ตอนที่ 11 โรคจิต
สุริยะพ่อของเธอกำลังนอนพักฟื้นอยู่ในห้องพิเศษยิ้มกว้างด้วยความดีใจที่ได้เห็นลูกสาวและลูกเขยมาเยี่ยม
“พ่อดีใจมากที่พราวมาหาพ่อ ไม่ได้เจอกันหลายวันเป็นไงบ้างลูกอยู่กับอคิณ” สุริยะพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข
“ก็ไม่มีอะไรพิเศษค่ะ แต่วันนี้พราวเห็นพ่อดีขึ้นพราวก็ดีใจแล้วค่ะ แล้วแม่ไปไหนคะพราวคิดถึง” พราวตะวันถามหาแม่พร้อมกับมองไปรอบๆ เพื่อหาแม่ของเธอ
“แม่ไปซื้อของน่ะลูก เพิ่งออกไปน่าจะอีกเป็นชั่วโมงกว่าจะกลับ” สุริยะพูดกับพราวตะวันก่อนจะหันไปหาอคิณยิ้มๆ ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่บ่งบอกถึงความสุขใจ
“อคิณ ขอบใจมากนะลูกที่ดูแลพราวแทนพ่อ”
“ไม่เป็นไรเลยครับคุณพ่อ” อคิณยิ้มอบอุ่นและอ่อนโยน
“ดูแลพราวเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ”
คำพูดของอคิณทำให้พราวตะวันรู้สึกได้ว่าเขาจะอบอุ่นและแสนดีไปไหนทั้งๆ ที่เขารู้อยู่แล้วว่าเธอไม่มีทางรักเขาได้
พราวตะวันอยู่คุยกับพ่อสักพักก่อนจะกลับเพราะอคิณมีประชุมด่วนเข้ามา
“พราวเราต้องกลับกันแล้ว คุณพ่อครับผมต้องพาพราวกลับบ้านแล้วนะครับ เพราะมีประชุมด่วนเข้ามา ไว้ผมจะพาพราวมาหาบ่อยๆ นะครับ”
“ได้ลูก ฝากพราวด้วยนะ”
“ไม่ต้องฝากหรอกค่ะพ่อ พราวดูแลตัวเองได้” พราวตะวันพูดแล้วก็ทำหน้ามุ่ยใส่อคิณแต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับเธอ
หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกจากห้องพักของสุริยะ อคิณที่ต้องรีบไปประชุมจึงยังไม่ได้ไปส่งพราวตะวันแต่เขาให้เธอไปรอที่ห้องทำงานของเขาที่อยู่ในโรงพยาบาล
อคิณกับพราวตะวันออกมาจากห้องพักฟื้นของสุริยะ ใบหน้าของพราวตะวันดูมีความสุขขึ้นเมื่อได้มาเยี่ยมพ่อแล้วเห็นว่าพ่ออาการดีขึ้นมาก แต่ความสุขนั้นก็ยังสุขไม่เต็มที่เพราะเธอยังคงต้องอยู่กับคนที่เธอไม่ได้รักเพื่อแลกกับชีวิตพ่อของเธอ
โทรศัพท์มือถือของอคิณดังขึ้น อคิณรับสายด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “ครับ ได้ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้ครับ” อคิณวางสายลงแล้วหันมามองพราวตะวัน
“ผมต้องรีบไปประชุมแล้ว ผมยังไปส่งคุณที่บ้านไม่ได้ตอนนี้”
“เรื่องของคุณ” พราวตะวันตอบกลับด้วยน้ำเสียงห้วนๆ
“ฉันกลับบ้านเองได้”
“ไม่ได้!!!” อคิณพูดเสียงหนักแน่น “ผมจะให้คุณกลับบ้านคนเดียวไม่ได้”
“ทำไมจะไม่ได้คะ ฉันไม่ใช่เด็กๆ นะ”
“ผมจะให้คุณรอผมที่ห้องทำงานของผมนะครับ” อคิณกล่าวเสียงเรียบ “ไม่นาน”
“ฉันไม่ได้อยากรอ ฉันอยากกลับบ้าน” พราวตะวันโต้เถียงขึ้นมาอย่างเอาแต่ใจ ทั้งๆ ที่แค่รอเขาที่ห้องทำงานแต่เธอก็ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งมันคือแผนของเธอแผนที่ทำอะไรก็ได้ให้เขาทนไม่ไหวกับนิสัยของเธอ
“คุณไม่มีทางเลือกขนาดนั้นหรอกครับ” อคิณเริ่มพูดเสียงที่แข็งขึ้น “รอผมที่ห้องทำงาน”
อคิณพูดจบก็จับข้อมือของเธอให้เดินไปกับเขา “ปล่อยนะ ฉันอยากกลับบ้าน”
“คุณอย่าดื้อกับผมได้ไหม” อคิณพูดพลางยื่นนิ้วมือของเขากดลิฟต์ให้เปิดออกแล้วเขาก็พาเธอเดินเข้าไปก่อนจะกดปิดลง ตอนนี้เขาต้องพาเธอไปที่ชั้น 25 นั่นคือชั้นที่ห้องทำงานของเขา
“ปล่อยนะ คุณจะบังคับฉันทุกเรื่องไม่ได้นะ” พราวตะวันพูดขึ้นมาเสียงดังอย่างไม่พอใจ
“ผมไม่ได้บังคับแต่ตอนนี้ผมมีงานด่วนจริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้นานขนาดนั้น คุณแค่รอที่ห้องทำงานของผมแค่ไม่ถึงสามสิบนาที”
“แต่ฉันไม่อยากรออีกอย่างฉันก็กลับบ้านเองได้” พราวตะวันพูดจบกำลังจะเอื้อมมือไปไปกดอะไรสักอย่างที่ลิฟต์แต่อคิณคว้ามือของเธอไว้ก่อน
“หยุดนะ!!!” อคิณพูดขึ้นมาเสียงเข้มกว่าครั้งไหนๆ
“ไม่หยุด!!!” พราวตะวันเองก็ไม่ลดละในความดื้อดึงของเธอ
“ได้!!!” อคิณพูดออกมาแค่นั้น เขาก็ดึงเธอเข้ามาใกล้ๆ แล้วกอดไว้แน่น
“ปล่อยนะ!!! คุณจะทำอะไร” พราวตะวันเริ่มรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่เธอคิดว่าไม่ดีแน่ๆ
“ทำไมผมต้องปล่อยด้วย ในเมื่อคุณอยากทำให้ผมเกลียดคุณผมก็ยิ่งจะรักคุณมากขึ้น ยิ่งคุณทำให้ผมหงุดหงิดผมก็ยิ่งจะรักคุณมากขึ้นไปอีก” อคิณพูดออกมาแล้วก็เอาจมูกของเขาเข้าไปใกล้ๆ ใบหน้าของพราวตะวันจนเธอรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของเขารินรดใบหน้าของเธอ
“โรคจิต” พราวตะวันพูดขึ้นมาเสียงดังและพยายามดิ้นเพื่อให้ตัวของเธอหลุดจากอ้อมกอดของเขา
“โรคจิตเขาทำอะไรกันนะ ต้องทำอย่างนี้หรือเปล่านะ” อคิณพูดจบก็ขยับแขนของเขาให้กอดเธอแน่นมากขึ้น แล้วยังเอาใบหน้าของเขาเข้าไปใกล้ๆ เธอมากขึ้นเช่นกัน
“แต่ถ้าผมทำอะไรคุณก็คงไม่ใช่โรคจิตเพราะคุณเป็นเมียของผมอย่างถูกต้องตามกฎหมาย” อคิณพูดแล้วก็กำลังจะจรดริมฝีปากที่แก้มของเธอแต่ก็ถูกเสียงลิฟต์ขัดจังหวะเสียก่อน ลิฟต์เปิดออกก็เจอพยาบาล พนักงานของโรงพยาบาลกำลังยืนรออยู่หน้าลิฟต์ เขาจึงต้องปล่อยเธอออกจากอ้อมแขนแล้วก็จับมือของเธอเดินออกจากลิฟต์ตรงไปที่ห้องทำงานของเขา
อคิณพาพราวตะวันมาที่ห้องทำงานของเขา พราวตะวันเอาแต่เงียบด้วยความโกรธ อคิณรู้ว่าเธอโกรธแต่นี่คือวิธีเดียวที่จะทำให้เธอเลิกดื้อกับเขาในเวลาเร่งด่วนนี้
“ผมขอโทษที่ทำให้คุณโกรธ แต่ผมมีประชุมด่วนจริงๆ”
พราวตะวันไม่ตอบอะไร เธอยังคงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นราวกับว่าไม่มีใครอยู่ในห้องกับเธอ อคิณจึงเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วจับมือของเธอไว้ “พราวฟังผมนะ”
“ไม่ฟัง!!!” พราวตะวันพูดเสียงดังแล้วสะบัดมือของเขาออก
“คุณทำแบบนี้ยิ่งทำให้ฉันเกลียดคุณ”
“ผมขอโทษครับ” อคิณยอมขอโทษเธอเพราะเขาเองก็ไม่ได้อยากทำอย่างนี้แต่เพราะเขาอยากให้เธอเลิกดื้อกับเขาจึงได้ทำอย่างนั้นลงไป
“ไม่จำเป็น” พราวตะวันไม่แม้จะมองหน้าของเขาเพราะเธอยิ่งได้โอกาสที่จะทำให้เขาเกลียดเธอมากขึ้น
“คุณรอผมอยู่ตรงนี้ ไม่เกินสามสิบนาที เดี๋ยวผมกลับมานะ”
“คุณไปได้เลย ไม่ต้องมาบอกอะไรฉัน” พราวตะวันตอบกลับด้วยความไม่พอใจ
อคิณไม่ได้ตอบอะไรเขาแค่เดินออกไปพร้อมกับกดโทรศัพท์มือถือโทรหาใครสักคน
พราวตะวันได้แต่นั่งหน้านิ่วคิ้ว ขมวด เธอรู้สึกว่ายิ่งอยู่ใกล้อคิณ เธอก็ยิ่งเหมือนเป็นรองเข้ามากไปทุกที
ตอนที่ 50 แผนร้ายแต่ก็ยังรักในเวลาเดียวกัน อคิณกำลังนั่งอยู่ในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง เขาได้รับข้อความจากฟิล์มที่บอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย อคิณรู้สึกสงสัยแต่ก็ตัดสินใจที่จะมาพบฟิล์มเพียงลำพังเพื่อที่จะได้รู้ความจริงทั้งหมด ฟิล์มปรากฏตัวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและดูเหนื่อยล้า“ผมต้องขอโทษด้วยที่โทรหาคุณในเวลาแบบนี้” ฟิล์มพูด “แต่ฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกคุณ”อคิณวางแก้วกาแฟลงแล้วมองฟิล์มอย่างสงสัย “ว่ามาเลย”“พราวตะวัน... เธอยังติดต่อกับผมอยู่” ฟิล์มบอกด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความลังเล “เราไม่ได้เลิกกันจริงๆ เราแค่แกล้งทำเป็นเลิกกันเพื่อให้คุณตายใจ”อคิณมองฟิล์มด้วยสายตาที่ว่างเปล่าราวกับว่าคำพูดของเขาเป็นเพียงแค่เรื่องตลก “คุณกำลังพูดเรื่องอะไร”“ก็เรื่องที่พราวตะวันกับฉันยังคบกันอยู่ไง” ฟิล์มพูด “เธอแค่ต้องการจะแก้แค้นคุณที่ทิ้งเธอไป แล้วเธอก็ใช้ฉันเป็นเครื่องมือ”อคิณหัวเราะในลำคอ “คุณคิดว่าผมจะเชื่อเรื่องแบบนี้เหรอ”“แต่ผมพูดความจริง!” ฟิล์มตะโกน “คุณต้องเชื่อผม”อคิณส่ายหน้า “ผมเชื่อในตัวพราว” อคิณบอก“และผมก็ไม่เชื่อว่าคุณจะยอมมาเจอผมเพียงลำพังเพื่อพูดเรื่องแบบนี้”ฟิล์ม
ตอนที่50แผนร้ายแต่ยังรัก เสียงกริ่งประตูบ้านดังขึ้นในยามเย็น พราวตะวันมองไปที่หน้าจออินเตอร์คอมแล้วก็ต้องขมวดคิ้ว เมื่อเห็นณิชายืนอยู่ข้างนอกเพียงลำพัง พราวตะวันเปิดประตูบ้านให้พร้อมกับเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“มีอะไรหรือเปล่าคะณิชา”ณิชาไม่ตอบ เธอเดินเข้ามาในบ้านอย่างถือวิสาสะ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความมั่นใจที่เกินจริง“ฉันรู้ว่าอคิณไม่อยู่ และฉันก็มีเรื่องสำคัญจะคุยกับเธอ”พราวตะวันถอนหายใจ “ถ้าไม่มีเรื่องอะไรที่สำคัญจริงๆ ฉันขอให้คุณกลับไปเถอะค่ะ”“เรื่องของอคิณไงล่ะ” ณิชาพูดพร้อมกับยิ้มเยาะ “เธอคิดว่าเธอชนะแล้วเหรอพราวตะวัน”พราวตะวันมองณิชาด้วยสายตาที่สงสาร “ฉันไม่เคยคิดจะเอาชนะใครค่ะ และฉันก็ไม่ได้อยากแข่งกับคุณด้วย”“แต่ฉันอยากแข่ง!” ณิชาตะคอก“ฉันอยากจะบอกเธอว่าสิ่งที่เธอได้มามันคือความหลอกลวง!” ณิชาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเปิดเสียงให้พราวตะวันฟัง เป็นเสียงของฟิล์มที่พูดว่า“ฉันจะบอกความจริงทั้งหมดให้อคิณรู้ว่าเราแค่เล่นละครตบตาเขา”พราวตะวันอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงของฟิล์ม แต่เธอก็รีบดึงสติกลับมาและรู้ทันทีว่านี่คือแผนการของณิชาที่จะทำลายความสัมพันธ์ของเธอก
ตอนที่ 49เลขาคนใหม่อคิณขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะลุกไปเปิดประตู เมื่อประตูเปิดออกเขาก็พบกับอคินัย น้องชายของเขาที่ยืนอยู่ข้างนอกด้วยท่าทางที่ดูจริงจังผิดปกติ อคินัยไม่รอช้าที่จะเดินเข้ามาในห้องแล้วพูดกับอคิณทันที “พี่คินน์ครับ ผมมีเรื่องอยากจะปรึกษา” อคิณพยักหน้าให้เขา แล้วทั้งสองก็นั่งลงบนโซฟาแล้วหันไปมองพราวตะวัน“เดี๋ยวผมขอคุยกับน้องชายก่อนนะครับ” พราวตะวันยิ้มให้ก่อนจะขอตัวออกไปจากห้องทำงาน แต่เมื่อเธอจะเดินออกไปเธอก็พบกับ พราวฟ้าที่ยืนอยู่หน้าห้องพอดี“พี่พราว ฟ้าคิดถึงก็เลยมาหาค่ะ ได้ยินว่าพี่มาทำงานวันแรกก็เลยซื้อผลไม้มาฝากค่ะ”พราวตะวันรับถึงผลไม้มาแล้วยิ้ม “ขอบใจนะ เดี๋ยวเราไปนั่งรอข้างนอกก่อนนะ พอดีพี่คินน์มีเรื่องต้องคุยกับอคินัย”พราวฟ้าพยักหน้าเข้าใจแล้วก็เดินไปนั่งที่โซนร้านอาหารของโรงพยาบาลในห้องทำงาน อคินัยเริ่มพูดกับอคิณด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เลขาคนเก่าของผมลาออกกะทันหัน ผมอยากให้พี่ช่วยหาเลขาคนใหม่ให้หน่อย” “ถ้าพี่หาให้ได้ พี่จะได้อะไรเหรอ” อคิณถามอย่างยิ้มๆ อคินัยเลิกคิ้ว “แล้วพี่อยากได้อะไรล่ะครับ” “ฉันมีคนในใจแล้ว” อคิณตอบก่อนจะหันไ
ตอนที่48ข่าวลือที่ไม่อาจสั่นคลอนวันจันทร์ที่สดใส พราวตะวันเดินทางมายังโรงพยาบาลของอคิณด้วยความรู้สึกที่ตื่นเต้นและกังวลใจในเวลาเดียวกัน เธอสวมชุดทำงานที่ดูทะมัดทะแมงและมั่นใจในตัวเอง อคิณเดินมารอรับเธอที่หน้าลิฟต์ด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น“พร้อมไหมครับคุณผู้ช่วย” เขาถามอย่างล้อเล่นพราวตะวันยิ้มตอบ “พร้อมแล้วค่ะ”เมื่อลิฟต์เปิดออก พราวตะวันก็ต้องตกใจเมื่อเห็นพนักงานจำนวนมากกำลังยืนรอต้อนรับเธออยู่ อคิณหันไปแนะนำพราวตะวันกับทุกคน“นี่คือพราวตะวัน ภรรยาของผม และเธอกำลังจะมาเป็นผู้ช่วยผู้บริหารคนใหม่ของผมครับ”พนักงานต่างปรบมือแสดงความยินดี แต่พราวตะวันก็สังเกตเห็นสายตาบางคู่ที่มองเธออย่างไม่เป็นมิตรและมีการกระซิบกระซาบกันเบาๆ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจนักอคิณพาเธอเข้าไปในห้องทำงานของเขาและอธิบายรายละเอียดต่างๆ ของงานให้เธอฟัง พราวตะวันตั้งใจฟังทุกคำพูดของอคิณ แต่ในใจของเธอก็ยังคงกังวลกับสายตาแปลกๆ ของพนักงานเหล่านั้นในระหว่างที่พักเที่ยง พราวตะวันตัดสินใจเดินไปที่โซนพักผ่อนเพื่อหาอะไรดื่ม แต่แล้วเธอก็ได้ยินพนักงานกลุ่มหนึ่งกำลังพูดคุยกันถึงข่าวลือที่กำลังแพร่สะพัดในโซเชียลมีเดีย“ได้ยิน
ตอนที่47ไม่รับสาย หลังจากใช้เวลที่บ้านสวนด้วยกันอย่างมีความสุข อคิณและพราวตะวันก็ขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับบ้านที่อยู่ในตัวเมือง บรรยากาศในรถเต็มไปด้วยความรัก ของทั้งสองที่ยิ่งได้อยู่ด้วยกันก็ยิ่งรักกันมากขึ้น พราวตะวันเองก็ไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะรักอคิณได้เพราะวันแรกเธอแทบไม่อยากจะอยู่ใกล้เขาเสียด้วยซ้ำ อคิณขับรถด้วยรอยยิ้ม ขณะที่พราวตะวันเอนศีรษะซบลงที่ไหล่ของเขาอย่างผ่อนคลาย “คุณมีความสุขไหมครับ” อคิณเอ่ยถามเบาๆ พราวตะวันพยักหน้า “ที่สุดเลยค่ะ” เธอตอบ “พราวไม่คิดเลนว่าการได้มาอยู่ด้วยกันแบบนี้จะมีความสุขได้มากขนาดนี้” อคิณยิ้ม “ผมจะทำให้ทุกๆ วันของเราเป็นวันที่มีความสุขแบบนี้ไปเรื่อยๆ ครับ” เขาบอกพลางยกมือขึ้นลูบผมของเธอเบาๆ ระหว่างที่รถกำลังแล่นอยู่บนถนน จู่ๆ โทรศัพท์มือถือของพราวตะวันก็ดังขึ้น เธอหยิบมันขึ้นมาดูแล้วก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ เพราะชื่อที่ปรากฎอยู่บนหน้าจอคือฟิล์ม อคิณหรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อเห็นชื่อนี้ “ใครโทรมาหาเหรอพราว” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เริ่มไม่สบายใจ เขารู้ว่าเป็นใครแต่ก็แกล้งถามไปอย่างนั้น พรา
ตอนที่46เร่าร้อนที่บ้านสวน หลังจากงานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยความสุขจบลง อคิณและพราวตะวันก็เดินกลับเข้ามาในบ้านสวนที่เงียบสงบยามค่ำคืน บรรยากาศรอบตัวเปลี่ยนจากความครื้นเครงมาเป็นความเงียบสงบที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ทั้งคู่มีให้กัน อคิณดึงพราวตะวันเข้ามากอดจากด้านหลังแน่นขึ้นขณะที่เดินผ่านห้องโถง “ผมรักคุณนะพราว” เสียงกระซิบแหบพร่าเบาๆ ที่ข้างหูทำให้พราวตะวันรู้สึกถึงกระแสความอบอุ่นที่วิ่งไปทั่วร่าง “ฉันก็รักคุณค่ะคินน์” เธอกระซิบตอบกลับพร้อมกับหันหน้าเข้าหาเขา ริมฝีปากของอคิณทาบทับลงมา พราวตะวันตอบรับสัมผัสจากเขาอย่างเร่าร้อน มือของเธอประสานเข้าไปในกลุ่มผมด้านหลังของอคิณก่อนจะดึงทิ้งอย่างแผ่วเบาเพื่อเพิ่มความเร่าร้อนให้กับการจูบ มือของอคิณก็เลื่อนลงมาโอบเอวของพราวตะวันไว้แน่นก่อนจะค่อยๆ ไล่ขึ้นไปตามแผ่นหลัง ทำให้ทั้งคู่รู้สึกถึงความต้องการของกันและกัน ลมหายใจของทั้งคู่เริ่มติดขัดเมื่ออคิณค่อยๆ ถอดเสื้อของพราวตะวันออกจนเปลือยเปล่า อ้อมกอดที่อบอุ่นค่อยๆ เคลื่อนมาโอบกอดร่างกายเปลือยเปล่าของเธอไว้ ก่อนที่จะค่อยๆ อุ้มเธอขึ้นมาอย่างช้าๆ พราวตะวันโอบแขนรอบคอขอ