เจียงหว่านหนิง สาวใช้อุ่นเตียงจวนแม่ทัพ

เจียงหว่านหนิง สาวใช้อุ่นเตียงจวนแม่ทัพ

last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-06-18
โดย:  องค์หญิงโนเนมอัปเดตเมื่อครู่นี้
ภาษา: Thai
goodnovel18goodnovel
คะแนนไม่เพียงพอ
39บท
89views
อ่าน
เพิ่มลงในห้องสมุด

แชร์:  

รายงาน
ภาพรวม
แค็ตตาล็อก
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป

เพราะสงครามที่รุกรานการใช้ชีวิต ทำให้เจียงหว่านหนิง ต้องสูญเสียบิดามารดา แต่ทว่าก่อนบิดามารดาจะตายได้บอกนางเรื่องหนึ่ง ทำให้เจียงหว่านหนิงต้องเดินทางมาที่แคว้นต้าโจว จนกระทั่งได้พบกับ ไป๋จื่อเซียน รองแม่ทัพหนุ่มรูปงาม ที่ทั้งอบอุ่นและใจดี แต่ทว่าในจวนกลับมีเรื่องเล่าลือว่าเขาป่วยเป็นโรคประหลาดที่ไม่มีหมอรักษาได้ ความรักของเขากับนางจึงเกิดขึ้นพร้อมกับเรื่องราวต่างๆมากมาย

ดูเพิ่มเติม

บทที่ 1

บทนำ1-1

มู่ซีหว่านเก็บกระดาษและพู่กันใส่กล่องไม้ด้วยสีหน้าอ่อนล้า นับจากนางกับบิดาพลัดหลงกัน นางก็เลี้ยงชีพด้วยการตั้งโต๊ะข้างถนนรับตรวจโรคให้ผู้ไข้ แม้นางจะเป็นบุตรีหมอเทวดามีฝีมือการแพทย์ติดตัวไม่น้อย ทว่ามีฝีมือก็ส่วนมีฝีมือ นางไม่มีแม้แต่เงินจะซื้อบะหมี่ย่อมไม่อาจเปิดโรงหมอ ทุกวันนี้จึงทำได้เพียงตรวจร่างกายให้ผู้ไข้แล้วเขียนใบยาให้อีกฝ่ายไปหาซื้อสมุนไพรรักษาตัวเอง

"แม่นาง" เสียงบุรุษผู้หนึ่งเรียกขานนางด้วยท่าทางร้อนรน มู่ซีหว่านไม่ทันเอ่ยถามอีกฝ่ายก็คุกเข่าเอ่ยทั้งน้ำตา

"ได้โปรดช่วยภรรยาข้าด้วย"

"พี่ชายรีบลุกขึ้นก่อน มีเรื่องใดก็ค่อยๆ เจรจา"

มือเล็กจับประคองชายตรงหน้าลุกขึ้น อีกฝ่ายยืนด้วยความไม่มั่นคงเอ่ยเสียงสั่น

"ภรรยาข้าล้มป่วยมาสามเดือนแล้ว ข้าหาหมอมาดูอาการนางนับสิบคนก็ไม่อาจวิเคราะห์โรคได้ วันก่อนได้ยินชาวบ้านเอ่ยถึงหมอหญิงผู้มีเมตตา จึงได้เดินทางทั้งวันทั้งคืนมาสามราตรี มาขอร้องท่านให้ช่วยไปตรวจนางสักหน่อย"

มู่ซีหว่านเห็นความรักอันลึกซึ้งของบุรุษตรงหน้าก็นึกชื่นชมยิ่งนัก เผลอพยักหน้าตอบรับโดยไม่รู้ตัว

มู่ซีหว่านนั่งรถม้าออกนอกเมืองขึ้นไปทางเหนือของแคว้นฉานอัน ใช้เวลาสามราตรีก็มาถึงบ้านของเกาเหว่ย

"ภรรยาข้าอยู่ที่เรือนตะวันตก เชิญท่านหมอ"

มู่ซีหว่านเดินตามแผ่นหลังกว้างไปด้วยท่าทางรีบร้อน ก่อนที่จะหยุดเท้าที่หน้าประตูไม้

 "เชิญท่านหมอ"

 สิ้นคำเชิญเท้าเล็กก็ก้าวเข้าไปด้านในเรือน หากแต่ทันทีที่ร่างกายพ้นบานประตู แผ่นหลังบางก็ถูกผลักจนเซถลาล้มลง พร้อมกับประตูที่ปิดลง เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบว่าภายในห้องมีหญิงสาวใบหน้างดงามอยู่สามนาง

"เอ่อ...ข้ามู่ซีหว่านได้รับการไหว้วานให้มารักษาฮูหยินเกา ไม่ทราบว่าคือแม่นางคนไหนหรือ"

หลังจากเอ่ยปากถามออกไป มู่ซีหว่านก็สังเกตเห็นใบหน้าที่ตื่นตกใจระคนระอาใจของเหล่าสตรีตรงหน้า คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันแน่น

"เหตุใดพวกเจ้าจึงทำหน้าเช่นนี้ หรือว่าข้าจะมาผิดเรือนกัน"

"เจ้าถูกหลอกแล้ว"

 เสียงไร้อารมณ์ของสตรีนางหนึ่งดังขึ้นมาจากทางด้านในสุด สตรีที่มีท่าทางนิ่งสงบผู้หนึ่งเอ่ยบอก ก่อนจะเอ่ยถามนาง

"ก่อนหน้านี้เจ้าอยู่ที่ไหน เดินทางมาจากทิศใด ใช้เวลากี่วัน ด้วยวิธีไหนจึงมาถึงที่นี่"

มู่ซีหว่านแม้ยังสับสนแต่เอ่ยตอบคำถามอีกฝ่าย

"เจ้าเป็นหมอหรือ"

สตรีใบหน้าซีดเซียวหายใจรวยรินอยู่มุมห้องเอ่ยถาม มู่ซีหว่านพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายในทันที

"เจ้าถูกสามบุปผา"

มุมปากของหญิงสาวตรงหน้ายกขึ้น ในแววตามีความชื่นชมอยู่ในที

"สามารถระบุพิษที่ข้าได้รับได้ นับว่าเป็นหมอมีฝีมือไม่น้อย"

"เจ้าอยู่นิ่งๆ ข้าจะฝังเข็มระงับพิษให้ก่อน"

 เพราะไม่มีตัวยามู่ซีหว่านจึงไม่อาจรักษาสตรีตรงหน้าได้ ทำได้เพียงฝังเข็มสะกดพิษเอาไว้เท่านั้น

"บุญคุณช่วยเหลือ ภายหน้าข้าย่อมตอบแทน"

"ข้าเป็นหมอ รักษาผู้ไข้คือหน้าที่ จะนับเป็นบุญคุณได้อย่างไร"

“อย่างไรก็ไม่อาจละเลย ภายหน้าข้าจะตอบแทนเจ้าสักร้อยตำลึง”

 มู่ซีหว่านกำลังจะตอบปฏิเสธ ทว่าเสียงกังวานใสที่ดูเหมือนจะระงับความตื่นเต้นไม่ไหวดังขึ้นมาเสียก่อน

"ดีจริง ซีหว่าน เจ้าก็รับเงินจากหว่านหนิงเถอะ แล้วก็นำมาลงทุนเปิดโรงหมอกับข้า"

มู่ซีหว่านขมวดคิ้วขึ้น มองสายตาเปล่งประกายของสตรีตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ เหตุการณ์เช่นนี้ยังจะคิดถึงเรื่องเปิดโรงหมอได้ หาทางหนีออกไปให้ได้ก่อนดีหรือไม่

เจียงหว่านหนิงตวัดสายตามองสหายร่วมชะตากรรม ก่อนจะถอนหายใจยาว

“หลี่เฟิ่งเซียน ในหัวของเจ้ามีแต่ลูกคิดหรือไร?”

มู่ซีหว่านได้ยินคำโต้แย้งของคนทั้งสองก็ได้แต่ยิ้มอย่างขบขัน ย้อนดูแล้วคล้ายนี่จะเป็นรอยยิ้มแรกในรอบหนึ่งปีของนางเลยทีเดียว

“พี่เพ่ยลู่เสียน ท่านพอจะคาดเดาตำแหน่งของพวกเราได้หรือยัง”

 เจียงหว่านหนิงเลิกสนใจหลี่เฟิ่งเซียน นางหันมามองหน้าเพ่ยลู่เสียนอย่างเคร่งเครียด

"เท่าที่พวกเจ้าบอกมาข้าสงสัยอยู่สองที่ คือเมืองอันฉินกับเมืองไห่หนิง"

หลี่เฟิ่งเซียนบอกเสียงเรียบดวงตาคมยังคงจดจ้องที่พื้นดินตรงหน้า เพื่อวิเคราะห์อย่างละเอียดอีกครั้ง

..............................................................

“เข้าไป!”

เสียงโหดเหี้ยมดังขึ้นมาจากทางหน้าประตูอีกครั้ง สตรีทั้งสี่ต่างก็หันมามองหน้ากัน

"ดูท่าจะมีหญิงสาวถูกจับมาอีกแล้ว"

มู่ซีหว่านพูดขึ้นมาด้วยความเศร้า และที่เหลือต่างก็พยักหน้าตอบรับคำพูดของนาง เสียงทอดถอนใจดังออกมาอย่างพร้อมเพรียง

สามวันที่นางถูกจับตัวมาขังรวมกับเพ่ยลู่เซียนเจียงหว่านหนิง และหลี่เฟิ่งเซียน แม้จะดูเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ แต่สำหรับมู่ซีหว่านกลับรู้สึกผูกพันกับทุกคนราวกับอยู่ด้วยกันมาร่วมสามปี

"ข้าว่าต้องใช่ หากข้าพูดถูกพวกเจ้าทั้งสามต้องจ่ายมาคนละสิบอีแปะตกลงหรือไม่"

เพ่ยลู่เซียนหันไปส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ทว่าก็ไม่ได้ห้ามอะไร เช่นเดียวกับมู่ซีหว่าน ที่อดจะถอนหายใจออกมาไม่ได้ เอาเถอะในยามที่กำลังทุกข์เช่นนี้ ให้หลี่เฟิ่งเซียนได้สร้างความสนุกให้พวกนางสักนิดก็ยังดี

"โอ๊ย!!..."

ประตูเรือนถูกเปิดออกพร้อมกับร่างของหญิงสาวบอบบางคนหนึ่งที่ถูกผลักเข้ามาในเรือนตะวันตก มู่ซีหว่านเห็นร่างบอบบางคล้ายกำลังจะล้มลงกับพื้น ก็รีบลุกขึ้นอ้าแขนรับนางเอาไว้แนบอก

“เป็นอะไรหรือไม่?”

มู่ซีหว่านอ้าแขนออกโอบกอดสตรีคนใหม่เข้ามาในอ้อมออก เด็กสาวเงยหน้าขึ้นดวงตาฉ่ำวาวไปด้วยหยาดน้ำตา ทว่าดูก็รู้ว่าพยายามอดกลั้นเอาไว้เป็นอย่างมาก

ทว่าเพียงแค่นางยกมือลงวางบนเส้นผมเงางามนั้น เด็กสาวผู้นั้นก็เหมือนจะทนไม่ไหว หยาดน้ำตาราวกับไข่มุกไหลออกมาเป็นสาย

“ซีหว่านรีบแก้มัดให้นางก่อน”

เพ่ยลู่เสียนที่ยามนี้พวกนางต่างยกตำแหน่งพี่ใหญ่เพ่ยให้กับนางออกคำสั่งขึ้นมา มู่ซีหว่านพยักหน้าและค่อยๆ แก้มัดให้เด็กสาวในอ้อมกอดอย่างเบามือ และนอกจากนี้ยังหยิบตลับยาออกมาทาที่ข้อมือเล็กให้อีกด้วย

“เจ้าชื่ออะไร ทำไมจึงถูกจับตัวมา แล้วจดจำสิ่งใดได้บ้าง?”

เจียงหว่านหนิงเอ่ยถามเสียงเข้ม สายตาคมจ้องมองเด็กสาวที่ตัวสั่นตรงหน้า เหมือนกำลังสำรวจร่องรอยการถูกทำร้าย ทว่าเมื่อเห็นว่าบนร่างกายนอกจากข้อมือแล้วไม่มีรอยบาดเจ็บอะไรอีก ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกออกมา ช่างเป็นเด็กสาวที่ดูเปราะบางเสียเหลือเกิน ยิ่งดวงตากลมที่ปริ่มน้ำคู่นี้ ต่อให้เป็นบุรุษใจเหล็กก็ยากจะต้านทานจริงๆ

“หว่านหนิง เจ้ากำลังทำให้นางกลัว!”

เป็นอีกครั้งที่พี่ใหญ่เพ่ยเอ่ยตำหนิขึ้นมา ทว่าเจียงหว่านหนิงทำเพียงยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจนัก หากแต่เมื่อโดนสายตาดุส่งมาก็ยิ้มแห้งหันหน้าหลบสายตาตำหนิของอีกฝ่ายแล้วเอ่ยเสียงอ่อนลง

แสดง
บทถัดไป
ดาวน์โหลด

บทล่าสุด

บทอื่นๆ

ความคิดเห็น

ไม่มีความคิดเห็น
39
บทนำ1-1
มู่ซีหว่านเก็บกระดาษและพู่กันใส่กล่องไม้ด้วยสีหน้าอ่อนล้า นับจากนางกับบิดาพลัดหลงกัน นางก็เลี้ยงชีพด้วยการตั้งโต๊ะข้างถนนรับตรวจโรคให้ผู้ไข้ แม้นางจะเป็นบุตรีหมอเทวดามีฝีมือการแพทย์ติดตัวไม่น้อย ทว่ามีฝีมือก็ส่วนมีฝีมือ นางไม่มีแม้แต่เงินจะซื้อบะหมี่ย่อมไม่อาจเปิดโรงหมอ ทุกวันนี้จึงทำได้เพียงตรวจร่างกายให้ผู้ไข้แล้วเขียนใบยาให้อีกฝ่ายไปหาซื้อสมุนไพรรักษาตัวเอง"แม่นาง" เสียงบุรุษผู้หนึ่งเรียกขานนางด้วยท่าทางร้อนรน มู่ซีหว่านไม่ทันเอ่ยถามอีกฝ่ายก็คุกเข่าเอ่ยทั้งน้ำตา"ได้โปรดช่วยภรรยาข้าด้วย""พี่ชายรีบลุกขึ้นก่อน มีเรื่องใดก็ค่อยๆ เจรจา"มือเล็กจับประคองชายตรงหน้าลุกขึ้น อีกฝ่ายยืนด้วยความไม่มั่นคงเอ่ยเสียงสั่น"ภรรยาข้าล้มป่วยมาสามเดือนแล้ว ข้าหาหมอมาดูอาการนางนับสิบคนก็ไม่อาจวิเคราะห์โรคได้ วันก่อนได้ยินชาวบ้านเอ่ยถึงหมอหญิงผู้มีเมตตา จึงได้เดินทางทั้งวันทั้งคืนมาสามราตรี มาขอร้องท่านให้ช่วยไปตรวจนางสักหน่อย"มู่ซีหว่านเห็นความรักอันลึกซึ้งของบุรุษตรงหน้าก็นึกชื่นชมยิ่งนัก เผลอพยักหน้าตอบรับโดยไม่รู้ตัวมู่ซีหว่านนั่งรถม้าออกนอกเมืองขึ้นไปทางเหนือของแคว้นฉานอัน ใช้เวลาสามราตรีก็มาถึ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-06-18
อ่านเพิ่มเติม
บทนำ1-2
เพ่ยลู่เสียนแม้มีอายุต่างจากพวกนางไม่มาก ทว่ากลับมีความสุขุม รอบคอบและเด็ดขาด ดังนั้นพวกนางจึงรู้สึกวางใจและยกให้อีกฝ่ายเป็นพี่ใหญ่ด้วยความเต็มใจ“ข้าเพียงอยากรวบรวมข้อมูลเพื่อจะได้ใช้วางแผนหลบหนีเท่านั้น ขออภัยด้วยหากทำให้เจ้าตกใจ”“ลู่เสียน เจ้าก็อย่าดุหว่านหนิงนักเลย นางไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรสักหน่อย เอาละสาวน้อย เจ้าก็เล่าเท่าที่เจ้ารู้ออกมาก็แล้วกัน”หลี่เฟิ่งเซียนออกหน้าช่วยสหาย ก่อนจะเอียงตัวกระซิบเสียงเบาข้างหูเจียงหว่านหนิง“ครั้งนี้ข้าช่วยเจ้า นับว่าเจ้าติดหนี้ข้าเพิ่มเป็นยี่สิบอีแปะ”มู่ซีหว่านมองสหายตรงหน้าแล้วถอนหายใจยาว ก่อนจะกระชับอ้อมแขนปลอบโยนเด็กสาวในอ้อมอก ส่งสายตาปลอบโยนให้นางจนคนตัวเล็กคลายความหวาดหวั่นและเอ่ยเสียงสั่นเครือเบาๆ“ข้าชื่ออู๋สือซว่านเจ้าค่ะ จำได้เพียงว่าชายที่จับตัวข้ามามีรอยสักรูปอินทรีที่อกขวา”“เช่นนั้นก่อนหน้านี้เจ้าอยู่ที่ไหน เดินทางมาจากทิศใด ใช้เวลากี่วันด้วยวิธีไหนจึงมาถึงที่นี่”เพ่ยลู่เสียนเอ่ยถามเพิ่มเติมด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ดูเหมือนว่าเด็กสาวนามว่าอู๋สือซว่านจะไว้ใจพี่สาวเพ่ยอยู่ไม่น้อย อาการสั่นสะท้านของนางจึงคลายลงอย่างชัดเจน น้ำเสียงที่
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-06-18
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 1 เดินทางตามหาบิดามารดา
หลี่เฟิ่งเซียนแบกเจียงหว่านหนิงมาตามทางเรื่อยๆ ยามนี้รอบด้านที่พวกนางพาดผ่านเป็นเพียงป่าไผ่รกทึบ หลี่เฟิ่งเซียนหันไปเอ่ยถามเจียงหว่านหนิงเป็นระยะด้วยความห่วงใย "หว่านหนิง เจ้าเป็นเช่นไรบ้าง"เด็กสาวที่ซบใบหน้าซีดเผือดอยู่บนไหล่เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า"พี่เฟิ่งเซียน ข้ารู้สึกว่าร่างกายไร้เรี่ยวแรงอีกแล้วเจ้าค่ะ""เจ้าอดทนอีกหน่อยเถิด อีกไม่ไกลก็จะเข้าเขตชายแดนแล้ว ได้ยินว่าด้านหน้ามีโรงเตี๊ยมเล็กๆ อยู่ ข้าจะส่งเจ้าไปพักที่นั่นก่อน ไว้เจ้าอาการดีขึ้นเราค่อยคิดหาทางออก"เจียงหว่านหนิงพยักหน้าอย่างช้าๆ นางซาบซึ้งใจยิ่งนัก นับแต่นี้ไปจึงตั้งมั่นว่าจะนับถือหลี่เฟิ่งเซียนเป็นพี่ใหญ่ที่นางนับถือไปชั่วชีวิต หลี่เฟิ่งเซียนที่เห็นเช่นนั้นก็ไม่อยากรบกวนนางมากนัก นางอยากให้เจียงหว่านหนิงเก็บแรงเอาไว้ ระหว่างทางหลี่เฟิ่งเซียนก็ครุ่นคิดบางอย่างเรื่อยเปื่อย เฮ้อ จะว่าไปนางนี่ก็แบกคนเก่งใช้ได้เลย มิสู้รับจ้างแบกคนหารายได้ระหว่างเดินทางไม่ดีกว่าหรือ?ไม่ดีๆ!!! หากเจอคนตัวหนักเช่นเจียงหว่านหนิงนางคงเหนื่อยแย่ เช่นนี้ย่อมขาดทุน ค้าขายไม่ได้กำไรกันพอดีหลี่เฟิ่งเซียนส่ายหน้าไปมา พลางอดยิ้
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-06-18
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 2 ช่วยคน
บุรุษผู้นั้นหันมาจ้องมองเจียงหว่านหนิงราวกับจะดื่มเลือดกินเนื้อนาง แต่ทว่าเมื่อได้เห็นใบหน้าของนางชัดๆ ดวงตาของเขาก็ทอประกายวาวโรจน์ สตรีตรงหน้าช่างงดงามเป็นอย่างมาก ดวงตาของนางกลมโตฉ่ำน้ำ ใบหน้าแม้จะดูซีดเซียว แต่ทว่าชวนให้ผู้คนหลงใหลเช่นนี้เขาไม่เคยพบเห็นมาก่อนเลยเมื่อได้เห็นเช่นนั้น บุรุษนิสัยเสียตรงหน้าก็เปลี่ยนความสนใจมาที่เจียงหว่านหนิงทันที เจียงหว่านหนิงลอบมองบุรุษผู้นั้นคราหนึ่ง ใบหน้าเขาก็หล่อเหลาดี แต่มีนิสัยเฮงซวยเกินไป"แม่นาง เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นผู้ใด ข้ามีนามว่า หลัวเหวินซิ่ง เป็นบุตรชายของท่านอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในสำนักศึกษาหลวงกั๋วจื่อเจี้ยน มารดาข้าก็เป็นถึงองค์หญิงใหญ่แคว้นโจว พี่สาวของฮ่องเต้ เจ้าทำอาภรณ์ข้าเลอะเทอะ ทำให้ข้าขายหน้าเจ้าจะชดใช้เช่นไร"เจียงหว่านหนิงกะพริบตามองหลัวเหวินซิ่งคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา"นายท่านโปรดเมตตาด้วยเจ้าค่ะ อุแหวะ""ช่างเถิด โอะ อย่าอ้วกอีกนะ!!!"หลัวเหวินซิ่งกระโดดตัวโยนหนีออกมาทันทีเมื่อเห็นว่าเจียงหว่านหนิงตั้งท่าจะอาเจียนออกมาอีกรอบ เขาหันไปมองไป๋ซู่ฮวาอีกคราก่อนจะเอ่ย"ไว้ข้าจะมารอพบเจ้าอีก นับว่าวันนี้เจ้าโชคดีย
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-06-18
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 3 พบเจอ
"ท่านแม่ ลูกอยากกลับไปนอนที่จวนแล้วเจ้าค่ะ"ไป๋ซู่ฮวาเอ่ยกับผู้เป็นมารดาด้วยยน้ำเสียงที่เกียจคร้าน เมื่อสามวันก่อนท่านแม่พานางไปไหว้พระขอพรที่วัดหวาเยียนบนเขา ครานี้พี่ใหญ่ก็ติดตามมาด้วยตามคำสั่งของท่านพ่อ เพื่อให้มาคอยดูแลท่านแม่และนาง เนื่องจากยามนี้ต่างแคว้นมีสงคราม ท่านพ่อเกรงว่าจะเกิดเรื่องขึ้นได้ เพราะยามนี้ค่อนข้างมีโจรป่าชุกชุม จะเรียกว่าคุ้มกันก็ไม่ถูกเท่าใดนัก เพราะท่านแม่ไม่ยอมให้เขาขี่ม้า แต่กลับให้เขาเข้ามานั่งในรถม้าด้วย เพราะเกรงว่าเขาจะล้มป่วย เขาจึงทำได้เพียงให้เหรินห่าวและบ่าวรับใช้คนสนิทคอยคุ้มกันด้านนอกแทน เหรินห่าวค่อนข้างมีทักษะในการต่อสู้อยู่บ้าง ส่วนเขาเองก็ไม่ได้หละหลวม อีกทั้งท่านพ่อยังส่งองครักษ์ลับของจวนมาคอยติดตามเขาอยู่ห่างๆ อย่างไรเสียพวกโจรย่อมไม่กล้าเสนอหน้าออกมาเป็นแน่ไป๋ฮูหยินมองบุตรสาวของตนเองก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย ไป๋ซู่ฮวาบุตรสาวของนางมีนิสัยเกียจคร้านชอบเล่นสนุก กว่านางจะหาทางทำให้นางยอมตามมาที่วัดย่อมเหนื่อยไม่น้อย"พวกเจ้าสองคนนี่นะ ช่างขี้บ่นยิ่งนัก ซู่เอ๋อร์ เจ้าน่ะเป็นสตรีควรจะสวดมนต์ไหว้พระให้มาก ส่วนเจ้าจื่อเอ๋อร์ เจ้าเองก็ควรไหว้ขอพรพระ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-06-18
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 4 ไปจวนแม่ทัพ
ไป๋จื่อเซียนและไป๋ซู่ฮวาพาเจียงหว่านหนิงมาที่โรงหมอซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก เขามองใบหน้าซีดเผือดของนางคราหนึ่ง ก่อนจะเดินออกมารอที่ด้านนอกพร้อมกับไป๋ซู่ฮวา ระหว่างรอท่านหมอรักษา เขาจึงหันมาเอ่ยถามน้องสาวของตนคราหนึ่ง "ซู่เอ๋อร์ นับว่านางมีบุญคุณกับเจ้า รอนางฟื้นเราค่อยสอบถามความเป็นไปของนางอีกครา""พี่ใหญ่ ก่อนจากกันคราก่อน นางบอกกับข้าว่านางมาจากต่างแคว้น มาที่แคว้นโจวเพื่อตามหาบิดามารดาของนาง แต่ข้าไม่ได้พูดจากับนางมากนัก เพราะต้องเร่งกลับจวน ไว้รอนางฟื้นเราค่อยสอบถามนางอีกคราก็ได้เจ้าค่ะ เผื่อจะได้ช่วยเหลือนางได้""อืม"ไป๋จื่อเซียนและไป๋ซู่ฮวารออยู่ราวครึ่งชั่วยาม ท่านหมอก็เดินออกมาพบพวกเขา ไป๋จื่อเซียนที่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยถามทันที "แม่นางผู้นั้นเป็นเช่นไรบ้างขอรับ?""ท่านรองแม่ทัพไป๋ เท่าที่ข้าตรวจดู นางถูกสามบุปผา พิษนี้จะทำให้อ่อนแรงกระอักโลหิตจนตายไปเอง อีกทั้งยาพิษก็อยู่ในร่างกายนางมาหลายวัน โชคดีที่ยังไม่ลุกลามเข้าไปในจุดสำคัญเนื่องจากได้รับพิษมาในปริมาณไม่มาก ข้าน้อยจะจัดเทียบยาให้นาง ยานี้ต้มดื่มสามวันก็สามารถขจัดพิษได้หมดขอรับ""รบกวนท่านหมอแล้ว""ยินดี ยินดี"ท่านหมอพย
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-06-18
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 5 ไต้ซือ
ไป๋ฮูหยินและแม่ทัพใหญ่ไป๋ที่เห็นว่าบุตรสาวบุตรชายมาถึงแล้วก็ดีใจเป็นอย่างมาก นางรีบเดินเข้ามาจับมือไป๋จื่อเซียนบุตรชายของตนด้วยท่าทีกระตือรือร้น ก่อนจะหันไปมองเจียงหว่านหนิงคราหนึ่ง "จื่อเอ๋อร์ เจ้าพาผู้ใดมากัน หรือว่าเป็นภรรยาลับของเจ้า ที่เจ้าเลี้ยงดูเอาไว้นอกจวน"ไป๋ฮูหยินจ้องมองสำรวจเจียงหว่านหนิงคราหนึ่ง พลางครุ่นคิดในใจ เอ ใบหน้าก็งดงามใช้ได้ทีเดียว แต่เสื้อผ้าที่สวมใส่ดูสกปรกไปเสียหน่อย หรือว่า ตายละ รสนิยมจื่อเอ๋อร์ชื่นชอบสตรีไม่อาบน้ำหวีผมเช่นนั้นหรือ ช่างเถิด ในเมื่อเอาเข้าจวนมาแล้ว ค่อยสั่งสอนนางให้รักษาความสะอาดก็ยังไม่สาย!ไป๋จื่อเซียนหลับตาลงคราหนึ่ง นับวันท่านแม่ของเขาเริ่มจะเลอะเทอะเกินไปแล้ว ท่านพ่อก็ไม่คิดจะห้ามปรามเลยแม้แต่น้อย "ท่านแม่ นางไม่ใช่ภรรยาลูกขอรับ นางคือคนที่ช่วยเหลือซู่เอ๋อร์ เราเจอนางที่หน้าหอวารีเมื่อครู่นี้อย่างไรเล่าขอรับ""อ่า""ท่านแม่ นางลำบากยิ่งนัก ลูกจึงอยากมาขอความกรุณาจากท่านแม่ โปรดรับนางเข้าจวนด้วยขอรับ นางยินดีทำงานแลกเงินขอรับ"ไป๋ฮูหยินจ้องมองไป๋จื่อเซียนสลับกับมองเจียงหว่านหนิง ในใจลอบเสียดายไม่น้อย แต่ก็ช่างเถิด เมื่อคิดได้เช่นนั้
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-06-18
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 6 สาวใช้
เมื่อเห็นว่าไม่มีสิ่งใดให้น่าดูชมแล้ว ไป๋ซู่ฮวาจึงพาเจียงหว่านหนิงเดินตรงมายังเรือนด้านหลัง ไป๋ซู่ฮวาบอกว่าที่นี่คือเรือนของเหล่าสาวใช้ทั้งหลายที่ทำงานอยู่ในจวนตระกูลไป๋ เมื่อเจียงหว่านหนิงมาถึง ก็พบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่กำลังยืนสั่งการเหล่าสาวใช้อยู่ในจวน เมื่อนางหันมาเห็นไป๋ซู่ฮวาก็รีบทำความเคารพทันที "คุณหนู มีเรื่องใดให้บ่าวรับใช้หรือเจ้าคะ"ไป๋ซู่ฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย"ป้าเถา ท่านแม่ข้ารับสาวใช้เข้ามาใหม่ นางเป็นคนที่เคยช่วยข้าเอาไว้ จะเรียกว่าเป็นสหายข้าก็ย่อมได้ ท่านแม่ให้ข้าพานางมาพบท่านก่อน ให้ท่านหาเสื้อผ้าให้นางน่ะ ส่วนเรื่องหน้าที่ในจวนท่านแม่จะจัดการเอง ข้าฝากนางด้วยนะป้าเถา อย่างไรหากนางเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งกายเรียบร้อยแล้ว ท่านช่วยพานางไปที่เรือนใหญ่ที ข้าจะรีบไปพบท่านแม่ก่อน""ได้เจ้าค่ะคุณหนู"ป้าเถาพยักหน้ารับอย่างนอบน้อม ก่อนจะหันไปมองเจียงหว่านหนิงคราหนึ่ง ไป๋ซู่ฮวาหันมายิ้มให้เจียงหว่านหนิง ก่อนจะเอ่ยกับนางอย่างสนิทสนม "หว่านหนิง เจ้าไม่รู้สิ่่งใดก็ถามป้าเถาได้เลยนะ ป้าเถาน่ะใจดี เป็นคนเก่าแก่ที่ติดตามท่านแม่มาตั้งแต่แต่งงาน""ขอบใจเจ้
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-06-18
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 7 จวนตระกูลฟาง
จวนตระกูลฟาง "เร็วๆ เข้าสิ เร่งมือหน่อย อีกไม่กี่วันที่จวนจะมีงาน ดี!!! ทำความสะอาดตรงนั้นให้ดี"เสียงของหญิงชราผู้หนึ่งเอ่ยกับสาวใช้ พลางส่ายหน้าไปมองที่เหล่าสาวใช้ตัวน้อยที่ทำงานได้ชักช้าไม่ทันใจ ก่อนจะหันไปมองสตรีวัยกลางคนตรงหน้าที่ยามนี้กำลังส่งเสียงไอออกมาเบาๆ "ฮูหยินใหญ่ ท่านไปพักเถิดเจ้าค่ะ ทางนี้บ่าวจะดูแลเอง"สตรีวัยกลางคนผู้นั้นส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มออกมาเล็กน้อย "ข้าจะอยู่ดูตรงนี้แหละ อีกไม่กี่วันจะมีจวนขุนนางมากมายมาร่วมงานชมดอกเหมยในจวนของเรา จะให้ขาดตกบกพร่องไม่ได้เด็ดขาด""เจ้าค่ะฮูหยินใหญ่" สตรีวัยกลางคนผู้นี้ก็คือฟางฮูหยิน เป็นภรรยาเอกของเสนาบดีฟาง นางมีบุตรชายหนึ่งคนมีนามว่าฟางไฉหรง ส่วนบุตรสาวนั้นหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย นางตามหาเท่าใดก็ไม่พบ ทำได้เพียงเศร้าเสียใจจนป่วยเรื้อรังมาหลายสิบปี ในจวนตระกูลฟาง นอกจากมีนางเป็นฮูหยินใหญ่แล้ว ยังมีฮูหยินรองอีกนางหนึ่งนามว่า หยวนชิง นางมีลูกแฝดชายหญิงนามว่า ฟางเหมยลี่และฟางอวี้เฉวียน ปีนี้มีอายุสิบหกปีเต็มแล้ว "พี่หญิง ได้ยินว่าช่วงนี้ร่างกายของท่านไม่สู้ดี เหตุใดจึงไม่พักเล่าเจ้าคะ งานนี้ให้ข้าช่วยทำแทนก็ได้ ข้ายินดี"เ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-06-18
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 8 โรคบ้าจี้
เจียงหว่านหนิงถูกป้าเถาดุไปไม่น้อย ด้วยเพราะนางไม่ค่อยเป็นสตรีที่อยู่ในกฎระเบียบเท่าใดนัก เดิมทียามอยู่ที่แคว้นฉางอัน บิดาของนางมักจะสอนให้นางขี่ม้า ยิงธนู ฟันดาบ สอนทุกอย่างที่สามารถป้องกันตนเองได้ เรื่องอาหารนางก็เรียนรู้มาจากท่านแม่ไม่น้อย แต่เรื่องงานในจวนที่แสนจะยิบย่อยเช่นนี้ นางไม่ถนัดเลยแม้แต่น้อย แม้ป้าเถาจะดุนาง แต่ทว่าก็ยังเอ็นดูนางอยู่มาก กว่าจะผ่านมาถึงช่วงยามเย็น เจียงหว่านหนิงก็แทบจะหมดเรี่ยวแรง "หว่านหนิง มาดื่มยาเถิด ยานี้คุณหนูสั่งให้ข้านำมาให้เจ้า ได้ยินว่าเจ้าป่วยมิใช่หรือ ต้องดื่มยาให้ครบสามวัน อาการจึงจะดีขึ้น""ขอบคุณเจ้าค่ะป้าเถา"เจียงหว่านหนิงรับถ้วยยามาดื่ม รสชาติขมฝาดของมันไม่ได้ส่งผลใดๆ ต่อนางเลยแม้แต่น้อย ป้าเถาจ้องมองสตรีตรงหน้าคราหนึ่ง เมื่อจับนางมาแต่งตัวแล้ว ช่างดูงดงามเป็นอย่างมาก ผิวพรรณขาวนวลเนียนราวกับเป็นบุตรสาวของขุนนางชนชั้นสูงก็ไม่ปาน ไม่เหมือนกับสตรีชนบทเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังมีท่าทางที่เข้มแข็ง แม้จะดูอ้อนแอ้นบอบบางแต่กลับมีน้ำอดน้ำทนและสู้งานเป็นอย่างดี ทำให้ป้าเถาชื่นชอบนางเป็นอย่างมาก เมื่อดื่มยาเสร็จแล้ว ป้าเถาจึงหันมาเอ่ยกับนาง "เอ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-06-18
อ่านเพิ่มเติม
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status