Share

สาวผมบลอนด์

last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-03 09:57:00

เสียงประตูห้องประชุมถูกผลักเปิดออกอีกครั้งตามแรงของฝ่ามือหนา ร่างสูงของลมก้าวออกมาเงียบ ๆ เพียงลำพัง หลังจากถูกทุกคนทิ้งไว้ หากเป็นเมื่อก่อน อย่างน้อยเขายังมีซันที่คอยไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ ต่างจากเดย์กับไนท์ที่มักจะหายตัวไปเป็นประจำ เพื่อไปตามเฝ้าดูแลรุ่นน้องคนสนิทในวัยเด็กอย่างแสงเหนือทุกครั้งที่พอมีเวลา

แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป แม้แต่ซันเอง ก็ยังหายหัวไปเฝ้าหุ้นส่วนร้านคาเฟ่คนสวยที่มันพยายามยัดเยียดตัวเองเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขา ถึงขั้นยอมนอนในร้านเล็ก ๆ แล้วปล่อยคอนโดหรูใจกลางเมืองทิ้งร้างไว้ให้ฝุ่นจับ

ลมถอนหายใจเบา ๆ ขณะก้าวเท้าไปตามเส้นทางที่เชื่อมต่อระหว่างคณะวิศวะและสถาปัตย์ ลัดเลาะไปยังลานจอดรถที่อยู่ติดกับประตูหลัง

ในเวลานี้มหาวิทยาลัยเริ่มเงียบลงกว่าปกติ ผู้คนเริ่มบางตา เพราะล่วงเลยช่วงบ่ายมาแล้ว แต่อากาศยังคงร้อนระอุ แสงแดดในเวลาบ่ายแก่ ๆ ลอดผ่านแนวไม้ใหญ่ พาดเงาลงบนพื้นทางเดินเป็นจังหวะ ๆ เขาเดินผ่านร่มเงาเหล่านั้นไปอย่างไร้จุดหมาย จนกระทั่งฝีเท้าหยุดชะงักโดยไม่รู้ตัว

ใต้ต้นไม้ใหญ่หลังคณะที่ดูเงียบสงบ กลับมีใครบางคนกำลังนอนฟุบหน้าอยู่กับแขนบนโต๊ะหินอ่อน หากแต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาของเขาเอาไว้ไม่ใช่สิ่งอื่นใด แต่เป็นเส้นผมสีบลอนด์ของเธอที่ดูโดดเด่นจนสะดุดสายตา

ผมบลอนด์ยาวสลวยถูกมัดรวบไว้แบบลวก ๆ ไปทางด้านหลัง ใบหน้าสวยแบนชิดไปกับต้นแขนเรียวเล็กที่พาดอยู่กับขอบโต๊ะ กว่าจะรู้ตัวเขาก็เดินมาหยุดอยู่ข้างกายหญิงสาวที่ยังคงหลับสนิทอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว

ฝ่ามือหนาเอื้อมปลายนิ้วไปสัมผัสกับกลุ่มเรียวผมที่ปรกอยู่บนใบหน้าเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ เกลี่ยออกไปทัดกับใบหูช้า ๆ เพราะกลัวว่าจะทำให้อีกฝ่ายตื่นขึ้นมาเสียก่อน แต่ลมหายใจเข้าออกช้า ๆ สม่ำเสมอนั้น บ่งบอกว่าคนตัวเล็กตรงหน้าเขากำลังจมอยู่ในนิทราที่ลึกจนไม่รู้สึกตัว

“กลางแดดแบบนี้ก็นอนได้เหรอวะ”

ร่างสูงบ่นพึมพำออกมาพร้อมกวาดสายตาสำรวจใบหน้าของหญิงสาวอย่างพิจารณาอย่างถ้วนถี่ ก่อนหัวคิ้วหนาจะเริ่มขมวดปมเข้าหากันด้วยความรู้สึกหลากหลาย ปกติผู้หญิงคนนี้ก็มีผิวที่ขาวมากอยู่แล้ว แต่เขาไม่คิดว่าผิวคนเรามันจะเปลี่ยนจากผิวขาวเนียนละเอียดมาเป็นสีแดงอมชมพูได้ เพียงแค่เพราะโดนแสงแดดส่องผ่านช่องใบไม้ลงมาวูบไหวบนผิวแก้มและไรผม แม้ทุกอย่างดูเรียบง่าย แต่กลับละสายตาออกไปไม่ได้เลยสักวินาที ดูเหมือนช่วงนี้เขาจะได้เจอเธอบ่อยมากจริง ๆ

ลมยืนนิ่งอยู่แบบนั้น เขามองเธออยู่นานจนไม่รู้ตัวว่าเวลาได้ผ่านไปนานแค่ไหน แต่สายตายังคงจับจ้องไปที่เปลือกตาบาง ๆ ปิดสนิท จมูกโด่งเล็กน้อยจนดูน่ามันเขี้ยว รวมถึงริมฝีปากแดงอมชมพูอวบอิ่มนั่นที่ทำเอาเขาแอบลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ก่อนจะไล้เลียริมฝีปากตัวเองเบา ๆ นึกอยากลองสัมผัสดูสักครั้ง

“แค่โดนแดดผิวยังแดงขนาดนี้”

เสียงทุ้มพึมพำกับตัวเองแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบ สายตาคมทอดมองหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังฟุบหลับอยู่เงียบ ๆ ต้องยอมรับว่าอีกฝ่ายเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างเย้ายวนเป็นธรรมชาติ และมีผิวขาวสวยเนียนละเอียดไม่ต่างจากผิวเด็ก ทุกอย่างที่เป็นเธอมันชั่งดูมีเสน่ห์ ดึงดูดให้อยากรังแก แต่ก็ดูบอบบางน่าทะนุถนอมจนอยากปกป้องในเวลาเดียวกัน

ชายหนุ่มยังคงยืนเฝ้าหญิงสาวอยู่แบบนั้นแล้วปล่อยให้เวลายังคงเดินต่อไป จนแสงแดดรำไรเริ่มเปลี่ยนทิศทาง สาดแสงลงมาบนเปลือกตาที่ปิดสนิททำให้คนที่นอนหลับเริ่มขยับตัวเล็กน้อย

ร่างสูงเผลอก้าวขยับเข้าไปใกล้อีกหนึ่งก้าวทันที ทำให้แสงแดดที่เคยแตะต้องใบหน้าเธอถูกเงาของเขาบดบังไปทั้งหมด ลมใช้เงาของตัวเองบดบังแสงแดดให้เธอเงียบ ๆ เพียงเพราะเขากลัวว่าแสงแดดที่สาดแสงลงมาจะทำให้ใครอีกสักคนสะดุ้งตื่น

“…”

ชายหนุ่มดุดดันลิ้นเข้าที่กระพุ้งแก้มของตัวเอง เมื่อรู้ว่าตัวเองเผลอทำเรื่องไร้สาระอย่างการยืนมองอีกคนหลับอยู่ตรงนี้ แล้วยังยืนบังแดดให้อีกฝ่ายอย่างไม่มีเหตุผล แต่ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมันกลับทำให้หัวใจของเขารู้สึกอิ่มเอมจนหลงลืมอารมณ์ขุ่นมัวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไปจนหมด

เวลายังคงเดินต่อไปช้า ๆ จากแดดจ้าในบ่ายแก่ ค่อย ๆ กลายเป็นแสงสีทองรำไรของยามเย็น ลมยังคงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ไม่ขยับไปไหน เขาทำเพียงแค่มองใบหน้าที่ยังหลับสนิทราวกับต้องมนต์สะกดที่มองได้ไม่รู้เบื่อ จนไม่รู้เลยว่าเวลาล่วงผ่านไปนานเท่าไร และไม่มีวี่แววว่าเธอจะรู้สึกตัวด้วยซ้ำ ว่ามีใครคนหนึ่งยืนอยู่ข้างเธอตรงนี้ตลอดเวลา

“ขี้เซาชะมัด”

ลมเงยขึ้นมองท้องฟ้าที่เริ่มกลายเป็นสีส้ม เขาไม่ควรปล่อยให้คนตัวเล็กนอนอยู่ตรงนี้ เพราะมันอันตรายเกินไปและเธออาจจะไม่สบายได้ คนตัวสูงก้าวถอยออกมาอย่างเงียบที่สุด ฝีเท้าหนักแน่นแต่ไร้เสียงกระทบพื้น เขาค่อย ๆ ถอยจากโต๊ะหินอ่อนนั้นไปยังมุมหนึ่งของลานหลังคณะ

มุมที่ยังพอมองเห็นเธอได้จากไกล ๆ แต่ไม่มีเงาของเขาทาบผ่านเธออีกแล้ว เขาพิงตัวกับต้นไม้ใหญ่เงยหน้ามองท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนสี ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เพื่อหาตัวช่วย  กระทั่งเสียงฝีเท้าของใครบางคนดังขึ้นจากด้านข้างเป็นนักศึกษาผู้หญิงคนหนึ่ง

“ขอโทษครับ ช่วยปลุกผู้หญิงคนนั้นให้หน่อยได้ไหมครับ”

“ดะ ได้ค่ะ”

ลมมองอีกฝ่ายที่กำลังมึนงงในคำขอร้อง เธอทำเพียงแค่ตอบรับและพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะเดินตรงเข้าไปหาคนที่ยังหลับอยู่ที่โต๊ะหินอ่อน พร้อมเสียงเรียกที่แผ่วเบาพยายามปลุกคนที่นอนหลับให้ตื่นขึ้นมา

“เธอ ๆ ตื่นก่อน ตอนนี้มันเย็นมากแล้ว”

ร่างเล็กขยับตัวเล็กน้อยเมื่อเสียงเรียกดังแว่วมาจากข้างหู เปลือกตาบางกะพริบช้า ๆ ขณะที่ดวงตาค่อย ๆ ปรับรับกับแสงแดดยามเย็นที่ทอแสงอ่อนลงเรื่อย ๆ

“อื้มมม”

ดวงตากลมโตเปิดเปลือกตาขึ้นมาอีกครั้งด้วยความมึนงง ก่อนจะพบว่าเธอเผลอหลับยาวจนมีเพื่อนร่วมคณะเดินเข้ามาปลุก

“ขอบใจนะ”

ซีลีนเอ่ยเสียงแผ่วพร้อมยิ้มให้อีกฝ่ายที่อุตส่าห์มีน้ำใจเดินมาปลุก ฝ่ามือเรียวบางยกมือขึ้นลูบหน้าผากตัวเองเบา ๆ เธอไม่ได้คิดว่าตัวเองจะหลับลึกได้ขนาดนี้ จากตั้งใจเพียงจะงีบสักพักให้หายง่วงสักหน่อย เพราะร่างกายของเธอเหนื่อยล้าเกินกว่าจะขับรถกลับคอนโดคนเดียวได้ แต่กลายเป็นว่าเธอกลับเผลอหลับไปจนถึงเย็น

ร่างบางค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งตัวตรง ลำคอแห้งผากจนต้องกลืนน้ำลายลงช้า ๆ ดวงตายังพร่าเบลอเล็กน้อย แต่มีสิ่งหนึ่งที่แทรกเข้ามาในความรู้สึกกลับชัดเจนอย่างน่าประหลาด

เธอรู้สึกเหมือนไม่ได้อยู่คนเดียวในตอนที่เผลอหลับไป แม้จะตื่นมาไม่เจอใคร แต่บางอย่างในใจกลับบอกเธอแบบนั้น มันเป็นความรู้สึกเหมือนว่ามีสายตาคู่หนึ่งคอยจับจ้องอยู่ตลอดเวลา

ซีลีนหันมองรอบตัวอย่างช้า ๆ แนวไม้ใหญ่ทอดเงาลงมาบนโต๊ะหินอ่อน สายลมอ่อน ๆ พัดผ่านปลายผมของเธอให้สะบัดเล็กน้อย สัมผัสเย็นเฉียบที่ข้างแก้มชวนให้เธอหลับตาลงอีกครั้งเพียงครู่

“แปลกจัง”

เสียงหวานเอ่ยพึมพำออกมาอย่างแผ่วเบา หัวใจของเธอเต้นช้า ๆ แต่เป็นจังหวะ อย่างไม่เข้าใจตัวเอง ความรู้สึกเหมือนมีใครอยู่ใกล้ ๆ โดยที่เธอไม่รู้ตัว เธอไม่เข้าใจว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนั้น หรือทำไมถึงรู้สึกอุ่นใจ ปลอดภัย ทั้งที่เพิ่งตื่นจากการนอนฟุบกลางแดดคนเดียว

เธอยกมือขึ้นแตะข้างแก้มที่ยังอุ่นจากแสงแดด แต่ในความอุ่นนั้นกลับมีบางอย่างแทรกซึม เป็นความอบอุ่นที่ไม่ใช่เพียงอุณหภูมิของแสงอาทิตย์ แต่เหมือนเป็นร่องรอยของใครบางคน

“หรือจะคิดมากไปเอง”

 ซีลีนส่ายหน้าเบา ๆ พยายามปัดความคิดฟุ้งซ่านทิ้งไป แต่หัวใจกลับยังไม่ยอมปล่อยความรู้สึกนั้น เธอก้มมองโต๊ะหินอ่อนที่เคยนอนฟุบอยู่นาน ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

ร่างบางยืดตัวบิดขี้เกียจเล็กน้อยแล้วกวาดสายตามองไปยังแนวต้นไม้ด้านหลังคณะที่เงาไม้ทอดทับลงบนพื้นหญ้าอย่างเงียบงัน วูบหนึ่ง เธอรู้สึกเหมือนมีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ตรงนั้น แต่พอหันไปมองจริง ๆ กลับไม่พบอะไรเลย นอกจากความว่างเปล่าและสายลมเย็นวูบหนึ่งที่พัดผ่านใบหน้า ทำให้เส้นผมบางเบาปลิวสะบัด

“บางที แค่บางทีที่เราคิดมากไปเอง มันไม่มีอะไรเลย”

คนตัวเล็กหลับตาลง สูดลมหายใจเข้าช้า ๆ แล้วผ่อนออกยาว ๆ เธอเดินออกจากตรงนั้นไปโดยไม่รู้เลยว่า เบื้องหลังต้นไม้ใหญ่ มีร่างสูงของชายหนุ่มยังคงยืนอยู่เงียบ ๆ ลอบมองแผ่นหลังเล็กที่ค่อย ๆ เดินจากไป โดยไม่มีคำพูด ไม่มีการทักทาย มีแค่แววตาที่มองตาม และรอยยิ้มบางที่ปรากฏขึ้นโดยไม่รู้ตัว แล้วทุกอย่างก็ค่อย ๆ เงียบลงอีกครั้ง

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • สะพานรักซีลีน   เล่นใหญ่

    เสียงเครื่องยนต์ดังคำรามตลอดเส้นทาง ลมขับรถตรงดิ่งไปที่คณะ ใบใบหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงอารมณ์นัก แต่ความคิดในหัวกลับตีกันวุ่นวาย ต่าง ๆ นานา คิดถึงแต่ใครบางคนที่หายไปตั้งแต่เช้าไม่นาน แมคเคลเรล720S All Black คันคุ้นเคยก็เลี้ยวเข้าไปในลานจอดรถคณะวิศวะฯ ก่อนที่ร่างสูงจะเดินจากรถตรงไปยังกลุ่มเพื่อนที่กำลังนั่งรวมกันใต้ต้นไม้ใหญ่ทุกคนได้แต่ชะงักและหันมามองแทบพร้อมกัน เสียงฮือฮาของผู้คนรอบข้างดังขึ้นทันทีเมื่อเห็นหนุ่มฮอตปรากฏตัว โดยเฉพาะพวกสาว ๆ ที่ดูจะกรี้ดกร้าดเป็นพิเศษ เพราะตั้งแต่ที่มีโปรเจกต์ลมก็ไม่ค่อยได้เข้าคณะเลย“เฮ้ย ไอ้ลม! มาได้ไงวะ ปกติมึงน่าจะอยู่ที่ไซต์”“หน้าเครียดเชียว กูว่าต้องมีเรื่องแน่ ๆ”เสียงทุ้มของเดย์เอ่ยถามทันที เมื่อเห็นว่าใครกำลังเดินเข้ามา ตามด้วยเสียงของไนท์ที่หันไปมองตามเสียงของแฝดตัวเองลมเดินเข้ามาหย่อนตัวลงนั่งบนม้านั่งไม้ กวาดตามองพวกมันทีละคน เสยผมขึ้นด้วยท่าทีหงุดหงิด“กูมาหาพวกมึงไม่ได้หรือไง”เขาพูดเสียงเรียบ ก่อนเอนหลังพิงพนัก มือยกโทรศัพท์ขึ้นไถ่ฟีดเลื่อนไปมาอย่างหงุดหงิด เพราะไม่รู้จะไปตามหาอีกคนที่ไหน เขาเลยตัดสินใจขับรถมาหาเพื่อน ๆ ที่คณะแทน“สรุปว

  • สะพานรักซีลีน   ช่วยด้วยครับ

    แสงแดดในช่วงสายของวันที่ลอดผ่านผ้าม่านสีเข้มเข้ามา ทำให้ลมค่อย ๆ รู้สึกตัว ก่อนมือหนาจะคว้านหาร่างบางที่เขากอดมาตลอดทั้งคืน แต่ปรากฏว่าข้างกายเขากลับว่างเปล่า มีเพียงร่องรอยยับย่นบนผ้าปูที่ยืนยันว่า เมื่อคืนเขาไม่ได้อยู่คนเดียว กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ของร่างบางยังติดอยู่บนปลอกหมอน ในเมื่อเขาเป็นคนอุ้มเธอกลับมาจากที่ไซต์งานมาต่อที่ห้องด้วยตัวเอง แต่เจ้าตัวกลับหายไปไหน“หนีไปอีกแล้วสินะ”ร่างแกร่งหยัดกายลุกเอนหลังพิงหัวเตียง มือหนาเอื้อมคว้าโทรศัพท์ที่หัวเตียง ก่อนจะเปิดเช็กบางอย่าง เพราะเขารู้ดีว่าคนตัวเล็กมักจะชอบโพตทุกอย่างไว้บนสตอรี่ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหนก็ตาม แต่เช้านี้มันกลับว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลยเรียวคิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ความเงียบในห้องยิ่งทำให้ความรู้สึกข้างในวาวโรจ์นขึ้นมา ลมโยนโทรศัพท์ลงบนที่นอน ร่างสูงหยัดกายลุกขึ้นนั่ง เสยผมขึ้นอย่างหงุดหงิด“ได้ฉันแล้วจะทิ้งเหรอ”เสียงทุ้มพึมพำออกมาอย่างไม่สบอารมณ์นัก เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอทิ้งเขาไว้คนเดียวบนเตียงแบบนี้ร่างแกร่งลุกขึ้นจากเตียงด้วยร่างกายเปื่อยเปล่าที่เต็มไปด้วยรอยแดงและการขีดข่วนจากปลายเล็บ ลมยังคงเดินหาใครบางคนจน

  • สะพานรักซีลีน   ไม่ปล่อย

    จูบที่เริ่มจากการรุกเร้าเบา ๆ กลับกลายเป็นไฟราคะที่ลุกโชน ริมฝีปากหนาไม่ปล่อยโอกาสให้เธอได้พัก มือใหญ่เลื่อนจากแผ่นหลังขึ้นมากดท้ายทอยเล็ก รั้งเธอให้รับแรงจูบลึกขึ้นเรื่อย ๆ“อื้อออออ”มือหนาอีกข้างเลื่อนต่ำมาทาบเอวบาง ลากปลายนิ้วไปตามสันโค้งจนเธอสั่นสะท้าน ร่างเล็กที่นั่งบนตักเผลอขยับเบียดแน่นขึ้นทุกครั้งที่เขาดึงให้เข้าใกล้“ต้องการกันไหมครับ”ลมกระซิบเสียงพร่าแนบข้างหู ก่อนจะเล็มจูบลงมาตามแนวสันกรอบหน้า สัมผัสกับผิวเนียนที่แดงจัด“ฉัน…ไม่”คำคัดค้านเอ่ยขึ้นอย่างติด ๆ ขัด ๆ เมื่อริมฝีปากร้อนผ่าวซุกลงมาตรงลำคอขาว มือเล็กเผลอเกาะบ่ากว้างแน่นเพื่อหาที่พยุง เสียงหัวเราะทุ้มพร่าเล็ดลอดจากลำคอเขา เมื่อเห็นร่างบางสั่นสะท้านอยู่ในอ้อมแขน“ร่างกายเธอมันกำลังต้องการฉัน”ลมกดจูบหนักลงที่ซอกคอ ฝากทิ้งร่องรอยรักแดงสีกุหลาบอย่างไม่ยอมออมแรง ขณะมือหนาบีบเคล้นหน้าอกอวบอิ่ม มืออีกข้างก็ลูบไล้ไปตามเอวบางและสะโพกกลม จนเธอคล้อยตามไปกับสิ่งที่เขากำลังนำพาเธอไปคนตัวเล็กเริ่มหอบหายใจถี่ หน้าแดงจัดจนแทบลามไปถึงหู ทั้งร้อน ทั้งอาย แต่กลับมีเพียงเสียงครางกระเส่าที่หลุดออกมาเบา ๆ เท่านั้น“อื้มมม ลม”แต่คนตั

  • สะพานรักซีลีน   หนีไม่พ้น

    ลมเปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับ ด้วยท่าทีไม่เร่งรีบ แต่กลับกดดันจนเธอรู้สึกเหมือนถูกบังคับกลาย ๆ ร่างบางชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะนั่งลงไปอย่างเสียไม่ได้ ทว่าประตูปิดลง กลิ่นกายอุ่นที่คุ้นเคยจากเมื่อคืนก็โอบล้อมเข้ามาในพื้นที่แคบทันทีร่างบางรีบเบือนหน้าออกไปทางหน้าต่าง เพราะกลัวจะเผลอใจสั่นจากความใกล้ชิดที่ที่เกิดขึ้น“ทำหน้าเหมือนถูกลากมาขาย”น้ำเสียงทุ้มแฝงรอยหัวเราะดังขึ้นจากเบาะข้าง ๆ ซีลีนหันขวับไปมองตาขวางทันที“แต่นายบังคับฉันมาอย่างไม่เต็มใจ”ลมเหลือบตามองเธอเพียงเสี้ยววินาที ริมฝีปากหนายกยิ้มกวน ๆ ก่อนโน้มตัว เอื้อมมือข้างหนึ่งมาดึงสายคาดเบลต์ข้ามตัวเธอแล้วกด ล็อกแน่น ด้วยท่าทีธรรมดาราวกับไม่มีอะไร แต่ใกล้ชิดกันจนลมหายใจของเขาเป่ารดต้นคอ ก่อนที่เข้าจะใช้ปลายจมูกไล้ผิวแก้มเธอเบา ๆ ทำเอาหัวใจเต้นแรงอีกครั้ง“บังคับ?” เขาทวนคำแล้วกระซิบเสียงต่ำข้างใบหู แต่ไม่ยอมขยับออกไปไหน“ฉันแค่มาตามหาคนรับผิดชอบ เพราะเมื่อคืนมีคนขโมยกอดฉันแน่นไม่ยอมปล่อย”แก้มใสของซีลีนแดงวาบขึ้นทันที เธอยกมือผลักอกเขาแรง ๆ พลางหันหน้าหนี“อย่ามาพูดบ้า ๆ นะลม!”เสียงหัวเราะทุ้มดังขึ้นในรถ เขายกมือกลับไปจับพวงมาลัยอย่

  • สะพานรักซีลีน   ความลับ

    เช้าวันต่อมา แสงแดดอ่อนลอดผ่านผ้าม่านสีขาวร่ำไร ร่างสูงขยับพลิกตัวเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ ลืมตา ภาพตรงหน้าคือห้องสีขาวเรียบดูสะอาดตาแต่กลับเป็นห้องที่เขารู้สึกไม่คุ้นชิน ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบมันกลับเต็มไปด้วยรายละเอียดที่บอกตัวตนเจ้าของห้องชัดเจนกรอบรูปหญิงสาวในชุดต่าง ๆ ใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม และกลิ่นน้ำหอมบางเบาที่เป็นเอกลักษณ์ของใครบางคนที่เขาจำได้ดี“ปวดหัวชะมัด”เสียงทุ้มพร่าต่ำเอ่ยกับตัวเอง เขาลุกขึ้นนั่งพลางยกมือกุมขมับความหนักอึ้งจากอาการแฮงค์เมื่อคืน ยังตามมาหลอกหลอนเขาในเช้านี้ สายตาคมยังคงมองหาเจ้าของห้องที่ที่ไม่รู้ว่าหายไปไหน และเขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง“หึ ยัยคุณหนูตัวแสบ”ทว่ายังไม่ทันที่ลมจะทำอะไรต่อ ภาพเลือนรางในหัวก็ปรากฏขึ้นมาในตัวทีละน้อย สัมผัสอ่อนนุ่ม และกลิ่นกายหอมบางเบาเหมือนกลิ่นของเจ้าของห้อง อ้อมแขนที่เขาโอบรั้ง และริมฝีปากนุ่มที่เขาบดจูบซ้ำ ๆ ไม่ยอมปล่อยก็ฉายชัดขึ้นมาริมฝีปากหนายกยิ้มจาง ๆ โดยไม่รู้ตัว แต่ทันทีที่เดินสำรวจไปรอบห้องกลับไม่เจอคนตัวเล็ก ความสงสัยก็แล่นเข้ามาแทนที่“หายไปไหน”เขาพึมพำเบา ๆ ขณะทอดสายตาไปยังผ้าห่มที่พับวางเรียบร้อยข้างกันบนเ

  • สะพานรักซีลีน   ทิ้งไว้กลางทาง

    เสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยคึกคักในช่วงหัวค่ำค่อย ๆ จางหาย เหลือเพียงเสียงแมลงและสายลมยามค่ำคืนที่พัดผ่านกายแทน โต๊ะไม้ที่เคยเต็มไปด้วยผู้คนและอาหาร ตอนนี้เหลือแค่แก้วเหล้ากระจัดกระจาย และทีมงานที่กำลังฟุบหน้าลงบนโต๊ะเมาหลับไปทีละคนลมเอนหลังพิงเก้าอี้ไม้อย่างทิ้งตัว ดวงตาคมแสนเจ้าเล่ห์เริ่มพร่ามัวเล็กน้อย บนตัวเต็มไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์อบอวลคละคลุ้งจนคนตัวเล็กต้องส่ายหน้าระอา“นายเมามากแล้วนะ”ซีลีนกดถามเสียงต่ำ ขมวดคิ้วมองร่างสูงที่หมดสภาพไม่ต่างจากคนอื่น ๆ“ใครเมา ไม่มี” เขาตอบเสียงต่ำแหบพร่ายืดยาวจนฟังแทบจะไม่รู้เรื่อง ก่อนเงยหน้าขึ้นมามองช้า ๆ“สภาพแบบนี้ยังมีหน้ามาบอกว่าไม่เมา”“ฉันไม่ได้เมาสักนิด”“ยกไม่พักแบบนั้นจะเหลือเหรอ” เธอบ่นพลางดันแก้วออกห่าง เขาหัวเราะเบา ๆ สภาพของทุกคนตอนนี้ดูไม่ต่างกันเลยสักนิด“ที่ห้าม เพราะเธอเป็นห่วงฉันใช่ไหม ยัยตัวแสบ”“พูดบ้าอะไรของนายเนี่ย”เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้ ริมฝีปากหนาเฉียดแก้มเนียนใสไปเล็กน้อย ก่อนจะสะบัดศีรษะเบาๆ เพื่อตั้งสติจ้องมองคนตัวเล็กด้วยแววตาพร่ามัว แต่แฝงไปด้วยจริงจังจนหัวใจของเธอเต้นแรง ใบหน้าร้อนผาวเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ แต่

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status