แชร์

ตอนที่ 9 แปลกประหลาด

ผู้เขียน: บ.บี
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-19 13:04:20

เกาโหลวรู้ดีว่าชาวบ้านยังคงกลัวความแปลกประหลาดของเกาะลอยอยู่ เขาตัดสินใจคว้าองุ่นลูกหนึ่งส่งเข้าปากเคี้ยวกินต่อหน้าสมาชิกในหมู่บ้านเป็นการทดสอบทันที

โอ เยี่ยมจริงๆ อร่อยมาก เนื้อก็เยอะ” เกาโหลวเอ่ยชมไม่ขาดปาก ทั้งยังรู้สึกว่าตนเองก็ปลอดภัยไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใดจากองุ่นผลนี้

พวกท่านมีเรือมิใช่หรือขอรับ พายตามเราสองคนกลับไปที่เกาะสิ เราจะขอเอาผลไม้บนเกาะแลกเปลี่ยนกับข้าวของเครื่องใช้หรือไม่อย่างนั้นข้าก็ขอแลกเปลี่ยนเป็นเงิน จะได้หาซื้อของได้เองในภายหลัง” มู่สี่เสินตาเป็นประกายเมื่อเห็นว่าหัวหน้าหมู่บ้านเอ่ยชมผลไม้บนเกาะ เขาค้นพบช่องทางการค้าหาเงินมาใช้ได้แล้ว!

เจ้าแน่ใจจริงๆ หรือว่าจะกลับไปที่นั่น ข้าก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้เจ้าฟังแล้วอย่างไร หากกลับไปแล้วเจ้าถูกกระแสน้ำกลืนกินไปเล่า?” เกาโหลวพยายามชักจูงมู่สี่เสินเต็มกำลัง นึกห่วงความปลอดภัยของสองพี่น้องด้วยคุณธรรมน้ำมิตร

มีอะไรต้องกลัวกันท่านอา ที่นั่นปลอดภัยอย่างแน่นอน สัตว์ป่าดุร้ายสักตัวก็ไม่มี มีเพียงสัตว์เล็กๆ อย่างไก่ป่า กระรอก กระต่ายอะไรพวกนี้เท่านั้น เสียดายที่ข้าจับพวกมันมาเป็นอาหารไม่ได้” ยิ่งพูดมู่สี่เสินยิ่งรู้สึกหงุดหงิด หากตนมีอาวุธสักหน่อย เจ้าตัวเล็กเหล่านั้นก็เป็นอาหารอันโอชะและอาจสร้างรายได้ ได้อีกทางเลยทีเดียว

กลุ่มสตรีที่หายเข้าไปในหมู่บ้านก่อนหน้านี้กลับมาพร้อมกับเสื้อผ้าขนาดที่มู่สี่เสินและมู่เหยาจีสวมใส่ได้คนละ 2 ชุด พร้อมกับหวีไม้เล่มหนึ่ง นอกจากนี้พวกเขายังได้รับถ้วยชามตะเกียบ กระทะใบเล็กบิดเบี้ยวเล็กน้อย 1 ใบ ตะกร้าสานสองขนาดและถังไม้สำหรับตักน้ำอีก 1 ใบอีกด้วย

สี่เสินจัดการให้สตรีเหล่านั้นเลือกปลาและผลไม้เป็นของแลกเปลี่ยนกันตามใจชอบ สร้างความอิจฉาตาร้อนกับชาวบ้านคนอื่น ๆ ไม่น้อย

บนเกาะจิงเหมินมีหมู่บ้านชาวประมงทั้งหมด 4 หมู่บ้านกระจายอยู่รอบเกาะ สิ่งที่พวกเราขาดแคลนย่อมเป็นผักผลไม้ที่ไม่สามารถปลูกได้บนเกาะ ถ้าพวกเจ้ากลับไปแล้วเอามาขายให้เราได้อีก เราก็จะรับซื้อเอาไว้ทั้งหมด หรือหากมีอะไรที่เจ้าสองคนพี่น้องต้องการแลกเปลี่ยนพวกเราก็จะจัดเตรียมเอาไว้ให้ ตกลงไหม" 

เกาโหลวเห็นว่ารั้งตัวสองพี่น้องเอาไว้ไม่ได้ เขาจึงตัดสินใจจะส่งตัวเด็กๆ กลับไป หากสองพี่น้องอยู่รอดปลอดภัย ตนก็หวังเหลือเกินที่จะได้รับส่วนแบ่งผลไม้เลิศรสบนเกาะเหล่านั้น

มู่สี่เสินหันไปมองแพที่ถูกมัดอย่างง่ายๆ จากท่อนไม้และเถาวัลย์ เขาต้องขยายมันให้ใหญ่กว่าเดิม ต้องใช้เวลาอีกกี่วันกันนะจึงจะรวบรวมท่อนไม้มาได้อีกครั้ง

เกาโหลวมองตามสายตาของเด็กหนุ่มก็เข้าใจได้ “ข้ามีเรือเก่าอยู่ลำหนึ่ง ครั้งนี้จะให้เจ้าขอยืมไปใช้ก่อน จะได้ขนเอาผลไม้กลับมาอีกครั้งได้ง่ายขึ้น”

ขอบคุณท่านอาเกา ข้าคงต้องขอให้ท่านช่วยตีราคาผลไม้แต่ละชนิดให้เราด้วยขอรับ เราต้องใช้ผลไม้มากเพียงใดจึงจะซื้อเรือของท่านได้ลำหนึ่ง” ไม่มีสิ่งใดที่มู่สี่เสินอยากได้มากเท่ากับเรืออีกแล้ว เขาต้องการติดต่อกับชาวบ้าน ต้องการใช้เรือในการขนส่งสินค้าบนเกาะออกมาขาย

เรือลำนั้นถึงแม้จะเก่าแต่ก็ยังใช้งานได้อยู่ ข้าไม่ได้คิดจะขายมันออกไปแต่อย่างใด แต่หากเจ้าต้องการใช้มันจริงๆ ข้ามีเรื่องจะขอร้องสักประโยคได้หรือไม่”

ท่านอาเราเหมือนคนที่ท่านจะขอความช่วยเหลือได้ที่ใดกันขอรับ ขอเพียงท่านอาบอกมาเถิดอะไรที่ข้ากับน้องสาวทำได้ข้ายินดี” 

หากเจ้าสองคนอยู่รอดปลอดภัยเข้าออกเกาะลอยได้จริงๆ ขอให้เจ้าขายผลไม้บนเกาะให้กับหมู่บ้านของข้าเพียงแห่งเดียวเป็นการแลกเปลี่ยนกับเรือลำนี้โดยไม่คิดเงิน”

เกาโหลวรู้สึกละอายใจอยู่เล็กน้อย แต่ทำอย่างไรได้เล่า เกาะจิงเหมินมีหมู่บ้านชาวประมงถึง 4 หมู่บ้านอาศัยอยู่รวมกัน ทุกครอบครัวหาเลี้ยงปากท้องด้วยการเป็นชาวประมงเป็นหลัก แต่จำนวนปลาในทะเลก็หายากมากขึ้น พวกเขาเป็นเพียงชาวบ้านที่มีเพียงเรือลำเล็กไม่สามารถออกไปหาปลาในมหาสมุทรที่ไกลกว่านี้

หากหมู่บ้านจิงไห่ของตนมีโอกาสได้นำผลไม้ออกไปขายให้หมู่บ้านที่เหลืออีกสามหมู่บ้าน หรือหากผลไม้มีจำนวนมากเท่าภูเขาอย่างที่มู่เหยาจีกล่าวจริงๆ ก็ยังแบกใส่เรือนำไปต่อขายให้ชาวบ้านที่แผ่นดินใหญ่ได้อีกทาง

นั่นไม่ใช่เรื่องยากเลยขอรับ คนในหมู่บ้านของท่านมีน้ำใจกับพวกเราไม่น้อย ข้ารับรองว่าพรุ่งนี้ข้าจะกลับมาอีกครั้งพร้อมกับผลไม้เต็มลำเรือ” มู่สี่เสินตกปากรับคำอย่างมั่นใจ

ช่วงเวลาที่ตื่นเต้นเร้าใจที่สุดของคนทั้งหมู่บ้านจิงไห่แห่งเกาะจิงเหมิน ย่อมเป็นช่วงเวลาที่จะได้เห็นสองพี่น้องเดินทางกลับไปที่เกาะลอยตามเดิม

เกาโหลวกับบุรุษชาวประมงที่กล้าหาญอีก 5 คนนำเรือ 3 ลำติดตามเรือเก่าของสองพี่น้องไปห่างๆ เพื่อคอยให้ความช่วยเหลือหากเกิดเหตุร้ายแรงกับมู่สี่เสินและมู่เหยาจี

เมื่อใกล้เกาะลอยมากขึ้นไปทุกที เรือทั้งสามลำก็หยุดลอยลำคอยดูสถานการณ์ด้วยหัวใจที่เต้นกระหน่ำ ทั้งหวาดกลัวแทนสองพี่น้องแซ่มู่ ทั้งอยากเห็นกับตาว่าเกาะลอยจะเคลื่อนตัวหนีพวกเขาหรือจะทำปาฏิหาริย์อันใดที่ร้ายแรงขึ้นมาหรือไม่

พี่สี่เสินคิดว่าเรื่องที่พวกเขากล่าวเป็นเรื่องจริงหรือไม่เจ้าคะ”

ไม่รู้สิเหยาจี เวลานี้พวกเราก็ปลอดภัยดีไม่ใช่หรือ แต่ก็เห็นๆ อยู่ว่าบนเกาะไม่เคยมีคนขึ้นมาเก็บผลไม้เหล่านั้น ไม่มีร่องรอยของการสร้างที่อยู่อาศัยมาก่อน ก็อาจจะจริงกระมัง เจ้าอย่าลืมสิ เราสองคนก็เป็นตัวตนที่มนุษย์ไม่เคยพบเห็นมาก่อนเช่นกันนะ อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นล่ะ เจ้าระวังตัวด้วย หากเกิดอะไรขึ้นก็กอดท่อนไม้เอาไว้ให้แน่นแล้วรีบว่ายน้ำกลับไปหาพวกเขา”

เรือเก่าของเกาโหลวมีน้ำหนักเบา ไม้พายที่ได้มาพร้อมกับเรือก็ใช้การได้ดีกว่าการใช้ท่อนไม้ถ่อแพมาในคราวแรกหลายเท่าตัว ขากลับมู่สี่เสินถึงกับรู้สึกว่าแม้แต่กระแสน้ำก็ยังเป็นใจกับพวกตน เขาไม่ได้เหน็ดเหนื่อยเหมือนกับคราวแรก เรือก็แล่นตรงเข้าไปยังเกาะลอยราวกับมีคนช่วยลากจูงลำเรือให้แล่นเร็วขึ้น

เกาโหลวเห็นทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตาตนเอง เหลือระยะทางอีกเพียงไม่ถึงครึ่งลี้เด็กแซ่มู่สองคนก็จะถึงชายหาดทรายสีขาวสะอาดอยู่แล้ว

เขาขยับไม้พายในมือเคลื่อนตัวเรือเข้าไปใกล้เกาะลอยมากกว่าเดิม

ไม่แน่ว่าอาถรรพ์ที่เคยเป็นตำนานในอดีตจะถูกลบล้างไปแล้วก็ได้ เราอาจไปถึงเกาะลอยได้เช่นเดียวกับพวกเขา”

กล่าวยังไม่ทันสิ้นคำ เบื้องหน้าของเรือสามลำจากเกาะจิงเหมินก็ต้องพบเจอกับกระแสคลื่นใต้น้ำที่ปั่นป่วนกะทันหันอย่างไร้ร่องรอย ลมทะเลที่นิ่งสนิทผืนน้ำที่เคยสงบราบเรียบอยู่เมื่อครู่ อยู่ดีๆ ก็เกิดคลื่นขนาดใหญ่ออกมาขวางกั้นเส้นทางระหว่างเรือของพวกเกาโหลวกับเกาะลอยเอาไว้

กลับเร็ว พายกลับเร็วเข้า! รีบออกไปจากที่นี่!” บุรุษร่างใหญ่ 6 คน จ้ำพายกันไม่ยั้งมือ ไม่กล้าแม้แต่จะหันหลังกลับไปมองความปลอดภัยของเด็กสองคนด้วยซ้ำ

พวกเขาถอยกลับมาได้ระยะหนึ่งผืนน้ำก็กลับมาเรียบนิ่งดังเดิม เกาโหลวถึงกับหน้าซีดเผือด หันไปมองสหายทั้ง 5 ด้วยใบหน้าตื่นตระหนก

มองกลับไปที่เกาะลอยอีกครั้ง มู่สี่เสินกำลังลากเรือขึ้นไปไว้บนหาดทราย ส่วนมู่เหยาจีก็โบกมือสองข้างไปมาเป็นการบอกกล่าวถึงความปลอดภัย

แค่พวกเขาสองคนจริงๆ ที่เหยียบย่างไปยังเกาะแห่งนั้นได้” เกาโหลวไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ คลื่นบ้าอะไรจะเกิดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ซ้ำยังเฉพาะเจาะจงเข้ามาขวางกั้นเรือสามลำของพวกตนเท่านั้น เรื่องนี้อัศจรรย์เกินกว่าที่พวกเขาคิดเอาไว้มากนัก

เหตุการณ์ทางด้านของเกาโหลว มู่สี่เสินกับมู่เหยาจีต่างก็ได้เห็นกับตาเช่นกัน คลื่นใหญ่เกิดขึ้นเฉพาะบริเวณที่เรือสามลำลอยอยู่อย่างเห็นได้ชัด ตำนานเรื่องเกาะลอยน่าจะเป็นจริงแล้ว แต่เหตุใดจึงไม่เกิดอะไรกับพวกตนแม้แต่นิด? สองพี่น้องได้ครุ่นคิดในใจ

เป็นอย่างนี้ก็ดีแล้ว มนุษย์ไม่ได้มีเพียงแค่สี่หมู่บ้านบนเกาะจิงเหมิน ตราบใดที่มีเฉพาะเราสองคนที่เข้าออกที่นี่ได้ เราก็จะปลอดภัยจากอันตรายรอบด้าน” มู่สี่เสินยิ้มกว้างออกมาได้ในที่สุด การค้าที่มีเฉพาะตนที่จะทำได้เพียงผู้เดียวไม่น่าดีใจหรอกหรือ?

ข้าแทบจะทนไม่ไหวแล้วพี่สี่เสินเรื่องอื่นข้าไม่สนใจ ขอเพียงได้อาบน้ำสวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาด เท่านี้ข้าก็พอใจแล้ว" มู่เหยาจีหอบเอาตะกร้าสานที่บรรจุเสื้อผ้าสามชุดของตน วิ่งเข้าไปแนวป่าเป้าหมายเป็นลำธารกระจ่างใสทันที

มู่สี่เสินมองตามร่างเล็กที่วิ่งพรวดพราดออกไปด้วยความขุ่นเคืองใจเล็กน้อย เหยาจีอายุ 12 ปี อีกไม่นานก็จะเติบโตไปตามวัย กิริยาของนางอย่าว่าแต่เป็นมนุษย์เลย อยู่บนแดนสวรรค์ก็ยิ่งไม่งาม แต่จะให้เขาสั่งสอนน้องสาวอย่างไรเล่า ตนเองก็เป็นบุรุษ เรื่องใดควรสอน สอนอย่างไร เด็กหนุ่มสับสนเหลือเกินแล้ว

มู่สี่เสินเอาเชือกที่ติดกับตัวเรือมาผูกไว้กับโขดหินริมชายหาดเอาไว้จนแน่น ทยอยขนของที่เหลือไม่กี่ชิ้นขึ้นมากองไว้ที่แนวชายป่า เขายังไม่คิดกลับเข้าไปในป่าจนกว่าน้องสาวจะอาบน้ำชำระร่างกายเสร็จ และนี่ก็เป็นกฎเดียวกันกับที่ตนสอนเหยาจี ว่าหากพี่ชายจะอาบน้ำ นางก็ต้องรออยู่ในถ้ำห้ามออกมาจนกว่าเขาจะกลับเข้าไปเช่นกัน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 93 ตอนจบ

    “นี่พวกเจ้าไม่คิดจะทำสิ่งอื่นนอกจากเกี้ยวพาราสีกันทุกเมื่อเชื่อวันเช่นนี้บ้างหรือไร!” เสียงหวานใสของซินหรูอี้ดังมาแต่ไกล“หรูอี้!! ข้าบอกเจ้ากี่ครั้งแล้วให้พูดแต่คำหวานๆ รักษากิริยาให้สำรวมไว้หน่อยเถิด หากลูกในท้องติดนิสัยโผงผางเช่นเจ้ามาข้าคงต้องกลั้นใจตายสักวันเป็นแน่” เวยวั่งซูชักสีหน้าไม่พอใจแต่สองมือก็ประคองปกป้องร่างภรรยารักเอาไว้ราวกับไข่ในหิน“ท่านก็เลิกวุ่นวายกับชีวิตข้าเสียทีเวยวั่งซู!! ข้ามันคิดผิดจริงๆ ที่ยอมแต่งให้ท่าน ดูสิทุกวันนี้ข้าต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในแดนเหนือที่หนาวเย็นจนถึงกระดูก คลอดลูกออกมาเมื่อใดข้าจะย้ายมาอยู่กับเหยาจีที่ทางใต้เสียให้รู้แล้วรู้รอด”“ก็ข้าเป็นผู้ฝึกตนสายน้ำแข็งนี่นา ไม่อยู่กับหิมะจะให้ข้าไปอยู่ในกองเพลิงหรือไร แล้วเมื่อครู่เจ้าว่าอะไรนะ? คลอดบุตรแล้วเจ้าจะมาอยู่ทางใต้ คิดจะทิ้งเราสองพ่อลูกไว้ทางเหนือเพียงลำพังเช่นนั้นหรือ? ฝันไปเถิด!!" “เจ้าจะหงุดหงิดอันใดนักหนาเล่าวั่งซู นางยังไม่ทันคลอดด้วยซ้ำ ข้าแนะนำให้เอง!! กลับไปแดนเหนือคราวนี้ไม่สู้เจ้าแช่แข็งนางเอาไว้เป็นไร นางจะได้ไม่หนีไปเที่ยวเล่นที่ใดได้อีก”ซินหรูอี้ใช้สองมือประคองท้องกลมโตเดินอาดๆ ม

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 92 3,000 ปี

    หญิงสาวก้าวออกมายืนด้านหน้าผู้คนแทนที่อ๋าวหลวนหลง“ชัยชนะของพวกเราในครั้งนี้จะไม่สำเร็จโดยง่ายหากปราศจากพวกเขาเช่นกัน” มู่เหยาจีผายมือไปด้านขวาของนาง สายตามองไปยังสัตว์เลี้ยง 12 ตัวที่ยังรอดชีวิตอยู่“สัตว์ปราณทั้ง 12 ตัว ได้รับผลท้อไปแล้ว 5 ตัว ข้าจะไม่ลังเลเลยที่จะมอบผลท้อสวรรค์อีก 7 ผลให้กับพวกมันอย่างยุติธรรม วันใดที่มนุษย์ไม่อาจไว้วางใจกันเอง พวกท่านโปรดจำเอาไว้ว่าสัตว์ทั้ง 12 จะเป็นผู้ที่ปกป้องท่านจากภยันตรายทั้งปวง”สิ้นคำกล่าวของหญิงสาว ผีเสื้อเกล็ดแก้ว 7 ตัวก็โบยบินออกไปส่งมอบผลท้อสวรรค์ให้วานรสองตัว สุนัขจิ้งจอกสองตัว หวางผาง เต่าและปลาหมึก“ท้อสวรรค์ 7 ผลที่เหลือข้าจะให้ผีเสื้อเกล็ดแก้วเป็นผู้คัดเลือกผู้โชคดีขึ้นมาตามแบบอย่างที่เคยทำในแดนสวรรค์ และจากนี้ไปผลท้อที่สุกออกมาทั้งหมดก็จะใช้วิธีเดียวกันนี้เช่นกัน”มู่เหยาจีวาดเรียวแขนงามออกมาโบกสะบัดชายแขนเสื้อยาวกรุยกรายสยายออกเป็นวงกว้างในอากาศพร้อมกับมีร่างของผีเสื้อเกล็ดแก้วลำตัวใสกระจ่างระยิบระยับเจ็ดตัวโบยบินไปวนเวียนอยู่เหนือศีรษะกลุ่มผู้ฝึกตนที่รวมกลุ่มกันอยู่ผู้โชคดีทั้งเจ็ดคนมีทั้งอดีตเซียนที่ลงมาจากแดนสวรรค์และผู้ฝึกต

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 91 ชัยชนะ

    “ยามนี้บนเกาะลอยที่เหลือเพียงครึ่งไม่มีผลท้อธรรมดาที่สามารถช่วยรักษาอาการบาดเจ็บเลยสักผล ทำอย่างไรดีพี่สี่เสิน หวางเซี่ยเจ้าต้องหยุดพักรักษาตัวก่อน เราจะหาทางกลับไปเอาผลท้อมาช่วยเจ้ากันเอง!!” หญิงสาวละล่ำละลัก หันพูดทางนั้นทีทางนี้ทีตัดสินใจทำสิ่งใดไม่ถูก“น้องสาว ผลท้อธรรมดาไม่อาจรักษาอาการบาดเจ็บของหวางเซี่ยได้หรอก ต่อให้เจ้าฝืนเด็ดผลท้อสวรรค์ที่ยังไม่สุกหยิบยื่นให้เขาก็ยังไม่อาจรักษาบาดแผลที่สาหัสนั้นได้ ปล่อยให้เขาทำสิ่งที่เขาต้องการต่อไปเถิด”“ผลท้อช่วยไม่ได้ เช่นนั้นลูกแก้วมังกรของพี่หลวนหลงก็ต้องช่วยได้สิเจ้าคะ ท่านลองส่งสารบอกผีเสื้อเกล็ดแก้วดู ให้พวกเขาพาคุณชายสี่กลับมาที่นี่ก่อน” น้ำตาสองสายไหลออกมาเต็มใบหน้างาม อ้อนวอนร้องขอความช่วยเหลืออย่างน่าเวทนา“เจ้าตั้งสติให้ดีๆ อวัยวะภายในของหวางเซี่ยเสียหายรุนแรงเกินไป หาใช่ขาดแล้วเชื่อมต่อใหม่ได้เหมือนอย่างเส้นเอ็นของหลวนหลง เจ้าดูดวงตาของฝูซีสิ สิ่งที่ขาดหายไปแล้วน้ำลายมังกรไม่อาจสร้างมันขึ้นมาใหม่ได้”ไม่ต้องอธิบายมากไปกว่านี้มู่เหยาจีก็รับรู้ได้ถึงความรุนแรงอันหนักหน่วงบนร่างกายสหายรักใต้น้ำสองพี่น้องเดินลงไปที่ชายหาดจุดเดิมที

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 90 สาหัส

    การเคลื่อนไหวอันทรงพลังของนกอินทรียักษ์รวดเร็วประหนึ่งสายฟ้าฟาด เพียงไม่นานมันก็พาอ๋าวหลวนหลงมาพบกับกลุ่มผีเสื้อเกล็ดแก้วที่กำลังรุมล้อมรอบเกาะลอยพุ่งโจมตีไส้เดือนปีศาจยี่สิบตัวกันไม่ยั้งมือ“นั่นมัน!!” ดวงตาคมกริบของอ๋าวหลวนหลงเบิกค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ คำพูดที่กำลังจะเอ่ยออกมาก็พลันถูกกลืนลงคอไปด้วยความตื่นตะลึงชายหนุ่มขยี้ตาซ้ำๆ อีกหลายครั้งและสุดท้ายก็ต้องเชื่ออย่างสนิทใจว่าเขาตาไม่ฝาด ยามนี้บนต้นท้อสวรรค์มีผลท้อสีเขียวอมชมพูส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลล่องลอยไปทั่วบริเวณ“เป็นไปได้อย่างไรกัน! ท้อสวรรค์ออกผลอีกแล้ว! ฮ่าๆๆๆ ผลงานของเหยาจีนี่ดูท่าจะลูกดกดีแท้!!” กล่าวจบชายหนุ่มก็ต้องรีบจับขนหลังคอนกอินทรีตัวเขื่องเอาไว้แน่น เจ้านกยักษ์แกล้งบินลงต่ำกะทันหันด้วยความหมั่นไส้กับคำพูดที่กำกวมของมนุษย์ไร้ขนที่ขี่หลังมันอยู่“ข้าหมายถึงผลท้อ เจ้าจะขัดเคืองอันใดนักหนา!!” อ๋าวหลวนหลงเอื้อมมือไปตบหัวนกอินทรีทีหนึ่งอย่างอดไม่ได้ แต่ใบหน้าคมกลับแดงก่ำที่ถูกจับได้ว่าแอบคิดนอกลู่นอกทางในยามคับขัน“พวกเขาจัดการเจ้าหนอนเหล่านี้ได้แน่นอน เราต้องไปช่วยทางนั้น” อ๋าวหลวนหลงชี้มือไปยังบริเวณชายหาดเพิกเฉยกับการต

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 89 หวาดกลัว

    “ข้ายังมีพลังอ่อนด้อยเกินไป ไม่สามารถติดต่อกับผีเสื้อเกล็ดแก้วที่อยู่ทางใต้ไม่ได้ แต่การที่หวางเซี่ยและคู่ของมันลุกขึ้นมาสู้สุดใจเช่นนี้อาจเกิดเรื่องกับทางหลวนหลง” ฝูซีเอ่ยปากอย่างร้อนรน“คุณชายสี่อยู่ทางนั้นเพียงลำพังหรือเจ้าคะ” มู่เหยาจีก็เพิ่งรู้ว่าอ๋าวหลวนหลงไม่ได้อยู่ร่วมการต่อสู้ทางชายหาดบริเวณนี้“ใช่ เขาต้องรีบผนึกรอยแยกใต้ทะเล ทางนี้พวกเราตกลงกันแล้วว่าจะปล่อยให้พวกมันขึ้นมาบริเวณน้ำตื้นเพื่อจัดการมันได้ง่ายหน่อย แต่จะไม่ยอมปล่อยให้มันขึ้นฝั่ง การที่หวางเซี่ยพาเกาะลอยกลับลงทะเลลึกอยู่นอกเหนือจากที่เราตกลงกันไว้”“เช่นนั้นข้าจะส่งนกอินทรีออกไปสืบข่าว” ต้าโหวจื้อกระโดดลงจากหลังนกอินทรี แล้วปล่อยให้นกยักษ์บินกลับไปเพียงลำพังเพราะตัวเขายังมีประโยชน์ในการสู้รบกับกลุ่มปีศาจมากมายที่มารวมตัวกันบริเวณนี้ไม่มีเวลาให้ทุกคนได้ไตร่ตรองสิ่งใดต่อไป สัตว์ปีศาจที่เล็ดลอดออกจากรอยแยกใต้ทะเลรวมกับกลุ่มที่หลอกล่อให้มนุษย์หลงไปผิดทางก็มีไม่น้อย พวกเขายังไม่สามารถจัดการมันได้ทั้งหมดหากปราศจากความช่วยเหลือจากผีเสื้อเกล็ดแก้วที่แข็งแกร่งทั้งหกพันตัวอินทรียักษ์บินเลยผ่านหวางเซี่ยที่เคลื่อนตัวไปได้

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 88 สละชีวิต

    เมื่อเห็นหวางเซี่ยพยายามชิงพื้นที่การควบคุมเกาะลอยใต้น้ำไว้อย่างยากลำบาก ผู้ฝึกตนระดับสูงทั้งหกคนก็มุ่งเข้ามาช่วยเหลือปูยักษ์สองสามีภรรยาโดยพร้อมเพรียงกัน“เหยาจี!! เป็นอย่างไรบ้าง” มู่สี่เสินทะยานขึ้นไปบนเกาะไปหาน้องสาวเป็นคนแรก“พี่สี่เสินข้าปลอดภัย พวกมันกำลังพยายามจะขึ้นไปบนฝั่งเจ้าค่ะ”“ฝูซีก็คาดเดาเรื่องนี้ไว้แล้วเช่นกัน เราจะไม่ยอมให้พวกมันเอาต้นท้อสวรรค์กลับลงไปยังแดนปีศาจได้สำเร็จแน่นอน”“พวกเราต้องช่วยหวางเซี่ย ไส้เดือนปีศาจเหล่านั้นแข็งแกร่งมากอีกไม่นานหวางเซี่ยอาจจะทนต่อไปไม่ไหวเจ้าค่ะ”หญิงสาวสงสารและเป็นห่วงปูยักษ์จับใจ ขาทั้งแปดของหวางเซี่ยขยับเขยื้อนได้เพียงเล็กน้อย ความสามารถในการป้องกันตัวแทบจะเป็นศูนย์ แต่โชคดีที่มันมีร่างกายใหญ่โตกว่าไส้เดือนตาบอดเหล่านั้นจึงยังใช้กระดองดันไส้เดือนปีศาจให้อยู่รอบนอกโดยมันควบคุมพื้นที่ใต้เกาะลอยส่วนใหญ่เอาไว้ได้พอดิบพอดีมู่สี่เสินคว้ามือของน้องสาวย่อตัวลงเล็กน้อยและออกแรงกระโดดขึ้นไปอยู่บนร่างของวานรทั้งสองตัวเพื่อเข้าร่วมการต่อสู้กับปีศาจไส้เดือนที่กำลังพยายามยึดเอาเกาะลอยกลับคืนมาจากหวางเซี่ย……….รอยแยกใต้ทะเลลึกผีเสื้อเกล็ดแก้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status