Share

17 อย่าเรียกฉัน

last update Huling Na-update: 2025-09-24 10:37:59

หลังจากล้วงคออาเจียนจนหมดไส้หมดพุง ฉางกังก็ทรุดนั่งแหงนหน้ามองฟ้าสภาพหมดอาลัยตายอยาก เวลาผ่านไประยะหนึ่งเขาก็รีบคลานไปยังต้นน้ำจุดที่อยู่เหนือกว่าเด็กน้อย จัดการใช้น้ำสะอาดล้างเนื้อล้างตัวใหม่ทั้งหมด ทั้งใบหน้า แขนขา แล้วบ้วนปาก พลันสายตาสะดุดเข้ากับเงาของตนเองในน้ำเขาตกใจแทบสิ้นสติ

เงานี่…เงาในน้ำเป็นใบหน้าของเขาในตอนที่ยังเด็กไม่ใช่หรือ นี่มันเรื่องตลกอะไรกันแน่! เมื่อฉางกังใช้มือข้างหนึ่งจับข้างแก้มเงาในน้ำก็ทำตาม พอเขายกมือขึ้นสูงเหนือศีรษะเงาในน้ำก็ยังทำตามอีก พอหันไปทางซ้ายเจ้าเงานั่นก็หันตาม พอแลไปทางขวาเจ้าเงานั่นก็ทำเลียนแบบ สรุปแล้วอย่างไรก็เป็นเขาตอนเด็กแน่นอนไม่มีผิด! แล้วทำไมถึงมาอยู่ในร่างตัวเองตอนเด็กได้ล่ะ?

ฉางกังในร่างเด็กสิบขวบตกตะลึงพรึงเพริด ร่างทั้งร่างคล้ายจะเป็นลมล้มครืน ทว่าเสียงของเจ้าเด็กตัวแสบก็ดังขึ้นเรียกสติเขาไว้

“ท่านพี่”

“อย่าเรียกฉัน”

“ท่านพี่”

“บอกว่าอย่าเรียก”

“ท่านย่าถือไม้เรียวเดินมานู่นแล้วขอรับ”

เด็กน้อยชี้นิ้วไปที่หลังพุ่มไม้ เงาร่างของหญิงแก่คนหนึ่งเดินโผล่พ้นออกมา ฉางกังมองคนผู้นั้นด้วยแววตาเปี่ยมความหวัง เขาลุกขึ้นยืนมองให้แน่ชัด จากนั้นก็ออกตัววิ่งรวดเร็วเข้าหา นั่นคือย่าหลิวผู้ใจดีและอ่อนโยน นางเดินหน้าตาบึ้งตึงมาพร้อมกับไม้เรียวในมือ พอเห็นว่าหลานชายวิ่งเข้าหาแทนที่จะวิ่งหนีอย่างที่เคยเป็นย่าหลิวก็หยุดชะงัก 

“คุณย่าครับ เจ้าเด็กคนนั้นแกล้งผม โอ้ย!"

พูดยังไม่ทันจบคำไม้เรียวก็ฟาดลงที่ก้น ฉางกังสะดุ้งเฮือกใหญ่ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บแสบ ย่าหลิวมีสีหน้าดุดันน่ากลัว หว่างคิ้วขมวดแน่นแทบจะผสานต่อกัน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนี้นางเกรี้ยวกราดเพียงใด เขาเองก็ยังมึนงงสับสนว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่  ความเจ็บปวดที่ได้รับเสมือนจริงจนแยกไม่ออกว่านี่คือความจริงหรือความฝัน

“คุ…คุณย่าตีผมทำไมเนี่ย”

“ลู่กัง! แอบพาน้องหนีมาเที่ยวเล่นอีกแล้วใช่ไหม!”

นางตวาดเสียงดังลั่นผืนป่า สายตาจับจ้องมายังเด็กทั้งสองไม่วางตา หญิงแก่ก้มลงไปคว้าแขนฉางกังและเจ้าเด็กคนนั้นเดินดุ่มกลับไปทางเดิมที่เดินมาเมื่อครู่ ทั้งสามเดินลัดเลาะบนทางเท้าเรื่อย ๆ จนมาโผล่ที่ชายป่า พอพ้นชายป่าแล้วก็เห็นเรือนไม้หลังคามุงด้วยฟางขนาดกลาง สภาพของเรือนหลังนั้นทรุดโทรมจนต้องใช้ไม้คำยันไว้ ฉางกังมองแล้วชวนให้หวาดหวั่นว่าเรือนนี้คงจะพังครืนในอีกไม่ช้า  

นอกจากเรือนหลังนี้แล้ว ฝั่งซ้ายมือยังมีกระท่อมอีกหลังแต่ขนาดเล็กกว่า นั่นคือที่สำหรับทำเป็นห้องครัว เขามองไปทางด้านขวามือ พื้นที่บริเวณนั้นเป็นแปลงผัก มีผักกำลังเจริญเติบโตมากมายกว่าห้าชนิดในแปลงนั้น ด้านหน้ากระท่อมเป็นลำธารทอดยาวมาแต่ไกล หากเดาไม่ผิดลำธารแห่งนี้น่าจะเป็นลำธารสายเดียวกันกับที่เขาและเจ้าเด็กแสบไปชำระล้างมูลสัตว์

“ลู่กัง กลิ่นอะไรช่างเหม็นคละคลุ้งไปหมด กลับถึงบ้านแล้วก็พาลู่เกอไปอาบน้ำให้สะอาดเลยนะ”

ย่าหลิวหันมาพูดกับเขา ส่วนเขาหันไปมองทางเด็กชายตัวน้อยที่ยืนทำตาปริบ ๆ อยู่ข้างกัน ซึ่งแววตาของฉางกังเต็มไปด้วยความประหลาดใจเหลือคณานับ

ลู่…ลู่เกอ…นี่นะหรือลู่ฉางเกอ! ลู่ฉางเกอที่เขากำลังหาคำตอบคือเจ้าเด็กนี่นะหรือ!

“ยังไม่ไปอีก!”

คุณย่าพูดขึ้นอีกรอบ ฉางกังรีบดึงแขนน้องชายตั้งใจจะพาวิ่งไปที่ลำธาร ทางฝ่ายฉางเกอชักมือกลับโดยด่วนแล้วเอ่ยขึ้น

“ช้าก่อนขอรับ ไปเอาเสื้อผ้าชุดใหม่ก่อน”

ดังนั้นทั้งสองจึงเปลี่ยนทิศทางใหม่ เดินขึ้นไปบนเรือนเพื่อหยิบเอาเสื้อผ้าในตู้ไม้เก่า ๆ ออกมาคนละหนึ่งชุด ฉางกังได้กวาดมองไปรอบ ๆ เห็นเตียงนอนอยู่ที่มุมห้อง เขาเดินเข้าไปใช้ฝ่ามือตบลงบนเตียงจนเกิดเสียงดังปุ ๆ

“นี่ห้องของนายเหรอเจ้าหนู”

“ห้องนี้เป็นห้องของเราอย่างไรเล่าท่านพี่”

“เรา?”

เขาทวนคำแต่ไม่ได้หันกลับมามองยังคงให้ความสนใจกับเตียงนอนนี้ต่อไป และแล้วก็มองเห็นช่องทางสำหรับซุกซ่อนกล่องไม้เอาไว้ ฉางกังดันกล่องไม้เข้าไปใต้เตียงจนสุด พอคิดว่าถึงจุดที่ปลอดภัยใครก็หาไม่เจอแล้วจึงลุกขึ้นยืนปัดฝุ่นออกจากฝ่ามือรัว ๆ

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • สองพี่น้องหลังเขาวั้งซานกู่   78 ความทรงจำ (จบ)

    ตะวันบ่ายคล้อย แสงแดดเบื้องบนแรงกล้าทว่ากลับส่องไม่ถึงยังพื้นดิน เนื่องจากต้นไม้สูงใหญ่ขึ้นหนาแน่นบดบังแสงแดดจนมิด ทำให้อากาศใต้ร่มเงาของต้นไม้ไม่ถึงขั้นร้อนจัด เข่อซิงเหนื่อยจนคอแห้งเป็นผงรีบหยิบเอาน้ำพกที่เหน็บอยู่เอวมายื่นให้เจ้านายหนึ่งขวด ส่วนอีกขวดที่พกมาเขาดื่มเอง ฉางกังรับน้ำมาแล้วก็ดื่มเข้าไปหนึ่งอึกใหญ่“เดินมาตั้งนานแล้วไม่มีทีท่าว่าจะเจอเลยนะครับ หรือว่าจะไม่มี” เข่อซิงพูดไปมือก็ปิดฝาขวดไป“ฉันคงคิดไปเองสินะ ความฝันก็ยังเป็นความฝันวันยังค่ำ ฝันดีแค่ไหนสุดท้ายก็ต้องตื่น”คำนี้เป็นเขาเองที่เคยพูดกับฉางเกอ ฝันดีแค่ไหนสุดท้ายก็ต้องตื่น แต่วันนี้กลับมีเพียงเขาที่ไม่ยอมตื่นเสียที ฉางกังคิดแล้วก็ทำหน้าเศร้า ระหว่างที่กำลังถอดใจผู้ดูแลหยางเปียวก็ได้พูดขึ้น“เป็นไปได้ไหมครับว่าต้นเทียนไถเอ่อร์ลี่ที่ประธานลู่ตามหาจะตายไปแล้ว”"ตายงั้นเหรอ”“ขอรับ ที่วั้งซานกู่มีซากต้นไม้ใหญ่ยืนต้นตายต้นหนึ่ง ขนาดของมันใหญ่หลายคนโอบแต่ตอนนี้เหลือแต่ตอ”“รีบพาไปดูเร็วเข้า”หยางเปียวพยักหน้ารับแล้วเดินนำสองคนไปยังต้นไม้ใหญ่ที่ตายแล้ว มันเหลือแต่ตออย่างที่เขาบอกจริง ๆ แต่เป็นตอที่มีความสูงอยู่ระดับอก เส

  • สองพี่น้องหลังเขาวั้งซานกู่   77 ผมฝัน

    นอกจากเข่อซิงกับฉางกังแล้วยังมีหลิวเซียงฉินที่ติดตามมาด้วยอีกคน อีกไม่กี่กิโลเมตรก็จะเข้าเขตเขาวั้งซานกู่แล้ว จู่ ๆ ฉางกังก็ได้พูดบางอย่างขึ้นมาจนทำให้ทุกคนที่นั่งในรถเพ่งความสนใจมาที่เขา“คุณย่าครับ ช่วงที่ผมหลับไปหลายวันผมฝัน”“ฝันว่าอะไร” ย่าหลิวถามกลับอย่างใส่ใจ ฉางกังคว้ามือเหี่ยวย่นมากุมไว้แล้วพูดต่อ“มันเป็นฝันดีตื่นหนึ่ง พอลืมตาขึ้นมาหัวใจของผมก็แตกสลายไปหมดแล้ว”บรรยากาศในรถเงียบสนิท ทุกคนต่างอึ้งไปตาม ๆ กันและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉางกังกันแน่ ฉางกังหัวเราะเบา ๆ เพื่อให้ความตึงเครียดของคนในรถลดลง “ผมฝันว่าได้กอดคุณแม่ ฝันว่าคุณพ่อแบกผมขึ้นหลัง…แล้วผมก็ฝันว่าลู่เกอร้องไห้งอแงกอดขาผม”ใบหน้าของหลิวเซียงฉินกระตุบวูบหนึ่ง ความลับที่ปกปิดเอาไว้เพื่อเป็นเกราะป้องกันให้ฉางกังคงถึงเวลาต้องพังทลายลงแล้ว ถึงจะรู้ดีแก่ใจว่าไม่อาจปิดบังเขาได้ชั่วชีวิต แต่นางก็ไม่คิดว่าจู่ ๆ ฉางกังจะจดจำได้เอง คนเราทุกคนต่างมีความทุกข์เป็นของตนเอง ในความทุกข์นั้นก็ใช่ว่าจะไม่มีความสุขปนอยู่ อย่างน้อย ๆ ฉางกังก็ยังยิ้มได้ นั่นแสดงว่าเขาคงทำใจยอมรับได้บ้างแล้ว“ผมจำทุกอย่างได้หมดแล้วนะครับ”“…อากัง ย่าขอ

  • สองพี่น้องหลังเขาวั้งซานกู่   76 หวนกลับไปเยือน

    “คุณย่าครับ ผมขอคุยบางอย่างกับลี่อินลำพังหน่อยสิ”เข่อซิงพยักหน้ารับแล้วค่อย ๆ ประคองคุณย่าหลิวออกไป หลังจากอยู่กันสองต่อสองแล้วลี่อินพยายามจะเอ่ยคำขอโทษแต่ฉางกังยกมือขึ้นมาปรามไว้ก่อน“อย่ารู้สึกผิดและอย่าโทษตัวเอง คุณไม่ได้ทำอะไรผิด ที่ผมเป็นแบบนี้ก็เพราะผมทำตัวเองทั้งนั้น”“ฉัน…”“ลี่อิน อันที่จริงมันก็ถึงเวลาที่เราต้องปล่อยมือจากกันตั้งนานแล้ว แต่เป็นผมเองที่ยังรั้งคุณเอาไว้อย่างเห็นแก่ตัว นับจากนี้ไปเราจงหันหลังให้กันในฐานะคนรัก และหันหน้าให้กันในฐานะเพื่อนเถอะ อย่าฝืนทนกันอีกต่อไปเลย คุณรักไปเหนื่อยไป ส่วนผมก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงอะไรให้ดีขึ้นมาได้ วันนี้ผมเข้าใจทุกอย่างแล้วว่าเรื่องระหว่างเรามันถึงจุดที่ควรพอ ถึงวันข้างหน้าเราอาจไม่ใช่คนรักกันแล้ว แต่ผมอยากให้รู้ว่าคุณคือผู้หญิงที่ดีที่สุดที่ได้ผ่านเข้ามาในชีวิตผม ผมอยากขอโทษคุณจากใจจริงจางลี่อิน คำขอโทษครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะผมสำนึกผิด ไม่ใช่หน้าที่ที่ต้องทำและไม่ใช่สถานะที่เราเป็น…ผมขอโทษ”ลี่อินสะอื้นเบา ๆ เธอยิ้มให้เขาทั้งน้ำตา ฉางกังเองก็ยิ้มตอบเช่นกัน เรื่องของลี่อินและเข่อซิงเป็นเรื่องที่ไม่อาจบอกได้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เพียง

  • สองพี่น้องหลังเขาวั้งซานกู่   75 กล่องไม้นั่น

    ฉางกังไม่อยากให้ทุกคนลืมเขาไปเลยจริง ๆ และยังอยากฝังตนเองให้อยู่ในความทรงจำของทุกคนตลอดกาล เสียอย่างเดียวที่ไม่อาจหลีกหนีโชคชะตาได้ แต่ก็ดีแล้วล่ะ…เพราะการจากลามันเจ็บปวดเกินไป หากทุกคนจำได้ว่ามีฉางกังอยู่ก็อาจจะเจ็บปวดจากการจากไปของเขา“สักวันพวกเราคงพบเจอกันใหม่ที่ไหนสักที่หนึ่ง…ข้าขอลา”สิ้นคำอำลาฉางกังค่อย ๆ เปิดฝากล่องไม้ออก ครั้งนี้มันเปิดออกง่ายดายเสียจนไม่ต้องออกแรงให้เหนื่อยเหมือนทุกครั้ง หยาดน้ำตาใส ๆ หล่นแหมะลงไปที่ก้นกล่องไม้ พลันบังเกิดแสงสว่างวาบเหมือนสายฟ้าฟาด ชั่วพริบตาเดียวร่างของเขาก็อันตรธานหายไปจากตรงนั้น เหลือไว้เพียงความทรงจำที่ทุกคนลืมเลือนไป……..ติ๊ด…..ติ๊ด….ติ๊ด….ติ๊ดเสียงที่ทำให้รู้สึกรำคาญหูปลุกเขาตื่นจากการหลับใหล เสียงที่ได้ยินเมื่อครู่เป็นเสียงเครื่องมือแพทย์ที่ใช้ตรวจสอบชีพจรซึ่งมันตั้งอยู่ที่ข้างเตียงผู้ป่วย วินาทีแรกที่ฉางกังลืมตาขึ้นมาเขาได้มองไปรอบกาย ทุกสิ่งอย่างล้วนเป็นของในยุคปัจจุบัน สิ่งแวดล้อมรอบ ๆ สามารถประเมินได้ทันทีว่าเขาอยู่ที่ใด สถานที่แห่งนี้คือโรงพยาบาลอันดับหนึ่งในนครฉงเทียน คนในตระกูลลู่มาใช้บริการเป็นประจำเมื่อมีอาการเจ็บป่วย เขาก

  • สองพี่น้องหลังเขาวั้งซานกู่   74 ข้าขอซื้อร้านค้าร้านนี้

    ที่โพรงต้นไม้ใหญ่ปากทางเข้าบ้านตระกูลลู่ ฉางกังมุดเข้าไปเอาถุงที่บรรจุตั๋วเงินออกมา ผลปรากฏว่าไม่มีอะไรเสียหายเลย พืชกันแมลงที่ใส่เข้าไปนั้นออกฤทธิ์ดีเยี่ยม ฉางกังแบกเอาถุงผ้าเก่า ๆ ขึ้นบ่าเดินเข้าไปในตลาด ระหว่างที่เดินบนถนนอันหนาแน่นด้วยผู้คนบังเอิญเห็นเข่อซิงและลี่อินเดินเคียงคู่กันมา ฉางกังหยุดมองแล้วยิ้มบาง ๆ แต่คนทั้งสองได้เดินผ่านเลยไปเหมือนไม่รู้จักกัน ยามนี้ฉางกังจึงเริ่มรู้แล้วว่าไม่ใช่แค่ครอบครัวที่จดจำเขาไม่ได้ แต่เป็นคนในมิตินี้ทั้งหมดเลยต่างหากเขาเดินมาหยุดยังสถานที่แห่งหนึ่ง วางถุงใส่ตั๋วเงินอันหนักอึ้งลงพื้นเสียงดังตุบ คนในร้านต่างหันกลับมามองเป็นตาเดียว“เถ้าแก่อยู่ไหม”“อยู่ ข้านี่แหละเถ้าแก่ร้านนี้”“ข้าขอซื้อร้านค้าร้านนี้”เช้าตรู่วันรุ่งขึ้นเสียงแง้มประตูให้เปิดออก ตามมาด้วยร่างของหญิงชรานางหนึ่ง ยามนี้เป็นเวลาเช้าตรู่อากาศจึงหนาวเย็นยะเยือก หยาดน้ำค้างเกาะอยู่ตามยอดหลิวแลดูอ่อนละมุนยิ่ง กลิ่นควันจากการเผาไหม้จาง ๆ ลอยมาเตะจมูก พลันดวงตาพร่ามัวก็สะดุดเข้ากับวัตถุบางอย่างที่วางอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ หญิงชราเดินเชื่องช้าไปยังแคร่ไม้ไผ่ตัวนั้น เมื่อได้เข้ามาดูใกล้ ๆ ก็พ

  • สองพี่น้องหลังเขาวั้งซานกู่   73 เสียงนี่มัน

    “เอาความทรงจำของพวกเขามาแลก คนที่เจ้ารักจะลืมเลือนเจ้าจนหมดสิ้น แล้วเจ้าก็จะกลายเป็นคนอื่นสำหรับพวกเขา ความเจ็บปวดที่สุดของมนุษย์ไม่ใช่การลืมแต่เป็นการจดจำ เช่นนี้ถึงจะเป็นการแลกเปลี่ยนที่สมน้ำสมเนื้อ…ว่าอย่างไรลู่ฉางกัง!”“ตะ ต้องทำกันถึงขนาดนี้เลยหรือ…" เด็กชายจุกในอกจนพูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเปล่งเสียงแผ่วเบาออกมา "ได้ ข้ายอมแลก ต่อให้ข้าจะหายไปจากความทรงจำของพวกเขาก็ยังอยากขอให้ฉางเกอได้มีโอกาสใช้ชีวิตอีกครั้ง ได้โปรดช่วยน้องชายข้าด้วยเถอะ"ฉางกังรับข้อเสนอด้วยหัวใจที่ปวดร้าว ต่อให้สิ่งแลกเปลี่ยนคราวนี้จะมีค่ามหาศาลเพียงใดเขายอมแลกได้ทั้งนั้น แม้แต่ชีวิตฉางกังยังยินดีมอบให้ได้ แล้วนับประสาอะไรแค่การหายไปจากใจพวกเขาตลอดกาล…...เขากัดริมฝีปากตนเองจนขึ้นสีขาวซีด แล้วปิดเปลือกตาลงช้า ๆ“…ข้าพร้อมแล้ว”สิ้นคำจำยอมก็เกิดแสงสว่างวูบใหญ่เหมือนสายฟ้าฟาด ที่เบื้องหน้าฉางกังปรากฏกล่องไม้โบราณลอยอยู่ในอากาศ แล้วเสียงปริศนาดังขึ้นว่า“เมื่อเจ้าเปิดกล่องใบนี้อีกครั้ง เจ้าจะได้กลับไปที่ที่เจ้าจากมา”“…เข้าใจแล้ว ขอบคุณ ข้าขอบคุณ”ในก้าวแรกที่เขาผละตัวออกมา พลันภาพทั้งหลายก็หมุนกรอย้อนกลับเป

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status