เข้าสู่ระบบ"จ้าแม่ เดี๋ยวองุ่นทำมื้อเช้าไว้รอ เราจะได้ทานข้าวพร้อมกันเลย เดี๋ยวสองคนนั้นก็คงมา" เมื่อมารดาเดินเข้าไปหลังร้าน องุ่นจึงเริ่มจัดแจงลงมือทำเมนูง่ายๆ สำหรับสองแม่ลูก พร้อมกับนึกถึงโชคชะตาของตัวเอง เธอเป็นลูกที่บิดาไม่ต้องการให้เกิดมา แถมยังไม่เคยได้รับความเมตตาจากเขาแม้แต่น้อย แต่เมื่อคนเราเลือกเกิดไม่ได้ เขาก็พร้อมที่จะฝ่าฟันอุปสรรคที่มี หญิงสาวเชื่อว่าสักวันเธอจะต้องใช้หนี้ ผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นบิดาและตุลา คนที่หยิบยื่นเช็คใบนั้นมาให้กับเธอ ทั้งที่รู้จักกันเพียงแค่ผิวเผิน
~เวลาสิบสองนาฬิกาสามสิบนาที~
รถสปอร์ตคันหรู ที่แล่นมาด้วยความเร็วสูง ก่อนจะค่อยๆ ชะลอลดความเร็ว เมื่อชายหนุ่มขับลงจากทางด่วน
"พี่ตุลาทำไมขับรถเร็วจัง" เด็กชายในชุดนักเรียนได้เอ่ยถามพี่ชายของเขาขึ้นมา เมื่อตุลาขับเร็วกว่าปกติ
"วันนี้พี่มีประชุมบ่าย ตอนนี้ก็เหลือเวลาไม่ถึงสามสิบนาทีด้วยซ้ำ" ปากก็พูดกับน้องชาย แต่สายตาของเขาแอบชำเลืองมองนาฬิกาเรือนแพงที่ข้อมือ
"แต่ผมหิวข้าว พี่จอดให้ผมกินข้าวก่อนไม่ได้เหรอครับ"
"นายยังไม่ได้ทานมื้อเที่ยงเหรอธันวา" ชายหนุ่มถามธันวา พร้อมกับถอนหายใจออกมา เพราะตอนนี้เขาแวะที่ไหนไม่ได้แล้ว
"ก็ผมนั่งรอพี่มารับ เลยไม่ได้ไปทานข้าวที่โรงอาหารกับเพื่อนนี่ครับ" ธันวาพูดพร้อมกับทำหน้ามุ่ย แถมเขายังเอามือกุมลงไปที่ท้องอีกด้วย
"เอ่อ... เดี๋ยวไปถึงโรงงานฉันจะให้น้ำตาลไปซื้อข้าวผัดที่ร้านอาหารตามสั่งหน้าโรงงานให้โอเคไหม" ตุลาเพิ่งฉุกคิดขึ้นได้ จนทำให้เขานั้นถึงกับแอบยกยิ้มที่มุมปาก เมื่อนึกถึงร้านอาหารตามสั่งที่ซันนี่เคยบอกเอาไว้
"ทำไม อาหารร้านนั้นอร่อยมากเลยเหรอ พี่ถึงได้พูดไปอมยิ้มไปแบบนั้น" ธันวาจ้องหน้าพี่ชายเขม็งด้วยความสงสัย
"ถามมากจัง หรือจะไม่กิน หืม"
"กินสิ ผมหิวจนไส้จะกิ่วอยู่แล้วตอนนี้ ขอเป็นข้าวผัดกุ้งนะครับพี่พิเศษด้วย" ธันวาพูดพร้อมกับนึกถึงข้าวผัดในจานไปด้วย ทำให้เขาถึงกับกลืนน้ำลายลงคอเพราะความหิว
"ได้สิ ลงไปได้แล้ว ที่สำคัญนายต้องรอฉันอยู่บนห้องห้ามออกมาเดินเพ่นพ่านเข้าใจไหม แม้ว่าที่นี่จะเป็นโรงงานของเรา แต่บางที่ก็มีเครื่องจักรมันอันตรายเข้าใจหรือเปล่า" ตุลาพูดออกไปเสียงเข้ม เพื่อให้น้องชายนั้นฟังคำสั่งของเขา โรงงานแห่งนี้แยกเป็นสองส่วน จะมีโซนฝ่ายการผลิตและอีกฟากจะเป็นโกดัง เตรียมส่งสินค้าให้กับลูกค้าที่สั่งออเดอร์มา เพิ่งตึกของผู้บริหารจะอยู่ด้านหน้า เพื่อสะดวกสำหรับการติดต่อ เพราะมีลูกค้าเป็นจำนวนมาก ที่เข้ามาสั่งออเดอร์ในโรงงาน เพื่อจะได้สัมผัสกับสินค้าโดยตรง
เมื่อสองพี่น้องเดินเข้าไปในลิฟต์สำหรับผู้บริหาร ได้มีสายตาหลายคู่จับจ้องมาที่ตุลา ทุกคนต่างกรี๊ดกร๊าดในความหล่อเหลาของเขา
"ได้ข่าวว่านั่นคือคุณตุลา เขาจะมาเป็นผู้บริหารที่นี่ พวกแกหล่อชะมัดเลย" สาวที่ทำงานในออฟฟิศคนหนึ่งพูดขึ้น เมื่อกลุ่มของเธอเพิ่งจะกลับจากรับประทานมื้อเที่ยง
"ยังกับโอปปา แบบนี้โรงงานเราค่อยมีชีวิตชีวาขึ้นมาหน่อย"
"เห็นเขาบอกว่าโสดอีกด้วยนะแก เพิ่งเรียนจบโทจากเมืองนอกด้วยคนอะไร หล่อเพอร์เฟคเป็นบ้าเลย”เวลานี้ดูเหมือนทุกคนในกลุ่มจะพูดเป็นเสียงเดียวกัน เมื่อตุลานั้นเป็นชายในฝันของผู้หญิงหลายคน
"ฉันชื่อบุษบา เป็นแฟนของคุณตุลา ถ้าพวกเธอเข้าใจผิดก็กรุณาเข้าใจใหม่ด้วยนะ อ้อ... แล้วอย่าแอบเก็บไปคิดฝันลม ๆ แล้ง ๆ เพราะต่อให้พวกเธอฝันยังไง มันก็ไม่มีทางเป็นจริงขึ้นมาได้หรอก" คำบอกเล่าของบุษบาทำให้ทุกคนถึงกับงง ก่อนที่เธอจะไปปากเบ้ปาก มองหญิงสาวกลุ่มนั้นด้วยสายตาที่ดูแคลน จากนั้นเธอจึงเดินนวยนาดตรงเข้าไปยังลิฟต์ ไม่ต้องบอกก็รู้บุษบาคงมหาตุลาแน่ๆ
ทางด้านตุลาสองพี่น้องกำลังทำข้อตกลงกัน เมื่อธันวาไม่ยอมท่าเดียว ผู้เป็นน้องชายจะไปทานข้าวที่ร้านอาหารให้ได้ โดยเขาให้เหตุผลว่ามันได้อรรถรสในการรับประทานอาหารมากกว่า การนั่งรอตุลาอยู่ในห้องแบบนี้
"แต่ร้านอาหารมันติดถนนใหญ่ ถ้าเกิดว่านายเกิดเล่นซนขึ้นมา วิ่งออกมาตรงถนนแล้วเจอรถเข้า ฉันไม่อยากคิดเลยนะธันวา แม่เอาฉันตายแน่ แต่นั่นไม่เท่ากับที่ฉันเป็นห่วงนาย" ตุลาพยายามอธิบาย เพราะเขาไม่อยากปล่อยน้องชายไว้ตามลำพัง
"พี่ไปส่งผมไว้แล้วค่อยกลับมาประชุมก็ได้ ใกล้ ๆ นี่เอง ผมจะนั่งทานข้าวรอจนกว่าพี่จะประชุมเสร็จ ผมขอสัญญาว่าจะไม่ลุกออกมาจากร้านอาหาร นะครับพี่ตุลา" ธันวาเริ่มอ้อน ในขณะที่ไม่กี่นาทีเขาต้องรีบเข้าห้องประชุม
"โอเค นายนี่มันจริงๆ เลยนะ ดื้อเหมือนใครเนี่ย"
"เย้! ขอบคุณครับพี่ชาย"
"ลุกได้แล้วเดี๋ยวให้น้ำตาลไปส่ง นายห้ามไปไหนนะ เสร็จแล้วเดี๋ยวฉันไปรับโอเคไหม" น้ำตาลซึ่งเลขาของตุลา เวลานี้เธอต้องย้ายตามท่านรองประธานหนุ่มมาทำงาน ที่โรงงานแห่งนี้แทนโดยปริยาย
"โอเคครับ"
"ว้าย! บุษกำลังจะเคาะประตูเข้าไปพอดีเลยค่ะ" หญิงสาวในชุดรัดรูปเซ็กซี่ เธอยังคงแต่งตัวตามสไตล์ที่เธอชอบ แต่คนที่ไม่ชอบนั่นคือตุลา หล่อนคงไม่รู้ว่าสเปกของชายหนุ่ม คือผู้หญิงที่แต่งตัวเรียบร้อยดูธรรมดา
"คุณบุษบา..." ตุลาเอ่ยชื่อหญิงสาวออกมาเบา ๆ เขาเองก็ไม่คิดว่าจะเจอเธอที่นี่ ซึ่งชายหนุ่มพอจะเดาได้ว่าคงเป็นฝีมือของบิดา ที่รายงานให้หล่อนได้ทราบ ถึงการเคลื่อนไหวของเขา
"บุษได้ข่าวว่าคุณตุลา จะย้ายมาบริหารที่นี่ก็เลยจะมาแสดงความยินดี เย็นนี้เราไปดินเนอร์กันนะคะ" ดูเหมือนว่าหล่อนจะถือเอาโอกาสนี้ขึ้นมาเป็นข้ออ้าง ในการชวนชายหนุ่มออกไปดินเนอร์ หล่อนช่างไม่อายกล้าชวนผู้ชายก่อน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับผู้หญิงทุกวันนี้ และหนึ่งในนั้นก็คงจะเป็นบุษบา ที่หล่อนถือคติประจำใจที่ว่าด้านได้อายอด หรือตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก หญิงสาวก็พยายามงัดเอาออกมาใช้เพื่อให้มันได้ผล
ตุลาจะรู้หรือเปล่าว่าคำพูดของเขา กำลังทำให้ใบหน้าขององุ่นร้อนผ่าว จังหวะการเต้นของหัวใจของเธอนั้นแรงขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ เมื่อความใกล้ชิดที่เกิดขึ้น กำลังส่งผลให้หัวใจของเธอละลาย โดยเฉพาะประโยคสุดท้าย เธอก็พอจะเดาได้ว่าเขาหมายถึงใคร "ฉันไม่สนใจหรอกนะเรื่องสถานะของคุณ คุณจะโสดจะมีเมียมีลูกกี่คนมันก็ไม่เกี่ยวกับฉันสักหน่อย ปล่อยฉันได้แล้วค่ะคุณตุลา" "คุณตกลงเป็นแฟนผมก่อนสิ ไม่อย่างนั้นเราก็ผมจะนอนกอดคุณไว้อย่างนี้ทั้งคืนเลย" "เฮ้ย! แบบนี้ก็ได้เหรอ นี่มันคือการมัดมือชกชัด ๆ คุณจะใช้วิธีเผด็จการแบบนี้กับฉันไม่ได้หรอกนะ เพราะตรงนี้มันคือหัวใจไม่ใช่ธุรกิจของคุณ" องุ่นพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ยืนกราน พร้อมกับชี้ลงไปที่อกข้างซ้าย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับชายหนุ่ม ทันใดนั้นเองเมื่อดวงตาของคนทั้งคู่ประสานกัน ความนัยที่มีก็ถูกเปิดเผยขึ้นมาทันที ต่างคนต่างก็เฝ้ารอคอยที่จะพบกัน "แค่การตกลงปลงใจเป็นแฟนกับผม ทำให้คุณต้องฝืนใจขนาดนั้นเลยเหร
พอหญิงสาวก้าวเท้าเข้ามาในห้อง ทำให้องุ่นรู้สึกตื่นตาตื่นใจ กับไลฟ์สไตล์การตกแต่งห้องของชายหนุ่มที่ดูวินเทจ แต่ก็ผสมผสานความเป็นสมัยใหม่เข้าไปด้วย ทำให้ดูอบอุ่นผ่อนคลายมีกลิ่นอายของความคลาสสิค จึงทำให้ห้องของเขาน่าอยู่มากขึ้น "มีใครอยู่ไหมคะ ฉันเอาข้าวมาส่งค่ะ วางไว้ตรงนี้นะ ฉันกลับแล้วนะคะ" องุ่นพูดพร้อมกับวางปิ่นโตลงที่โต๊ะอาหาร ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องอีกครั้ง แต่ก็ไม่พบใคร "ไม่อยู่ยังจะนัดให้เอาข้าวมาส่งอีก แกล้งฉันหรือเปล่าเนี่ย" องุ่นพูดพึมพำออกมาพร้อมกับทำหน้างอน ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะคิดน้อยใจด้วยซ้ำไป เขาจะอยู่ห้องหรือไม่อยู่มันก็ไม่เกี่ยวกับเธอสักหน่อย หน้าที่ของเธอคือการมาส่งข้าวให้เขาแล้วก็กลับทำไมต้องคิดหนักอยากเจอเขาด้วย หมับ!! "ว้าย!" องุ่นร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อข้อมือเรียวของเธอถูกชายหนุ่มดึงเข้าหา ในขณะที่ใบหน้าของ
องุ่นอ่านข้อความด้วยหัวใจที่เต้นแรง เมื่อประโยคสุดท้ายที่เขาระบุเอาไว้นั้น กำลังทำให้เธอหน้าแดง หญิงสาวไม่รู้ว่าตุลากำลังล้อเล่นกับความรู้สึกเธออยู่หรือเปล่า แต่ที่แน่ ๆ ข้อความเหล่านั้นกำลังทำให้หัวใจของเธอพองโต แม้จะยังไม่แน่ใจในความหมายของมัน แต่เธอคงไม่มีสิทธิ์หลีกเลี่ยงกับดอกเบี้ยที่ตุลาควรได้รับ"พี่องุ่น พี่ไม่สบายหรือเปล่าจ๊ะ ป้าปรางให้มาเรียกมีออเดอร์เพียบเลยจ้ะ" เสียงของผักบุ้งดังขึ้นทำให้องุ่นรีบเก็บธนบัตรและกระดาษโน้ตไว้ในกระเป๋ากางเกงทันที "พี่แค่มาเข้าห้องน้ำเฉย ๆ จะออกไปเดี๋ยวนี้แหละจ้า" วันนี้ทั้งวันจิตใจขององุ่นไม่อยู่กับเนื้อกับตัว บางครั้งก็ทำออเดอร์ผิด ลูกค้าสั่งผัดกะเพราแต่ได้ผัดผักแทนก็มี ยิ่งไปกว่านั้นคือลูกค้าสั่งแกงจืดแต่ได้ต้มยำมาแทน "องุ่นตั้งแต่กลับมาจากส่งข้าวที่โรงงาน หนูเป็นอะไรทำไมใจลอยจัง" มารดาเดินเข้ามาหาลูกสาว หลังจากเวลาผ่านไป ซึ่งตอนนี้ร้านปิดร
"ฉันไม่มีเวลามานั่งเล่นขายของกับคุณหรอกนะ มื้อนี้ถือว่าฉันเลี้ยงคุณก็แล้วกัน" "เดี๋ยว!" เมื่อองุ่นไม่ฟังคำสั่งของตุลา จึงทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดที่ไม่สามารถบังคับเธอได้ ชายหนุ่มจึงเผลอตะคอกมาเสียงดัง จนทำให้เธอไม่กล้าที่จะเปิดประตูก้าวออกไปจากห้อง "อะไรอีก... เวลาของฉันเป็นเงินเป็นทองนะคุณ ไม่อยากได้เงินคืนหรือไง จะรีบไปหาเงินมาใช้หนี้ มีอะไรก็รีบพูดมา" ในที่สุดองุ่นก็ยอมหันกลับมาพูดกับเขา แต่ทว่าความเป็นจริงแล้ว ภายใต้ข้ออ้างที่เธอใช้คำว่าลูกหนี้ เนื่องจากเธออยากออกไปให้พ้นจากห้องนี้ เพราะว่าหญิงสาวยังรู้สึกตื่นเต้นไม่หาย ไม่รู้ว่าทำไมเวลาอยู่ใกล้เขาแล้วหัวใจของเธอยิ่งเต้นแรง ซึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้นกับผู้ชายคนไหนมาก่อนเลยในชีวิต "ก็แล้วทำไม คุณหายใจเข้าหายใจออกต้องมีแต่เงินด้วยล่ะ ผมยังไม่ได้ถามหนี้คุณเลยนะ" "คุณไม่ถามแต่ฉันร้อนตัว ในเมื่อฉันเป็นหนี้คุณจริงๆ มันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเก๊กไว้นี่ จริงไหม" "แล้วถ้าดอกเบี้ย ผมขอคิดเป็นอย่างอื่นคุณจะว่ายังไง" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับฉาย
ตุลาจอดรถอยู่ตรงนั้นเป็นชั่วโมงก็ไม่รู้สึกเบื่อ ก่อนจะเหลือบมองดูนาฬิกาที่ข้อมือ ตอนนี้ใกล้เวลาแปดโมงเช้าแล้ว เขาจึงตัดสินใจขับรถเข้าไปภายในโรงงาน เพื่อเตรียมตัวทำตามแผนที่วางเอาไว้ พอชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องทำงาน เขานั่งใช้ความคิดอยู่สักพัก จึงตัดสินใจ ยกโทรศัพท์โทรออกหาเลขาสาวในทันที เพื่อทำตามแผนการที่วางเอาไว้ทั้งคืน "ได้ค่ะคุณตุลา รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวน้ำตาลจะจัดการให้ค่ะ" "อย่าลืมนะครับ คนที่จะมาส่งอาหารต้องเป็นผู้หญิงที่ชื่อองุ่นเท่านั้น" น้ำเสียงเข้มของตุลาทำให้เลขาสาวรู้สึกแปลกใจ ทำไมเขาจะต้องเจาะจงคนมาส่งอาหารด้วย แต่เธอก็ไม่กล้าถามเจ้านายหนุ่มออกไป ชายหนุ่มนั่งไม่ติด เมื่อเขากำลังนึกถึงใบหน้าขององุ่นตลอดเวลา ซึ่งตุลาไม่รู้ว่าเงื่อนไขของเขาจะสามารถทำให้หญิงสาวยอมทำตามได้หรือเปล่า แต่เขาก็ไม่มีทางเลือก เพราะนี่มันคือทางเดียวที่จะทำให้เธอเดินเข้ามาหาเขาได้ โดยที่เธอนั้นไม่สามารถโต้แย้งใด ๆ
"สวัสดีครับแม่ ธันวาขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับร้อน ถ้าพี่ตุลาชอบดื่มน้ำส้มก็ดื่มแก้วนั้นไปด้วยสิ" ธันวาพูดจบก็เดินออกไปทันที ปล่อยให้มารดากับพี่ชายมองหน้ากันและส่ายศีรษะไปมาให้กับความเอ็นดูเหตุตัวธันวา "พ่อยังไม่กลับเหรอครับแม่" ตุลาพูดพร้อมกับหยิบน้ำส้มอีกแก้วขึ้นมาดื่ม "ยังเลยเห็นบอกว่าจะกลับดึก" ผู้เป็นมารดาพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เป็นกังวล เมื่อนึกถึงคำพูดของอีธานที่เขากำลังจะพยายามจับคู่ให้กับลูกชาย "แม่ครับเรื่องโครงการสร้างคอนโดหน้าโรงงานเฟอร์นิเจอร์ แม่ช่วยพูดให้พ่อยุติโครงการนี้ได้ไหมครับ" น้ำเสียงของตุลาดูมีความกังวลมาก เมื่อชายหนุ่มนึกถึงผลกระทบของทุกคนในชุมชน โดยเฉพาะองุ่นที่เขาเพิ่งจะเจอเธอ ถ้าหากต้องจากกันอีกครั้ง เขาก็ไม่รู้ว่าอีกนานไหมถึงจะสามารถ ตามหาเธอเจออีกครั้ง "เรื่อง







