“อะไรนะครับ ไอ้กรเหรอ”“ใช่ ก็พี่เห็นกรมาเอาเทปแทนวินทร์ไม่ใช่เหรอพี่ก็เลยให้ไป นี่ไม่ได้คุยกันเหรอพี่ก็ไลน์ไปบอกแล้ววินทร์ก็บอกว่าโอเคไม่ใช่เหรอ"“เอ่อ ครับ ยังไงก็ขอบคุณพี่มากเลยนะครับพี่เอก เอาไว้ผมเลี้ยงเหล้า”“เฮ้ยไม่ต้องเกรงใจ”ภาวินทร์เดินออกมาจากห้องควบคุมกล้องวงจรปิดและนึกสงสัยอยู่นิดหน่อย ทำไมชินกรถึงได้เข้ามายุ่งเรื่องนี้ด้วย“ไอ้กร ทำไมเป็นไอ้กรล่ะ”เมื่อวานนี้ชินกรเป็นคนแรกที่เข้าไปช่วยมิว แม้แต่เขาที่รีบร้อนวิ่งจากตึกคณะไปยังไปไม่ทันชินกร อีกอย่างที่สามคนนั้นถูกลงโทษแม้ว่าจะเป็นเพราะเขาคิดได้เรื่องกล้องวงจรปิด แต่คนที่จัดการกลับเป็นชินกร“กร กูมีเรื่องจะคุยกับมึงหน่อย”“ไอ้วินทร์ได้ข่าวว่ามีข่าวใหญ่เหรอวะ ทำให้น้องรินคณะมนุษย์ผวาขนาดนั้นยัยเด็กนั่นร้ายนี่หว่า”นิธิศแซวภาวินทร์แต่เขากลับหันมามองที่ชินกรที่ยิ้มและเดินตามภาวินทร์ออกมา ท่าทางใจร้อนของภาวินทร์ทำให้ชินกรเริ่มมั่นใจว่าระหว่างภาวินทร์กับลักษิกาคงไม่ธรรมดาแล้ว“ไอ้วินทร์มึงเป็นอะไรรีบร้อนทำไม”“มึงเป็นคนทำเหรอ”“กูไปทำอะไร”"มึงเป็นคนปล่อยคลิปตัดต่อนั่นเพื่อช่วยมิว"“เออ กูทำเองนี่มึงเรียกกูออกมาเพราะเรื่องแค่นี้
หลังจากนั้นมิวก็เริ่มใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์และค่อย ๆ เช็ดแผลให้กับนิธิศ เขาพึ่งทันได้สังเกตว่าเบื้องหลังแว่นตาหนา ๆ นี้ผิวของเธอขาวเนียนละเอียดสายตาคมกริบที่แทบจะบาดใจคนนั่นทำเอาเขาตกตะลึงไม่น้อย เธอแทบจะไม่เหมือนเด็กสาวที่พวกเขามักจะล้อเลียนก่อนหน้านี้มาเลย อีกทั้งมือเบาจนเขาก็ไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด“เจ็บไหมคะ ตอนนี้เช็ดเลือดออกแล้วเดี๋ยวจะล้างแผล อาจจะแสบ ๆ นิดหน่อย ถ้าทนไม่ไหวรีบบอกนะคะ”“ครับ”เธอลงมือนิ่ง ๆ และสายตาที่มุ่งมั่นนั้นทำให้นิธิศลืมความเจ็บปวด ต้องยอมรับว่ามิวในคราบพยาบาลแม้ว่าจะเป็นแค่พยาบาลฝึกหัด แต่เธอมีความนิ่งและสงบจนน่าชื่นชม ไม่นานเสียงเธอฉีกบางอย่างก็ทำเอาเขาสะดุ้ง“หนะ ไหนบอกว่าไม่ฉีดยายังไงล่ะน้องมิว! แล้วนั่นอะไร”“ผ้าก๊อซปิดแผลค่ะ ต้องใช้หลังจากที่ทายาเสร็จรุ่นพี่ตกใจอะไรคะ”“ออ ผ้าก๊อซหรอกเหรอไม่ใช่เข็มฉีดยา ค่อยยังชั่ว ๆ”เธอไม่ถามว่าทำไมเขาถึงกลัวเข็ม มิวแค่ค่อย ๆ ทำแผลให้เขาตามหน้าที่ นิธิศรู้สึกเจ็บตอนที่เธอใส่ยาที่แผลตรงหน้าผากของเขา“โอ๊ย! เจ็บ ๆ ๆ เจ็บครับอันนี้เจ็บจริง ๆ แสบมากทำยังไงดี”“อยู่เฉย ๆ นะคะ อีกนิดเดียวยานี่จะทำความสะอาดเผื่อมีเชื้อโรคเข้
“ก็ใช่น่ะสิคะ พี่วินทร์คิดว่ามาที่นี่จะมาทำอะไรล่ะคะ”“พี่ก็แค่!!…ช่างเถอะ ว่าแต่จากนี้มิวต้องมาที่นี่ทุกวันเลยเหรอ”“ค่ะ หยุดเสาร์อาทิตย์”“ค่อยยังชั่ว”มิวหันไปค้อนและเก็บของที่พึ่งทำแผลให้นิธิศก่อนที่ภาวินทร์จะเดินเข้ามาชิดตัวเธอ มิวพยายามหันหนีแต่เขากลับดึงเธอเข้ามา“ถ้างั้นสองทุ่มพี่มารับนะ”“ไม่ไปไม่ได้เหรอคะวันนี้พึ่งจะเริ่มงานวันแรก”“ไม่ได้วันนี้พี่จะคุยเรื่องการพิมพ์รายงานโปรเจคแล้ว สองทุ่มพี่จะขับรถมารับห้ามปฏิเสธอีกไม่งั้นเรื่องของเราพี่บอกพวกไอ้กรไอ้ธิศแน่ มันจะได้ไม่ทำสายตาเหมือนลูกหมากับมิวอีก”“อะไรนะคะ สายตาลูกหมาคืออะไร”“ช่างเถอะ สองทุ่มรออยู่ที่นี่อย่าหนีกลับก่อนล่ะ”“แต่วันนี้มิวมีนัดแล้ว”“กับใคร! ไปที่ไหนแล้วเลิกกี่โมง”“คือว่าเพื่อน ๆ จะไปทานข้าวกันที่หน้ามหาลัย”“ไปกี่คน มีผู้ชายหรือเปล่า”มิวมองหน้าคนที่ถาม ภาวินทร์สีหน้าจริงจังกว่าตอนเข้ามาเจอเธอทำแผลให้กับเพื่อนสนิทของเขาเสียอีก“คือว่า ไม่แน่ใจ”“แล้วจำเป็นต้องไปเหรอ”“อืม แยมชวนก่อนหลายวันแล้ว ดังนั้นคืนนี้…”“ธุระพี่ก็เร่งเหมือนกัน พรุ่งนี้วันเสาร์เอาเป็นว่ากินแล้วเลิกกี่โมงก็โทรมา บอกชื่อร้านมาเดี๋ยวมาร
รถหรูของภาวินทร์ขับมาจอดที่หน้าร้านอาหารชื่อดังหน้ามหาลัยก่อนที่เขาจะกดโทรหามิวอีกครั้งซึ่งตอนนี้มิวรีบรับสายเขาทันทีโดยที่ไม่ต้องรอ แต่เสียงพูดคุยยังคงดังอยู่รอบ ๆ“ฮัลโหล”“ให้เวลาห้านาทีเก็บของออกมาถ้าไม่อย่างนั้นพี่จะเข้าไปรับด้วยตัวเอง”“อะไรนะคะ! เดี๋ยวก่อนนะคะ ขอสิบนาทีค่ะมิวต้องบอกเพื่อน ๆ ก่อน”“เจ็ดนาทีห้ามต่อรอง”“เดี๋ยว…เฮ้อ เอาแต่ใจตัวเองชะมัด”มิวหันมามองหน้าเพื่อน ๆ ที่กำลังสนุกซึ่งเธอเองก็ยังไม่อยากกลับ แต่ภาวินทร์ขู่เอาไว้ว่าเขาจะเข้ามาที่นี่เอง เธอไม่อยากให้ใครรู้เรื่องดังนั้นจึงต้องรีบขอตัวกลับ“อะไรวะมิว แล้วใครจะอยู่ชงเหล้าอร่อย ๆ ให้ฉันล่ะ โธ่ทำไมรีบกลับ”“หรือว่าแฟนมารับ”“เอ่อ…ไม่ใช่ ๆ คือเราต้องรีบกลับไปโทรหายายน่ะ”""อ๋อ งั้นรีบไปเถอะ""“เดี๋ยวฉันเดินไปส่ง”“อืม”มิวลาทุกคนในนั้นก่อนที่แยมจะลุกมาส่งอย่างรู้ทัน แม้ว่าจะมีบางคนสงสัยแต่ก็ไม่ได้ตามพวกเธอออกมาเพราะกำลังคุยกันอย่างออกรสเรื่องที่พึ่งได้ไปฝึกงานในโรงพยาบาล และเจอคุณหมอหล่อ ๆ หลายคน“มิว เรื่องนี้แกจะปิดบังไปอีกนานแค่ไหน ฉันว่าไม่นานยังไงพี่วินทร์ก็ต้องทำความแตก”“ฉันเองก็ไม่รู้แต่ถ้าจะแตกก็ต้องไม่ใช่
ภาวินทร์ไม่เคยขับรถทั้ง ๆ ที่ใจเต้นแรงขนาดนี้มาก่อน อีกทั้งคนข้าง ๆ ที่เริ่มมือไม้ไม่อยู่สุขเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ก็เริ่มทำให้เขาไม่มีสมาธิในการขับรถเข้าไปทุกที“มิว! พี่ทนไม่ไหวแล้ว”ภาวินทร์เลี้ยวรถเข้าไปซอยที่ค่อนข้างมืดและจอดในสวนสาธารณะซึ่งเขาจำได้ว่ามันอยู่ก่อนจะถึงคอนโดของเขา แต่ถ้าจะให้ขับรถไปอีกคิดว่าเขาคงจะทนไม่ไหว เมื่อจอดรถได้เขาก็กดที่รัดเข็มขัดของเขาและเธอออกและดึงคนตัวเล็กมานั่งที่ตักและเริ่มจูบทันที กลิ่นเหล้ารัมที่คุ้นเคยทำให้เขายิ่งมัวเมาในรสจูบจากเธอ“ดื่มมาเยอะแค่ไหนเนี่ย”“พี่วินทร์ มิวอยากได้แล้ว”“ยัยลูกแกะน้อยเริ่มยั่วคนเป็นแล้ว ได้สมใจแน่”“อ๊ะ พี่วินทร์ อ๊าา ที่รัก!!”ภาวินทร์แทบจะบ้าตายเมื่อคำว่า “ที่รัก” หลุดออกจากปากของลักษิกา แม้เขาจะเคยอยากให้เธอเรียกว่าผัวเวลาอยู่บนเตียง แต่คำนี้ก็นับว่าไม่เลวเพราะเขาเริ่มรู้สึกว่าร้อนรุ่มจนทนไม่ไหว มิวกัดฟันและส่งเสียงครางในลำคอเมื่อเขาเริ่มปลดกระดุมชุดนักศึกษาของเธอออกและเริ่มดูดหน้าอกเธออย่างแรงด้วยอารมณ์“อ๊าา ซี๊ด…อ๊าา พี่วินทร์”เรียวขาเรียวเสียดสีไปมา มือซน ๆ ของเธอเอื้อมมาลูบที่เป้ากางเกงที่ตุงจนจะพุ่งออกมาได้“ม
“อ๊ะ!!…พี่วินทร์ อย่าบีบแบบนั้น อ๊าา”มิวหมดแรงในอ้อมแขนเขานั่นเองเมื่อภาวินทร์ดึงออกมาและพ่นน้ำขุ่นใสไปที่หลังของเธอก่อนจะรีบล้างให้และอุ้มเธอออกมาจากห้องน้ำและหอมแก้มเธอไม่หยุด“พอได้แล้วค่ะ”“เมียตัวหอมจัง”“ยังไม่หยุดพูดแบบนี้อีก”“มิวไม่เชื่อพี่เหรอ ไม่เชื่อจริง ๆ เหรอว่าพี่…”มิวใช้มือปิดปากเขาเอาไว้ไม่ให้เขาพูดออกมา“แม่มิวเคยสอนเอาไว้ว่าคำพูดผู้ชายเชื่อไม่ได้อยู่สามเวลา”“เวลาไหนบ้าง”“เวลาเมา”“แต่พี่ว่าคนเมามักจะเผลอพูดเรื่องจริงนะ”“พูดเพราะขาดสติไม่ถือว่าจริงใจค่ะ”“แล้วสองล่ะ”“พูดตอนทำอะไรบางอย่างผิดมา”“แต่พี่ไม่ได้ทำอะไรผิดมานี่ ก็แค่หวงนิดหน่อยเลยไปรอรับเท่านั้น”“แต่เกือบจะบุกเข้าไปข้างในร้าน”“นั่น...”“สาม!!”“จะบอกว่าตอนอยู่บนเตียงหรือตอนจะเสร็จใช่ไหม”“รู้ได้ยังไงคะ”“คำคลาสสิคแต่มิวไม่คิดให้แตกต่างบ้างล่ะ ตั้งแต่มิวเข้ามาในชีวิตพี่ มิวเคยเห็นพี่ไปวุ่นวายกับผู้หญิงคนอื่นหรือเปล่า ตลอดสามเดือนมานี่พี่อยู่กับใครบ้างนอกจากมิว”มิวนั่งนิ่งไปเพราะที่เขาพูดมาก็ไม่ผิดเลยสักนิด เขาอยู่กับเธอมาโดยตลอดแม้ว่าจะมีสาว ๆ ที่ยังเข้ามาทักทายแต่ก็แค่นั้นเพราะภาวินทร์ที่ยุ่งกับเรื
นิธิศเดินถอยก่อนเพื่อนเพราะไม่คิดว่าจะเจอผู้หญิงในห้องของภาวินทร์ แต่ก่อนนอกจากพวกเขาที่พาสาว ๆ มาขอยืมห้องเล็กใช้ภาวินทร์ก็แทบจะไม่พาใครเข้ามาเลยไม่ใช่เหรอ เขามองไม่ชัดว่าผู้หญิงสวยตัวเล็กนี้เป็นใครจนชินกรเป็นคนพูดออกมา“มิว..”""อะไรนะ!!""“น้องมิวเหรอไอ้กร มึงตาฝาดหรือเปล่าน้องมิวเป็นเด็กเนิร์ดจะแต่งตัวเซ็กซี่แบบนี้ได้ไง”“นั่นสิไอ้กรมึงตาฝาดแล้ว”ภาวินทร์วิ่งหาผ้าคลุมและค่อย ๆ พยุงพามิวเดินเข้าไปในห้องนอนก่อนจะปิดประตูและเดินออกมาเผชิญหน้ากับเพื่อนสนิทอีกสามคนในห้อง มีเพียงชินกรคนเดียวที่กำลังยืนกัดกรามแน่นแต่ไม่พูดอะไร“ไอ้วินทร์ ทำไมรีบพาไปเก็บจังเลยวะไม่พามาแนะนำให้พวกกูรู้จักสักหน่อยเหรอ”“นั่นสิไอ้ธิศพูดถูกกูยังเห็นหน้าไม่ชัด เด็กมึงเหรอวะ ใช้ได้นี่ในที่สุดก็พาผู้หญิงเข้าห้องได้แล้ว”“ไอ้วินทร์ ทำไมมิวมาอยู่ที่นี่แล้ว…ทำไมถึงเดินแบบนั้น”นิธิศและวีรภัทรยังขมวดคิ้วและหันมามองชินกรที่ยังมั่นใจว่าผู้หญิงที่เห็นคือน้องมิว เด็กคณะพยาบาลที่มาช่วยพวกเขาทำโปรเจค แม้ว่าจะดูเป็นไปได้แต่พวกเขาคิดว่าคนที่เห็นกับสาวแว่นหนานั่น… ดูยังไงก็เป็นคนละคน“เรื่องมันยาวน่ะ ตอนนี้กูกับมิวคบกันอยู่”
ชินกรหันมามองหน้าภาวินทร์ที่พูดกับเขาด้วยความหนักแน่น เขาไม่ตอบอะไรแค่ถามด้วยเสียงปกติไป“ว่าแต่มึงไม่ได้ฝืนใจน้องแน่นะ ก่อนหน้านั้นใคร ๆ ก็รู้ว่ามึงกับมิวเกลียดกันขนาดไหน”“ตอนแรกกูก็ยอมรับว่าที่ให้มึงหาประวัติก็เพราะอยากหาจุดอ่อนมิวเพื่อจะแก้แค้นจริง ๆ แต่พอรู้จักกับเธอนาน ๆ เข้าก็เลยรู้ว่ามิวไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น เธอไม่ทำร้ายใครก่อนแต่ถ้าใครทำเธอก่อนเธอก็พร้อมจะสู้กลับเท่านั้นเอง”“มึงไปชอบมิวตรงไหน”“แล้วมึงล่ะไอ้กร มึงชอบมิวตรงไหน”“กูถามมึงอยู่ ไม่ต้องมาย้อนถามกูกลับ”ภาวินทร์ยิ้มออกมาน้อย ๆ ก่อนจะหันตอบเพื่อนสนิทอย่างชินกรไปโดยไม่ได้ลังเล“ท่าทางจริงจัง รอยยิ้มที่นาน ๆ จะมีสักครั้ง แล้วยังทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจนั่นทำให้กูประทับใจและเผลอมองโดยไม่รู้ตัว มารู้อีกทีก็ไม่อยากอยู่ห่างจากเธอแล้ว มึงว่าแปลกไหมก่อนหน้านี้กูก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนะ”ชินกรยิ้มออกมานิด ๆ ก่อนจะค่อย ๆ พยักหน้าให้เพราะเขาต้องรู้ดีกว่าใครว่าภาวินทร์นิสัยยังไง ไม่เคยมีครั้งไหนที่วินทร์จะพูดถึงผู้หญิงด้วยเสียงอ่อนโยนและยิ้มแบบนี้เลยสักครั้ง“แล้วมิวล่ะ ทำไมถึงยอมคบกับมึง”“คงเพราะ… เรื่องนี้พูดแล้วมันยาวม
สี่ปีผ่านไป“ดูสิคะรูปลูกของแคร์กับพี่ภัทร นี่พวกเขาไม่คิดจะกลับเมืองไทยมาให้เรารับขวัญหลานเลยสินะ”“ช่วยไม่ได้นี่นาเห็นว่าไอ้ภัทรเปิดบริษัทที่โน่น พ่อมันเองก็ไปอยู่ด้วยอีกนานเลยมั้งกว่าจะกลับเมืองไทย”“แยมกับพี่ธิศจะมาหาวันอาทิตย์นี้นะคะจะพา "กองทัพ" มาด้วย”“ได้สิ อย่างน้อยก็มีเพื่อนเล่นละนะ “ภาคินทร์” จะได้มีเพื่อนเล่น"“แล้วนี่ลูกไปไหนแล้วคะ”“โน่น ไปเดินเล่นกับพี่เรย์ พอมาเจอกันก็พากันซนเห็นว่าไปเล่นทราย”“อะไรนะ! เล่นทรายอีกแล้วเดี๋ยวก็เขาหูอีก…โอย…”“เมียจ๋าอย่าโวยวายสิ อย่าลืมสิครับว่าท้องเกือบเจ็ดเดือนแล้ว อย่าพึ่งวีนนะเดี๋ยวพี่ไปจัดการเอง”“พี่วินทร์เป็นแบบนี้อีกแล้ว บอกแล้วว่าอย่าให้เล่นทรายบ่อย ๆ มันล้างออกยากถ้าลูกต้องไป…โอย”“ที่รักจ๋าอย่าโวยวายนะผัวผิดไปแล้วมา ๆ ตีมือผัวนี่ไม่เอาน่ามีพี่นัยช่วยดูอยู่เด็ก ๆ ไม่เป็นไรหรอกอีกอย่างมีป้ารินทร์เฝ้าอยู่ เจ้าคินทร์ตัวแสบนั่นไม่กล้าดื้อหรอก”“พยุงหน่อยเร็ว ๆ เข้า”“จ้า ๆ มาแล้ว ๆ ไม่ตะเบ็งเสียงแล้วนะครับคนดีค่อย ๆ เดินนะ มาพี่พยุงเข้าบ้าน”“ปึก!”“โอ๊ย! เจ็บนะทำไมความโหดไม่ลดลงเลยล่ะ สิบปีก็จะโหดแบบเดิมไม่ได้นะ หรือว่าพอจะได้ลูก
Q-Bar / 1 ปีถัดมา“ดรายมาร์ตินี่ครับ”ภาวินทร์นั่งที่หน้าบาร์เพื่อสั่งเครื่องดื่มที่เขาชอบดื่ม และต้องเป็นบาร์เทนเดอร์สาวสวย “เรเน่” คนเดียวเท่านั้นที่เป็นชงให้ดื่ม เรเน่ในชุดบาร์เทนเดอร์สาวที่รัดกุมมากกว่าเดิมแต่ก็หรูหราและดูมีระดับมากขึ้นเริ่มชงเครื่องดื่มและเท ระหว่างที่เทก็ยิ้มให้เขาเมื่อเธอยกขึ้นมาก็ส่งให้เด็กเสิร์ฟทันที“ของโต๊ะห้าค่ะ”“ครับบอส”ภาวินทร์มองเครื่องดื่มที่เด็กยกออกไปแล้วหันมาค้อนภรรยาสาวอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้เธอรับหน้าที่ดูแลบาร์แทนพัชรินทร์ที่ลาคลอดอยู่ ส่วนภาวินทร์รับหน้าที่ดูแลผับทั้งหมดแทนคุณพ่อที่กำลังเห่อหลานชาย“ที่รัก แล้วของผม…”“ตึง!”ลักษิกายกนมผลไม้คั้นสดมาให้เขาตรงหน้า ภาวินทร์ขมวดคิ้วมองเธอทันที“นี่อะไรน่ะ ทำไมผมต้องดื่มนมผลไม้นี่อีกแล้ว”“เพื่อสุขภาพที่ดีค่ะ”“แต่ว่าที่รัก… ผมขอแค่แก้วเดียวเองคุณก็รู้ว่าผมไม่ได้ดื่มมากเหมือนเมื่อก่อน”“แต่คุณต้องขับรถให้มิวนะคะที่รัก เพราะฉะนั้นคืนนี้ดื่มไม่ได้ค่ะ”“อะไรกัน ไม่ยุติธรรมเลยรู้แบบนี้ไม่ให้มาทำหรอก”“คุณภาวินทร์คะขอร้องอย่ามางอแงแบบนี้ หรืออยากจะให้มิวกลับไปทำงานที่โรงพยาบาลอีก”“ไม่เอา! ไม่เอาครับเมียจ๋า
คอนโด“พี่สารภาพไปหมดแล้ว มิวก็อย่าโกรธอีกเลยนะ”“สมคบคิดกับห้องระบบกล้องวงจรปิด แอบถ่ายคลิปหลังเวทีแล้วปล่อยแฉรุ่นน้อง พี่วินทร์ นี่พวกพี่ทำไมทำแบบนี้ นั่นมันอนาคตของแพรวาเลยนะคะ”“ใครบอกให้เธอไม่ยอมรับและขอโทษมิวล่ะ รู้หรือเปล่าว่าจนถึงตอนนี้เธอยังคิดว่าตัวเองเป็นเหยื่ออยู่เลยทั้ง ๆ ที่ตัวเองเป็นคนเริ่มต้นทุกอย่างเองแต่กลับไม่กล้ายอมรับความพ่ายแพ้ สมควรแล้ว…”แต่เมื่อหันมาเจอหน้าดุ ๆ ของมิวเสียงของเขาก็อ่อยลงทันที“มิว เรื่องนี้พี่กับไอ้กรไม่ได้ทำเกินไปจริง ๆ นะ คลิปที่ปล่อยออกไปก็แค่คำพูดที่เธอไม่ยอมขอโทษมิวหลังเวทีและเป็นคลิปเสียงเท่านั้น แต่ช่วยไม่ได้ที่คนจะรู้ทันทีว่าใครและอีกอย่างเรื่องนี้ไม่ใช่ครั้งแรก มิวมาดูนี่สิ”มิวขมวดคิ้วและหันมาดูสิ่งที่วินทร์เปิดให้ดู มีรุ่นน้องหลาย คนที่ออกมาแฉพฤติกรรมของแพรวา พวกเธอเองก็เคยถูกรุ่นพี่คนนี้กลั่นแกล้งจนไม่สามารถทนได้อยู่หลายครั้ง บางคนถึงกับหยุดเรียนไปเลยก็มี “อะไรกันเนี่ย แกล้งกันเกินไปหรือเปล่า คนพวกนี้ไม่ใช่แอคหลุมใช่ไหมคะ”“ไม่ใช่ ดูเหมือนว่าบางคนจะเป็นรุ่นน้องสายตรงของเธอเลยด้วยนะที่ออกมาแฉ พี่กับไอ้กรเช็คมาแล้ว ตอนแรกก็ไม่คิดเหมื
วินทร์รีบเตรียมน้ำมาเช็ดตัวให้มิว เธอพอจะลุกไหวจึงวัดไข้เอง“สามสิบเก้าจุดห้าองศา เฮ้อลูกแกะน้อยจะไม่คุ้มเอานะเนี่ย เดี๋ยวพี่มานะจะไปเอาข้าวมาป้อน”“มิวเดินออกไปกินเอง…”“พอเลยอยู่กับที่บ้างเถอะ ไม่น่าเลยจริง ๆ วันหลังไม่เอาแล้วนะแบบนี้ ครั้งเดียวพอเลยนอนพักไปเดี๋ยวพี่ไปเทมาให้พึ่งมาเมื่อกี้นี้ยังร้อนอยู่”ภาวินทร์บ่นไปอีกนานเรื่องที่เธอต้องป่วยเพราะไปยืนสวมชุดในอากาศที่เย็นของช่วงปลายปีแล้วยังสวมส้นสูง ซึ่งปกติเธอไม่เคยสวมมาก่อนแล้วยังต้องรับน้ำหนักของชุดและเครื่องประดับร่วมหลายชั่วโมงกว่าจะได้พัก“กินยาก่อนนะ”เธอรับยาจากเขามากินจนหมดและหลับสนิทไปทันที วินทร์เปลี่ยนผ้าและเช็ดตัวให้เธออีกครั้งหลังจากที่เหงื่อเริ่มออกแต่มิวยังลุกไม่ไหว“เย็นนี้ถ้าไข้ยังไม่ลดพี่จะพาไปนอนโรงพยาบาล”“ไม่เอา…พี่วินทร์”“ไม่ต้องมาเถียง”สุดท้ายก็ไม่พ้นที่ภาวินทร์จะต้องพาเธอไปที่โรงพยาบาลเพราะไข้ไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลย หมอวินิจฉัยว่าเธอเป็นไข้หวัดใหญ่และต้องนอนที่โรงพยาบาล“ว่าแล้วเชียว”“วิน! น้องมิวเป็นยังไงบ้าง”“ไข้หวัดใหญ่น่ะสิ คิดเอาไว้แล้วไม่ผิด”“ไอ้วินทร์ แล้วตอนนี้มิวอยู่ไหน”“อยู่ในห้องปลอดเชื้อเด
มิวรับถ้วยจากอธิการบดีก่อนที่จะถ่ายรูปรวมกับผู้ที่ได้รองทั้งสี่อันดับ กว่าเธอจะได้ลงจากเวทีก็เกือบห้าทุ่มเข้าไปแล้ว เมื่อลงมาด้านหลังคนที่รีบเดินหนีก่อนคนแรกเลยคือแพรวาที่อายจนไม่อยากอยู่ต่อ แต่ก็ไม่พ้นสายตาของริชชี่ แยมและแคร์ที่มายืนขวางทางออกเอาไว้“จะรีบไปไหนเหรอแพรวา ฉันคิดว่าเธอน่าจะจำได้นะว่าพูดอะไรเอาไว้ก่อนหน้านี้”“หลีกไป!”“ไม่หลีก คนอะไรแพ้แล้วไม่มีสัจจะ การกระทำของเธอก่อนหน้านี้แย่มากนะ กลั่นแกล้งมิวสารพัดเพื่อจะไม่ให้มาประกวดและยังโทรไปแจ้งร้านไม่ให้พวกเราเช่าชุดมาตอนนี้ทำไมถึงกล้าหนี”“พวกเธอชนะแล้วนี่ยังต้องการอะไรอีก จริงสินะทั้งชุดเอยเครื่องประดับและรถขบวนแห่นั่นคงจ่ายไปไม่น้อยเลยสิ จ่ายเงินใต้โต๊ะไปเท่าไหร่ล่ะถึงได้ตำแหน่ง”“อีนี่! วอนเสียแล้ว”“แยมอย่า! ใจเย็น ๆ ก่อน”แยมเดินมาพร้อมกับดึงถ้วยและเงินรางวัลออกไปและผลักแพรวาเข้ามาในห้อง แคร์เดินเข้ามาดึงเพื่อนเอาไว้ก่อนที่แพรวาจะเริ่มโวยวายขึ้นมา มิวและธิดาที่กำลังลงมาจากเวทียืนมองอยู่ห่าง ๆ“ทำอะไรน่ะ ช่วยด้วย! นี่มันข่มขู่กันชัด ๆ เลยฉันไม่ได้ทำอะไรผิดนะพวกเธอยังต้องการอะไรอีก”“ขอโทษมิวก่อนสิ แล้วก็ยอมรับด้วยว่าแอบ
“โอ้โหน้องมิว วันนี้สวยเหมือนนางฟ้าจริง ๆ เลย”นิธิศเอ่ยปากชมด้วยใจจริง เขาเคยเห็นมิวมาก่อนหน้านี้แล้วในชุดบาร์เทนเดอร์และเห็นด้วยกับวินทร์ว่ามิวต้องสวยโดดเด่นในชุดไทยแน่ ๆ แต่ชินกรและวีรภัทรที่ไม่เคยเห็นถึงกับยืนอึ้งอ้าปากค้าง รวมถึงคนที่เริ่มมามุงดูกันและเริ่มสงสัยว่าเธอเป็นใคร“นั่นใครวะ คนของคณะพยาบาลเหรอ”“นั่นสิหน้าไม่คุ้นเลยแต่สวยฉิบหาย มึงดูรูปร่างสิอย่างกับนางแบบ”“นั่งรถหรูมาขนาดนั้นลูกนักการเมืองหรือเปล่าวะ”“แต่รุ่นพี่วิศวะคนนั้น….เขาแฟนของ…”“เฮ้ย! อย่าบอกนะว่าแฟนพี่ภาวินทร์คณะวิศวะเครื่องกลปีสี่คนนั้นน่ะ ที่ใส่แว่นหนา ๆ”“เชี่ย!! สวยขนาดนี้เลยเหรอวะ”ไม่ใช่แค่พวกเขาที่ตกตะลึงในความขาวและความสวยของลักษิกาตรงหน้า แม้แต่คณะอาจารย์และกรรมการที่เริ่มเดินมาให้คะแนนในรอบแรกที่จะขึ้นรถที่ตกแต่งเอาไว้แล้ว ซึ่งครั้งนี้ชินกรให้คนของคณะวิศวะมาช่วยแต่งรถของมิวด้วยดอกไม้สดทั้งคัน วินทร์เดินเข้ามาหาและถามเธอ“เป็นยังไงบ้างเมื่อยไหม”“ไม่ค่ะแล้วพี่วินทร์ละคะ เหนื่อยไหม”“ไม่เหนื่อยแค่เห็นหน้ามิวก็หายเหนื่อยแล้ว วันนี้มิวสวยมากที่สุดเลย สวยจนอยากขอแต่งงานเลย”“พี่วินทร์ พูดอะไรน่ะ”“หนัก
“คิดเอาไว้ไม่มีผิดเลยว่าต้องมีเรื่องแบบนี้”มิวพูดขึ้นมาหลังจากที่ริชชี่เดินออกมาจากร้านยืมชุดร้านที่สี่ที่เธอรู้จัก “นั่นสิ จะเป็นไปได้ยังไงที่จะไม่มีร้านไหนเลยที่มีชุดเหลือ แบบนี้มันเหมือนแกล้งกันชัด ๆ เลย”“กลับกันเถอะ”“อ้าว แล้วจะทำยังไงละมิว”“ค่อยกลับไปคิดกันใหม่”“แต่ว่าเหลืออีกแค่อาทิตย์เดียวเอง ช่างแต่งหน้าก็ยังหาไม่ได้แล้วไหนจะชุดอีก”“เอาไว้ค่อยคิด”เย็นวันนั้น วินทร์ที่พึ่งกลับมาจากเรียนช่วงบ่ายเข้ามาในห้องก็เห็นว่ามิวนอนอยู่ที่โซฟาโดยมีมือถือวางอยู่ แต่เธอหลับสนิทจึงไม่เห็นข้อความของแยมที่ส่งมาให้“ริชชี่บอกว่าหาไปถึงร้านเวดดิ้งที่ทองหล่อก็ยังหาไม่ได้เหมือนกัน สงสัยงานนี้คงได้ตัดชุดใส่เองแล้วมั้ง ฮ่า ๆ”เขาไม่ได้แอบอ่านเพราะข้อความมันเด้งขึ้นมาเองจากหน้าจอภาวินทร์ถึงได้รู้ว่าเกิดปัญหาขึ้นแต่เขาเห็นว่ามิวยังหลับสนิทอยู่จึงได้โทรไปหาริชชี่เพื่อนสนิทของมิวโดยตรงซึ่งเขามีเบอร์ของเพื่อนมิวเอาไว้ทุกคน“โอเคพี่รู้แล้ว ขอบใจมากนะริชชี่”วินทร์วางหูไปแล้วและรีบกดเบอร์โทรที่คุ้นเคยทันที เสียงปลายสายรับอย่างงัวเงียเพราะยังไม่ถึงเวลาตื่น“ว่าไงไอ้ตัวแสบยังจำเบอร์พี่สาวแกได้อยู่เหร
“ต้องแบบนี้สิวะถึงจะเรียกว่าน้องเขย”วินทร์หันมายักคิ้วให้ชินกรก่อนจะดูดกาแฟเย็นของเขาต่อ วินทร์ยื่นชาเขียวแก้วใหม่ให้มิว“ไม่ต้องห่วงพี่อยู่ข้างมิวเสมอ ไม่ต้องกลัวเพราะแพรวากับพี่ไม่ได้มีอะไรเกินเลยและพี่ไม่เคยล่วงเกินเธอ”“พี่เป็นพยานให้ไอ้วินทร์ได้ในเรื่องนี้ น้องแพรคนนั้นถ้ากูจำไม่ผิดมากับดาวคณะที่บอกว่าเป็นเพื่อนกัน สุดท้ายมาเพื่อจะเข้าหามึงใช่ไหม”“พอไอ้ธิศพูดกูก็นึกออกเพราะพวกเธอตบตีกันเองมึงเลยเลิกติดต่อทั้งคู่ น้องแพรวาอะไรนี่ดูเหมือนจะยังไม่ทันได้คบหากับมึงเลยด้วยนี่ แค่ให้มึงเดินไปที่คณะด้วยกันเพราะเป็นทางผ่าน ตอนนั้นกูก็ไปด้วย”“ไอ้ภัทรมึงความจำแม่นใช้ได้เลยนี่กูก็ลืมไปแล้ว”“ก็หลังจากวันนั้นพวกพยาบาลมาใช้ห้องของคณะเราไงล่ะ มึงกับไอ้ธิศเลยโดนน้องมิวด่าที่หน้าคณะจำได้ไหมล่ะ”“ไอ้เชี่ยภัทรไม่พูดก็ไม่มีใครว่านะ มึงรื้อฟื้นทำไมวะกูอุตส่าห์ลืมไปแล้ว”วินทร์หันมามองหน้ามิวและยิ้มให้กันอย่างเข้าใจ มิวรู้ดีว่าตอนนี้วินทร์จะอยู่ข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจยังไงก็ยังมีวินทร์และชินกร พี่ชายของเธอที่พร้อมจะช่วยเหลืออยู่เสมอ“มิว พ่อโทรมาหาพี่บอกว่าเรื่องที่จะเข้าประกวดพ่อบอกว่าให้มิวทำ
“ฉันว่าคนที่น่าห่วงน่ะไม่ใช่มิวหรอก แต่เป็นคนขี้อิจฉาอย่างเธอมากกว่า”“ยัยแคร์ หมายความว่ายังไง”แคร์ ริชชี่และแยมเดินมาพอดีพร้อมกับดึงมิวเข้ามา ดูท่าทางแพรวาเองก็เหมือนจะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ “ก็เธอโดนทิ้งก็ไม่ได้หมายความว่ามิวจะเป็นอย่างเธอ ที่ฉันเห็นนะมิวกับพี่วินทร์คบหากันมานานเกินครึ่งปีแล้ว อีกอย่างตอนที่มิวโกรธ พี่วินทร์ถึงกับตามไปง้อถึงที่เลยนะ เรื่องแบบนี้เธอเคยเจอบ้างหรือเปล่า”“แก!”“อ๊ะ ๆ แคร์พูดไม่จบฉันขอต่อให้ก็แล้วกันนะ เรื่องของเธอกับมิวมันเอามาเทียบกันไม่ได้ แค่คนที่เคยคุยกับ "แฟน" น่ะ มันก็คนละเรื่องกันแล้ว อีกอย่างนะตอนนี้พี่วินทร์ก็ไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนอีกเลย ไม่คิดเลยนะว่าพี่วินทร์จะคลั่งรักขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อเลยว่าไหมริชชี่"แพรวากำหมัดแน่นเพราะความอิจฉา เธอเคยคุยกับภาวินทร์และเคยควงเขาอยู่ไม่ถึงสิบวัน อาจเพราะเธอเซ้าซี้เขามากเกินไปและเรียกร้องขอให้เขามารับมาส่ง แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่ภาวินทร์จะทำตามที่เธอขอ ไม่เหมือนกับที่เขาถึงกับขับรถมาส่งมิวที่หน้าคณะอย่างเต็มใจแบบนี้“งานลอยกระทงปีนี้ ถ้าเธอคิดว่าเธอแน่จริงกล้ามาแข่งกับฉันไหมล่ะ”“อะไรนะ”“งานลอยกระทงของมหาวิทยาลั