Beranda / วัยรุ่น / สะพานรักซีลีน / แค่เริ่มก็เล่นใหญ่

Share

แค่เริ่มก็เล่นใหญ่

last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-03 09:57:41

วันต่อมา

วันนี้มีการลงพื้นที่สำรวจหน้างานจริง ทั้งสภาพแวดล้อมและปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ รวมถึงการประชุมวางแผนร่วมกับตัวแทนจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ แต่ซีลีนไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อยว่าใครจะเป็นตัวแทนจากฝั่งนั้น เพราะเธอไม่ได้คิดจะไปประชุมอยู่แล้ว

หลังจากที่เมฆโทรมาเมื่อคืน เธอก็ได้ตกลงแบ่งหน้าที่กันเอาไว้แล้วว่าให้เขาเข้าประชุม ส่วนเธอขอออกมาสำรวจพื้นที่แทน และในเช้าวันนี้ เธอก็มาลงพื้นที่ด้วยตัวเองเพียงลำพัง เพราะเธอไม่อยากวุ่นวายกับใคร และการสำรวจพื้นที่จริงแบบนี้ เธอเชื่อว่ามันจะช่วยให้งานในส่วนของเธอสามารถมองภาพได้ชัดเจนและตรงตามความต้องการของคนในพื้นที่มากกว่า

“ร้อนชะมัด”

ร่างบางในชุดนักศึกษาพอดีตัวกับกระโปรงทรงเอสีดำยาวถึงข้อเท้าที่ดูเรียบร้อยหากมองผิวเผินจากทางด้านหลัง ทว่าหากหันกลับมา กลับเผยให้เห็นรอยผ่าแหวกสูงข้างลำตัวจนถึงต้นขาอ่อน อวดเรียวขาเรียวยาวทุกครั้งที่ก้าวเดิน

ซีลีนเดินสำรวจพื้นที่มาตั้งแต่เช้า จนถึงช่วงสายของวัน แสงแดดแรงจัดจนเหงื่อผุดพราวทั่วใบหน้า ผิวขาวเนียนของเธอเริ่มขึ้นสีชมพูระเรื่อตามอุณหภูมิที่พุ่งสูงขึ้น ร่างบางหยุดพักใต้ร่มไม้ใหญ่ริมคลองข้าง ๆ กับสะพานเก่าที่ทรุดโทรมจนแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม

ดวงตากลมโตของเธอกวาดมองไปรอบบริเวณ มันดูเงียบ ไม่มีเสียงรบกวน มีเพียงเสียงใบไม้เสียดสีกันเบา ๆ กับลมที่พัดผ่านร่างบางไปถึงแม้พื้นที่โดยรวมจะเต็มไปด้วยบ้านเรือน แต่การสัญจรกลับเงียบเหงา อาจจะเป็นเพราะสะพานตรงนี้ไม่สามารถใช้งานได้ปกติ ทำให้คนส่วนใหญ่ไปใช้สะพานข้ามคลองในจุดที่ไกลกว่าแทน

หญิงสาวล้วงสมุดสเก็ตซ์ในกระเป๋าผ้าใบเล็กออกมา เปิดหน้าว่างอย่างรวดเร็ว แล้วนั่งลงบนขอนไม้เก่า ๆ ใกล้สะพาน ก่อนจะเริ่มลงมือจดรายละเอียดและสเก็ตซ์ภาพด้วยความตั้งใจ

รอยยิ้มบางผุดขึ้นที่มุมปากในจังหวะที่เส้นดินสอเริ่มลากผ่านบนกระดาษ เพราะทันทีที่เหยียบยืนในพื้นที่ตรงนี้ เธอก็มองเห็นภาพของสะพานในแบบที่ต้องการอย่างชัดเจน

เสียงเครื่องยนต์ Porche Panamera AllBlack ของคันหนึ่งเลี้ยวเข้ามาจอดในลานดินใกล้สะพานเก่า ตามมาด้วยรถบิ๊กไบค์สีดำ BMW R18 ROCTANE ที่ของเจ้าของร่างสูงกำลังขับเคลื่อนเข้ามา

“ไอ้ลม เร็วดิวะมันร้อน”

เสียงเครื่องยนต์ดับลงพร้อมประตูรถที่เปิดออก ตามมาด้วยเสียงของเดย์ที่ถูกเพื่อนสนิทลากมาอย่างไม่เต็มใจตะโกนให้ลมก้าวตามเขามาทั้ง ๆ ที่อีกฝ่ายยังไม่ทันได้ถอดหมวกกันน๊อค

“ร้อนก็เหี้ยละ มึงขับรถยนต์”

ลมก้าวลงจากเบาะรถบิ๊กไบค์คันโปรดอย่างไม่รีบร้อน ก่อนจะถอดหมวกกันน๊อคออก แล้วกวาดสายตามองไปรอบพื้นที่เพื่อประเมินสภาพและทำเลเบื้องต้น เขาเอี้ยวคอมองสะพานเก่าที่ทรุดโทรม จนเหล็กโครงสร้างบางจุดโผล่พ้นผิวปูนออกมา

“เก่าฉิบหาย”

 ลมพึมพำเบา ๆ เหมือนพูดกับตัวเอง แต่ดังพอที่ทุกคนจะได้ยิน กะว่าจะเริ่มจดรายละเอียดทันที แต่สายตากลับไปสะดุดเข้ากับร่างบางในชุดนักศึกษาและผมสีบอนด์สลวยเด่นที่นั่งอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ใกล้หัวสะพานแทน

ภาพของหญิงสาวที่เขาคุ้นตาดี เพราะช่วงนี้รู้สึกว่าจะได้เจอกันบ่อย ๆ กว่าปกติ สายตาคมมองหญิงสาวที่กำลังก้มสเก็ตซ์ภาพอย่างตั้งใจจนแทบจะไม่รู้สึกตัวเลยว่าตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ลำพัง ก่อนที่คิ้วเข้มจะขมวดเข้าหากันเพราะรอยผ่าแหวกของกระโปรงตัวยาวที่แหวกจนเผยให้เห็นเรียวขาขาวเนียนยามที่เธอขยับ ‘ถ้าจะแหวกขนาดนี้จะใส่กระโปรงยาวตั้งแต่แรกทำไมวะ’

“ซีลีน”

เมฆเอ่ยเรียกเพื่อนสนิทเสียงดังพอประมาณ ทำให้หญิงสาวเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะหันมองไปยังต้นเสียงแล้วกวาดสายตามองพวกเขาทีละคนพร้อมกับเก็บดินสอและสมุดร่างในมือ

 “มากันตั้งแต่เมื่อไหร่”

เสียงหวานเอ่ยถามเพื่อนสนิทด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่เต็มไปด้วยความสงสัย ไม่รู้ว่าทำเมฆถึงมากับคนพวกนี้ได้ โดยเฉพาะใครบางคนที่เธอไม่อยากเจอ แต่กลับเจอกันบ่อยเหลือเกิน

“พอดีเราประชุมทีมเสร็จเร็ว เลยแวะมาสำรวจพื้นที่ต่อ แล้วนี่ก็ลมกับเดย์ตัวแทนจากวิศวะ เขาอยากมาดูหน้างานเราเลยมากับพวกเขา”

ซีลีนพยักรับ ก่อนจะปรายตามองชายหนุ่มที่กำลังยืนพิงเสาเหล็กใกล้ ๆ พบว่าเขากำลังจ้องมองเธออยู่ แต่ยังไม่ทันจะพูดอะไร เสียงเครื่องยนต์รถบรรทุกคันเล็กก็ดังใกล้เข้ามา จนบทสนทนาระหว่างเธอกับเพื่อนต้องหยุดลง

“คุณซีลีนใช่มั้ยครับ! ผมเอาซุ้มคีออสมาส่ง ให้ตั้งตรงไหนดีครับ!”

รถบรรทุกขนาดเล็กจอดเทียบตรงลานโล่งใกล้สะพาน ก่อนที่คนขับจะตะโกนถามเสียงดัง

“เธอสั่งตู้มาทำอะไร”

เมฆหันมามองเพื่อนสนิทตัวเองสลับกับตู้คีออสสีขาวขนาดประมาณสามคูณสี่เมตรอย่างงง ๆ

“ก็เอาไว้นั่งทำงานไง จะได้ไม่ต้องตากแดดตากลมอยู่แบบนี้ กว่างานจะเสร็จผิวเสียหมดก่อนพอดี”

คนตัวเล็กพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเหมือนเป็นเรื่องปกติสุด ๆ ทำเอาเดย์ที่มองเหตุการณ์อยู่หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ

“เรื่องมาก ตั้งแต่ยังไม่เริ่มงาน”

เสียงทุ้มต่ำเอ่ยออกมาเบา ๆ ก่อนจะเอียงคอมองตู้ที่กำลังถูกยกลงจากรถ แล้วหันมาปรายตามองเธออีกครั้ง

“สั่งตู้มาขนาดนี้ คงคิดจะอยู่สร้างบ้านอยู่ที่นี่เลยหรือไง”

“แล้วไง ฉันแค่ใช้พื้นที่ว่างตรงนี้ เพื่อจะได้ทำงานสะดวกมากขึ้น”

 ซีลีนยักไหล่ อย่างไม่คิดจะสนใจว่าใครจะว่าเธอเรื่องมากยังไง เพราะเธอยึดหลังเอาตัวเองสบายใจไว้ก่อน แล้วตู้นี้เธอใช้เงินตัวเองไม่ได้ใช้งบของมหาวิทยาลัยซื้อมาซะหน่อย

“พื้นที่ว่าง ก็ใช่จะเป็นสิทธิ์ของคุณคนเดียวหรือเปล่า”

“แล้วเป็นสิทธิ์ของคุณเหรอ?” เธอเลิกคิ้วขึ้น

“เหอะ! ให้งานมันออกมาดีจริงสมกับความเรื่องเยอะก็แล้วกัน ไม่ใช่มาเดินสวยไปวัน รำคาญตา!”

“ชิส์”

เมฆกับเดย์มองหน้ากันแบบกลั้นขำ ส่วนลมเพียงไหวไหล่อย่างไม่สะทกสะท้าน แต่ยังไม่ทันที่คนขับรถตู้จะขยับรถออกไป เสียงเครื่องยนต์ของรถบรรทุกอีกคันก็ดังเข้ามาแทน

ชายหนุ่มหันมองพร้อมกันอีกครั้ง ก่อนจะเห็นว่าด้านหลังกระบะมีแผ่นหินทางเดินเรียงซ้อนกันสูงหลายชั้นคล้ายจะเป็นทางเดิน

“คุณซีลีนใช่มั้ยครับ! หินทางเดินที่สั่งไว้มาส่งแล้ว”

คนขับตะโกนถามเหมือนกลัวส่งผิดคน ทุกคนหันขวับไปที่ซีลีนเกือบพร้อมกัน เมฆขมวดคิ้ว

“นี่เธอสั่งแผ่นหินมาด้วยเหรอ?”

ซีลีนก้าวเข้าไปดูด้วยสีหน้าเป็นปกติ ก่อนจะจรดปากกาเซ้นรับ ของที่กำลังทยอยมาส่ง

“ก็จะปูเป็นทางเดินจากตู้ไปถึงสะพานไง ฉันไม่เดินบนดินเลอะ ๆ แน่”

“นี่จะมาลงพื้นที่สร้างสะพานหรือเปิดรีสอร์ตกันแน่”

ลมยืนกอดอกมองเธออยู่ครู่หนึ่ง สายตาเหมือนกำลังประเมินว่าเธอพูดจริงหรือแค่เล่น แล้วก็ส่ายหัวไปมาช้า ๆ

“เรื่องของฉัน”

“เยอะ”

คำเดียวสั้น ๆ แต่ทำเอาร่างบางแทบอยากจะพุ่งไปหยุมหัวคนตรงหน้า ซีลีนเหลือบตามองคนตัวโตที่กำลังว่าเธอครั้งแล้วครั้งเล่าตั้งแต่ที่มาถึง

“เยอะแล้วไง”

“เปล่า” เขาตอบเรียบ ๆ

“แค่ไม่เคยเจอใครลงพื้นที่ทำงาน แต่เท้ากับแตะพื้นไม่ได้”

“ฉันมาออกแบบกับวาดแบบ ไม่ได้มาช่วยผู้ประสบภัยทำไมต้องทำตัวเองให้ลำบาก”

“งั้นก็หวังว่าตู้เท่ารังหนูกับทางเดินนี่จะช่วยให้สะพานสร้างเสร็จเร็วขึ้นนะ”

“ช้าหรือเร็วไม่รู้ แต่มันช่วยให้ฉันทำงานได้โดยไม่อารมณ์เสีย แล้วก็ไม่ต้องเห็นหน้านาย ก็นับว่าคุ้ม”

เธอตอบทันควัน ก่อนจะหันไปบอกคนงานให้จัดการปูหินต่อ เมฆมองภาพตรงหน้าแล้วยิ้มบาง ๆ ส่วนเดย์กระซิบกับลมเบา ๆ  

“มึงเจอของจริงแล้ววะ ฮ่า ๆ”

ลมทำเพียงไหวไหล่ แต่สายตายังจับอยู่ที่ซีลีนเหมือนอยากดูต่อว่าผู้หญิงแบบนี้จะไปสุดที่ตรงไหน

 คนงานเริ่มยกแผ่นหินลงจากรถ เสียงกระทบกันดังเป็นจังหวะ ฝุ่นดินฟุ้งขึ้นเล็กน้อยตามแรง คนตัวเล็กรีบยกมือปิดจมูกก่อนจะเริ่มเดินหนีออกไป

“คงรอดหรอกสะพานกู แดดก็ไม่อยากโดน ฝุ่นก็ไม่เข้าใกล้”

ซีลีนเลือกจะไม่ตอบโต้ แค่เดินเลี่ยงไปอยู่ใต้ร่มไม้เพียงลำพัง มือหนึ่งกางสมุดสเก็ตซ์ที่วาดค้างทิ้งไว้ขึ้นมาร่างต่ออย่างตั้งใจ

“ถ้างั้นเดียวไปซื้อน้ำมาให้แล้วกัน”

“เดียวไปช่วย”

เมฆเดินออกไปยังร้านค้าในชุมชน พร้อมกับเดย์ที่เดินตามหลังมาไม่ห่างเพื่อไปช่วยกันซื้อน้ำมาให้อีกสองคนที่เหลือ

ลมที่ยืนห่างออกไปไม่กี่ก้าวเหลือบเห็นว่าแดดบ่ายเริ่มแรงจนเส้นผมบลอนด์ของเธอสะท้อนแสงจ้า เขาหยุดมองเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะเดินอ้อมไปอีกฝั่งที่แสงแดดกำลังสาดส่องเข้าหน้าเธอ แล้วหยุดยืนซ้อนแผ่นหลังร่างบางให้เงาตัวเองบดบังแสงอาทิตย์ที่สาดลงบนกระดาษสเก็ตซ์ของเธอพอดี

“จะตามมาว่าอีกหรือไง”

ซีลีนเอ่ยเสียงนิ่งแต่ตาเหลือบมองเขา ก่อนจะก้มหน้าวาดแบบร่างของตัวเองออกไป

“เห็นปากเก่ง อยากรู้ว่างานจะออกดีเหมือนปากไหม”

เขาพูดเรียบ ๆ พลางกวาดตามองหน้ากระดาษ เหมือนจะสนใจงานในมือบางมากกว่า แม้งานร่างที่คนตัวเล็กวาดก็ยังมองไม่ออกเท่าไหร่ และถ้าดูจากรายละเอียดที่โน๊ตเอาไว้ก็นับว่าเธอเก็บรายละเอียดงานได้ดีมากทีเดียว

“จากขนาดของสะพานเดิม คิดว่าต้องปรับขนาดของสะพานให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและแข็งแรงขึ้น”

เสียงหวานเอ่ยออกมาแผ่วเบาโดยไม่ได้หันกลับมามองคู่สนทนา

“อืม”

เขาพยักหน้าช้า ๆ เหมือนไม่ใส่ใจนัก แต่ก็ไม่ได้ขยับหนีไปไหน ก่อนที่เพื่อน ๆ ของเขาจะเดินกลับมาพร้อมขวดน้ำยื่นให้

“น้ำเย็น ๆ คลายร้อน”

ซีลีนรับน้ำมาแล้วดื่ม แต่ก็อดเหลือบตากลับไปทางร่างสูงที่ยังยืนนิ่ง ๆ อยู่ข้าง ๆ ไม่ได้ ทั้งสี่คนเริ่มออกทำสำรวจความต้องการของคนในพื้นที่เพื่อเก็บมาเป็นข้อมูลในการเริ่มดำเนินโปรเจกต์ เพราะหากจะต้องสร้างสะพานก็ควรถามความต้องการของคนที่ใช้จริง

“ข้อสรุปเบื้องต้น คือขนาดของสะพานที่สอดคล้องกับการใช้งานจริงให้เป็นขนาดมาตรฐานที่รถสามารถสัญจรไปมาได้สะดวก”

“งั้นเดียวสร้างไลน์กลุ่มไว้ มีอะไรจะได้คุยกันเรื่องความคืบหน้า”

“อืม”

หลังจากสำรวจพื้นที่และจัดการงานยิบย่อยกันเสร็จ ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกลับ เมฆกับเดย์ขับรถออกไปก่อน ส่วนซีลีนเก็บสมุดสเก็ตลงกระเป๋าแล้วเดินเลาะทางดินกลับไปที่รถของตัวเอง

ลมไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม เพียงยืนพิงเสาเหล็กมองตามร่างเล็กที่ก้าวขึ้นรถไปอย่างสบายใจ ริมฝีปากหยักเผยรอยยิ้มบาง ๆ ที่เจ้าตัวคงไม่มีทางเห็น ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาบริษัทรับติดตั้งตู้คอนเทนเนอร์ทันที

“เอาตู้ขนาด 20 ฟุต มาลงให้หน่อยเดียวส่งพิกัดให้อีกที ขอแบบติดตั้งแอร์พร้อมใช้งานนะครับ”

ฝ่ามือหนาที่กำลังจะกดวางสาย ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเดินเหยียบ บนแผ่นหินทางเดิน ก่อนจะลอบถอนหายใจเบา ๆ แล้วเอ่ยบอกกับปลายสายอีกครั้ง

“หาคนมาเทปูนทำพื้นทางเดินให้ผมด้วย ค่าใช้จ่ายเบิกมาได้เลย”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • สะพานรักซีลีน   เล่นใหญ่

    เสียงเครื่องยนต์ดังคำรามตลอดเส้นทาง ลมขับรถตรงดิ่งไปที่คณะ ใบใบหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงอารมณ์นัก แต่ความคิดในหัวกลับตีกันวุ่นวาย ต่าง ๆ นานา คิดถึงแต่ใครบางคนที่หายไปตั้งแต่เช้าไม่นาน แมคเคลเรล720S All Black คันคุ้นเคยก็เลี้ยวเข้าไปในลานจอดรถคณะวิศวะฯ ก่อนที่ร่างสูงจะเดินจากรถตรงไปยังกลุ่มเพื่อนที่กำลังนั่งรวมกันใต้ต้นไม้ใหญ่ทุกคนได้แต่ชะงักและหันมามองแทบพร้อมกัน เสียงฮือฮาของผู้คนรอบข้างดังขึ้นทันทีเมื่อเห็นหนุ่มฮอตปรากฏตัว โดยเฉพาะพวกสาว ๆ ที่ดูจะกรี้ดกร้าดเป็นพิเศษ เพราะตั้งแต่ที่มีโปรเจกต์ลมก็ไม่ค่อยได้เข้าคณะเลย“เฮ้ย ไอ้ลม! มาได้ไงวะ ปกติมึงน่าจะอยู่ที่ไซต์”“หน้าเครียดเชียว กูว่าต้องมีเรื่องแน่ ๆ”เสียงทุ้มของเดย์เอ่ยถามทันที เมื่อเห็นว่าใครกำลังเดินเข้ามา ตามด้วยเสียงของไนท์ที่หันไปมองตามเสียงของแฝดตัวเองลมเดินเข้ามาหย่อนตัวลงนั่งบนม้านั่งไม้ กวาดตามองพวกมันทีละคน เสยผมขึ้นด้วยท่าทีหงุดหงิด“กูมาหาพวกมึงไม่ได้หรือไง”เขาพูดเสียงเรียบ ก่อนเอนหลังพิงพนัก มือยกโทรศัพท์ขึ้นไถ่ฟีดเลื่อนไปมาอย่างหงุดหงิด เพราะไม่รู้จะไปตามหาอีกคนที่ไหน เขาเลยตัดสินใจขับรถมาหาเพื่อน ๆ ที่คณะแทน“สรุปว

  • สะพานรักซีลีน   ช่วยด้วยครับ

    แสงแดดในช่วงสายของวันที่ลอดผ่านผ้าม่านสีเข้มเข้ามา ทำให้ลมค่อย ๆ รู้สึกตัว ก่อนมือหนาจะคว้านหาร่างบางที่เขากอดมาตลอดทั้งคืน แต่ปรากฏว่าข้างกายเขากลับว่างเปล่า มีเพียงร่องรอยยับย่นบนผ้าปูที่ยืนยันว่า เมื่อคืนเขาไม่ได้อยู่คนเดียว กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ของร่างบางยังติดอยู่บนปลอกหมอน ในเมื่อเขาเป็นคนอุ้มเธอกลับมาจากที่ไซต์งานมาต่อที่ห้องด้วยตัวเอง แต่เจ้าตัวกลับหายไปไหน“หนีไปอีกแล้วสินะ”ร่างแกร่งหยัดกายลุกเอนหลังพิงหัวเตียง มือหนาเอื้อมคว้าโทรศัพท์ที่หัวเตียง ก่อนจะเปิดเช็กบางอย่าง เพราะเขารู้ดีว่าคนตัวเล็กมักจะชอบโพตทุกอย่างไว้บนสตอรี่ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหนก็ตาม แต่เช้านี้มันกลับว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลยเรียวคิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ความเงียบในห้องยิ่งทำให้ความรู้สึกข้างในวาวโรจ์นขึ้นมา ลมโยนโทรศัพท์ลงบนที่นอน ร่างสูงหยัดกายลุกขึ้นนั่ง เสยผมขึ้นอย่างหงุดหงิด“ได้ฉันแล้วจะทิ้งเหรอ”เสียงทุ้มพึมพำออกมาอย่างไม่สบอารมณ์นัก เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอทิ้งเขาไว้คนเดียวบนเตียงแบบนี้ร่างแกร่งลุกขึ้นจากเตียงด้วยร่างกายเปื่อยเปล่าที่เต็มไปด้วยรอยแดงและการขีดข่วนจากปลายเล็บ ลมยังคงเดินหาใครบางคนจน

  • สะพานรักซีลีน   ไม่ปล่อย

    จูบที่เริ่มจากการรุกเร้าเบา ๆ กลับกลายเป็นไฟราคะที่ลุกโชน ริมฝีปากหนาไม่ปล่อยโอกาสให้เธอได้พัก มือใหญ่เลื่อนจากแผ่นหลังขึ้นมากดท้ายทอยเล็ก รั้งเธอให้รับแรงจูบลึกขึ้นเรื่อย ๆ“อื้อออออ”มือหนาอีกข้างเลื่อนต่ำมาทาบเอวบาง ลากปลายนิ้วไปตามสันโค้งจนเธอสั่นสะท้าน ร่างเล็กที่นั่งบนตักเผลอขยับเบียดแน่นขึ้นทุกครั้งที่เขาดึงให้เข้าใกล้“ต้องการกันไหมครับ”ลมกระซิบเสียงพร่าแนบข้างหู ก่อนจะเล็มจูบลงมาตามแนวสันกรอบหน้า สัมผัสกับผิวเนียนที่แดงจัด“ฉัน…ไม่”คำคัดค้านเอ่ยขึ้นอย่างติด ๆ ขัด ๆ เมื่อริมฝีปากร้อนผ่าวซุกลงมาตรงลำคอขาว มือเล็กเผลอเกาะบ่ากว้างแน่นเพื่อหาที่พยุง เสียงหัวเราะทุ้มพร่าเล็ดลอดจากลำคอเขา เมื่อเห็นร่างบางสั่นสะท้านอยู่ในอ้อมแขน“ร่างกายเธอมันกำลังต้องการฉัน”ลมกดจูบหนักลงที่ซอกคอ ฝากทิ้งร่องรอยรักแดงสีกุหลาบอย่างไม่ยอมออมแรง ขณะมือหนาบีบเคล้นหน้าอกอวบอิ่ม มืออีกข้างก็ลูบไล้ไปตามเอวบางและสะโพกกลม จนเธอคล้อยตามไปกับสิ่งที่เขากำลังนำพาเธอไปคนตัวเล็กเริ่มหอบหายใจถี่ หน้าแดงจัดจนแทบลามไปถึงหู ทั้งร้อน ทั้งอาย แต่กลับมีเพียงเสียงครางกระเส่าที่หลุดออกมาเบา ๆ เท่านั้น“อื้มมม ลม”แต่คนตั

  • สะพานรักซีลีน   หนีไม่พ้น

    ลมเปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับ ด้วยท่าทีไม่เร่งรีบ แต่กลับกดดันจนเธอรู้สึกเหมือนถูกบังคับกลาย ๆ ร่างบางชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะนั่งลงไปอย่างเสียไม่ได้ ทว่าประตูปิดลง กลิ่นกายอุ่นที่คุ้นเคยจากเมื่อคืนก็โอบล้อมเข้ามาในพื้นที่แคบทันทีร่างบางรีบเบือนหน้าออกไปทางหน้าต่าง เพราะกลัวจะเผลอใจสั่นจากความใกล้ชิดที่ที่เกิดขึ้น“ทำหน้าเหมือนถูกลากมาขาย”น้ำเสียงทุ้มแฝงรอยหัวเราะดังขึ้นจากเบาะข้าง ๆ ซีลีนหันขวับไปมองตาขวางทันที“แต่นายบังคับฉันมาอย่างไม่เต็มใจ”ลมเหลือบตามองเธอเพียงเสี้ยววินาที ริมฝีปากหนายกยิ้มกวน ๆ ก่อนโน้มตัว เอื้อมมือข้างหนึ่งมาดึงสายคาดเบลต์ข้ามตัวเธอแล้วกด ล็อกแน่น ด้วยท่าทีธรรมดาราวกับไม่มีอะไร แต่ใกล้ชิดกันจนลมหายใจของเขาเป่ารดต้นคอ ก่อนที่เข้าจะใช้ปลายจมูกไล้ผิวแก้มเธอเบา ๆ ทำเอาหัวใจเต้นแรงอีกครั้ง“บังคับ?” เขาทวนคำแล้วกระซิบเสียงต่ำข้างใบหู แต่ไม่ยอมขยับออกไปไหน“ฉันแค่มาตามหาคนรับผิดชอบ เพราะเมื่อคืนมีคนขโมยกอดฉันแน่นไม่ยอมปล่อย”แก้มใสของซีลีนแดงวาบขึ้นทันที เธอยกมือผลักอกเขาแรง ๆ พลางหันหน้าหนี“อย่ามาพูดบ้า ๆ นะลม!”เสียงหัวเราะทุ้มดังขึ้นในรถ เขายกมือกลับไปจับพวงมาลัยอย่

  • สะพานรักซีลีน   ความลับ

    เช้าวันต่อมา แสงแดดอ่อนลอดผ่านผ้าม่านสีขาวร่ำไร ร่างสูงขยับพลิกตัวเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ ลืมตา ภาพตรงหน้าคือห้องสีขาวเรียบดูสะอาดตาแต่กลับเป็นห้องที่เขารู้สึกไม่คุ้นชิน ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบมันกลับเต็มไปด้วยรายละเอียดที่บอกตัวตนเจ้าของห้องชัดเจนกรอบรูปหญิงสาวในชุดต่าง ๆ ใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม และกลิ่นน้ำหอมบางเบาที่เป็นเอกลักษณ์ของใครบางคนที่เขาจำได้ดี“ปวดหัวชะมัด”เสียงทุ้มพร่าต่ำเอ่ยกับตัวเอง เขาลุกขึ้นนั่งพลางยกมือกุมขมับความหนักอึ้งจากอาการแฮงค์เมื่อคืน ยังตามมาหลอกหลอนเขาในเช้านี้ สายตาคมยังคงมองหาเจ้าของห้องที่ที่ไม่รู้ว่าหายไปไหน และเขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง“หึ ยัยคุณหนูตัวแสบ”ทว่ายังไม่ทันที่ลมจะทำอะไรต่อ ภาพเลือนรางในหัวก็ปรากฏขึ้นมาในตัวทีละน้อย สัมผัสอ่อนนุ่ม และกลิ่นกายหอมบางเบาเหมือนกลิ่นของเจ้าของห้อง อ้อมแขนที่เขาโอบรั้ง และริมฝีปากนุ่มที่เขาบดจูบซ้ำ ๆ ไม่ยอมปล่อยก็ฉายชัดขึ้นมาริมฝีปากหนายกยิ้มจาง ๆ โดยไม่รู้ตัว แต่ทันทีที่เดินสำรวจไปรอบห้องกลับไม่เจอคนตัวเล็ก ความสงสัยก็แล่นเข้ามาแทนที่“หายไปไหน”เขาพึมพำเบา ๆ ขณะทอดสายตาไปยังผ้าห่มที่พับวางเรียบร้อยข้างกันบนเ

  • สะพานรักซีลีน   ทิ้งไว้กลางทาง

    เสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยคึกคักในช่วงหัวค่ำค่อย ๆ จางหาย เหลือเพียงเสียงแมลงและสายลมยามค่ำคืนที่พัดผ่านกายแทน โต๊ะไม้ที่เคยเต็มไปด้วยผู้คนและอาหาร ตอนนี้เหลือแค่แก้วเหล้ากระจัดกระจาย และทีมงานที่กำลังฟุบหน้าลงบนโต๊ะเมาหลับไปทีละคนลมเอนหลังพิงเก้าอี้ไม้อย่างทิ้งตัว ดวงตาคมแสนเจ้าเล่ห์เริ่มพร่ามัวเล็กน้อย บนตัวเต็มไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์อบอวลคละคลุ้งจนคนตัวเล็กต้องส่ายหน้าระอา“นายเมามากแล้วนะ”ซีลีนกดถามเสียงต่ำ ขมวดคิ้วมองร่างสูงที่หมดสภาพไม่ต่างจากคนอื่น ๆ“ใครเมา ไม่มี” เขาตอบเสียงต่ำแหบพร่ายืดยาวจนฟังแทบจะไม่รู้เรื่อง ก่อนเงยหน้าขึ้นมามองช้า ๆ“สภาพแบบนี้ยังมีหน้ามาบอกว่าไม่เมา”“ฉันไม่ได้เมาสักนิด”“ยกไม่พักแบบนั้นจะเหลือเหรอ” เธอบ่นพลางดันแก้วออกห่าง เขาหัวเราะเบา ๆ สภาพของทุกคนตอนนี้ดูไม่ต่างกันเลยสักนิด“ที่ห้าม เพราะเธอเป็นห่วงฉันใช่ไหม ยัยตัวแสบ”“พูดบ้าอะไรของนายเนี่ย”เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้ ริมฝีปากหนาเฉียดแก้มเนียนใสไปเล็กน้อย ก่อนจะสะบัดศีรษะเบาๆ เพื่อตั้งสติจ้องมองคนตัวเล็กด้วยแววตาพร่ามัว แต่แฝงไปด้วยจริงจังจนหัวใจของเธอเต้นแรง ใบหน้าร้อนผาวเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ แต่

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status