Mag-log inตอนที่ 10 ความจริงที่ถูกซ่อน
เสียงนกเจื้อยแจ้วปลุกพราวตะวันให้ตื่นจากภวังค์ เธอยังคงสัมผัสได้ถึงไออุ่นที่หลงเหลือบนหมอนข้างที่ใช้กอดเมื่อคืน ความรู้สึกปลอดภัยที่อ้อมกอดของอคิณมอบให้ยังคงหลงเหลืออยู่ในความรู้สึกของเธอ
พราวตะวันโกรธตัวเองที่เผลอไผลไปกับสัมผัสของเขา ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีตีวนอยู่ในอก ความดีที่เขาแสดงออกตลอดมาสวนทางกับภาพลักษณ์เสือผู้หญิงที่เธอปักใจเชื่อ
“พราวแกจะมาเห็นใจเขาง่ายๆ อย่างนี้ไม่ได้นะ แกต้องแข็งแกร่งเข้าไว้” พราวตะวันพึมพำกับตัวเอง เพราะเธอไม่อยากให้ความรู้สึกอ่อนไหวไปกับการกระทำแค่นี้ของเขาไม่ได้ไม่เช่นนั้นแผนการทั้งหมดของเธอก็จะพังทลายลง
ในเช้าวันนั้น อคิณกำลังจะออกไปทำงานตามปกติ พราวตะวันลงมายังห้องอาหารด้วยสีหน้าเรียบเฉย เธอยังคงรักษาระยะห่างจากเขาเหมือนเดิม แต่สายตาของเธอก็มีเผลอมองเขาอยู่บ่อยครั้ง อคิณเองก็เช่นกัน เขามองเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยและอ่อนโยนที่มันออกมาจากใจของเขาจริงๆ
“วันนี้ผมต้องเข้าโรงพยาบาลทั้งวัน” อคิณกล่าวขึ้นมาขณะจิบกาแฟ
“ถ้าคุณมีอะไรก็เรียกคนใช้หรือว่าโทรหาผมได้ตลอดเลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ เพราะตอนนี้คุณก็เป็นภรรยาของผมแล้ว”
“ฉันดูแลตัวเองได้” พราวตะวันพูดด้วยน้ำเสียงที่ห้วนๆ ไร้ซึ่งความไพเราะแต่ถึงอย่างนั้นอคิณก็ไม่ได้ถือโทษโกรธเธอแม้แต่น้อย
อคิณยิ้มบางๆ ที่มุมปาก สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเข้าใจ เขาไม่ได้ตอบโต้อะไรอีก เพียงแต่ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากบ้านไป พราวตะวันมองตามแผ่นหลังของเขาไปจนลับตา เธอรู้สึกโล่งใจที่เขาไม่อยู่ แต่ในใจกลับมีความรู้สึกว่างเปล่าบางอย่างเข้ามาแทนที่
“แมวไม่อยู่หนูร่าเริง ลัล ลัล ลา ละ ลัล ลัล ลา” พราวตะวันพูดพร้อมกับทำเสียงดนตรีขึ้นมาอย่างอารมณ์ดีเมื่ออคิณไม่อยู่บ้าน
พราวตะวันฟังเพลง ดูซีรีย์ อ่านหนังสือตามที่เธออยากทำเมื่ออคิณไม่อยู่บ้าน ในขณะที่พราวตะวันกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ห้องรับแขก เสียงเรียกเข้าจากฟิล์มก็ดังขึ้นบนโทรศัพท์มือถือของเธอ ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มอย่างมีความสุข เธอรีบกดรับสายด้วยความคิดถึง
“พี่ฟิล์มคะ พราวคิดถึงพี่ฟิล์มที่สุดเลยค่ะ”
“พี่ก็เหมือนกัน พราวสบายดีนะ” น้ำเสียงของฟิล์มดูเป็นปกติ แต่ในฉากหลังกลับมีเสียงดนตรีและเสียงผู้คนจอแจ พราวตะวันรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
“พี่ฟิล์มอยู่ที่ไหนคะ ดูเหมือนกำลังปาร์ตี้อยู่เลย”
ฟิล์มหัวเราะเบาๆ “พอดีเพื่อนๆ ที่นี่เขาจัดปาร์ตี้กันน่ะครับ” แล้วน้ำเสียงของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นจริงจังมากขึ้น
“ว่าแต่แต่งงานแล้วเป็นยังไงบ้าง”
พราวตะวันนิ่งไป เธอไม่อยากแม้จะพูดเรื่องนี้เพราะคนที่เธออยากแต่งงานด้วยคือฟิล์มไม่ใช่อคิณ
“พราวไม่มีความสุขเลยค่ะ พราวอยากให้พี่ฟิล์มกลับมาหาพราวเร็วๆ ได้ไหมคะ” พราวตะวันพูดขึ้นมาน้ำตาเอ่อคลอขึ้นมาเต็มดวงตา
“ไม่เป็นไรนะคะ ถือว่าพราวได้ช่วยเหลือพ่อนะคะ พี่กลับไปเมื่อไรพี่สัญญาว่าจะทำทุกอย่างให้พราวกับมาเป็นของพี่ให้ได้” ฟิล์มพูดให้ความหวังกับพราวตะวันซึ่งเธอเองก็ใจชื้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกโดยที่เธอไม่รู้เลยว่าตอนนี้คนที่เธอรักกำลังนอกใจเธอ
“ค่ะ พราวจะรอพี่ฟิล์มนะคะ” พราวตะวันพูดขึ้นมาแล้วก็มองหน้าฟิล์มด้วยแววตาที่บ่งบอกว่าเธอคิดถึงสุดหัวใจ
ฟิล์มยิ้มกว้างให้กับพราวตะวัน เป็นยิ้มที่พราวตะวันไม่รู้เลยว่ามันซ่อนความร้ายกาจไว้ข้างในนั้น
ทันใดนั้นพราวตะวันก็เหลือบไปเห็นสาวคนหนึ่งจากหน้าจอผ่านโทรศัพท์มือถือของฟิล์ม เห็นภาพผู้หญิงผมบลอนด์คนหนึ่งกำลังซบไหล่ฟิล์มและหัวเราะคิกคักอย่างสนิทสนม หัวใจของเธอหล่นวูบแต่เธอก็ยังคงข่มใจให้นิ่งไว้
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครคะพี่ฟิล์ม” พราวตะวันถามเสียงสั่นพยายามควบคุมอารมณ์
“อ๋อ เพื่อนพี่เองครับ เป็นเพื่อนในกลุ่มที่เรียนด้วยกัน” ฟิล์มตอบด้วยน้ำเสียงที่ดูรีบร้อนเล็กน้อย
“ไม่มีอะไรหรอกครับ พราวไม่ต้องคิดมากนะ”
“ค่ะ พราวเชื่อใจพี่นะคะ” แม้ในใจจะมีความคลางแคลงใจ แต่เธอก็เลือกที่จะเชื่อคำพูดของฟิล์มและปลอบใจตัวเองว่าภาพที่เห็นอาจเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด เธอยังคงพยายามยิ้มและพูดคุยกับเขาต่อจนวางสาย
“ไว้พี่โทรหาใหม่นะคะ พี่รักพราวนะ” ฟิล์มพูดกับพราวตะวันก่อนจะวางสายไป แล้วก็นัวเนียกับสาวผมบลอนด์ต่อโดยที่พราวตะวันไม่รู้เรื่องอะไรเลย
หลังจากวางสาย พราวตะวันทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างอ่อนแรง ภาพของผู้หญิงคนนั้นยังคงทำให้เธอคลางแคลงใจแม้จะบอกว่าเชื่อใจแต่ความไม่สบายใจก็ยังคงอยู่
ในขณะที่พราวตะวันกำลังคิดไม่ตกเรื่องของฟิล์ม เสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องทำลายความสงบของพราวตะวัน เธอหงุดหงิดกับการที่อคิณโทรเข้ามาไม่หยุดหย่อน ตั้งแต่เช้าที่เขาออกไปทำงาน เธอไม่ได้รับสายเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะยังคงสับสนกับความรู้สึกตัวเองที่เผลอหวั่นไหวไปกับเขาเมื่อคืน แต่เมื่อเห็นชื่อที่โทรเข้ามาเป็นครั้งที่ห้า เธอจึงจำใจกดรับสาย
“ฮัลโหล” เธอพูดเสียงแข็ง
“ผมรู้ว่าคุณไม่อยากรับสายผม แต่ผมแค่จะโทรมาบอกว่าผมจะไปรับคุณที่บ้าน แล้วเราจะไปเยี่ยมคุณอาสุริยะด้วยกัน” น้ำเสียงของอคิณนุ่มนวลอย่างเหลือเชื่อ เขารู้ดีว่าเธอกำลังหลบหน้า
“คุณไม่ต้องกังวล ผมไม่ได้จะไปก้าวก่ายอะไร แต่ผมรู้ว่าคุณต้องอยากไปเจอพ่อของคุณ”
พราวตะวันนิ่งไป เพราะไม่สามารถปฏิเสธข้อเสนอที่สมเหตุสมผลนี้ได้ เธอเองก็คิดถึงพ่อมากและการที่อคิณอาสาพาไปก็เป็นทางเลือกที่เธอไม่อาจปฏิเสธได้
“ก็ได้” เธอตอบสั้นๆ ห้วนๆ ก่อนที่จะรีบวางสาย
หลังจากนั้นไม่นาน อคิณก็ขับรถมารับเธอที่หน้าบ้าน เขาเดินลงจากรถด้วยรอยยิ้มบางๆ แต่สายตาของเขาจับจ้องมาที่เธอไม่วางตา พราวตะวันพยายามรักษาสีหน้าเรียบเฉยและก้าวขึ้นรถไปอย่างรวดเร็ว
ตลอดทางที่นั่งในรถ พราวตะวันทำเป็นมองออกไปนอกหน้าต่าง ไม่แม้แต่จะหันมามองเขาแต่เธอกลับรู้สึกได้ถึงสายตาของเขาที่แอบมองเธอเป็นระยะ
“พราวครับ” อคิณเริ่มบทสนทนา “คุณโกรธผมเรื่องเมื่อคืนหรือเปล่า ผมขอโทษนะผมแค่เห็นคุณกลัว ผมก็เลยกอด...แต่ไม่ได้คิดล่วงเกินอะไร”
“เรื่องเมื่อคืนฉันลืมไปหมดแล้ว” พราวตะวันตอบเสียงห้วน และนั่นทำให้อคิณรู้ว่าเธอไม่ได้ลืมเลยแม้แต่น้อย
เมื่อมาถึงโรงพยาบาล อคิณเดินนำและเขาค่อยๆ เอื้อมมือมาจับมือของเธอไว้อย่างนุ่มนวล พราวตะวันพยายามจะสะบัดออก “ไม่ต้องมาทำเป็นรักฉันหรอก ใครๆ ก็รู้ว่าเราไม่ได้รักกันและไม่มีทาง”
อคิณไม่ได้พูดอะไรแต่เขาก็ปล่อยมือจากเธอ เพราะเขาไม่อยากเร่งรัดเธอมากไป เขารู้ว่าต้องให้เวลากับเธอมากกว่านี้
ตอนที่100พังทลายในรุ่งอรุณ เช้าตรู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านไร่ อากาศยังคงเย็นสบายและชื้นเล็กน้อยจากน้ำค้างยามดึก แสงอาทิตย์ยามเช้าเริ่มสาดส่องลงกระทบหลังคาจากที่มุงอย่างเรียบง่าย พราวตะวันในชุดคลุมท้องกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ตัวเตี้ยหลังเคาน์เตอร์ไม้เก่าๆ ที่เธอใช้เป็นพื้นที่เตรียมงาน เธอพยายามใช้เวลาช่วงเช้าที่เงียบสงบนี่คัดพักและเตรียมเครื่องก๋วยเตี๋ยวให้เรียบร้อยก่อนที่ลูกค้าจะเริ่มหลั่งไหลเข้ามา แม้ท้องจะแก่ขึ้นเรื่อยๆ จนอายุครรภ์เข้าสู่เดือนที่เจ็ดแล้ว แต่เธอก็ยังคงสนุกกับกิจวัตรเหล่านี้ เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อเช็กดูเรื่องราวต่างๆ เธอแทบไม่ค่อยได้ใช้โซเชียลเลยนับตั้งแต่หนีมาอยู่ที่นี่ เพราะกลัวว่าการเชื่อมต่อกับโลกภายนอกจะทำให้อคิณตามหาเธอเจอ แต่บางครั้งเธอกก็อดไม่ได้ที่จะเปิดดูความเคลื่อนไหวบ้าง นิ้วเรียวเลื่อนผ่านหน้าจอไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมาย ในที่สุด ดวงตาของเธอก็สะดุดเข้ากับรูปภาพและพาดหัวข่าวจากเพจซุบซิบนินทาชื่อดัง ที่เพื่อนคนหนึ่งได้แชร์ไว้ในหน้าฟีดสาธารณะ หัวใจของเธอพลันหยุดเต้นทันทีเมื่อเห็นใบหน้าของผู้ชายคนนั้น เพราะเขาคืออคิณ
ตอนที่99ข่าวลือ หลังจากการปรากฏตัวของแพทย์หญิงมณีรัตน์ ในฐานะแพทย์หัวใจคนใหม่ของโรงพยาบาล บรรยากาศในการทำงานของอคิณก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด มณีรัตน์ไม่ได้มาแค่ทำงาน เธอมาพร้อมความตั้วใจที่จะทวงคืนความสนใจจากรุ่นพี่ที่เธอคิดว่ายังคงมีใจให้เธออยู่ไม่เสื่อมคลาย เธอเชื่อมั่นในสายตาที่เขาเคยแอบมองเธอเมื่อก่อน และมั่นใจว่าเมื่อความห่างไกลหายไป ความสัมพันธ์ย่อมพัฒนาได้ไม่ยาก มณีรัตน์มักจะหาโอกาสเข้าใกล้อคิณอยู่เสมอ เธอใช้ความเชี่ยวชาญของตนเองเป็นข้ออ้างในการติดต่อสื่อสารที่ถี่ขึ้นกว่าปกติ ไม่ว่าจะเป็นการนำเอกสารสำคัญเกี่ยวแผนกหัวใจเข้าพบที่ห้องทำงานของผู้อำนวยการด้วยตัวเองทุกครั้ง ทั้งที่สามารถสั่งการผ่านเลขานุการได้ หรือการเข้าปรึกษาเรื่องคนไข้ที่ต้องผ่าตัดอย่างละเอียดเกินความจำเป็นในยามวิกาล “ท่านผู้อำนวยการคะ เคสนี้ละเอียดอ่อนมากค่ะ มณีรัตน์อยากปรึกษาเรื่องการเลือกใช้อุปกรณ์ผ่าตัดหัวใจโดยเฉพาะเลยค่ะ” มณีรัตน์กล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ขณะที่เธอยืนอยู่ใกล้โต๊ะทำงานของอคิณ เธอตั้งใจให้ร่างกายของเธออยู่ใกล้เขาในระยะที่สัมผัสได้ กลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่ใช้ก็ส่งกลิ่นอ่อน
ตอนที่98คนใหม่ใกล้หัวใจ บรรยากาศที่ร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านไร่ ในช่วงสายของวันยังคงคึกคักไปด้วยลูกค้าประจำและนักท่องเที่ยวที่ตามรอยอินฟลูเอนเซอร์มา พราวตะวันที่ท้องแก่ 6 เดือน เริ่มมีรูปร่างที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน ท้องของเธอนูนโตออกมาอย่างเห็นได้ชัด พราวตะวันยังคงยืนลวกเส้นและตักเครื่องก๋วยเตี๋ยวอยู่อย่างนั้น อยู่หลังเคาน์เตอร์ แม้จะไม่ได้ว่องไวเหมือนก่อน แต่ทุกดารเคลื่อนไหวของเธอก็ยังคงเปี่ยมไปด้วยความตั้งใจและพิถีพิถัน ความเหนื่อยล้าเริ่มแสดงออกทางสีหน้าของเธอมากขึ้น บางครั้งเธอต้องใช้มือข้างหนึ่งเท้าเอวเพื่อพยุงตัว และหายใจถี่ขึ้นเมื่อต้องยืนติดต่อกันเป็นเวลานาน ธามไม่เคยปล่อยให้พราวตะวันต้องแบกรับภาระหนักเกินไป เขาคือหัวเรี่ยวหัวแรงหลักของร้าน ธามเป็นคนคอยเดินเสิร์ฟ รับออเดอร์ เก็บโต๊ะ และดูแลความเรียบร้อยทั้งหมด เขาคอยสังเกตพราวตะวันอยู่เสมอ และจะรีบเข้ามาช่วยทุกครั้งที่เห็นเธอเริ่มหอบหรือแสดงอาการเหนื่อยออกมา ธามที่ตั้งใจมาอยู่บ้านยาวๆ พักผ่อนก่อนจะกลับไปทำงานที่ต่างประเทศแต่เหมือนว่าตอนนี้ธามคงไม่ไปแล้วแน่ๆ “พราวไปนั่งพักก่อนเถอะครับ” ธามเดินมาที่เคาน
ตอนที่97แพทย์หญิงคนใหม่ดูหน้าคุ้นๆ พราวตะวันชะงักไปเล็กน้อย เธอเงยหน้าขึ้นมามองมีนาอย่างรวดเร็วแต่ก็รีบก้มลงทันที ใบหน้าของเธอแสดงความตื่นตระหนกออกมาเพียงเสี้ยววินาที เธอปฏิเสธทันทีอย่างสุภาพแต่หนักแน่น“ขอบคุณมากๆ เลยนะคะที่ชอบ แต่ฉันขอปฏิเสธการสัมภาษณ์ค่ะ” พราวตะวันกล่าวขึ้นมา“แต่คุณสามารถถ่ายภาพอาหารและถ่ายบรรยากาศในร้านได้เต็มที่เลยนะคะ แต่ขอควากรุณา ห้ามถ่ายติดภาพฉันในวิดีโอเด็ดขาดค่ะ และพราวขอไม่เปิดเผยใบหน้าหรือตัวตนในสื่อสาธารณะทุกช่องทางค่ะ” ธามที่ได้ยินบทสนทนานี้ก็เดินเข้ามาใกล้ๆ ด้วยความสงสัย “พราวครับทำไมไม่ให้สัมภาษณ์ล่ะครับ นี่เป็นโอกาสที่ดีมากๆ เลยนะครับ ร้านจะได้เป็นที่รู้จักมากขึ้น” พราวตะวันมองหน้าธามและจำต้องหาคำตอบเพื่อปกปิดความลับของเธอ “พราวแค่ไม่ชอบออกกล้องเท่านั้นค่ะพี่ธาม” พราวตะวันตอบด้วยรอยยิ้มที่ฝืนเล็กน้อย “พราวอยากใช้ชีวิตสงบๆ ที่นี่ค่ะ ไม่อยากเป็นที่รู้จักหรือตกเป็นเป้าสายตาของใคร” ธามแม้จะไม่ค่อยเชื่อใจนัก แต่ก็ทำได้เพียงพยักหน้าตาม มีนาจึงตัดสินใจรีวิวอาหารและบรรยากาศร้านอย่างละเอียด โดยทำตามคำขอของเจ้าของร้านอย่างเคร่งค
ตอนที่96ก๋วยเตี๋ยวโบราณแสนกลมกล่อม ที่ร้านอาหารบรรยากาศดีแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ชวินกับกานต์ และอคินัยกับพราวฟ้านัดเจอกันเพื่อหาทางช่วยอคิณที่กำลังท้อแท้กับการตามหาพราวตะวัน “ฉันสงสารพี่คินน์นะ แต่ก็คิดถึงพราวมากเหมือนกัน” กานต์พูดด้วยความเป็นห่วงอคิณและความคิดถึงพราวตะวัน” “ใช่กานต์ผมเองก็ไม่ต่างกัน” อคินัยกล่าวขึ้นมาอีกคน “พี่คินน์บอกให้ผมไปจัดการเรื่องคดีของฟิล์มต่อ แต่เรื่องตามหาพี่พราวพี่เขาบอกจะหาเอง แต่สุดท้ายก็ขับรถกลับมาอย่างหมดหวัง ชวินที่นั่งเงียบฟังอยู่นานก็วางแก้วน้ำลงบนโต๊ะด้วยเสียงดังเล็กน้อย เป็นการส่งสัญญาณให้ทุกคนหันมาสนใจ “เราจะมานั่งเศร้ากันอยู่ไมได้นะ” “แต่เราจะทำยังไงคะพี่ชวิน” พราวฟ้าถามด้วยความเครียด “ไม่มีรู้เบาะแสของพราวเลยจริงๆ” “มันต้องมีแหละสักทาง แต่ตอนนี้ในเมื่อทำอะไรไม่ได้เราก็ทานข้าวกันก่อนแล้วกัน ไว้เราค่อยหาทางไปเรื่อยๆ แม้จะน้อยนิดก็เถอะ แต่ถ้าคู่กันแล้วก็คงไม่แคล้วกันหรอก” ชวินเอ่ยขึ้นมาอย่างหนักใจ ทุกคนเงียบไปชั่วขณะ บรรยากาศเริ่มผ่อนคลายลงเล็กน้อยเมื่อพวกเขาตัดสินใจพักเรื่องหนักๆ
ตอนที่95บทพิสูจน์ความรัก ที่บ้านของอคิณ บรรยากาศยังคงเงียบสงบและหนักอึ้งหลังจากที่เขาได้ฟังการสารภาพที่โหดร้ายของฟิล์ม อคิณนั่งอยู่ที่ขอบเตียงอย่างอ่อนล้า มือยังคงกุมกรอบรูปของพราวตะวันที่วางข้างหมอน ความจริงที่ว่าภรรยาของเขาจากไปเพราะถูกจัดฉากและหลอกลวงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้ความโกรธแค้นของเขายิ่งทวีคูณ เขาได้มอบหมายให้ทนายจัดการเรื่องคดีของณิชาและฟิล์มอย่างเด็ดขาดแล้ว แต่เรื่องคดีความไม่ได้ทำให้หัวใจเขาหายเจ็บปวดเลย สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการตามหาพราวตะวันและลูกของเขา อคิณลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่ มองออกไปในความมืดมิดของค่ำคืน ความท้อแท้เข้าจู่โจมเขาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน “ฟิล์มก็ไม่รู้ว่าพราวอยู่ที่ไหน ใครๆ ก็ไม่รู้” อคิณพยายามนึกถึงสถานที่ที่พราวตะวันเคยพูดถึง หรือทุกความสัมพันธ์ที่เธอเคยมี แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งเหมือนไม่มีทางให้เขาเดิน พราวตะวันเป็นผู้หญิงที่ชอบเก็บความรู้สึกและโลกส่วนตัวสูง เมื่อเธอตัดสินใจหนี เธอย่อมไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ ไว้ “พี่จะตามหาพราวทที่ไหน ในโลกกว้างใหญ่ใบนี้” เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูรูปถ่ายของพราวตะวั







