนท้องฟ้าลงมายังเจดีย์เหลยเฟิง ปรากฏร่างของหลี่เย่ที่ยามนี้ช่างงดงามสว่างเจิดจ้ายิ่งนัก ท่อนล่างของเขาเป็นงู เกล็ดสีขาวนวลราวไข่มุกราตรีช่างงดงามเหลือเกิน หลี่เว่ยและหลี่ฮวาหันไปมองผู้เป็นบิดาด้วยแววตาเป็นประกาย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับหลี่เย่ท่านพ่อของเขามู่หลันฮวาใช้แรงเฮือกสุดท้ายยื่นฝ่ามือเหี่ยวย่นออกไปหาเขา หลี่เย่เองก็ยื่นมือออกไปรับมือของนางเอาไว้ แล้วจึงโน้มใบหน
มู่หลันฮวาจ้องมองหลี่เย่ที่ถูกจองจำเอาไว้ในเจดีย์เหลยเฟิงอีกครั้ง ก่อนที่นางจะกลั้นใจรวบรวมสติที่เหลืออยู่ พาตนเองกลับไปหาลูกน้อยที่ถ้ำบนหุบเขาเมื่อไปถึง นางก็ได้พบกับเจียวฟางและเซียงเซียงที่รออยู่หน้าถ้ำ พร้อมกับอุ้มบุตรทั้งสองของนางเอาไว้ มู่หลันฮวาพบกับท่านผู้เฒ่าจิ้งจอกอีกครา เขามองนางด้วยสายตาที่เป็นมิตรมากกว่าครั้งแรกอยู่มาก "คารวะท่านผู้เฒ่าเจ้าค่ะ""อืม ช่างเถิด ข้ามาที่นี่เพื่อจะมาบอกเจ้าว่า ข้าจะมารับบุตรชายของเจ้ากลับไปยังเผ่าปีศาจของเรา"มู่หลันฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นก็จ้องท่านผู้เฒ่าจิ้งจอกเขม็ง จนเขารู้สึกเสียวสันหลังวาบ ไม่เคยมีมนุษย์ผู้ใดที่มีสายตาอำมหิตเช่นนางมาก่อน "เอ่อ แม่นางเจ้าฟังข้าก่อน นี่เป็นความต้องการของหลี่เย่ เขาอยากให้บุตรชายได้เป็นราชาปีศาจเช่นเดียวกับเขา""ลูกข้ายังเด็กนัก!!!""เอาเถิด ข้ายังไม่รีบร้อนเสียหน่อย รอให้เขาโตกว่านี้อีกหน่อย ข้าจะกลับมาถามเจ้าอีกครา วันนี้ข้าเพียงแวะมาเยี่ยมเยียนลูกหลานของเผ่าปีศาจเพียงเท่านั้น""ท่านไม่รังเกียจที่เขามีเลือดมนุษย์ไหลเวียนอยู่ในร่างหรือเจ้าคะ""เหลวไหล!!! เขาเป็นปีศาจ เจ้าแหกตาดูสิ เขาเหมือนหลี่เย่ยิ่งนัก!!!
อวี้ฉือที่ตามหลี่เย่ออกมาด้วย เมื่อได้เห็นเขาคุกเข่าอ้อนวอนต่อองค์เง็กเซียนฮ่องเต้อย่างหมดอาลัยตายอยากในชีวิตก็รู้สึกสงสารหลี่เย่เป็นอย่างมาก อวี้ฉือเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ก่อนจะเอ่ยขอความเห็นใจจากองค์เง็กเซียนฮ่องเต้แทนหลี่เย่ "ทูลองค์เง็กเซียนฮ่องเต้ หลี่เย่ได้สำนึกผิดแล้ว ขอพระองค์ทรงเมตตาเขาสักคราด้วยเถิด อย่างน้อยเรายังจะได้ชุบชีวิตมนุษย์ผู้สืบสายเลือดบริสุทธิ์ให้กลับมามีชีวิตอีกครา นางอาจจะช่วยแดนสวรรค์ของเราได้ไม่มากก็น้อยพ่ะย่ะค่ะ"หลี่เย่เงยหน้าไปมองอวี้ฉือด้วยแววตาที่เย็นชา ท้ายที่สุดแล้ว เผ่าสวรรค์ก็ยังคงต้องการเลือดของนางไปซ่อมแซมตาข่ายสวรรค์อยู่ดี เห็นแก่ตัวกันยิ่งนัก!!!องค์เง็กเซียนฮ่องเต้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงดังกังวานน่าเกรงขาม "หลี่เย่!!! เช่นนั้นเจ้าจงนำหญ้าเซียนไปให้แก่นาง แล้วจงรีบกลับมาที่นี่ เตรียมรับโทษจากข้า!!!""เป็นพระกรุณายิ่งนักพ่ะย่ะค่ะ"หลี่เย่น้อมกายทำความเคารพต่อองค์เง็กเซียนฮ่องเต้อย่างจำยอม เมื่อเขาตอบตกลงที่จะทำตามเงื่อนไข ท้องฟ้าพลันสว่างสดใส ประตูเจดีย์เหลยเฟิงจึงเปิดออก เผยให้เห็นหญ้าเซียนสีทองจำนวนมหาศาลที่ยืนต้น
เหล่าวิญญาณร้ายที่ถูกไห่ซือจับเป็นทาสรับใช้ รวมถึงเหล่าปีศาจและมารชั้นต่ำที่ไห่ซือจับพวกมันมาได้จากการหลุดลอดหนีออกมาจากตาข่ายสวรรค์ ต่างพุ่งทะยานเข้ามาหาหลี่เย่และเฟิ่งจิ้งทันที ควันสีดำทะมึนต่างพวยพุ่งเข้ามาอย่างมิขาดสาย หลี่เย่หาได้เกรงกลัวไม่ เขาพร้อมตั้งรับอย่างเต็มที่กรร!!!หลี่เย่กลายร่างเป็นงูยักษ์ขนาดใหญ่ ลำตัวของเขาใหญ่โตราวกับภูเขา ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองไปที่ไห่ซือและเฉินเฟยด้วยความโกรธแค้น เกล็ดสีขาวนวลราวไข่มุกราตรีส่องสว่างไปทั่วทั้งบริเวณ สร้างความหวั่นเกรงต่อผู้ที่ได้พบเห็นไม่น้อย ฟ่อ!!!เพียงแค่เขาอ้าปากพ่นพิษไฟออกมา ร่างของเหล่ามารปีศาจชั้นต่ำและวิญญาณร้ายต่างแหลกสลายมอดไหม้กลายเป็นจุณ ไม่นานนักเหล่าข้ารับใช้ของไห่ซือก็ทยอยสลายกลายเป็นผุยผงไปเสียหมด ไห่ซือยกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก เขาเปิดขวดน้ำเต้าทองออกมาอีกครั้ง ก็ปรากฏร่างของปีศาจงูสีดำขนาดใหญ่ ดวงตาสีแดงฉานของมันจ้องมองมาที่หลี่เย่ด้วยความดุดัน ลำตัวของมันมีขนาดใหญ่ไม่ต่างจากหลี่เย่ ไห่ซือที่ได้เห็นเช่นนั้นก็รู้สึกพึงพอใจไม่น้อย ปีศาจงูตนนี้เขาจับมันมาได้ตอนที่มันหลบหนีจากตาข่ายสวรรค์เฝ้าดูแลและเลี้ยงดูมันมาหลา
มู่หลันฮวามิได้รู้สึกว่าตนเองมีอาการแพ้ท้องหรืออยากอาหารมากเท่าใดนัก นางยังคงใช้ชีวิตได้เช่นปกติทั่วไป อาจจะมีเหนื่อยล้าและง่วงนอนบ้างบางเวลา แต่ก็ถือว่าไม่ได้อ่อนแอมากเท่าใดนักตรงกันข้ามนางกลับต้องการดื่มเลือดสด ๆ บ้างในบางครั้งก็เท่านั้นมู่หลัวแม้จะยังรู้สึกแปลกใจและสงสัยว่ามู่หลันฮวาจับงูมาทำสามีได้เช่นไร แต่เขายิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว และไม่อยากทำให้บุตรสาวของตนเองลำบากใจ จึงหลีกเลี่ยงที่จะเอ่ยถามนางไปเสียท้องของมู่หลันฮวาในยามนี้ใหญ่โตขึ้นมาอย่างรวดเร็ว คงเพราะบุตรในครรภ์มีเลือดของปีศาจอยู่ครึ่งหนึ่งจึงทำให้เจริญเติบโตรวดเร็วกว่าทารกในครรภ์ปกติทั่วไป หลี่เย่พานางมาหลบซ่อนอยู่ในถ้ำตามคำแนะนำของมู่หลัว ด้วยเกรงว่าจะมีชาวบ้านล่วงรู้เข้า และหลี่เย่กับมู่หลันฮวาจะพบเจอกับความลำบากมู่หลันฮวารู้สึกว่าภายในถ้ำค่อนข้างอบอ้าวมากกว่าปกติ นางจึงให้หลี่เย่พาออกมาเดินเล่นที่ด้านนอกเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์"หลี่เย่!!! เจ้าคิดแหกกฎเผ่าปีศาจหรือ!!!"เสียงทรงอำนาจเสียงหนึ่งดังขึ้นมา ทำให้มู่หลันฮวาและหลี่เย่ต้องหันไปมอง ก่อนจะพบกับผู้เฒ่าชราที่มีผมสีขาวโพลน หนวดเครายาวเป็นสีขาวขับให้บนใบหน้าของเขาดูน
Komen